Share

บทที่ 205

Author: โมเนโต้
เมื่อพูดจบเฟนด์กําลังจะออกไปกับเซเลน่า

"คุณห้ามไปไหนทั้งนั้น!"

อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงคนนั้นขวางทางพวกเขาไว้ "ถ้าคุณคิดว่าคุณไม่ผิด ทำไมคุณถึงรีบไป?”

“ถูกต้อง ก่อนหน้านี้เด็กก็ยังดูสบายดี แค่รอให้รถพยาบาลมาช่วยเท่านั้น ขณะที่ชายคนนี้กับพยายามรักษาเอง ในความคิดของผมเค้าเป็นพวกนักต้มตุ๋นที่พยายามโอ้อวด แต่กลับทำให้เกิดอุบัติเหตุแทน!”

พวกเขาบางคนเริ่มวิพากษ์วิจารณ์เฟนด์ว่า "ทางสู่ความชั่วร้ายนั้นปูด้วยเจตนาดี"

เห็นชัดว่าคงไม่มีใครเชื่อว่าทหารจะมาทําหน้าที่หมอได้แน่นอน

มีทีมงานของสวนสัตว์ทั้งสองคนวิ่งเข้ามา เมื่อพวกเขาเห็นเหตุการณ์ก็ร้องตะโกนขึ้นมาทันที “มันยอดมาก พี่ชายคุณปีนขึ้นมาเองเหรอ? ยอดเยี่ยมมากจริง ๆ!”

หลังจากพูดจบ เขามองเด็กน้อยบนพื้น "เมื่อกี้เขาก็ยังดีไม่ใช่เหรอ"

ได้ยินประโยคนี้ คุณผู้หญิงก็ร้องไห้ทันที "ถูกแล้ว ก่อนหน้านี้ทุกอย่างเรียบร้อยดี เขายังมีสติ แต่ชายคนนี้มาช่วย สุดท้ายผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้ลูกชายฉันตายแล้ว หรือยังมีชีวิตอยู่ ฉันไม่สนใจ ถ้าลูกชายฉันตาย หรืออาการของเขาแย่ลง เขาก็ต้องชดใช้เช่นกัน!"

พนักงานคนนี้หน้าเคร่งเครียดเมื่อมองมาทางเฟนด์ “พี่ชาย เราได้เรีย
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 206

    “ฉัน...”หญิงวัยกลางคน คนนี้กำลังโกรธมาก แต่เธอไม่รู้จะพูดยังไงดี...คนที่วิจารณ์เฟนด์ก่อหน้านี้ ตอนนี้ต่างเกรี้ยวกราดใส่เธอ พวกเขาหาว่าเธอทําเกินไป สงสัยผู้มีพระคุณของเธอเองเป็นนี้ได้เช่นไร“แม่...”ขณะนั้นเด็กชายที่เป็นลมหมดสติ ก็ฟื้นรู้สึกตัวอีกครั้ง ฝูงชนเริ่มปรบมือด้วยความยินดีอีกครั้ง"50 ล้านเหรอ? คุณสุดยอดมาก ที่รัก!"สักพักหนึ่ง เซเลน่าก็หัวเราะเยาะในที่สุด "คุณไม่เคยถูกเงินนั่นมากมายขนาดนั้นหลอกล่อเลยเหรอ? ถ้าเอา 50 ล้าน นั่นก็จะสามารถแก้ไขปัญหาวันเกิดของคุณปู่ที่กำลังจะถึงเร็ว ๆ นี้ได้อย่างง่ายดาย!”เฟนด์มองเมียเขาแล้วหัวเราะกลับ "ที่รัก ถ้านั่นคือคนที่คุณเคยช่วยชีวิตไว้ คุณจะยอมเอาเงิน 50 ล้านนั้นไหม?" เขาถาม"ไม่แน่นอน ฉันไม่ได้ช่วยชีวิตเขาเพราะเงิน!”เขาขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเช่นนั้น “นี่ ที่รัก ดูเหมือนคุณอยากให้ผม ใช้เงิน 40 ล้าน เพื่อเป็นที่ยอมรับของพ่อแม่คุณ ผมคิดว่ามันพิสูจน์ได้ว่าคุณรักผมจริง ๆ และคุณต้องการที่จะอยู่กับผม"หน้าของเซเลน่าเปลี่ยนเป็นสีแดงทันที "ไม่มีทาง!" เธอรีบประท้วง "ฉันแค่รู้สึกเสียดายที่คุณปล่อยให้เงิน 50 ล้านหลุดมือไปแบบนี้"ทั้งสามคนได้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 207

    ผู้หญิงคนนี้ส่วมใส่ชุดเดรสผ้าซาตินสีดํา ทำให้ดูตัดกับผิวที่ขาวราวกับหิมะของเธออย่างชัดเจน ทำให้เธอดูมีออร่า นอกจากนี้คลื่นผมที่ปลิวสยายกระจายไปทั่วเส้นผมของเธอ ทำให้ใบหน้าเธอดูอ่อนวัยมากแน่นอนว่า ผู้หญิงคนนี้มีรูปร่างที่ดีเช่นกัน เธอขาดความมีเสน่ห์ตามธรรมชาติแบบเซเลน่า แต่ถ้าเทียบกับทางด้านร่างกาย รูปร่าง อื่น ๆ เธอแทบจะเทียบกับเซลน่าได้ทุกด้าน"คุณก็พูดเกินไป ตัวคุณเองก็สวยงามไม่แพ้กัน!”เซเลน่ายิ้มและพูดอย่างสุภาพ"พวกคุณกำลังจะเรียกแท็กซี่จากที่นี่เหรอ? ช่วงเวลานี้เป็นช่วงวันหยุดยาว คงลําบากมาก น่าจะมีคนเรียกแท็กซี่เยอะเหมือนกัน!"ผู้หญิงคนนั้นจ้องมองไปที่เฟนด์กับเซเลน่า "โอ๊ย! ไม่มีรถเหรอนี่?" หล่อนให้ความเห็น "ดูเหมือนว่าสามีของเธอจะไม่สามารถเลี้ยงดูเธอได้ดีนัก!"ฮิวฟังเธอพูดแล้วยิ้มอย่างละอาย "เออใช่ เซเลน่า คืนนี้มีงานปาร์ตี้ มันเป็นเรื่องบังเอิญจริง ๆ ที่เราชวนเพื่อนเก่ามารวมตัวกัน ทำไมเธอไม่ไปด้วยกันกับเรา? พาครอบครัวของเธอไปด้วยกันก็ได้!” "โอ้ใช่! มันนานมาก ผ่านมาตั้งหลายปี หลังจากที่เราเจอกันเป็นครั้งสุดท้าย!”ผู้หญิงคนนั้นก็พยักหน้าตาม “เธอต้องไปปรากฏตัว เพื่อฮิวท

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 208

    เฟนด์และเซเลน่า รีบเรียกรถแท็กซี่ แล้วพาไคลีออกไปแต่ดูเหมือนว่าเฟนด์จะมีความคิดบางอย่างเกิดขึ้น เมื่อพวกเขานั่งรถผ่านถนน ที่มีโชว์รูม Audi 4S เรียงรายไปหมด “ขอโทษนะครับ ช่วยจอดให้เราลงตรงนี้ที” เขาพูดกับคนขับรถ"ที่นี่เหรอ?"เซเลน่าจ้องเขม็ง สายตาของเธอเปล่งประกายเต็มไปด้วยความสงสัยจนกระทั่งพวกเขาลงจากรถ เฟนด์ก็อธิบายทุกอย่าง"ที่รัก ผมคิดว่าเราควรที่จะซื้อรถ ดูเหมือนว่าอดีตเพื่อนร่วมชั้นที่นัดรวมตัวกันจะเป็นคนที่มีฐานะ เมื่อกี้นี้ผู้หญิงคนนั้นเธอก็แสดงท่าทีแบบนั้น ถ้าคุณไม่ขับรถไปที่งานนั่น พวกเขาคงได้นินทาคุณแน่นอน” เขายืนยัน “ผมไม่ได้ใส่ใจ แต่ผมไม่สามารถทนเห็นคุณลำบากได้!”"แต่คุณยังมีเงินอยู่หรือ ทําไมเราไม่รอให้เงินเดือนออกมาก่อนล่ะ?” เซเลน่าขมวดคิ้ว "ผมไม่กลัวความทุกข์ทรมาน ถ้าพวกเขาอยากจะดูถูกผม ก็แค่ปล่อยมันไปแค่นั้น ตราบใดที่คุณมีความสุข ทุกอย่างมันก็โอเค ผมสามารถใช้ชีวิตของผมได้โดยที่ไม่ต้องสนใจเรื่องของพวกเขา”“ผมยังมีเงิน! เงินโบนัสที่ผมได้รับจากการเป็นทหารมาห้าปีนั้นมันยังไม่ได้หมด”เฟนด์เกาหัว มองหน้าไคลีแล้วหันไปดูเซเลน่า "นอกจากนี้ถ้าเราไม่มีรถ เราจะไปส่งไคลีไ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 209

    “จริง งั้นเราไปโชวรูมปอร์เช่ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกันดีกว่า" เฟนด์พยักหน้าแล้วพาเซเลน่าออกไปข้างนอก“ปอร์เช่?”พนักงานทั้งสองคนก็ตอบรับทันที หลังจากที่ทั้งสามคนออกไป ทั้งคู่ต่างมองหน้ากัน และต่างสงสัยว่าได้ยินเฟนด์พูดผิดรึเปล่าเมื่อสักครู่นี้เมื่อได้ยินราคาของ BMW ทั้งคู่คิดว่าครอบครัวนี้จะไปที่ร้านที่ขายรถยนต์ราคาถูกกว่า พวกเธอทั้งคู่ไม่เคยคิดว่าพวกเขาจะไปที่ร้านปอร์เช่จริง ๆ"จอยซ์ เธอคิดว่าเราเสียลูกค้าที่มีศักยภาพไปหรือเปล่า? ถ้าเกิดเขามีเงินล่ะ?" พนักงานที่ถูพื้นก็ขมวดคิ้ว สีหน้าของเธอค่อนข้างเสียใจ"ไม่มีทาง!" จอยซ์ตอบทันที "เสื้อผ้าที่ผู้หญิงคนนั้นสวมใส่ดูไม่ได้แย่จนเกินไป แต่เสื้อผ้าของผู้ชาย ดูก็รู้ว่ามาจากของตามท้องตลาด” เธอกล่าว “เธอคิดว่าคนแบบนี้จะร่ำรวยแค่ไหน เขาอาจจะพูดอะไรบางอย่างเพื่อยั่วโมโหเรา เพื่อที่จะรักษาหน้าของเขาก็เท่านั้น”เมื่อเธอพูดจบ เธอก็เดินตรงไปที่ประตู "ถ้าเธอไม่เชื่อฉันนะ เธอลองมองพวกเขาจากตรงนี้ พวกเขาจะไม่เข้าไปในนั้นอย่างแน่นอน!"พนักงานขายที่กำลังถูพื้นอยู่นั้น ก็เข้ามาร่วมวงกับจอยซ์บริเวณทางเข้าด้วย คิ้วของเธอขมวด "เป็นไปไม่ได้… จอยซ์ พวกเขาเข้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 210

    พนักงานขายคนนั้นกําลังถูพื้นอย่างกระฉับกระเฉง ด้วยอากาศที่ร้อนอบอ้าว ทำให้เหงื่อไหลลงบนหน้าผากของเธอเธอเงยหน้าขึ้น เห็นสามีภรรยาคู่หนึ่งอยู่บริเวณทางเข้า อ้อมแขนของผู้ชายคนนั้นถึงกับกอดสาวน้อยน่ารัก เธอรีบวางไม้ถูพื้นไว้ข้าง ๆ และเดินเข้าไปหาพร้อมกับรอยยิ้มที่ประดับอยู่บนใบหน้าทันที"คุณสองคนมาดูรถของเราหรือเปล่าคะ? เข้ามาด้านในก่อนค่ะ รับน้ำดื่มอะไรดีคะ? เรามีน้ํามะนาว กาแฟ น้ำเปล่า เลือกดื่มที่ชอบได้เลยค่ะ"พนักงานขายตั้งคําถามมากมายกับพวกเธอ รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอไม่เคยหายไปเลยเซเลน่าตกใจไปพักหนึ่ง แล้วก็ดูพื้นที่เพิ่งถูไป "คุณไม่ห่วงหรือว่าเราจะทําให้พื้นที่คุณเพิ่งทําความสะอาดเสร็จนั้นสกปรกเลอะเทอะ?""ไม่ต้องห่วง! คุณเป็นลูกค้าของเรา และคุณคือพระราชาของที่นี่ คุณจะเดินก้าวไปตรงไหนก็ได้ที่คุณต้องการ!”หลังจากคนขายพูดจบ เธอมองไปที่ไคลี “เป็นหญิงสาวที่น่ารักมากเลยนะคะ” หล่อนยิ้ม “หนูสวยจริง ๆ มันคงจะดีไม่น้อยถ้าในอนาคตฉันจะมีลูกสาวที่สวยเหมือนหนู”"ดาน่า... ทําไมเธอถึงต้อนรับทุกคนที่เธอเห็น? มันดีกับเธอหรือเปล่า"“ใช่ ที่นี่เราขายปอร์เช่ สามีภรรยาคู่นี้พอจะซื้อได้ไหม? ร้านเร

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 211

    “ใช่! ใช่ เรามีค่ะ"ดาน่าดีใจเสียงสั่นเมื่อพูด รุ่นพิเศษนี้มีราคาแพงมาก ถ้าสามารถขายได้หนึ่งในนั้นทุกเดือนก็เพียงพอแล้วแม้หลายคนจะซื้อรถปอร์เช่ แต่ก็ยังไม่สามารถขายรถรุ่นที่มีราคาขายมากกว่า 2 ล้านเหรียญได้อย่างสม่ำเสมอและที่สําคัญทางเฟนด์ได้ขอซื้อรุ่นเดียวกัน ถึงสองคันด้วยกัน"ฉันฟังผิดหรือเปล่า?"ขากรรไกรของพนักงานอีกคนถึงกับค้าง เธอจ้องบัตรเครดิตด้วยความตกใจ "ไม่ เดี๋ยว" หล่อนบอก "นี่คือการ์ดอะไร ทําไมไม่เคยเห็นมาก่อน"ริมฝีปากของเฟนด์แสยะยิ้ม “เป็นการ์ดพิเศษ ทั่วโลกมีแค่ห้าประเภท มันคงแปลกมากถ้าคุณเคยเห็นมันมาก่อน! ผมคิดว่าผมคือคนเดียวใน แคทธีเซียที่มีการ์ดนี้"พนักงานขายก็ยิ้มอย่างไม่สบอารมณ์ เมื่อได้ยินประโยคนี้ "คุณโกหก ในโลกนี้มีไม่ถึง 5 ประเภท? เราไม่รู้ว่าคุณจะรูดบัตรด้วยเงินนั่นได้ไหม ถ้าคุณเป็นคนเดียวในแคทธีเซียที่เป็นเจ้าของบัตรใบนี้จริง คงไม่มีใครที่จะจำมันได้ แต่นั่นก็หมายความว่าไม่มีใครสามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นของจริง ไม่ใช่เหรอ? คุณคิดว่าคุณฉลาดใช่ไหม? ช่างเป็นคําโกหกที่ไร่ข้อกังขา!"เซเลน่ารีบเอามือข้างหนึ่งปิดปากของเธอ เพื่อกลั้นเสียงหัวเราะที่จะหลุดออกมา สามี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 212

    ตลอดห้าปีที่ผ่านมา ครอบครัวของพวกเขาต้องทนทุกข์ด้วยกัน ในช่วงเวลานั้น เซเลน่าคิดอยู่เสมอว่า การมีชีวิตที่ดี หรือขับรถดี ๆ สักคันจะวิเศษแค่ไหนโชคไม่ดีที่เธอไม่มีทางเลือก เธอได้แต่กัดฟันและเอาตัวรอดต่อไปวัน ๆเป็นเรื่องธรรมดาที่เธอสามารถเอาชนะอาการหวาบหวิวที่อยู่ในใจได้ เพราะในที่สุดเธอก็สามารถขับรถหรูที่มีมูลค่ากว่า 2 ล้านเหรียญนี้ได้“ฮะ! เซเลน่าหรอกเหรอ?”ฟีโอน่าวิ่งออกมาจากบ้าน เธอสังเกตเห็นว่าเป็นเฟนด์กับเซเลน่าที่ลงมาจากรถ ทันใดนั้นเธอก็ตะโกนบอกบ้านว่า "แอนดรูว์ มานี่! ดูนั่นสิ! ลูกสาวของเรา พระเจ้า รถสวยจัง คงใช้เงินไปเยอะ""เซเลน่า เกิดอะไรขึ้น...เกิดอะไรขึ้น?” เบ็นเข้าไปหาเธอ "มันต้องแพงแน่ ๆ มันดูใหม่มาก พระเจ้า อย่าบอกนะว่านี่เป็นของพี่?” เขาถาม"ก็ใช่...."เซเลน่าขมวดคิ้ว ชําเลืองมองสามี เธอไม่รู้จะอธิบายยังไงถ้าเธอบอกแม่ว่าเฟนด์มีเงินสดมากพอ ที่จะซื้อรถสองคันนี้ เธอคงคิดว่าเฟนด์ยอมเอาเงินของเขามาชดเชย 3.8 ล้านที่เธอถูกขโมยไป งั้นเธอคงไม่ดีใจขนาดนั้นหรอก!เฟนด์ก็มีความคิดแบบนี้เหมือนกัน เขาก็ตะลึงตามภรรยาของเขาไปเหมือนกันเมื่อเซเลน่าไม่ตอบ ฟีโอน่ารีบเดินเข้าหาเขา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 213

    “ใช่! นั่นล่ะ!”เซเลน่าหัวเราะอย่างอาย ๆ หากแม่ของเธอพบรู้ว่าเฟนด์ใช้เงินของเขาในการซื้อรถสองคัน รวมมูลค่ากว่า 5 ล้านเหรียญ เธออาจจะบอกเฟนด์ให้ควักกระเป๋าเงินออกมาต่อหน้าเธอโชคยังดีที่เฟนด์ตั้งสติคิดได้อย่างรวดเร็ว เขาแค่โยนความผิดให้ทันย่า"ครอบครัวเดรคร่ำรวยจริง ๆ เขาให้ทั้งสองคนขับรถบริษัท และเป็นรถที่หรูหราขนาดนี้ด้วย!""เธอใช้เงินซื้อนี่ไปเท่าไหร่" เบ็นถามเฟนด์อย่างตื่นเต้น"ไม่เยอะหรอก รถคันละประมาณ 2.7 ล้าน!" เฟนด์ยิ้ม"รถ 2.7 ล้านคันต่อคัน อย่างที่ผมคิด รถยนต์แบบนี้อย่างน้อย ๆ ต้องใช้เงินถึง 2 ล้านเหรียญ แต่จริง ๆ แล้วราคาคันละ 2.7 ล้าน พระเจ้า มันเยี่ยมมาก มันเป็นรถที่ผู้ชายควรขับ!"เบ็นตื่นเต้นจนกระโดดไปทั่ว ร่างกายของเขาสั่นระริกระรี้ด้วยความดีใจ"งั้นอย่าบอกนะว่ารถสองคันมีค่ามาก 5 ล้านงั้นหรือ? พระเจ้า โลกของคนรวย ไม่อาจจินตนาการได้จริง ๆ!"ซีน่าก็ตกใจเหมือนกัน เธอกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากเธออยากจะลองดูคลุกคลีกับคนชั้นชนสูงว่าใช้เบ็นเป็นทางผ่าน ยังไงซะเขาก็เป็นพวกชนชั้นสูง แน่นอน เขาถูกไล่ออกจากบ้าน แต่ใครจะไปรู้ว่า วันหนึ่งนายใหญ่เทย์เลอร์ อาจจะเปลี่ยนใจใช่ห

Latest chapter

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status