ริมฝีปากของเฟนด์กระตุกเมื่อได้ยินคำพูดที่อาจหาญของเวสลีย์ ดูเหมือนว่าไม่ว่าจะทำอะไรเวสลีย์ก็ชอบโอ้อวดเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของเขาอย่างภาคภูมิ สำหรับเวสลีย์แล้ว ไม่ใช่พลังอันแข็งแกร่งของเฟนด์ที่บีบให้เขาทำสิ่งนี้ ตรงกันข้าม เฟนด์ควรรู้สึกเป็นเกียรติที่เขาทำเช่นนั้นแต่เฟนด์ตกตะลึงไปเพียงครู่หนึ่ง และเขาก็รู้สึกอยากจะหัวเราะกับคำพูดของเวสลีย์ แต่เขาไม่ต้องการเสียเวลากับเวสลีย์ในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ หลังจากที่ดาวดวงที่สามก่อตัวขึ้น ดาวทั้งสามดวงก็ดึงดูดและควบคุมซึ่งกันและกัน พวกมันยังคงหมุนอย่างรวดเร็วบนดาบยาวสามฟุตและกระตุ้นพลังงานโดยรอบให้กลายเป็นพายุทอร์นาโดขนาดย่อมดวงตาของทุกคนเบิกกว้างเมื่อได้เห็นภาพนั้น พวกเขาหลายคนกำลังชั่งใจอยู่ว่าเวสลีย์จะสามารถแข่งขันกับศิษย์ภายนอกร้อยอันดับแรกหรือแม้แต่แปดสิบอันดับแรกได้หรือไม่ เมื่อเขาแสดงการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดออกมาได้!“ดูเหมือนว่าการเดินทางมาที่นี่ในวันนี้จะไม่เสียเปล่า ฉันได้เห็นการต่อสู้ที่น่าสนใจเช่นนี้ ไม่เคยคิดว่าเวสลีย์ซ่อนให้ตายเอาไว้ในระหว่างการต่อสู้กับเดลก่อนหน้านี้ นี่คือพลังที่แท้จริงของเขา!”"ใช่แล้ว! อันที่จริงฉันมาที่
วินาทีต่อมา ดาบยาวสามฟุตได้ดูดซับเลือดของเวสลีย์ไปอย่างรวดเร็ว ดาวสามดวงหมุนรอบดาบสามฟุตอย่างบ้าคลั่ง ในขณะเดียวกับที่ความเร็วก็เพิ่มขึ้นด้วยเฟนด์แน่ใจว่านี่เป็นกลยุทธ์ที่ใช้ยามหลังชนฝาของเวสลีย์ ในขณะนี้ใบหน้าของเฟนด์ดูเคร่งขรึมและเขารู้สึกไม่สบายใจอยู่หน่อย ๆ แต่ต่อให้ลังเลแค่ไหนเขาก็ไม่อาจถอยหนีได้ด้วยเหตุนี้ เขาจึงร่ายเวทด้วยมือของเขาอย่างต่อเนื่อง และแสงสีดำก็ถูกฉีดเข้าไปในกริชอีกครั้งกริชเหมือนก่อนหน้านี้ปล่อยแสงสีดำออกมา และดาบวิญญาณดวงที่สามก็หลอมรวมเข้ากับกริชสีดำ เพื่อความปลอดภัยเฟนด์ตัดสินใจและเพิ่มพลังที่แท้จริงของเขาลงไปด้วย แม้ว่าเขาจะสามารถรวมดาบวิญญาณสองเล่มเข้ากับความสามารถปัจจุบันของเขาได้อย่างง่ายดาย แต่การที่จะรวมดาบวิญญาณทั้งสามเข้าด้วยกันในครั้งเดียวก็ยังถือเป็นเรื่องยากสำหรับเฟนด์แต่เขาไม่มีเวลาไปสนใจข้อด้อยนั้นเขาต้องบังคับตัวเองให้หลอมรวมดาบเข้าด้วยกัน แม้ว่าโดยปกติแล้วเขาจะทำไม่ได้ก็ตาม มือของเขาหมุนอย่างต่อเนื่องและเร็วขึ้น ผนึกอักษรรูนปรากฏขึ้นในมือของเขาราวกับผีพุ่งใต้ เฟนด์รู้สึกได้ถึงคลื่นของความเจ็บปวดที่เสียดแทงอยู่ในจิตวิญญาณของเขา มันบ่งบอกว
ผู้ชมได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นที่คุ้นเคย ขณะที่ร่างหนึ่งพุ่งออกมาจากศูนย์กลางคลื่นพลัง ร่างนั้นกระแทกกับเกราะกำบังที่ถูกอัญเชิญไว้ที่ลานประลองพร้อมกับเสียงครวญครางเจ้าของร่างนั้นคือเวสลีย์ และเกราะป้องกันก็ช่วยหยุดเขาไม่ให้กระเด็นออกจากสนามประลองไปเวสลีย์ซึ่งครั้งหนึ่งเคยหยิ่งยโสอย่างที่สุด กลับถูกทำให้อยู่ในสภาพน่าสมเพชไปเสียได้ เขาดูคล้ายกับคนที่จมอยู่ในโคลน เขาเลื่อนลงมาตามกำแพงพลังงานและตกลงบนพื้นด้วยเสียงอันดัง ฝุ่นฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ ในขณะที่เวสลีย์ร่วงลงกับพื้นโดยที่แขนขาทั้งสี่ข้างของเขาลอยขึ้นไปในอากาศ เสื้อผ้าของเขาขาดวิ่นจนไม่เป็นชิ้นดีแสงทมิฬปกคลุมเวสลีย์ไว้ราวกับหมอก มีเลือดไหลออกจากมุมปากของเขาขณะที่ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด ในการโจมตีก่อนหน้านี้ทักษะชุมนุมเจ็ดดาวตกของเวสลีย์เทียบไม่ได้กับทักษะทลายห้วงสุญญะเลยแม้แต่น้อย หลังจากทักษะทลายห้วงสุญญะซึ่งก่อตัวขึ้นด้วยดาบวิญญาณสามเล่มสามารถเอาชนะทักษะชุมนุมเจ็ดดาวตกได้ พลังที่เหลืออยู่ก็เข้าโจมตีเวสลีย์ทันทียิ่งไปกว่านั้นทักษะทลายห้วงสุญญก็ะเป็นการโจมตีทางวิญญาณอีกด้วยราวกับว่าการที่เขาถูกโจมตีโดยไม่ทันคาดคิดน
ไม่ว่าเวสลีย์จะตั้งใจแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถกลั้นเสียงกรีดร้องได้หลังจากเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น แอมโบรสก็หน้าซีดทันที "หยุด! ฉันขอประกาศว่าการต่อสู้จบลงแล้ว! คุณชนะแล้วเฟนด์ ดังนั้นหยุดสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่!"แอมโบรสไม่อาจทำได้เพียงเฝ้าดูการโจมตีของเฟนด์ที่บดขยี้เวสลีย์จนยับเยินได้ แม้ว่าหมัดก่อนหน้านี้ของเฟนด์จะหักซี่โครงของเวสลีย์แต่ก็ไม่ได้ทำให้บาดเจ็บสาหัสไปมากกว่านี้ เหงื่อเย็นหยดลงหน้าผากของแอมโบรสขณะที่เขากลัวว่าเฟนด์จะโจมตีต่อไปอีก แต่แม้ว่าเฟนด์จะฟังเขาอย่างไรเสียความเกลียดชังระหว่างเฟนด์และเวสลีย์ก็จะดำเนินไปร้อยเท่าพันทวีอยู่ดี และก่อนการประลองเวสลีย์เองก็ย้ำนักย้ำหนาว่าจะทำให้เฟนด์พิการให้ได้เฟนด์ไม่ใช่คนที่จะให้อภัยและลืมอะไรไปง่าย ๆ นอกจากนี้เขายังมีความสามารถที่น่าประทับใจและไม่ได้ให้ความสำคัญกับความจริงที่ว่าเวสลีย์มาจากตระกูลที่มีชื่อเสียงเลยด้วยซ้ำน่าแปลกที่เฟนด์หยุดโจมตีหลังจากได้ยินคำประกาศของแอมโบรสและค่อย ๆ ยืนขึ้นจากพื้น เขาไม่ได้หันกลับไปมองยังอัฒจันทร์ผู้ชมและเหลือบไปมองเวสลีย์แทน ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้กับผู้ชมเป็นอย่างมาก เขาหัวเราะเบา ๆ และพูดอย่างใจเย็น
ศิษย์นอกสำนักรีบย้ายเวสลีย์ใส่เปลหาม ทุกลานประลองศิษย์นอกสำนักราวห้าหรือหกคน และภารกิจหลักของพวกเขาคือนำศิษย์ที่ได้รับบาดเจ็บหลังจากการต่อสู้ไปทำการรักษาในกรณีฉุกเฉินเฟนด์เลิกคิ้วเมื่อเวสลีย์กำลังจะถูกศิษย์นอกสำนักพาลงมาจากลานประลองและพูดว่า "อย่าลืมเรื่องเดิมพันของเราล่ะ ตามกฎของสนามประลองเดิมพัน นายต้องส่งของเดิมพันที่นายต้องจ่ายภายในสามวัน หากภายในสามวันนายไม่จ่าย จะไม่ใช่แค่ถูกจับขัง แต่นายอาจถูกเนรเทศออกจากตำหนักด้วย”เวสลีย์โกรธเสียจนกระอักเลือดเมื่อได้ยินคำพูดของเฟนด์ เสื้อผ้าบริเวณหน้าอกของเขาถูกย้อมไปด้วยเลือดหมดแล้ว มือของเขาสั่นในขณะที่เขาอยากจะโต้กลับเฟนด์ด้วยบางสิ่งบางอย่างที่น่ากลัว แต่อนิจจา เขาพ่ายแพ้ไปแล้ว และคนที่แพ้จะพูดมากขนาดไหนมันก็ไม่มีประโยชน์ มีแต่จะถูกคนอื่นหัวเราะเยาะเอาเปล่า ๆหลังจากที่เวสลีย์ถูกนำตัวออกไปรักษา เฟนด์ก็เดินลงมาจากลานประลองอย่างช้า ๆ ในขณะนี้ ทุกคนมองที่เฟนด์ด้วยสายตาที่ต่างออกไปขณะที่เฟนด์ได้แสดงในความแข็งแกร่งของตัวเองออกมา มุมมองของพวกเขาก็เปลี่ยนจากการดูถูกกลายเป็นความชื่นชม ตั้งใจมองอย่างจริงจังและอิจฉามากขึ้น บางคนได้แต่เริ่มพูดคุ
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ แอมโบรสก็เริ่มเฝ้ารอที่จะได้เห็นสีหน้าประหลาดใจของเซฟในตอนที่เขาพ้นโทษในขณะเดียวกัน เฟนด์ก็ไม่สนใจเสียงบ่นและการซุบซิบจากคนรอบข้างที่พูดถึงเขา และกลับไปนั่งอยู่ท่ามกลางผู้ชม เขาตัดสินใจว่าเขาจะนั่งดูการต่อสู้ของคนอื่น ๆ ต่อ เพราะวันนี้เขาไม่มีอะไรสำคัญต้องทำ แถมตอนนี้ก็ยังไม่มีคะแนนสะสมติดตัวอีกด้วยเมื่อเขาได้ยินว่าศิษย์ภายในจะมีการต่อสู้ในสนามประลองเดิมพันหลังจากนั้น บรู๊คก็มองไปที่เฟนด์ด้วยความชื่นชมในขณะที่เข้ามานั่งข้าง ๆ ดวงตาของเขาเกือบจะจับจ้องไปที่เฟนด์อย่างไม่วางตามุมปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ "นี่คุณกำลังมองหาอะไร?"บรู๊คกระแอมเบา ๆ ด้วยสีหน้าตื่นเต้น “คุณแข็งแกร่งมาก ศิษย์พี่เฟนด์! ผมพลาดไปจริง ๆ ที่คิดว่าคุณไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเวสลีย์ ใครจะคาดคิดว่าคุณจะเล่นงานเขาจนอ่วมแบบนั้น!”เฟนด์เลิกคิ้วอย่างช่วยไม่ได้และพูดอย่างใจเย็น “ผมก็บอกไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าผมจะไม่รับคำท้าถ้าผมไม่มั่นใจว่าจะชนะ?”บรู๊คยังคงตื่นเต้นอย่างมาก “ก็ผมคิดว่าคุณโม้”เฟนด์พูดไม่ออกจนมุมปากกระตุก บรู๊คเป็นคนที่พูดตรงเสียเหลือเกิน แม้แต่โนเอลก็หัวเราะเยาะบรู๊คจนดวงตาของเขาห
ในความเป็นจริงเฟนด์เล่าเรื่องเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น แต่การโจมตีที่เลวร้ายที่สุดไม่ได้ทำให้ซี่โครงของเวสลีย์หัก ในทางกลับกัน พลังที่เหลือจากทักษะทลายห้วงสุญญะกลับโจมตีร่างกายของเขาและทำให้เกิดบาดแผลทางจิตวิญญาณของเขาด้วย คนอื่นไม่รู้ว่าเฟนด์กำลังฝึกฝนคุณลักษณะใด แต่โนเอลรู้ดีโนเอลลดเสียงลงและแสดงความคิดเห็นว่า “เวสลีย์ต้องทนทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวดทางจิตวิญญาณมากขนาดไหนกัน? หากสาหัสก็ดูเหมือนจะไม่ดีนัก…”เฟนด์เลิกคิ้วและมองโนเอลอย่างมีความหมายหลังจากที่เขาได้ยินสิ่งนี้ เขาเห็นสีหน้าจริงจังของโนเอลและตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่จริงจังไม่แพ้กัน “ผมไม่คิดว่าเขาจะบาดเจ็บสาหัส แม้ว่าทักษะยุทธที่ผมแสดงจะแข็งแกร่งไม่น้อย แต่ทักษะชุมนุมเจ็ดดาวตกก็ไม่ใช่ทักษะกระจอก ๆ มันทำลายการโจมตีส่วนใหญ่ลง และเหลือเพียงการโจมตีเพียงเศษเสี้ยวเดียวเท่านั้นที่พุ่งเข้าสู่ร่างกายของเวสลีย์”โนเอลรู้สึกว่าเฟนด์ไม่เข้าใจสิ่งที่เขาพยายามจะสื่อ เขาอดไม่ได้ที่จะยืดอกและเอนตัวไปทางเฟนด์ “บาดแผลทางวิญญาณนั้นแตกต่างจากบาดแผลบนร่างกาย หากวิญญาณของเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส และได้รับความเสียหายถาวรก็ยากที่จะตัดสินได้ แต่ต่อให้ไ
คำพูดของโนเอลดึงดูดความสนใจของเฟนด์และเฟนด์หันกลับมามองเขาด้วยความประหลาดใจ ไม่คาดคิดเลยว่าโนเอลจะรู้จักศิษย์ภายนอกที่เพิ่งได้รับคัดเลือกใหม่ถึงสองคนนี้ โนเอลรู้สาเหตุที่ทำให้เฟนด์ประหลาดใจเมื่อเขาสังเกตเห็นแววตาของอีกฝ่าย “ฉันมาจากตระกูลชนชั้นสูงเหมือนกันนะ แม้ว่าจะไม่ใช่ตระกูลที่ใหญ่โตอะไรแต่ก็ไม่แปลกไม่ใช่เหรอที่ฉันจะรู้จักศิษย์รุ่นเยาว์ที่โดดเด่นสองคนนี้?”เมื่อได้ยินเช่นนั้นเฟนด์ก็หัวเราะเบา ๆ และพยักหน้าเล็กน้อยโดยพูดว่า "คุณแน่ใจเหรอว่าสองคนนี้ถือว่าโดดเด่น?" เฟนด์ไม่ได้พูดสิ่งนี้จากความไร้เดียงสาของตัวเองและทักษะที่มี และเขาก็ไม่ได้ดูแคลนอีกฝ่ายด้วย เขาแค่พูดความจริงออกมาเท่านั้น เฟนด์กำลังพูดจากรูปลักษณ์โดยรวมต่างหาก ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาก็ทำให้ไฟสว่างขึ้นเพียงสี่ดวงในระหว่างการประเมินเท่านั้นเองผลลัพธ์ดังกล่าวไม่ได้โดดเด่นมากนักสำหรับบรรดาศิษย์ภายนอก แต่ดูเหมือนโนเอลจะมีความสัมพันธ์อันดีกับพวกเขาสองคน โนเอลเลิกคิ้วตอบ แม้จะมีความตะหงิดใจเล็กน้อย “พวกเขาค่อนข้างโดดเด่น ฉันรู้เกี่ยวกับผลการประเมินของนาย แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถได้คะแนนเต็ม แต่พวกเขาก็ยังได้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม