ข้อมูลที่แนชบอกกับเฟนด์ทำให้ฝ่ายที่ฟังสับสน เขาเหลือบมองสตรีศักดิ์สิทธิ์จากที่ไกล ๆขณะที่เธอยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน ความลึกลับและสูงส่งเปล่งประกายออกมาจากตัวเธอ เธอสวมชุดกระโปรงผ้าโปร่งสีขาว โดยมีผ้าคลุมสีขาวปิดที่ครึ่งล่างของใบหน้า ชุดสีขาวของเธอทำให้คนมองรู้สึกถึงความบริสุทธิ์อย่างยิ่งแม้ว่าจะมองเห็นเพียงดวงตากลมโต หน้าผาก และผมยาวสีเข้มที่ดูมีชีวิตชีวาของเธอ แต่คงไม่เป็นการกล่าวเกินจริงหากจะบอกว่าเธอมีความงามที่ไม่มีใครเลียนแบบได้น่าเสียดายที่ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของความงามนี้ และเธอจะไม่ได้แต่งงานไปตลอดชีวิต“ฮ่า ฮ่า… นี่เป็นกฎที่มีมานานของตำหนักเทพยดา” แนชหัวเราะขณะที่เขาอธิบายให้เฟนด์ฟัง “ยังมีตำนานกล่าวว่าตำหนักเทพยดามีมานับพันปีแล้ว และตำนานเดียวกันนั้นก็ยังเล่าอีกว่าผู้ก่อตั้งชนเผ่าโบราณชนเผ่านี้เป็นสตรีผู้มีความงามอันน่าอัศจรรย์ แต่มีชายคนหนึ่งทำให้เธอเจ็บช้ำแสนสาหัส ในตอนนั้นเองที่เธอได้ออกกฎว่าเจ้าตำหนักทุกคนในอนาคตจะต้องปกป้องพรหมจรรย์ของเธอไว้ เธอบอกว่าเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้การฝึกของเจ้าตำหนักได้รับผลกระทบ เพราะเธอจะไม่ถูกความรู้สึกรักใคร่มารบ
หลังงานเลี้ยง มีไม่กี่ตระกูลที่ร่ำลาโจเอลก่อนจะจากไปแนชยังพาเฟนด์และเคนเน็ธไปกล่าวคำอำลากับโจเอล ก่อนที่ทั้งสามคนจะเดินทางกลับบ้านโดยบินไปเหมือนที่ตอนมาดาเนียลล่าขมวดคิ้วเมื่อเห็นตระกูลวู๊ดจากไป เธอหันไปหาอเล็กซานเดอร์ซึ่งยืนอยู่ข้าง ๆ ก่อนจะแสดงสีหน้ากลุ้มใจออกมา “พ่อ หนูเป็นห่วงพวกเขา หนูสงสัยว่าเฟนด์และคนอื่น ๆ จะพบกับอันตรายอะไร ระหว่างทางกลับหรือเปล่า? พวกลาโกริโอต้องการกำจัดคนในตระกูลวู๊ด แถมลิลลี่ยังแต่งงานกับตาเฒ่าโจเอล คอลลินส์คนนั้นอีก มันทำให้หนูรู้สึกถึงแผนการอะไรบางอย่างเบื้องหลัง”อเล็กซานเดอร์พยักหน้าเห็นด้วย “ใช่ ตอนได้รับบัตรเชิญ พ่อก็รู้สึกประหลาดใจพอ ๆ กัน ใครจะไปคิดว่าลิลลี่จะแต่งงานกับโจเอลในช่วงเวลาที่สำคัญเช่นนี้! เป็นไปได้ว่าเธออาจต้องการใช้เขาเป็นเครื่องมือในการกำจัดตระกูลวู๊ด!”เมื่อเธอได้ยินสิ่งที่อเล็กซานเดอร์พูด ความกังวลของดาเนียลล่าเพิ่มขึ้นอเล็กซานเดอร์ยิ้มอย่างขมขื่นเมื่อเห็นลูกสาวหน้านิ่ว “ลูกต้องตั้งใจฝึกให้ดี โลกก็เป็นเช่นนี้ ไม่มีใครกล้ารังแกลูกหากลูกแข็งแกร่งพอ ไม่อย่างนั้นการฆ่าลูกจะง่ายเหมือนฆ่ามด และลูกจะไม่มีโอกาสได้ขัดขืนด้วยซ้ำ!”“ค่
จากนั้นแนชก็พูดถึงความกังวลของเขาอย่างเสียไม่ได้ “ผมจะไม่เข้าใจเรื่องนี้ได้อย่างไร แน่นอนว่าผมเองก็หวังว่าเฟนด์จะสามารถบรรลุแต่ละขั้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปได้ แต่จะเกิดอะไรขึ้นหากมีคนบรรลุไปถึงระดับเทพสูงสุดก่อน? ถ้าคน ๆ นั้นเป็นพันธมิตรของเราก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าพวกเขาเป็นศัตรูนี่คงไม่ต่างจากการตกนรก ทุกอย่างจะเปลี่ยนไปจนไม่เหลือเค้าโครงเดิมอีก!”“อย่ากังวลไปเลยพ่อ ระดับพลังยุทธของผมมั่นคงมาโดยตลอด และผมมีพื้นฐานที่มั่นคง! ดังนั้นจะไม่มีผลกระทบอะไรมากหากผมพยายามที่จะบรรลุเข้าสู่ขั้นสูงสุดของระดับเทพแท้จริงเร็วสักหน่อย!” เฟนด์รับคำหลังจากพิจารณาสถานการณ์แล้ว “ไม่ต้องรีบร้อน เพราะเรายังเข้าไม่ถึงเจ็ดพื้นที่อันตราย ผมคิดว่าเป็นการดีที่สุดที่จะปล่อยให้ระดับพลังยุทธของผมสงบลงสักพักก่อนที่จะพยายามบุกทะลวงไปในคราวเดียวในอนาคต ผมจะพยายามบ่มเพาะโอสถขั้นกลางระดับสองภายในสองวันนี้เพื่อดูว่าผมจะสามารถฝ่าฟันและกลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุขั้นกลางระดับสองได้หรือไม่ หากเตรียมยาและพกติดตัวไปด้วยคงไม่มีปัญหา!”แนชพยักหน้าในขณะที่เขาสารภาพ “อืม พ่อพูดออกไปอย่างนั้นก็เพราะพ่อกลัวว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกะทันหัน ง
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เคนเนธก็หน้าบึ้ง “นายน้อยเฟนด์ หากเป็นเช่นนั้น เราก็สามารถสันนิษฐานได้ว่าลิลลี่ ไปที่ตำหนักนภาด้วยความหวังว่าพวกเขาจะร่วมมือกับเธอ ฉันแน่ใจว่าเป้าหมายแรกเริ่มของเธอคือการได้บางอย่างจากพวกเขา แต่เจ้าตำหนักดันเกิดตกหลุมรักเธอเสียอย่างนั้น”เคนเนธหยุดชั่วขณะ ก่อนจะพูดต่อ “ถึงกระนั้น นี่ไม่ได้หมายความว่าเธอได้ไปที่เผ่าโบราณเผ่าอื่น ๆ ไม่ใช่หรือ?”“ตอนแรกผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน แต่ผมครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เยอะมาก และเส้นทางจากตระกูลลาโกริโอไปยังตำหนักนภาทำให้เห็นว่าเธอต้องผ่านตำหนักเทพยดาและวิหารแห่งทวยเทพและราชามาก่อน มันไม่สมเหตุสมผลเลยที่เธอจะไม่ไปที่เผ่าโบราณที่อยู่ใกล้เธอมากกว่า อย่างน้อยเธอก็ต้องไปที่ตำหนักเทพยดาและวิหารแห่งทวยเทพและราชาก่อนเป็นที่แรก ๆ”“วันนี้ผมก็ได้ข้อสังเกตุที่สำคัญมากมาเพิ่ม เจ้าตำหนักและผู้อาวุโสหลายคนจากตำหนักเทพยดาและ ตำหนักอินทรีทะยานอยู่ที่งานเลี้ยง และผู้ที่อยู่ในขั้นสูงสุดของระดับเทพแท้จริงก็อยู่ที่นั่นด้วยใช่ไหม? แต่ในขณะเดียวกัน คนจากวิหารแห่งทวยเทพและราชาที่อยู่ในขั้นสูงสุดของระดับเทพแท้จริงกลับมาร่วมงานเพียงไม่กี่คน แถมมีเพีย
เฟนด์ที่ไม่ได้พูดอะไรมาสักพักก็พูดแทรกขึ้นว่า “คราวนี้คนที่มีพลังยุทธต่ำกว่าระดับกึ่งเทพไม่ต้องติดตามเราไป นอกจากนี้ เราต้องเตรียมพร้อมคนในระดับกึ่งเทพและระดับเทพแท้จริงไว้ที่บ้านบ้างเพื่อป้องกันเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจจะเกิดขึ้น”เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เฟนด์และคนอื่น ๆ ระมัดระวังตัวมาก ดังนั้นพวกเขาจึงผ่านไปได้อีกวันโดยไม่เกิดเหตุร้ายใด ๆประมาณเก้าโมงเช้าวันต่อมา พวกเขาอยู่ไม่ไกลจากตระกูลวู๊ดเคนเนธหัวเราะเบา ๆ ด้วยความผ่อนคลาย “ฮ่าฮ่า… ดูเหมือนว่าพวกเราจะหวาดระแวงกันเกินไป พวกที่มาจากตำหนักนภาคงไม่ได้วางแผนจะทำอะไรเรา! ฉันคิดว่าเจ้าตำหนักคงยุ่งอยู่กับงานแต่งงานของเขาจนไม่มีเวลามาคิดมากเรื่องนี้ ถ้าเขาต้องการจะทำอะไรกับเราจริง เขาคงจะทำในสถานที่อันตราย เพราะยังไงซะ ถ้าเขาลงมืออย่างเปิดเผย คนอื่น ๆ ก็จะคิดว่ามันเป็นการต่อสู้เพื่อแย่งชิงของล้ำค่า โอ้ ถ้าฉันตายที่นั่น คนอื่นจะไม่คิดว่าฉันถูกสัตว์อสูรฆ่าเหรอ?”“เราไม่ควรจะประมาท ยิ่งเราอยู่ใกล้ตระกูลวู๊ดมากเท่าไหร่ เรายิ่งต้องระวังตัวมากขึ้นเท่านั้น!” อย่างไรก็ตาม เฟนด์ยังคงขมวดคิ้วอยู่ เขาเข้าใจผู้หญิงอย่างลิลลี่ ลาโกริโอดี ผู้หญิงค
แนชและเคนเนธผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งจ้องเขม็งพิจารณาคู่ต่อสู้ของพวกเขาทั้งหกคนคนพวกนั้นจงใจส่งหกคนนี้มาเพราะรู้ว่าเราเดินทางมาด้วยกันเพียงสามคนเท่านั้น พวกนั้นวางแผนที่จะให้สู้สองต่อหนึ่งเพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่รอดจากการโจมตีเคนเนธพลิกฝ่ามือแล้วหยิบอาวุธออกมาและพูดอย่างหนักใจว่า “นายท่าน เราจะทำยังไงดี? ดูเหมือนว่าเราคงต้องฝ่าออกไปทางเดียวเท่านั้น ถ้าเราฝ่าออกไปได้สำเร็จ นายน้อยเฟนด์ก็จะใช้ดาบบินพาเราออกไปได้อย่างรวดเร็ว”“เฟนด์จำเป็นต้องใช้ดาบบิน แต่ถ้าพวกเขาทั้งหกโจมตีพร้อมกัน เราคงหนีออกไปไม่ได้ง่าย ๆ!” แนชเหาะออกไปในทันที เขารู้ว่าพลังยุทธของเฟนด์จะลดลงหากเขาไม่ได้ใช้อาวุธวิญญาณระดับสุดยอดนี้ทั้งเขาและเคนเนธก็คงต้านอยู่ได้ไม่นานถ้าต้องต่อสู้กับคนสองคนตามลำพัง เพราะยังไงซะ เทคนิคยุทธที่อีกฝ่ายฝึกฝนจะต้องทรงพลังมาก และเทคนิคยุทธของพวกเขาคงมีประสิทธิภาพมากขึ้นไปอีก เพราะปรมาจารย์ของตำหนักนภาได้รับการฝึกฝนด้วยทรัพยากรที่ดีที่สุดเขายังสงสัยด้วยว่าพวกเขาอาจจะไม่สามารถต่อกรกับพวกนี้ได้หากต้องต่อสู้กับคนพวกนี้แบบตัวต่อตัว ใครจะไปคิดว่าอีกฝ่ายจะส่งปรมาจารย์ระดับเทพแท้จริงขั้นสูงสุดหกคน
ชายชราหัวเราะเสียงดัง “งั้นเอาอย่างนี้ไหม ใครก็ตามที่ฆ่าหมอนี่ได้ จะได้ดาบไป?”ชายวัยกลางคนยิ้มให้กับความท้าทาย “แน่นอน” เขาเห็นด้วย “ตกลงตามนั้น!”จากนั้นเขาก็หันไปทางเฟนด์และโจมตีใส่ “ดาบวายุโหม!”ฟุบ!การโจมตีที่น่ากลัวพุ่งตรงใส่เฟนด์เหมือนพายุเฮอริเคน“เด็กสมัยนี้ไม่เคารพต่อหลักการต่อสู้เลย!” ชายชราโกรธจัดเมื่อชายวัยกลางคนเริ่มโจมตีก่อน เพราะเขายังไม่ได้เตรียมตัวเลย ถ้าการโจมตีครั้งนี้ฆ่าเฟนด์ได้เพราะเขาอ่อนแอ ดาบของเฟนด์ก็จะตกเป็นของชายวัยกลางคนแทนเขา!ด้วยความโกรธ เขาจึงรีบปรับพลังฉีทันทีและพร้อมที่จะใช้ทักษะการต่อสู้ของเขา“ดาบอัคคี!” เฟนด์ซึ่งเตรียมพร้อมอยู่แล้ว ตวัดดาบอออกไปในขณะที่ฝ่ายตรงข้ามเคลื่อนไหว.ฟุ่บ!การโจมตีที่ดูเหมือนลูกไฟถูกเสกขึ้น ฉีที่พุ่งผ่านอากาศไปก็แผ่ความร้อนออกมา ฉีถูกอัดแน่นอย่างรุนแรง ออร่าดาบที่ดุเดือดก็หลอมรวมเข้ากับฉีได้อย่างสมบูรณ์แบบในขณะเดียวกันนั้น แนชกับเคนเนธต่างก็เผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้สองคนและเริ่มโต้กลับ "จัดการ!"ปัง! ปัง! ปัง!เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวที่น่าหวาดกลัวสุด ๆปัง!ในตอนนั้นเอง เฟนด์กับชายวัยกลางคนก็ปะทะกันชาย
อ๊ากก!ดวงตาของชายวัยกลางคนเต็มไปด้วยความสยดสยองขณะที่แรงส่งทำให้เขากระเด็นลอยไปไกลหลายเมตร เขากระอักเลือดออกมาเต็มปากขณะที่พยายามทรงตัวระหว่างที่ลอยในอากาศชายชราที่เตรียมโจมตีเฟนด์ในตอนแรกก็ตกตะลึงเช่นกัน เขาสลายพลังฉีชั่วคราวและมองไปที่ชายวัยกลางคนด้วยความประหลาดใจพลางอุทานออกมาว่า “เกิดอะไรขึ้น? คุณโจมตีด้วยท่าที่แข็งแกร่งนั่น แต่คุณก็ยังต้านทานการโจมตีของเขาไม่ได้งั้นเหรอ?”ชายวัยกลางคนหน้าแดงด้วยความอับอาย “ฉันประมาทเอง ฉันประเมินหมอนี่ต่ำไป ฉันไม่ได้ใช้พลังเต็มที่ ใช้พลังไปเพียงประมาณเจ็ดสิบถึงแปดสิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้น เพราะฉันคิดว่าจะทดสอบพลังของเขา ใครจะคิดว่าหมอนี่จะแข็งแกร่งขนาดนั้น!”“น่าจะเป็นแบบนั้นมากกว่า เมื่อกี้คุณทำให้ฉันกลัวนิด ๆ นะ!" ชายชราได้ฟังคำอธิบายของเขาก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย เขากลัวว่าชายวัยกลางคนจะไม่สามารถต่อกรกับเฟนด์ได้ หากเป็นอย่างนั้น พวกเขาจะต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการฆ่าชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาในตอนนั้นเอง เฟนด์ก็หันไปมองทางด้านของแนชและเคนเนธทั้งสองคนปลดปล่อยการโจมตีที่ทรงพลังราวกับว่าพวกเขาใช้ทุกอย่างที่มีจนหมด แต่ดูเหมือนจะไม่สู้ดีน