แชร์

บทที่ 966

ผู้เขียน: โมเนโต้
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
เฟนด์ไม่เซ้าซี้ถามอะไรต่อไม่ว่าจะมีผลอะไรก็ตาม เหมือนว่าพวกเขาไม่อยากสนทนาด้วยต่อเช่นกัน สุดท้ายแล้วทุกคนก็มีความลับเป็นของตัวเอง

“นี่มันก็จะเที่ยงแล้ว พวกคุณน่าจะหิวมาก ผมให้ในครัวเตรียมอาหารกลางวันให้แล้ว! พักผ่อนตามสบายได้เลย แล้วเราจะให้เอเลนจัดการงานของคุณวันพรุ่งนี้เอง!” หลังจากวางแผนแล้วเฟนด์ก็เตรียมอะไรบางอย่าง ก่อนขอให้พวกเขาออกไป

หลังจากมาไกลแล้ว บรีแอนน่า ซัลลิวาน ก็พูดกับ นาธาเนียล ซัลลิวานว่า “คุณปู่คะ ทำไมเราไม่เคยได้ยินชื่อตระกูลวู๊ดมาก่อนเลย? เหมือนว่าสกายเลอร์ เซเลสติโน จะเก่งมากนะ ที่ฆ่าผู้เชี่ยวชาญสองคนที่เทียบเท่าได้กับราชาสงครามหกหรือเจ็ดดาราได้ เขามีทักษะอย่างเหลือเชื่อ!”

นาธาเนียลยิ้มและตอบกลับ “ใช่ เฟนด์กับเซเลน่าก็ค่อนข้างรวยเหมือนกัน คฤหาสน์ยี่สิบหลัง แต่ดูเหมือนส่วนใหญ่จะมันจะว่างเปล่านะ นี่หมายความว่าพวกเขาไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนั้น ถึงอย่างนั้น ทำไมถึงได้กล้าไปรุกรานตระกูลชนชั้นสองในเมื่อไม่ได้แข็งแกร่ง? เขาไม่กลัวศัตรูจะรุกรานกลับเลยเหรอขณะที่ฆ่าผู้เชี่ยวชาญของตระกูลชนชั้นสองไป?”

บรีแอนน่าก็พยักหน้าเห็นด้วย “ลองคิดดูสิคะ คุณปู่ มันหมายความว่ายังไงที่ผู้เช
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 967

    คาเลบเดินเข้าไปใกล้ฮันเตอร์ และแนะนำว่าอย่าทำอะไรเฟนด์ฮันเตอร์ถามด้วยความสงสัยพร้อมกับสีหน้าไม่พอใจ “รู้ได้ไง? ไม่ใช่ว่าแกเป็นคนอยากให้ฉันสั่งสอนพวกนั้นรึไง? นี่ปัญหาที่แกก่อขึ้นไม่ใช่เหรอ?”มันเป็นความจริงที่ฮันเตอร์เสียนิ้วไปหนึ่งนิ้วเพราะคาเลบ หลานชายเขา ทำให้เขาค่อนข้างขมขื่นนักนอกจากนั้น อีกฝ่ายก็ได้ให้ความเคารพกับเขา และขอให้เขาไปคนเดียว เพราะ ไมลส์ สโตน คือลูกน้องเก่าของสกายเลอร์ เซเลสติโน่ ถ้าไมลส์ไม่อยู่ที่นั่น หรือไม่มีความสัมพันธ์ดี ๆ กับราชาสงครามแปดดารา พวกเขาทั้งหมดก็คงตายกันไปหมดแล้วเมื่อคิดถึงเรื่องวันนี้มันก็ยังมีผลกับความรู้สึกเขา ทั้งหมดเป็นความผิดของคาเลบ ถ้าเขาต้องมาตายแบบนี้“เฮ้อ... ลุงนี่ไม่รู้อะไรเลย ผมโกรธจริง ๆ ตอนที่คิดว่าลุงเสียนิ้วไปแล้ว ผมคิดหาคนมาช่วยทำงานสกปรก ๆ ไง!"คาเลบรินชาก่อนจะพูดว่า "ลุงรู้ดีใช่ไหมว่านายน้อยแชฟฟ์แมนชอบผู้หญิงขนาดไหน? ผมยุไป แล้วก็พาบอดี้การ์ดนิดหน่อยตามไปด้วย พวกเขาแข็งแกร่งระดับราชาสงครามหกดาราเชียวนา แต่ต้องมาโดนฆ่าตายซะนี่! อีกฝ่ายไว้ชีวิตเราในที่สุดแล้วก็ปล่อยเรามา!""ราชาสงครามหกดาราโดนฆ่าเหรอ?" ฮันเตอร์สูดหายใจเข้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 968

    ฮันเตอร์พยักหน้าตามคำพูดของคาเลบอย่างเห็นด้วย “ก็เป็นไปได้ แต่มันจะดีถ้าเราไม่ไปยั่วยุอะไรพวกเขา ใครจะไปรู้ว่าคนพวกนี้ทำให้ราชาสงครามแปดดารามาทำงานเป็นบอดี้การ์ดพวกเขาได้!”ฮันเตอร์พูดต่อว่า “ที่จริงแล้ว ฉันไม่คิดว่านายน้อยแชฟฟ์แมนจะยอมแพ้หรอกนะ สุดท้ายแล้วเขาก็เสียผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งระดับราชาสงครามหกดาราไป เขาปิดบังมันไม่ได้หรอก เมื่อตระกูลแชฟฟ์แมนรู้เรื่องนี้ พวกเขาจะต้องทำอะไรสักอย่างแน่ ๆ”คาเลบพยักหน้า “นี่เป็นเรื่องดีสำหรับเรา เราไม่ต้องทำอะไรเลยแค่ปล่อยให้พวกนั้นสู้กันเอง!”แม้จะคิดบวก แต่คาเลบก็รู้สึกขมขื่นกับความจริงที่ว่าเขาไม่มีโอกาสเลยกับผู้หญิงพวกนั้นถ้าได้สู้คาเลบออกจากบ้านของฮันเตอร์ไปหลังจากที่ดื่มชามาสักพักขณะนั้น…สมาชิกตระกูลเทย์เลอร์โดนจับได้ในเมืองที่ไม่ไกลจากอาณาเขตกลางพวกเทย์เลอร์คุกเข่าลงกับพื้นอย่างตัวสั่นและมองไปรอบ ๆ ด้วยความกังวลใจ“บอกมาตรง ๆ ! ว่าใครฆ่าลูกชายฉัน และลูกชายของนายท่านตระกูลฟรีแมน ถ้าไม่บอก ฉันจะฆ่าพวกแก!” เทา แลมเบิร์ต ผู้อาวุโสลำดับสามของตระกูลแลมเบิร์ตโกรธมากเมื่อนึกถึงการตายของ ลูคัส ลูกชายของเขา ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาเขา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 969

    “ใช่ แต่นายใหญ่ตระกูลเทย์เลอร์ได้คิดอะไรออกขึ้นมา เขาได้ขอให้คุณเซเลน่ากับผู้ชายคนนั้น เฟนด์ แต่งงานกันปลอม ๆ เมื่อพวกเขาได้แต่งงานกัน ลูกเขยก็ได้ไปสนามรบแทนนายน้อยอีวาน แต่ไม่มีใครคิดว่าเขาจะกลับมาอย่างปลอดภัย!” “เฟนด์ทำตัวติดดิน ถ้าเขาไม่จัดงานแต่งใหม่กับคุณเซเลน่า เราคงไม่ได้รู้ว่าเขาเก่งจนเก้ามหาเทพสงครามมาร่วมงานแต่งด้วย!” เขาอธิบายให้พวกเทาฟัง “คนเราจะแข็งแกร่งได้ยังไงหลังจากใช้เวลามาห้าปีในสนามรบ? นายต้องเข้าใจก่อนว่าคนที่ฆ่าลูกชายฉันและคนอื่น ๆ ได้จะต้องมีความสามารถเทียบเท่ากับราชาสงครามบางคนที่มีดาราระดับสูง ดูเหมือนคนที่ชื่อเฟนด์อะไรนี่จะเก่งมากเลยนะ” เทาคาดการณ์“เฟนด์ วู๊ด! เราปล่อยคนอื่นไปได้ แต่เฟนด์ ภรรยา แล้วก็ครอบครัว จะต้องหนีไปด้วยกันแน่ เราต้องตามหาและฆ่ามันทั้งหมด ฉันถึงจะได้แก้แค้น! ฉันไม่สนหรอกนะว่าเขาจะเป็นเพื่อนกับเก้ามหาเทพสงคราม คนพวกนั้นไปงานแต่งเพื่อแสดงความเคารพ เป็นไปได้ว่าพวกเขาคงไม่มาล้างแค้นให้หมอหรอก!” นายท่านฟรีแมนโกรธมาก เขาไม่ต้องการอะไรมากกว่าไปกว่าการได้ฉีกเฟนด์เป็นชิ้น ๆ “พวกมันอยู่ไหนตอนนี้? หายไปไหนกัน? บอกเรามาไม่งั้นแกตาย!” เทาเล็งปลา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 970

    ชายวัยกลางคนกลืนน้ำลายอึกและพูดอย่างตะกุกตะกัก “พวกคุณ… ยังมีคำถามอยู่อีกเหรอ? ถ้าไม่มี เรา…เราไปเลยได้ไหม?”เทาคิดก่อนจะดึงหลุยส์ไปหาและพูดว่า “นายท่านฟรีแมน ทำไมเราไม่ปล่อยคนพวกนี้ไป? เราสัญญาไว้แล้วว่าจะปล่อยไปถ้ามันบอกมาทุกอย่าง”“ปล่อยงั้นเหรอ?” นายท่านฟรีแมนยิ้มเย็นชา “ผู้อาวุโสแลมเบิร์ต คุณเป็นคนสัญญา ไม่ใช่ฉัน แต่ไม่ต้องห่วง เพราะฉันจะฆ่าพวกมันเอง ไม่ต้องกระดิกนิ้วเลยด้วยซ้ำ อย่างนี้จะไม่ผิดสัญญาแล้วใช่ไหม?”เทาคิดและเสนอ “ฆ่าคนพวกนี้ก็ไม่มีประโยชน์ ไม่ได้แก้แค้น ทำไมเราไม่ปล่อยมันไปแล้วถ้าเจอเฟนด์กับคนอื่น ๆ เมื่อไหร่ก็ให้มันมาบอก? ในเมื่อเราปล่อยมันไป มันก็เป็นไปได้ที่มันจะติดหนี้เรา! ถ้าคุณไปฆ่าพวกนั้น ในทางกลับกัน เทย์เลอร์คนอื่น ๆ จะยิ่งซ่อนตัวมากขึ้นด้วยซ้ำเมื่อรู้เรื่องนี้” เทาหยุดก่อนพูดว่า “ถึงตอนนั้นมันก็คงยากแล้วที่จะหาตัวเฟนด์”“ก็ได้” หลุยส์คิดแล้วว่ามันก็สมเหตุสมผล จากนั้นเขาก็เดินไปหาคนพวกนั้นและพูดว่า “ฉันจะปล่อยพวกแกไป แต่ต้องบอกฉันเมื่อไหร่ก็ตามที่เฟนด์ติดต่อกลับมา ฉันมีรางวัลให้อย่างน้อยร้อยล้านถ้าเป้าหมายถูกต้อง มันจะถึงหนึ่งพันล้านด้วยซ้ำถ้าข้อมูลพวกนั้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 971

    “พวกเขาจะฆ่านายท่านตระกูลแชฟฟ์แมนของฉันได้ยังไงกัน? บอดี้การ์ดที่ไร้ค่าพวกนั้นไม่สำคัญอะไรหรอกน่า แต่กลับกล้าฆ่าผู้เชี่ยวชาญที่เทียบเท่ากับราชาสงครามระดับหกดาราได้ ฉันจะบอกเรื่องนี้กับครอบครัว” พีซโมโหกับตัวเอง “ฉันต้องบอกพ่อกับคนอื่น ๆ อยู่ดีแม้มันจะทำให้ฉันเสียผู้หญิงสองคนนั้นไป ฉันต้องแก้แค้น!”พีซตัดสินใจขับรถไปคฤหาสน์หลังใหญ่พร้อมกับบอดี้การ์ดอีกหลายคนมันเป็นที่พักของตระกูลแชฟฟ์แมน และคฤหาสน์ที่พีซอาศัยอยู่คือที่ที่เขาจะได้สนุกกับพื้นที่ส่วนตัวนอกจากนี้ยังเป็นที่ที่ได้มีเสวยสุขกับผู้หญิงสวย ๆ ในตอนที่ไม่มีอะไรทำ เขามักจะมีพ่อคอยหนุนเสมอเพราะไม่ชอบทำงานที่ซื่อสัตย์ปกติแล้วตระกูลแชฟฟ์แมนจะเมินเฉย ตราบใดที่พีซไม่ได้ทำอะไรเกินไป“โอ๊ะ นายน้อย! ทำไมคุณกลับมาวันนี้ล่ะ?” สาวใช้คนหนึ่งเดินออกมาทักทายทันทีที่เขาลงมาจากรถพีซเดินไปข้างหน้าสองก้าวและตบก้นของเธอ “นี่มันก็นานแล้วนะจีน หุ่นเธอดีขึ้นนะเนี่ย! ฮ่า ๆ! ไว้ให้ฉันชื่นชมร่างกายเธอหน่อยสิตอนว่าง ๆ ดีไหม?”“ไม่ดี? นายน้อย คุณล้อกันเล่นมากขึ้นนะเนี่ย คุณไม่เคยขาดสาวงามนี่คะ ใช่ไหม? เมื่อไหร่กันที่จำคนอย่างฉันได้?” สาวใช้กลอกตาใส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 972

    ผู้คนที่จะมาเป็นผู้คุ้มกันลับของตระกูลแชฟฟ์แมนมีไม่มาก ผู้คุ้มกันลับส่วนตัวของพวกเขาคือผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริงคนที่มีความแข็งแกร่งเทียบได้กับราชาสงครามสี่หรือห้าดาราถึงจะมีคุณสมบัติที่เป็นผู้คุ้มกันลับของตระกูลแชฟฟ์แมนผู้คุ้มกันลับพวกนี้จะไม่ทำอะไรในตอนที่สถานการณ์ปกติ จะลงมือเมื่อตระกูลแชฟฟ์แมนมีปัญหาหรือโดนคุกคามครั้งใหญ่เท่านั้นอนิจจา มีแค่ผู้คุ้มกันลับแค่โหลเดียวเท่านั้นแม้จะมีพลังในการต่อสู้มากมายก็ตามเมื่อนายใหญ่แชฟฟ์แมนกลับมา เขาก็แอบไม่มีความสุขเมื่อรู้ว่าพีซสั่งให้ผู้คุ้มกันลับออกไปกับเขาทั้งสองคนเขาตัดสินใจที่จะปล่อยเรื่องนี้ไป แต่เพราะพีซคือหลานชายของเขา ผู้หญิงข้างนอกอาจจะจับตามองเขาได้นายท่านแชฟฟ์แมนไม่คิดว่าวันนี้จะมาถึง อย่างไรก็ตาม พีซมาบอกว่าผู้คุ้มกันลับทั้งสองของเขาตายแล้ว“พีซ จริงเหรอ? แกกำลังบอกว่าผู้คุ้มกันลับเราตายแล้วเหรอ?” นายท่ายแชฟฟ์แมนตกใจมาก ทุก ๆ สายตาหันไปมองที่พีซสุดท้ายแล้ว ผู้ที่สามารถฆ่าผู้คุ้มกันลับของตระกูลแชฟฟ์แมนได้ ก็ต้องเป็นคนที่มีความสามารถในการต่อสู้ที่แข็งแกร่งมากแน่นอน ประเด็นสำคัญคือ อีกฝ่ายกล้าฆ่าผู้คุ้มกันลับเมื่อรู้ว่าเป็น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 973

    พีซคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และตั้งข้อสังเกตว่า “ผู้ชายที่ชื่อเฟนด์ และผู้หญิงที่ใส่หน้ากากดูเหมือนจะมีความสามารถ กับผู้หญิงอีกคนที่ชื่อเซเลน่า เหมือนจะเป็นคนธรรมดา บอดี้การ์ดของเราและผู้คุ้มกันลับหลายคนโดนฆ่าโดยชายที่เหมือนจะอายุสี่สิบหรือห้าสิบ เขาคือหัวหน้าผู้บังคับบัญชาของบอดี้การ์ด!”“หัวหน้าผู้บังคับบัญชาบอดี้การ์ด? มีอำนาจขนาดนั้นเลย?” นายใหญ่แชฟฟ์แมนขมวดคิ้วและถามอีกครั้ง “ผู้คุ้มกันลับทั้งสองที่แกพาไปด้วยแข็งแกร่งขนาดไหน?”“ความสามารถในการต่อสู้เทียบได้กับราชาสงครามหกดาราเลยครับ” พีซพูด ใบหน้าของเขามีรอยยิ้มขมขื่นขระพุดต่อ “นั่นเป็นเหตุผลที่ผมประหลาดใจว่าทำไมถึงโดนฆ่าง่าย ๆ อย่างนั้น ผมเดาว่าชายคนนั้นเทียบได้กับราชาสงครามเจ็ดหรือแปดดาราเลย”“แก...” นายใหญ่แชฟฟ์แมนรู้สึกโกรธมากและพูดใส่พีซว่า “ผู้คุ้มกันลับพวกนั้นทรงพลังมาก พระเจ้า คนที่แกไปทำให้ขุ่นเคืองต้องเป็นตระกูลชนชั้นสองแน่ ๆ อย่างน้อย!”“ปู่ ผมก็ไม่ได้ถาม ผมจะรู้ได้ไงว่ามันมีอำนาจขนาดนั้น! เฮ้อ... ทำยังไงดี? ผมแนะนำว่าเราควรจบมันให้เร็วที่สุดไม่งั้นก็ต้องขายขี้หน้า คนอื่น ๆ จะต้องหัวเราะเยาะแน่!” พีซช่วยไม่ได้และพยายามย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 974

    คืนนั้น เซเลน่ารู้สึกกังวลอย่างมาก เธอขมวดคิ้วอย่างเห็นได้ชัดตอนที่นอนกับเฟนด์อยู่บนเตียง “ที่รัก คุณว่าพวกแชฟฟ์แมนจะกลับมาสร้างปัญหาให้เราไหม?”สุดท้าย ตระกูลแชฟฟ์แมนก็แข็งแกร่งกว่าตระกูลคาเลบมาก นี่คือตระกูลชนชั้นสอง และตระกูลชนชั้นสองจากเมืองนางแอ่นก็มีอำนาจมากกว่าตระกูลชนชั้นสองของเมืองเล็ก ๆ อย่างอาณาเขตกลาง“ฮ่า ๆ ! ขึ้นอยู่กับความฉลาดของพวกเขาน่ะสิ ผมอดไม่ได้หรอกถ้าพวกนั้นกล้าพอที่จะมาสร้างปัญหาให้เราในเมื่อรู้อยู่แล้วว่าเรามีผู้เชี่ยวชาญอันแสนจะแข็งแกร่งอยู่ด้วย! ถ้าฉลาดพอ จะไม่มีท่าทีเผด็จการอย่างนั้นหรอก”“สุดท้ายแล้ว เราก็เพิ่งมาถึงเมืองนางแอ่น และผมไม่คิดว่าพวกเขาจะรู้ว่าเราเป็นใคร!” เฟนด์ตอบอย่างเฉยชาพร้อมกับเสียงหัวเราะ“ก็จริง” เซเลน่ายิ้มและวางศีรษะลงบนหน้าอกของเฟนด์ เธอเงยหน้าขึ้นและถามอีกครั้ง “ที่รัก เมื่อไหร่คุณจะไปหาพ่อคะ?”ได้ยินเช่นนั้น เฟนด์ก็ยิ้มแหย “ทีหลังแล้วกัน ผมยังต้องตรวจสอบอย่างอื่นที่นี่อีก ที่รัก ที่นี่มีเกร็ดมังกรปรากฏขึ้นมา แล้วผมก็ค่อนข้างสนใจมัน ผมเลยมีแผนจะตรวจสอบเรื่องนี้โดยละเอียด”“จริงเหรอ? โลกนี้มีเกร็ดมังกรด้วยเหรอเนี่ย?” เซเลน่าขมวดคิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29

บทล่าสุด

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

DMCA.com Protection Status