เฟนด์อาจเป็นผู้นำตำหนักสองกษัตริย์และทำให้พวกเขากลายเป็นสำนักระดับสี่ได้แต่ทว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเฟนด์ค่อนข้างกระท่อนกระแท่น เฟนด์อาจพุ่งเป้ามาที่เขา หากอีกฝ่ายแข็งแกร่งขึ้นในอนาคต และนั่นคงจะไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน เห็นได้ชัดว่าผู้อาวุโสลำดับที่สองก็มีความคิดแบบเดียวกัน นั่นเพราะเฟนด์กับตัวเขานั้นมีเรื่องบาดหมางกันอยู่ก่อน ถ้าเฟนด์มีอำนาจมากขึ้น ตำแหน่งของเขาจะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอนในอนาคตนอกจากนี้ ทักษะและศักยภาพที่เฟนด์แสดงออกนั้นมีความลับซ่อนอยู่ หากเขาจะต้องปกป้องเฟนด์ขึ้นมาจริง ๆ ความกดดันที่เขาจะต้องเผชิญก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ปัญหาก็คือเฟนด์จะเป็นปัญหากับเขาในอนาคตหรือไม่เมื่อผู้อาวุโสลำดับที่สองคิดเช่นนั้น เขาก็ปิดปากเงียบ ปล่อยให้ผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งเป็นคนตัดสินใจ หากผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งต้องการปกป้องเฟนด์ เขาก็จะไม่คัดค้าน หากผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งต้องการจะผลักเฟนด์ออกไป เขาจะไม่โต้เถียงเมื่อผู้อาวุโสก็อดฟรีย์เห็นใบหน้าของพวกเขา เขาก็รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นชายเจ้าเล่ห์สองคนนั้นคิดจะปล่อยเฟนด์ไปจริง ๆ! เฟนด์เป็นศิษย์จากตำหนักสองกษัตริย์ หากผู้อาวุโสอันดับ
ผู้อาวุโสก็อดฟรีย์มีสีหน้ามืดมน “ผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่ง คุณกล้าพูดแบบนั้นออกมาได้โดยไม่อายปากได้ยังไง? คุณคิดว่าพวกเราเป็นเด็กอมมือหรือไง ถ้าเฟนด์ถูกสกายลาร์พาตัวไป เขาจะตาย!“เขาอาจต้องทนทุกข์จากการทรมานที่ไม่มีใครคาดคิด ในฐานะผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งของตำหนักสองกษัตริย์ คุณกำลังช่วยเหลือคนอื่นแทนที่จะยืนเคียงข้างลูกศิษย์ของคุณเอง…”การแสดงออกของผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งกลายเป็นเคร่งขรึม “ผู้อาวุโสลำดับที่สิบเอ็ด คุณไม่ควรพูดอย่างนั้น คุณคิดว่าผมไม่อยากช่วยเฟนด์เหรอ? ในเมื่อเขาทำผิดแล้ว ผมก็ไม่สมควรต้องปกป้องเขา”คำพูดเหล่านั้นไร้สาระโดยสิ้นเชิง และผู้อาวุโสก็อดฟรีย์ก็โกรธมากที่ได้ยินแบบนั้น เขาหันหน้าหนีและตัดสินใจกับตัวเองในใจหากคนเหล่านี้ต้องการส่งเฟนด์ให้กับสกายลาร์ เขาจะปูทางให้เฟนด์หลบหนี แม้ว่าวิธีการนี้ทำให้เขาต้องตาย แต่เขาไม่เต็มใจที่จะต้องทนเห็นศิษย์ของเขาตายเพื่อประโยชน์ของคนพวกนั้น!สกายลาร์หัวเราะเย้ยหยันกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ในขณะนั้น เขารู้ว่าเฟนด์ต้องตายแน่นอน เขาเดินไปข้างหน้าและพูดว่า "ในเมื่อคุณตัดสินใจได้แล้ว ก็ส่งเด็กสารเลวคนนั้นมาให้ผม"ในขณะนั้น สายตาที่มอง
แม้ว่าโพรงย้ายสสารจะถูกเปิดใช้งานแล้ว แต่ก็ยังต้องใช้เวลาระยะหนึ่งกว่าจะใช้งานได้ เฟนด์จึงได้แต่รออย่างสงบ และก็เป็นดังที่เขาคาดไว้ เขาถูกย้ายออกไปก่อนที่สกายลาร์จะโจมตีเขาได้ยินเสียงลมกระโชกแรงพัดผ่านหูของเขา และภาพตรงหน้าก็บิดเบี้ยวอยู่ตลอดเวลา นั่นเป็นสิ่งที่พบเห็นได้จากการย้ายสสารทางไกลเท่านั้นร่างกายที่แข็งทื่อของเฟนด์ไม่สามารถขยับได้เลย ซึ่งนี่ไม่ใช่ความรู้สึกที่ดีนักขณะที่เขากำลังสงสัยว่าเขาจะถูกส่งไปที่ไหน เขาก็ได้ยินเสียงผู้อาวุโสที่คุ้นเคยดังขึ้นอีกครั้งว่า "เธอคือคนที่เหมาะสมที่สุด เพราะฉะนั้นแล้ว ฉันจะขอมอบของขวัญชิ้นสุดท้ายแก่เธอ"เฟนด์รู้สึกอึดอัดกับคำพูดนั้นคลื่นพลังงานอันแรงกล้าทะลุผ่านผิวหนังของเฟนด์และซึมเข้าสู่ร่างกายของเขา สร้างเป็นพลังงานล้นหลามอย่างไม่น่าเชื่อทันทีที่มันเข้าไปในร่างของเฟนด์ เฟนด์ก็รู้ทันทีว่าของขวัญดังกล่าวคือสิ่งใดพลังที่อยู่ในร่างกายของเฟนด์ถูกเรียกว่า รากพลังงานที่แท้จริงรากพลังงานที่แท้จริง เป็นสมบัติล้ำค่าแม้กระทั่งในดินแดนเทพสาบสูญ มันสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งของบุคคลได้โดยไม่มีผลข้างเคียงใด ๆเฟนด์ขาดแคลนสิ่งที่จะช่วยให้เขาเพิ่
“ไม่ต้องห่วง ฉันแจกโอสถไปหมดแล้ว ทุกคนฝากมาขอบคุณคุณด้วย ฉันคงไม่กลับเข้าไปในมัสตาร์ด ซี๊ดอีกหลายวัน ให้ฉันดูแลคุณที่นี่เถอะนะ ไม่อย่างนั้นฉันคงไม่สบายใจ"เฟนด์ถอนหายใจเล็กน้อย บอกตามตรงว่าเขาไม่อยากให้เซเลน่าเตร่ไปกับเขาในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยเช่นนี้ได้เพราะตอนนี้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส และไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสถานที่ที่พวกเขาอยู่ในตอนนี้เลยหากมีอันตรายใด ๆ เกิดขึ้น เขาก็ไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าเขาจะปลอดภัยหรือไม่ ไม่ต้องพูดถึงเซเลน่าเลยเซเลน่าขมวดคิ้วขณะที่เธอศึกษากำลังภายในของเฟนด์ “รากพลังงานที่แท้จริงมีไว้เพื่อเพิ่มระดับการบ่มเพาะของคุณไม่ใช่เหรอ? ทำไมตอนนี้คุณถึงดูเหมือนอยู่ในขั้นต้นของระดับแรกกำเนิดเหมือนฉันเลยล่ะ?”เฟนด์ถอนหายใจในขณะที่เขาอธิบาย "รากพลังงานที่แท้จริงช่วยเพิ่มระดับพลังยุทธของผม จริง ๆ แล้วตอนนี้ผมอยู่ในขั้นสูงสุดระดับแรกกำเนิดแล้ว และอยู่ห่างจากระดับผลึกวสันต์เพียงแค่คืบเดียว“แต่เพราะว่ารากพลังงานที่แท้จริงนั้นมากมายเกินไป อาการบาดเจ็บภายในที่ผมได้รับเป็นสิ่งที่ทำให้ผมต้องตกมาอยู่ในสภาพนี้”เซเลน่าพยักหน้าและกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ทันใดนั้นเองพวกเขาก็ได้ยินเสียงรถ
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เมย์นาร์ดก็ตอบอย่างกังวลใจว่า "ท่านครับ อย่าไปยุ่งกับเขาเลยจะดีกว่า เราไม่รู้ว่าคน ๆ นี้มาจากไหน หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีก เขาอาจจะเป็นอันตรายต่อเราก็ได้"แชนด์เลอร์ถอนหายใจ พยักหน้าเล็ก ๆ ขณะที่จ้องมองเข้าไปในดวงตาของคู่สนทนา “คุณพูดถูก ไม่นานมานี้หุบเขาสนธยาไม่ค่อยปลอดภัยนัก แล้วที่เราเลือกเส้นทางนี้ก็เพราะเรามีเวลาที่กระชั้นพอตัว“แต่ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น อย่างน้อยเราก็มีคนช่วยเราอีกแรง แม้ว่าจิตใจมนุษย์จะเป็นสิ่งที่ยากแท้หยั่งถึง แต่เขาก็ยังเป็นมนุษย์ อันตรายส่วนใหญ่ในหุบเขาสนธยาล้วนมาจากสัตว์อสูร เขาคงไม่สร้างปัญหาอะไรให้เราหรอก”คำอธิบายของแชนด์เลอร์ไม่ได้ทำให้เมย์นาร์ดสงบใจลงได้แต่อย่างใด แต่เมย์นาร์ดก็เข้าใจได้ว่าแชนด์เลอร์ต้องการช่วยเหลือชายคนนั้นมากเพียงใด“นายท่านโปรดคิดเรื่องนี้อีกครั้ง” เมย์นาร์ดยืนกรานโดยยังคงระมัดระวังคำพูดของเขา “แม้ว่าเขาจะเป็นมนุษย์เหมือนเราและอาจไม่ทำอันตรายต่อเรา แต่หากเราพบกับสถานการณ์ที่ยากลำบากเขาอาจจะแทงข้างหลังเราและขโมยข้าวของเราไปก็เป็นได้”แชนด์เลอร์ยกมือขึ้น “ถึงแม้ว่าโลกใบนี้จะมีผู้คนมากมายที่จิตใจคับแคบถึงเพียงนั้น แต่ก
ชายคนนั้นยิ้มอย่างใจดี “คุณ ทำไมคุณถึงอยู่ที่หุบเขาสนธยาได้? คุณถูกศัตรูตามล่าหรือเปล่า?”ในสถานการณ์นั้น ปกติแล้วแชนด์เลอร์จะไม่ถามคำถามที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้กับคนแปลกหน้า แต่เขาค่อนข้างกังวล ดังนั้นเขาจึงไม่ลังเลที่จะถามคำถามเหล่านี้ออกไปเฟนด์ขมวดคิ้ว มีร่องรอยของความไม่ยินดีปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา เขาพยักหน้าให้แชนด์เลอร์ “ไม่มีศัตรูตามผมมาหรอก ผมแค่ได้รับบาดเจ็บขณะบ่มเพาะตนก็เท่านั้น”เฟนด์ไม่ได้โกหก ขณะที่เขาพูดแบบนั้น เฟนด์ก็คว้าไม้เท้าไว้ในมือและเตรียมที่จะถอยห่างจากรถม้าไปเขามองเห็นระดับพลังยุทธของชายในรถม้าแล้ว ทั้งที่อายุเพียงเท่านี้ เขากลับอยู่ในขั้นสูงสุดระดับแรกกำเนิดแล้ว ดูถ้าเขาจะเป็นศิษย์ของสำนักใดสำนักหนึ่ง แม้เขาจะไม่รู้ว่าชายคนดังกล่าวเป็นมิตรหรือศัตรู แต่เฟนด์ก็ไม่ได้วางแผนที่จะผูกมิตรกับใครทั้งนั้นเมื่อมองไปที่เฟนด์ที่กำลังจะผละหนีไป แชนด์เลอร์ก็รีบพูดว่า "ได้โปรดรอก่อน คุณได้รับบาดเจ็บแล้ว ภายในหุบเขาสนธยามีโอกาสที่จะทำให้คุณตายได้มากมายทีเดียว"เฟนด์เลิกคิ้ว ทันใดนั้นเขาก็ได้รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน หลังจากที่ผู้อาวุโสคนนั้นส่งเขามาไกลแสนไกล เขาก็ไม่รู้เลยว่าเ
คำพูดของเฟนด์ทำให้แม้แต่เมย์นาร์ดต้องเบิกตากว้าง คนอื่น ๆ มองดูเฟนด์ด้วยท่าทางอยากรู้อยากเห็น และเฟนด์ก็เม้มริมฝีปากอย่างช่วยไม่ได้โดยปกติเขาจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ แต่ผู้คนที่อยู่ตรงหน้าเขาไม่มีพลังที่น่ากลัวเลย แม้ว่าพวกเขาอยากจะทำอะไรบางอย่างกับเขา พวกเขาก็ไม่อาจหยุดยั้งเฟนด์จากการหลบหนีได้นั่นคือเหตุผลที่เฟนด์ซื่อสัตย์กว่าปกติมาก เมย์นาร์ดก้าวไปข้างหน้าและพินิจพิเคราะห์เฟนด์ราวกับต้องการจะสังเกตให้เห็นบางอย่างจากเครื่องแต่งกายของเฟนด์ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับรัฐเวสต์ เซอร์ซีและบอกอะไรไม่ได้เลยหลังจากนั้นไม่นาน ในที่สุดเขาก็พูดว่า "ก่อนหน้านี้คุณอยู่ที่ไหน?"เฟนด์สงบสติอารมณ์ ไม่ได้คิดจะอธิบายตัวเองด้วยซ้ำ “นี่เป็นครั้งแรกที่ผมมาที่รัฐตอนกลาง”เมย์นาร์ดขมวดคิ้วกับสิ่งนี้และพูดอย่างค่อนข้างไม่สบอารมณ์ว่า "ไม่ต้องห่วงหรอก เราไม่ได้คิดจะทำอะไรคุณสักหน่อย เจ้านายของเราแค่อยากจะเชิญให้คุณไปกับเรา เราแค่ต้องการกำลังคนเพิ่มอีกคนเพราะที่นี่อันตรายมาก ถ้าอยู่ที่นี่เพียงลำพัง คุณอาจจะอยู่ไม่ได้ถึงสองวันด้วยซ้ำ“แต่การที่คุณจะมากับเราโดยที่เราไม่รู้ภูมิหลังของคุณ มันก
เมย์นาร์ดไม่ทันได้โวยวายจนจบประโยค แชนด์เลอร์ก็ขัดจังหวะเขาและพูดว่า "ไม่เป็นไร ไม่มีเหตุผลที่เขาจำเป็นจะต้องบอกทุกอย่างแก่เราอยู่แล้ว เราเป็นแค่เพื่อนร่วมทางที่มีเป้าหมายเดียวกันเท่านั้น คุณกำลังได้รับบาดเจ็บอยู่ มานั่งในรถม้ากับผมสิ คุณจะได้พักฟื้นได้ดียิ่งขึ้น”เมย์นาร์ดรู้สึกหงุดหงิดมากจนร่างกายของเขาสั่นสะท้าน เขาส่ายหน้าเนื่องจากไม่อาจหยุดยั้งเฟนด์ได้หลังจากขึ้นรถม้าแล้ว เฟนด์ก็คุยกับแชนด์เลอร์อยู่พักหนึ่ง ในที่สุดก็รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน รัฐตอนกลางนั้นถือว่าเป็นดินแดนที่ใหญ่มาก และเป็นดินแดนที่ใหญ่ที่สุดในทวีปเฮสเทียดินแดนของรัฐตอนกลางถูกแบ่งแยกอย่างง่าย ๆ มันถูกแบ่งตามพื้นที่อิทธิพลของสำนักต่าง ๆ ตัวอย่างเช่น ทางตอนใต้ของรัฐตอนกลางมีสามสำนัก ดังนั้นมันจึงถูกแบ่งออกเป็นสามดินแดนตำแหน่งปัจจุบันของเฟนด์อยู่ใกล้กับสำนักปักษาสีชาดมากที่สุด ดังนั้นที่นี่จึงถูกเรียกว่าอาณาเขตของสำนักปักษาสีชาดแชนด์เลอร์ดูตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัดขณะที่เขาอธิบายทุกอย่างให้เฟนด์ฟังราวกับเขาดีใจที่ตนเองสามารถแบ่งปันข้อมูลนั้นกับคนอื่น ๆ ได้ มันเป็นวิธีที่ดีสำหรับเขาที่จะแสดงให้เห็นว่าเขามีความรู้มากแ