แชร์

บทที่ 2011

ผู้เขียน: โมเนโต้
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
“นายกล้าดียังไงมาทำให้ฉันขายหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้ง ๆ ที่ฉันเมตตานายขนาดนี้?!” เวสลีย์ตะโกน

เฟนด์จ้องมองชายที่มีดวงตารูปสามเหลี่ยมและเวสลีย์ “นายต่างหากที่ทำให้ฉันขายหน้า! และมีสิ่งหนึ่งที่นายควรพูดให้ถูก ฉันไม่ได้อยากจะทำให้นายขายขี้หน้า แต่นายมาแส่หาเรื่องเอง! เรื่องคงไม่เป็นแบบนี้ถ้าวันนั้นนายไม่บังคับให้ฉันยกห้องที่ฉันได้มาจากชัยชนะของตัวเองให้นาย!”

เฟนด์เป็นฝ่ายโต้กลับ เขากำลังพูดความจริง แต่สิ่งที่เขาพูดก็เป็นความจริงที่น่าเจ็บปวด คนอื่น ๆ ที่อยู่รอบ ๆ เริ่มแสดงความคิดเห็นอีกครั้ง

“เฟนด์นี่บ้าไปแล้วหรือเปล่า? หรือเขาคิดว่าตัวเองไม่มีอะไรจะเสียเพราะเขาเคยทำให้เวสลีย์ขุ่นเคืองใจมามากมาย?”

“ใช่ ฉันคิดว่าอย่างนั้น เขาอาจพยายามทำให้เวสลีย์ขายหน้ามากกว่าเดิมเพราะเขารู้ว่าตัวเองกำลังจะผู้แพ้ในการประลอง”

บางคนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจและส่ายหน้า “ใช่ เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ สิ่งที่เขาพูดมีแต่จะยิ่งกระตุ้นเวสลีย์ ไมั่นใจได้เลยว่าเวสลีย์จะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อทรมานเฟนด์ในศึกการประลองที่กำลังจะมาถึง เขาอาจฝ่าฝืนกฎและทำให้เฟนด์พิการเลยก็เป็นได้!”

โนเอลยิ่งรู้สึกรับไม่ได้เข้าไปใหญ่หลังจ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2012

    ชายผู้มีดวงตารูปสามเหลี่ยมก้าวไปหาเฟนด์อย่างรวดเร็วและหรี่ตาของเขาราวกับว่าเฟนด์เป็นเหยื่อและเขาเป็นผู้ล่า “ฉันรู้นะว่านายคิดจะทำอะไร!”'ฉันคิดจะทำอะไร?' เฟนด์คิดอย่างสับสนชายผู้มีดวงตารูปสามเหลี่ยมเย้ยหยันและชี้ไปที่เฟนด์ด้วยความอ้าปากค้าง “นายกำลังจะเอาตัวเองออกจากการประลองเดิมพันกับเวสลีย์!”ริมฝีปากของเฟนด์ค้างแข็งในทันที เขากำลังมองชายผู้เป็นเจ้าของดวงตารูปสามเหลี่ยมราวกับว่าเขามีอาการทางจิต “ช่วยบอกฉันทีว่าฉันพูดอะไรไปถึงได้ทำให้นายคิดแบบนั้น? ถ้าฉันไม่อยากสู้กับเขาแล้วฉันจะถามเขาเรื่องของที่เขาจะเอามาเดิมพันทำไม?”ชายผู้มีตารูปสามเหลี่ยมยักไหล่อย่างเย้ยหยัน และโบกมือ พูดเสียงดังว่า “ก็นายบอกเองนี่ว่านายจะไม่ประลองกับศิษย์พี่เวสลีย์ถ้าเขาไม่เสนอเดิมพัน นั่นก็เป็นข้อพิสูจน์ว่านายไม่ต้องการประลองกับเขาเพราะนายรู้ว่าศิษย์พี่เวสลีย์เป็นคนหยิ่งในศักดิ์ศรีและถ้าเขาเสนอเดิมพัน นั่นหมายความว่านายมีโอกาสชนะ แต่เขาไม่มีทางทำแบบนั้นแน่ เพราะเขาเกลียดนายเกินไป!”'นี่มันตรรกะบ้าอะไรกันเนี่ย?' เฟนด์คิด เขาพบว่าทุกอย่างไร้สาระจนเขาแทบจะหลุดหัวเราะออกมา แต่เขาบอกได้เลยว่าชายผู้มีดวงตารูปสา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2013

    ไม่มีทางที่เด็กเอาแต่ใจอย่างเวสลีย์จะปล่อยเฟนด์ไปง่าย ๆ ต่อให้ทุบอีกฝ่ายจนน่วมเขาก็คงไม่หายโมโห แต่ผู้ดูแลแอมโบรสและเฟนด์ไม่ได้สนิทชิดเชื้ออะไรกันนัก ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะไม่ออกตัวแทนเฟนด์และคอยสังเกตการณ์จากข้างสนามต่อไปความคิดเห็นของฝูงชนหลั่งไหลเข้ามาในหูของเขาอย่างต่อเนื่องและการคาดเดาที่ไม่มีมูลของพวกเขาทำให้เฟนด์หมดคำจะพูด ไม่ว่าเขาเกลียดการแก้ต่างให้ตัวเองแค่ไหน เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องพูดเพื่อหยุดคำครหานินทาที่มีต่อตัวเอง “ช่วยหุบปากสักทีจะได้ไหม? นายกำลังตีโพยตีพายไปใหญ่แล้ว” เขาพูดกับชายที่มีดวงตาเป็นรูปสามเหลี่ยม จากนั้นก็หันไปมองที่เวสลีย์ซึ่งกำลังมองมาที่เขาพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นและรอยยิ้มยียวนเฟนด์ไม่สนใจว่าเวสลีย์กำลังคิดอะไรอยู่ “ฉันจะถามนายอีกครั้ง นายจะเอาอะไรมาเดิมพัน?”เวสลีย์หรี่ตาลง เขาเห็นด้วยกับสิ่งที่ชายผู้มีดวงตารูปสามเหลี่ยมกล่าว การเสนอเดิมพันก็หมายความว่าเขาคิดว่าเฟนด์มีโอกาสชนะเขาได้ เขารังเกียจศิษย์ขยะที่เข้ามาในตำหนักสองกษัตริย์ได้ด้วยวิธีการกระจอก ๆ หากไม่ใช่เพราะภาวะสงคราม เฟนด์จะไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้เข้ามาเหยียบที่ตำหนักสองกษัตริย์ ดังน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2014

    ดวงตาของทุกคนเบิกกว้างเมื่อได้ยินสิ่งนี้ นอกจากผลการต่อสู้ สิ่งของเดิมพันของเวสลีย์ที่เฟนด์ร้องขอก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้หลายคนตกใจไม่ว่าใครจะทำการประลองเดิมพัน พวกเขาก็ไม่สามารถเดิมพันได้มากกว่าหนึ่งร้อยห้าสิบคะแนนได้ และนั่นหมายความว่าเฟนด์ได้ขอให้เวสลีย์เดิมพันด้วยคะแนนสะสมสูงสุด เมื่อรวมกับโอสถทะลวงวิญญาณสองเม็ด การเดิมพันก็จะยิ่งเพิ่มสูงขึ้นอีก เนื่องจากโอสถทะลวงวิญญาณเป็นหนึ่งในโอสถที่มีค่ามากกว่าโอสถระดับห้าชนิดอื่น ๆในความเป็นจริง การบ่มเพาะโอสถทะลวงวิญญาณต้องใช้ส่วนผสมล้ำค่าหลายอย่าง เมื่อวัดจากคุณค่าของส่วนผสมเหล่านี้ มูลค่าของโอสถทะลวงวิญญาณจึงเทียบได้กับโอสถระดับหกเลยทีเดียวในตำหนักสองกษัตริย์มูลค่าของโอสถทะลวงวิญญาณแต่ละเม็ดคือหนึ่งร้อยห้าสิบคะแนนสะสมของตำหนัก และโอสถทะลวงวิญญาณสองเม็ดจะเท่ากับสามร้อยคะแนน เมื่อรวมกับคะแนนสะสมจำนวนหนึ่งร้อยห้าสิบคะแนน พวกเขาจะมีคะแนนสะสมของตำหนักทั้งหมดสี่ร้อยห้าสิบคะแนน!มูลค่าของสิ่งของเดิมพันนี้สูงกว่าราคาห้องที่เฟนด์เป็นเจ้าของในตอนนี้มาก ศิษย์ภายนอกทั่วไปไม่มีทางมีคะแนนสะสมของตำหนักไว้ในครอบครองมากมายขนาดนี้ แม้ว่าพวกเขาจะสะสมคะ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2015

    เฟนด์หัวเราะเบา ๆ หลังจากได้ยินสิ่งนี้และพูดว่า "ไม่จำเป็นต้องรอจนถึงสิ้นเดือนหรอก เพราะเราสู้กันตอนนี้เลยก็ได้ เนื่องจากนายตอบรับข้อเสนอของฉันแล้ว จะรอต่อไปทำไม?”คำพูดของเฟนด์เหมือนกับการทิ้งก้อนหินหนักสามพันกิโลกรัมลงในทะเลสาบที่เงียบสงบ มีหลายคนเริ่มสงสัยว่าตัวเองหูฝาดไปหรือเปล่า เฟนด์พูดอะไรออกมา เขาอยากตายมากเลยหรือถึงได้บอกว่าอยากจะเข้าร่วมการประลองกับเวสลีย์เสียเดี๋ยวนี้? หรือเขาหมดหนทางและเสียสติไปแล้ว?แม้แต่โนเอลและบรู๊คก็ยังมองหน้ากันด้วยความตกตะลึง หลังจากที่ได้ยินสิ่งที่เฟนด์พูด พวกเขาอ้าปากค้างอยู่เป็นเวลานานและนอกจากความประหลาดใจที่ผุดขึ้นมาในหัวพวกเขาก็ไม่รู้จะพูดอะไรออกมาอีกขณะที่พวกเขามองไปที่แผ่นหลังของเฟนด์เฟนด์เพิกเฉยต่อสิ่งที่ผู้ชมคิดเกี่ยวกับเขาหรือความคิดเห็นที่มีต่อเขา เขาเดินไปเรื่อย ๆ และมาหยุดยืนอยู่ที่ด้านหน้าของแอมโบรส แอมโบรสก็ตกตะลึงเล็กน้อยเช่นกันเมื่อเขามองไปที่เฟนด์ เขาไม่เข้าใจในสิ่งที่เฟนด์ต้องการจะทำ เขารู้สึกว่าเฟนด์ไม่ใช่คนบ้าที่ทำอะไรไม่คิดผ่านไปแค่สิบกว่าวันเขาก็อยากจะตายจนทนไม่ไหวแล้วเหรอ? ถ้าเขามีเวลาจนถึงสิ้นเดือนเขาก็อาจจะเพิ่มระดับค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2016

    ในความเป็นจริง การที่มีชายตารูปสามเหลี่ยมมารบกวนทำให้เฟนด์ควบคุมตัวเองแทบไม่ได้ ท่ามกลางความประหลาดใจของทุกคนเฟนด์หันกลับไปจ้องมองชายคนนั้นด้วยดวงตารูปสามเหลี่ยมอย่างเย็นชาในทันที เขาเอ่ยอย่างเย้ยหยันว่า “ฉันเป็นพวกเจ้าคิดเจ้าแค้นนะ นายควรจะจำคำพูดของฉันเอาไว้ให้ดี”หลังจากที่เขาพูดจบ เฟนด์ก็หันหลังกลับและเดินไปที่ลานประลองตรงกลาง ในขณะนี้ เวสลีย์ยืนอยู่ทางทิศตะวันออกของพื้นที่ต่อสู้แล้ว และเฟนด์ยืนอยู่ตรงข้ามเขา ทั้งสองคนมองหน้ากัน คนหนึ่งไม่แสดงออก ในขณะที่อีกคนดูเย้ยหยัน เวสลีย์มองว่าเฟนด์ราวกับว่าอีกฝ่ายเป็นคนงี่เง่าไม่ก็พวกสมองกลวง แต่สีหน้าของเฟนด์ส่วนใหญ่ยังคงเรียบเฉยไร้อารมณ์ดูเหมือนไม่ว่าเวสลีย์จะแสดงสีหน้าอย่างไร ก็ไม่มีผลอะไรกับเฟนด์ เสียงที่ผู้คนพูดคุยกันถึงสิ่งที่เกิดขึ้นใต้เวทีนั้นดังพอที่จะเสียดแทงหูของใครต่อใคร แต่ไม่มีใครคาดหวังว่าสิ่งต่าง ๆ จะเลยเถิดมาถึงขนาดนี้ พวกตัวยุ่งเริ่มส่งข่าวไปบอกสหายของพวกเขาที่ไม่ได้อยู่ที่นั่นให้มาดูการต่อสู้ เพื่อไม่ให้พลาดการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ทั้งบรู๊คและโนเอลจ้องมองคนทั้งคู่บนเวทีที่กำลังจ้องมองกันและกันด้วยใบหน้าบึ้งตึงจากระยะไกล พ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2017

    สิ้นคำปรามาส เวสลีย์ก็ไม่ได้พูดอะไรอีกในขณะที่เขาดึงดาบยาวสามฟุตออกจากแหวนยุทธ โดยจับด้ามดาบเอาไว้แน่น เขายกมือขวาขึ้น และดาบก็ส่องประกายไปด้วยแสงสีเงินอีกครั้ง ทุกคนเฝ้ามองแสงที่รวมตัวกันเป็นดวงดาวขนาดเล็กแต่สว่างไสวภายในดาบที่เปล่งแสงสีเงินเวสลีย์ไม่ต้องใช้พละกำลังในการต่อสู้กับเฟนด์มากนัก เขาสร้างดาวสีเงินสองดวงขณะที่ตัวเองต่อสู้กับเดล แต่ดาวเพียงดวงเดียวก็มากพอที่จะทำให้เฟนด์พ่ายแพ้หมดรูปได้แล้วเฟนด์เลิกคิ้วขึ้น ในตอนที่เขาอยู่ที่อัฒจันทร์ก่อนหน้านี้ เขาสังเกตเห็นว่าเวสลีย์ใช้ทักษะชุมนุมเจ็ดดาวตกเหมือนกัน แต่การได้ยืนอยู่ตรงข้ามเวสลีย์ทำให้เขารู้สึกได้ถึงพลังที่ท่วมท้นของชุมนุมเจ็ดดาวตกอย่างชัดเจน ถ้าเขาเป็นผู้ฝึกยุทธทั่วไปที่อยู่ในขั้นแรกระดับแรกกำเนิด ก็คงจะไม่อาจยืนหยัดอยู่ได้อย่างสง่างามภายใต้แรงกดดันที่ทรงพลังขนาดนี้ เป็นไปได้ว่าบางคนที่มีความสามารถในการต่อสู้ที่อ่อนแอจะไม่อาจยืนต้านทานได้ไหวชุมนุมเจ็ดดาวตก เป็นทักษะยุทธขั้นกลางระดับโลหิตอย่างแท้จริง เฟนด์เลิกคิ้วขณะที่เขาค่อย ๆ หยิบกริชสีดำออกมาจากมัสตาร์ด ซี๊ด กริชสีดำเล่มนี้ไม่มีอะไรพิเศษ มันมีความยาวเท่านิ้วมือของเขา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2018

    ทักษะยุทธอันทรงพลังจะมาพร้อมกับพลังอันดุร้ายเมื่อมันถูกปล่อยออกมาเสมอ แต่ไม่มีใครในกลุ่มผู้ชมที่นั่งอยู่ที่จะสามารถรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของพลังจากแสงทมิฬที่เฟนด์เปิดผนึกใช้งานเลยแม้แต่น้อยปฏิกิริยาของผู้ชมคล้ายกับผู้ที่ได้เห็นการต่อสู้ระหว่างเฟนด์และวอร์เรนเมื่อตอนก่อนหน้านี้ ทุกคนได้ยินเสียงสรรพวุธกระทบกันอย่างชัดเจน กริชสีดำและดาบสีเงินในมือของเวสลีย์ปะทะกันอยู่อย่างนั้นดาบสีเงินส่องประกายแวววาว และรอยยิ้มมั่นใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเวสลีย์ สำหรับเขา กริชสีดำของเฟนด์ไม่ต่างอะไรจากเศษขยะที่เขาสามารถทำให้กระเด็นออกไปได้ง่าย ๆ …เพราะว่าหลังจากนั้นเพียงไม่กี่วินาที รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็ค่อย ๆ เหือดแห้งลง เมื่อเขารู้สึกว่ามีแรงต้านทานที่เข้ามาทางมือขวาซึ่งเป็นมือที่ถือดาบแรงต้านทานที่แปลกประหลาดนี้ทำให้เวสลีย์ตะลึงไปครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะถอยหลังไปหนึ่งก้าววินาทีต่อมา ดวงตาของเวสลีย์แทบจะถลนออกมานอกเบ้า ในขณะที่เขาพบว่าทักษะชุมนุมเจ็ดดาวตก ของเขานั้นมีพลานุภาพพอ ๆ กับทักษะยุทธที่เฟนด์ใช้เฟนด์ถอยหลังหนึ่งก้าวเหมือนกับที่อีกฝ่ายทำ!แสงสีเงินจากดวงดาวและแสงสีดำหายไปหลังจากการปะทะกั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2019

    ลิ่วล้อของเวสลีย์อ้าปากค้างจนขากรรไกรล่างเกือบหลุด โดยเฉพาะชายผู้มีดวงตารูปสามเหลี่ยมซึ่งในขณะนั้นกำลังตกตะลึง ปากของเขาเปิดกว้างเมื่อความไม่เชื่อเล่นหลายอยู่บนใบหน้าของเขาเขาไม่คาดคิดเลยว่าเฟนด์จะแข็งแกร่งได้ถึงขนาดนี้ มุมปากของเขากระตุกเล็กน้อยขณะที่เขาตวาดเหวออกมา “เป็นไปไม่ได้! นี่ไม่ใช่เรื่องจริง! หมอนี่จะแข็งแกร่งขนาดนี้ได้ยังไง?!”คนที่ต้องตกใจมากที่สุดในหมู่ทุกคนที่อยู่ที่นั่นก็คือเวสลีย์ซึ่งยืนประจันหน้าเฟนด์อยู่ เวสลีย์กำดาบแน่นด้วยมือขวา ถ้าพวกเขาสังเกตดี ๆ พวกเขาจะสามารถมองเห็นเส้นเลือดสีน้ำเงินที่มือขวาของเขาได้ มันเกิดขึ้นเพราะเขาใช้กำลังมากเกินไปแม้ว่าเวสลีย์จะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อระงับความประหลาดใจและความไม่เชื่อในสายตาของเขา แต่เขาก็ทำเช่นนั้นไม่สำเร็จ เขาเขาถอนหายใจแรงดูเหมือนว่าเขาสูญเสียตัวเองไปกับความบ้าคลั่งที่เด่นชัดอยู่ในแววตาของเขา“ฉันไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมก่อนหน้านี้นายถึงทำตัวบ้าบิ่นขนาดนั้น ก็เพราะว่านายมีของดีอยู่กับตัวนี่เอง ถึงกระนั้นก็อย่าได้คิดว่าจะมาทำตัวอวดเบ่งใส่ฉันได้!” แม้ว่าเขาจะประหลาดใจที่เฟนด์แข็งแกร่งได้ถึงขนาดนี้ แต่เวสลีย์ก็ยังไม่คิดว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29

บทล่าสุด

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

DMCA.com Protection Status