Share

บทที่ 990

Author: โมเนโต้
วอลเตอร์ตื่นเต้นมาก เมื่อชื่อนั้นเข้ามาในหัวของเขา เฟนด์ นักรบสูงสุด! ไม่มีใครเคยเห็นหน้าเขามาก่อน ไม่รู้จักแม้แต่ชื่อด้วย แต่เขากลับมีโอกาสได้เจอนักรบสูงสุด เพื่อเป็นสักขีพยานในการต่อสู้ของเขา และสู้ไปกับเขา

เขาไม่คิดไม่ฝันเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อนเลย แต่ตอนนี้เขาได้อยู่ใกล้ ๆ นักรบสูงสุด

ถ้าเฟนด์เป็นนักรบสูงสุดจริง ๆ เขาคงฆ่าคนที่อยู่ตรงหน้าเขาทั้งหมดอย่างง่ายดาย นอกจากนี้แล้ว เขาไม่จำเป็นต้องออกแรงทั้งหมดเลยด้วยซ้ำ มันก็ง่าย ๆ เหมือนการหายใจสำหรับเขา

ทว่า เขารู้มาว่านักรบสูงสุดคือคนที่ชอบทำตัวต่ำต้อย ดูเหมือนว่านั่นจะเป็นสาเหตุที่เขาปกปิดตัวตนของเขามาตั้งแต่แรก ไม่เคยมีใครรู้ชื่อของเขา ถึงแม้ว่าเขาจะมีส่วนในช่วยเหลือประเทศมาตลอดก็ตาม

“วอลเตอร์ ทำไมเหม่อแบบนั้นล่ะ?”

สกายเลอร์สังเกตเห็นว่าวอลเตอร์กำลังมองไปที่เฟน ดวงตาของเขาเผยให้เห็นความตื่นเต้น เขาเลยดุชายหนุ่ม

"โอ้ ผมขอโทษ!"

วอลเตอร์กลับมาตั้งใจ ก่อนจะพลิกฝ่ามือของเขา แล้วชักดาบของเขาออกมา

“ไปหาหัวหน้ามันก่อนเลย!”

ชายชราจู่โจมเฟนด์ก่อน เขาฟันดาบออกไป

แน่นอน เขามีเทคนิคที่ดี รังสีดาบของเขาแทบจะเป็นของแข็ง ทำให้รู้
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 991

    คู่รักชราหวาดกลัวมากกว่าเดิมเมื่อเห็นคนของพวกเขาตายลงทีละคน รอบ ๆ พวกเขา ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจแล้วว่าเฟนด์ให้โอกาสพวกเขาได้ใช้ชีวิตแล้วจริง ๆ อย่างไรก็ตาม มันก็สายเกินไปแล้วที่จะเสียใจ "ตายซะ!" ในชั่วพริบตาเท่านั้น เฟนด์ก็ปรากฏตัวขึ้นระหว่างคู่รักชรา เขาวาดดาบเป็นวงกลม ก่อให้เกิดคลื่นดาบแสนน่าหวาดกลัว มันเป็นประกายแวววาว คู่รักชรา และนักสู้กว่าสิบคนของตระกูลโลวถูกรัศมีการโจมตีถล่มเข้าอย่างจัง ปัง ปัง ปัง! ทั้งหมดกระเด็นไปด้านหลัง ก่อนจะตกลงบนพื้นอย่างแรง ไม่มีใครหายใจอีกต่อไป "พ่อ! แม่!" ลูอิซาตะโกนออกมาทันทีที่เห็นพ่อแม่ของเธอถูกสังหารอย่างง่ายดาย ตอนนี้เธอรู้แล้วว่ามันเป็นการตัดสินใจที่โง่มากที่พาพ่อแม่ของเธอมาแก้แค้น ไม่เพียงแต่ไม่ได้แก้แค้น เธอยังทำให้พวกเขาตายอีกด้วย ในพริบตาเดียว คนของพวกเขากว่าร้อยคนก็ตายลง เหลือเพียงอีกครึ่งเท่านั้นที่ยังมีชีวิตอยู่ “ไม่ ไม่มีทาง!” นักสู้ของตระกูลโลวบางคนสติแตก พวกเขาส่ายหัวอย่างแรง พวกเขากลัวที่เห็นซากศพเกลื่อนไปทั่วพื้น "วิ่ง!" เฟนด์ฟาดคลื่นดาบไปอีกสองครั้ง และชายนับโหลก็ล้มลงไปกับพื้น มีบางคนทนไม่ไหวอีกต่อไป พวกเขา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 992

    “จัดการศพด้วย!” เฟนด์ยิ้มอย่างขมขื่นเมื่อเขาเห็นศพเกลื่อนทั่วพื้น เขาอยากจะหาเกล็ดมังกรอย่างเงียบ ๆ เขาไม่ได้อยากมีปัญหาตั้งแต่แรกด้วยซ้ำ เขาไม่เคยคิดเลย ว่ามันจะจบลงแบบนี้ ตระกูลแวกเนอร์ตายไปแล้ว และนักสู้มากมายจากเมืองจินก็จบชีวิตลงที่นี่เช่นกัน ดูเหมือนว่าตระกูลมหาอำนาจหลายตระกูลจากเมืองนางแอ่นจะคอยจับตาดูเขาและครอบครัวในตอนนี้ ทว่า ตอนนี้เขาคิดเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น มันอาจจะไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรเลยก็ได้ อย่างน้อย ตระกูลที่วางกับดักใส่เขาจะได้ระมัดระวัง และรอบคอบมากขึ้นหลังจากเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ “ฉันกลัวมากเลย ว่าจะมีคนเยอะแยะเข้ามาพร้อมกันไปหมด ของคุณพระเจ้า พวกเธอทุกคนแข็งแกร่งมากจริง ๆ ไม่งั้นเราคงตายไปแล้ว!” ฟีโอน่าและคนอื่น ๆ ออกมาจากบ้านเมื่อเห็นว่าบอดี้การ์ดกำลังจัดการศพอยู่ ฟีโอน่าตบหน้าอกของเธอ เห็นได้ชัดว่าเธอยังคงตกใจอยู่ “พ่อเก่งมากเลย หนูอยากแข็งแรงแบบพ่อจังตอนหนูโตขึ้น!” ไคลี่วิ่งเข้ามา เธอมองไปที่เฟนด์ด้วยความชื่นชม ดวงตาของกลมสวย มันงดงามมาก เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกไปครู่นึง “แม่ปล่อยให้ไคลี่ออกมาได้ยังไง?” เขาพูดกับฟีโอน่าและคนอื่น ๆ “เร

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 993

    ไม่นานนัก ข่าวก็กระจายไปทั่วเมืองแห่งศิลปะการต่อสู้ เมืองนางแอ่น “พ่อ แม่ คุณปู่ คุณย่า ผม ผมจะล้างแค้นให้ทุกคน…” ในทางกลับกัน นอกเมืองนางแอ่น ดีแลนพาบอดี้การ์ดสองสามคนติดตัวไป เขามุ่งที่เมืองจินโดยรถยนต์ หลังจากผ่านไปสามวัน ลาน่าก็มาอยู่ตรงหน้าของเฟนด์ ลาน่าหน้าตามีความสุขมาก เธอแทบจะเก็บความสุขเอาไว้ไม่อยู่ “นายท่าน ฉันมีข่าวดีมาบอก! ในที่สุด เราก็ได้ข่าวเกี่ยวกับเกล็ดมังกรแล้ว!” ลาน่ามองไปที่เฟนด์ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความตื่นเต้น น้ำเสียงของเธอดูร่าเริงมาก “มีคฤหาสน์หลังใหญ่ตั้งอยู่นอกเมืองศิลปะการต่อสู้นี้ และฉันได้ยินมาว่าจะมีการประมูลลับ ๆ ในคฤหาสน์หลังใหญ่ในคืนพรุ่งนี้ มีคนร่ำรวยที่ไม่เปิดเผยตัวตน แอบติดต่อตระกูลที่แสนร่ำรวยในเมืองนี้ ตั้งใจที่จะรวบรวมทั้งตระกูล และนักธุรกิจที่มีชื่อเสียง เพื่อเข้าร่วมงานประมูลที่เขาจัดขึ้นมา มีของเพียงอย่างเดียวเท่านั้นที่จะถูกประมูล และนั่นคือเกล็ดมังกร!” "อืม เป็นอย่างงั้นเองเหรอ? เธอคิดไงกับเรื่องนี้ล่ะ?” เฟนด์ถามออกไป พลางขมวดคิ้ว “ฉันว่า ตราบเท่าที่เรายังใช้เงินแก้ปัญหาได้ มันก็ไม่มีปัญหา คนอื่น ๆ อาจคิดว่าเกล็ดมังกรเป็นขอ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 994

    “สารเลวไหน? คนไหน?” หัวหน้าคตระกูลแชฟฟ์แมนตะโกนใส่บอดี้การ์ดคนที่รีบเข้าไปในห้องอาหารทันที เขากำลังดื่มด่ำช่วงเวลาดี ๆ ในการดื่มกับครอบครัว แล้วก็ถูกกวนอย่างกะทันหัน เป็นธรรมชาติที่เขาจะรู้สึกหงุดหงิดก่อนจะทำคิ้วผูกโบ “ไอ้เด็กเวร ไอ้สารเลว เฟนด์… เราเป็นสักขีพยานว่าเขาฆ่าคนจากตระกูลแวกเนอร์ไปเพียบ พร้อมกับตระกูลโลวไปเมื่อวันก่อนไม่ใช่หรือไง? ไอ้สารเลวนั่นในวันนั้นมาที่นี่พร้อมกับผู้หญิงที่สวมหน้ากาก!” บอดี้การ์ดพูดเสียงสั่น เขาเคยภูมิใจที่ได้เป็นบอดี้การ์ดของตระกูลแชฟฟ์แมน เขามีความมั่นใจในตระกูลแชฟฟ์แมนมาก เพราะปกติแล้ว ไม่มีใครกล้าหือกับตระกูลที่โดดเด่น และมีอำนาจ และนั่นเป็นสาเหตที่ทำให้นายน้อยแชฟฟ์แมนทั้งหยิ่งยโสและหัวสูง อย่างไรก็ตาม ทั้งสองคนที่มาถึงตระกูลแชฟฟ์แมนในวันนี้ ทำให้เขาเสียวสันหลังวาบ เขากลัวมาก ก็เพราะทักษะการต่อสู้ของทั้งคู่น่าเกรงขามมาก ถ้าเขาไม่รู้จักชื่อของราชาสงครามเก้าดาราทั้งหมด เขาคงคิดว่าเฟนด์เองก็เป็นหนึ่งในนั้น! "ให้ตายสิ? ทำไมสองคนนั้นถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ?” หัวหน้าของตระกูลแชฟฟ์แมน ตกใจกับข่าวที่ว่าเขาถูกยิงจากเก้าอี้ จู่ ๆ เขาก็หายเมา ไม่รู้สึกม

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 995

    นายใหญ่แชฟฟ์แมนหัวเราะคิกคัก พร้อมกับรอยยิ้มกว้างบนหน้าของเขา เฟนด์ไม่เสียเวลามาทำพิธีรีตอง เขาพูดเรื่องเรื่องนั้นขึ้นมาเลยว่า “นายท่านแชฟฟ์แมน ผมมาที่นี่เพราะเรื่องอะไรบางอย่าง ส่วนเรื่องอาหารเย็นกับเรื่องดื่มนั่น ช่างมันเถอะ ไม่จำเป็น อย่างไรก็ตาม ผมเคยทะเลาะกับหลานของคุณมาก่อน เพราะงั้น ผมคงไม่มีความสุขที่ได้กินอาหารเย็น หรือดื่มหรอก!” “มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดนะ! มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด!” พีซโพล่งเข้ามา พลางยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน “เรื่องนั้นเป็นเรื่องเข้าใจผิดทั้งนั้นเลย ผมทั้งยโสและหยาบคายมาก เพราะงั้น เรื่องทั้งหมดเลยเกิดขึ้น แต่ผมต้องพูดจริง ๆ ว่าคุณวู๊ดทั้งสองนั้นดูดีมาก พี่เฟนด์ พี่นี่โชคดีจริง ๆ ที่ได้ทั้งคู่เป็นภรรยา ผมอิจฉาจริง ๆ !” หน้าของเฟนด์ขรึมขึ้นทันที เขาพูดกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชา แต่ยังควบคุมเอาไว้ได้อยู่ “พีซ แชฟฟ์แมน อย่างแรกเลย อย่าเรียกฉันว่าพี่ และอย่ากล้าแม้แต่จะมองภรรยาของฉันอีก สำหรับขยะอย่างนาย ฉันไม่อยากจะมีปฏิสัมพันธ์ใด ๆ ด้วยทั้งนั้น!” เฟนด์ไม่ไว้หน้าอีกฝ่ายเลยสักนิด ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะมาจากตระกูลชนชั้นสูงระดับที่สองที่โดดเด่นในเมืองจินก็ตาม หน้าขอ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 996

    “แปลกนะ เฟนด์มาที่นี่เพื่อขอบัตรเชิญโดยเฉพาะ นั่นก็หมายความว่าหมอนี่สนใจเกล็ดมังกร!” ทันทีที่สองคนนั้นจากไป นายท่านแชฟฟ์แมนอดไม่ได้ที่จะพูดพึมพำออกมา “ตอนนี้เหลือบัตรเชิญเพียงใบเดียวเท่านั้น ดังนั้นเราสองคนจึงยังสามารถไปงานประมูลในวันพรุ่งนี้ได้ เรายังโชคดีที่เฟนด์ไม่ได้ขอบัตรเชิญไปสองใบ!” “แต่เฟนด์รู้เรื่องนี้ได้ยังไง? พวกเขาเป็นแค่คนธรรมดาไม่ใช่เหรอ?”พีซขมวดคิ้วด้วยสีหน้างุนงง “องค์กรลับส่งบัตรเชิญมาให้เรา เขารู้เรื่องนี้ได้ยังไง? นั่นหมายความว่าเขาต้องค้นหาและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเกล็ดมังกร ไม่งั้นจะเป็นไปได้ยังไงที่เฟนด์จะรู้เรื่องงานประมูลอย่างรวดเร็ว?” “นี่มันแปลกมาก! ทำไมเขาถึงสนใจเกล็ดมังกรนักล่ะ? ขณะที่เรายังเดากันอยู่เลยว่าเกล็ดมังกรนี้เป็นของจริงหรือเปล่า พวกเขาได้ตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว พวกเขาคงจะสนใจมันมานานแล้ว!” นายใหญ่แชฟฟ์แมนเองก็รู้สึกว่าการที่เฟนด์สนใจเกล็ดมังกรนั้นคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอน ไม่งั้นเขาคงไม่มาหาพวกเราโดยเฉพาะเพื่อขอบัตรเชิญ! “อืมมม...พวกเขาเพิ่งย้ายมาที่นี่ได้ไม่นาน โอ้ ผมนึกออกแล้ว! เมื่อไม่นานมานี้มีข่าวเกี่ยวกับเกล็ดมังกรรั่วไหลออกมา แ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 997

    วันต่อมา ตระกูลบางตระกูลที่ได้รับบัตรเชิญให้เข้าร่วมงานประมูลลับนี้ไม่ได้สนใจเกล็ดมังกรเลย และบางตระกูลก็คิดว่ามันเป็นเรื่องหลอกลวง ดังนั้นตระกูลที่มีชื่อเสียงจำนวนมากพวกนั้นจึงไม่ได้ไปที่คฤหาสน์หลังใหญ่นอกเมือง แต่ตระกูลส่วนใหญ่ที่อยากค้นหาความจริงเรื่องเกล็ดมังกรที่ได้รับบัตรเชิญ พวกเขาพาบอดี้การ์ดสองสามคนตามไปด้วยและไปที่คฤหาสน์หลังใหญ่นอกเมือง ผู้คนต่างมารวมตัวกันที่นอกคฤหาสน์มากขึ้นเรื่อย ๆ เจ้าของคฤหาสน์ยังไม่ได้เปิดประตู แต่เจ้าของกลับให้รออยู่ด้านนอกคฤหาสน์ “ใครเป็นคนจัดงานประมูลครั้งนี้? ผู้จัดงานให้พวกเราทุกคนรออยู่ด้านนอกและไม่มีแม้กระทั่งที่นั่งให้เราได้ยังไง! ช่างอวดดีจริง ๆ!” ชายชราคนหนึ่งจากกลุ่มคนบ่นออกมาอย่างหงุดหงิด “นั่นน่ะสิ! ผู้จัดงานส่งบัตรเชิญให้เราแค่สามใบ แล้วบอดี้การ์ดของฉันจะเข้าไปได้ยังไง? มีแค่หกคนเท่านั้นที่เข้าไปได้!” ชายวัยกลางคนอีกคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ชายชราก็อดไม่ได้ที่บ่นออกมาเสียงดัง เขาพาบอดี้การ์ดมาด้วยหลายคนเพื่อมาคอยคุ้มครอง เรื่องนี้มันทำให้เขาอารมณ์เสีย “นี่ นายน้อยนอร์ตัน ดูนั่นสิ! นายเห็นสาวสวยคนนั้นไหม? ฉันไม่เคยเจอเธอมาก่อนเลย เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 998

    หลังจากที่เฟนด์ส่งบัตรเชิญให้พนักงาน เขากับลาน่าก็เดินเข้าไปในคฤหาสน์ เดินเข้าไปในห้องโถงที่ตกแต่งอย่างงดงาม ที่ด้านข้างของห้องโถง มีเวทีที่สร้างขึ้นชั่วคราวสำหรับงานประมูลครั้งนี้และมีเก้าอี้สำหรับให้ผู้มาร่วมงานนั่ง แสงสลัวและบรรยากาศที่น่าขนลุก ทำให้ผู้คนจำนวนมากอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วออกมา ไม่นานห้องโถงก็เต็มไปด้วยผู้คนเกือบร้อยคน จากนั้นชายชราที่สวมชุดคลุมสีดำถ่านและสวมหน้ากากก็เดินขึ้นไปบนเวทีอย่างช้า ๆ ชายชราผมสีบลอนด์เป็นประกายจ้องตากับลาน่า สีหน้าของลาน่าเริ่มนิ่งและมืดลงทันที “ผู้จัดงานนี้มาจากอเมริกาหรือเปล่า?” ลาน่ากระซิบถามเฟนด์ เฟนด์ขมวดคิ้วกับเหตุการณ์ตรงหน้า “เป็นไปได้ไง? เกล็ดมังกรตกไปอยู่ในมือของพวกอเมริกาได้ยังไง?” ในตอนนั้นเอง เมื่อเฟนด์พูดประโยคสุดท้ายจบ ชายชุดดำหลายร้อยคนก็เข้ามาในห้องโถงจากทางประตูหน้าและทางประตูด้านข้าง ล้อมรอบทุกคนที่อยู่ตรงกลางห้องโถงไว้ “อะไรวะเนี่ย...” สถานการณ์ที่ถูกล้อมรอบด้วยชายชุดดำรูปร่างใหญ่หลายร้อยคนทำให้ตระกูลที่มีชื่อเสียงรู้สึกกังวล “โอ้ทุกคน โปรดอยู่ในความสงบ พวกเขาเข้ามาที่นี่เพื่อรักษาความปลอดภัยของสิ่งของในงานปร

Latest chapter

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status