กู้อิ๋นถามด้วยสีหน้าจริงจัง!เผยเซียว “ก็ไม่หนิ น่ารักดีออก” “น่า...น่ารัก?”นี่คือคำพูดที่เผยเซียวพูดออกมาเป็นด้วยรึ?กู้อิ๋นรู้สึกว่าตัวเองกำลังหูฝาดไปแน่ๆ แต่ทว่าเมื่อก่อนนั้นเขาก็ไม่เคยมองพนักงานสาวออฟฟิชคนไหนเลยจนกระทั่งแม้แต่คำพูดล้วนแต่ไม่เคยพูดเกินหนึ่งประโยค ยิ่งไปกว่านั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะประเมินรูปโฉมภายนอกสาวๆแม้แต่คนเดียว แต่ตอนนี้ เขา....!?มาประเมินตัวเธอเองครั้งแล้วครั้งเล่า นี่หมายความว่าอะไร? หรือว่าเธอแทบจะดูไม่ได้เลยจริงๆเชียวหรือ?กู้อิ๋นแสดงทีท่างอนมองค้อนเผยเซียว “แล้วตกลงว่าฉันจะต้องทานหรือไม่ทานกันแน่ล่ะคะ?”คำพูดที่เผยเซียวเอ่ยขึ้นในตอนนี้ ทำให้กู้อิ๋นเกิดสับสนกับปัญหาเรื่องรับประทานอาหารเผยเซียวหยิกแก้มนุ่มๆของเธอด้วยความหมั่นเขี้ยว “แล้วคุณจะลุกกี่โมงกี่ยามครับ?” “มีอะไรหรือเปล่าคะ?”กู้อิ๋นหลับจนเลอะเลือน ลืมหมดสิ้นแล้วว่าตอนนี้ควรจะต้องทำอะไรเผยเซียวมองดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือ “เดี๋ยวจะหกโมงแล้ว พวกเราจะต้องออกเดินทาง”กู้อิน “......”ออก ออกเดินทาง!ดังนั้นตอนนี้จะต้องรีบลุกออกจากที่นอนแล้ว เธอลืมไปได้อย่างไรว่าวันนี้ยังมีงานเลี้ยงเดี๋
แต่บนใบหน้าของเธอนั้น ยังคงแสดงท่าทีเย่อหยิ่งทะนงตน ไม่แม้แต่จะกล่าวทักทายกู้อิ๋น มุ่งหน้าเดินก้าวเข้าห้องไปอีก!ขณะที่เดินผ่านกายกู้อิ๋นไปนั้น เธอก็เดินกระแทกชนกู้อิ๋นจนกระเด็น!กู้อิ๋นไม่ทันระวัง ถูกแรงกระแทกชนจนสภาพโซเซ แผ่นหลังพุ่งชนกับผนังกำแพงที่เย็นๆเข้าอย่างจังๆเฉินซิงหลีถลึงตาใส่กู้อิ๋นด้วยความโกรธแค้น แล้วเดินตามหลีเวยเยว่เข้าไปในห้อง “อาเซียว ฉันโทรหาคุณ ทำไมคุณไม่รับสายล่ะคะ” หลีเวยเยว่กล่าววาจาด้วยน้ำเสียงงอน ในขณะที่เดินเข้ามานั่งตรงข้ามกับเผยเซียว สีหน้าเผยเซียวบึ้งตึงเป็นอย่างมาก ในขณะที่สูบบุหรี่ที่อยู่ในมืออยู่ และก็ไม่ได้ตอบคำถามของหลีเวยเยว่โดยตรง ถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “คุณมาทำไม?”หลีเวยเยว่ตอบโดยไม่ต้องคิด “ก็มาหาคุณไงคะ”น้ำเสียงนี้ แฝงไปด้วยความโกรธงอนเป็นอย่างมากเผยเซียวขมวดคิ้วเฉินซิงหลีเหลือบมองดูกู้อิ๋นที่ยังยืนอยู่หน้าประตู จึงเรียกใช้ด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก “ช่วยไปเสิร์ฟน้ำให้พี่สาวฉันด้วยสิ ขอเป็นน้ำมะนาวนะ ขอบใจ!”กู้อิ๋นเรียกดึงสติกลับมา!น้ำมะนาวเหรอ?ที่นี่ไม่มี เพียงแต่ต้องเรียกใช้พนักงานโรงแรมเท่านั้นและกู้อิ๋นพยักหน้ารับทราบ “ค่ะ
คำพูดที่เอ่ยมานี้ หลีเวยเยว่พูดอย่างระมัดระวัง เผยเซียวชายมองเธอด้วยความเย็นชา การยิงสายตาเยี่ยงนี้ไม่มีแม้แต่ความรู้สึกอย่างใดสายตาเยี่ยงนี้ หลีเวยเยว่ก็ไม่เคยเจอมาก่อน!แล้วมันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาทำกับเหล่าคนอื่นด้วยสายตาเย็นชาเยี่ยงนั้น และก็เริ่มมองตรงไปที่เธอ?เมื่อนึกถึงจุดนี้ หลีเวยเยว่ก็รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ ที่ถูกเผยเซียวมองด้วยสายตาเย็นชา แต่เธอก็ไม่กล้าโมโหขึ้นมา “ขอโทษนะ คุณออกไปก่อนเถอะ!”“ผมจะให้ลั่วเหยียนเปิดห้องอื่นให้พวกคุณ” เผยเซียวตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชาแค่ประโยคหนึ่ง แล้วพากู้อิ๋นเดินจากไป“รอคุณในห้องนี้ไม่ได้หรือคะ?” หลีเวยเยว่ถามเธอยืนขึ้น แล้วแลมองเงาแผ่นหลังเผยเซียวอย่างดื้อดึงเผยเซียวหยุดก้าวเท้าเดิน ตอบ “ไม่สะดวก”น้ำเสียงของเขาเยือกเย็นเกินไป ไม่มีแม้แต่ความรู้สึกอันใดเลย แม้แต่กู้อิ๋นที่เดินตามอยู่ข้างหลังเขานั้น ก็อดไม่ได้ที่จะตะลึงงันหลีเวยเยว่ก็ยังยืนอึ้งอยู่กับที่!ไม่สะดวกเหรอ?ไม่นึกเลยว่าเขาจะเอ่ยกับเธอด้วยคำว่า “ไม่สะดวก” สามพยางค์มาได้ ดังนั้น......ความสัมพันธ์ของเขาทั้งสองตกลงมันเปลี่ยนไปแล้วใช่มั้ย?เมื่อคิดถึงจุดนี้ ในใจ
เพียงแค่นึกถึงเผยเซียวทำท่าทีต่อหลีเวยเยว่ เฉินซิงหลีก็เกิดบันดาลโทสะขึ้นมาอย่างหนัก! เขาทำไมถึงกล้าทำกับพี่สาวเธอเยี่ยงนี้ ทั้งๆที่หัวใจของพี่สาวเธอนั้นให้เขาไปหมดทั้งใจในใจของเฉินซิงหลีตอนนี้ ได้คิดราวกับว่าเผยเซียวเป็นคนที่จากไปโดยไม่ร่ำลาคนนั้นต่างหาก“เธออย่าทำอย่างนี้เลย เขาจะโกรธเอาได้นะ!”หลีเวยเยว่เห็นเฉินซิงหลีโกรธหนักถึงขนาดนี้ จึงรีบดึงมือเธอไว้ ไม่อยากให้เธอแตะต้องของของกู้อิ๋นไม่ว่าความสัมพันธ์ของกู้อิ๋นกับเผยเซียวจะเป็นข้อตกลงกันหรือไม่!แต่ ณ ตอนนี้ เธอก็คือภรรยาในนามของเผยเซียว และเผยเซียว......ก็เป็นคนที่ต้องปกป้องชื่อเสียงของเธอเขาจะยอมให้คนอื่นรังแกผู้หญิงในสังกัดของเขาได้อย่างไร?หลีเวยเยว่เข้าใจระดับการปกป้องของเผยเซียวเป็นอย่างดีถึงแม้ว่าเธอเองก็ทนไม่ได้ที่จะทิ้งข้าวของของกู้อิ๋นไว้ข้างนอกห้องทั้งหมดในตอนนี้ แต่เมื่อนึกถึงผลแรงโกรธแรงแค้นของเผยเซียวที่จะตามมา เธอก็ไม่กล้าให้เฉินซิงหลีตกกระไดพลอยโจนไปด้วยเฉินซิงหลีโกรธจนควบคุมสติไม่อยู่ “เขาจะโกรธ?คนที่จะโกรธควรจะเป็นพี่ต่างหากนะ?”“นี่แค่สามปีเอง นึกไม่ถึงว่าเขาจะหันหลังไปแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น
เห็นได้ชัดว่า เมื่อตะกี้นี้คำพูดของพนักงานโรงแรม เธอได้ยินทั้งหมดแล้ว!“พี่ค่ะ”“ไม่คิดเลยว่า เขายังจะให้ฉันรีบๆออกห้องนี้ไป” หลีเวยเยว่พูดด้วยความเจ็บปวดเธอก็นึกว่าการกลับมาครั้งนี้ เผยเซียวจะดีใจเสียอีกแต่สิ่งที่เห็นในตอนนี้ เขาทำตัวหลบหลีกหนีออกห่างจากเธอโดยครั้งแล้วครั้งเล่านึกถึงเรื่องเมื่อวานที่เฉินหลีซิงโทรหาเขาบอกเรื่องตัวเองเมาแล้วนั้น ในใจเธอก็ยังเต็มไปด้วยความหวัง คิดว่าเขาจะต้องมารับตัวเธอแต่ใครจะคิดล่ะ ในที่สุดก็รอจนเขาไม่ได้มาหา สุดท้ายเฉินซิงหลีก็เรียกโทรตาม แต่เขาก็ไม่ได้รับสายดูๆไปแล้ว เขาทำกับตัวเธอแทบจะไม่มีเยื่อใยแก่กันแล้วจริงๆ!เฉินซิงหลีฟังน้ำเสียงของหลีเวยเยว่ที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด ก็ทนรับไม่ไหว “ทั้งหมดนี้เป็นเพราะยัยแม่มดกู้นั่นแน่ๆ ดูแล้วไม่เห็นมีอะไรดีสักอย่าง คิดไม่ถึงจะเป่าแต่หูพี่รองได้!”พูดถึงกู้อิ๋น เฉินซิงหลีก็ชักสีหน้าหงุดหงิดโมโห สีหน้าของหลีเวยเยว่ก็ค่อนข้างหน้าซีดเรื่อยๆไม่ว่าในใจพวกเธออยากร้องความอยุติธรรมอย่างไรในตอนนี้ แต่ก็ต้องยอมรับ ในตอนนี้กู้อิ๋นได้เป็นภรรยาของเผยเซียวแล้ว!และงานแต่งของพวกเขาก็จะเกิดขึ้นอีกไม่ช้าเมื่อ
ถึงแม้ว่าเผยเซียวก็ใช่ว่าจะเป็นคนที่ง่ายต่อการรับมือ!แต่ลู่ซือเหยี่ยนคนนี้ กู้อิ๋นคิดว่ามันเป็นการเสียเวลาเป็นอย่างมาก......!เผยเซียวเป็นคนเฉียบแหลมแต่ไหนแต่ไร แค่ได้ก็ฟังน้ำเสียงอารมณ์ของกู้อิ๋นก็เข้าใจทันทีเขาอมยิ้มมองเธอ “ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ค่อยพอใจเขาสักเท่าไหร่นะ?”“ไม่ใช่ไม่พอใจ เพียงแต่คิดว่าเขาไม่น่าไว้ใจ” กู้อิ๋นเอ่ยด้วยความสัจจริงเผยเซียวเก็บสีหน้าเอาไว้ สายตาจ้องมองเธอเข้าไปลึกๆสายตานี้ทำให้กู้อิ๋นเปิดเผยความรู้สึกออกมา แต่แล้วก็เก็บอาการ “ฉันผิดไปแล้วค่ะ!”“คุณสมบัติเขาเป็นอย่างไรนั้น เธอไม่ต้องสนใจ!สนใจแค่เขามีประโยชน์หรือไม่มีเท่านั้นก็พอ”“รับทราบค่ะ ขอบคุณท่านประธานที่ชี้แนะค่ะ!”กู้อิ๋นเบะปาก!เพียงแค่ คุณสมบัติของผู้ที่จะร่วมมือกัน จริงอย่างที่เผยเซียวพูดมาเยี่ยงนี้ มันไม่สำคัญเลยสักนิดเลยหรือ?กู้อิ๋นไม่ได้เห็นดีเห็นงามไปด้วยกับเขาเลยสักนิดเธอคิดว่า คุณสมบัติของคนบางคน อันที่จริงแล้วมันก็ยังค่อนข้างสำคัญเผยเซียวแลมองเธอบ่นพึมพำ นัยน์ตาเขาแอบแฝงรอยยิ้มกรุ่มกริ่มอยู่เมื่อทั้งสองมาถึงห้องโถงนั้นคนที่รอพบอยู่ก็มาถึงแล้ว!“ประธานเผย” ลู่ซือเหยี่
ดังนั้น...... “ท่านประธานลู่คะ ดิฉันขออนุญาตดื่มแทนท่านประธานเผยค่ะ”ว่าแล้วกู้อิ๋นก็รีบยกแก้วเหล้าดื่มแทนเผยเซียวทันทีลู่ซือเหยี่ยนได้ฟังเช่นนั้นก็อึ้งอยู่ครู่หนึ่ง มองกู้อิ๋นด้วยความไม่เข้าใจต้นสายปลายเหตุ แล้วกลับหันมามองที่เผยเซียว “ท่านประธานเผยครับ?” “อ๋อ ผมดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้ครับ”เผยเซียวตอบอย่างเย็นชาลู่ซือเหยี่ยนเป็นคนที่ช่างสังเกตคำพูดและสีหน้าของผู้อื่น เมื่อได้ฟังเผยเซียวพูดเช่นนี้แล้ว เขาก็ไม่กล้าเอ่ยอะไรต่ออีกนอกจากพูดไปว่า “ถ้างั้นก็รบกวนผู้ช่วยกู้แล้วนะครับ?”คำพูดนี้พูดอย่างค่อนข้างคลุมเคลืออย่างมากกู้อิ๋นได้ฟังแล้วชักสีหน้าไม่ค่อยดี!หากไม่ใช่เผยเซียวอยู่ เธอก็คงจ้องตาเขียวปั๊ดกับลู่ซือเหยี่ยนเป็นแน่แต่ว่าเผยเซียวอยู่ด้วย สรุปเธอทำได้ก็คือเก็บอารมณ์ของเธอเอาไว้แต่ทว่าเผยเซียวที่นั่งอยู่ข้างๆ กลับได้กลิ่นอายของลู่ซือเหยี่ยนที่ไม่ชอบมาพากลนั้นขึ้นมา จึงนิ่งเงียบไปสักพักหนึ่งลู่ซือเหยี่ยนน่าจะมีแผนการของเขาอยู่แล้ว อย่างไรเสียท่าทีที่สั่งให้เสี่ยวเย่มารินเหล้าให้เผยเซียวเมื่อตะกี้นั้น มันก็เห็นได้อย่างชัดเจนมาก เพียงแต่เขาคาดไม่ถึงว่าเผยเซียวไม่ดื่
สมแล้วที่เป็นตระกูลที่ร่ำรวยเป็นอันดับต้นๆของเป่ยเฉิง ที่เป่ยเฉิงลู่ซือเหยี่ยนขึ้นชื่อเลยว่าเป็นพยัคฆ์ร้ายในคราบคนใจดี จากที่ฟังมา เขาเป็นคนที่ดุมากๆ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังเป็นคนที่ยืดหยุ่นได้ในทุกสถานการณ์ด้วย! วันนี้ก็ถือว่าเธอได้พบเจอด้วยตัวเองแล้ว ตอนที่ประสบสอพลอก็ทำตัวให้ต่ำจนแทบจะจมลงไปอยู่กับทราย แต่พอหันหลังกลับก็โผล่ร่างที่เหมือนกับราชาขึ้นมาทันที……! และการที่เผยเซียวสามารถดึงด้านนี้ของเขาออกมาได้ ก็แปลว่าสำหรับเขาแล้วเผยเซียวก็มีค่ามากๆ ความรู้สึกแรกของกู้อิ๋นสำหรับการทำงานร่วมกับคนคนนี้คือ......อันตรายมากๆ! “ผมพาคุณไปเที่ยวเล่นดีไหม?” เห็นเธอไม่พูดอะไรเขาจึงเอื้อมมือมาบีบที่ใบหน้าของเธอ ความร้ายกาจที่ออกมาจากตัวเขาเมื่อสักครู่มันเหมือนกับไม่ใช่ความจริงอย่างไรอย่างนั้น เพราะแค่เพียงพริบตาเดียวเขาก็เปลี่ยนกลับมาเป็นคนที่ดูเสเพลตามเดิม “ฉันไม่ไปค่ะ ฉันจะกลับไปหาประธานเผย” กู้อิ๋นพูด ลู่ซือเหยี่ยนจับเธอเอาไว้ด้วยมือเดียว “ไปหาประธานเผยอะไรกัน คืนนี้ประธานเผยมีคนคอยดูแลแล้ว” กู้อิ๋นรู้ว่าที่ลู่ซือเหยี่ยนพูดมันหมายความว่าอะไร “ประธานเผยไม่ใช่คนแบบนั้น” “อะไรท