อีวอนน์ตั้งตัวไม่ทัน กลอกตาใส่ทันย่า “พี่กล้าดียังไงที่มาวิจารณ์ฉันในเมื่อพี่เคยทําแบบเดียวกันมาก่อน? มันจะดีมากถ้าพี่กล้าหาญเหมือนชารอน ถึงเธอจะล้มเหลว แต่อย่างน้อยเธอก็สารภาพ ถูกไหม?”ทันย่าตอบยิ้ม ๆ ว่า “ถูกต้อง อย่างน้อยเธอก็มีเพิ่มขึ้นอีกอย่างที่ควรค่าให้เขาจดจำได้ ใครจะคิดว่าเฟนด์เป็นนักรบสูงสุด และมีพลังการต่อสู้ที่แข็งแกร่งแบบนั้น? ไม่มีข่าวหรือข่าวลือเกี่ยวกับเขาในช่วงหลายเดือนมานี้ หรือว่าเขาอาจจะยังอยู่ในความสันโดษ อีกแล้ว”ในขณะนี้ อีวอนน์เห็นชารอนเดินไปกับผู้ชายคนหนึ่งบนถนนด้านนอก และดูเหมือนเธอจะมีความสุขอย่างไม่น่าเชื่อ “ทันย่า ดูตรงนั้นสิ ผู้หญิงคนนั้น ชารอนใช่ไหม? ทําไมเธอถึงอยู่กับผู้ชาย?”“เฮ้ ทําไมหุ่นของผู้ชายคนนี้ดูคุ้น ๆ จัง?” ทันย่าอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขณะที่เธอมองชายคนนั้นไม่รอช้า ทั้งสองคนมองกันไปมาแล้วอุทานขึ้นพร้อมกันว่า “เฟนด์!”“โอ้ พระเจ้า เขานั่นเอง! ทําไมเขาถึงกลับมา?” ทันย่าลุกขึ้นยืนทันทีและเดินไปที่ทางเข้าร้านกาแฟ“ทันย่า มันจะน่าเกลียดไหมที่เราจะบุกดุ่ย ๆ ไปเลยแบบนี้? เราจะไปขัดจังหวะพวกเขาหรือเปล่า?” อีวอนน์รู้สึกตื่นเต้นอยู่ภายในใจ ขณะเธอตา
“ยังไงนะ เฟนด์ เราได้ยินข่าวว่าคุณเคยไปเมืองจิน ต่อด้วยที่เรียกกันว่า เมืองนางแอ่น ใช่ไหม?” ทันย่าเอ่ยถามอย่างสนใจใคร่รู้ หลังจากพวกเขาเริ่มลงมือกินอาหารผ่านไปได้หลายนาทีเฟนด์พยักหน้า แล้วต่อจากนั้นเขาถ่ายทอดเหตุการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นในช่วงสองสามวันนี้ระหว่างดื่มหลังจากพวกเขาพูดคุยกันหมดสิ้นเรียบร้อย เขาก็หยิบขวดกระเบื้องเคลือบขนาดเล็กสามขวดออกมาวางไว้ตรงหน้าผู้หญิงทั้งสาม “นี่ไง ที่ผมเกริ่นเอาไว้ มันเป็นของล้ำค่าที่สามารถชําระร่างกายให้บริสุทธิ์และทําให้คุณเป็นผู้ฝึกยุทธ ช่วยให้คุณเข้าร่วมสู่การเดินทางแห่งการฝึกฝนได้ด้วยน้ำชำระล้างไขกระดูกนี้ เพียงเติมลงในน้ำร้อนและแช่ตัวคุณในน้ำเป็นเวลาครึ่งชั่วโมง แต่จะดีที่สุดถ้าคนรับใช้ของคุณสามารถเฝ้าอยู่ข้าง ๆ คุณได้ เพราะมันอาจจะเจ็บอยู่สักพักหนึ่ง ผมเกรงว่าคุณสาว ๆ อาจหมดสติไปเพราะความเจ็บปวด!”“เรื่องเจ็บปวดก็ไม่เป็นไรหรอก ยังไงก็ดีแล้วนะที่ได้ฝึก!” ทันย่ารับขวดกระเบื้องเคลือบเล็ก ๆ ข้างหน้าเธอมา นัยน์ตาของเธอลุกโชนด้วยความมุ่งมั่น"ใช่ ไม่สําคัญหรอกว่าฉันแข็งแกร่งแค่ไหน—ตราบใดที่ฉันได้ฝึกจนได้เป็นถึงระดับปรมาจารย์ในสถานที่อย่างอาณาเข
ในไม่ช้า เฟนด์ก็ออกจากอาณาเขตกลางและกลับไปหาตระกูลวู๊ดเมื่อเขากลับมาแล้ว เขาก็ศึกษาลูกบอลหินเป็นเวลาสองวันติดต่อกัน เขาบรรลุจุดสูงสุดของระดับเทพแท้จริง พลังของเขาก็มั่นคงเป็นอย่างมากด้วย ดังนั้นเขามีเวลาเหลือเฟือและไม่จําเป็นต้องฝึกแต่น่าเสียดายที่เขาไม่ได้ค้นพบอะไรเลยหลังจากศึกษาลูกบอลหินเป็นเวลาสองวัน นอกเหนือจากข้อเท็จจริงที่ว่าลูกบอลหินนี้ดูดซับพลังฉีจากบริเวณโดยรอบอย่างต่อเนื่อง“ดูเหมือนว่าผมต้องไปที่วิหารแห่งทวยเทพและราชาเพื่อถามเรื่องนี้ ถ้าผมส่งคนไปถามรอบ ๆ ผมเกรงว่าเราจะไม่ได้รับข่าวที่เป็นประโยชน์อะไรเลย” เฟนด์คิดทบทวนถึงมันและอดไม่ได้ที่จะยิ้มขมขื่นเขาไม่มีเวลามากนักและไม่กล้าเลื่อนอะไรให้ล่าช้าอีกต่อไป สถานการณ์เลวร้ายของเฟอร์นันโดจะแย่ลงหากทำสิ่งต่าง ๆ ล่าช้าออกไปแม้เพียงวันเดียว“คุณวางแผนที่จะไปโดยลำพังหรือพาคนสองสามคนไปด้วย? จะไม่อันตรายเกินไปหรือถ้าคุณไปคนเดียว? จะเกิดอะไรขึ้นถ้าวิหารแห่งทวยเทพและราชาอยากแย่งลูกบอลหินไปจากคุณ?” เซเลน่าถามอย่างกังวลหลังจากที่เธอได้ยินที่เฟนด์บอก“ไม่ต้องกังวล ผมไปคนเดียวได้ วิหารแห่งทวยเทพและราชามีไข่สามฟองอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไ
ผู้อาวุโสแลกเปลี่ยนสายตา ดูเหมือนจะตกตะลึงกับข้อมูลที่ได้รับพวกผู้อาวุโสก็เหาะออกไปยังทางเข้าวิหารเพื่อพบกับผู้มาเยือนแฮร์รี่มองดูผู้คนที่อยู่ข้างหน้าเขาและถามด้วยความงุนงง “พวกคุณคือ...?” ผู้อาวุโสคนหนึ่งดูคุ้นตานิด ๆ แต่เขาก็นึกชื่อไม่ออกและเป็นเวลาหลายสิบปีแล้วที่น้องชายของเขาจากไป ทุกคนแก่ขึ้นจากชายวัยกลางคนอย่างที่พวกเขาเคยเป็น“รุ่นพี่ ไม่เจอกันนานมากแล้ว!” แมทธิว ชาร์ลสหัวเราะและสุภาพกับแฮร์รี่ที่อยู่ตรงหน้าเขาหลังจากได้ยินเสียงที่คุ้นเคยนี้ ในที่สุดแฮรี่ก็จำชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาได้ รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาแปรเปลี่ยนเป็นแข็งทื่อในทันทีมือของเขากำแน่นในขณะที่เขาพูดลอดไรฟันที่กัดกันแน่น “นานมากแล้วจริง ๆ ใครจะคาดคิดว่านายจะกล้าถึงขนาดพาคนมาหาฉัน”แฮร์รี่กระชับหมัด ในขณะที่คลื่นพลังฉีพุ่งไปยังหมัดของเขา หมัดนั้นวูบวาบใกล้ใบหน้าของแมทธิว ก่อนเขาจะเหวี่ยงหมัดใส่ผู้มาเยือนแมทธิวเองก็กำหมัดแน่นเมื่อเขาเห็นสิ่งนี้ ก่อนกระตุ้นพลังฉีในร่างกายของเขาขึ้นมาสกัดกั้นหมัดของแฮร์รี่ไว้แรงปะทะทำให้ทั้งคู่กระเด็นถอยหลังไปหลายก้าว“รุ่นพี่ เราอย่าทะเลาะกันอีกเลย วันนี้ผมมาที่นี่ก็เพ
“เจ้าวิหารแฮร์รี่ เราจะพูดเรื่องนี้กันที่นี่เหรอ? มันดูไม่เหมาะสมเกินไป ทำไมเราไม่ไปหาที่นั่งคุยกันดี ๆ ล่ะ?” แมทธิวแนะนำด้วยรอยยิ้มไร้อารมณ์“เอาล่ะ เรามาพูดเรื่องนี้กันในห้องประชุมตรงนั้น” แฮร์รี่คิดถึงเรื่องนี้และบินไปที่วิหารพร้อมกับคนที่เหลือ ขณะที่แมทธิวและคนอื่น ๆ ตามมาจากนั้นทุกคนก็นั่งล้อมโต๊ะหินขนาดใหญ่“เข้าเรื่องเสียที” แม้ว่าจะเชิญพวกผู้มาเยือนเข้ามา แฮร์รี่ด็ยังคงเป็นปรปักษ์ และเขาก็ทำท่าทีเย็นชาใส่อีกฝ่าย“ฮ่าฮ่า รุ่นพี่... โอ้ ผมหมายถึงเจ้าวิหารแฮร์รี่ ให้ผมอธิบายแล้วกัน คุณอาจจะยังไม่ทราบ แต่กลุ่มคนจากแผ่นดินใหญ่ไปเยือนท้องทะเลของเรา ลองคิดดูสิ พวกเขาจะไปที่นั่นทำไมในเมื่อที่นี่อยู่ไกลจากวิหารราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์ของเรามาก”“คนของเราเดาได้ทันทีว่าคนเหล่านี้รู้ความลับเกี่ยวกับระดับเทพสูงสุดเข้าแล้ว และนั่นคือสาเหตุที่พวกเขามาที่ทะเลของเรา! เราติดตามพวกเขาไปอย่างเงียบ ๆ และพบว่าพวกเขาไปที่ป่าวายุมืด บนเกาะวายุมืด พวกเขายังต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงไข่ที่ดูเหมือนหินอีกด้วย” แมทธิวยิ้มขณะที่เขาอธิบายทุกอย่าง เขามองแฮร์รี่ขณะที่สรุปความ “ดังนั้นเราจึงเดาว่าสิ่งของที่มีลักษณะ
แต่เมื่อแฮร์รี่วางมือลงบนลูกบอลหิน มันก็หายไปอย่างรวดเร็วแมทธิวเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะก้าวถอยหลังและนั่งลง “มีสองลูก?” เขาพูดพร้อมกับขมวดคิ้ว “ไม่แปลกใจเลยที่คุณไม่สนใจลูกบอลหินของตระกูลวู๊ด!”“มันมีมากกว่าสองลูก พวกมันมีอยู่ในเจ็ดจุดอันตรายจุดละลูก ฉันไม่จำเป็นต้องบอกนายเรื่องนี้ด้วยซ้ำ แต่ถึงบอกก็ไม่เป็นไร เพราะถึงฉันจะไม่บอกนายเรื่องนี้ อีกหน่อยนายก็จะได้รู้เองอยู่ดี!” แฮร์รี่แสดงความคิดเห็นอย่างยิ้มแย้ม“เจ็ดจุดอันตรายมีอยู่จุดละลูกงั้นเหรอ? แล้วคุณได้รับมันมาจากจุดไหน?” แมทธิวถามทันทีที่คิดตามที่ได้ยิน“ฉันรู้ว่านายกำลังคิดอะไรอยู่ คุณอยากดูลูกบอลหินในพื้นที่อันตรายอื่น ๆ ใช่ไหม? สายไปแล้ว ชนเผ่าโบราณและตระกูลอื่น ๆ จากแผ่นดินใหญ่ลงมือเรียบร้อยแล้ว และลูกบอลหินพวกนั้นก็อาจถูกยึดไปหมดแล้ว ดังนั้นฉันขอแนะนำให้นายหยุดคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เสีย”ในที่สุดแฮร์รี่ก็พูดด้วยรอยยิ้ม “เอาล่ะ นั่นคือทั้งหมดที่ฉันบอกได้ ฉันให้เกียรตินายมามากเกินพอแล้ว จะดีที่สุดถ้านายออกไปเสียงตั้งแต่ตอนนี้และกลับไปที่ท้องทะเลของนายซะ!”ไม่แปลเลยที่แมทธิวจะไม่ยอมแพ้ และไม่ยอมจากไปเฉย ๆ เขาครุ่นคิดแล้วถามแ
สมาชิกที่มาแจ้งข่าวไปยอมจากไป เขาชั่งใจและเอ่ยปากเบา ๆ ว่า “เจ้าวิหาร นี่ไม่ใช่ตาสีตาสาจากตระกูลชั้นสองหรือชั้นสามครับ แต่เป็นเฟนด์ นายน้อยตระกูลวู๊ด!”“เจ้าหนุ่มนั่น?” ผู้อาวุโสโมสลีย์สบตากับแมทธิวขณะที่สมาชิกของวิหารราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์ตกใจกับข่าวนี้ พวกเขาไม่รู้เลยว่าชายหนุ่มคนนั้นจะมาปรากฏตัวที่นี่ด้วย"เป็นเขาเหรอ?" เจ้าวิหารราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์ก็ตกตะลึงเช่นกัน หากเป็นหัวหน้าตระกูลเล็ก ๆ ที่ห่างไกล คนอื่น ๆ เขาไม่จำเป็นต้องให้เกียรติหรืออยู่พบกับบุคคลนี้แต่หากเป็นเฟนด์จริง เขาต้องให้เกียรติพ่อหนุ่มนั่น เพราะเขาเพิ่งได้รู้จากเจ้าวิหารราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์ว่า เฟนด์เองก็มีลูกบอลหินอยู่ลูกหนึ่งเช่นกันเขาถามอย่างแปลกใจว่า “เขามากันกี่คน? มากันหลายคนไหม?”สาวกคนนั้นตอบสั้น ๆ ว่า “เขามาเพียงคนเดียวเท่านั้น และเขาก็มาด้วยดาบบินของตัวเอง ชายหนุ่มคนนี้มาคนเดียวอย่างกล้าหาญ!”“เขามาคนเดียวจริงรึ?” ก่อนที่แฮร์รี่จะพูดต่อ ใบหน้าของแมทธิวก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น ถ้าเฟนด์มาคนเดียวนี่ก็เป็นโอกาสอันดีที่จะชิงของล้ำค่ามาจากเขาไม่ใช่หรือ? ชายหนุ่มคนนี้มีสิ่งที่เรียกว่าลูกบอลหินอยู่กับตัวในขณะที่
เฟนด์ยิ้มอย่างเย็นชาในขณะที่เขาพูดแมทธิวรู้สึกดีใจเมื่อสังเกตเห็นว่าเฟนด์ไม่มีท่าทีว่าจะพาพรรคพวกมาด้วย เขามาคนเดียวและนั่นทำให้เขาดีใจเหลือเกินวูบ!ในขณะนั้น แฮร์รี่ก็บินมาพร้อมกับคนของเขา ขณะที่ปรมาจารย์ของวิหารแห่งทวยเทพและราชาต่างบินตามมาทีละคนเมื่อเห็นว่าแฮร์รี่เข้ามาขวางทางพวกเขาเช่นนี้ แมทธิวยิ้มอย่างไม่แยแสและพูดอย่างเฉยเมยว่า “เจ้าตำหนักแฮร์รี่ นี่คือชายที่เราต้องการตัว และเขาก็มาที่นี่เพียงลำพัง ผมหวังว่าคุณจะไม่มาขวาง หากเราลงไม้ลงมือกับเขาหลังจากนี้ เพราะนี่ถือเป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างเราสองคน พ่อหนุ่มนี่ฆ่าปรมาจารย์ของเราที่อยู่ในขั้นสูงสุดของระดับเทพแท้จริงไปถึงสองคน และยังฆ่าปรมาจารย์ขั้นอื่น ๆ ในระดับเทพแท้จริงไปมากมาย ถึงเวลาที่เราจะได้ชำระหนี้แค้นเสียที!”แฮร์รี่ตกตะลึงไปครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะแสยะยิ้มและแสดงความคิดเห็นว่า “ฟังดูพิลึกจริง เจ้าวิหารแมทธิว เฟนด์ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป เขาเป็นลูกชายของนายท่านตระกูลวู๊ดและเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งของพ่อเขาด้วย เมื่อเขาอยู่ที่นี่ก็ถือเป็นหน้าที่ฉันต้องต้อนรับเขาเป็นอย่างดี และเขาก็มาที่นี่ในฐานะแขกผู้ทรงเกียรติของเจ้าวิหารทวย