ซ่งหย่งไท่อยู่ข้างๆ เย่เฟิงในขณะนี้ และเขาสังเกตเห็นหมายเลขผู้โทรมาเขาจำหมายเลขนี้ได้!“เว่ยเสี่ยวตง?”ซ่งหย่งไท่พูดอย่างเย็นชาจากด้านข้างเย่เฟิงได้ยินดังนั้น น้ำเสียงของเขาก็เฉียบคม "เว่ยเสี่ยวตง นายจะทำอะไร?"ตอนอยู่คฤหาสน์ตระกูลหลีเมื่อคราวก่อน ผู้ชายคนนี้ถูกทำเอาตกใจจนฉี่แตก แล้วหนีกระเจิดไป แล้วทำไมวันนี้ เขาถึงโทรหาเขาได้ล่ะ?”“ทำอะไรงั้นเหรอ? คนแซ่เย่ นายรู้ไหมว่าตอนนี้ลูกสาวนายอยู่ไหน? ห๊า?”เว่ยเสี่ยวตงถามอย่างเย็นชาเมื่อได้ยินสิ่งนี้ เย่เฟิงก็รู้สึกกังวลและถามอย่างเร่งด่วน "นายหมายความว่าอะไร"“หมายความว่าอะไรงั้นเหรอ? ก็หมายความว่าลูกสาวของนายอยู่ในมือของเราไงล่ะ ถ้นนายไม่อยากให้เกิดเรื่องกับลูกสาวนาย ก็มาที่คฤหาสน์หู่เสี้ยว จำไว้ว่าต้องมาคนเดียว!”“ถ้านายพาคนอื่นมาด้วย ฉันรับรองว่าลูกสาวของนายจะต้องตายทันที!”เว่ยเสี่ยวตงพูดด้วยน้ำเสียงดุร้าย ทั้งยังแฝงด้วยความอำมหิตพวกเขาตรวจสอบแล้ว พบว่าคนที่เย่เฟิงใส่ใจมากที่สุดคือลูกสาวของเขา ดังนั้น พวกเขาจึงไม่กังวลเรื่องที่เย่เฟิงจะมาหรือไม่มาเลยหลังจากที่อีกฝ่ายวางสายโทรศัพท์ ใบหน้าของเย่เฟิงก็มืดมน และมีความหนาวเย
น้ำเสียงของเย่เฟิงเต็มไปด้วยความเย็นชาเวลานี้ เจาอยู่ตรงหน้าลิฟต์แล้วก้าวเท้าเข้าไปซ่งหย่งไท่ยืนอยู่กับที่อยู่นานกว่าจะรู้สึกตัวหลังจากที่อารมณ์ของเขาเปลี่ยนไปมาหลายครั้งแล้ว เขาก็วิ่งกลับไปในห้องส่วนตัว“อาไท่ เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”นายท่านซ่งถามหลานชายซ่งหย่งไท่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็เล่าทุกอย่างออกไปหลังจากฟังจบ สีหน้าของผู้คนที่อยู่ที่นั่นก็เปลี่ยนไป ต่างเผยให้เห็นถึงความกังวลใจและร้อนใจออกมา“ไม่ว่ายังไง ทำตามสิ่งที่คุณเย่บอกเถอะ! เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับลูกสาวของเขา เราอย่าทำอะไรบุ่มบ่ามเด็ดขาด”นายท่านซ่งนิ่งคิดอยู่นานกว่าจะตอบออกมา…อีกฝั่งหนึ่ง!ในอาคารแพทย์ทหาร เขตรักษาความปลอดภัยหยุนเฉิง!มู่จ่งเจิ้นมองดูผลตรวจที่เพิ่งออกมา แล้วถามแพทย์ทหารข้างๆ ว่า “ยานี่มีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ?”แพทย์ทหารคนนี้ส่ายหัว แล้วพูดอย่างชมเชยว่า “ไม่มีปัญหาครับ!”“หมอเหวย ไม่มีส่วนประกอบอันตรายเลยเหรอครับ? ผลลัพธ์ดีขนาดนั้นจะต้องเติมสารต้องห้ามอะไรบางอย่างเข้าไปด้วยแน่ๆ ใช่ไหมครับ?”มู่ซินเฟยเองก็ถามขึ้นข้างๆเพราะความรู้สึกไม่พอใจกับคนบางคน ดังนั้นลูกสาวผู้บัญชาการคนนี้จึ
"ทำไมจะไม่ได้ล่ะ?"แพทย์ทหารเหวยสีหน้าเคร่งขรึมแล้วพูดอย่างจริงจังว่า "ไม่พูดถึงครีมลดรอยและผลิตภัณฑ์ปิดผมขาวของตระกูลหลีนั่นแล้ว แต่ยาธาตุทองตระกูลหลีและ “ยาแคปซูลแสงแห่งชีวิต” ยารักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดพิเศษ ตั้งราคาที่ประชาชนจับต้องได้...ยาที่มีผลอัศจรรย์และราคาที่เอื้อมถึงได้ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะยังคงขายดีต่อไปเท่าที่ทราบผม ราคาที่หงเม่าหมิง ซื้อจากบริษัทยาตระกูลหลี "ยาแคปซูลแสงแห่งชีวิต" ซึ่งเป็นยารักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดพิเศษ อยู่ที่กล่องละ 300 เท่านั้น ซึ่งแทบไม่ได้กำไรเลย!ส่วนยาธาตุทองตระกูลหลีนั้นราคาก็ถูกเช่นกันดูเหมือนขวดละร้อยเท่านั้นพูดตามตรง ฉันไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับบริษัทยาที่มีจิตสำนึกเช่นนี้มาก่อนเลยยาแบบนี้หากไม่ขายดี ก็อธิบายอะไรไม่ได้แล้วล่ะ!”เพิ่งสิ้นเสียง ความตกใจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของมู่จ้านและมู่ซินเฟย จากนั้นความอับอายก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของพวกเขาอะไรนะ?ราคาหน้าโรงงาน “ยาแคปซูลแสงแห่งชีวิต” นั้นเพียง 300 เท่านั้น!นี่...ถูกเกินไปหรือเปล่า?ยาที่ออกโดยเย่เฟิงมีไว้เพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวหลายล้านคนเชียวนะแล
“กันหยุน มึงหยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ!”เวลานี้ เห็นเพียงเจี่ยงเจิ้งยืนอยู่ข้างเตียงในโรงพยาบาล ตะโกนขึ้นด้วยสีหน้าเศร้าและเป็นกังวล"แม่ง... คิดไม่ได้ถึงว่านายน้อยอย่างฉัน... จะตายที่นี่แล้ว!"ลั่วกันหยุนพูดอย่างอ่อนแรง ริมฝีปากของเขาซีดจนแทบไม่มีสีเลือดบาดแผลทั้งสองที่ต้นขาและไหล่ของเขามีเลือดไหลออกมา สายห้ามเลือด ยา และผ้ากอซหนาก็ไม่สามารถหยุดมันได้ในขณะนี้เอง โทรศัพท์มือถือของเจี่ยงเจิ้งดังขึ้น เขาหยิบมันขึ้นมาแล้วพูดอย่างเร่งรีบ "เหล่าจาง มีเรื่องอะไร?"“วันนี้ฉันเจอเย่เฟิงแล้ว! ฉันเลยต้องโทรมาบอกพวกแก ถ้าเจอคนนี้ในอนาคต ก็อย่ายุ่งกับเขาเลย”จางเฉิงเฟิงพูดด้วยน้ำเสียงแหบ“ฉันรู้แล้ว! ไม่คุยกับแกแล้วนะ! กันหยุนไม่ไหวแล้ว”เจี่ยงเจิ้งกล่าวอย่างเร่งรีบ“เกิดอะไรขึ้น?” จางเฉิงเฟิงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในเวลานี้ มู่ซินเฟยที่ตามพ่อของเขาเข้ามา จู่ๆ ก็นึกถึงอะไรบางอย่าง "พ่อคะ ยา! ยาของเย่เฟิง! ลองยาของเย่เฟิงดูสิคะ!"หลังจากที่ลูกสาวตักเตือน มู่จ้านก็เกิดแรงกล้า รีบหยิบขวด "ยาธาตุทองตระกูลหลี" ออกจากร่างกายหลังจากการทดลองและการทดสอบต่างๆ ของเขาเอง เหลือยาเพียงครึ่งขวด แต่ตอนนี้
หลังจากที่เย่เฟิงออกจากเชียนเว่ยเซวียน ก็ไม่ได้ขับรถ แต่ออกวิ่งด้วยสองขาอย่างดุเดือดคฤหาสน์หู่เสี้ยวเป็นวิลล่าส่วนตัวขนาดใหญ่ของเว่ยเหล่าหู่ ตั้งอยู่ในเขตชานเมืองด้านตะวันออกของหยุนเฉิง แต่จะต้องผ่านเขตเมืองของหยุนเฉิงก่อนด้วยความแข็งแกร่งของเย่เฟิงในปัจจุบัน การขับรถในเมืองจึงไม่เร็วเท่ากับการวิ่งด้วยสองขาเกิดเรื่องขึ้นกับนั่วนั่ว และเขาต้องไปถึงที่นั่นโดยเร็วที่สุด!ร่างกายที่แข็งแกร่งทำให้เย่เฟิงวิ่งราวกับรถสปอร์ตที่เร่งความเร็วและได้ยินเสียงลมหวีดหวิวในหูอย่างไรก็ตาม สิ่งที่เย่เฟิงไม่รู้ก็คือนั่วนั่วยังไม่ตกไปอยู่ในมือของเว่ยเหล่าหู่บนถนนอันเงียบสงบนั้น!ในรถ Toyota Prado "หมาดำ" ลูกน้องของเว่ยเหล่าหู่เพิ่งวางสายไปก็สัมผัสได้ถึงแรงกระแทกอย่างแรง!ทันใดนั้นโลกก็หมุน!หลังจากที่ Range Rover หมุนไปสองสามรอบและหยุด หลีย่วนทั้งสามก็เปิดประตูและลงจากรถ และเดินอย่างรวดเร็วไปหาโจวชิ้งและนั่วนั่วลูกน้องในรถคันอื่นๆ หลายคันล้อมรถ Toyota ที่พลิกคว่ำและดึงสุนัขสีดำสองตัวออกจากรถอย่างรุนแรง“ฮือๆ ฮือๆ...”นั่วนั่วซึ่งถูกโจวชิ้งงปิดปากไว้ก็ตกใจเมื่อเห็นรถชนกันแต่วินาทีต่อมาเม
เมื่อมองไป ที่นี่ราวกับเป็นพระราชวังอย่างไรอย่างนั้นที่นี่คือที่อยู่ของเว่ยเหล่าหู่ คฤหาสน์หู่เสี้ยว!เย่เฟิงมาถึงที่นี่ภายในเวลาไม่ถึงยี่สิบนาที หลังจากที่ลูกน้องของเว่ยเหล่าหู่ยืนยันแล้วว่าเขามาคนเดียว ก็พาเย่เฟิงเข้าไปข้างในราวกับคุมผู้ต้องขัง!ในลานกว้างที่จัดไว้เป็นอย่างดี เว่ยเหล่าหู่นั่งอยู่บนแท่น โดยมีเว่ยเสี่ยวตง และฆาตกรเลือดเย็นอยู่ข้างหลัง รวมทั้งนักสู้มือทองอีกไม่กี่คนส่วนที่อยู่ข้างล่างแท่นสูงทั้งสองฝั่ง มีลูกน้องชุดดำทั้งตัวยืนเป็นแถวสองแถว แต่ละคนออร่าดุดัน น่าเกรงขามมาก!เมื่อเห็นเย่เฟิงที่ถูกลูกน้องนำตัวเข้ามาแล้ว เว่ยเหล่าหู่ก็เผยรอยยิ้มเยือกเย็นออกมา“แกน่ะ กล้ามาคนเดียวจริงๆ นะ!”เย่เฟิงยืนอยู่ข้างล่าง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ทำไมถึงต้องไม่กล้าด้วย?”พูดจบ เขาก็กวาดตามองรอบๆ แล้วถามเสียงขรึมว่า “ลูกสาวฉันอยู่ไหน?”“คุกเข่าก้มกราบขอโทษฉัน แล้วตัดเอ็นมือเอ็นเท้าตัวเองซะ แล้วฉันจะให้แกเจอหน้าลูกสาว!”เว่ยเสี่ยวตงตะคอกเสียงโหด เต็มไปด้วยความรู้สึกโกรธแค้นและเกลียดชังสิ้นเสียง ลูกน้องคนหนึ่งที่พาเย่เฟิงเข้ามาก็หยิบกรรไกรเล่มหนึ่งโยนให้กับเย่เฟิง“เป
เมื่อเห็นเว่ยเหล่าหู่กดโทรศัพท์ นัยน์ตาของเย่เฟิงก็ฉายแววกังวล แล้วจ้องที่อีกฝ่ายเขม็งเรื่องที่เกี่ยวกับนั่วนั่ว เย่เฟิงไม่สามารถใจเย็นได้เลย“เฮยโก่ว แกเป็นอะไรไป? ทำไมยังไม่กลับมาสักที?”เว่ยเหล่าหู่ถามด้วยน้ำเสียงตำหนิติโทษแต่พอสิ้นเสียง เสียงที่ตอบมาจากปลายสายกลับไม่ใช่เสียงของเฮยโก่ว“เว่ยเหล่าหู่?”อีกฝ่ายถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา“หืม? แกเป็นใคร?”สีหน้าของเว่ยเหล่าหู่เปลี่ยนไป“ฉันหลีหย่วนพ่อแกไง! ไอ้คนแซ่เว่ย แต่ก่อนฉันนับถือแกเป็นรุ่นพี่ เรียกแกว่านายท่านเว่ย แต่วันนี้แกกลับกล้ามายุ่งกับพี่เขยฉัน มายุ่งกับหลานสาวของฉัน!”หลีหย่วนขบฟันกล่าว“แล้วยังไง?”เว่ยเหล่าหู่หัวเราะแห้งแล้วถาม“พี่เขยฉันอยู่กับแกใช่ไหม?”หลีหย่วนถามด้วยน้ำเสียงเจือเป็นห่วงเล็กน้อยหลังจากที่ช่วยนั่วนั่วไว้ได้แล้ว เขาก็คิดอยากติดต่อหาเย่เฟิงแล้ว แต่กลับโทรหาอีกฝ่ายไม่ได้เลยสิ่งที่เขาไม่รู้คือ เพราะเย่เฟิงรีบร้อนมาที่นี่มากเกินไป โทรศัพท์ตกหล่นกลางทาง ก็ยังไม่รู้ตัว“ใช่!” เว่ยเหล่าหู่ตอบเย็นชา“ปล่อยตัวพี่เขยฉันซะ ไม่งั้นฉันจะฆ่าเฮยโก่วซะ!”หลีหย่วนพูดแบล็กเมล์“แกคิดมากเกินไปแล้ว! วัน
กลุ่มคนชุดดำทั้งสองแถวนั่นหยิบขวานออกมาจากตัว แล้วมุ่งเป้าไปที่เย่เฟิงด้วยรังสีสังหารขณะเดียวกัน ก็มีคนของเว่ยเหล่าหู่พุ่งออกมาจากรอบๆ ทั้งสี่ด้านของคฤหาสน์แต่ละคนถืออาวุธไว้ในมือ เต็มไปด้วยกลิ่นอายเหี้ยมโหด!เมื่อมองไป ก็เห็นแต่หัวคน อย่างต่ำประมาณสามสี่ร้อยคนพวกเขาล้อมเย่เฟิงเอาไว้ราวกับกระแสน้ำดำไม่เพียงเท่านั้น นักสู้มือทองที่อยู่ข้างหลังเว่ยเหล่าหู่อีกหลายคน ก็ตามลงมาด้วยพวกเขาแผ่ซ่านรังสีสังหารอันโหดเหี้ยมออกมาเสมอ ถึงแม้ฝีมือจะสู้เฮยจินกังไม่ได้ แต่ก็เป็นยอดฝีมือระดับพลังแสงสว่างเหมือนกัน“ไอ้หนุ่ม ถึงแกจะฆ่าเฮยจินกังได้ แต่ว่ายุงเยอะก็สามารถล้มช้างได้ วันนี้นายถูกกำหนดไม่ให้รอดออกไปแล้วว่ะ!”เว่ยเหล่าหู่กล่าวยิ้มเยาะ“ไอ้หมา กูจะฆ่ามึง!”“ไปตายซะ! ฮ่าๆ…”เว่ยเสี่ยวตงหัวเราะลั่นออกมาอย่างปล่อยตัว“นี่แหละความสามารถของเว่ยเหล่าหู่ คนพวกนี้ยังเป็นแค่ส่วนหนึ่งของคฤหาสน์หู่เสี้ยวเท่านั้น ฉันใช้ชีวิตอยู่ในหยุนเฉิงมาหลายสิบปีแล้ว ไอ้เด็กไม่อย่าน้ำนมอย่างแกยังกล้ามาท้าทายอำนาจฉันงั้นเหรอ?”“ฉันเว่ยเหล่าหู่มีกำลังคนเยอะ เงินเยอะ มีดเยอะ ฆ่าแกน่ะ ก็เหมือนฆ่ามดเท่านั้นแห
หลังได้รับคำสั่งจากฉู่เทียนหลง ฉู่เซียวพูดกับเย่เฟิงด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เย่เฟิง อย่าเอาครอบครัวมาเกี่ยว! เราจะปล่อยลูกสาวของนาย แล้วนายก็ปล่อยตัวเซียงเซียงกลับมา ตกลงไหม?”เย่เฟิงยิ้มเยาะ “นายก็รู้นี่ว่าครอบครัวไม่ควรมาเกี่ยวข้อง! ดี งั้นก็แลกตัวประกันกัน พวกนายปล่อยลูกสาวของฉันก่อน!”“นายปล่อยคุณชายเซียงก่อน!”ฉู่เซียวขมวดคิ้วพูด“ฉันบอกแล้ว ปล่อยลูกสาวของฉันก่อน!”เย่เฟิงพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นขณะที่การสนทนาเต็มไปด้วยความตึงเครียด เด็กชายเซียงเซียงที่อยู่ในมือของเย่เฟิงเริ่มร้องไห้โวยวายด้วยความกลัวในขณะที่นั่วนั่วกลับเงียบสนิท ไม่พูดอะไรแต่ในแววตาของนั่วนั่วที่มองพ่อ มีประกายแห่งความหวังปรากฏขึ้นในความหวาดกลัวแม้นั่วนั่วจะอายุเพียงห้าขวบ แต่ด้วยประสบการณ์จากความเจ็บป่วยและการแยกทางของพ่อแม่ เธอเรียนรู้ที่จะเข้าใจโลกมากกว่าเด็กทั่วไปเธอรู้ดีว่าต้องเข้มแข็งในเวลานี้“ปล่อยเด็กคนนั้นซะ!”ฉู่เทียนหลงกัดฟันพูดผ่านโทรศัพท์ด้วยความไม่พอใจ“แต่ถ้าปล่อยลูกสาวเขาก่อน แล้วเย่เฟิงยังจับเซียงเซียงเป็นตัวประกัน เราจะไม่สามารถแตะต้องเขาได้”ฉู่เซียวลังเล“ฉันบอกให้ปล่อย ก็ปล่อย
“หืม? ฉันบอกให้แกตัดเอ็นขาตัวเองก่อน แกได้ยินไหม?”“หรือว่าแกอยากให้ลูกสาวแกตาย?”ฉู่เซียวพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา สายตาเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยมเย่เฟิงแค่นเสียง ก่อนจะยกเด็กชายที่เขาถืออยู่ขึ้นมา และเผยให้ทุกคนเห็นใบหน้าของเด็กคนนั้นทันใดนั้น รอยยิ้มเย้ยหยันของฉู่เซียวก็แข็งค้างไป ใบหน้าเปลี่ยนเป็นเต็มไปด้วยความตกใจและความสงสัย“นี่มัน…นี่มัน…”เขาจ้องเด็กชายคนนั้นด้วยสายตาไม่แน่ใจ“ไม่รู้จักเหรอ?”เย่เฟิงถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา ก่อนจะยกเด็กชายขึ้นเหนือศีรษะ พร้อมกับหันไปทางกล้องวงจรปิด “นายไม่รู้จัก คุณชายของนายที่อยู่เบื้องหลังก็ไม่รู้จักเหรอ? ฮึ?”จากคำว่า “คุณชาย” ที่ฉู่เซียวพูดก่อนหน้านี้ ทำให้เย่เฟิงมั่นใจว่าเขาคาดเดาไม่ผิด แม้จะไม่มีการเอ่ยชื่อฉู่เทียนหลงออกมาตรงๆในอีกด้านหนึ่ง ฉู่เทียนหลงที่กำลังจ้องหน้าจออยู่ เมื่อเห็นใบหน้าของเด็กชายคนนั้น ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีซีดทันที“เซียงเซียง!”“เย่เฟิง! ไอ้เวรเอ๊ย!”“แกกล้าจับตัวเซียงเซียงเหรอ!”ฉู่เทียนหลงตะโกนด่าด้วยความโกรธจัด และเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกเย่เฟิงจ้องมองกล้องด้วยสายตาเยือกเย็น “ฉู่เทียนหลง ฉันรู้อยู่แ
ในขณะเดียวกัน ฉู่เทียนหลงและทนายลวีกำลังนั่งอยู่ในบ้านพัก มองภาพในหน้าจอโน้ตบุ๊กด้วยรอยยิ้มเหี้ยมเกรียมในภาพ หลีเอียนถูกมัดติดกับเตียงจนแทบขยับตัวไม่ได้ใบหน้าอันงดงามเต็มไปด้วยความโกรธและความเกลียดชัง“ฉู่เทียนหลง ไอ้สารเลว! นายต้องการอะไร? ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!”“ฉันรับรองว่าถ้านายกล้าแตะต้องฉันแค่ปลายเส้นผม เย่เฟิงจะกลับมาฆ่านายแน่!”หลีเอียนตวาดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเมื่อได้ยิน ฉู่เทียนหลงหัวเราะในลำคอ ส่วนทนายลวีก็ยิ้มเยาะจากนั้น ฉู่เทียนหลงก็เดินถือโน้ตบุ๊กมาวางไว้ข้างหัวของหลีเอียน“ยังคิดหวังพึ่งไอ้หน้าขาวนั่นอีกเหรอ? มาสิ ดูให้เต็มตา ฮ่าๆๆ…”“ดูมันสิ ไอ้หน้าขาวนั่นหมดทางสู้ขนาดไหน!”พูดจบ เขากระชากผมหลีเอียนอย่างแรง พร้อมกับแค่นเสียง “นังแพศยา ไอ้หน้าขาวนั่นจบเห่แล้ว! ลูกสาวของมันอยู่ในมือฉัน ฉันอยากให้มันตายยังไง มันก็ต้องตายแบบนั้น!”เมื่อหลีเอียนเห็นภาพในหน้าจอ เธอถึงกับตัวสั่นและเต็มไปด้วยความสิ้นหวังเพื่อสนองความบ้าคลั่งของฉู่เทียนหลง โรงงานเคมีร้างนั้นติดตั้งกล้องความละเอียดสูงพร้อมระบบส่งเสียง ทำให้หลีเอียนเห็นทุกอย่างได้ชัดเจนเธอเห็นนั่วนั่วถูกฉู่เซียวจับตัว
เมื่อประตูห้องเปิดออก เสียงกรีดร้องของผู้หญิงดังขึ้นทันทีในห้องนั้น มีผู้หญิงที่เป็นเมียน้อยของฉู่อันเจียงกำลังโอบลูกชายวัยสี่ถึงห้าขวบไว้ ทั้งคู่มองชายแปลกหน้าที่พุ่งเข้ามาด้วยความหวาดกลัว“กะ...แกจะทำอะไร?”เธอถามด้วยเสียงสั่นเครือเย่เฟิงแค่นเสียงเย็นชา ก่อนจะพุ่งเข้าหาโดยไม่พูดพร่ำ เขาใช้มือฟันไปที่ต้นคอของผู้หญิงคนนั้นเธอพลันหมดสติทันทีเด็กชายตัวน้อยมองเย่เฟิงด้วยดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เตรียมจะร้องไห้แต่เย่เฟิงใช้มือกดเบาๆ ที่ท้ายทอย เด็กน้อยก็หมดสติไปเช่นกัน“อย่าโทษฉัน โทษพี่ชายของนายเถอะ!”เย่เฟิงพูดด้วยเสียงเย็นยะเยือกหลังจากนั้น เขาค้นหาในห้องจนเจอกุญแจรถหลังอุ้มเด็กชายออกมา เย่เฟิงขึ้นรถเบนซ์สีแดงที่จอดอยู่หน้าบ้าน และขับออกไปเย่เฟิงขับด้วยความเร็วสูงสุดจากเมืองหลวงของมณฑลเจียง สู่หยุนเฉิง ระยะทางกว่า 300 กิโลเมตร แต่เย่เฟิงใช้เวลาไม่ถึงสองชั่วโมงในการเดินทางกลับเวลา 02.00 น. ย่านชานเมืองทางใต้ของหยุนเฉิงเย่เฟิงมาถึงโรงงานเคมีร้างตามที่อีกฝ่ายระบุไว้“ฉันมาถึงแล้ว!”หลังลงจากรถ เย่เฟิงยกตัวเด็กชายขึ้น แล้วโทรศัพท์บอก“ฉันเห็นแล้ว!”“แต่ฉันบอ
เมื่อได้ยินคำถามของเย่เฟิง จางเฉิงเฟิงคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนตอบ “เรื่องนี้ฉันรู้มาบ้าง! ได้ยินว่าพ่อของฉู่เทียนหลงคือฉู่อันเจียง มีเมียน้อยอยู่ข้างนอก แถมยังมีลูกนอกสมรสอีกคน!ไม่รู้ทำไม ฉู่เทียนหลงถึงได้รักและปกป้องน้องชายต่างแม่คนนี้เหมือนกับลูกชายแท้ๆ ของตัวเองเคยมีครั้งหนึ่ง ทายาทตระกูลใหญ่ในสี่ตระกูล ล้อเลียนน้องชายของเขาเรื่องนี้ แล้วก็ถูกฉู่เทียนหลงหักขา เรื่องนั้นเคยเป็นข่าวใหญ่ทีเดียวว่ากันว่าครอบครัวฉู่ต้องจ่ายเงินไม่น้อยเพื่อปิดเรื่องนี้แต่ก็นั่นแหละ ฉู่เทียนหลงปกป้องน้องชายคนนี้ขนาดไหนก็ดูจากตรงนี้ได้เลย”ในตระกูลใหญ่ การแก่งแย่งชิงดีกันเป็นเรื่องปกติ แม้แต่พี่น้องแท้ๆ ก็อาจไม่ลงรอยกันแต่หลายคนก็ไม่เข้าใจว่าทำไมฉู่เทียนหลงถึงแคร์น้องชายต่างแม่คนนี้มากนักนอกจากคนใกล้ชิดในตระกูลที่รู้ปัญหาสุขภาพส่วนตัวของเขาฉู่เทียนหลงอายุ 28 ปี ในตระกูลใหญ่มักให้ความสำคัญกับการสืบสกุล อายุเท่านี้ส่วนใหญ่จะแต่งงานและมีลูกกันแล้วแต่เพราะปัญหาสุขภาพ เขาไม่สามารถมีลูกได้และอาจไม่มีทายาทตลอดชีวิต!เรื่องนี้เป็นปมที่ฉู่เทียนหลงไม่เคยก้าวข้ามไปได้เมียน้อยของฉู่อันเจียงอายุไม่ห่าง
“แกเป็นใคร?”เย่เฟิงถามด้วยน้ำเสียงตกใจ“ไม่จำเป็นต้องรู้หรอกว่าฉันเป็นใคร! รู้แค่ว่าลูกสาวของแกอยู่ในมือฉัน ถ้าไม่อยากให้เธอตาย ก็บอกมาว่าแกอยู่ที่ไหน?”เสียงอีกฝ่ายหัวเราะเย็นชาก่อนพูดต่อด้วยน้ำเสียงกร้าว “ไอ้ลูกหมา พูดอะไรกับพ่อแกหน่อยสิ!”แต่เมื่อสิ้นเสียง ฝั่งปลายสายกลับเงียบสนิทขณะที่เย่เฟิงรู้สึกสับสน เสียงตะคอกด้วยความโกรธของอีกฝ่ายก็ดังขึ้น “ไอ้เด็กบ้า ทำไมไม่พูดวะ?”ทันใดนั้น เย่เฟิงได้ยินเสียง “อืมอืม” เบาๆเสียงที่ฟังออกว่าเป็นนั่วนั่วที่พยายามกลั้นความเจ็บปวดเอาไว้ ไม่ยอมเปล่งเสียงใดๆ ออกมาในชั่วพริบตา ดวงตาของเย่เฟิงแดงก่ำ หัวใจเหมือนถูกบีบรัดจนเจ็บปวดนั่วนั่วแม้จะยังเด็ก แต่เธอเข้าใจทุกอย่างในสถานการณ์นี้ เธอรู้ว่าคนร้ายต้องการใช้เธอเล่นงานพ่อของเธอ นั่วนั่วจึงพยายามกลั้นเสียงไว้เพื่อไม่ให้พ่อถูกทำร้ายเย่เฟิงตะโกนใส่โทรศัพท์ด้วยความร้อนรน “ไอ้สารเลว หยุดเดี๋ยวนี้! อย่าทำอะไรลูกของฉัน ถ้านายไม่ทำร้ายเธอ ฉันยอมทุกอย่าง!”หลี่ชื่อที่อยู่กับนั่วนั่ว ทำไมถึงปล่อยให้เธอตกอยู่ในมือของคนร้าย?หรือว่าฝีมือของอีกฝ่ายจะแข็งแกร่งเกินไป จนแม้แต่หลี่ชื่อก็ปกป้องนั่วน
การต่อสู้ของผู้เชี่ยวชาญดำเนินไปอย่างรวดเร็ว!ผ่านไปเพียงครึ่งนาที…หลี่ชื่อที่ถูกโจมตีอย่างหนักนอนราบอยู่บนพื้น ปากพ่นเลือดออกมามากมาย มองฉู่สยงด้วยดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธและไม่ยินยอม“ไม่น่าเชื่อเลย หลังจากลงจากเขาแล้ว พี่หลี่จะพัฒนาฝีมือขึ้นได้อีก แต่ก็ยังไม่พออยู่ดี!”“พี่กับเย่เฟิงเกี่ยวข้องอะไรกัน ทำไมถึงต้องช่วยเขาด้วย? จึๆ…”ฉู่สยงก้มมองหลี่ชื่อที่บาดเจ็บสาหัสด้วยสายตาเย้ยหยันเขาไม่คิดว่าหลี่ชื่อซึ่งติดอยู่ที่ระดับพลังมืดทมิฬขั้นปลายมาหลายปี จะสามารถก้าวข้ามไปถึงระดับพลังแปรสภาพขั้นต้นได้ในตอนนี้แต่เมื่อเทียบกับเขาที่อยู่ระดับพลังแปรสภาพขั้นสูงสุดและใกล้จะเป็นจอมยุทธ์เต็มตัวแล้ว ฝีมือของหลี่ชื่อก็ยังห่างชั้นกันอยู่มาก“ไอ้สารเลว!”“ตราบใดที่ฉันยัง…มีลมหายใจ ฉันจะไม่…ยอมให้นายเข้าไปเด็ดขาด!”หลี่ชื่อกัดฟันกรอด พยายามลุกขึ้นยืนอีกครั้งด้วยความยากลำบาก เขายืนขวางหน้าฉู่สยงและฉู่เซียว“ถ้าเขาอยากตายนัก ก็จัดให้เขาสิ!”ฉู่เซียวพูดอย่างเย็นชา“ได้!”ฉู่สยงตาเป็นประกายเยือกเย็น เต็มไปด้วยความอำมหิตหลี่ชื่อคำรามเสียงดังแล้วพุ่งเข้าใส่ฉู่สยง แต่ฉู่สยงตะโกนกลับอย่างดุดั
“ซีเหยียน พรุ่งนี้ฉันมีธุระ วันนี้แค่นี้ก่อนนะ”คำพูดของอีกฝ่ายทำให้หลีเอียนรู้สึกว่า พูดอะไรก็ไม่เข้ากันอีกต่อไปพูดจบ หลีเอียนก็หยิบกระเป๋าของตัวเองขึ้นมา เตรียมจะลุกออกจากที่นั่นแต่ทันทีที่เธอลุกขึ้น ร่างกายกลับเซเล็กน้อย ความรู้สึกวิงเวียนพุ่งเข้ามาอย่างฉับพลันจนเกือบล้มลงไปเธอหันมองเพื่อนสนิทด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยเห็นสวี่ซีเหยียนมีรอยยิ้มบางๆ ที่แฝงไปด้วยความร้ายกาจ “เอียนเอียน อย่าเพิ่งรีบไปสิ ใจร้อนจริง…”“เธอ…ทำอะไรลงไป?”หัวใจหลีเอียนเต้นแรง รู้สึกถึงลางร้ายที่ใกล้เข้ามาทันใดนั้น เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออกโดยไม่คิด แต่สิ่งที่ได้รับกลับเป็นข้อความว่าโทรศัพท์ปลายทางปิดเครื่องในขณะเดียวกัน เย่เฟิงกำลังอยู่บนเครื่องบิน“เอียนเอ๋อร์ เธอโทรหาใครเหรอ? อย่าบอกนะว่าโทรหาไอ้เย่เฟิงนั่น?ตอนนี้มันน่าจะตายไปแล้ว ฮ่าๆๆ…”ในจังหวะนั้นเอง กลุ่มคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาในกระท่อมไม้เล็กๆก่อนที่หลีเอียนจะหมดสติไป เธอเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหยิ่งยโสและแกเล่ห์ของ ฉู่เทียนหลง…อีกด้านหนึ่งหลี่ชื่อ และแม่หลิวกำลังนั่งดูการ์ตูนกับนั่วนั่วตามคำอ้อนวอนของเด็กหญิงต
เมื่อได้ยินสิ่งที่คุณปู่เล่า หลิงเอ๋อร์ก็เบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ “เย่เฟิงคนนั้นเก่งขนาดนั้นเลยเหรอ?”เป่ยเหล่าพยักหน้า พร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงลึกซึ้ง “ถ้าเขาเลือกพัฒนาตัวเองในกองทัพล่ะก็ เขาอาจจะกลายเป็น เทพสงครามฉิงชางคนต่อไปเลยก็ได้!”พูดจบ สีหน้าของเป่ยเหล่าก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม เขากล่าวหนักแน่น “เทียนหลง ห้ามเป็นศัตรูกับเย่เฟิงเด็ดขาด!”ในตอนนั้นเอง โทรศัพท์ของเป่ยเหล่าก็ดังขึ้นราวกับคำกล่าวที่ว่าพูดถึงเสือ เสือก็มาเพราะสายนี้เป็นของ ฉู่เทียนหลง!“เทียนหลง แกมาถึงหยุนเฉิงแล้วเหรอ?”เป่ยเหล่าถามฉู่เทียนหลงหยุดคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนตอบ “ยังครับ ผมจะไปพรุ่งนี้!”เขามีบางอย่างที่ต้องจัดการให้เสร็จ และยังไม่อยากให้เป่ยเหล่ารู้กล่าวจบ เขาก็ถาม “ปู่ คนที่ปู่บอกว่าจะรักษาผมได้ พรุ่งนี้เขาจะเริ่มรักษาเลยเหรอครับ?”เป่ยเหล่าตอบ “ฉันจะโทรไปถามเขาดูก่อน ต้องดูว่าเขาสะดวกไหม! เทียนหลง ฉันต้องเตือนแกไว้ก่อนนะ ไม่ว่าแกจะเคยมีเรื่องบาดหมางอะไรกับเขา ต้องวางมันลงให้หมด เข้าใจไหม?”ฉู่เทียนหลงหัวเราะเบาๆ “ผมเข้าใจครับปู่ ถ้าเขารักษาผมหายได้ เขาก็เป็นผู้มีพระคุณของผม จะให้มีปัญหาอ