แชร์

บทที่ 989

ผู้เขียน: โมเนโต้
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
ปัง!

แรงที่แสนพลังปะทุขึ้น และคลื่นพลังงานที่แสนน่ากลัวก็พุ่งออกมาจากหมัด เป็นผลมาจากคลื่นกระแทก

"อะไรกัน!"

ชายชราสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งอันน่าสะพรึงกลัวในกำปั้นของเฟนด์ ความสยดสยองเต็มตาของเขา

“อัก!”

เขากระเด็นไปข้างหลังสองสามเมตรก่อนจะหยุดลง เขาเลือดกลบปาก

"พ่อ!"

ลูอิซาร้องออกมา เมื่อเห็นพ่อของเธอได้รับบาดเจ็บ เธอไม่อยากจะเชื่อกับภาพที่เห็นตรงหน้า

พ่อของเธอแข็งแกร่งเท่ากับราชาสงครามเก้าดารา แทบทุกคนในเมืองจินกำลังแหวกทางให้เขา แต่เขากลับถูกไอ้นักเลงที่ทำร้ายโดยการต่อยแค่ครั้งเดียว

“ฉันจะลืมทุกอย่างที่เกิดขึ้นถ้าพวกแกออกไปตอนนี้ ถ้าไม่ แล้วยังรนหาที่ตายอีกล่ะก็ อย่าโทษที่ฉันโหดร้ายแล้วกัน!”

เฟนด์นำมือไพล่หลังไว้ ก่อนจะพูดอย่างนุ่มนวล

“เราจะทำไงดีล่ะ? ไอ้นักเลงนี่…”

หญิงชราก้าวไปข้างหน้าทันที ก่อนจะถามชายชรา

"ผมไม่เป็นไร แขนเขาก็แค่แข็งแกร่งเท่านั้นแหละ!”

ชายชราจ้องไปที่เฟนด์ ก่อนจะเช็ดเลือดจากมุมปากของเขา “ฆ่าพวกมันคงไม่ยากเท่าไหร่ ถ้าดูจากจำนวนคนของเราแล้ว” เขาพูด “ไอ้สารเลวนี่แค่อยากจะขู่เราแค่นั้น!”

หญิงชราพยักหน้า "ฉันก็ว่างั้นเหมือนกัน แถมยังให้โอก
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 990

    วอลเตอร์ตื่นเต้นมาก เมื่อชื่อนั้นเข้ามาในหัวของเขา เฟนด์ นักรบสูงสุด! ไม่มีใครเคยเห็นหน้าเขามาก่อน ไม่รู้จักแม้แต่ชื่อด้วย แต่เขากลับมีโอกาสได้เจอนักรบสูงสุด เพื่อเป็นสักขีพยานในการต่อสู้ของเขา และสู้ไปกับเขา เขาไม่คิดไม่ฝันเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อนเลย แต่ตอนนี้เขาได้อยู่ใกล้ ๆ นักรบสูงสุด ถ้าเฟนด์เป็นนักรบสูงสุดจริง ๆ เขาคงฆ่าคนที่อยู่ตรงหน้าเขาทั้งหมดอย่างง่ายดาย นอกจากนี้แล้ว เขาไม่จำเป็นต้องออกแรงทั้งหมดเลยด้วยซ้ำ มันก็ง่าย ๆ เหมือนการหายใจสำหรับเขา ทว่า เขารู้มาว่านักรบสูงสุดคือคนที่ชอบทำตัวต่ำต้อย ดูเหมือนว่านั่นจะเป็นสาเหตุที่เขาปกปิดตัวตนของเขามาตั้งแต่แรก ไม่เคยมีใครรู้ชื่อของเขา ถึงแม้ว่าเขาจะมีส่วนในช่วยเหลือประเทศมาตลอดก็ตาม “วอลเตอร์ ทำไมเหม่อแบบนั้นล่ะ?” สกายเลอร์สังเกตเห็นว่าวอลเตอร์กำลังมองไปที่เฟน ดวงตาของเขาเผยให้เห็นความตื่นเต้น เขาเลยดุชายหนุ่ม "โอ้ ผมขอโทษ!" วอลเตอร์กลับมาตั้งใจ ก่อนจะพลิกฝ่ามือของเขา แล้วชักดาบของเขาออกมา “ไปหาหัวหน้ามันก่อนเลย!” ชายชราจู่โจมเฟนด์ก่อน เขาฟันดาบออกไป แน่นอน เขามีเทคนิคที่ดี รังสีดาบของเขาแทบจะเป็นของแข็ง ทำให้รู้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 991

    คู่รักชราหวาดกลัวมากกว่าเดิมเมื่อเห็นคนของพวกเขาตายลงทีละคน รอบ ๆ พวกเขา ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจแล้วว่าเฟนด์ให้โอกาสพวกเขาได้ใช้ชีวิตแล้วจริง ๆ อย่างไรก็ตาม มันก็สายเกินไปแล้วที่จะเสียใจ "ตายซะ!" ในชั่วพริบตาเท่านั้น เฟนด์ก็ปรากฏตัวขึ้นระหว่างคู่รักชรา เขาวาดดาบเป็นวงกลม ก่อให้เกิดคลื่นดาบแสนน่าหวาดกลัว มันเป็นประกายแวววาว คู่รักชรา และนักสู้กว่าสิบคนของตระกูลโลวถูกรัศมีการโจมตีถล่มเข้าอย่างจัง ปัง ปัง ปัง! ทั้งหมดกระเด็นไปด้านหลัง ก่อนจะตกลงบนพื้นอย่างแรง ไม่มีใครหายใจอีกต่อไป "พ่อ! แม่!" ลูอิซาตะโกนออกมาทันทีที่เห็นพ่อแม่ของเธอถูกสังหารอย่างง่ายดาย ตอนนี้เธอรู้แล้วว่ามันเป็นการตัดสินใจที่โง่มากที่พาพ่อแม่ของเธอมาแก้แค้น ไม่เพียงแต่ไม่ได้แก้แค้น เธอยังทำให้พวกเขาตายอีกด้วย ในพริบตาเดียว คนของพวกเขากว่าร้อยคนก็ตายลง เหลือเพียงอีกครึ่งเท่านั้นที่ยังมีชีวิตอยู่ “ไม่ ไม่มีทาง!” นักสู้ของตระกูลโลวบางคนสติแตก พวกเขาส่ายหัวอย่างแรง พวกเขากลัวที่เห็นซากศพเกลื่อนไปทั่วพื้น "วิ่ง!" เฟนด์ฟาดคลื่นดาบไปอีกสองครั้ง และชายนับโหลก็ล้มลงไปกับพื้น มีบางคนทนไม่ไหวอีกต่อไป พวกเขา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 992

    “จัดการศพด้วย!” เฟนด์ยิ้มอย่างขมขื่นเมื่อเขาเห็นศพเกลื่อนทั่วพื้น เขาอยากจะหาเกล็ดมังกรอย่างเงียบ ๆ เขาไม่ได้อยากมีปัญหาตั้งแต่แรกด้วยซ้ำ เขาไม่เคยคิดเลย ว่ามันจะจบลงแบบนี้ ตระกูลแวกเนอร์ตายไปแล้ว และนักสู้มากมายจากเมืองจินก็จบชีวิตลงที่นี่เช่นกัน ดูเหมือนว่าตระกูลมหาอำนาจหลายตระกูลจากเมืองนางแอ่นจะคอยจับตาดูเขาและครอบครัวในตอนนี้ ทว่า ตอนนี้เขาคิดเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น มันอาจจะไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรเลยก็ได้ อย่างน้อย ตระกูลที่วางกับดักใส่เขาจะได้ระมัดระวัง และรอบคอบมากขึ้นหลังจากเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ “ฉันกลัวมากเลย ว่าจะมีคนเยอะแยะเข้ามาพร้อมกันไปหมด ของคุณพระเจ้า พวกเธอทุกคนแข็งแกร่งมากจริง ๆ ไม่งั้นเราคงตายไปแล้ว!” ฟีโอน่าและคนอื่น ๆ ออกมาจากบ้านเมื่อเห็นว่าบอดี้การ์ดกำลังจัดการศพอยู่ ฟีโอน่าตบหน้าอกของเธอ เห็นได้ชัดว่าเธอยังคงตกใจอยู่ “พ่อเก่งมากเลย หนูอยากแข็งแรงแบบพ่อจังตอนหนูโตขึ้น!” ไคลี่วิ่งเข้ามา เธอมองไปที่เฟนด์ด้วยความชื่นชม ดวงตาของกลมสวย มันงดงามมาก เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกไปครู่นึง “แม่ปล่อยให้ไคลี่ออกมาได้ยังไง?” เขาพูดกับฟีโอน่าและคนอื่น ๆ “เร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 993

    ไม่นานนัก ข่าวก็กระจายไปทั่วเมืองแห่งศิลปะการต่อสู้ เมืองนางแอ่น “พ่อ แม่ คุณปู่ คุณย่า ผม ผมจะล้างแค้นให้ทุกคน…” ในทางกลับกัน นอกเมืองนางแอ่น ดีแลนพาบอดี้การ์ดสองสามคนติดตัวไป เขามุ่งที่เมืองจินโดยรถยนต์ หลังจากผ่านไปสามวัน ลาน่าก็มาอยู่ตรงหน้าของเฟนด์ ลาน่าหน้าตามีความสุขมาก เธอแทบจะเก็บความสุขเอาไว้ไม่อยู่ “นายท่าน ฉันมีข่าวดีมาบอก! ในที่สุด เราก็ได้ข่าวเกี่ยวกับเกล็ดมังกรแล้ว!” ลาน่ามองไปที่เฟนด์ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความตื่นเต้น น้ำเสียงของเธอดูร่าเริงมาก “มีคฤหาสน์หลังใหญ่ตั้งอยู่นอกเมืองศิลปะการต่อสู้นี้ และฉันได้ยินมาว่าจะมีการประมูลลับ ๆ ในคฤหาสน์หลังใหญ่ในคืนพรุ่งนี้ มีคนร่ำรวยที่ไม่เปิดเผยตัวตน แอบติดต่อตระกูลที่แสนร่ำรวยในเมืองนี้ ตั้งใจที่จะรวบรวมทั้งตระกูล และนักธุรกิจที่มีชื่อเสียง เพื่อเข้าร่วมงานประมูลที่เขาจัดขึ้นมา มีของเพียงอย่างเดียวเท่านั้นที่จะถูกประมูล และนั่นคือเกล็ดมังกร!” "อืม เป็นอย่างงั้นเองเหรอ? เธอคิดไงกับเรื่องนี้ล่ะ?” เฟนด์ถามออกไป พลางขมวดคิ้ว “ฉันว่า ตราบเท่าที่เรายังใช้เงินแก้ปัญหาได้ มันก็ไม่มีปัญหา คนอื่น ๆ อาจคิดว่าเกล็ดมังกรเป็นขอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 994

    “สารเลวไหน? คนไหน?” หัวหน้าคตระกูลแชฟฟ์แมนตะโกนใส่บอดี้การ์ดคนที่รีบเข้าไปในห้องอาหารทันที เขากำลังดื่มด่ำช่วงเวลาดี ๆ ในการดื่มกับครอบครัว แล้วก็ถูกกวนอย่างกะทันหัน เป็นธรรมชาติที่เขาจะรู้สึกหงุดหงิดก่อนจะทำคิ้วผูกโบ “ไอ้เด็กเวร ไอ้สารเลว เฟนด์… เราเป็นสักขีพยานว่าเขาฆ่าคนจากตระกูลแวกเนอร์ไปเพียบ พร้อมกับตระกูลโลวไปเมื่อวันก่อนไม่ใช่หรือไง? ไอ้สารเลวนั่นในวันนั้นมาที่นี่พร้อมกับผู้หญิงที่สวมหน้ากาก!” บอดี้การ์ดพูดเสียงสั่น เขาเคยภูมิใจที่ได้เป็นบอดี้การ์ดของตระกูลแชฟฟ์แมน เขามีความมั่นใจในตระกูลแชฟฟ์แมนมาก เพราะปกติแล้ว ไม่มีใครกล้าหือกับตระกูลที่โดดเด่น และมีอำนาจ และนั่นเป็นสาเหตที่ทำให้นายน้อยแชฟฟ์แมนทั้งหยิ่งยโสและหัวสูง อย่างไรก็ตาม ทั้งสองคนที่มาถึงตระกูลแชฟฟ์แมนในวันนี้ ทำให้เขาเสียวสันหลังวาบ เขากลัวมาก ก็เพราะทักษะการต่อสู้ของทั้งคู่น่าเกรงขามมาก ถ้าเขาไม่รู้จักชื่อของราชาสงครามเก้าดาราทั้งหมด เขาคงคิดว่าเฟนด์เองก็เป็นหนึ่งในนั้น! "ให้ตายสิ? ทำไมสองคนนั้นถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ?” หัวหน้าของตระกูลแชฟฟ์แมน ตกใจกับข่าวที่ว่าเขาถูกยิงจากเก้าอี้ จู่ ๆ เขาก็หายเมา ไม่รู้สึกม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 995

    นายใหญ่แชฟฟ์แมนหัวเราะคิกคัก พร้อมกับรอยยิ้มกว้างบนหน้าของเขา เฟนด์ไม่เสียเวลามาทำพิธีรีตอง เขาพูดเรื่องเรื่องนั้นขึ้นมาเลยว่า “นายท่านแชฟฟ์แมน ผมมาที่นี่เพราะเรื่องอะไรบางอย่าง ส่วนเรื่องอาหารเย็นกับเรื่องดื่มนั่น ช่างมันเถอะ ไม่จำเป็น อย่างไรก็ตาม ผมเคยทะเลาะกับหลานของคุณมาก่อน เพราะงั้น ผมคงไม่มีความสุขที่ได้กินอาหารเย็น หรือดื่มหรอก!” “มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดนะ! มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด!” พีซโพล่งเข้ามา พลางยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน “เรื่องนั้นเป็นเรื่องเข้าใจผิดทั้งนั้นเลย ผมทั้งยโสและหยาบคายมาก เพราะงั้น เรื่องทั้งหมดเลยเกิดขึ้น แต่ผมต้องพูดจริง ๆ ว่าคุณวู๊ดทั้งสองนั้นดูดีมาก พี่เฟนด์ พี่นี่โชคดีจริง ๆ ที่ได้ทั้งคู่เป็นภรรยา ผมอิจฉาจริง ๆ !” หน้าของเฟนด์ขรึมขึ้นทันที เขาพูดกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชา แต่ยังควบคุมเอาไว้ได้อยู่ “พีซ แชฟฟ์แมน อย่างแรกเลย อย่าเรียกฉันว่าพี่ และอย่ากล้าแม้แต่จะมองภรรยาของฉันอีก สำหรับขยะอย่างนาย ฉันไม่อยากจะมีปฏิสัมพันธ์ใด ๆ ด้วยทั้งนั้น!” เฟนด์ไม่ไว้หน้าอีกฝ่ายเลยสักนิด ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะมาจากตระกูลชนชั้นสูงระดับที่สองที่โดดเด่นในเมืองจินก็ตาม หน้าขอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 996

    “แปลกนะ เฟนด์มาที่นี่เพื่อขอบัตรเชิญโดยเฉพาะ นั่นก็หมายความว่าหมอนี่สนใจเกล็ดมังกร!” ทันทีที่สองคนนั้นจากไป นายท่านแชฟฟ์แมนอดไม่ได้ที่จะพูดพึมพำออกมา “ตอนนี้เหลือบัตรเชิญเพียงใบเดียวเท่านั้น ดังนั้นเราสองคนจึงยังสามารถไปงานประมูลในวันพรุ่งนี้ได้ เรายังโชคดีที่เฟนด์ไม่ได้ขอบัตรเชิญไปสองใบ!” “แต่เฟนด์รู้เรื่องนี้ได้ยังไง? พวกเขาเป็นแค่คนธรรมดาไม่ใช่เหรอ?”พีซขมวดคิ้วด้วยสีหน้างุนงง “องค์กรลับส่งบัตรเชิญมาให้เรา เขารู้เรื่องนี้ได้ยังไง? นั่นหมายความว่าเขาต้องค้นหาและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเกล็ดมังกร ไม่งั้นจะเป็นไปได้ยังไงที่เฟนด์จะรู้เรื่องงานประมูลอย่างรวดเร็ว?” “นี่มันแปลกมาก! ทำไมเขาถึงสนใจเกล็ดมังกรนักล่ะ? ขณะที่เรายังเดากันอยู่เลยว่าเกล็ดมังกรนี้เป็นของจริงหรือเปล่า พวกเขาได้ตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว พวกเขาคงจะสนใจมันมานานแล้ว!” นายใหญ่แชฟฟ์แมนเองก็รู้สึกว่าการที่เฟนด์สนใจเกล็ดมังกรนั้นคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอน ไม่งั้นเขาคงไม่มาหาพวกเราโดยเฉพาะเพื่อขอบัตรเชิญ! “อืมมม...พวกเขาเพิ่งย้ายมาที่นี่ได้ไม่นาน โอ้ ผมนึกออกแล้ว! เมื่อไม่นานมานี้มีข่าวเกี่ยวกับเกล็ดมังกรรั่วไหลออกมา แ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 997

    วันต่อมา ตระกูลบางตระกูลที่ได้รับบัตรเชิญให้เข้าร่วมงานประมูลลับนี้ไม่ได้สนใจเกล็ดมังกรเลย และบางตระกูลก็คิดว่ามันเป็นเรื่องหลอกลวง ดังนั้นตระกูลที่มีชื่อเสียงจำนวนมากพวกนั้นจึงไม่ได้ไปที่คฤหาสน์หลังใหญ่นอกเมือง แต่ตระกูลส่วนใหญ่ที่อยากค้นหาความจริงเรื่องเกล็ดมังกรที่ได้รับบัตรเชิญ พวกเขาพาบอดี้การ์ดสองสามคนตามไปด้วยและไปที่คฤหาสน์หลังใหญ่นอกเมือง ผู้คนต่างมารวมตัวกันที่นอกคฤหาสน์มากขึ้นเรื่อย ๆ เจ้าของคฤหาสน์ยังไม่ได้เปิดประตู แต่เจ้าของกลับให้รออยู่ด้านนอกคฤหาสน์ “ใครเป็นคนจัดงานประมูลครั้งนี้? ผู้จัดงานให้พวกเราทุกคนรออยู่ด้านนอกและไม่มีแม้กระทั่งที่นั่งให้เราได้ยังไง! ช่างอวดดีจริง ๆ!” ชายชราคนหนึ่งจากกลุ่มคนบ่นออกมาอย่างหงุดหงิด “นั่นน่ะสิ! ผู้จัดงานส่งบัตรเชิญให้เราแค่สามใบ แล้วบอดี้การ์ดของฉันจะเข้าไปได้ยังไง? มีแค่หกคนเท่านั้นที่เข้าไปได้!” ชายวัยกลางคนอีกคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ชายชราก็อดไม่ได้ที่บ่นออกมาเสียงดัง เขาพาบอดี้การ์ดมาด้วยหลายคนเพื่อมาคอยคุ้มครอง เรื่องนี้มันทำให้เขาอารมณ์เสีย “นี่ นายน้อยนอร์ตัน ดูนั่นสิ! นายเห็นสาวสวยคนนั้นไหม? ฉันไม่เคยเจอเธอมาก่อนเลย เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29

บทล่าสุด

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

DMCA.com Protection Status