แชร์

บทที่ 2046

ผู้เขียน: โมเนโต้
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
เพราะทั้งสองสำนักถูกคั่นด้วยอาณาเขตของป่าดงสัตว์อสูรที่คั่นกลางเอาไว้ และบนภูเขาก็มีสัตว์อสูรออกมาอาละวาดอย่างต่อเนื่อง แม้แต่ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในสำนักระดับสี่ก็ยังไม่กล้าผ่านยอดเขาดงอสูร เพราะหากทำเช่นนั้นก็รับรองได้เลยว่าพวกเขาต้องได้พบกับความตายอย่างแน่นอน

พื้นที่ของป่าดงอสูรคิดเป็นขนาดสองเท่าของพื้นที่ที่สำนักสหัสบรรณปกครองอยู่ นั่นคือขนาดของภูเขาที่กว้างใหญ่มหึมาและตำแหน่งปัจจุบันที่เฟนด์อยู่ก็เป็นเพียงแค่ชายป่าของเขาลูกดังกล่าวเท่านั้น แม้ว่าที่นั่นจะมีสัตว์อสูรมากมาย แต่พวกมันก็ล้วนอ่อนแอและไร้ประโยชน์

แก่นวิญญาณของสัตว์อสูรระดับแรกกำเนิดสามารถแลกเปลี่ยนเป็นคะแนนสะสมจำนวนเจ็ดสิบคะแนน แต่แก่นวิญญาณสัตว์อสูรระดับติดตัวสามารถแลกได้เพียงสิบคะแนนเท่านั้น และสัตว์อสูรที่อ่อนแอบางตัวก็ไม่มีแม้แต่แก่นวิญญาณอีกด้วย ทำให้ไม่มีประโยชน์ที่จะฆ่าพวกมันไปทั่ว

ในปัจจุบัน บริเวณที่มีสัตว์อสูรระดับต่ำชุกชุมที่เฟนด์กำลังจะไปนั้น ไม่มีสัตว์อสูรระดับแรกกำเนิด พวกมันล้วนแล้วแต่เป็นสัตว์อสูรระดับติดตัว ไม่ใช่ว่าเฟนด์ไม่กล้าที่จะเสี่ยงโจมตีสัตว์อสูรระดับแรกกำเนิด แต่เขาคิดว่าเขาควรทำความคุ้นเคยกั
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2047

    เฟนด์ขมวดคิ้ว ในขณะนั้นเขาได้ทำการเก็บแผนที่ลงในมัสตาร์ด ซี๊ดแล้ว “ผมเพิ่งได้ยินเสียงดังกรอบแกรบ เหมือนกำลังมีอะไรมาจากทางพุ่มไม้”แนชไม่ได้กังวล “นั่นอาจจะเป็นสัตว์อสูรก็ได้ คงได้เวลาต้องเผชิญหน้ากับมันแล้ว”ทันทีที่เขาพูดอย่างนั้น บางสิ่งที่มีสีฟ้าก็ค่อย ๆ เดินเข้ามาจากระยะไกล หลังจากที่แนชและลูกชายเห็นมัน ทั้งสองคนก็ตกตะลึงไปพร้อมกัน มันเป็นสัตว์อสูรรูปร่างคล้ายหมาป่าที่สูงพอ ๆ กับมนุษย์ร่างกายของมันถูกล้อมรอบไปด้วยแท่งน้ำแข็งสีฟ้า ดวงตาของสัตว์อสูรก็เป็นสีฟ้าอ่อนเช่นกัน และมันก็เปล่งออร่าที่เย็นยะเยือกออกมา ขนบนตัวของมันเหมือนน้ำแข็ง หลังจากที่มันสัมผัสกับหญ้าที่อยู่รอบ ๆ ต้นหญ้าเหล่านั้นก็ถูกปกคลุมด้วยชั้นน้ำแข็งในทันทีเฟนด์ขมวดคิ้วและโพล่งออกมา “มันคือหมาป่าน้ำแข็งงั้นเหรอ?! แต่หมาป่าน้ำแข็งมาทำอะไรที่นี่?”ก่อนที่จะมาที่ป่าดงอสูร เฟนด์ได้ใช้เวลาเรียนรู้เกี่ยวกับประเภทของสัตว์อสูรที่ปรากฏตัวบ่อยที่สุดบนภูเขา และเมื่อมองแวบเดียว เขาก็จำหมาป่าน้ำแข็งซึ่งเป็นสัตว์อสูรที่มักพบได้บ่อยบริเวณรอบนอกของป่าดงอสูรได้ทันทีหมาป่าน้ำแข็ง เป็นสัตว์อสูรขั้นกลางของระดับแรกกำเนิด มันมีขนา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2048

    ดวงตาของเฟนด์เย็นชาเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น เขาไม่อาจประมาทสัตว์อสูรตัวนี้ได้เลย การโจมตีหนึ่งครั้งของมันเทียบได้กับการโจมตีของเวสลีย์ สิ่งนี้ทำให้เฟนด์ยิ่งสับสนกันไปใหญ่ เหนือสิ่งอื่นใดพื้นที่ที่เขาอยู่นั้นเป็นเพียงพื้นที่รอบนอกของชายป่าเท่านั้น มันไม่ควรจะอันตรายถึงขนาดนี้แม้แต่เวสลีย์ก็พบการที่จะเอาชนะหมาป่าน้ำแข็งให้ได้นั้นก็ถือเป็นเรื่องยาก ไม่ต้องพูดถึงศิษย์ภายนอกที่แข็งแกร่งน้อยกว่าเลยด้วยซ้ำ การที่เฟนด์บังเอิญมาเผชิญหน้ากับหมาป่าน้ำแข็งที่นี่ถือเป็นเรื่องบังเอิญหรือเปล่า? เขาหรี่ตาและเตือนตัวเองว่านี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดเรื่องนี้ หมาป่าน้ำแข็งโจมตีอย่างรวดเร็วอีกครั้งเมื่อเห็นว่าการโจมตีครั้งก่อนของมันพลาดเป้า มันพุ่งเข้าหาเฟนด์โดยใช้แรงถีบจากสองขาหลังอันทรงพลังของมันออกไป“เวร!” ความเร็วของหมาป่าน้ำแข็งนั้นเร็วมากเสียจนภาพเบื้องหน้าที่เขามองเห็นพร่ามัวเป็นสีฟ้าอ่อน หัวใจของเขาสั่นสะท้านและฝ่ามือของเขายังคงร่ายผนึกเวทออกมา เขายังคงถอยหนีในขณะที่ร่ายเวทกฎแห่งสุญญะเพื่อหลบการพุ่งเข้ากัดของหมาป่าน้ำแข็งนั่นคือความแข็งแกร่งของเฟนด์ เพราะปกติแล้วนักสู้ในขั้นแรกระดับแรกกำเนิดจะไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2049

    เมื่อนำแสงดังกล่าวดับสนิท คู่ต่อสู้ทั้งสองไม่สามารถมองเห็นกันและกันได้อย่างชัดเจน แต่สถานะนี้คงอยู่เพียงไม่ถึงอึดใจ วินาทีต่อมา เกล็ดน้ำแข็งขนาดเท่าเล็บมือก็ลอยลงมารอบตัวพวกเขาเศษน้ำแข็งสีฟ้าเหล่านี้เป็นผลมาจากลูกศรน้ำแข็งหกเหลี่ยมที่ถูกบดขยี้ เมื่อหมาป่าน้ำแข็งเห็นชิ้นส่วนเหล่านี้บนท้องฟ้า ก่อนที่มันจะทันได้ตอบสนอง กริชสีเทาดำสี่เล่มก็พุ่งออกมาจากแสงที่ส่องประกายและเล็งตรงไปที่ลำคอของมันสิ่งนี้ทำให้หมาป่าน้ำแข็งตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว หลังจากต่อสู้มานานหลายปี มันก็เกิดปฏิกิริยาตามสัญชาตญาณและเริ่มถอยหนีเพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม กริชทั้งสี่เล่มก็สั่นอย่างรุนแรงกลางอากาศ โดยที่กริชสามเล่มตรงกลางสั่นอย่างรุนแรงเป็นพิเศษหมาป่าน้ำแข็งได้ยินเสียง 'แกร๊ก' และกริชทั้งสามเล่มก็ระเบิดกลางอากาศพร้อมกันกับที่ชิ้นส่วนที่แตกเป็นเสี่ยง ๆ พุ่งไปรอบ ๆ ราวกับเข็มโลหะ หมาป่าน้ำแข็งเห็นกับตาตัวเองเลยว่าแม้กริชทั้งสามเล่มจะระเบิดไปแล้ว แต่ก็ยังมีลำแสงสีดำสามดวงอยู่ในตำแหน่งเดิม ลำแสงเหล่านั้นยังคงพุ่งเข้าหามันไปพร้อมกับกริชอีกเล่มที่ไม่ระเบิดหมาป่าน้ำแข็งพบว่าสิ่งที่เกิดขึ้น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2050

    แนชขมวดคิ้วและมองไปที่เฟนด์ เขาเดินไปที่ศพของหมาป่าน้ำแข็ง ขณะที่เฟนด์พยักหน้าและวางมือไว้ใต้จมูกของหมาป่า “สิ้นลมแล้ว และดูเหมือนจะตายอย่างทรมานด้วย”เฟนด์พยักหน้าอีกครั้ง เขาเช็ดเหงื่อเย็นออกจากหน้าผากของตัวเอง และเดินไปอย่างช้า ๆ “ดูเหมือนว่าผมยังขาดประสบการณ์ในการต่อสู้ที่แท้จริงอยู่ คงไม่ควรต้องหักโหมขนาดนี้ เพราะหมาป่าน้ำแข็งประเมินผมต่ำเกินไป มันคงจะตายไปเร็วกว่านี้ถ้าผมใช้พลังเต็มที่ตั้งแต่แรก”แนชพยักหน้า เขาไม่ได้เห็นการต่อสู้ที่เกิดขึ้น แต่ถึงกระนั้น เมื่อดูจากเหงื่อเย็นบนหน้าผากและการแสดงออกของเฟนด์ เขาก็พอเข้าใจว่าการต่อสู้จะต้องดุเดือดเพียงใดในเวลานี้ ชิ้นส่วนที่แตกเป็นเสี่ยง ๆ ของผลึกน้ำแข็งหกเหลี่ยมยังคงลอยละล่องลงมาจากด้านบน ซึ่งทำให้อุณหภูมิโดยรอบลดลงสองสามองศา แต่เนื่องจากพวกเขาเป็นผู้ฝึกยุทธ ความหนาวเย็นดังกล่าวจึงไม่ส่งผลกระทบอะไรต่อพวกเขาแนชขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ไปจัดการกับหมาป่าน้ำแข็งแล้วรีบออกไปจากที่นี่กันเถอะ ถึงยังไงพ่อก็ไม่คิดว่าที่นี่เป็นสถานที่ที่ปลอดภัยเท่าไหร่นัก”เฟนด์พยักหน้าและไปจัดการสิ่งที่ควรทำในทันที เขาหยิบกล่องขนาดใหญ่ออกมาจากมัสตาร์ด ซี๊ด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2051

    “การเดินทางเที่ยวนี้ผมหวังเอาไว้ว่าตัวเองจะได้รับอย่างน้อยสองร้อยคะแนน ไม่อย่างนั้นก็จะถือว่าเสียเที่ยว”จู่ ๆ แนชก็รู้สึกกระวนกระวายขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว นี่เป็นครั้งแรกที่เฟนด์มาที่นี่ จึงไม่แปลกใจหากจะเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น “บางทีลูกควรพาคนท้องที่มาที่นี่ด้วย ลูกไม่ควรมาที่นี่เพียงลำพังเลย” เขาพูดอย่างไม่พอใจเฟนด์เก็บแผนที่และพูดว่า "เอาไว้คราวหน้าคงจะทำแบบนั้น ไม่ว่ายังไง พวกเราอยู่ที่นี่อีกสักสองสามวันและกำจัดสัตว์อสูรให้ได้มากที่สุดดีกว่า หากถึงจุดที่ยากเกินจะรับมือไหวเราก็ถอยกลับมาอยู่แถวนี้เหมือนเดิม”เฟนด์เป็นพวกตัดสินใจอะไรอย่างแน่วแน่ ดังนั้น แนชจึงเลิกพยายามเกลี้ยกล่อมเขาเวลาผ่านไปสี่วัน ห่างจากถ้ำที่พวกเขาพักอยู่หนึ่งไมล์ เฟนด์กำลังจ้องมองซากศพของสิงโตขาวเนตรโลหิตอย่างครุ่นคิด และเช่นเคย แนชยืนกำลังอยู่ข้าง ๆ เขาสิงโตขาวเนตรโลหิตไม่ได้แข็งแกร่งอะไร มันอยู่ในขั้นแรกระดับแรกกำเนิดเท่านั้น แต่บริเวณที่จะพบพวกมันได้นั้นห่างไกลยิ่งกว่าตำแหน่งของหมาป่าน้ำแข็งที่เฟนด์ฆ่าไปก่อนหน้าเสียอีก มันไกลเสียจนพวกเขาเกือบจะออกจากเขตป่าดงอสูรเสียด้วยซ้ำเฟนด์ขมวดคิ้วและเอ่ยปากขึ้น “นี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2052

    เฟนด์จับจ้องออกไปก่อนจะมองเห็นร่างสองสามร่างที่พุ่งเข้าหาพวกเขา คนเหล่านั้นมีทั้งหมดสามคนโดยมีคนสองคนกำลังประคองคนที่ดูเหมือนจะบาดเจ็บที่อยู่ตรงกลาง ความเร็วของพวกเขาไม่เร็วหรือช้าเกินไป ราวกับว่าพวกเขากำลังถูกใครบางคนไล่ล่ามาเฟนด์จัดการเก็บศพของสัตว์อสูรลงในมัสตาร์ด ซี๊ดอย่างรวดเร็ว การเก็บเกี่ยวแก่นวิญญาณและส่วนอื่น ๆ อาจต้องทำทีหลัง เขาดึงพ่อให้ไปอยู่ด้านหลัง อันที่จริง เขาควรจะออกจากสถานที่นั้นอย่างรวดเร็วและระมัดระวัง แต่เขากลับอยากรู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ภายในไม่กี่วินาที ทั้งสามคนก็มาถึงจุดที่เฟนด์และแนชยืนอยู่ คนทางขวาดึงดาบออกมาจากแหวนยึดอย่างรวดเร็วและชี้ไปที่กลางหน้าผากของเฟนด์ทันทีที่พวกเขาเห็นชายหนุ่ม ดวงตาของชายคนนั้นคมดั่งมีดและมองมาที่เฟนด์อย่างระแวดระวัง ชายทั้งสามแต่งตัวคล้ายกัน ราวกับเป็นศิษย์ของสำนักใดสำนักหนึ่งเฟนด์กวาดสายตาไปทั่วคนทั้งสามและแอบภาวนาให้พวกเขาไม่ใช่ศิษย์ของเผ่าปฐมหายนะ เพราะหากเป็นเช่นนั้นจริง เขาย่อมหลีกเลี่ยงการต่อสู้ไม่ได้ เหตุผลที่เขาไม่หนีออกไปหลังจากที่เห็นคนทั้งสามในตอนนี้ก็คือ หนึ่ง เขาอยากรู้อยากเห็น และสอง พวกเขาสา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2053

    เจดหรี่ตาลงและวิเคราะห์เฟนด์อีกครั้ง ช่างเป็นความบังเอิญอย่างแท้จริงที่พวกเขาบังเอิญมาเจอกัน และนอกจากนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเขาก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับตำหนักสองกษัตริย์เลยแม้แต่น้อย แต่ท้ายที่สุด พวกเขาก็ยังยอมรับข้อเสนอของเฟนด์พวกเขาจุดไฟในถ้ำเพื่อให้ความอบอุ่นแก่อัลเบี้ยน ตามปกติผู้ฝึกยุทธจะไม่ได้รับผลกระทบจากความร้อนหรือความหนาวเย็น แต่เพราะอัลเบี้ยนได้รับบาดเจ็บสาหัสและอุณหภูมิโดยรอบก็ลดลงอย่างอธิบายไม่ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องก่อกองไฟทั้งสามแนะนำตัวเองสั้น ๆ เมื่อเดินทางมาถึงถ้ำ พวกเขาทั้งหมดเป็นศิษย์ภายนอกของสำนักสหัสบรรณเฟนด์รู้สึกงงงวยกับสิ่งนี้ ในตำหนักสองกษัตริย์ศิษย์ที่อยู่ในขั้นสูงของระดับแรกกำเนิดจะได้รับการเลื่อนขั้นเป็นศิษย์ภายในแล้ว แต่ในสำนักสหัสบรรณพวกเขาจะยังคงเป็นแค่ศิษย์ภายนอก คงจะเป็นเพราะสำนักแห่งนี้เป็นสำนักระดับสี่อัลเบี้ยนอยู่ในสภาพหมดสติเพราะอาการบาดเจ็บ เจดและดไวท์ดูแลบาดแผลของเขาอย่างเรียบง่ายและเช็ดคราบเลือดที่คั่งค้างอยู่บนใบหน้าของเขาออก พวกเขาหยิบสมุนไพรวิญญาณทั้งหมดออกจากแหวนยุทธเพื่อใช้มันรักษาอัลเบี้ยน เจดกระวนกระวายเล็กน้อย “ไอ้พวกสารเลวเอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2054

    ดังนั้นพวกเขาจึงใช้ชีวิตอยู่กันอย่างสันติมาได้หลายปี บางครั้งสำนักสหัสบรรณก็เชิญศิษย์มากฝีมือของสำนักวายชนม์มาเองด้วยซ้ำ“พวกเขามาทำอะไรที่นี่? พวกเขามาที่นี่เพื่อล่าสัตว์อสูรด้วยเหรอ? พวกเขามาที่นี่ได้ยังไง?” เฟนด์ถามพร้อมกับขมวดคิ้วจากมุมมองด้านภูมิศาสตร์ รัฐเวสต์ เซอร์ซีเป็นอิสระจากทวีปอื่น ๆ มันถูกล้อมรอบไปด้วยทะเล หากต้องการออกจากรัฐเวสต์ เซอร์ซีก็ต้องใช้ผนึกเวทย์ย้ายสสาร เนื่องจากรัฐเวสต์ เซอร์ซีล้อมรอบด้วยทะเล ทำให้สำนักวายชนม์ต้องฝ่าป่าดงอสูรมาเพื่อมาถึงที่นี่แต่ป่าดงอสูรครอบคลุมพื้นที่กว้างใหญ่ และพื้นที่ส่วนกลางของภูเขาก็เต็มไปด้วยสัตว์อสูรที่ทรงพลัง สัตว์อสูรที่ทรงพลังเหล่านี้หวงอาณาเขตมาก ถ้าใครกล้าย่างเท้าเข้าไปในเขตแดนของพวกมัน พวกเขาเหล่านั้นจะต้องถูกสัตว์อสูรที่ดุร้ายเหล่านี้เข้าโจมตีอย่างแน่นอนแม้ว่าการบ่มเพาะของพวกเขาจะอยู่ในระดับผลึกวสันต์แล้ว แต่ก็ยังเป็นไปไม่ได้ที่จะฝ่าด่านสัตว์อสูรที่อยู่ในภูเขามาได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่พวกเขาล้วนแต่จะต้องประหลาดใจกับการปรากฏตัวของอีกฝ่าย ณ ที่แห่งนี้สีหน้าของเจดดูหวาดกลัว “โชคดีที่ฉันจำเครื่องแบบของ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29

บทล่าสุด

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

DMCA.com Protection Status