เสียงของริมฝีปากที่กำลังถูกดูดกลืน ลิ้มรสความหวานล้ำจากริมฝีปากกันและกันยังคงดังขึ้นอยู่ในห้องพักโรงแรมสุดหรู ลมหายใจของหญิงสาวบางจังหวะก็ขาดห้วงไปเนื่องจากรสจูบแสนเร่าร้อน
“ให้หยุดแค่นี้ไหม?” เสียงนุ่มกระซิบถาม "ถ้าเธอให้ หยุด ฉันก็จะหยุดแล้วพาเธอไปส่งที่บ้านตอนนี้" คำถามนี้ช่างตอบยากยิ่งนัก
ในขณะที่พรีมายากำลังเคลิบเคลิ้มไปกับจุมพิตที่วาบหวามกรอบใบหน้าคมคายของแอลก็ผละออกก่อน เลยทำให้พรีมายาต้องปรือตาขึ้นมาด้วยความงุนงง เสียงทุ้มเอ่ยถามหญิงสาวอีกครั้งด้วยความใส่ใจ
แววตาของเขาเปลี่ยนไปจนพรีมายาเองยังสามารถรับรู้ได้ถึงความรู้สึกภายในที่อีกฝ่ายมี แต่ตอนนี้สติของเธอนั้นเริ่มเลือนลางจนแทบจะประมวลผลอะไรได้อีก สัญชาตญาณถูกใช้เป็นสิ่งนำทาง ไม่สนใจความถูกผิด สิ่งเดียวที่อยู่ในห้วงความคิดของเธอตอนนี้ก็คือ เธอต้องการเขา
“ไม่… ฉันต้องการคุณ คุณแอล…”
น้ำเสียงหวานเอื้อนเอ่ยบอกถึงความต้องการของตน ดวงตาคู่สวยเองก็ยังจดจ้องลึกเข้าไปในนัยน์ตาสีเข้มตรงหน้า สื่ออารมณ์ว่าเธอแทบจะทนไม่ไหวแล้วตอนนี้
เมื่อเป็นดังนั้นแอลจึงไม่ร
ถนนคอนกรีตตอนเช้ามืดย่านใจกลางกรุง ในเวลานี้ยังคงคลาคล่ำไปด้วยรถยนต์มากมาย ตามวิสัยกิจวัตของเมืองหลวงที่แสนวุ่นวาย พรีมายา นั่งอยู่ข้างคนขับโดยทิ้งสายตาไว้ที่วิวด้านนอกหน้าต่าง จนถึงเวลานี้ทั้งคู่ก็ยังต่างไม่พูดอะไรออกมา มันจบแล้ว… พรีมายาคิด ตลอดไม่กี่วันที่ผ่านมา มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นระหว่างทั้งสอง แม้ว่ามันจะรวดเร็วแต่กระนั้น พรีมายา กลับยังจดจำทุกรายละเอียดได้อย่างขึ้นใจ จดจำได้แม้กระทั่งสายตาของชายหนุ่มตอนที่มองลึกเข้ามาอย่างลึกซึ้งในวันนั้น… ความอึดอัดยิ่งก่อตัวขึ้นโดยที่ชายหนุ่มเองก็ยังคงตั้งใจขับรถสปอร์ตของตน เขาไม่แม้แต่จะชำเลืองสายตามามอง ราวกับว่ากำลังจับคนแปลกหน้าสองคนมานั่งด้วยกันก็ว่าได้ ผู้ชายก็เป็นซะแบบนี้ พรีมายายังคงคิดฟุ้งซ่านเรื่อยไปในระหว่างทาง ได้แล้วก็แยกจาก คำพูดสวยงามที่แอลพูดมาสุดท้ายแ
การจากลา ร่างบางเดินกลับเข้ามาในบ้านโดยที่ความรู้สึกยังคงตีรวนอยู่ในอก ก่อนที่หยาดน้ำใสๆ ร่วงออกมาจากตาคู่สวย เมื่ออยู่ลับหลังแอล ผู้ที่เป็นวันไนท์แสตนด์ ไม่สิ.. พรีมายาเองก็ไม่รู้เช่นกันว่าจะให้สถานะอีกฝ่ายว่าอย่างไรดี แต่ถึงอย่างนั้นมันก็คงจบลงแล้ว เหล่าข้าวของและเสื้อผ้าแบรนด์เนมที่พรีมายาไม่รู้จักถูกวางกองๆ ไว้ที่โซฟาราคาถูกก่อนที่หญิงสาวจะทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ แววตาส่อความโศกเศร้า เธอเองก็ไม่รู้เช่นกันว่าทำไมถึงรู้สึกผิดหวังมากขนาดนี้ ทั้งๆ ที่ก็ยังรู้จักกับอีกฝ่ายได้ไม่นานเลยด้วยซ้ำจะว่าเพราะแอลนั้นมามีอิทธิพลกับความรู้สึกของเธอ มันก็คงจะไม่เกินจริงเท่าไหร่นัก.. ภาพเหตุการณ์ต่างๆ คอยๆ วนเวียนเข้ามาในหัวซ้ำๆ จนท้ายที่สุด หญิงสาวก็กลั้นน้ำตาแห่งคงามเสียใจเอาไว้ไม่อยู่ หยาดน้ำใสไหลหลั่งออกมาอย่างไม่สามารถควบคุม ความรู้สึกอบอุ่นจากฝ่ามือหนาของแอลยังชัดเจนอยู่ทั่วท
ฉันอยู่ข้างเธอ...คลับไนซ์ VIPแก้วเหล้าสีหวานดูน่ารักแก้วหนึ่งถูกยื่นไปเบื้องหน้าของพรีมายาพร้อมกับสายตาแกมบังคับ ทำให้หญิงสาวจำต้องรับมันมาแล้วยกขึ้นจิบด้วยอาการไม่ค่อยเต็มใจ ก่อนจะเริ่มหันมองยังวิวรอบโต๊ะเพราะต้องการจะบ่ายเบี่ยงประเด็น"อี๋!!!อันนี้ ขมอ่ะแกสั่ง อันที่น้ำใสๆ และมีมะนาวให้ฉันที"เธอเคยเห็นจากคราวที่แล้วที่เธอเคยดื่ม ซึ่งเธอคิดว่าช่วงเวลาแบบนี้ความเมาจากแอลกอฮอล์อาจจะทำให้ลืมใครคนนั้นได้"จัดให้จ่ะ เพื่อนสาว"มือเรียวสะบัดกวักเรียกบาร์เทนเดอร์เพื่อสั่งเครื่องดื่ม ...มือขวาดึง ชายหนุ่มเข้ามาไกล้ๆ...."รับ ตากิล่า 1 ช็อตจ่ะขอมะนาวด้วยนะ พ่อรูปหล่อ" มือพลันจับคางเพื่ออยากเย้า ฝ่ายตรงข้าม ตามแบบฉบับของแยมมี่"ได้ครับ"ท่ามกลางเสียงเพลงที่ดังอึกทึกและเหล่าผู้คนที่ต่างมีความสุขและสีหน้ายิ้
ฉันคนใหม่เรื่องที่ให้จัดการ เรียบร้อยดีนะ?”ชายหนุ่มลูกครึ่งจีนผิวขาวรูปร่างสูงกำลังนั่งประสานมืออยู่บนโต๊ะทำงานด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ใบหน้าคมคายถูกฉาบด้วยมาดของนักธุริกิจแสนดูน่าเชื่อถือ เรียวคิ้วเข้มทะนงเฉียงขึ้นก่อนจะตวัดสายตาขึ้นมามองลูกน้องของตน“เรียบร้อยครับ”ชายในชุดสูทสีดำทะมึนมือกุมต่ำกล่าวกลับไปด้วยอาการสำรวม สร้างความพึงพอใจให้แก่ชายหนุ่มอย่างแอล กรอบใบหน้าคมพยักหน้ารับรู้ก่อนที่จะหมุนเก้าอี้ทำงานหันหลังให้“ไปได้”ถ้อยเสียงเย็นชาเอ่ยออกมาส่งผลอีกฝ่ายจะก้มหัวก่อนจะเดินออกไปผ่านมาเป็นเวลาหนึ่งเดือนแล้วนับจากวันนั้น แอลไม่ได้พยายามตามหาหญิงสาวอีกเลย แม้ในช่วงแรกๆมันจะเป็นเรื่องที่ยากจะทำใจ กระนั้นเขาก็เข้าใจและเคารพการตัดสินใจของพรีมายาดี
เสียงนกเสียงกา“ปากเก่งไม่เบานี่ ต่อหน้าผู้ชายล่ะทำเป็นไม่สู้คน”ขณะที่หญิงสาวผู้เป็นเจ้าของใบหน้างดงามกำลังจัดการกับหน้าที่ของตัวเองอยู่นั้น ฝ่ายเพื่อนร่วมงานอย่างหนิงก็ยังคงดูเหมือนจะไม่ยอมเลิกราพรีมายาจึงหยุดการกระทำทั้งหมดก่อนจะหันมาปะทะสายตากับอีกฝ่ายแต่ทว่าก็มีใครอีกคนมาแทรกกลางระหว่างบทสนทนาเสียก่อน“ถ้าพวกพี่ว่างมากก็ไปหางานทำดีกว่าไหมคะ ? หรือว่าอยากจะลาออกมาจับผิดพี่พรีมเลยดี เดี๋ยวหนูไปบอกเจ้าของร้านให้ก็ได้นะคะ”เสียงของ ใหม่แทรกเข้ามา เธอเด็กสาวอายุเพียงสิบแปดปีที่เป็นพนักงานพาร์ทไทม์ในร้านแห่งนี้เช่นกัน เจ้าตัวมักจะเป็นคนร่าเริงช่างเจรจา ในขณะเดียวกันก็เป็นคนตรงๆไม่กลัวใครและเมื่อใหม่ผู้เป็นเหมือนแขกไม่ได้รับเชิญโผล่เข้ามาจึงส่งผลทำให้ หนิงและแจนจำต้องหุบปากฉับ เพราะรู้ดีว่าห
รถสปอร์ตหรูสีดำคันงามเลี้ยวเข้ามาจอดที่ลานหน้าร้านคาเฟ่ มันเป็นร้านที่มีการตกแต่งแบบสไตล์มินิมอล ภายในถูกแยกเป็นโซน มีทั้งโซนที่ใช้ทำงานและนั่งชมวิวดื่มด่ำกับบรรยากาศเหตุที่เขาเลือกมาคุยธุรกิจที่นี่ก็เพราะว่าลูกค้าอีกของเขานั้นเป็นผู้หญิงในการจะทำธุรกิจให้ดีนั้น หนึ่งสิ่งที่ควรจะใส่ใจก็คือต้องรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใครและมีรสนิยมอย่างไร แอลเรียนรู้สิ่งเหล่านี้มาตั้งแต่เด็กและมันก็ใช้ได้จริงกับธุรกิจทุกรูปแบบร่างสูงในชุดสูทก้าวลงจากรถด้วยท่าทีมีมาดดูภูมิฐาน ก่อนมือหนาจะผลักประตูเข้ามาในร้าน ด้านในของร้านมีการคุมโทนให้เป็นธีมสีครีมและขาวดูสะอาดตา ช่วงเวลาเช้าๆแบบนี้มักไม่ค่อยมีลูกค้ามาใช้บริการเท่าไหร่ เนื่องจากคนส่วนใหญ่มักจะไปรีบไปทำงาน มันจึงทำให้แอลรู้สึกไม่อึดอัดและสะดวกมากกว่าหากจะใช้ที่นี่เป็นที่คุยงาน ร่างสูงค่อยๆเดินมานั่งที่
กลิ่นของเบเกอรี่และกาแฟอบอวนไปทั่ว ท่ามกลางร้านคาเฟ่แห่งหนึ่ง พรีมายากำลังเดินไปที่ด้านหลังเคาน์เตอร์โดยมีสายตาแห่งความถวิลหาจากชายหนุ่มคอยมองดูอยู่มวลความคิดถึงที่เขาเคยข่มเก็บเอาไว้ตลอดมาตอนนี้มันพรั่งพรูออกมาจนแทบจะล้นทะลักแล้วกลั่นมาเป็นน้ำตา กรอบใบหน้าคมมองตามร่างของเธออย่างไม่อยากเชื่อสายตาถึงแม้ว่าพรีมายาตอนนี้จะดูผ่ายผอมลงไปจนถนัตาแต่ทว่าเขาก็ยังจำเธอได้ดี แววตาที่เขาคิดถึง น้ำเสียงที่เขาอยากได้ยินมันอีกครั้ง ตอนนี้มันอยู่ตรงหน้าแล้วทุกอย่างหยุดนิ่งลง เหมือนว่านี่ไม่ใช่ความจริง ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนอยากจะคว้าตัวเธอแล้วกอดเอาไว้ ไม่อยากปล่อยให้พรีมายาหายไปเหมือนอย่างวันนั้นอีกแล้ว เขาไม่อยากจมลงในทะเลของความคิดถึงอย่างเช่นเมื่อก่อนอีกแล้ว“บอสคะ บอส”เลขาสาวหน้าตาจิ้มลิ้มถือวิสาสะสะกิดแขนผู้เป็นเจ้านายของตนเบาๆ เพราะว่าเรียกอีกฝ่ายอยู่นานแล้วแต่ก็ไร้ซึ่งการต
ย้อนกลับไปวันแรก ที่เกิดเรื่อง ในวันที่ แยมมี่แปลงโฉมให้พรีมายาเป็นสาวสวยไฮโซ ที่ความสวยสะกดชายหนุ่มแทบทั้งไนซ์คลับ. หลังจากแอลดูท่าไม่ดีที่หนุ่มเพลบอยจะเข้ามาลวนลามเธอ บอดิการ์ดของ แอล จึงลาก พ่อหนุ่มเพลบอย ออกไปแล้วเพื่อที่จะทำร้าย แยมมี่เป็นห่วงกลัว พ่อหนุ่มนั่นถูกฆ่า เพราะอีกฝ่ายเป็นมาเฟียคงไม่เกรงกลัวกฎหมายใด แยมมี่จึงตามออกไปช่วย"อย่าทำร้ายเค้าเลยนะคะ ฉันขอร้องให้ปล่อยเค้าไปเถอะ..ฉันจะจัดการเค้าเอง ฉันกับเพื่อนก็ไม่เป็นอะไร " แยมมี่ยกมือไหว้บอดิการ์ดเพื่อขอร้อง แทนเขา"คุณไปไว้ใจเค้าได้ยังไงเค้ายังจะลวนลามเพื่อนคุณไม่ใช่เหรอ" ร่างใหญ่ขึ้นเสียงสูง"ก็ใช่ค่ะ แต่แยมมี่ไม่อยากให้ใครบาดเจ็บและเดือดร้อน ถือว่าขอร้องนะคะ ฉันจะจัดการมันเองค่ะ " แยมมี่ทั้งกลัวน้ำเสียงสั่นเครือแต่วินาทีนั้นเธอคิดเพียงว่าไม่อยากให้ใครบาดเจ็บบอร์ดิการ์ดร่างยักษ์ทั้ง สอง มองหน้ากั
พี่คะ… นี่วีเอง”หญิงสาวคว้ามืออีกฝ่ายมากุมไว้ ด้วยสีหน้าแววตาแสนเศร้าสลด ก่อนจะเรียกชื่ออีกฝ่ายเบาๆเพื่อเรียกสติผู้เป็นพี่กรอบใบหน้าของชายหนุ่มจึงค่อยๆหันมาแล้วกระพริบตาอยู่สองสามครั้ง เพื่อปรับโฟกัสสายตาให้ชัดเจน เมื่อรู้ว่าเมื่อกี้ตนเองเพียงแค่ฝันไปความวูบโหวงที่มีในใจก็ยิ่งจะทวีคูณเขายังคงกวาดสายตาไปรอบห้องด้วยความหวังว่า พรีมายาอาจจะกลับมาหาตนเองแล้วก็ได้ แต่เมื่อลองนั่งคิดและเรียงลำดับเหตุการณ์ทั้งหมดใหม่ดูอีกครั้ง มันจึงทำให้แอลนึกได้แล้วว่าทั้งหมดที่เขาคิดมันก็เป็นเพียงแค่ความหวังลมๆแล้งๆเท่านั้น"นี่เราแค่ฝันไปเองเหรอ ถ้าไม่ตื่นขึ้นมาเลยคงจะดี"ในความฝันนั้นเขารู้สึกว่าได้สัมผัสกับพรีมายาจริง ๆวินาทีถัดมา ร่างสูงจึงรวบรวมพละกำลังทั้งหมดที่มีเพื่อพาร่างกายซูบโทรมของตนให้ลุกจากเตียงสายตาของแอลเริ่มกลับมาพร่ามัวอีกครั
สองขาเรียวหยุดอยู่ ณ ที่ที่หนึ่ง หน้าตึกสูงตระหง่านที่ตั้งเด่นอยู่เบื้องหน้า ใช่แล้ว… ในที่สุดเธอก็ยอมที่จะเสี่ยงเข้ามาเล่นในเขาวงกตแห่งความรักนี้ แม้ไม่รู้ว่าจะมีอะไรรออยู่ตรงจุดหมายนั้นหรือไม่ก็ตามเพียงสิ่งเดียวที่ทำให้เธอมายืนอยู่ที่นี่ก็คือ เธออยากจะทุ่มเทกับมันดูสักตั้ง แค่อยากจะเต็มที่กับมันให้ถึงที่สุด ก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้เต็มที่กับมันอีกแล้ว ไม่ใช่เพราะว่าเธอไม่หวาดกลัวกับความเสียใจอีกต่อไป แต่เพราะว่าเธอกลัวจะเสียใจต่างหาก ในท้ายที่สุดพรีมายาจึงตัดสินใจลองกลับมาหาอีกดวงใจที่ยังคงหวาดหวั่นและเจ็บปวดกับเรื่องที่เพิ่งประสบมามันเริ่มกลับมามีความหวัง บางทีแอลอาจจะจริงจังกับเธอจริงๆก็ได้ บางที… เธออาจจะแค่เพียงตีโพยตีพายไปเอง แอลอาจจะอยากลงหลักปักฐานกับเธอต่อให้สถานะระหว่างทั้งสองจะต่างกันราวฟ้ากับดินพรีมายาในตอนนี้เปรียบดั่งคนตาบอดที่กำลังหลงทาง โดยมีเสียงกระพือปีกของหิ่งห้อยเ
มาเฟียร้าย..พ่ายรักขายาวก้าวเข้ามาในพื้นที่บ้านที่คุ้นเคย ที่ซึ่งเคยเป็นสถานที่แห่งความทรงจำระหว่างแอลและพรีมายา กรอบใบหน้ากวาดสายตาไปทั่วด้วยหัวใจที่วูบโหวง บ้านแห่งนี้ไม่เคยจะเงียบเชียบและปิดสนิทราวกับไม่มีคนอยู่ขนาดนี้เขาถือวิสาสะเดินไปทั่วบริเวณบ้านของพรีมายา แล้วก็ต้องยิ่งรู้สึกใจหายเพราะตรวจดูจนทั่ว ชายหนุ่มก็ไม่เห็นแม้แต่วี่แววของหญิงสาวใบหน้าหล่อเหลาฉายชัดถึงความโศกเศร้าที่มีอยู่ข้างใน แววตาไม่สามารถปกปิดความเสียใจเอาไว้ได้อีกต่อไป มันจุกอยู่ที่คอจนพูดอะไรไม่ถูก ร่างสูงนั่งบนโชฟาที่มันเคยมีความทรงจำระหว่างพวกเขา“ขอโทษค่ะ เลขหมายที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้…”สายแล้วสายเล่าที่ถูกต่อไป กลับไม่มีใครรับสายหรือวี่แววของเธอเลยแอลไม่อยากจะตีโพยตีพาย แม้จะรู้อยู่ลึกๆ
มาเฟียรัก พักร้ายฝันสลาย“อืม งั้นฉันจะไปจัดการเอง”เสียงทุ้มตอบกลับปลายสายด้วยโทนเสียงที่ดูจริงจังกว่าทุกที เสียงกระซิบกระซาบบ่งบอกได้ว่าเรื่องที่ตัวเองกำลังคุยอยู่นั้นช่างเป็นเรื่องสำคัญและไม่ต้องการอยากให้ใครมาได้ยินจริงๆ สีหน้าขึงขังคิ้วทะนงขมวดมุ่น เขายังคงยืนเคร่งคร่ำอยู่ผู้เดียวโดยไม่รู้สึกตัวเลยว่าด้านหลังของตนเองกำลังมีคนแอบฟังตัวเองกำลังคุยโทรศัพท์อยู่“ดี… เตรียมรถมาได้เลย แล้วอย่าให้มันหนีไปไหนได้”เมื่อธุระสำคัญถูกจัดการไปได้แล้วหนึ่งเปลาะ มือถือสมาร์ทโฟนจึงถูกวางสายลงแล้วเก็บเข้าไปในกระเป๋ากางเกงดังเดิม แอลพลิกตัวกลับมา เตรียมจะกลับเข้าไปเอาสูทด้านใน แต่แล้วเขาก็ต้องผงะเมื่อกรอบสายตาหันมาพบกับร่างของหญิงสาวผู้เป็นที่รักของตนกำลังยืนรอเขาอยู่ก่อนแล้ว“มีเรื่องด่วนหรือคะ?”
มาเฟียคลั่งรักแสงแดดโลมเลียตามผิวกายขาวละเอียดของหญิงสาวที่กำลังนอนหลับอุตุอยู่ในอ้อมกอดแกร่งของชายหนุ่ม ลมหายใจพ่นออกมาแผ่วเบาสม่ำเสมอภายใต้สายตาของร่างสูงที่กำลังกอดกระชับตัวของเธอเอาไว้จุ๊บ…เสียงจุมพิตดังขึ้นเมื่อในยามที่แอลกดริมฝีปากลงที่หน้าผากมนของพรีมายาด้วยความเอ็นดูสายแล้วสายเล่าของขิมโทรจิกผู้เป็นเจ้านาย กระนั้นชายหนุ่มกลับเลือกที่จะบอกกับเลขาสาวไปว่าวันนี้ตนจะขอเลื่อนนัดออกไปทั้งหมด เหตุก็เพราะ การที่ได้มีเวลากับคนตนรักนั้นช่างเป็นโมเมนต์ที่แสนล้ำค่าของแอลหัวใจของเขายังคงเต้นระส่ำเมื่อนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน เขายกยิ้มออกมาก่อนจะซบแนบใบหน้าลงที่กลุ่มผมสลวยของหญิงสาว“อือ…”เสียงครางดังขึ้นเบาๆ ในลำคอ บ่งบอกว่าหญิงสาวตรงหน้านั้นเริ่มรู้สึกตัวแล้ว แอลจึงหยุดนิ่ง
เสียงเฉอะแฉะดังก้องอยู่ภายในรถสีดำคันหรู โดยที่พรีมายาก็ยังไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองขึ้นมาคร่อมอยู่บนตักของแอลตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะเผลอปล่อยให้ตัวเองได้ทำตามสัญชาตญาณไปครั้นจะมาหยุดกลางคันเอาเสียตอนนี้ จิตใจลึกๆของเธอก็คงจะรู้สึกขัดใอยู่ไม่น้อย แรงความเสน่หาของพรีมายานั้นเริ่มท่วมท้น จนในที่สุดเธอก็ต้องยอมจำนนต่อมันฝ่ามืออุ่นของแอลลูบไล้ไปตามสะโพกขาวอวบกลมกลึงแล้วออกแรงรั้งกายให้หญิงสาวตรงหน้าบดเบียดเข้ามารับกับจังหวะของเขา แม้จะเป็นเพียงแค่การจูบเล้าโลมแต่มันก็ทำให้พรีมายาอดไม่ได้ที่จะเผลอครางเสียงกระเส่าออกมา เพราะว่าในตอนนี้ทุกอณูของร่างกายเธอนั้นอ่อนไหวและไวต่อการสัมผัสของแอลเป็นอย่างมากริมฝีปากยังคงถูกแอลครอบครองและแลกเปลี่ยนความหวานให้แก่กันและกันอย่างเร่าร้อน เรียวลิ้นของแอลกระหวัดเกี่ยวไล่ชิมรสชาติความหวานอย่างไม่หยุดพักจนพรีมายาแทบจะหายใจไม่ทัน กรอบใบหน้าหล่อเหลายังคงบดจูบลงมาราวกับว่าจะสามารถกลืนกินตัวเธอได้จริงๆ ปากสีเชอรี่อวบอิ่มขอ
ลมเย็นเฉียบถูกระบายออกมาจากทางช่องแอร์ในตัวรถสปอร์ตคันหรู โดยมีแอลเป็นคนขับให้ ไม่มีเสียงเพลงเปิดคลออย่างเช่นทุกที พรีมายาเองก็ยังรู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่เริ่มจะมาคุแต่ก็ยังไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาเช่นเดียวกับแอลที่ก็ยังคงนิ่งงันและขับรถต่อไป หัวสมองของพรีมายาเริ่มคิดเรื่องราวอะไรไปเรื่อยเปื่อยนับตั้งแต่ที่อีกฝ่ายเดินกลับมาจากการคุยโทรศัพท์ บางที… แอลอาจจะมีเรื่องเครียดอะไรอยู่ก็ได้ถ้าหากคนที่เรารักมีเรื่องเครียด เธอก็ต้องยิ่งอยู่ข้างๆเขาไม่ใช่หรือยัยพรีม…ใบหน้าสวยหันมามองยังเสี้ยวหน้าคมคายของชายหนุ่มอีกครั้ง ก่อนที่สุดท้ายจะรวบรวมความกล้าทั้งหมดแล้วเปล่งคำถามออกมา อย่างน้อยๆความเคลือบแคลงสงสัยจะได้ถูกไขให้กระจ่างเสียที“มีอะไรหรือเปล่าคะ…”ถึงจะบอกว่ารวบรวมความกล้า แต่ว่าอีกใจของหญิงสาวกลับยิ่งหวาดกลัวกับคำตอบและปฏิกิริยาของอีกฝ่ายมากไม่แพ้กั
จูบทำให้คิดบนโต๊ะที่มีผ้าปูสีขาวถูกวางเรียงรายไปด้วยขนมเครื่องดื่มและอาหารมากมาย แก้วน้ำผลไม้สีหวานหนึ่งแก้วจึงถูกยกขึ้นมาจิบเป็นการฆ่าเวลาแทน ถึงจะบอกว่าหญิงสาวรู้สึกอยากอยู่คนเดียว แต่จริงๆแล้วในใจลึกๆเธอกลับรู้สึกหึงมากกว่าที่สาวๆให้ความสนใจ“สติหน่อยสิพรีมายา แค่ดูใจกันแค่นี้ก็รีบเอาใจลงไปเล่นซะแล้ว”"เดี๋ยวมานะ ไปห้องน้ำก่อน "แอลเป็นฝ่ายไปห้องน้ำบ้างเนื่องจากเมื่อครู่เพื่อนขอชนเขาดื่มไปหลายแล้ว ร่างสูงจึงเดินลุกออกไปพรีมายาพึมพำดังออกมากับตัวเอง แม้รู้อยู่แก่ใจตั้งแต่แรกแล้วว่าหากปล่อยใจไปเลยตามเลย สุดท้ายตัวเธอก็คงจะต้องกลับไปเจ็บปวดเช่นเดิม แต่อีกใจก็กลับดื้อรั้นและยังเลือกจะวางใจให้อีกฝ่ายเช่นนี้ต่อไป“สบายดีไหม ?”ระหว่างที่พรีมายากำลังคิด
เฮ้อ…”เสียงทอดถอนหายใจดังขึ้น สองขาเรียวก็ยังคงก้าวเดินไปยังโซนจัดเลี้ยงเพื่อที่จะปลีกวิเวกไปอยู่คนเดียวสักพักเชื่อว่า" เงิน"สามารถซื้อทุกอย่างที่อยากซื้อได้และทำให้ชีวิตตัวเองดีขึ้น ที่พรีมายาทำงานที่คาเฟ่ นอกจากต้องการลืมใครสักคนแล้ว อีกอย่างก็เพียงจะเก็บเงินก้อนสักพักเพื่อลงทุน ทำธุรกิจส่วนตัว พรีมายาอยาก มีร้านคาเฟ่เล็กๆ พร้อมกับการขายสินค้าออนไลน์ที่หวังว่าชีวิตเธอต้องดีกว่านี้ ส่วนเงินที่แอลแอบเอาใส่กระเป๋าพรีมายามานั้นเธอกะจะคืนเขาไป อย่างไรแล้วถ้าเลือกที่จะกลับไปคบกับแอลชีวิตเธอจะเป็นเช่นไรก็ไม่อาจรู้ได้.."ทุน" เป็นสื่งสำคัญที่จะทำให้เป้าหมายเธอสำเร็จ เมื่อตอนเด็กหญิงสาวเคยช่วยแม่ขายของ ก่อนที่พ่อกับแม่เธอแยกทางกันที่บ้านเคยมีร้านขายกิ๊ฟช็อปเล็กๆ จากที่พ่อแม่แยกทางกัน แม่ของพรีมายา ออกจากบ้านไปอยู่กับครอบครัวใหม่ ส่วนพรีมายาต้องอยู่เรียนหนังสือ กับพ่อที่บ้านณ ตอนนั้นพ่อฐานะดีกว่า สามารถส่งเธอเรียนได้ แม่จึงให้เธออยู่เรียนหนั