ซ่งหย่งไท่อยู่ข้างๆ เย่เฟิงในขณะนี้ และเขาสังเกตเห็นหมายเลขผู้โทรมาเขาจำหมายเลขนี้ได้!“เว่ยเสี่ยวตง?”ซ่งหย่งไท่พูดอย่างเย็นชาจากด้านข้างเย่เฟิงได้ยินดังนั้น น้ำเสียงของเขาก็เฉียบคม "เว่ยเสี่ยวตง นายจะทำอะไร?"ตอนอยู่คฤหาสน์ตระกูลหลีเมื่อคราวก่อน ผู้ชายคนนี้ถูกทำเอาตกใจจนฉี่แตก แล้วหนีกระเจิดไป แล้วทำไมวันนี้ เขาถึงโทรหาเขาได้ล่ะ?”“ทำอะไรงั้นเหรอ? คนแซ่เย่ นายรู้ไหมว่าตอนนี้ลูกสาวนายอยู่ไหน? ห๊า?”เว่ยเสี่ยวตงถามอย่างเย็นชาเมื่อได้ยินสิ่งนี้ เย่เฟิงก็รู้สึกกังวลและถามอย่างเร่งด่วน "นายหมายความว่าอะไร"“หมายความว่าอะไรงั้นเหรอ? ก็หมายความว่าลูกสาวของนายอยู่ในมือของเราไงล่ะ ถ้นนายไม่อยากให้เกิดเรื่องกับลูกสาวนาย ก็มาที่คฤหาสน์หู่เสี้ยว จำไว้ว่าต้องมาคนเดียว!”“ถ้านายพาคนอื่นมาด้วย ฉันรับรองว่าลูกสาวของนายจะต้องตายทันที!”เว่ยเสี่ยวตงพูดด้วยน้ำเสียงดุร้าย ทั้งยังแฝงด้วยความอำมหิตพวกเขาตรวจสอบแล้ว พบว่าคนที่เย่เฟิงใส่ใจมากที่สุดคือลูกสาวของเขา ดังนั้น พวกเขาจึงไม่กังวลเรื่องที่เย่เฟิงจะมาหรือไม่มาเลยหลังจากที่อีกฝ่ายวางสายโทรศัพท์ ใบหน้าของเย่เฟิงก็มืดมน และมีความหนาวเย
น้ำเสียงของเย่เฟิงเต็มไปด้วยความเย็นชาเวลานี้ เจาอยู่ตรงหน้าลิฟต์แล้วก้าวเท้าเข้าไปซ่งหย่งไท่ยืนอยู่กับที่อยู่นานกว่าจะรู้สึกตัวหลังจากที่อารมณ์ของเขาเปลี่ยนไปมาหลายครั้งแล้ว เขาก็วิ่งกลับไปในห้องส่วนตัว“อาไท่ เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”นายท่านซ่งถามหลานชายซ่งหย่งไท่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็เล่าทุกอย่างออกไปหลังจากฟังจบ สีหน้าของผู้คนที่อยู่ที่นั่นก็เปลี่ยนไป ต่างเผยให้เห็นถึงความกังวลใจและร้อนใจออกมา“ไม่ว่ายังไง ทำตามสิ่งที่คุณเย่บอกเถอะ! เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับลูกสาวของเขา เราอย่าทำอะไรบุ่มบ่ามเด็ดขาด”นายท่านซ่งนิ่งคิดอยู่นานกว่าจะตอบออกมา…อีกฝั่งหนึ่ง!ในอาคารแพทย์ทหาร เขตรักษาความปลอดภัยหยุนเฉิง!มู่จ่งเจิ้นมองดูผลตรวจที่เพิ่งออกมา แล้วถามแพทย์ทหารข้างๆ ว่า “ยานี่มีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ?”แพทย์ทหารคนนี้ส่ายหัว แล้วพูดอย่างชมเชยว่า “ไม่มีปัญหาครับ!”“หมอเหวย ไม่มีส่วนประกอบอันตรายเลยเหรอครับ? ผลลัพธ์ดีขนาดนั้นจะต้องเติมสารต้องห้ามอะไรบางอย่างเข้าไปด้วยแน่ๆ ใช่ไหมครับ?”มู่ซินเฟยเองก็ถามขึ้นข้างๆเพราะความรู้สึกไม่พอใจกับคนบางคน ดังนั้นลูกสาวผู้บัญชาการคนนี้จึ
"ทำไมจะไม่ได้ล่ะ?"แพทย์ทหารเหวยสีหน้าเคร่งขรึมแล้วพูดอย่างจริงจังว่า "ไม่พูดถึงครีมลดรอยและผลิตภัณฑ์ปิดผมขาวของตระกูลหลีนั่นแล้ว แต่ยาธาตุทองตระกูลหลีและ “ยาแคปซูลแสงแห่งชีวิต” ยารักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดพิเศษ ตั้งราคาที่ประชาชนจับต้องได้...ยาที่มีผลอัศจรรย์และราคาที่เอื้อมถึงได้ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะยังคงขายดีต่อไปเท่าที่ทราบผม ราคาที่หงเม่าหมิง ซื้อจากบริษัทยาตระกูลหลี "ยาแคปซูลแสงแห่งชีวิต" ซึ่งเป็นยารักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดพิเศษ อยู่ที่กล่องละ 300 เท่านั้น ซึ่งแทบไม่ได้กำไรเลย!ส่วนยาธาตุทองตระกูลหลีนั้นราคาก็ถูกเช่นกันดูเหมือนขวดละร้อยเท่านั้นพูดตามตรง ฉันไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับบริษัทยาที่มีจิตสำนึกเช่นนี้มาก่อนเลยยาแบบนี้หากไม่ขายดี ก็อธิบายอะไรไม่ได้แล้วล่ะ!”เพิ่งสิ้นเสียง ความตกใจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของมู่จ้านและมู่ซินเฟย จากนั้นความอับอายก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของพวกเขาอะไรนะ?ราคาหน้าโรงงาน “ยาแคปซูลแสงแห่งชีวิต” นั้นเพียง 300 เท่านั้น!นี่...ถูกเกินไปหรือเปล่า?ยาที่ออกโดยเย่เฟิงมีไว้เพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวหลายล้านคนเชียวนะแล
“กันหยุน มึงหยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ!”เวลานี้ เห็นเพียงเจี่ยงเจิ้งยืนอยู่ข้างเตียงในโรงพยาบาล ตะโกนขึ้นด้วยสีหน้าเศร้าและเป็นกังวล"แม่ง... คิดไม่ได้ถึงว่านายน้อยอย่างฉัน... จะตายที่นี่แล้ว!"ลั่วกันหยุนพูดอย่างอ่อนแรง ริมฝีปากของเขาซีดจนแทบไม่มีสีเลือดบาดแผลทั้งสองที่ต้นขาและไหล่ของเขามีเลือดไหลออกมา สายห้ามเลือด ยา และผ้ากอซหนาก็ไม่สามารถหยุดมันได้ในขณะนี้เอง โทรศัพท์มือถือของเจี่ยงเจิ้งดังขึ้น เขาหยิบมันขึ้นมาแล้วพูดอย่างเร่งรีบ "เหล่าจาง มีเรื่องอะไร?"“วันนี้ฉันเจอเย่เฟิงแล้ว! ฉันเลยต้องโทรมาบอกพวกแก ถ้าเจอคนนี้ในอนาคต ก็อย่ายุ่งกับเขาเลย”จางเฉิงเฟิงพูดด้วยน้ำเสียงแหบ“ฉันรู้แล้ว! ไม่คุยกับแกแล้วนะ! กันหยุนไม่ไหวแล้ว”เจี่ยงเจิ้งกล่าวอย่างเร่งรีบ“เกิดอะไรขึ้น?” จางเฉิงเฟิงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในเวลานี้ มู่ซินเฟยที่ตามพ่อของเขาเข้ามา จู่ๆ ก็นึกถึงอะไรบางอย่าง "พ่อคะ ยา! ยาของเย่เฟิง! ลองยาของเย่เฟิงดูสิคะ!"หลังจากที่ลูกสาวตักเตือน มู่จ้านก็เกิดแรงกล้า รีบหยิบขวด "ยาธาตุทองตระกูลหลี" ออกจากร่างกายหลังจากการทดลองและการทดสอบต่างๆ ของเขาเอง เหลือยาเพียงครึ่งขวด แต่ตอนนี้
หลังจากที่เย่เฟิงออกจากเชียนเว่ยเซวียน ก็ไม่ได้ขับรถ แต่ออกวิ่งด้วยสองขาอย่างดุเดือดคฤหาสน์หู่เสี้ยวเป็นวิลล่าส่วนตัวขนาดใหญ่ของเว่ยเหล่าหู่ ตั้งอยู่ในเขตชานเมืองด้านตะวันออกของหยุนเฉิง แต่จะต้องผ่านเขตเมืองของหยุนเฉิงก่อนด้วยความแข็งแกร่งของเย่เฟิงในปัจจุบัน การขับรถในเมืองจึงไม่เร็วเท่ากับการวิ่งด้วยสองขาเกิดเรื่องขึ้นกับนั่วนั่ว และเขาต้องไปถึงที่นั่นโดยเร็วที่สุด!ร่างกายที่แข็งแกร่งทำให้เย่เฟิงวิ่งราวกับรถสปอร์ตที่เร่งความเร็วและได้ยินเสียงลมหวีดหวิวในหูอย่างไรก็ตาม สิ่งที่เย่เฟิงไม่รู้ก็คือนั่วนั่วยังไม่ตกไปอยู่ในมือของเว่ยเหล่าหู่บนถนนอันเงียบสงบนั้น!ในรถ Toyota Prado "หมาดำ" ลูกน้องของเว่ยเหล่าหู่เพิ่งวางสายไปก็สัมผัสได้ถึงแรงกระแทกอย่างแรง!ทันใดนั้นโลกก็หมุน!หลังจากที่ Range Rover หมุนไปสองสามรอบและหยุด หลีย่วนทั้งสามก็เปิดประตูและลงจากรถ และเดินอย่างรวดเร็วไปหาโจวชิ้งและนั่วนั่วลูกน้องในรถคันอื่นๆ หลายคันล้อมรถ Toyota ที่พลิกคว่ำและดึงสุนัขสีดำสองตัวออกจากรถอย่างรุนแรง“ฮือๆ ฮือๆ...”นั่วนั่วซึ่งถูกโจวชิ้งงปิดปากไว้ก็ตกใจเมื่อเห็นรถชนกันแต่วินาทีต่อมาเม
เมื่อมองไป ที่นี่ราวกับเป็นพระราชวังอย่างไรอย่างนั้นที่นี่คือที่อยู่ของเว่ยเหล่าหู่ คฤหาสน์หู่เสี้ยว!เย่เฟิงมาถึงที่นี่ภายในเวลาไม่ถึงยี่สิบนาที หลังจากที่ลูกน้องของเว่ยเหล่าหู่ยืนยันแล้วว่าเขามาคนเดียว ก็พาเย่เฟิงเข้าไปข้างในราวกับคุมผู้ต้องขัง!ในลานกว้างที่จัดไว้เป็นอย่างดี เว่ยเหล่าหู่นั่งอยู่บนแท่น โดยมีเว่ยเสี่ยวตง และฆาตกรเลือดเย็นอยู่ข้างหลัง รวมทั้งนักสู้มือทองอีกไม่กี่คนส่วนที่อยู่ข้างล่างแท่นสูงทั้งสองฝั่ง มีลูกน้องชุดดำทั้งตัวยืนเป็นแถวสองแถว แต่ละคนออร่าดุดัน น่าเกรงขามมาก!เมื่อเห็นเย่เฟิงที่ถูกลูกน้องนำตัวเข้ามาแล้ว เว่ยเหล่าหู่ก็เผยรอยยิ้มเยือกเย็นออกมา“แกน่ะ กล้ามาคนเดียวจริงๆ นะ!”เย่เฟิงยืนอยู่ข้างล่าง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ทำไมถึงต้องไม่กล้าด้วย?”พูดจบ เขาก็กวาดตามองรอบๆ แล้วถามเสียงขรึมว่า “ลูกสาวฉันอยู่ไหน?”“คุกเข่าก้มกราบขอโทษฉัน แล้วตัดเอ็นมือเอ็นเท้าตัวเองซะ แล้วฉันจะให้แกเจอหน้าลูกสาว!”เว่ยเสี่ยวตงตะคอกเสียงโหด เต็มไปด้วยความรู้สึกโกรธแค้นและเกลียดชังสิ้นเสียง ลูกน้องคนหนึ่งที่พาเย่เฟิงเข้ามาก็หยิบกรรไกรเล่มหนึ่งโยนให้กับเย่เฟิง“เป
เมื่อเห็นเว่ยเหล่าหู่กดโทรศัพท์ นัยน์ตาของเย่เฟิงก็ฉายแววกังวล แล้วจ้องที่อีกฝ่ายเขม็งเรื่องที่เกี่ยวกับนั่วนั่ว เย่เฟิงไม่สามารถใจเย็นได้เลย“เฮยโก่ว แกเป็นอะไรไป? ทำไมยังไม่กลับมาสักที?”เว่ยเหล่าหู่ถามด้วยน้ำเสียงตำหนิติโทษแต่พอสิ้นเสียง เสียงที่ตอบมาจากปลายสายกลับไม่ใช่เสียงของเฮยโก่ว“เว่ยเหล่าหู่?”อีกฝ่ายถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา“หืม? แกเป็นใคร?”สีหน้าของเว่ยเหล่าหู่เปลี่ยนไป“ฉันหลีหย่วนพ่อแกไง! ไอ้คนแซ่เว่ย แต่ก่อนฉันนับถือแกเป็นรุ่นพี่ เรียกแกว่านายท่านเว่ย แต่วันนี้แกกลับกล้ามายุ่งกับพี่เขยฉัน มายุ่งกับหลานสาวของฉัน!”หลีหย่วนขบฟันกล่าว“แล้วยังไง?”เว่ยเหล่าหู่หัวเราะแห้งแล้วถาม“พี่เขยฉันอยู่กับแกใช่ไหม?”หลีหย่วนถามด้วยน้ำเสียงเจือเป็นห่วงเล็กน้อยหลังจากที่ช่วยนั่วนั่วไว้ได้แล้ว เขาก็คิดอยากติดต่อหาเย่เฟิงแล้ว แต่กลับโทรหาอีกฝ่ายไม่ได้เลยสิ่งที่เขาไม่รู้คือ เพราะเย่เฟิงรีบร้อนมาที่นี่มากเกินไป โทรศัพท์ตกหล่นกลางทาง ก็ยังไม่รู้ตัว“ใช่!” เว่ยเหล่าหู่ตอบเย็นชา“ปล่อยตัวพี่เขยฉันซะ ไม่งั้นฉันจะฆ่าเฮยโก่วซะ!”หลีหย่วนพูดแบล็กเมล์“แกคิดมากเกินไปแล้ว! วัน
กลุ่มคนชุดดำทั้งสองแถวนั่นหยิบขวานออกมาจากตัว แล้วมุ่งเป้าไปที่เย่เฟิงด้วยรังสีสังหารขณะเดียวกัน ก็มีคนของเว่ยเหล่าหู่พุ่งออกมาจากรอบๆ ทั้งสี่ด้านของคฤหาสน์แต่ละคนถืออาวุธไว้ในมือ เต็มไปด้วยกลิ่นอายเหี้ยมโหด!เมื่อมองไป ก็เห็นแต่หัวคน อย่างต่ำประมาณสามสี่ร้อยคนพวกเขาล้อมเย่เฟิงเอาไว้ราวกับกระแสน้ำดำไม่เพียงเท่านั้น นักสู้มือทองที่อยู่ข้างหลังเว่ยเหล่าหู่อีกหลายคน ก็ตามลงมาด้วยพวกเขาแผ่ซ่านรังสีสังหารอันโหดเหี้ยมออกมาเสมอ ถึงแม้ฝีมือจะสู้เฮยจินกังไม่ได้ แต่ก็เป็นยอดฝีมือระดับพลังแสงสว่างเหมือนกัน“ไอ้หนุ่ม ถึงแกจะฆ่าเฮยจินกังได้ แต่ว่ายุงเยอะก็สามารถล้มช้างได้ วันนี้นายถูกกำหนดไม่ให้รอดออกไปแล้วว่ะ!”เว่ยเหล่าหู่กล่าวยิ้มเยาะ“ไอ้หมา กูจะฆ่ามึง!”“ไปตายซะ! ฮ่าๆ…”เว่ยเสี่ยวตงหัวเราะลั่นออกมาอย่างปล่อยตัว“นี่แหละความสามารถของเว่ยเหล่าหู่ คนพวกนี้ยังเป็นแค่ส่วนหนึ่งของคฤหาสน์หู่เสี้ยวเท่านั้น ฉันใช้ชีวิตอยู่ในหยุนเฉิงมาหลายสิบปีแล้ว ไอ้เด็กไม่อย่าน้ำนมอย่างแกยังกล้ามาท้าทายอำนาจฉันงั้นเหรอ?”“ฉันเว่ยเหล่าหู่มีกำลังคนเยอะ เงินเยอะ มีดเยอะ ฆ่าแกน่ะ ก็เหมือนฆ่ามดเท่านั้นแห