เพื่อปรับตัวให้เข้ากับความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นในร่างกายและเพื่อให้ควบคุมพลังงานที่เพิ่มมาได้ดีขึ้น อเล็กซานเดอร์ เคนเนธ และคนอื่น ๆ รีบพุ่งตัวไปข้างหน้าเพื่อต่อสู้กับสัตว์อสูรทุกตัวที่ขวางทางพวกเขาสมาชิกของตระกูลคาเบลโลจะนำหญ้าวิญญาณที่ได้รับมาให้เฟนด์ดูเพื่อให้เขาเลือกว่ารายการใดเหมาะสมสำหรับการบ่มเพาะโอสถ หากพบหญ้าที่เหมาะสม พวกเขาจะมอบให้ฟนด์ในทันทีพวกเขาจำได้ว่าเฟนด์ให้สำเนาทักษะยุทธแก่พวกเขามา และนั่นถือเป็นพรแสนวิเศษสำหรับตระกูลคาเบลโลเมื่อเวลาล่วงเลยเข้าสู่ช่วงเย็น และทุกคนก็นั่งพักผ่อนกัน เฟนด์ก็เริ่มศึกษาวิธีการบ่มเพาะโอสถชั้นต้นระดับสามในช่วงหัวค่ำ เขาทำคุ้นเคยกับโอสถและขั้นตอนการฝึกฝนจนจำขึ้นใจ จากนั้นเฟนด์ก็บ่มเพาะโอสถในคืนนั้นเฟนด์พยายามบ่มเพาะโอสถถึงสามครั้งตลอดทั้งคืนและล้มเหลวทั้งสามครั้ง แม้ว่าเขาจะคิดไว้อยู่แล้วว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น แต่มันก็ยังทำให้เขาคับแค้นใจนี่เป็นเพราะการบ่มเพาะโอสถระดับสามนี้ไม่เพียงแต่ต้องใช้หญ้าวิญญาณระดับสามเป็นส่วนผสมหลักเท่านั้น แต่ในโอสถนี้ยังต้องใช้หญ้าวิญญาณระดับสองและสมุนไพรที่เหมาะสมอื่น ๆ เป็นวัตถุดิบเสริมในระหว่างขั้นตอนกา
เซเลน่ารู้สึกประทับใจเมื่อเห็นท่าทีร้อนใจของดาเนียลล่า เธอสัมผัสได้เลยว่าดาเนียลล่าชื่นชอบเฟนด์เพียงใดและเป็นเด็กดีที่มีจิตใจบริสุทธิ์อย่างแท้จริงเซเลน่ายิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า “อย่ากังวล ฉันจะไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ หรอก ยังไงไคลี่ก็ยังรอให้ฉันกลับบ้าน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันจะพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อที่จะมีชีวิตอยู่ เพราะพ่อแม่ของฉันเองก็อยู่บ้านรอการกลับมาของฉันเหมือนกัน ฉันแค่พูดในสิ่งมันอาจจะเกิดขึ้น”“พี่เซเลน่า ฉันรู้ได้เลยว่ามันจะไม่เกิดขึ้น!” ดาเนียลล่ายิ้มด้วยความมั่นใจขณะที่เธอจับแขนของเซเลน่า...ฝูงชนยังคงเดินทางต่อไป ทว่าพวกเขากลับได้ยินเสียงคนต่อสู้กันในบริเวณข้างหน้าโดยไม่ทันตั้งตัวในช่วงบ่ายเฟนด์และคนอื่น ๆ เคราะห์ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นจากระยะไกล และเฟนด์ขมวดคิ้วทันทีที่เขาสังเกตเห็นว่ากลุ่มที่ถูกล้อมอยู่คือ วีนัสและคนหนุ่มสาวจากตระกูลคาเบลโลอีกหลายคน ในขณะที่ผู้คนที่อยู่ล้อมพวกเขาอยู่ก็เป็นสมาชิกของตระกูลคาเบลโลด้วยเช่นกัน"เกิดอะไรขึ้น? ทำไมผู้อาวุโสของตระกูลคาเบลโลถึงไล่ต้อนคุณหนูลำดับที่สองตระกูลคาเบลโลและคนอื่น ๆ แบบนั้น?” เฟนด์ถามด้วยงงงวยพร้อมกับขมวดคิ้วอเล็กซาน
ผู้อาวุโสลำดับที่สองหัวเราะและมองไปที่ปรมาจารย์หลายสิบคนรอบตัวเขาก่อนที่เขาจะพูดเสียงดัง “อีก สาวงามย่อมเป็นที่ปรารถนาของสุภาพบุรุษ เมื่อผมก้าวเข้าสู่ขั้นที่สองและสามของระดับเทพสูงสุดได้แล้ว พี่สาวคนโตและน้องสาวคนสุดท้องของคุณจะต้องตกมาเป็นผู้หญิงของผมด้วย สามบุปผาทองคำจะต้องปรนนิบัติผมแต่โดยดี!”เขากำกำปั้นแน่นขณะที่เขาพูดอย่างถือดีว่า “ทุกคนในตระกูลคาเบลโลจะเชื่อฟังผม ใครที่เชื่อฟังจะอยู่ดีกินดี ส่วนใครที่แข็งข้อจะต้องตาย สำหรับคนที่แข็งข้อกับผมจะได้พบกับจุดจบเดียว นั่นคือความตาย!”"ถูกต้อง! หัวหน้าตระกูลคาเบลโลควรถูกเปลี่ยนตัวมานานมาแล้ว และเจ้านายของฉันก็ควรได้เป็นหัวหน้าตระกูล!” ชายที่เขายืนถัดจากผู้อาวุโสลำดับที่สองประกาศกร้าว “ในอดีต ตระกูลคาเบลโลปฏิบัติต่อเจ้านายของฉันอย่างดี แต่เมื่อใดก็ตามที่มีอะไรดี ๆ เกิดขึ้น คนแรกที่ถูกนึกถึงคือเควิน คาเบลโล ผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่ง ฮ่า ๆ …! เหตุผลคืออะไรกัน? หรือเพียงเพราะเจ้านายของฉันไม่ได้ใช้นามสกุลตระกูลคาเบลโลและเป็นคนนอกที่ใช้สกุลอื่นอย่างนั้นเหรอ?”"จริงอยู่ พวกเขามักจะบอกว่าพวกเขาปฏิบัติต่อผมอย่างดี แต่สุดท้ายแล้วมันเป็นอย่างไร? พ
ขณะที่วีนัสกำลังจะดิ่งลงสู่พื้น ทว่า...หวือ!ร่างสองร่างพุ่งเข้ามา โดยหนึ่งในนั้นโอบเอวเธอไว้ และค่อย ๆ พาเธอร่อนลงบนพื้นได้อย่างปลอดภัยทันทีที่วีนัสรู้ว่าเป็นเฟนด์เธอก็รู้สึกปั่นป่วนในใจและหน้าแดงเมื่อลุกขึ้นยืนในด้านของเฟนด์เขาหยิบโอสถออกมาด้วยการพลิกมือแล้วส่งมันให้วีนัส "คุณวีนัส โอสถนี้สามารถช่วยรักษาบาดแผลของคุณได้ ปล่อยให้ที่เหลือเป็นหน้าของเรา”"ตกลง ขอบคุณนะนายน้อยเฟนด์!” วีนัสรับยามาอย่างลำบากใจและในตอนรู้ว่าอีกคนคือพ่อของเธอ เธอมองไปที่อเล็กซานเดอร์โดยที่น้ำตาคลอเบ้าและพูดว่า “ในที่สุดหนูก็ได้พบพ่ออีกครั้ง พ่อ หนูกลัวว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้นกับพ่อ หนูได้ยินข่าวลือว่านายท่านตระกูลแซคคารีได้ทะลวงเข้าสู่ระดับเทพสูงสุดไปตั้งแต่เนิ่น ๆ และหนูก็กลัวว่าคนที่อยู่ในพื้นที่นี้ก็จะทะลวงไปสู่ระดับเทพสูงสุดไปหลายคนแล้วเช่นกัน ก่อนหน้านี้มีคนเห็นพ่อและน้องสามถูกสัตว์อสูรล่า!”เธอมองไปรอบ ๆ ด้วยความตื่นตระหนกขณะที่เธอพูดว่า “แล้วนี่ดาเนียลล่าอยู่ที่ไหน? เกิดอะไรขึ้นกับเธอหรือเปล่า?”"ไม่ต้องห่วง น้องสาวของลูกและคนอื่น ๆ จะมาถึงในอีกไม่ช้า ใช่ มีสัตว์อสูรไล่ล่าเราก็จริง แต่ด้วยควา
"อย่างนั้นเหรอ? งั้นมาลองกันสักตั้ง!” อเล็กซานเดอร์กำหมัดแน่นและพุ่งเข้าหาออสก้าด้วยรอยยิ้ม “ฮ่าฮ่า… พวกที่เหลือให้ผมจัดการเอง!” เฟนด์ยิ้มอย่างไร้อารมณ์ ขณะที่พลังฉีโผล่ออกมาจากกำปั้นของเขา พลังฉีที่เขาปล่อยออกมานั้นก็มีสีทองเช่นกัน แต่สีนั้นชัดเจนกว่าของอเล็กซานเดอร์มาก“อะไรกัน? เขาทะลวงผ่านด้วยเหมือนกันเหรอ?” เหล่าลิ่วล้อของออสก้าตกใจอย่างเห็นได้ชัดเมื่อพวกเขารู้ว่าเฟนด์ได้ทะลวงเข้าสู่ระดับเทพสูงสุดแล้ว“นายน้อยเฟนด์อย่า...อย่าทำร้ายเรา ผู้อาวุโสลำดับที่สองบังคับให้เรายอมจำนน! เราไม่เคยคิดที่จะหักหลังตระกูล!” ลิ่วล้อของออสก้าวิงวอนขณะที่พวกเขาโบกมือปฏิเสธ เมื่อพวกเขารู้ว่าเฟนด์ก็เป็นปรมาจารย์ในระดับเทพสูงสุดเช่นกัน เขารู้ว่าอย่างไรพวกเขาก็ไม่มีทางชนะ“ฮ่าฮ่า! คุณคิดว่าผมโง่นักรึไง?”เฟนด์ยิ้มเยาะและไม่เสียเวลาให้กับพวกปากหอยปากปู เขาพุ่งไปข้างหน้าเหมือนหมาป่าที่เข้าขย้ำฝูงแกะ ครู่ต่อมา สมาชิกตระกูลคาเบลโลหลายสิบคนก็กลายเป็นศพขณะร่วงหล่นลงกับพื้นหลังจากที่เขาสังหารคนพวกนั้นลง เฟนด์ก็มองไปที่การต่อสู้ระหว่างอเล็กซานเดอร์และออสก้าเห็นได้ชัดว่าทักษะยุทธที่อเล็กซานเดอร์ฝึกฝนนั้นแ
เมื่อได้ยินคำพูดของดาเนียลล่า วีนัสอ้าปากค้างจนปากกว้างพอที่จะเก็บไข่ได้หลังจากผ่านไปหลายวินาที เธอก็พึมพำออกมา “โอ้พระเจ้า… เฟนด์และนายท่านแนช ตระกูลของพวกเขามีปรมาจารย์ในขั้นหนึ่งระดับเทพสูงสุดทั้งหมดสี่คน? พวกเขาแข็งแกร่งมาก!”ดาเนียลล่ามองไปที่เฟนด์ด้วยความรักในดวงตาก่อนที่เธอจะพูดด้วยความภาคภูมิใจ "ถูกต้อง ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณเฟนด์ที่เขาได้รับทักษะยุทธมาถึง 2 ทักษะ และเขายังให้เราทำสำเนาหนึ่งในนั้นมา มิฉะนั้น พ่อจะทะลวงเข้าสู่ขั้นที่หนึ่งในระดับเทพสูงสุดอย่างรวดเร็วได้ยังไงเล่า”ดวงตาของวีนัสเป็นประกายเมื่อได้ยินสิ่งนี้ "จริงหรือ? วิเศษไปเลย! หากเป็นเช่นนั้น ฉันก็สามารถฝึกฝนทักษะยุทธนี้ในอนาคตได้เช่นกันน่ะสิ ฉันต้องสามารถทะลวงเข้าสู่ระดับเทพสูงสุดได้เหมือนกันใช่ไหม?”“พี่รอง พี่เพิ่งทะลวงเข้าสู่ขั้นสูงสุดของระดับเทพแท้จริงเมื่อไม่นานนี้เองไม่ใช่เหรอ? พี่เพิ่งก้าวเข้าสู่ขั้นสูงสุดหลังจากเข้ามาที่นี่ แม้ว่าพี่จะต้องการเพิ่มทักษะยุทธ พี่ก็ควรจะรอสักสองสามวันจนกว่าระดับพลังยุทธของพี่จะเสถียรอย่างสมบูรณ์ก่อนที่จะลองทะลวงไปในขั้นต่อไปอีกครั้ง” ดาเนียลล่าทำหน้ามุ่ย เธอเริ่มอิจฉาวีนั
ดาเนียลล่าชำเลืองมองเฟนด์อย่างเย้ายวนก่อนที่เธอจะเดินเอามือไพล่หลังเข้าไปหาเขาตู้ม!อย่างที่เฟนด์ทำนายไว้ ออสก้าพ่ายแพ้ในการต่อสู้และเสียชีวิตลงด้วยน้ำมือของอเล็กซานเดอร์ ร่างของเขาตกลงมาจากท้องฟ้าสู่พื้นดิน และที่หน้าอกของเขามีรูโหว่ขนาดใหญ่"ที่มันยอดไปเลย! พลังยุทธของออสก้านั้นเทียบเท่ากับผม และการต่อสู้กับคนแบบนี้ก็นับว่าโลดโผนมาก! ฮ่าฮ่า!” อเล็กซานเดอร์บินลงมาและรับเอาแหวนยุทธของออสก้าไป ก่อนที่เขาก็บินไปยังที่ที่เฟนด์และคนอื่น ๆ อยู่พร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า“เฮ้ คุณไม่ใช่คนเดียวหรอก ผมเองก็อยากลองเหมือนกัน ถ้านี่ไม่ใช่เรื่องภายในของตระกูลคุณ ผมจะรีบพุ่งตัวไปที่นั่นเลย!” เคนเนธหัวเราะเสียงดัง เขาเต็มไปด้วยความฮึกเหิมหลังจากที่ความแข็งแกร่งในร่างกายของเขาเพิ่มขึ้น และสถานการณ์ที่ต้องเผชิญกับฝ่ายตรงข้ามพลังยุทธอยู่ในระดับไล่เลี่ยกันก็ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะจะทดสอบความแข็งแกร่งของพวกเขา“เฮ้อ… ไม่ คิดว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้น ผู้อาวุโสลำดับที่สองคนนี้ ตอนเขาอยู่ที่ตระกูลคาเบลโล เขาเป็นคนซื่อสัตย์และไม่เคยทำตัวนอกลู่นอกทาง ใครจะไปคิดว่าเขาจะทำแบบนี้หลังจากทะลวงไปสู่ระดับเทพสูงสุด!”
เฟนด์และคนอื่น ๆ เตรียมที่จะพักผ่อนในขณะที่ท้องฟ้าค่อย ๆ มืดลงหลังจากจัดให้มีคนสองสามคนผลัดกันเฝ้ายามแล้ว แนชและคนอื่น ๆ ก็เริ่มฝึก ไม่มีใครปล่อยให้โอกาสนี้เสียเปล่าเนื่องจากในป่าผืนนี้อันตรายและแม้แต่สัตว์อสูรที่อยู่ระดับเทพสูงสุด นอกจากนั้น ในบริเวณนั้นยังมีพลังฉีที่เข้มข้น และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ทุกคนได้สัมผัสกับความเข้มข้นของพลังฉีที่มากมายถึงขนาดนี้ เมื่อรวมกับทักษะยุทธใหม่ด้วยแล้ว ทุกคนก็ยิ่งต้องการที่จะทะลวงเข้าสู่ขั้นที่สองหรือขั้นที่สามของระดับเทพขั้นสูงสุดให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในทางกลับกันเฟนด์ตัดสินใจที่จะฝึกบ่มเพาโอสถขั้นต้นระดับสามต่อไปเขาค้นพบว่าทักษะยุทธที่เขากำลังฝึกฝนนั้นเป็นทักษะที่น่าประทับใจ และเป็นเพราะพลังฉีที่หมุนเวียนในร่างกายของเขาที่ยังหมุนอยู่อย่างไม่หยุดยั้ง มันจะดูดซับพลังฉีและแปลงเป็นพลังยุทธไปเรื่อย ๆไม่ว่าเขาจะกิน จะนอน หรือทำอะไรก็ตามแน่นอนว่าความเร็วในการฝึกฝนด้วยวิธีดังกล่าวอาจไม่เร็วเท่าการฝึกเชิงรุก แต่ข้อดีของวิธีนี้คือเฟนด์จะได้ฝึกฝนอยู่ตลอดเวลา และเมื่อเวลาผ่านไปก็ยังถือว่าความเร็วของมันค่อนข้างมากไม่มีใครกล้ารบกวนเฟนด์เมื่อพวก