อย่างไรก็ตาม คำอธิบายของเฟนด์ไม่ได้ทำให้รองเหรัญญิกพอใจมากนัก นั่นเพราะการตอบสนองของเฟนด์ไม่ใช่สิ่งที่รองเหรัญญิกหมายจะรู้ รองเหรัญญิกขมวดคิ้วและอ้าปากตั้งท่าจะถามเฟนด์ให้มากกว่านี้แต่เฟนด์ไม่เปิดโอกาสให้เขาทำเช่นนั้น กลับตอบคำถามเร่งด่วนที่สุดแทน"ผมได้ศึกษามรรคาแห่งโอสถจากอาจารย์ของผม ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมรู้ก็ตกทอดมาให้ผมโดยอาจารย์ของผม“ทำไมผมถึงมาที่นี่ทั้ง ๆ ที่มีปรมาจารย์คอยสั่งสอนอยู่แล้วน่ะหรือ ก็ง่ายมาก อาจารย์ของผมไม่ว่าไปที่ไหนก็ถูกคนริษยาเพราะเขามีความรู้เรื่องมรรคาแห่งโอสถ เมื่อไม่กี่เดือนก่อนเขาถูกฆ่าตาย ผมจึงมาที่นี่เพื่อตามหาฆาตกรคนนั้น และแก้แค้นให้อาจารย์ของตัวเอง”ดวงตาของเฟนด์มืดลงด้วยความเจ็บปวดและความเกลียดชังในขณะที่พูด ราวกับว่ามีคนฆ่าล้างตระกูลของเขาไปแล้วจริง ๆเฟนด์ได้พบกับผู้คนหลายประเภทในช่วงที่ผ่านมา เขาประทับใจกับคนที่เก่งด้านการแสดง นับตั้งแต่เขาถูกส่งไปยังรัฐตอนกลาง เฟนด์ก็ใช้ทักษะการแสดงของเขาอย่างหนักเขารู้สึกว่าท้ายที่สุดเขาก็ต้องการมันนั่นเพราะในรัฐตอนกลางแห่งนี้มีอัจฉริยะมากพรสวรรค์ซ่อนตัวอยู่มากมาย และเขาก็ไม่สามารถเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง
เฟนด์มั่นใจได้ถึงเพียงนั้น จึงไม่แปลกที่เขาจะไม่ต้องการอยู่กับวิมานโอสถอีกต่อไป “ผมรู้ว่าคุณพูดอย่างจริงใจ แต่ผมตั้งเป้าหมายไว้นานแล้ว และผมจะไม่เปลี่ยนใจง่าย ๆ แน่”“ผมต้องไปยังพันธมิตรนักเล่นแร่แปรธาตุแห่งรัฐตอนกลาง ที่นั่นอาจมีอัจฉริยะมากมายที่จะพยายามเบียดบังผม แต่ผมเชื่อว่าความกดดันที่เพิ่มเข้ามาจะทำให้ผมยิ่งมีแรงจูงใจมากขึ้นและสามารถกระตุ้นให้ผมก้าวไปข้างหน้าได้ด้วย”คำพูดที่เด็ดเดี่ยวของเฟนด์ทำให้รองเหรัญญิกผงะ และทำให้ชายคนนั้นงุนงง เขาไม่อยากเห็นเฟนด์จากไป ความสามารถและพรสวรรค์ที่เฟนด์แสดงออกมาเมื่อครู่นี้ทำให้เขาเห็นว่าเฟนด์เป็นอัจฉริยะที่ไม่ควรปล่อยให้หลุดมือไปหากเฟนด์อยู่กับวิมานโอสถ เฟนด์จะต้องนำผลประโยชน์มหาศาลมาให้พวกเขาอย่างไม่ต้องสงสัย จากนั้น ส่วนได้ส่วนเสียของเขาจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก และอาจทำให้เขาได้กลายเป็นผู้อาวุโสในตระกูลก็เป็นได้หลังจากเหลือบมองรองเหรัญญิก เฟนด์เข้าใจทันทีว่าชายผู้นี้จะไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ หลังจากหายใจเข้าลึก ๆ เฟนด์กล่าวต่อว่า "วิมานโอสถช่วยผมไว้มากมาย และผมจะไม่ลืมสิ่งที่พวกคุณทำเพื่อผมอย่างแน่นอน ถ้าผมสร้างชื่อให้ตัวเองในพันธมิตรนักเล่นแร่แ
กิลเบิร์ตแทบจะร้องลั่นขณะประกาศความสำเร็จของเขา และเห็นได้ชัดว่าเขาตื่นเต้นมากแค่ไหน มากจนเขาไม่รู้จะพูดอะไรเลยด้วยซ้ำแต่ทว่ารองเหรัญญิกกลับทำเพียงขมวดคิ้ว สีหน้าของเขาค่อนข้างไร้อารมณ์กิลเบิร์ตมองรองเหรัญญิกด้วยสีหน้าแปลก ๆ และสงสัยว่าเหตุใดรองเหรัญญิกจึงจ้องมองเขาอย่างแปลกประหลาด ราวกับว่าผลลัพธ์ที่เขาได้ไม่คุ้มค่าให้รองเหรัญญิกชายตามองด้วยซ้ำสถานการณ์ทั้งหมดทำให้กิลเบิร์ตประหลาดใจ ปรากฏการณ์ที่เขาสร้างนับว่ายอดเยี่ยมมากจริง ๆ และเหตุใดคนอื่นถึงได้ทำสายตาแปลก ๆ เช่นนั้น? เขาเพิ่งได้ศึกษามรรคาแห่งโอสถเมื่อไม่นานมานี้และประสบความสำเร็จได้ค่อนข้างเร็ว ในวิมานโอสถแห่งนี้ทุก ๆ ห้าหรือหกปีถึงจะพบได้สักคน!แล้วทำไมรองเหรัญญิกถึงมองมาที่เขาอย่างไม่ยินดีปรีดา? ริมฝีปากของกิลเบิร์ตกระตุกขณะที่เขามองเดเมี่ยนสหายรู้ใจของตัวเองทันทีกิลเบิร์ตสังเกตเห็นว่าเดเมี่ยนเองก็มองเขาด้วยสายตาประหลาดเช่นกัน เขาเห็นทั้งความเสียใจและความสงสารในสายตาของเดเมี่ยนด้วยซ้ำกิลเบิร์ตมีสีหน้าบูดบึ้งทันที เขามองดูทุกคนรอบตัวเขาอย่างพินิจพิเคราะห์ขณะที่มือของเขาสั่น “นี่… ทำไมไม่มีใครพูดอะไรเลยล่ะ? ผมผ่านเกณฑ์
ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก มีหลายสิ่งที่เขาไม่อยากใส่ใจที่จะพูด แต่เขาถูกบังคับให้ต้องพูดรองเหรัญญิกชี้ไปยังจุดที่เฟนด์เคยอยู่ก่อนหน้านี้“เฟนด์ทำการควบแน่นอักขระทางยาสามร้อยอักษรเสร็จสิ้นมาระยะหนึ่งแล้ว และคุณภาพของอักขระทางยาที่เขาควบแน่นได้นั้นดีกว่าที่พวกนายสองคนสร้างขึ้นมาก”“อักขระทางยาที่เขาสร้างขึ้นจะผสานเข้ากับโอสถได้อย่างแน่นอนและอีกทั้งมันยังประณีตกว่าห้าในสิบส่วนเสียด้วย”หลังจากที่เขาพูดออกมาเพียงเท่านั้น กิลเบิร์ตและแอนดรูว์ก็กลับมาตั้งสติได้ เฟนด์ทำภารกิจเสร็จสิ้นมาระยะหนึ่งแล้ว และคุณภาพของอักขระทางยาของเขาก็สูงกว่าของพวกเขาเองด้วยหลังจากได้ยินคำอธิบายนั้น แอนดรูว์และกิลเบิร์ตก็ไม่อาจนิ่งเฉยได้“รองเหรัญญิก คุณคิดว่าผมโง่งั้นเหรอ?” กิลเบิร์ตเยาะเย้ย “เด็กสารเลวนี่จะควบแน่นอักขระทางยาได้จริงหรือ? เขาเพิ่งมาอยู่ในวิมานโอสถได้ไม่เท่าไหร่เองไม่ใช่หรือไง?“เขาไม่เคยเห็นโอสถเพลิงสีชาดมาก่อนด้วยซ้ำ แล้วเขาจะควบแน่นอักขระทางยาได้อย่างไร?! เขาหลอกลวงคุณหรือเปล่า?”รองเหรัญญิกเลิกคิ้วแล้วพูดว่า "ฉันรู้ว่ามันยากสำหรับพวกนายทั้งคู่ที่จะยอมรับสิ่งในสิ่งที่ฉันพูดออกไปได้
กิลเบิร์ตไม่เก็บงำอารมณ์อะไรอีกต่อไปแล้วในขณะนั้น จากนั้นเขาถึงได้ตระหนักว่าเหตุใดทุกคนถึงมองเขาแปลก ๆสายตาที่เขาได้รับและการแสดงออกของเหล่าบัณฑิตดูคล้ายกำลังเห็นใจเขากิลเบิร์ตได้สร้างอักขระทางยาขึ้นมาเป็นจำนวนสามร้อยอักษร และทุกคนได้เห็นสิ่งนั้นอย่างชัดเจน เขาจำได้ดีว่าเขาตื่นเต้นเพียงใดหลังจากที่สามารถพิชิตภารกิจที่รองเหรัญญิกมอบให้สำเร็จ แต่ความตื่นเต้นทั้งหมดนั้นกลับได้รับเพียงความผิดหวังราวกับถูกถังน้ำเย็นสาดใส่เป็นการตอบแทน กิลเบิร์ตตัวสั่นเล็กน้อย “ฉันไม่มีทางเชื่อหรอก! ฉันไม่เห็นอะไรเลยสักอย่าง! ทุกอย่างไม่ใช่เรื่องจริง ทุกอย่างเป็นของปลอมทั้งนั้น! เฟนด์จะควบแน่นอักขระทางยาได้ถึงสามร้อยอักษรได้ยังไง เขาไม่เคยเห็นมรรคาแห่งโอสถเลยด้วยซ้ำ นี่ต้องเป็นภาพลวงตาทั้งหมดแน่ และทุกคนกำลังโกหกฉัน!” กิลเบิร์ตคำรามมือของเขาโบกไปซ้ายทีขวาที ใช้มือตะปบไปรอบ ๆ ในขณะที่เขาตะโกนออกมา ดูเหมือนเขาจะเชื่อจนสุดหัวใจว่าทุกอย่างคือภาพลวงตา และเขาพยายามที่จะพาตัวเองให้หลุดพ้นจากภาพลวงตาเหล่านี้ไปเขาปฏิเสธที่จะเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคือเรื่องจริงและไม่เต็มใจที่จะเชื่อเลยแม้แต่น้อย ด้วยทักษะที่
กิลเบิร์ตและแอนดรูว์ไม่มีโอกาสเอาชนะเฟนด์ได้ ซึ่งนั่นทำให้แอนดรูว์กลายเป็นคนที่ต่อต้านอย่างหนักเขาหายใจเข้าลึก ๆ ขณะหันหลังกลับ มองตรงไปที่ดวงตาของเฟนด์ จ้องมองเขาอยู่อย่างนั้นเฟนด์เลิกคิ้วขณะที่เขามองแอนดรูว์และกิลเบิร์ตอย่างเย็นชากิลเบิร์ตชี้ไปที่เขาแล้วพูดกัดฟันว่า "สร้างมันขึ้นมาใหม่! ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่มีทางเชื่อนาย!"เห็นได้ชัดว่าความรู้สึกของกิลเบิร์ตหนักหน่วงและซับซ้อนเพียงใดในขณะนั้น แต่เฟนด์เพียงแต่หัวเราะขณะที่เขาจ้องมองกิลเบิร์ตอย่างเยือกเย็น“นายคิดว่าตัวเองเป็นใคร? แค่เพราะนายบอกให้ฉันทำแปลว่าฉันต้องทำงั้นเหรอ?“ทำไมฉันต้องสนด้วยว่านายจะเชื่อหรือเปล่า รองเหรัญญิกเห็นสิ่งที่ฉันทำแล้ว ทำไมฉันต้องสนด้วยว่าพวกนายสองคนจะเห็นหรือไม่เห็น?!”คำพูดเหล่านั้นหล่นทับกิลเบิร์ตราวกับอุกกาบาตที่ลงมาจากท้องฟ้า และการแสดงออกของกิลเบิร์ตก็มืดมนลงทุกนาที เขารู้สึกเหมือนว่าเขาไม่มีวันเอาชนะเฟนด์ได้หากต้องดวลกันด้วยคำพูดแม้แต่กับการตอบสนองของเฟนด์ก็ยังนับว่าถูกต้อง“ฉันไม่สน! ถ้านายไม่พิสูจน์ตัวเองให้ฉันดู ฉันก็ไม่มีทางยอมรับผลการแข่งขันนี้ แล้วคนที่จะถูกเสนอชื่อก็ยังต้องเป็นฉัน
พวกเขายังคงอยู่ในวิมานโอสถ แม้ว่าเฟนด์จะเอือมระอา แต่เขาไม่อาจฆ่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์ได้ ดังนั้นเขาควรออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด มันจะช่วยให้ปัญหาน้อยลงได้มากเมื่อเขาได้สร้างชื่อให้กับตัวเองและบรรลุเป้าหมายเรียบร้อยแล้ว เขาจะตามหาสองคนนี้อีกครั้ง และพิสูจน์ให้พวกเขาเห็นว่าตัวเขานั้นไม่ใช่คนที่ใครจะดูแคลนได้รองเหรัญญิกรีบพยักหน้า ราวกับเขาเข้าใจว่าทำไมเฟนด์ถึงอยากรีบออกไปจากที่นี่นัก “เราจะออกเดินทางภายในสี่ชั่วโมง เราชักช้าไม่ได้อยู่แล้ว”เมื่อได้ยินคำพูดของรองเหรัญญิก เฟนด์ก็ยิ้มอย่างจริงใจ จะเป็นการดีที่สุดถ้าเขาได้จากไปโดยเร็วที่สุดเขาไม่อยากอยู่ต่อแม้อีกสักวินาที เฟนด์อยากจะบอกรองเหรัญญิกว่าเขาสามารถออกไปได้ทันทีโดยไม่ต้องจัดการอะไรเลยด้วยซ้ำทันใดนั้นประตูห้องรังสีแห่งโอสถก็ถูกกระแทกออก และรองเหรัญญิกก็ขมวดคิ้ว "เข้ามา!"บัณฑิตลำดับที่เก้านั่นเองที่เข้ามา เมื่อเฟนด์เห็นหน้าเขาก็เลิกคิ้วขึ้น เขายังคงจำได้ชัดเจนว่าก่อนหน้านี้บัณฑิตลำดับที่เก้ายังยืนอยู่ด้านหลังรองเหรัญญิกตลอดเวลาด้วยซ้ำแต่เมื่อรองเหรัญญิกได้เห็นอักขระทางยาของเฟนด์เขาจึงได้ส่งบัณฑิตลำดับที่เก้าออกไป ก่อนที่
รองเหรัญญิกจับตาดูผู้คนที่อยู่ข้างหน้าขณะที่เขากล่าวคำเหล่านั้นออกมา ดูจากลักษณะเครื่องแต่งกายของทุกคนแล้ว มีผู้คนที่แต่งตัวเหมือนกันอยู่หลายกลุ่มนั่นก็หมายความว่าเหล่าองค์กร สำนัก และกลุ่มการค้าต่าง ๆ เช่นวิมานโอสถกำลังต้องการเข้าไปเป็นบัณฑิตของสหพันธ์นี้ท้ายที่สุดแล้ว กลุ่มพันธมิตรนักเล่นแร่แปรธาตุแห่งรัฐตอนกลางถือเป็นสหพันธ์ที่ค่อนข้างใหญ่ ที่นี่เป็นดินแดนสวรรค์สำหรับนักเล่นแร่แปรธาตุทุกคนการได้เป็นสมาชิกของสหพันธ์นี้จะทำให้บุคคลดังกล่าวมีสถานะสูงขึ้นอย่างกับติดจรวด และไม่จำเป็นต้องขวนขวายหาทางให้ได้รับการเสนอชื่อเพื่อทำการทดสอบอะไรเลยด้วยซ้ำ พวกเขาสามารถซื้อทรัพยากรจากพันธมิตรนักเล่นแร่แปรธาตุแห่งรัฐตอนกลางในราคาถูกได้อีกด้วยโดยพื้นฐานแล้ว การเข้าร่วมในสหพันธ์พันธมิตรนักเล่นแร่แปรธาตุแห่งรัฐตอนกลางนั้นมีประโยชน์อย่างมาก นั้นเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้คนมารวมตัวกันมากมายขนาดนี้แน่นอนว่า ยิ่งมีผลประโยชน์มากเท่าไร การแข่งขันก็จะยิ่งรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น ที่นี่มีอัจฉริยะมากเกินไป และไม่ง่ายเลยที่จะกอบโกยความนิยมชมชอบจากที่นี่ การสอบเข้าก็ถือว่ายากมากเช่นกันและคนธรรมดาก็ไม่มีวันผ่าน