“นักเล่นแร่แปรธาตุขั้นกลางระดับสาม? ฉันได้ยินผิดไปรึเปล่า นี่…นี่…นี่เป็นเรื่องจริงเหรอ? มันเร็วเกินไปแล้วนะ!”หลังจากได้ยินเช่นนั้น ปากของเฮเลน่าก็อ้าปากค้างด้วยความตกใจ เธอรู้สึกงุนงงกับพรสวรรค์ในการเล่นแร่แปรธาตุของเฟนด์เป็นอย่างมาก“ฮิฮิ แน่นอนว่านั่นเป็นเรื่องจริง ไม่อย่างนั้นระดับพลังยุทธของพวกเขาจะพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วได้อย่างไร?!”ดาเนียลล่าหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดพร้อมกับขมวดคิ้ว “ผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งอยู่ที่ไหน? ทักษะการเล่นแร่แปรธาตุของเขาพัฒนาขึ้นหรือยัง? ฉันสงสัยว่าเขาได้ทะลวงเข้าสู้ระดับเทพสูงสุดแล้วหรือยัง?”"ใช่ ฉันก็สงสัยว่าตอนนี้เขาเป็นอย่างไรบ้าง เราไม่ได้เจอเขาเลย!”ดาเนียลล่าถอนหายใจก่อนจะมองไปข้างหน้า เมื่อถึงตอนนั้น การต่อสู้ของเฟนด์กับศัตรูของเขาก็เข้มข้นขึ้น ทั้งสองผลัดกันโจมตีกันไปมาหลายรอบแล้ว แต่ดูเหมือนว่าเฟนด์จะได้เปรียบกว่า“แ*งเอ๊ย เด็กคนนี้ดูเหมือนจะมีพลังฉีเหลือล้นเลย!”ลูเชี่ยนมองไปข้างหน้าด้วยสีหน้าจริงจังขณะที่เม็ดเหงื่อที่ผุดพรายไหลลงมาจากหน้าผากของเขาก่อนหน้านี้เขาคิดว่าเขาสามารถฆ่าเฟนด์ได้อย่างง่ายดาย แต่ในขณะที่การต่อสู้ดำเนินต่อไป เขาก็ตร
ทว่าเฟนด์ก็เข้าใจได้อย่างรวดเร็วว่าทำไมทักษะยุทธนี้ถึงยากผิดปกติสำหรับคนอื่น เพราะเขาได้เรียนรู้ทักษะกรงเล็บมังกรแท้จริงในอดีตและทำให้มีความสามารถในการแปลงร่างเป็นมังกรที่แท้จริง มันทำให้เขามีร่างเป็นมังกรบางทีนั่นอาจเป็นเหตุผลว่าทำไม หมัดมังกรคู่จึงง่ายกับเขาอย่างน่าประหลาดใจ เนื่องจากเขาสามารถเปลี่ยนมือของเขาให้กลายเป็นกรงเล็บมังกรได้เมื่อเห็นความสับสนของเฟนด์ ลูเชี่ยนก็แทบจะกระอักเลือดออกมาเพราะความปั่นป่วน เด็กที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาเป็นสัตว์อสูรชนิดไหนกันนะ? คนคนนี้ที่อยู่ในขั้นที่สี่ระดับเทพสูงสุดจะแข็งแกร่งกว่าเขาได้อย่างไร? ยิ่งกว่านั้นเฟนด์ยังสามารถเรียนรู้ทักษพหมัดมังกรคู่ได้ภายในเวลาไม่ถึงสองเดือน? เขาเข้าใจทักษะนี้ได้อย่างไร?“วายุสลาตัน!”ลูเชี่ยนไม่มีความมั่นใจ แต่เพราะเพื่อนของเขาที่ตายไปแล้ว เขาจึงกัดฟันและฟาดฟันเข้าหาเฟนด์วืด!คลื่นของรัศมีดาบอันน่าสยดสยองพุ่งไปข้างหน้า มันกวาดไปทั่วทั้งป่าราวกับลมพายุ มันมีรัศมีที่น่าสะพรึงกลัวและกวาดออกไปกินพื้นที่บริเวณกว้าง“หมัดมังกรคู่!”เฟนด์ตอบโต้ด้วยการส่งกำปั้นไปข้างหน้า“โฮก!”ด้วยหมัดของเขา กรงเล็บมังกรขนาดมหึมาสอง
เฟนด์สามารถฆ่าผู้ฝึกยุทธในขั้นที่เจ็ดระดับเทพสูงสุดได้ พวกเขาต่างมีความสุขมากในขณะเดียวกัน เฮเลน่าก็เข้าไปหาเฟนและเอ่ยปากอย่างเขินอายว่า “เฟนด์ ขอบคุณนะ ถ้าไม่ได้คุณช่วย ฉันคงตายไปแล้ว ไหนคุณยังจะช่วยชีวิตผู้คนจากตระกูลคาเบลโลของเราอย่างมากมายอีก!”เฟนด์ยิ้มอย่างเฉยเมยและพูดว่า "คุณเกรงใจกันเกินไปแล้ว เราเป็นครอบครัวใหญ่ เราควรร่วมกันต่อต้านศัตรูของเรา”"ถูกต้อง นี่เป็นเวลาที่เราควรรวมใจให้เป็นหนึ่ง!” แฮร์รี่หัวเราะเบา ๆ ขณะที่เขาบินไปเขารู้สึกว่าการตัดสินใจเข้าร่วมเฟนด์และพรรคพวกถือเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดเท่าที่เขาเคยทำมา หากเขาไม่ติดตามคนเหล่านี้และได้พบกับสมาชิกของเผ่านองเลือดเพียงลำพัง เขาจะต้องตายอย่างแน่นอน“อ้อ ฉันเกือบลืมไปเลย ฉันมีเรื่องจะบอกทุกคน!” เฮเลน่าประกาศกับกลุ่มขณะที่เธอนึกถึงบางอย่างในทันใด"เรื่องอะไรล่ะ?"เมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของเฮเลน่า อเล็กซานเดอร์และคนอื่น ๆ ก็บินมาหาเธอเช่นกัน“ฉัน...ฉันได้เจอกับผู้คนจากกองทัพทั้งเก้า ฉันไม่แน่ใจว่าพวกคุณเคยได้ยินไหม แต่ฉันเห็นพวกเขามามากกว่าหนึ่งโหลแล้ว!”เฮเลน่าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงพูดกับกลุ่มของเฟนด
อเล็กซานเดอร์พยักหน้า ยังมีสมาชิกตระกูลคาเบลโลอีกมากมายที่ยังหาไม่พบ แม้ว่าพวกเขาจะเสียชีวิตกันไปมากมาย แต่ก็น่าจะยังมีคนเหลืออยู่อย่างน้อยหนึ่งหมื่นคน“เยี่ยมไปเลย นายท่าน พวกคุณอยู่ที่นี่กันนี่เอง พระเจ้าช่วย นี่ไม่ใช่ภาพลวงตาจริง ๆ ฮ่าฮ่า!”ทันใดนั้นเอง เควินและผู้อาวุโสจากตระกูลคาเบลโลบินอีกสองสามคนก็ปรากฏตัวขึ้นโดยไม่คาดคิด พวกเขานำสมาชิกตระกูลคาเบลโลกว่าสามพันคนและสมาชิกตระกูลวู๊ดกว่าสองพันคนมาด้วย“เยี่ยมไปเลย เยี่ยมไปเลย! นายท่านของเราและคนอื่น ๆ ต่างอยู่ที่นี่ และนายน้อยเฟนด์ก็อยู่ที่นี่ด้วย นี่มันยอดเยี่ยมมาก เราได้กลับเข้ากลุ่มใหญ่แล้ว!”เมื่อได้เห็นเฟนด์และคนอื่น ๆ สมาชิกในตระกูลวู๊ดหลายคนดวงตาแดงก่ำ ในช่วงหลายวันมานี้ พวกเขาค้นพบหญ้าวิญญาณและสิ่งของล้ำค่ามากมายในพื้นที่นี้ มีหลายคนที่อยู่ในระดับการบ่มเพาะที่สูงขึ้นซึ่งได้ทะลวงเข้าสู่ขั้นที่หนึ่งระดับเทพสูงสุดแล้วแต่ในช่วงเวลานั้นของพวกเขาก็เต็มไปด้วยอันตรายเช่นกัน พวกเขาสำรวจพื้นที่อย่างระมัดระวัง และระหว่างทางก็ได้พบกับศพของสมาชิกในตระกูลโดยเฉพาะอย่างยิ่งสมาชิกจากตระกูลสาขาของตระกูลวู๊ด พวกเขาพยายามค้นหาเฟนด์ แนชแ
"อะไรนะ! มีคนเข้ามาหลายหมื่นคน?”เนื่องจากป้อมปราการวิตต์มอร์อยู่ใกล้กับผืนป่ามากที่สุด ทุกคนจึงมุ่งหน้าไปที่นั่นก่อน เมื่อปู่ของอาเธอร์รู้เรื่องดังกล่าว เขาก็ผุดตัวขึ้นจากเก้าอี้ด้วยความตกใจ จนตาแทบจะถลนออกมานอกเบ้า"ใช่ครับปู่ ให้เราปรึกษากับหัวหน้าป้อมปราการก่อนว่าเราควรทำอย่างไร อ่า เรื่องที่คนพวกนั้นเข้ามาที่นี่นั้นไม่ใช่ประเด็นสำคัญหรอก ที่สำคัญกว่านั้นก็คือมีสมาชิกจากเผ่ากระหายเลือดหลายคนได้เข้าไปค้นหาสมบัติตามภารกิจของเผ่าอยู่หลายคน ตอนนี้พวกนั้นได้พบกับคนจากโลกข้างนอกเหล่านั้นแล้ว คุณหนูเฮเลน่าและคนอื่น ๆ คงตายไปแล้ว!”เมื่อพูดถึงเฮเลน่า อาเธอร์ก็รู้สึกสงสารเธอจับขั้วหัวใจ เขาเกลียดตัวเองที่อ่อนแอเกินไป ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่เลือกที่จะละทิ้งเธอที่อยู่ในสถานการณ์คาบลูกคาบดอกเช่นนั้นผู้อาวุโสอ่านใจอาเธอร์ออกได้เลยว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ ก่อนกลอกตาอย่างไม่แยแส “เจ้าหลานงี่เง่า คุณหนูเฮเลน่าอะไรของแก อย่าลืมว่าแกเป็นหลานชายของผู้อาวุโสแห่งป้อมปราการวิตต์มอร์เชียวนะ แกจะติดใจผู้หญิงจากโลกข้างนอกนั่นไม่ได้ เข้าใจไหม? คนพวกนั้นจะเทียบกับเราได้อย่างไร?”ตอนที่ผู้อาวุโสพูด เขาก็เหลือ
“คุณปู่ นี่มันเกี่ยวกับความเป็นความตายของมนุษย์เลยนะ! ยิ่งเราช้าคนจะยิ่งตายเยอะขึ้น! ถ้าเรายังชักช้าร่ำไร กว่าเราจะลงมือ ก็ไม่รู้ว่าพวกเขาจะต้องตายอีกสักกี่คน!”อาเธอร์ตื่นตระหนกยิ่งกว่าเดิมหลังจากที่ได้ยินสิ่งนี้ แต่เขาก็ยังไม่รู้ว่าจะทำเช่นไรถึงกระนั้น คูเปอร์ก็พูดต่อว่า “ต่อให้มีคนตายแล้วจะยังไงล่ะ? ฉันไม่อาจทำอะไรข้ามขั้นได้ ฉันต้องแจ้งเรื่องนี้ให้หัวหน้าป้อมปราการรู้ก่อนและจัดการกับเรื่องนี้ตามขั้นตอนที่เหมาะสม เข้าใจไหม? ถ้าเราไปแจ้งหัวหน้าป้อมปราการลำดับที่หนึ่งโดยตรงโดยไม่แจ้งหัวหน้าป้อมปราการของเราก่อน ถ้าหัวหน้าป้อมปราการขุ่นเคืองใจจะทำยังไง? อีกอย่างพวกเขาเข้ากันไม่ใช่น้อย ๆ พวกเขาคงไม่ถูกกำจัดในเร็ว ๆ นี้หรอก! อีกทั้งผืนป่าก็กว้างใหญ่มาก พวกเขาต่างกระจัดกระจายไปทั่ว การจะพบพวกเขาก็คงไม่ใช่เรื่องง่าย สมาชิกจากเผ่ากระหายเลือดที่เข้าไปในป่านั้นก็มีไม่มากนัก พวกเขาจะฆ่าพวกนั้นได้สักกี่คน!”อาเธอร์และเฮนดริกพูดไม่ออก พวกเขาไม่คิดว่าคูเปอร์จะพูดแบบนี้ แต่อย่างไรตอนนี้พวกเขาก็ไม่มีทางทำอะไรได้อีก พวกเขาไม่มีพละกำลังมากพอ และไม่มีอำนาจในเรื่องที่ใหญ่เช่นนี้ พวกเขาทำได้เพียงรายง
“ห้า…ห้าหมื่นถึงหกหมื่น?”น้ำเสียงของคีแรนดังขึ้นเล็กน้อย เขาสงสัยว่าตัวเองจะหูฝาดไป ถ้าสักแค่ห้าสิบถึงหกสิบหรือห้าร้อยถึงหกร้อยคน เขาก็คงไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องใหญ่โตอะไร แถมนับจากเหตุการณ์นั้นก็ผ่านมานานมากแล้ว ตอนนั้นมีคนเข้ามาเพียงไม่กี่คน กองกำลังภาคีจึงไม่ได้สืบสวนเรื่องนั้น และแน่นอนว่าพวกเขาจะไม่สร้างความวุ่นวายใหญ่โตเกี่ยวกับมันด้วยแต่กับจำนวนห้าหมื่นถึงหกหมื่นคนนั้นมากเกินไป นอกจากนี้ หากคนเหล่านี้เข้ามาในพื้นที่นี้ พวกนั้นจะเก็บเกี่ยวหญ้าวิญญาณไปมากแค่ไหน? พวกเขาจะต้องสละทรัพยากรยุทธไปไม่น้อยเลย!ยิ่งกว่านั้น ทางเข้าก็ยังตั้งอยู่ในป่าใกล้กับกองทัพทั้งเก้า ป้าผืนดังกล่าวอาจเรียกได้ว่าเป็นสวนหลังบ้านของพวกเขา นอกเหนือจากสาวกจากเผ่ากระหายเลือดที่มาหาวัตถุดิบเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นครั้งคราว ผู้คนของกองทัพทั้งเก้าซึ่งอยู่ใกล้ป่ามากที่สุดจึงสะดวกที่จะไปที่นั่นที่สุดตอนนี้มีคนหลายหมื่นคนเข้าไปในป่าแล้ว ในชั่วพริบตาพวกเขาอาจจะใช้ทรัพยากรยุทธไปมากมาย คีแรนรู้สึกว่าหัวใจของเขารวดร้าว เมื่อนึกไปถึงจำนวนทรัพยากรยุทธที่ถูกพรากไป“หัวหน้าป้อมปราการ เราควรทำยังไงกับเรื่องนี้? เราไม่ได้เตร
ดังนั้นปัญหาใหญ่ที่เฮนดริกว่า จึงแทบไม่อยู่ในสายตาของคนเป็นพ่อเลย "ฟังนะพ่อ คนพวกนั้น… คนพวกที่มาจากดินแดนรกร้างได้เข้ามาที่นี่แล้ว! และพวกเขาก็แอบเข้ามากันกว่าแสนคน! เราได้เจอกับพวกเขาบางคนและได้พูดคุยกับพวกเขาด้วย อีกทั้ง…" เฮนดริกพรั่งพรูถึงสิ่งที่เขาพบเจอมาด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก เขาไม่รู้ว่าควรจะเริ่มจากตรงไหนดี "เดี๋ยว อะไรนะ กว่าแสนคน?” ไค พ่อของเฮนดริกรู้สึกทึ่งกับตัวเลขเมื่อได้ยิน แค่มีคนนอกเข้ามาที่นี่สักหมื่นคนมันก็คงจะวุ่นวายมากแล้ว นับประสาอะไรกับคนเรือนแสน! เมื่อไคตั้งสติได้หลังจากได้ยินข่าวที่น่าตกใจนี้ เขาจึงพูดขัดจังหวะเฮนดริกก่อนที่ลูกชายจะพูดจบประโยค “เฮนดริก นี่ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ แล้วนะ ลูกควรจะพูดความจริงออกมา ลูกแน่ใจหรือว่าสิ่งที่ลูกพูดเป็นความจริง?” เอลล่าที่ยืนอยู่ข้างเฮนดริกก้าวไปข้างหน้าและช่วยยืนยันคำพูดของพี่ชาย “จริงสิพ่อ! พี่ไม่โกหกพ่อกับเรื่องแบบนี้หรอก! มันเป็นเรื่องจริงทั้งนั้น! แถมในหมู่คนพวกนั้นยังมีอัจฉริยะมากพรสวรรค์ที่ชื่อเฟนด์อีก เขาเคยช่วยชีวิตฉันมาแล้ว! ฉันคิดว่าอย่างน้อยเขาก็น่าจะทะลวงถึงขั้นที่สองระดับเทพสูงสุด หรืออาจจะถึงขั้นที่ส