เฟนด์เลิกคิ้วเล็กน้อยขณะที่เขาพูดว่า "แม้ว่าอสรพิษแปดหางจะแข็งแกร่งถึงขนาดนี้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเอาชนะไม่ได้ ถ้าคุณพร้อมแล้ว ก็ไปกันเลย"เมื่อได้ยินคำพูดของเฟนด์ เกรแฮมก็มีสีหน้าบูดบึ้ง เขารู้สึกว่าเฟนด์กำลังเสแสร้งอยู่ และคำพูดของเฟนด์ฟังดูดาษดื่นเกินไป เขารู้สึกราวกับว่าเฟนด์กำลังวางอำนาจ ใบหน้าของเกรแฮมเข้มขึ้นเล็กน้อย และเขานึกเพียงอยากจะตอกหน้าเฟนด์ให้หงายเขาอยากให้เฟนด์หยุดทำเหมือนเขาเก่งที่สุด แต่เขาก็รู้ดีว่าเฟนด์คงไม่ยอมฟังเฉย ๆ แน่ และอีกฝ่ายก็ต้องโต้กลับอย่างแน่นอนหากเกิดสถานการณ์น่าอึดอัดขึ้นระหว่างพวกเขา ความเป็นพันธมิตรที่พวกเขาสร้างขึ้นก็จะแหลกสลายไป เกรแฮมจึงได้แต่ระงับความโกรธเคืองของเขาเอาไว้ในขณะที่เขาเดินไปหาอสรพิษปีศาจแปดหางพร้อมกับเฟนด์ชายสวมหน้ากากและคนอื่น ๆ เห็นว่าเฟนด์เคลื่อนไหวแล้ว และทำได้แค่มองด้วยตาที่เบิกกว้างเท่านั้น ความโกรธของชายสวมหน้ากากเริ่มกดดันขึ้นอีกก่อนหน้านี้เพียงครู่เดียว เขารู้สึกไม่สบอารมณ์เป็นอย่างยิ่งที่ถูกเฟนด์และคนอื่น ๆ หัวเราะเยาะ และนึกแต่อยากจะมุดดินหนีในทางกลับกันซาเมียนก็รับรู้ได้ว่าอะไรที่ทำให้ชายสวมหน้ากากอึดอัดจึงรีบเริ
ชายสวมหน้ากากโกรธจนนั่งไม่อยู่ แม้ว่าร่างกายจะไม่อำนวยให้ต่อสู้ แต่เขาก็อยากจะต่อสู้กับศิษย์จากฝั่งเหนือชนิดให้ตายกันไปข้างอนิจจา เขายังไม่หายจากอาการบาดเจ็บและแทบลุกขึ้นไม่ไหวด้วยซ้ำเหล่าศิษย์ที่อยู่ข้าง ๆ รีบช่วยพยุงชายสวมหน้ากากให้ลุกขึ้น ซาเมียนพยายามปลอบเขาว่า"อย่าโกรธไปเลย นี่ก็เป็นแค่คำพูดพล่อย ๆ ของพวกกระจอกเท่านั้น ถ้าคุณไม่ได้รับบาดเจ็บแบบนี้ พวกเขาไม่กล้าพูดแบบนี้หรอก ท้ายที่สุดเมื่อคุณหายดีแล้ว ค่อยแสดงให้เขาเห็นว่าใครกันแน่ที่ยิ่งใหญ่กว่ากัน!"ชายสวมหน้ากากโกรธจนสั่นไปทั้งตัว ความโกรธของเขาเดือดพล่านอยู่ในใจจนถึงกับต้องกระอักเลือดออกมาหนึ่งหนริมฝีปากของเฟนด์กระตุกเมื่อเห็นภาพนั้นแม้ว่าชายสวมหน้ากากจะแข็งแกร่งและมีความสามารถอย่างไม่น่าเชื่อ แต่จิตใจของเขาค่อนข้างอ่อนแอ เพียงคำพูดไม่กี่คำก็สามารถทำให้เขากระอักเลือดด้วยความโกรธได้แล้ว ตอนนี้เขาอ่อนแอเกินไปขณะที่ความคิดของเฟนด์ลอยละล่องไป พลังงานอันหนาแน่นก็ปกคลุมร่างกายของเขาทันที เขาหันหน้าไปมองเกรแฮมที่อยู่ข้าง ๆ เห็นว่าสีหน้าของเกรแฮมก็เปลี่ยนไปเช่นกันก่อนที่พวกเขาจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น วิสัยทัศน์ของพวกเขาก็พร่า
เฟนด์หลีกเลี่ยงการโจมตีของอสรพิษปีศาจแปดหางได้สำเร็จ และดูเหมือนว่านั่นจะกระตุ้นจิตวิญญาณนักสู้ของอสรพิษแปดหางขึ้น มันยิ่งเคลื่อนตัวเร็วขึ้นอีก ความฉุนเฉียวฉายผ่านดวงตาของมันนี่เป็นครั้งแรกที่เฟนด์ได้เห็นความโกรธผุดขึ้นในดวงตาของสัตว์อสูร ในตอนนั้นเขาไม่รู้เลยว่าทำไมอสรพิษตัวนี้ถึงได้...โกรธเกี้ยวขนาดนี้แน่นอนว่าอสรพิษแปดหางไม่ได้ให้คำตอบแก่เฟนด์ขณะที่อสรพิษปีศาจแปดหางเงยหางขึ้นและโจมตีเขาด้วยความเร็วที่บางคนมองไม่ทัน เสียงแหลมก็ดังกระทบหูของเฟนด์การโจมตีอย่างต่อเนื่องและไม่มีวันจบสิ้นทำให้เฟนด์ปวดหัวอย่างหนัก ในขณะนั้นเขาจึงตระหนักได้เหตุใดชายสวมหน้ากากจึงได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงเพียงนั้นการโจมตีด้วยหางของอสรพิษแปดหางไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะสามารถต้านทานได้ นอกจากนี้ อสรพิษแปดหางยังดูเชี่ยวชาญในการต่อสู้อย่างไม่น่าเชื่ออีกด้วย การโจมตีแต่ละครั้งล้วนเป็นการโจมตีที่รุนแรงแม้แต่พระเจ้าก็ไม่อาจต้านทานการโจมตีที่ไม่หยุดยั้งของมันได้!เฟนด์สูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ขณะที่เขาคร่ำครวญในใจ หากเขาไม่มีความทรงจำที่ได้จากเหล่าผู้อาวุโส เขาก็อาจจะไม่สามารถผ่านด่านทดสอบนี้ไปได้นั่นก็เพราะอสรพิ
“ฉันรู้ว่าหมอนั่นมีปัญหาเกี่ยวกับสมอง!”ในขณะนั้นเฟนด์ยกดาบสีดำขึ้นและปล่อยการโจมตีไปทางด้านหลังของอสรพิษปีศาจแปดหาง ท่ามกลางสายตาของทุกคนที่เฝ้ามอง สีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนเป็นความสับสนบางคนรู้สึกราวกับว่าเฟนด์รู้น้อยเกินไป เขาไม่รู้หรือว่าสัตว์อสูรอย่างอสรพิษปีศาจแปดหางซึ่งมีความแข็งแกร่งในการป้องกันและความแข็งแกร่งทางด้านกายภาพ มีการป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดอยู่ที่ด้านหลัง?เขาคิดว่าการโจมตีของเขาแข็งแกร่งจนถึงขนาดที่สามารถเจาะทะลุการป้องกันของอสรพิษปีศาจแปดหางได้อย่างนั้นหรือ?คราวนี้ แม้แต่คนจากสำนักทางเหนือที่ศรัทธาในตัวเฟนด์ก็ถึงกับพูดไม่ออกเช่นกัน“เฟนด์คิดจะทำอะไรกันแน่? ทำไมเขาต้องเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงด้วยกันโจมตีหลังอสรพิษแปดหางแบบนั้น! นี่จะไม่เป็นการสิ้นเปลืองพลังงานที่แท้จริงของเขาไปอย่างเปล่าประโยชน์หรอกหรือ?”ความสับสนของพวกเขาปรากฏเด่นชัดในคำถามการกระทำของเฟนด์นั้นนับว่ายากจะเข้าใจอย่างไม่ต้องสงสัยอิเซยาห์จับมือของเนลสันแน่นมากเท่าที่จะทำได้ จากนั้นเขาก็พูดกับเนลสัน ด้วยน้ำเสียงที่ลดต่ำลง “คุณคิดว่าเฟนด์กำลังทำอะไรอยู่ ผมรู้ว่าเขามีความคิดเห็นเฉพาะตัวในเรื่องต
ในขณะนั้นทุกคนต่างก็พากันคิดว่าเฟนด์เป็นคนไร้สมองเช่นนั้นจริง ๆ เฟนด์สูดลมหายใจเข้าปอดอีกครั้งในขณะที่ร่ายผนึกมือสองสามครั้ง ก่อนเปิดใช้งานกฎแห่งสุญญะอย่างเต็มขีดจำกัดเขาย้ายจากการลอยตัวอยู่ด้านหลังของอสรพิษแปดหาง ไปปรากฏตัวต่อหน้ามันอย่างกะทันหัน ซึ่งทำให้อสรพิษปีศาจแปดหางประหลาดใจเป็นอย่างยิ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาอสรพิษปีศาจแปดหางโจมตีเฟนด์ด้วยความคิดที่ว่าชายหนุ่มเป็นคนไม่มีสมองมาโดยตลอด มันไม่คาดคิดเลยว่าจู่ ๆ เฟนด์จะมาปรากฏตัวต่อหน้ามันเช่นนี้เฟนด์หรี่ตาลง จิตใจของเฟนด์ปั่นป่วนอย่างหนักขณะที่ดวงตาของเขาจับจ้องไปยังบริเวณใต้หน้าผากของมันเฟนด์คำรามเสียงต่ำ “ต่ำกว่าหัวงูไปสองเมตร! จุดอ่อนของมันน่าจะอยู่ตรงนั้น!”ทันทีที่เขาพูดจบ เขาก็พุ่งตัวไปข้างหน้าราวกับกระสุนที่พุ่งออกจากรังปืนและมุ่งหน้าไปยังตำแหน่งที่เขามั่นหมายไว้ ในขณะนั้น จิตใจของเขาว่างเปล่า ไม่แม้แต่จะสงสัยว่าอสรพิษปีศาจแปดหางจะล่วงรู้ถึงเป้าหมายของเขาหรือไม่มือของเขาร่ายผนึกขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่แสงแสงสีดำอมเทาเปล่งประกายจากฝ่ามือ ก่อนที่เขาจะสร้างดาบวิญญาณจำนวนสามสิบห้าเล่มหลอมรวมเท่ากับดาบสีดำในมืออย่างรวดเร็ว
เขายังคงได้ยินเสียงคำรามอันเจ็บปวดของอสรพิษแปดหางดังก้องอยู่ในหู มือของเฟนด์สั่นเทา หลงลืมความเจ็บปวดที่ได้รับจากการถูกหางของมันฟาดไปชั่วขณะ กลับกัน เขามองดูอสรพิษปีศาจแปดหางที่กำลังดิ้นรนอยู่เช่นนั้นทักษะทลายห้วงสุญญะได้ทำลายวิญญาณของอสรพิษปีศาจแปดหางส่วนใหญ่ไปแล้ว มันสูญเสียสัมปชัญญะและทำได้เพียงต่อสู้กับสัญชาตญาณของตัวมันเองเท่านั้นขณะการดิ้นรนเพื่อหวังเอาชีวิตรอดของมันหยุดลง เสียงคำรามสุดท้ายของมันดังสนั่นเต็มสองหูของเฟนด์ แต่ทว่าเฟนด์ไม่ได้ยกมือขึ้นปิดหูตัวเอง และเอาแต่เบิกตากว้างจ้องมองไปยังอสรพิษปีศาจแปดหางตรงหน้าหลังจากดิ้นรนอยู่พักหนึ่ง ในที่สุดวิญญาณของอสรพิษปีศาจแปดหางก็ดับลงอย่างสมบูรณ์ เสียงคำรามของมันเงียบหายไป ขณะที่ผู้ชมด้านนอกได้แต่ตกตะลึงอสรพิษปีศาจแปดหางขนาดยักษ์ร่วงหล่นลงกับพื้นภายใต้สายตาของทุกคนด้วยเสียงดังปัง ร่างมหึมาของมันทำให้พื้นสั่นสะเทือน ฝุ่นละอองคลุ้งตลบบดบังทัศนวิสัยของทุกคน ในขณะนั้น ทุกคนได้แต่อ้าปากค้างอย่างพูดไม่ออกความจริงแล้ว การต่อสู้นี้ไม่ได้กินเวลาไปมากเท่าไหร่ ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ยังไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่ามันเกิดอะไรขึ้น แม้ว่าการโจมตีคร
หลังจากพูดจบเขาก็ส่ายหน้าและถอนหายใจ เขารู้สึกว่าช่องว่างระหว่างเขากับเฟนด์กว้างขึ้นเรื่อย ๆ ในตอนแรก เบนจามินก็คิดว่าการกระทำของเฟนด์นั้นน่าหัวเราะ และไร้ซึ่งประสบการณ์ไม่ว่าอีกฝ่ายจะแข็งแกร่งแค่ไหน อีกฝ่ายก็อาจมีช่วงเวลาแห่งความล้มเหลวบ้าง แต่ดูเหมือนว่าความคิดที่ว่าเฟนด์ขาดประสบการณ์นั้นจะเป็นเพียงเพราะเขาไม่รู้จักเฟนด์ดีพอเท่านั้นศิษย์สำนักทางเหนือต่างชื่นชมเฟนด์อย่างสุดซึ้งแม้จะยังประหลาดใจก็ตาม พวกเขายังสงบสติอารมณ์เอาไว้ได้ นั่นก็เพราะพวกเขาอยู่ฝั่งเดียวกับเฟนด์ แต่ทว่าสำนักวายชนม์นั้นแตกต่างออกไปศิษย์ของสำนักวายชนม์มีสีหน้าหดหู่ มือของชายสวมหน้ากากกำแน่น ยิ่งเขาออกแรงมากเพียงใดกล้ามเนื้อของเขาก็ยิ่งปูดโปนมากขึ้นเท่านั้น ในขณะนั้นเขารู้สึกราวกับถูกตบหน้าฉาดใหญ่แม้แต่เนลสันก็ยังมองสิ่งที่เกิดขึ้นออก นับประสาอะไรกับชายสวมหน้ากากเขาย่อมต้องมองออกว่าการกระทำของเฟนด์เป็นเพียงการหลอกล่อสรพิษปีศาจแปดหาง เพื่อปิดกั้นการโจมตีครั้งสุดท้ายของเขาถ้าสิ่งที่เขาทำหมายความว่าเฟนด์ด้อยประสบการณ์ คนอื่น ๆ ก็คงจะแย่ยิ่งกว่านั้น!เฟนด์เข้าโจมตีด้วยวิธีที่เป็นเอกลักษณ์! หากชายสวมหน้ากากไม
คำพูดสุดท้ายของเลนนอนฟังดูราวกับหินก้อนใหญ่ที่ถูกโยนลงในทะเลสาบที่เงียบสงบ ทุกคนตกตะลึงเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น และมีสีหน้าเหมือนอยากจะตายใบหน้าของซาเมียนซีดลง มีเส้นเลือดปรากฏขึ้นบนดวงตาของเขา "เลนนอน… คุณจะไม่พูดเกินจริงไปหน่อยเหรอ? หมอนี่จะทำให้รัฐเวสต์ เซอร์ซีทั้งรัฐอยู่ในกำมือของเขาได้ยังไง?“เขาจะทำแบบนั้นได้จริงเหรอ? ตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ สำนักทางเหนือเองก็มีอัจฉริยะจำนวนไม่น้อย แต่ไม่มีอัจฉริยะคนใดมีพลังขนาดนั้นมาก่อน! มันเป็นสิ่งที่ไม่มีใครทำได้มานานแสนนานแล้ว คุณแน่ใจได้ยังไงว่าหมอนี่จะทำได้?”เลนนอนเหลือบมองซาเมียน ปกติแล้วเขาจะไม่มามัวเปลืองน้ำลายอธิบายเรื่องนี้ให้ซาเมียนฟัง แต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว และหากเขาอธิบายสิ่งต่าง ๆ ได้ไม่ชัดเจน คนพวกนี้ก็จะไม่เข้าใจถึงความรุนแรงของสถานการณ์น้ำเสียงของเลนนอนทุ้มลึกมากราวกับว่าเขากำลังประกาศถึงสิ่งที่ทำให้เขาเจ็บปวดอย่างที่สุดออกมา “นายลองใช้สมองดูสักหน่อยสิ คิดดูให้ดี แม้ว่าหลายปีมานี้สำนักทางเหนือจะมีศิษย์มากพรสวรรค์มากมาย แต่ในจำนวนเหล่านั้นไม่มีใครที่สามารถคุกคามสำนักวายชนม์ได้เลยแม้แต่คนเดียว“ลองคิดดูสิว่าอัจฉร