สุดท้ายแล้ว ชีวิตของคนเรามันก็มีอยู่แค่นี้เอง...ภายในสุสานที่แสนจะเงียบสงบ ลมเย็นๆ ของช่วงปลายฤดูหนาวพัดเข้ามาโดนผิวทำให้รู้สึกเย็นใจอยู่หน่อยๆ แต่นั่นก็ยังดับความร้อนรุ่มวุ่นวายใจของผมไม่ได้ ที่นี่ผมให้คนตามมาดูแลเพราะรู้เรื่องมีคนพยายามขโมยศพแม่น้องดา แค่รู้ว่ามีคนทำผมก็ขยะแขยงจนอยากอ้วก แต่คิดว่าน้องดาคงยังไม่รู้ผมเดินเข้ามาที่ด้านใน หน้าป้ายหลุมศพที่ตั้งอยู่บนเนินโดดเดี่ยวห่างไกลจากหลุมอื่นๆ ได้มีหญิงสาวในชุดเดรสสีขาวไว้ทุกข์นั่งคุกเข่าอยู่ตรงนั้นอย่างเช่นทุกวัน แต่วันนี้มีสิ่งหนึ่งที่ต่างออกไป คือมีหญิงชราที่ผมคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดีอยู่ข้างเธอด้วยคนนั้นคือคุณหญิงดารกา คุณย่าของเอแคลร์นั่นเอง ท่าทางที่ทั้งคู่นั่งคุยกันเงียบๆ มันทำให้ผมสงสัยไม่น้อย เข้าใจอยู่ว่าการตายของแม่น้องดาเกี่ยวข้องกับหลานสาวท่าน แต่การกระทำในตอนนี้ไม่ดูเหมือนมาข่มขู่หรือขอเจรจาจ่ายค่าเสียหายอะไรพวกนั้นเลยสักนิดผมยืนรออยู่ครู่หนึ่ง หญิงชราคนนั้นก็ได้จากไป แต่คล้อยหลังไปได้ไม่นาน หญิงสาวที่ยังคงนั่งอยู่ตรงนั้นได้ปล่อยโฮออกมาจนผมพลอยตกใจไปด้วย เธอร้องไห้ตัวโยนอย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน ขนาดที่ว่า
(ตติญา)‘อยู่ในห้องนี้ห้ามไปไหน จนกว่าฉันจะให้คนพาไปเอง เข้าใจ๊?’แล้วฉันเลือกอะไรได้ไหม~ ตอนนี้ฉันทำได้แค่อยู่ในห้องตามที่เขาสั่ง ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดจะทำอะไรกันแน่ ทั้งเรื่องคดีทั้งเรื่องงาน ทุกอย่างวุ่นวายไปหมด แต่เขากลับไม่เคยพูดเรื่องนี้กับฉันเลยสักครั้งเดียว ตั้งแต่วันที่ออกจากโรงพยาบาลมานี่ก็ปาเข้าไปสองอาทิตย์แล้ว อย่าว่าแต่แสงเดือนแสงตะวัน แม้แต่พนักงานส่งของฉันก็ยังไม่มีวาสนาได้คุยด้วย จะมีก็แต่บอดีการ์ดหน้าเข้มคนหนึ่งที่อยู่ห้องตรงข้ามบอกกับฉันว่า ถ้าหากมีอะไรก็ให้บอกเขาได้เลยแต่ถามว่ากล้าบอกไหม คำตอบคือไม่ค่ะ นอกจากแจ้งเขาว่ามีไรเดอร์เอาอาหารมาส่งที่ชั้นล่าง อย่างอื่นฉันก็ไม่กล้ารบกวนแต่ไม่คิดว่าคุณคามินทร์ที่เงียบหายไปกว่าสองอาทิตย์ อยู่ๆ ก็เปิดประตูเข้ามาในห้องหน้าตาเฉย“มีอะไรหรือเปล่าคะ ไหนว่าห้องนี้ไม่มีใครเข้ามาได้ไง”“มีคีย์การ์ด”เขาเพียงตอบกลับมาเสียงเรียบเท่านั้น ทว่าในน้ำเสียงมีความหงุดหงิดปนอยู่เล็กๆ ฉันจึงไม่กล้าที่จะกวนเขาอย่างทุกครั้ง ได้แต่มองคุณคามินทร์เดินตรงไปยังตู้เย็นแล้วเปิดหาอะไรบางอย่างในนั้น พอเห็นว่าไม่มีสิ่งที่เขาต้องการ เขาก็ปิดมันอย่
เสียงท้องร้องดังขึ้นกลางดึก มันดังมากเสียจนฉันไม่สามารถนอนหลับได้อีกต่อไป บวกกับเมื่อวานฉันเข้านอนเร็วกว่าปกติ เลยทำให้ต้องตื่นขึ้นมาหาอะไรกินอย่างเลี่ยงไม่ได้ในทีแรกฉันคิดว่าคุณคามินทร์คงยังอยู่ในห้อง เลยพยายามเดินย่องให้เงียบที่สุดและไม่เปิดไฟ ทว่าพอลองเปิดไฟทุกดวงในห้อง ปรากฏว่าเขาไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว แต่กลับมีอาหารที่เหมือนเพิ่งผ่านการอุ่นมาหมาดๆ วางไว้ที่โต๊ะกินข้าวแทน พร้อมกันนั้นก็มีโน้ตแปะไว้หนึ่งใบถ้วน‘เมื่อวานไม่ได้กินข้าว ฉันว่าเธอต้องหิวเวลานี้แหละ กินแล้วอย่านอนทันทีล่ะ’หือ? คนอย่างเขาก็ทำอะไรอย่างนี้เป็นด้วยเหรอเนี่ย ดูน่าขนลุกไปหน่อยแฮะ ภาพจำของคุณคามินทร์ในสายตาฉัน เขาคือคนใจร้ายคนหนึ่ง ทำอะไรไม่สนว่าคนอื่นจะเจ็บจะรู้สึกยังไง แต่ช่วงหลังมานี้รู้สึกว่าเขาจะดีกับฉันเป็นพิเศษ ไม่รู้ว่าเพราะเรากำลังจะแต่งงานกัน หรือกำลังมีเหตุผลอื่นกันแน่แต่ถึงเขาจะมีจุดประสงค์อื่นแอบแฝงจริงๆ ฉันก็ต้องทำใจมองเขาใหม่แล้วล่ะ เพราะนี่มันน่ารักมากเลยระหว่างนั้นฉันก็ไปล้างหน้าล้างตาสักหน่อยก่อนที่จะมานั่งกินข้าวต้มที่เขาเอามาให้ แต่ในขณะที่ความอุ่นและรสชาติกลมกล่อมของข้าวต้มในถ้
ผมกลับมาที่คอนโดหลังจากที่เคลียร์ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว บอกตามตรงว่าในหัวมันว้าวุ่นจนผมแทบจะหยิบยาแก้ปวดมากิน แม้แต่คนขับรถพามาถึงคอนโดเมื่อไหร่ก็ยังไม่รู้ตัวเมื่อมาถึงผมก็เดินเข้าไปในห้องนอนซึ่งตอนนี้ปิดไฟสนิท วันนี้ทั้งวันลูกน้องของผมรายงานมาว่าเธอเดินทั้งวันไม่ได้พักเลย เมื่อกลับถึงห้องเลยหลับปุ๋ยจนไม่ได้ยินแม้แต่เสียงที่ผมเปิดประตูเข้ามา ซ้ำเธอยังใส่ชุดนอนตัวบาง บางมากๆ ไหนจะนอนดิ้นจนเตะผ้าห่มหล่นพื้น นี่ถ้าไม่ใช่ผมแต่เป็นคนอื่นเข้ามาเห็น คงไม่สามารถปล่อยให้เธอหลับต่อไปดีๆ ได้จะว่าไปก็อยากแกล้งอยู่เหมือนกันแฮะไม่รอช้าผมรีบเดินขึ้นเตียงไปในทันที เธอหลับสนิทมาก ขนาดที่ว่ามีชายหนุ่มตัวใหญ่อย่างผมมานั่งคร่อมร่างเอาไว้ยังไม่ตื่นเลย“นี่” เอามือสะกิดเล็กน้อยที่ข้างแก้มนุ่ม แต่ก็ได้เพียงเสียงครางน้อยๆ ด้วยความรำคาญกลับมาเท่านั้นสงสัยต้องเล่นแรงกว่านี้เพราะอยากแกล้งคนตรงหน้า ผมเลยเลื่อนมือต่ำลงไปยังชายเสื้อชุดนอนซึ่งทำหน้าที่ไม่ต่างจากกระโปรง ก่อนจะถกมันขึ้นจนกระทั่งมองเห็นหน้าท้องแบนราบกำลังขยับขึ้นลงเป็นจังหวะสม่ำเสมอ และกางเกงนอนที่สั้นจนเห็นต้นขาขาวน่าลูบไล้ในเมื่อเปิดมาขนาดนี้
ช่วงนี้รู้สึกว่าเขาทำดีกับฉันมากขึ้นแปลกๆ ทำให้ฉันพลอยรู้สึกดีกับเขาไปด้วยถึงจะบอกว่าจะให้บอดีการ์ดมาตามดูแลก็เถอะ แต่นี่มันดูแลเกินไปไหม สองสามวันก่อนฉันต้องอยู่ในห้องนั้นทั้งวัน แม้แต่อาหารก็สั่งเองไม่ได้ ต้องให้คนของเขาที่สแตนบายรอยังห้องด้านนอกไปซื้อให้เท่านั้น การมีคนมาคอยทำนั่นทำนี่ให้ก็สบายอยู่หรอก แต่ฉันกลัวพวกเขาจะคิดว่าฉันขี้เกียจสันหลังยาวเอาแต่ใช้คนอื่นน่ะสิอย่างวันนี้ฉันจำเป็นต้องเข้ามาที่ห้องเสื้อ เพราะเฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่ที่สั่งไว้กำลังทยอยเข้ามาติดตั้ง รวมทั้งต้องคุยกับช่างบิลด์อินที่จะมาวัดพื้นที่ชั้นบนด้วย ฉันเลือกเฟอร์นิเจอร์สำเร็จรูปที่ชั้นล่างเพราะราคาถูก ง่ายต่อการเคลื่อนย้าย และทำความสะอาด ส่วนชั้นบนจะเป็นห้องทำงานของดิไซเนอร์ ฉันจะเลือกใช้บิลด์อินตามความสะดวกแต่ว่า...ในความสะดวกสบาย ก็ยังมีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง“ขอโทษนะคะ แต่ฉันคิดว่าคุณไม่ต้องตามมาก็ได้ค่ะ แค่นี้ก็เกรงใจจะแย่อยู่แล้ว”ฉันหันไปบอกบอดีการ์ดของคุณคามินทร์ที่ตามติดฉันแจ เขาทั้งสุขุมและสุภาพจนฉันเองก็ยังเกรงใจ หลายวันที่ผ่านมานี้ได้เขาช่วยอยู่หลายอย่างมาก คิดว่าเขาเองก็คงเหนื่อยแต่ไม่กล้าปฏิเ
คลับ Kmnxxคลับใหญ่แห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นทำเลทองที่ดินราคาแพงที่สุดของเมือง เนื่องจากอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยและยังมีสถานที่ท่องเที่ยวกลางคืนสุดแนวถนน ยามกลางวันถนนทั้งเส้นมีรถและผู้คนอยู่บ้างประปรายจากอากาศที่ร้อนจัดและยังไม่มีร้านไหนเปิดให้บริการ แต่ยามค่ำคืนนั้นค่อนข้างคึกคักจนน่าอึดอัดนี่คือสิ่งที่ฉันรู้เกี่ยวกับที่นี่ รถคันหรูคันเดียวกับที่เขาใช้ไปส่งฉันที่โรงพยาบาลวันนั้นได้พาฉันมายังคลับของเขาอีกครั้ง ระหว่างทางที่นั่งรถมาหัวใจของฉันมันเต้นแรงจนเลือดลมสูบฉีดไปทั่วร่าง เพราะนั่งไปนั่งมาดันคิดถึงเรื่องน่าอายวันนั้นขึ้นมาเสียได้ฉันกล้าทำไปได้ยังไงกันนะ น่าไม่อายที่สุดเลย พ่อรู้พ่อด่า แม่รู้แม่ตี นังผู้หญิงไม่รู้จักอาย“ถึงแล้ว”รถได้มาจอดที่หน้าคลับของเขา ครั้งที่แล้วฉันมาที่นี่โดยไม่รู้ว่าเป็นของเขาเลยไม่รู้สึกเกร็งเท่าไร แต่ครั้งนี้มันไม่เหมือนกัน ฉันกำลังก้าวเข้าตึกมาในโซนวีวีไอพีชั้นสาม ซึ่งคนปกติที่ไม่ได้มีสถานะเป็นสมาชิกจะขึ้นไปไม่ได้ แม้แต่ทางเข้าเองก็ยังเป็นความลับ ดูแล้วลึกลับน่าขนลุกแบบสุดๆฉันเดินขึ้นบันไดมาด้วยความรู้สึกตื่นเต้น ทั้งตัวตึกถูก
เขาพาฉันมายังห้องเสื้อซึ่งเป็นหนึ่งในเครือของครอบครัวเขา ที่นี่นั้นสวยงามจนฉันไม่กล้าฝันเลย เมื่อก่อนฉันเองก็มีโอกาสได้ฝึกงานที่สาขาฮ่องกง การบริหารของคุณภาคินทร์พี่ชายของเขาเป็นไปอย่างเป็นระบบ มันเลยทำให้บุคลากรในองค์กรทำงานอย่างมีความสุข หากว่าฉันไม่ได้เปิดห้องเสื้อของตัวเอง การทำงานที่นี่ก็คงจะเป็นหนึ่งในความฝัน“ที่นี่อยากใส่ชุดไหนเธอเลือกได้เลย ไม่ต้องสนเรื่องราคา เอาที่เธอสวยที่สุด”“คุณไม่ให้พนักงานมาช่วยดูให้เหรอคะ ไว้ใจฉันขนาดนั้นเชียว?”“เธอเรียนด้านนี้มานี่ ตามสบายเลย ฉันขอไปคุยโทรศัพท์กับลูกน้องก่อน”ในเมื่อเขาว่าอย่างนั้นฉันก็ไม่รอช้า เดินตามพนักงานสาวเข้าไปด้านในในทันที ที่นี่นั้นมีชุดเจ้าสาวอยู่มากมาย ทั้งสีขาว เหลืองอ่อน ชมพู ฟ้า รวมทั้งสีแดง มีทุกสัญชาติทั้งไทยและเทศ หัวใจของฉันเต้นรัวด้วยความตื่นเต้น ยิ่งเดินลึกเข้าไปในห้องที่เต็มไปด้วยเสื้อผ้าสวยๆ มันก็ยิ่งรู้สึกไม่ต่างอะไรกับอีกโลกที่มีแค่ฉันเพียงคนเดียว“ที่นี่เป็นงานเช่าทั่วไปนะคะ ถ้าเป็นวีไอพีจะราคาสูงขึ้นมาหน่อย อยู่ทางด้านในค่ะ”“ไม่เป็นไรค่ะ แค่ตรงนี้ก็สวยมากแล้ว”“ไม่เป็นไรไม่ได้ค่ะ เจ้าสาวของท่านประธาน ท่
คามินทร์...ไอ้คนบ้าฉันไม่ใช่คนที่เขาจะมาล้อเล่นอย่างนี้ได้นะ เขามันขี้โกงที่สุดเลย ไม่รู้ตัวหรือไงว่ากำลังทำให้ผู้หญิงหวั่นไหว ก่อนหน้านี้ฉันเคยรู้เรื่องเกี่ยวกับเขา พอจะรู้ว่าเขาเจ้าชู้ มีเสน่ห์กับผู้หญิงทุกช่วงอายุ แต่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเองแล้วดันเป็นเขาที่ยังไม่ลืมแฟนเก่า สุดท้ายถ้าฉันเกิดตกหลุมรักเขาจริงๆ ก็คงเป็นฉันที่เจ็บอย่างนั้นใช่ไหม...‘เช้านี้ฉันมีเรื่องต้องไปทำ ถ้าจะไปไหนให้หยางพาไปนะ’โน้ตที่เขาเขียนเอาไว้ทำให้ฉันได้แค่แค่นหัวเราะด้วยความสมเพช เมื่อคืนมาเอา เอาแล้วก็ไป ทิ้งฉันไว้กับโน้ตโง่ๆ แล้วก็ลูกน้องคนสนิทของเขา เรื่องที่เขาไปคงไม่พ้นเรื่องของผู้หญิงที่ชื่อจันทร์จ๋า คิดแล้วมันน่าน้อยใจไหมล่ะดูเหมือนว่าหลายวันที่ผ่านมานี้ฉันจะยุ่งกับเขามากเกินไป เลยเก็บเรื่องของเขามาเป็นอารมณ์โดยไม่รู้ตัวซะแล้วสิ“คุณหยางคะ”อาบน้ำแต่งตัวเสร็จฉันก็ออกมาข้างนอก ที่ห้องนั่งเล่นมีลูกน้องของเขานั่งอยู่ตรงนั้นคนหนึ่ง เราค่อนข้างจะคุ้นหน้ากันดีเพราะเขาตามดูแลฉันมาหลายวันแล้ว แต่ท่าทางที่ดูลึกลับของเขาก็ทำให้ฉันไม่กล้าจะพูดอะไรออกไปโดยไม่ระวังก็ดูอย่างเจ้านายยังหัวร้อน
(ตติญา)ฉันไม่คิดว่าตัวเองจะได้พูดคำนี้ออกมาเหมือนกัน แต่รู้ตัวอีกที ทุกอย่างก็ผ่านไปหลายปีแล้ว คิรินโตแล้ว กำลังจะขึ้นอนุบาล 3 ปีนี้ และลูกสาวคนเล็กที่มาพร้อมเรือนผมสีเทาเข้มเหมือนพ่อของเขา น้องดิว ชื่อดิว Dwyn มาจากภาษาเวลส์ แปลว่า คลื่นทะเล ฉันตั้งชื่อพี่ชายว่าคิริน ที่แปลว่า ภูเขา เพราะตอนที่หนีจากคามินทร์มา ภาพที่เห็นตรงหน้าเวลาร้องไห้มีแต่ภูเขาที่อยู่เป็นเพื่อน พอมีลูกสาวอีกคน ฉันอยากให้ชื่อนั้นสื่อถึงความทรงจำแทรกที่พ่อแม่ได้เจอกัน นั่นก็คือ ทะเล...ดิวเป็นเด็กที่สุขุมผิดกับเด็กหญิงทั่วไปลิบลับ เธอนั้นไม่ค่อยซุกซน พูดจาดูเป็นผู้ใหญ่ ทั้งยังใจเย็นและรู้ความ ผิดกับพี่ชายที่นับวันยิ่งโตยิ่งเหมือนพ่อ ทั้งกวนส้นเท้าและเกรียนยิ่งกว่าอะไรดี ส่วนหนึ่งคงเพราะเมื่อก่อนสมัยอยู่เชียงใหม่ คิรินไม่ได้มีเพื่อนเล่นที่ไหนเลยนอกจากแม่ พอลงมาอยู่ที่นี่ก็มีลูกน้องของพ่อมาเล่นด้วย มีชัลก้า มีดิวและนับดาวที่เกิดไล่หลังมาไม่กี่ปี และตอนนี้ก็ยังมีน้องจินนี่อีก ครอบครัวเรากลายเป็นครอบครัวใหญ่ที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะของผู้ใหญ่และเด็กๆ ไปซะแล้วส่วนบ้านที่เชียงใหม่ บ้านที่แม่นวลยกให้เ
(พาร์ทพิเศษ ราล์ฟ)สำนักข่าวราล์ฟฟี่ รายงาน สวัสดีครับผมราล์ฟ ผู้ครองตำแหน่งมือขวาคนใหม่ของบอสแล้วยังเป็นพี่เลี้ยงเด็กดีเด่นประจำปีอีกด้วย ช่วงนี้ชีวิตผมค่อนข้างที่จะมั่นคง แม้ใครจะบอกว่าตำแหน่งอยู่ไม่นาน ตำนานจะคงอยู่ตลอดไป ส่วนผมนั้นตั้งใจจะเป็นทั้งตำแหน่งและตำนาน ไม่มีใครมาโค่นล้มลงไปได้ก่อนหน้านี้ตำแหน่งมือขวาของบอสไม่ใช่ของผมหรอกนะครับ แต่เป็นของคุณจาเรด ชายผู้ฝีมือดีที่สุดและยังเป็นคนที่บอสไว้วางใจเป็นอย่างมาก ผมต้องนึกขอบคุณเขาเลยนะที่ถูกจับตัวไปในครั้งนั้น เลยทำให้ผมได้มีโอกาสแสดงฝีมือกับเขาบ้างตอนนี้อย่าว่าแต่ปกป้องบอสเลย หน้าที่เล็กใหญ่ในแก๊งตั้งแต่ดูแลแมวยักษ์อย่างชัลก้า หรือแม้แต่การดูแลบอสน้อยของเราอย่างคุณคิริน ก็เป็นของผมไปหมด“ทำให้มันดีๆ หน่อยไม่ได้หรือไง!!!”ส่วนคุณจาเรดที่ก่อนหน้านี้คือคนโปรดของบอส กลับถูกลดระดับมาเป็นเพียงครูฝึกให้แก่เด็กใหม่ที่เข้ามาในแก๊งเสียอย่างนั้น แต่แม้ว่าหน้าที่ของเขาจะเปลี่ยนไป แต่เรื่องชื่อเสียงของเขาในหมู่เด็กใหม่นั้นไม่ได้ก้อยลงเลย ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าคุณจาเรดครูฝึกคนใหม่นั้น ทั้งดุ โหด แล้วไม่มีโหมดคิตตี้ให้
(คามินทร์)“ใจร้ายจังเลยนะ คิรินเป็นเหลนย่าแท้ๆ ทำไมไม่รู้จักบอกย่าเสียบ้าง รู้ไหมว่าใจแทบขาดตอนรู้จากปากน้ำหวานว่าหนูเจออะไรมาบ้าง”ตอนนั้นผมบอกว่ากลัวจะถูกย่าบ่นใช่ไหมครับ ตอนนี้สบายใจแล้วเพราะมีคนมารับแทน ติญ่านั่งหง็อยอยู่หน้าโซฟาโดยมีคิรินนั่งเล่นกับชัลก้าอยู่ ส่วนผมนั้นลอยตัว สามารถนั่งเอกเขนกได้อย่างสบายใจแต่ก็สบายใจได้แค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น พอเห็นว่าหลานสะใภ้ท่าทางน่าสงสาร ย่าก็ได้เบนเข็มมาที่ผมแทน“แกนี่แหละตัวต้นเหตุไอ้หลานเวร ทำอะไรไม่คิดจนทำให้หนูญ่าต้องหนีไป สำนึกบ้างไหม ขึ้นไปนั่งบนโซฟาสบายใจไม่ดูเลยว่าเมียนั่งพื้น ลงมา!”“อ้าวย่า ปกติเราก็นั่งพื้นดูหนังกันบ่อยออก นั่งสบายกว่าโซฟาอายุหมื่นปีของย่าอีก”“ไอ้หลานเวรนี่ อยากปากแตกตายใช่ไหมฮะ”บรรยากาศในบ้านของผมกลับมาครึกครื้นอีกครั้งหลังจากที่ห่างหายไปนาน ก่อนหน้านี้ทั้งเรื่องของน้องดาทำให้ไอ้วินทร์ดูซึมๆ และไม่ยอมเข้าบ้านเลยตลอดสามปี จนกระทั่งช่วงเดือนก่อนที่ติญ่ากลับมาทำห้องเสื้ออีกครั้ง และดึงเอาน้องดามาร่วมงานด้วย เราเลยได้มีโอกาสพูดคุยกันแบบครบทั้งครอบครัวเป็นครั้งแรกอันที่จริง...จะว่าครบก็ไม่ครบนัก เพ
เขาว่ากันว่า ความฝันของหญิงสาวทุกคน คือการได้ใส่ชุดแต่งงานสวยๆ แต่งงานกับผู้ชายที่ตัวเองรัก เชื่อไหมคะ ตอนที่ฉันยังทำงานอยู่ในสตูดิโอที่เชียงใหม่ ฉันไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะมีโอกาสได้ใส่ชุดแต่งงานพวกนั้นอีกครั้ง คิดแค่ว่าแค่ได้มองผู้คนยิ้มมีความสุขกับครั้งหนึ่งที่แสนสำคัญในชีวิต แค่นั้นก็มากพอแล้วแต่ไม่คิดว่าฉันจะได้สวมมันอีกครั้ง อยู่ต่อหน้าผู้ชายคนนี้...คนเดียวกับที่ฉันเคยบอกว่าไม่มีวันรักเขาได้ฉันค่อยๆ เดินไปตามทางเดินเพื่อเข้าสู่แท่นพิธีที่มีเจ้าบ่าวชุดขาวยืนรออยู่ก่อนแล้ว เขามองมาที่ฉันแล้วก็ยิ้ม มันเป็นรอยยิ้มที่สะกดฉันได้แทบทุกครั้ง รอยยิ้มและสายตาคู่นั้นเขาไม่เคยใช้มองใครเลยนอกจากฉัน มันเป็นของฉัน...ของฉันคนเดียวเท่านั้น...“แม่ค้าบ คิยินหย่อกว่าปะป๊าหยือป่าว”ฉันคงลืมบอกไป วันนี้คนที่จูงฉันเข้าสู่แท่นพิธีไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นเจ้าคิรินน้อยนี่เอง เขาตื่นเต้นมากๆ เพราะพี่เลี้ยงทุกคนเอาแต่พูดกรอกหูว่า เนี่ยนะ มีไม่กี่คนในโลกหรอกที่จะได้อยู่ในงานแต่งงานของพ่อแม่ตัวเอง เขาคือคนพิเศษ แค่นั้นแหละเจ้าเด็กก็ดีใจใหญ่ เขาเป็นคนที่ตื่นเต้นกับงานแต่งงานในครั้งนี้ไม่แพ้คนที่แต่งเ
“ปล่อยเมียฉันซะพิมพิ ถ้าเธอไม่อยากโดนเป่าหัวกระจุยตอนนี้”เสียงของคามินทร์ที่ดังขึ้นหยุดทุกอย่าง ฉันลืมตาขึ้นมามองภาพตรงหน้าก่อนจะพบว่าเขากำลังเอาปืนจ่อที่หัวของคนที่พยายามจะฆ่าฉัน ทว่ายังไม่ทันที่พิมพิจะได้ตอบโต้ คอเสื้อของเธอก็ถูกดึงอย่างแรงจนร่างปลิวไปกระแทกเก้าอี้ที่อยู่ไม่ไกล หลังจากนั้น ก็มีคนวิ่งเข้ามาจับตัวเธอกดลงกับพื้น“ปล่อยฉันนะไอ้พวกบ้า ปล่อยฉัน ปล่อย!!!”เสียงโวยวายของเธอดังไปทั่วห้อง ดังจนฉันเห็นสีหน้าหงุดหงิดของทุกคนในห้องนี้ คามินทร์ตรงเข้ามาหาฉันอย่างเงียบๆ ก่อนที่เขาจะออกแรงดึงฉันเข้าไปแนบอกแล้วกอดเอาไว้แน่นความกลัวทุกอย่างก่อนหน้านี้ ทุกสิ่งถูกระบายออกมาผ่านม่านน้ำตาเมื่อได้สัมผัสกับอ้อมกอดของเขา...มันเป็นอ้อมกอดที่...ทั้งอบอุ่นแล้วก็ปลอดภัยที่สุดเท่าที่ฉันเคยได้รับมาเลย...“ฮึก...”“ขอโทษที่มาช้านะ”มันเป็นอย่างนั้นเสมอ อ้อมกอดของเขามันทั้งอบอุ่น ปลอดภัย แล้วก็ทำให้ฉันไม่หวาดกลัวอะไรอีกต่อไป ฉันไม่ได้ยินเสียงของพิมพิที่ร้องตะโกนเหมือนคนบ้า ไม่ได้ยินความวุ่นวายอะไร มีเพียงเสียงของเขาเท่านั้นที่ดังอยู่ข้างหูฉันกลัว...กลัวเหลือเกินว่าอาจจะไม่
(ตติญา)“พี่ฟอง หนูฝากตรงนี้ด้วยนะคะ ดูแลแขกด้านหน้าด้วยค่ะ”ไม่คิดเลยนะ ว่าฉันจะได้จัดงานศพให้แม่นวลเร็วอย่างนี้เลย ตั้งแต่เด็กฉันคิดว่าตัวเองโชคร้ายมากๆ เจอเรื่องร้ายต่างๆ จนไม่น่าจะเจออีกแล้วหลังจากนี้ อย่างที่เขาว่ากันว่าฟ้าหลังฝนมักสวยงามเสมอ แต่ชีวิตฉันมันคงยังอยู่ท่ามกลางพายุ ไม่เจอฟ้าหลังฝนที่ว่าสักทีล่ะมั้งหวังแต่เพียงว่า ขอให้นี่เป็นการสูญเสียครั้งสุดท้าย ขอให้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีกฉันหลบจากทางหน้าฝานที่มีแขกเหรื่อมาร่วมงานกันหลายคน ส่วนใหญ่ไม่ใช่คนมีหน้ามีตาอะไรมากมายเพราะนี่ก็เป็นแค่งานศพของแม่บ้านคนหนึ่งเท่านั้น แต่จะเป็นเพื่อนบ้านที่รู้จักกัน รวมทั้งป้าๆ แถวนี้ที่รู้จักแม่นวลมาหลายปีที่หน้าโลงศพของแม่นวล ฉันเป็นคนจัดดอกไม้เองทุกดอก แม้ว่าท่านจะเป็นคนง่ายๆ สบายๆ แต่ว่าก็มีดอกไม้ที่ชอบอยู่ดอกหนึ่งแม่นวลเคยเอารูปให้ฉันดู ตอนนั้นท่านไม่รู้ชื่อ แต่เห็นแล้วชอบมันมากๆ ยิ่งพอได้รู้ความหมาย ท่านก็ยิ่งชอบจนใฝ่ฝันว่าอยากเอามาปลูกภายในบ้าน แต่น้าพาแพ้เกสรดอกไม้เลยทำได้แค่ตั้งเป็นภาพหน้าจอมือถือดอกไม้ชนิดนั้นคือ บลูบอนเน็ต ดอกไม้ที่มีความหมายแสนเศร้า แม้ว่าจะเจ็บปวดแค่ไหนก็ขอไ
เรากลับมากรุงเทพฯทันทีที่รู้เรื่อง ก่อนเดินทางผมและติญ่ารวมทั้งพี่เลี้ยงทั้งสี่ของคิรินเตรียมตัวกันหนักมากๆ เพราะกลัวว่าคิรินจะงอแงตลอดทาง แต่โชคดีที่แค่ขึ้นเครื่องก็หลับปุ๋ย เลยทำให้ทั้งพ่อและแม่มีเวลาพักผ่อนก่อนถึงกรุงเทพฯทันทีที่มาถึงผมได้ให้น้ำหวานมารับคิรินไปพักผ่อนที่บ้าน เพราะต้องไปโรงพยาบาลเพื่อรับศพป้านวลกลับมาทำพิธี ระหว่างทางนั้นผมต้องจับมือติญ่าเอาไว้ตลอด เธอดูเสียใจจนไม่สนแล้วว่าตอนนี้จะมีผมอยู่ข้างกายหรือไม่“ขอบคุณนะคะคุณหมอ เดี๋ยวพิมพิจะเอาเอกสารนี้ไปให้ญาติของป้าเองค่ะ”พวกเรามาถึงที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา ทว่าเมื่อมาถึง มีคนจัดการทุกอย่างแม้แต่เรื่องการจ่ายเงินค่าดำเนินการต่างๆ ไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน พิมพินั่นเองพอเธอเห็นพวกเรา หญิงสาวในชุดดำที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของผมก็ได้เดินตรงเข้ามา เธอยกมือไหว้ผมตามประสาผู้น้อยไหว้ผู้ใหญ่ก่อนจะทักเสียงเรียบ“สวัสดีค่ะพี่คามินทร์ ติญ่า”“สวัสดีพิมพิ มารับศพป้านวลเหรอ?”“ค่ะ ป้าแกไม่ได้มีญาติที่ไหน ก่อนเสียท่านก็ดูแลแม่หนูอย่างดี หนูเลย...”“เอามาให้ฉัน”ติญ่าพูดเสียงแผ่ว เธอยื่นมือสั่นๆ ไปรับเอาเ
ผมเดินตามเมียขึ้นมาที่ชั้นบน กะว่าอยากจะจัดการเด็กดื้อสักหน่อย ทว่ากลับได้ยินเสียงเล็กๆ สะอื้นมาจากห้องของคิริน ก่อนที่ติญ่าจะอุ้มลูกออกมา ปากเธอก็พึมพำปลอบลูกไม่หยุด“ไม่มีอะไรนะครับ แม่ขอโทษน้า ผีไม่มีหรอก”“เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”คิรินร้องไห้สะอึกสะอื้นกอดคอแม่เป็นการใหญ่ มือเล็กชี้เข้าไปในห้องแล้วพูดแต่คำว่า ผี ผี ผี อยู่ตลอด จนกระทั่งหลับไปอีกครั้งในอ้อมกอดของผู้เป็นแม่ ตอนนี้ติญ่าพาคิรินมานอนในห้องของตัวเอง ผมได้แต่ยืนมองไม่กล้าถามอะไรมาก เพราะเห็นสีหน้าที่เป็นกังวลของเธอรอจนกระทั่งเธอลูบหลังคิรินหลับไป เลยถามออกไปเสียงแผ่ว“มีอะไรหรือเปล่า ละเมอเหรอ?”ติญ่ามองไปที่ลูกซึ่งตอนนี้หลับไปแล้ว แต่ก็ยังมีอาการสะอื้นให้เห็นอยู่เป็นระยะ“ก็นิดหน่อยค่ะ”สีหน้าที่ดูเป็นกังวลของเธอทำให้ผมพลอยกังวลไปด้วย ติญ่าไม่ได้พูดอะไรต่อ เธอได้เดินไปยังห้องลูกก่อนจะสำรวจที่หน้าต่างด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยดีนัก“ช่วงนี้คิรินบอกว่าเจอผีที่หน้าต่างบ่อยๆ ค่ะ ฉันคิดว่าคงเป็นเพราะเผลอเปิดหนังผีดูด้วยกันเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้วเลยทำให้ลูกฝันร้าย แต่อยู่ดีๆ ลูกก็บอกว่าเห็นจริงๆ อยู่ที่ต้นไม้ข้าง
กลับมาถึงบ้านก็นั่นแหละ แบตหมดตามระเบียบ ผมพาคิรินไปนอนบนห้องแล้วก็ไปดูคนป่วยที่น่าจะมีเรี่ยวแรงขึ้นมาได้บ้างแล้วจากการพักมาทั้งวัน แต่กลับพบว่าเธอยังอยู่ในชุดนอนตัวเดิมแล้วดื่มน้ำเย็นลงไปหลายอึก“ดื่มน้ำเย็นแล้วจะหายไหมไข้น่ะ”ผมตรงเข้าไปหาเธอแล้วกอดอกพูดยิ้มๆ ตั้งแต่เมื่อก่อนแล้วที่ชอบดื่มน้ำเย็นเป็นชีวิตจิตใจ แต่ดื่มแล้วก็เสียวฟันจนชอบทำหน้าประหลาดๆ ตลอดเวลา อย่างเช่นตอนนี้ก็ด้วย“หายเจ็บคอหรือยังครับ?”ผมถามเพราะเมื่อเช้ายังได้ยินเสียงเธอแหบแห้งเป็นนักร้องหมอลำอยู่เลย ถึงแม้กลับมาเสียงเธอจะเป็นปกติแล้ว แต่ไม่คิดว่าจะหายง่ายๆ“หายแล้ว ไปซื้อยามากิน”“ยาอะไร?”“ถามทำไม”พูดจบก็ชักสีหน้าใส่ผมด้วยความหงุดหงิด ก่อนจะเดินหายเข้าห้องน้ำไปอีกครั้ง ถ้าให้เดานี่คงเป็นการอาบน้ำครั้งแรกในรอบวัน นึกไปถึงเมื่อวานที่เธอเปลือยล่อนจ้อนต่อหน้าผมในสภาพที่หมดสติ ถ้าเป็นผมคนเมื่อก่อนที่เธอไม่ได้โกรธอยู่ล่ะก็ เธอไม่รอดแน่ระหว่างที่รอติญ่าอาบน้ำ ผมก็สั่งกับข้าวรอไปด้วย ที่นี่เป็นอำเภอเล็กๆ ดึกอย่างนี้ไม่ได้มีบริการเดลิเวอร์รี่ให้บริการ เลยต้องใช้เดลิเวอร์รี่จำเป็นอย่างราล์ฟไปซื้อมาใ