“สุดยอดไปเลย! นี่เฟนด์และคนอื่น ๆ จริง ๆ ด้วย!” อีธานและคนอื่น ๆ ตื่นเต้นมากเมื่อพวกเขาบินมาถึง"นี่มันเจ๋งมาก! ดีที่ไม่มีใครเป็นอะไร!” เฟนด์มองไปที่ใบหน้าที่คุ้นเคยตรงหน้าเขาและพูดด้วยความตื่นเต้น“อ้อ เราได้ก้าวเข้าสู่ขั้นสูงของระดับเทพแท้จริงแล้ว ที่นี่ยอดมากเพราะไม่เพียงแต่มีหญ้าวิญญาณระดับสามเท่านั้น แต่ยังมีหญ้าวิญญาณระดับสี่ด้วย เราพัฒนาขึ้นค่อนข้างมากภายในเวลาไม่ถึงยี่สิบวันที่เข้ามาในพื้นที่นี้!” แซมพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม พวกเขาทั้งหมดดูมีชีวิตชีวาอย่างมาก“อย่างนั้นเหรอ? ยอดเยี่ยม! เห็นได้ชัดว่าทุกคนพัฒนาขึ้นมากทีเดียว ค่อนข้างดีที่นายท่านแอ็บเนอร์และอีธานได้ทะลวงเข้าสู่ขั้นกลางของระดับเทพที่แท้จริงแล้ว!” เฟนด์พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ ทักษะยุทธของพวกเขาดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ หากพวกเขายังคงฝึกฝนในด้านนี้ต่อไป พวกเขาก็จะมีโอกาสที่จะก้าวไปสู่ระดับเทพสูงสุดได้ในไม่ช้า“ทุกคนมีพัฒนาการ แต่เราก็ได้เห็นการเสียชีวิตในระหว่างการเดินทางของเรามาจำนวนมาก หลายวันก่อน เราพบศพของสมาชิกบางคนในตระกูลวู๊ด ดูเหมือนว่าพวกเขาจะถูกสมาชิกของตระกูลลาโกริโอ และวิหารราชวงศ์ศัก
เฮนดริกซึ่งอยู่อีกฟากหนึ่งก็หันมามองเฮเล่น่าเป็นครั้งคราวเช่นกัน บางครั้งเขามีรอยยิ้มเคอะเขินบนใบหน้าและเห็นได้ชัดว่าเขากำลังตกหลุมรักเสียจนโงหัวไม่ขึ้น"ฮ่าฮ่า... คุณแน่ใจนะว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น?" มีหลายร่างบินออกมาจากป่าด้านหน้าพวกเขาและขวางทางพวกเขาอย่างกระทันหันตรงหน้าพวกเขา มีสมาชิกของเผ่ากระหายเลือดมากกว่า 20 คน“แย่แล้ว ทำไมสมาชิกของเผ่า... เผ่ากระหายเลือดถึงมาที่นี่ได้?” ใบหน้าของอาเธอร์หม่นลงและแอบอุทานว่าแย่แล้วเมื่อเขาเห็นว่าคนเหล่านี้เป็นสมาชิกของเผ่ากระหายเลือด"ฮ่าฮ่า... แปลกจริง เผ่านองเลือดของเราอยู่ไม่ไกลจากที่นี่และที่นี่ก็เป็นสถานที่ล่าของล้ำค่าด้วย ทำไมพวกเราถึงจะมาอยู่ที่นี่ไม่ได้?" ชายในชุดขาวจากเผ่ากระหายเลือด กอดอกและทำหน้าตาเย่อหยิ่ง "คุณคิดจริง ๆ หรือว่านี่เป็นดินแดนที่เป็นของกองทัพทั้งเก้าและผู้คนจากกองกำลังอื่นไม่สามารถมาที่นี่เพื่อล่าสมบัติได้"อาเธอร์ยิ้มอย่างเขินอาย "นี่...ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น! พวกคุณมาล่าสมบัติที่นี่ได้แน่นอน แต่ก่อนหน้านี้พวกคุณไปล่าสมบัติที่อื่นไม่ใช่เหรอ? ทำไม...ทำไมคราวนี้ถึงคิดจะมาที่นี่? ฉันแค่รู้สึกว่านี่มันเป็นเรื่อง
“เดี๋ยวนะ ทำไมถึงบอกว่าเป็นคนจากพื้นที่รกร้างล่ะ มีหลักฐานเหรอ” เอลล่าครุ่นคิดอย่างรวดเร็วและพูดขึ้น “พวกเขาล้วนแล้วแต่เป็นคนจากกองทัพทั้งเก้า อย่าได้พูดอะไรไร้สาระแบบนี้ถ้าคุณไม่มีหลักฐานและจ้องจับผิดกับเรา!”"ฮ่า ๆ... ยังจะเสแสร้งอยู่อีกเหรอ?" ชายในชุดขาวเริ่มหัวเราะ “เราเคยพบคนกลุ่มหนึ่งที่มีเหรียญคาดเอวเหมือนกับพวกเขามาก่อน พวกเขาเป็นสมาชิกของตระกูลคาเบลโลซึ่งเราแอบได้ยินมาจากการสนทนาของพวกโง่เง่านั่น แต่คนหลายร้อยคนพวกนั้นถูกเราฆ่าตายไปแล้ว!”"พวกแก..." เฮเลน่าโกรธมากเมื่อได้ยินสิ่งนี้ เธอไม่คิดเลยว่าสมาชิกในตระกูลคาเบลโลของเธอหลายร้อยคนจะถูกคนเหล่านี้ฆ่า มันทำให้เธอเจ็บปวดหัวใจ"เกิดอะไรขึ้น? สาวงามของเราโกรธซะแล้วเหรอ? จุ๊ จุ๊... ดูเหมือนว่าคนพวกนั้นคือสมาชิกในตระกูลคาเบลโลของคุณ และคนพวกนั้นก็อาจเป็นสมาชิกในครอบครัวของคุณด้วย!" ชายในชุดขาวยังคงพูดกับเฮเลน่าเมื่อเขาเห็นว่าเธอโกรธมากเพียงใด "เป็นอะไรไป? ดูจากท่าทางที่โกรธจัดของเธอแล้ว เธอคงต้องการล้างแค้นให้กับตระกูลคาเบลโลของเธองั้นสินะ ถ้างั้นก็เชิญเลย ฮ่าฮ่า!""อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะ ศิษย์พี่ลูเชี่ยน ผู้หญิงคนนี้หน้
อีกอย่าง อาเธอร์ยังเป็นหลานชายของผู้อาวุโสแห่งป้อมปราการวิตต์มอร์ ในขณะที่เฮนดริกเป็นบุตรชายของผู้อาวุโสอีกคนจากอีกป้อมปราการ ถ้าสองคนนี้ตาย พวกเขากลัวว่าผู้นำของกองทัพทั้งเก้าจะไม่พอใจถึงแม้ว่าเผ่ากระหายเลือดของพวกเขาจะแข็งแกร่ง แต่พวกเขาก็ไม่ได้แข็งแกร่งมากนักเมื่อเทียบกับกองทัพทั้งเก้าดังนั้นคงจะดีกว่ามากหากพวกเขาจะไม่ก่อให้เกิดสถานการณ์ที่รุนแรงโดยตรง“ได้ยินไหม นายน้อยอาเธอร์ เขาสาบานเลยด้วยซ้ำ!” สกายรู้สึกยินดีเมื่อได้ยินสิ่งนี้ อย่างน้อยเธอก็มีโอกาสรอด สำหรับเฮเลน่า เธอไม่พอใจเฮเลน่ามานานแล้ว เธอตายไปได้ก็ดี“นายน้อยอาเธอร์ พวกคุณควรไปซะ!” เฮเลน่ายิ้มอย่างขมขื่น เธอตระหนักได้ว่าชายในชุดขาวคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาและต้องมีอำนาจมากเป็นพิเศษ มิฉะนั้น อาเธอร์ เฮนดริก และคนอื่น ๆ จะไม่มีสีหน้ามืดมนเช่นนี้แม้ว่าคนจากจากเผ่ากระหายเลือดจะมีกันแค่ประมาณ 20 คน แต่สมาชิกเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นยอดฝีมือจากเผ่ากระหายเลือดด้วยกันทั้งนั้น"เข้าใจแล้ว!" หลังจากเงียบไปพักหนึ่ง อาเธอร์ได้แต่พยักหน้ารับอย่างช่วยไม่ได้ จากนั้นเขาก็ก้าวไปข้างหน้าและพูดกับเฮเลน่าว่า "พวกคุณมีกันจำนวนมากและผมหวังว่
"เอลล่า เธอกำลังพูดเรื่องอะไร? เธอกำลังเรียกใครว่าฝ่ายที่หนี? สกายรู้สึกโกรธเมื่อได้ยินเรื่องนี้และพูดว่า "อย่าลืมสิ เราไม่ได้เป็นหนี้อะไรดับพวกเขา อีกอย่างถ้าเธออยากตายนัก เธออยู่กับพวกเขาต่อสิ! เธอจะมากับเราทำไม?""สกาย เธอกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร? น้องสาวของผมพูดถูก การที่เราทิ้งพวกเขาไว้แบบนี้ มันช่างไร้มนุษยธรรมจริง ๆ!" เฮนดริกไม่มียินดีมาตั้งแต่ต้น ในที่สุดเขาก็ได้พบกับสาวงามและเขาก็ชอบเธอจนหมดหัวใจ แต่สุดท้ายเขากลับไม่สามารถปกป้องอีกฝ่ายได้ เขาได้แต่โทษตัวเอง แต่เมื่อได้ยินสกายพูดแบบนี้เขาก็ยิ่งไม่มีความสุขยิ่งกว่าเดิม“โถ่ถัง นี่คุณโทษฉันแทนเหรอ?” สกายเริ่มอารมณ์เสียมากขึ้นและพูดด้วยความโกรธ “คุณเป็นพวกมนุษยธรรมสูงส่งนักหนาทำไมคุณจึงจากมา? คุณไม่รู้เหรอ? ว่าต่อให้คุณและน้องสาวของคุณจะอยู่ที่นั่น หรือแม้กระทั่งว่าพวกเราทุกคนจะยังคงอยู่ที่นั่น แต่จุดจบของเราก็คงหนีไม่พ้นความตายและคงได้แต่นึกเสียใจภายหลังเท่านั้น! ลูเชี่ยนถูกขนานนามว่าเป็นอัจฉริยะที่มีชื่อเสียงของเผ่ากระหายเลือด และเขาก็อยู่ในขั้นที่เจ็ดของระดับเทพสูงสุดแล้ว! เขาก้าวเข้าสู่ขั้นที่หนึ่งของระดับเทพสูงสุดได้เมื่ออาย
"เฟนด์ คุณควรรีบออกไปซะ มาทำอะไรที่นี่ ลูเชี่ยนเป็นนักสู้อัจฉริยะของเผ่ากระหายเลือด ซึ่งเป็นปรมาจารย์ในขั้นที่เจ็ดระดับเทพสูงสุด อีกทั้งศิษย์น้องทั้งชายและหญิงของเขาก็อยู่ในขั้นที่สองหรือขั้นที่สามของระดับเทพสูงสุดด้วย คุณไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขาหรอก!" ในไม่ช้า เฮเลน่าก็นึกบางสิ่งขึ้นมาได้การที่เฟนด์ฉายเดี่ยวมาอย่างนี้จะไม่เท่ากันว่าเขารนหาที่ตายงั้นเหรอ? แต่แม้ว่าเขาจะมากันสักกี่คนเฟนด์ก็จะตายอย่างแน่นอนเธอรู้อย่างชัดเจนว่าปรมาจารย์ในขั้นที่ระดับเทพสูงสุดหมายถึงอะไร“ผมมาที่นี่เพื่อช่วยคุณ แต่คุณกลับมาบอกให้ผมหนีเนี่ยนะ?” เฟนด์พูดไม่ออก หลังจากที่เขาเห็นสถานการณ์จากระยะไกล เขาก็เป็นคนแรกที่รีบเข้ามา คนอื่นอาจเดินทางช้ากว่า แต่พวกเขาก็จะมาถึงโดยเร็วเช่นกัน ไม่คาดคิดเลยว่าเขาจะเห็นเฮเลน่าถูกตบหน้าทันทีที่เขามาถึงทว่าเขาก็รู้สึกขอบคุณเล็ก ๆ โชคดีที่อีกฝ่ายไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าเฮเลน่าก่อน แต่เขาต้องการที่จะฆ่าเฮเลน่าเป็นคนสุดท้าย มิฉะนั้น หากอีกฝ่ายตั้งใจจะฆ่าเฮเลน่าในตอนนี้ เขาจะไม่สามารถช่วยเหลือเธอได้ทันหากเทียบจากความเร็วที่ใช้ก่อนหน้านี้“คุณกำลังหาเรื่องตาย!” ชายคนหนึ่งซึ่งเป็นปรมาจ
“แม่*งเอ๊ย! เขาอยากตายนักหรือไง?”อเล็กซานเดอร์พุ่งเข้ามา และก่นด่าเมื่อเห็นศิษย์ขั้นที่สองของระดับเทพสูงสุดสังหารผู้พิทักษ์ตระกูลคาเบลโลของเขา เขาออกหมัดที่ส่งศิษย์ขั้นที่สองของระดับเทพสูงสุดจากเผ่ากระหายเลือดกระเด็นไปไกลก่อนที่เขาจะทรงตัวได้“ขั้นที่สามระดับเทพสูงสุด! พ่อของฉันอยู่ในขั้นที่สามระดับเทพสูงสุด!”เมื่อเห็นพ่อของเธอส่งนักสู้มือฉมังในขั้นที่สองระดับเทพสูงสุดบินไปได้ด้วยหมัดเดียว เธอก็รู้สึกตื่นเต้นจนพูดอะไรไม่ออก“อย่ากังวลไปเลย ปล่อยให้พวกพ่อจัดการคนอื่น ๆ ไปเถอะ ผมจะจัดการกับคนที่อยู่ในขั้นที่เจ็ดของระดับเทพสูงสุดคนนี้เอง!”เฟนด์ยิ้มอย่างสงบและพลิกฝ่ามือของเขา เขาหยิบดาบล้ำค่าออกมาและจ้องตรงไปที่ลูเชี่ยน"ตาย!"ในเวลาเดียวกัน เคนเนธก็ชกเข้าที่ศิษย์ขั้นที่หนึ่งระดับเทพสูงสุดอีกคนหนึ่งของเผ่ากระหายเลือดทำให้คู่ต่อสู้ของเขากระอักเลือดออกมาทันที"ไม่มีทาง! พวกเขามีคนที่อยู่ในขั้นที่สามของระดับเทพสูงสุดหลายคน! แถมยังมีนักสู้ในขั้นที่หนึ่งระดับเทพสูงสุดอีกสองสามคนอีกด้วย!”เมื่อเห็นแนช เคนเนธ และคนอื่น ๆ ลงมือ ลูเชี่ยนก็แทบจะหัวเสีย เดิมทีเขาคิดว่ามีเพียงเฟนด์เท่านั้น
ดวงตาของลูเชี่ยนเป็นประกายเมื่อได้เห็นอย่างนั้น "ไม่เลว! จากรูปลักษณ์ของมัน ดาบของคุณเป็นอุปกรณ์วิญญาณระดับสูงสุดสินะ? จุ๊ จุ๊ จุ๊...ในไม่ช้าดาบนี้จะตกเป็นของฉัน เมื่อถึงตอนนั้น แกจะช่วยให้ฉันยิ่งแข็งแกร่งขึ้นอีกมาก!”เมื่อพูดไปแล้ว ลูเชี่ยนก็ถ่ายพลังฉีของเขาไปยังดาบในมือเช่นเดียวกัน ก่อนจะพุ่งออกไปที่เฟนด์“หมาป่าโหยหวน!”ทันทีที่ฟาดดาบ หมาป่ายักษ์ที่ก่อตัวขึ้นจากพลังฉีที่ควบแน่นก็ปรากฏตัวต่อหน้าเขา หลังจากที่หมาป่ายักษ์ปรากฏตัว มันก็เปล่งออร่าที่ดุดันและชั่วร้ายออกมา มันส่งเสียงร้องโหยหวนจนทำให้สั่นไปถึงกระดูก จากนั้นก็พุ่งตรงเข้าหาเฟนด์ในทันที“ดาบอัคนี!”เมื่อเผชิญกับการโจมตีที่ดุร้ายเฟนด์ก็ไม่กล้าลดการป้องกันลงและใช้ทักษะดาบอัคนีของเขาทันที การโจมตีที่เหมือนลูกไฟของเขาพุ่งออกไปพร้อมกับหางยาวที่ลากตามหลังไปราวกับดาวตก“คนที่อยู่ในขั้นที่สี่ของระดับเทพสูงสุดจะทำการโจมตีที่ทรงพลังเช่นนี้ได้อย่างไร?”ลูเชี่ยนตกใจเมื่อได้เห็นการโจมตีของเฟนด์เพราะแรงสั่นสะเทือนจากการโจมตีของเฟนด์เทียบได้กับแรงสั่นสะเทือนของเขาเองตู้ม!เสียงระเบิดสนั่นออกมา ในชั่วพริบตาเดียว การโจมตีของเฟนด์ก็ส