เอลล่าเตือนเฮนดริกอย่างรวดเร็วเพราะเธอกลัวว่าคนที่เหลือจะสังเกตเห็นสีหน้าตกตะลึงของเขา “เฮนดริก พูดเบา ๆ อย่าให้คนอื่นได้ยินเรา ตอนนี้เราควรทำอย่างไร? ฉันก็หมดหนทางเหมือนกัน ฉันกลัวว่าอาเธอร์และคนอื่น ๆ จะเจอคนพวกนี้เข้า ฉันเลยตั้งใจซื้อเวลาให้พวกเขา ฉันขอให้พวกพี่มาเข้าร่วมกับเราก็เพราะเรื่องนี้… ฉันสัญญากับพวกเขาไปแล้วด้วยว่าจะไม่บอกคนอื่นว่าพวกเขาเข้ามาในพื้นที่นี้แล้ว แต่ตอนนี้ฉันไม่มีทางเลือก!”หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เฮนดริคก็ตั้งสมมติฐานว่า “แม่เจ้า เธอล้อเล่นหรือเปล่า? เธอโดนคนอื่นหลอกมาหรือเปล่า? ลองคิดดูสิ ผู้คนจากโลกข้างนอกนั้นจะมีระดับพลังยุทธที่สูงได้ยังไง? ฉันแน่ใจว่ายังไม่มีใครทะลวงเข้าสู่ระดับเทพสูงสุดได้หรอก จริงไหม? หากเป็นกรณีนี้แล้วพวกเขาจะช่วยเธอที่อยู่ในขั้นที่สองของระดับเทพสูงสุดได้ยังไง?”“จะเป็นไปได้ยังไง? ฉันเห็นกับตาว่าคนเหล่านั้นไม่ได้มีระดับพลังยุทธสูงนัก!” เอลล่าเริ่มขมวดคิ้ว เธอคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และพูดว่า “อีกอย่าง พวกเขาไม่มีป้ายของตระกูลไหนที่เราคุ้นเคย ดังนั้นพวกเขาต้องมาจากโลกข้างนอกนั่นไม่ใช่เหรอ? ป่าแห่งนี้ยังมีทักษะยุทธและของล้ำค่าอื่น ๆ อยู่
เฮนดริกรับรู้ถึงความหนักอึ้งของปัญหาในทันทีและดูกังวลเป็นอย่างมากเฮนดริกที่ตกใจตะคอกออกมา เอลล่ารีบปิดปากเขาในทันที “พูดเบา ๆ หน่อยสิพี่!”ในขณะนั้นเอง อาเธอร์และคนอื่น ๆ ที่เดินนำหน้าก็หยุดฝีเท้าอาเธอร์ค่อย ๆ หันหน้ามาและขมวดคิ้วถาม “เฮนดริค เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรนะ? เกิดเรื่องใหญ่อะไร?”เฮนดริคเกาหัวด้วยความลำบากใจทันที "ไม่มีอะไร!"“ไม่ ดูจากสีหน้าของคุณแล้ว เห็นได้ชัดว่าคุณกำลังโกหก” อาเธอร์ขมวดคิ้วและค่อย ๆ เดินเข้าไปหาพวกเขา “เฮนดริก ฉันคิดว่าเป็นการดีที่สุดที่คุณจะพูดความจริง ไม่ช้าก็เร็วอย่างไรเราก็ต้องรู้เรื่องนี้!”เฮนดริกชำเลืองมองเอลล่าและลังเลอย่างเห็นได้ชัดเอลล่าขมวดคิ้วเช่นกัน ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป แต่ขณะที่เธอกัดฟัน เธอยิ้มออกมาอย่างเอียงอาย “มันไม่มีอะไรจริง ๆ ฉันบอกพี่ชายของฉันไปว่าสัตว์อสูรในป่าดูเหมือนจะค่อนข้างหงุดหงิดและเสียงคำรามก็ดูแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง!”จากนั้นอาเธอร์ก็พูดอย่างกระวนกระวายว่า “อ๋อ ฉันก็คิดว่ามีบางอย่างร้ายแรงเกิดขึ้นเสียอีก เห็นว่าเธอทั้งคู่ดูตกใจมาก สัตว์อสูรพวกนั้นไม่มีพลังยุทธสูงอะไรนัก สัตว์อสูรบางตัวทรงพลังมากเมื่อเที
“นายน้อยอาเธอร์ ผมคิดว่าเราควรค่อย ๆ ค้นหาสิ่งของล้ำค่าไปนะ ดังคำกล่าวที่ว่า ‘แมวตายเพราะความอยากรู้อยากเห็นของมัน’ มันไม่มีอะไรน่าดูหรอก!” เฮนดริกเสริมคำเอลล่า เพื่อพยายามปรามไม่ให้อาเธอร์ออกไปยังพื้นที่นั้นอย่างชัดเจน“ฮ่าฮ่า! นายน้อยเฮนดริก พอฉันได้ยินคุณพูดอย่างนั้นความอยากรู้อยากเห็นและความต้องการดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นก็ยิ่งสูงขึ้นอีก ทุกคนไปกันเถอะ! เราจะค้นหาสมบัติกันเมื่อเราบินไปที่นั่น ไปค้นหาให้ทั่ว ๆ เราอาจได้รับหญ้าวิญญาณระหว่างทางด้วยการทำเช่นนั้น!” อาเธอร์หัวเราะและโบกมือบินออกไปคนอื่น ๆ ก็บินกระจายกันออกไป พวกเขาเรียงแถวเป็นแนวขนานและบินไปข้างหน้าอย่างช้า ๆชายหนุ่มที่มากับเอลล่าและคนอื่น ๆ เกาศีรษะขณะพูดกับเฮนดริก “ฉันก็อยากรู้เหมือนกัน พี่เฮนดริก ป่ามันดูแตกต่างไปจากเดิมมากทีเดียว!”“เฮ้อ… มันต่าง… ต่างออกไปอย่างสิ้นเชิงเชียวล่ะ!” เฮนดริกไม่ต้องการอธิบายมากเกินไป เขาถอนหายใจและบินขึ้นไปให้ทันคนอื่น ๆ“พี่ชาย ฉันควรแอบนำทุกคนไปและไปสลายการต่อสู้ข้างหน้านั่นก่อนดีไหม?” เอลล่ากล่าวกับเฮนดริก หลังจากพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้วโดยไม่คาดคิด เฮนดริกส่ายหน้าพร้อมกับยิ้มแห้ง
“ฮ่าฮ่า… มันยังเร็วเกินไป! เรามาคุยกันหลังจากที่เราฆ่าคนพวกนี้แล้วเถอะ!” ทอมหัวเราะเสียงดังและชี้ไปที่เฮเลน่าขณะที่เขาพูด “การจะปล่อยผู้หญิงคนนั้นตายแบบนี้มันมันน่าเสียดายออก ส่งเธอมาให้ผม ผู้หญิงคนนี้ดื้อจริง ๆ!”“ฮ่าฮ่า! ฉัน…เข้าใจสิ่งที่คุณหมายถึง!” ผู้อาวุโสหัวเราะคิกคักกับคำพูดของทอม จะปล่อยให้คนสวยเช่นนี้ที่จะตายไปแบบนั้นได้อย่างไร น่าเสียดายตายชักไม่ใช่แค่ทอมเท่านั้น แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังมีความคิดเช่นนั้นกับเฮเลน่า วืด!ด้วยเหตุนี้ ทอมจึงกะพริบตาให้เฮเลน่าขณะที่เขาฟันคนหลายคนภายในไม่กี่พริบตา “จุ๊ จุ๊ จุ๊! ใครจะไปรู้ว่าบนแผ่นดินใหญ่จะมีสาวงามเช่นนี้ด้วย ดูจากลักษณะแล้วคุณน่าจะอยู่ในวัยสามสิบ ฮ่าฮ่า… ผมชอบผู้หญิงที่เป็นผู้ใหญ่อย่างคุณ!”เฮเลน่ายิ้มอย่างเย็นชาเมื่อสังเกตเห็นการแสดงออกที่เปิดหมดเปลือกของทอม “คุณไม่ได้ทำเช่นนี้เพราะคุณมีคนมากกว่าเหรอ? ถ้าวันนี้ฉันจะต้องตาย ฉันก็จะดึงคุณลงนรกไปพร้อมกับฉัน!”เธอกำดาบซึ่งเต็มไปด้วยพลังฉีสีทองอ่อน เรียวนิ้วกระชับรอบดาบขณะที่พูด จากนั้นเธอก็โบกดาบไปข้างหน้าอาเธอร์และคนอื่น ๆ มาถึงป่าใกล้ ๆ กันแล้ว พวกเขาซ่อนตัวอยู่ในป่าและมองไปข
“คนเหล่านี้ไม่ใช่คนจากทั้งสองฝ่ายงั้นเหรอ?” เจ้าอ้วนขมวดคิ้ว แต่แล้วเขาก็ยิ้ม “เป็นไปไม่ได้หรอกพวกเขาย่อมมาจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอย่างแน่นอน! ฝ่ายหนึ่งอาจเป็นสมาชิกของกองกำลังภาคี และอีกฝ่ายคงเป็นสมาชิกของกองกำลังปฏิภาคี เดาว่าเร็ว ๆ นี้คงจะมีความขัดแย้งกันเกิดขึ้นนั่นแหละ!”นั่นฟังดูสมเหตุสมผลสำหรับอาเธอร์เช่นกัน เขาพยักหน้าและพูดว่า “ฟังดูสมเหตุสมผลนะ เพราะทั้ง กองกำลังภาคี และกองกำลังปฏิภาคีต่างก็มีกองกำลังจำนวนมาก ถือว่าเข้าใจได้หากเราจะไม่สามารถจำรูปลักษณ์ของป้ายห้อยเอลของพวกเขาได้ แต่ฉันแน่ใจว่าฝ่ายหนึ่งคือกองกำลังภาคี ในขณะที่อีกฝ่ายเป็นสมาชิกของกองกำลังปฏิภาคี ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ย่อมเกิดความขัดแย้งครั้งใหญ่ขึ้นได้”“ใช่ ใช่ ใช่… ฉันว่าต้องใช่แน่!” เอลล่าเห็นด้วยอย่างจริงจังและพยักหน้ารัว ๆ ราวลูกเจี๊ยบกำลังจิกข้าว เธอกลัวว่าอาเธอร์และคนอื่น ๆ จะรู้ว่าคนเหล่านี้มาจากดินแดนรกร้าง“ฉลาดมาก นายน้อยอาเธอร์ ผมว่ามันต้องใช่แน่ ๆ!” เฮนดริคยังเช็ดเหงื่อเย็น ๆ ของเขาด้วย แต่นั่นดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้นเมื่อเขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ มันค่อนข้างยากสำหรับคนปกติที่จะคิดถึงเรื่องนั้น และโลกที
“อั่ก!” เฮเลน่าถลาถอยหลังไป หลังจากที่เธออาเจียนเป็นเลือดใบหน้าของเธอซีดลง อนิจจา เธอสู้กับทอมไม่ได้ เธอไม่แม้แต่จะทันได้ปัดป้องในตอนที่เขาโจมตีเธอในระยะประชิดขณะที่เธอเกือบจะล้มลงกับพื้น ร่างสองร่างก็พุ่งเข้ามาหาเธออย่างว่องไว ร่างหนึ่งกอดเอวเธอไว้แล้วค่อย ๆ พามาลงมาที่พื้นผู้ชายที่อุ้มเธอเป็นคนแปลกหน้าและดูหล่อเหลามาก ต่างจากผู้ชายที่ดูบึกบึนอย่างเฟนด์ ผู้ชายคนนี้มีความหล่อแบบคนหน้าสวยเล็กน้อยมันทำให้เธอค่อนข้างจะใจเต้นในขณะที่เขารั้งเธอไว้กับร่างของเขาขณะที่เธอจ้องมองชายตรงหน้าด้วยใบหน้าที่ขึ้นสีเล็กน้อย เฮเลน่าก็ตระหนักถึงสถานการณ์ของเธอและเตือนเขาอย่างเร่งด่วนว่า “ข… ขอบคุณที่ช่วยฉัน นายน้อย แต่พวกเขามีกันมากเกินไป และคุณคงสู้กับพวกเขาไม่ไหวหรอก หนีเร็วเข้า! สิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ!”“ไม่… ไม่เป็นไร ให้ฉันช่วยคุณเถอะ!" เฮนดริกยิ้มอาย และเกาหัวอย่างเคอะเขิน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นหญิงสาวผู้งดงามเช่นนี้ และมันทำให้เขารู้สึกงงงวยมากพอ ๆ กับที่เขารู้สึกเจ็บแปลบที่หน้าอกเมื่อเห็นเธอได้รับบาดเจ็บ ตอนนั้นเองที่เขาพุ่งไปข้างหน้าและคว้าเธอไว้แนบกายอาเธอร์ซึ่งช
"โจมตีเลย!" พรรคพวกของทอมรีบโจมตีทันทีตามคำสั่งของเขาตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!เสียงผู้คนปะทะกันดังขึ้นอีกครั้ง“ฮ่าฮ่า… พวกคุณคงอยากจะตายมากสินะ จัดให้ตามที่ขอ !” เฮนดริกตระหนักว่าอาเธอร์ต้องการทำตัวเท่ต่อหน้าเฮเลน่า และเขาไม่อยากน้อยหน้า เขาซึ่งไม่เคยชอบที่จะเป็นจุดสนใจก็พุ่งไปหาทอม พลังฉีพุ่งออกมาจากกำปั้นของเขา และเขาก็เหวี่ยงกำปั้นใส่ทอมอย่างรุนแรง"ไอ้หมอนี่...!" ทอมแทบจะกระอักเลือดเมื่อเห็นอาเธอร์ลงมือก่อนที่เขาจะทันได้ตั้งตัว นอกจากนี้เขายังตระหนักว่าเฮนดริกเองก็ต้องการอวดฝีมือต่อหน้าสาวงามอีกด้วย ไม่เช่นนั้นเขาก็คงไม่ออกหน้าเช่นนี้ท่าทางของทอมดูตกตะลึงเมื่อเขานึกถึงบางสิ่ง 'ไม่ได้การแล้ว การโจมตีของเขารวดเร็วเหลือเชื่อ!'ทว่าเขาไม่มีเวลาได้ประเมินมันเนื่องจากกำปั้นของคู่ต่อสู้มาปรากฏอยู่ตรงหน้าเขา ขณะที่เขากำหมัดแน่น เขากระตุ้นพลังฉีในร่างกายอย่างรวดเร็วก่อนที่จะเหวี่ยงเข้าหากำปั้นของเฮนดริกรอยยิ้มแปลก ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเฮนดริกราวกับว่าเขาคาดไว้ตั้งแต่เริ่มต้น เขาเอียงตัวเล็กน้อยและหมัดของเขาก็กระแทกเข้ากับหน้าอกของทอม“เป็น…เป็นไปไม่ได้!” ทอมไม่เคยคิดว่าคู่ต่อสู้ของเขา
ผู้อาวุโสจากตระกูลคาเบลโล บินไปหาเฮเลน่าและยืนอยู่ข้างเธอ เห็นได้ชัดว่าเขาเองก็ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติ “คุณหนูลำดับที่หนึ่ง ดูเหมือนจะมีบางอย่างผิดปกติเกี่ยวกับคนเหล่านี้ พวกเขาทรงพลังเกินไป!”เฮเลน่าพยักหน้า “ใช่ ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้น คนหนุ่มสาวกลุ่มนี้เป็นปรมาจารย์ในระดับเทพสูงสุด และพวกเขาแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ ฉันสงสัยว่าพวกเขาอาจเป็นคนพื้นเมืองของที่นี่ มีเฉพาะคนจากพื้นที่นี้เท่านั้นที่สามารถบรรลุระดับเทพสูงสุดได้ตั้งแต่อายุยังน้อย เนื่องจากพวกเขาสามารถใช้ทรัพยากรที่มีอยู่มากมายและทุกสิ่งที่มีอยู่ในพื้นที่นี้ได้!”เมื่อได้ยินเช่นนั้นผู้อาวุโสรู้สึกหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด เขาพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะสงบสติอารมณ์และพูดกับเฮเลน่าว่า “ทำไมพวกเขาถึงเต็มใจมาช่วยเราล่ะ? พวกเขาช่วยเราเพราะเราถูกคู่ต่อสู้รังแกโดยเห็นว่าเราด้อยกว่าเขาหรือ? คนในนี้ไม่ได้ต่อต้านที่พวกเราเข้ามาในบริเวณนี้หรือ?”เฮเลน่าประหลาดใจไม่ต่างกัน เธอคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบว่า “ฉันก็ไม่แน่ใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นเหมือนกัน ทำไมผู้คนจากพื้นที่นี้ถึงยินดีช่วยเรา?”ผู้อาวุโสมองเฮเลน่าอย่างใกล้ชิด และสีหน้าแปล