Share

บทที่ 2367

Author: โมเนโต้
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
การที่รอยซ์สามารถเข้าไปในแหล่งทรัพยากรยุทธต้องห้ามได้ ต้องขอบคุณโอสถที่ใช้เพื่อระงับพลังของเขา รอยซ์ไม่ใช่คนที่อยู่ในระดับแรกกำเนิดธรรมดา ๆ

แม้แต่ศิษย์ที่ถูกเลือกต่างสำนักจากสำนักระดับสี่ด้วยกันอย่างเกรแฮมก็ยังไม่อาจยืนหยัดต่อสู้กับรอยซ์ได้ และเหตุผลส่วนใหญ่ที่สำนักสหัสบรรณพบกับปัญหามากมาย ก็เพราะการที่รอยซ์อยู่ในสำนักวายชนม์นั่นเอง

นอกจากนี้ พวกเขาต่างรู้ดีว่าสำนักวายชนม์มีโอสถที่สามารถระงับความแข็งแกร่งได้ ดังนั้นการจะได้รับหีบปะการังแดงไว้ในมือจะต้องใช้คนที่แข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อเข้าไปในแหล่งทรัพยากรยุทธต้องห้าม

นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมสำนักสหัสบรรณถึงต้องเข้ามาพัวพันกับเรื่องนี้ พวกเขาไม่เพียงแต่เปิดเผยข้อมูลเท่านั้น แต่พวกเขายังมอบบัตรผ่านที่ใช้สำหรับการเข้าพื้นที่อีกด้วย

“เป็นไปไม่ได้! ไม่มีทางหรอก! เธอแข็งแกร่งขนาดนั้นจริง ๆ เหรอ? นี่เธอฆ่ารอยซ์เหรอ?!” ผู้อาวุโสเซเยอร์แทบจะกัดลิ้นตัวเอง

เขาไม่เชื่อว่าเฟนด์จะแข็งแกร่งถึงขนาดนั้น พวกเขาเคยเห็นเฟนด์ต่อสู้มาก่อน แม้ว่าเฟนด์จะชนะการต่อสู้มามาสองสามครั้ง แต่เขาก็ยังห่างไกลจากคนอย่างรอยซ์ หากรอยซ์คิดจะเอาชนะเวสลีย์ เขาอาจโจมตีด้ว
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2368

    เนลสันส่ายหัวเล็กน้อยขณะที่เขามองเฟนด์อย่างช่วยไม่ได้ เฟนด์ถูกบีบให้ต้อนเข้าไปอยู่ในสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกแล้วเฟนด์จะต้องมอบหีบปะการังแดงให้อีกฝ่ายหากเขาต้องการมีชีวิตอยู่ ดูเหมือนว่าหีบปะการังแดงจะมีคุณค่าอย่างเหลือเชื่อ"ฉันไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเฟนด์ แต่ในเมื่อเขาฆ่ารอยซ์ได้ สำนักวายชนม์ย่อมไม่อยากจะปล่อยเขาออกไปอยู่แล้ว แต่ตราบใดที่เฟนด์มีหัวคิด เขาก็น่าจะไม่เป็นไร!"ขณะที่เขาพูดอย่างนั้น สกายลาร์ก็พุ่งตัวเข้าหาเฟนด์แล้ว แต่ทว่าในขณะที่เขารีบวิ่งไป เซย์น และคนอื่น ๆ ก็ทำเช่นเดียวกันโดยวิ่งเข้าขวางเขาเอาไว้แน่นอนว่าพวกเขาไม่เต็มใจที่จะยอมให้หีบปะการังแดงตกไปอยู่ในมือของอีกฝ่ายสกายลาร์หัวเราะออกมาอย่างเย็นชา “เลิกทำตัวเป็นคนชอบธรรมได้แล้วเซย์น หีบปะการังแดงอยู่ในมือของเด็กสารเลวนั่น และคุณก็แค่อยากจะปกป้องหีบ ไม่ใช่เขา”เซย์นหัวเราะเล็กน้อย โดยปฏิเสธคำพูดเหล่านั้น “หีบปะการังแดงเป็นของเฟนด์แล้ว และเขาสามารถมอบให้ใครก็ได้ที่เขาต้องการ ศิษย์ของคุณไม่มีสิทธิ์ได้รับหีบปะการังแดงเพราะงั้นคุณก็ไม่มีเหตุผลให้ต้องตีอกชกหัวตัวเอง”สกายลาร์หรี่ตามองเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาอ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2369

    เฟนด์อาจเป็นผู้นำตำหนักสองกษัตริย์และทำให้พวกเขากลายเป็นสำนักระดับสี่ได้แต่ทว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเฟนด์ค่อนข้างกระท่อนกระแท่น เฟนด์อาจพุ่งเป้ามาที่เขา หากอีกฝ่ายแข็งแกร่งขึ้นในอนาคต และนั่นคงจะไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน เห็นได้ชัดว่าผู้อาวุโสลำดับที่สองก็มีความคิดแบบเดียวกัน นั่นเพราะเฟนด์กับตัวเขานั้นมีเรื่องบาดหมางกันอยู่ก่อน ถ้าเฟนด์มีอำนาจมากขึ้น ตำแหน่งของเขาจะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอนในอนาคตนอกจากนี้ ทักษะและศักยภาพที่เฟนด์แสดงออกนั้นมีความลับซ่อนอยู่ หากเขาจะต้องปกป้องเฟนด์ขึ้นมาจริง ๆ ความกดดันที่เขาจะต้องเผชิญก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ปัญหาก็คือเฟนด์จะเป็นปัญหากับเขาในอนาคตหรือไม่เมื่อผู้อาวุโสลำดับที่สองคิดเช่นนั้น เขาก็ปิดปากเงียบ ปล่อยให้ผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งเป็นคนตัดสินใจ หากผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งต้องการปกป้องเฟนด์ เขาก็จะไม่คัดค้าน หากผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งต้องการจะผลักเฟนด์ออกไป เขาจะไม่โต้เถียงเมื่อผู้อาวุโสก็อดฟรีย์เห็นใบหน้าของพวกเขา เขาก็รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นชายเจ้าเล่ห์สองคนนั้นคิดจะปล่อยเฟนด์ไปจริง ๆ! เฟนด์เป็นศิษย์จากตำหนักสองกษัตริย์ หากผู้อาวุโสอันดับ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2370

    ผู้อาวุโสก็อดฟรีย์มีสีหน้ามืดมน “ผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่ง คุณกล้าพูดแบบนั้นออกมาได้โดยไม่อายปากได้ยังไง? คุณคิดว่าพวกเราเป็นเด็กอมมือหรือไง ถ้าเฟนด์ถูกสกายลาร์พาตัวไป เขาจะตาย!“เขาอาจต้องทนทุกข์จากการทรมานที่ไม่มีใครคาดคิด ในฐานะผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งของตำหนักสองกษัตริย์ คุณกำลังช่วยเหลือคนอื่นแทนที่จะยืนเคียงข้างลูกศิษย์ของคุณเอง…”การแสดงออกของผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งกลายเป็นเคร่งขรึม “ผู้อาวุโสลำดับที่สิบเอ็ด คุณไม่ควรพูดอย่างนั้น คุณคิดว่าผมไม่อยากช่วยเฟนด์เหรอ? ในเมื่อเขาทำผิดแล้ว ผมก็ไม่สมควรต้องปกป้องเขา”คำพูดเหล่านั้นไร้สาระโดยสิ้นเชิง และผู้อาวุโสก็อดฟรีย์ก็โกรธมากที่ได้ยินแบบนั้น เขาหันหน้าหนีและตัดสินใจกับตัวเองในใจหากคนเหล่านี้ต้องการส่งเฟนด์ให้กับสกายลาร์ เขาจะปูทางให้เฟนด์หลบหนี แม้ว่าวิธีการนี้ทำให้เขาต้องตาย แต่เขาไม่เต็มใจที่จะต้องทนเห็นศิษย์ของเขาตายเพื่อประโยชน์ของคนพวกนั้น!สกายลาร์หัวเราะเย้ยหยันกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ในขณะนั้น เขารู้ว่าเฟนด์ต้องตายแน่นอน เขาเดินไปข้างหน้าและพูดว่า "ในเมื่อคุณตัดสินใจได้แล้ว ก็ส่งเด็กสารเลวคนนั้นมาให้ผม"ในขณะนั้น สายตาที่มอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2371

    แม้ว่าโพรงย้ายสสารจะถูกเปิดใช้งานแล้ว แต่ก็ยังต้องใช้เวลาระยะหนึ่งกว่าจะใช้งานได้ เฟนด์จึงได้แต่รออย่างสงบ และก็เป็นดังที่เขาคาดไว้ เขาถูกย้ายออกไปก่อนที่สกายลาร์จะโจมตีเขาได้ยินเสียงลมกระโชกแรงพัดผ่านหูของเขา และภาพตรงหน้าก็บิดเบี้ยวอยู่ตลอดเวลา นั่นเป็นสิ่งที่พบเห็นได้จากการย้ายสสารทางไกลเท่านั้นร่างกายที่แข็งทื่อของเฟนด์ไม่สามารถขยับได้เลย ซึ่งนี่ไม่ใช่ความรู้สึกที่ดีนักขณะที่เขากำลังสงสัยว่าเขาจะถูกส่งไปที่ไหน เขาก็ได้ยินเสียงผู้อาวุโสที่คุ้นเคยดังขึ้นอีกครั้งว่า "เธอคือคนที่เหมาะสมที่สุด เพราะฉะนั้นแล้ว ฉันจะขอมอบของขวัญชิ้นสุดท้ายแก่เธอ"เฟนด์รู้สึกอึดอัดกับคำพูดนั้นคลื่นพลังงานอันแรงกล้าทะลุผ่านผิวหนังของเฟนด์และซึมเข้าสู่ร่างกายของเขา สร้างเป็นพลังงานล้นหลามอย่างไม่น่าเชื่อทันทีที่มันเข้าไปในร่างของเฟนด์ เฟนด์ก็รู้ทันทีว่าของขวัญดังกล่าวคือสิ่งใดพลังที่อยู่ในร่างกายของเฟนด์ถูกเรียกว่า รากพลังงานที่แท้จริงรากพลังงานที่แท้จริง เป็นสมบัติล้ำค่าแม้กระทั่งในดินแดนเทพสาบสูญ มันสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งของบุคคลได้โดยไม่มีผลข้างเคียงใด ๆเฟนด์ขาดแคลนสิ่งที่จะช่วยให้เขาเพิ่

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2372

    “ไม่ต้องห่วง ฉันแจกโอสถไปหมดแล้ว ทุกคนฝากมาขอบคุณคุณด้วย ฉันคงไม่กลับเข้าไปในมัสตาร์ด ซี๊ดอีกหลายวัน ให้ฉันดูแลคุณที่นี่เถอะนะ ไม่อย่างนั้นฉันคงไม่สบายใจ"เฟนด์ถอนหายใจเล็กน้อย บอกตามตรงว่าเขาไม่อยากให้เซเลน่าเตร่ไปกับเขาในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยเช่นนี้ได้เพราะตอนนี้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส และไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสถานที่ที่พวกเขาอยู่ในตอนนี้เลยหากมีอันตรายใด ๆ เกิดขึ้น เขาก็ไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าเขาจะปลอดภัยหรือไม่ ไม่ต้องพูดถึงเซเลน่าเลยเซเลน่าขมวดคิ้วขณะที่เธอศึกษากำลังภายในของเฟนด์ “รากพลังงานที่แท้จริงมีไว้เพื่อเพิ่มระดับการบ่มเพาะของคุณไม่ใช่เหรอ? ทำไมตอนนี้คุณถึงดูเหมือนอยู่ในขั้นต้นของระดับแรกกำเนิดเหมือนฉันเลยล่ะ?”เฟนด์ถอนหายใจในขณะที่เขาอธิบาย "รากพลังงานที่แท้จริงช่วยเพิ่มระดับพลังยุทธของผม จริง ๆ แล้วตอนนี้ผมอยู่ในขั้นสูงสุดระดับแรกกำเนิดแล้ว และอยู่ห่างจากระดับผลึกวสันต์เพียงแค่คืบเดียว“แต่เพราะว่ารากพลังงานที่แท้จริงนั้นมากมายเกินไป อาการบาดเจ็บภายในที่ผมได้รับเป็นสิ่งที่ทำให้ผมต้องตกมาอยู่ในสภาพนี้”เซเลน่าพยักหน้าและกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ทันใดนั้นเองพวกเขาก็ได้ยินเสียงรถ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2373

    เมื่อได้ยินเช่นนี้ เมย์นาร์ดก็ตอบอย่างกังวลใจว่า "ท่านครับ อย่าไปยุ่งกับเขาเลยจะดีกว่า เราไม่รู้ว่าคน ๆ นี้มาจากไหน หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีก เขาอาจจะเป็นอันตรายต่อเราก็ได้"แชนด์เลอร์ถอนหายใจ พยักหน้าเล็ก ๆ ขณะที่จ้องมองเข้าไปในดวงตาของคู่สนทนา “คุณพูดถูก ไม่นานมานี้หุบเขาสนธยาไม่ค่อยปลอดภัยนัก แล้วที่เราเลือกเส้นทางนี้ก็เพราะเรามีเวลาที่กระชั้นพอตัว“แต่ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น อย่างน้อยเราก็มีคนช่วยเราอีกแรง แม้ว่าจิตใจมนุษย์จะเป็นสิ่งที่ยากแท้หยั่งถึง แต่เขาก็ยังเป็นมนุษย์ อันตรายส่วนใหญ่ในหุบเขาสนธยาล้วนมาจากสัตว์อสูร เขาคงไม่สร้างปัญหาอะไรให้เราหรอก”คำอธิบายของแชนด์เลอร์ไม่ได้ทำให้เมย์นาร์ดสงบใจลงได้แต่อย่างใด แต่เมย์นาร์ดก็เข้าใจได้ว่าแชนด์เลอร์ต้องการช่วยเหลือชายคนนั้นมากเพียงใด“นายท่านโปรดคิดเรื่องนี้อีกครั้ง” เมย์นาร์ดยืนกรานโดยยังคงระมัดระวังคำพูดของเขา “แม้ว่าเขาจะเป็นมนุษย์เหมือนเราและอาจไม่ทำอันตรายต่อเรา แต่หากเราพบกับสถานการณ์ที่ยากลำบากเขาอาจจะแทงข้างหลังเราและขโมยข้าวของเราไปก็เป็นได้”แชนด์เลอร์ยกมือขึ้น “ถึงแม้ว่าโลกใบนี้จะมีผู้คนมากมายที่จิตใจคับแคบถึงเพียงนั้น แต่ก

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2374

    ชายคนนั้นยิ้มอย่างใจดี “คุณ ทำไมคุณถึงอยู่ที่หุบเขาสนธยาได้? คุณถูกศัตรูตามล่าหรือเปล่า?”ในสถานการณ์นั้น ปกติแล้วแชนด์เลอร์จะไม่ถามคำถามที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้กับคนแปลกหน้า แต่เขาค่อนข้างกังวล ดังนั้นเขาจึงไม่ลังเลที่จะถามคำถามเหล่านี้ออกไปเฟนด์ขมวดคิ้ว มีร่องรอยของความไม่ยินดีปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา เขาพยักหน้าให้แชนด์เลอร์ “ไม่มีศัตรูตามผมมาหรอก ผมแค่ได้รับบาดเจ็บขณะบ่มเพาะตนก็เท่านั้น”เฟนด์ไม่ได้โกหก ขณะที่เขาพูดแบบนั้น เฟนด์ก็คว้าไม้เท้าไว้ในมือและเตรียมที่จะถอยห่างจากรถม้าไปเขามองเห็นระดับพลังยุทธของชายในรถม้าแล้ว ทั้งที่อายุเพียงเท่านี้ เขากลับอยู่ในขั้นสูงสุดระดับแรกกำเนิดแล้ว ดูถ้าเขาจะเป็นศิษย์ของสำนักใดสำนักหนึ่ง แม้เขาจะไม่รู้ว่าชายคนดังกล่าวเป็นมิตรหรือศัตรู แต่เฟนด์ก็ไม่ได้วางแผนที่จะผูกมิตรกับใครทั้งนั้นเมื่อมองไปที่เฟนด์ที่กำลังจะผละหนีไป แชนด์เลอร์ก็รีบพูดว่า "ได้โปรดรอก่อน คุณได้รับบาดเจ็บแล้ว ภายในหุบเขาสนธยามีโอกาสที่จะทำให้คุณตายได้มากมายทีเดียว"เฟนด์เลิกคิ้ว ทันใดนั้นเขาก็ได้รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน หลังจากที่ผู้อาวุโสคนนั้นส่งเขามาไกลแสนไกล เขาก็ไม่รู้เลยว่าเ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2375

    คำพูดของเฟนด์ทำให้แม้แต่เมย์นาร์ดต้องเบิกตากว้าง คนอื่น ๆ มองดูเฟนด์ด้วยท่าทางอยากรู้อยากเห็น และเฟนด์ก็เม้มริมฝีปากอย่างช่วยไม่ได้โดยปกติเขาจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ แต่ผู้คนที่อยู่ตรงหน้าเขาไม่มีพลังที่น่ากลัวเลย แม้ว่าพวกเขาอยากจะทำอะไรบางอย่างกับเขา พวกเขาก็ไม่อาจหยุดยั้งเฟนด์จากการหลบหนีได้นั่นคือเหตุผลที่เฟนด์ซื่อสัตย์กว่าปกติมาก เมย์นาร์ดก้าวไปข้างหน้าและพินิจพิเคราะห์เฟนด์ราวกับต้องการจะสังเกตให้เห็นบางอย่างจากเครื่องแต่งกายของเฟนด์ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับรัฐเวสต์ เซอร์ซีและบอกอะไรไม่ได้เลยหลังจากนั้นไม่นาน ในที่สุดเขาก็พูดว่า "ก่อนหน้านี้คุณอยู่ที่ไหน?"เฟนด์สงบสติอารมณ์ ไม่ได้คิดจะอธิบายตัวเองด้วยซ้ำ “นี่เป็นครั้งแรกที่ผมมาที่รัฐตอนกลาง”เมย์นาร์ดขมวดคิ้วกับสิ่งนี้และพูดอย่างค่อนข้างไม่สบอารมณ์ว่า "ไม่ต้องห่วงหรอก เราไม่ได้คิดจะทำอะไรคุณสักหน่อย เจ้านายของเราแค่อยากจะเชิญให้คุณไปกับเรา เราแค่ต้องการกำลังคนเพิ่มอีกคนเพราะที่นี่อันตรายมาก ถ้าอยู่ที่นี่เพียงลำพัง คุณอาจจะอยู่ไม่ได้ถึงสองวันด้วยซ้ำ“แต่การที่คุณจะมากับเราโดยที่เราไม่รู้ภูมิหลังของคุณ มันก

Latest chapter

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

DMCA.com Protection Status