แชร์

บทที่ 1471

ผู้เขียน: โมเนโต้
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
"คุณพูดถูก แม้ว่าอีกฝ่ายอาจจะอิจฉาที่คุณมีสิ่งนี้ในครอบครอง แต่พวกเขาก็อาจกลัวพลังการต่อสู้ของคุณมากกว่า ยิ่งไปกว่านั้นหลังจากที่คุณบรรลุเข้าสู่ขั้นสูงของระดับเทพแท้จริง พลังการต่อสู้ของคุณก็ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นอีก ฉันคิดว่าปรมาจารย์บางคนที่อยู่ในขั้นสูงสุดของระดับเทพแท้จริงก็สู้คุณไม่ได้หรอก!” หลังจากที่เธอได้ยินเรื่องนี้ เฮเลน่าก็พยักหน้าเห็นด้วย พวกเธอได้เห็นพลังการต่อสู้ของเฟนด์ มากับตาตัวเองแล้ว การที่คนจากตระกูลต่าง ๆ ถูกกำจัด ก็ดูเหมือนจะเป็นไปได้ที่จะเป็นฝีมือเฟนด์

แน่นอนว่าการเดินทางของพวกเขาราบรื่นไม่มีอะไรติดขัด เช้าวันรุ่งขึ้น เฟนด์และคนอื่น ๆ ก็มองเห็นยอดเขาซึ่งเป็นที่ตั้งของตำหนักนภาอยู่เบื้องหน้าแล้ว

“สวัสดี นายท่านวู๊ดไม่ได้เจอกันนานเลยนะ!" ไม่ไกลนัก ดาบบินอีกเล่มหนึ่งพุ่งเข้าหาพวกเขา ขณะที่ผู้มาเยือนกล่าวทักทายแนช

แนชรู้สึกยินดีเมื่อรู้ว่าเป็นดาบบินของตระกูลแลงคาสเตอร์ ตระกูลขุนนางชั้นสูงซึ่งเป็นพันธมิตรกัน เขาโบกมือให้แล้วตอบกลับไปว่า “ฮ่าฮ่า…! ไม่เจอกันนานเลย นายหญิงเชอร์ลี่ย์!”

“พวกคุณมีกันน้อยเกินไปไม่ใช่หรือยังไง? ตระกูลวู๊ดส่งกันมาแค่สามคนเองเหรอ?” เชอร์ลี่ย์
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1472

    เควนตินจมอยู่กับความคิดของตัวเองตอนที่เขาอยู่ตัวคนเดียวมาตลอดช่วงสองสามวันที่ผ่านมามีไม่กี่คนที่สามารถฆ่าลูกชายของเขาได้ โดยเฉพาะคลาวด์ ฮันท์ลูกชายคนโตของเขาในตอนแรกเขาเชื่อว่าเฮเลน่าและเฟนด์มีส่วนในเรื่องนี้ร่วมกัน แต่เขารู้ดีว่า แม้ว่าเฮเลน่าจะมีระดับพลังยุทธอยู่ในระดับเดียวกับลูกชายคนโตของเขา แต่พลังการต่อสู้ของเธอก็ไม่ได้เหนือไปกว่าลูกชายคนโตของเขาอย่างแน่นอน ประกอบกับข้อเท็จจริงที่ว่า เฟนด์มีความสามารถในการต่อสู้ต่ำ ความเป็นไปได้ที่พวกเขาจะเอาชนะลูกชายของเขาจึงมีไม่มากนักเมื่อเขาสังเกตเห็นอุปกรณ์วิญญาณระดับสูงสุดของเฟนด์ความสงสัยในตัวเขาก็กลับเข้ามาในหัวและทวีมากขึ้น ท้ายที่สุดแล้ว หากลูกชายของเขาไม่ได้รุกรานอัจฉริยะจากตระกูลอื่น ๆ พวกเขาคงไม่กล้าฆ่าลูกชายของเขาแม้ว่าจะเกิดการประทะกันขึ้นภายในป่านั้นก็ตามในทางกลับกัน เฟนด์และเฮเลน่ามีปัญหากับไทเรลก่อนที่การแข่งขันจะเริ่มขึ้น หลังจากที่พวกเขาเข้าไปในเขตการแข่งขัน พวกเขาต้องร่วมมือกันฆ่าไทเรลแน่ ในขณะที่คลาวด์อาจถูกฆ่าเพราะความเลินเล่อระหว่างการล้างแค้นให้พี่ชาย นอกจากนี้ยังเป็นไปได้ว่าเฟนด์ และเฮเลน่ายังร่วมกันทำสิ่งชั่วร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1473

    เควนตินเป็นมิตรอย่างคาดไม่ถึง ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก เขาชำเลืองมองทีแนชและพูดว่า “โอ้ คุณหมายความว่ายังไงที่บอกว่าคุณรู้สึกโล่งใจที่ได้ยินคำนี้จากปากผม? ตระกูลวู๊ดก็เหมือนกับตระกูลของเราและตระกูลชนชั้นสูงตระกูลอื่น ๆ เรามีตำแหน่งเดียวกันและสถานะของเราก็ไม่แตกต่างกันมากไม่ว่าจะสูงหรือต่ำ เมื่อก่อนตระกูลฮันต์อาจค่อนข้างแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับตระกูลชั้นหนึ่งตระกูลอื่น ๆ แต่ในช่วงปลายปีมานี้ สิ่งเหล่านี้อาจเปลี่ยนไปแล้ว ผมว่าตระกูลวู๊ดกำลังก้าวหน้าไปได้ดีเลยทีเดียว!”แนชรู้ว่าชายคนนี้ไม่ได้หมายความตามที่เขาพูด ดังนั้นเขาจึงโบกมือปฏิเสธทันทีและพูดแทรกว่า “ไม่ ไม่ ไม่… ตระกูลฮันต์ของคุณไม่ถูกโค่นได้ง่าย ๆ หรอก ตำนานของพวกคุณไม่ใช่สิ่งที่เราจะเทียบได้ ยิ่งกว่านั้นตระกูลฮันต์ของคุณก็มีมรดกที่แสนมั่งคั่งอีกด้วย!”แนชมองไปข้างหน้าและพยายามที่จะเปลี่ยนบทสนทนา จากนั้นจึงพูดว่า “ดูนั่น เรามาถึงแล้ว… ตำหนักนภามีอาณาเขตที่ค่อนข้างใหญ่ มีลานกว้างและภูเขามากมายในบริเวณนี้ จุ๊ จุ๊! ที่นี่ยังอัดแน่นไปด้วยพลังฉีจำนวนมากและการได้ฝึกอบรมที่นี่ต้องได้รับผลดีอย่างแน่นอน เมื่อเทียบกับที่ที่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1474

    ทุกคนเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในสถานการณ์ที่ไม่อาจปฏิเสธได้ หากทุกคนค้นพบวิธีที่จะบรรลุเข้าสู่ระดับเทพสูงสุดได้แน่นอนว่าคนแรกที่สามารถทะลวงเข้าสู่ระดับเทพสูงสุดได้คือคนที่โชคดีที่สุดตัวอย่างเช่น ผู้อาวุโสบางคนของตระกูลบางตระกูลที่บรรลุเข้าสู่ระดับเทพสูงสุดจะสามารถฆ่าหัวหน้าตระกูลและยึดตำแหน่งนั้นมาครองได้อย่างง่ายดายหากพวกเขาต้องการ“เอาล่ะ ไปกันเถอะ!” เควนตินอยู่ในห้วงความคิดที่ไม่ต่างกัน พวกเขาไม่อาจคาดเดาอนาคตของพวกเขาได้ เมื่อพูดจบเขาก็โบกมือให้ทุกคนบินตรงไปยังลานกว้างตรงกลางทันทีทุกคนสามารถเห็นได้จากระยะไกลว่าที่แห่งนั้นคราแน่นไปด้วยผู้คนที่ยืนอยู่มีเพียงไม่ไม่กี่ตระกูลเช่น ตระกูลแลงคาสเตอร์และตระกูลฮันท์ที่พาคนประมาณหนึ่งหรือสองโหลเพื่อมาร่วมงานแต่งงาน ในขณะที่บางตระกูลพาคนมามากว่าสองสามโหลเพื่อแสดงความยินดีกับเจ้าตำหนัก นภาหลังจากมอบของขวัญแล้ว แนชและคนอื่น ๆ ก็หาที่นั่งพักชั่วคราวเนื่องจากมีคนจำนวนมากเกินไปและผู้ที่ลงทะเบียนมอบของขวัญก็เสร็จภาระกิจของตนแล้ว เขาจึงไม่ต้องการทำตัวให้โดดเด่นเกินไปเพราะเพียงได้มาเข้าร่วมก็เพียงพอแล้ว เขาออกไป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1475

    ลิลลี่ชี้ออกไป และแม้ว่าในใจจะโกรธเกรี้ยวแต่ก็ยังเอ่ยอย่างยิ้มแย้มว่า “ที่รัก พวกเขาอยู่ที่นั่นไม่ใช่เหรอ? ผู้ชายคนนั้นต้องอายแน่เลย!”โจเอลยิ้มก่อนที่จะหันไปหาสมาชิกของวิหารแห่งทวยเทพและราชา และพูดว่า “ทุกคนทำตัวตามสบาย มื้อเย็นจะเริ่มในอีกไม่ช้า วันนี้ค่อนข้างวุ่นวาย และผมหวังว่าทุกคนจะยกโทษให้หากเราต้อนรับได้ไม่ทั่วถึง!”“ฮ่าฮ่า… ไปจัดการธุระของคุณเถอะ เจ้าบ่าวเฒ่า!” แฮร์รี่หัวเราะก่อนจะเดินนำคนของเขาไปด้านข้างจากนั้นโจเอลก็นำพวกพ้องเดินไปหาแนชโจเอลเดินเข้าไปหาแนชแล้วยิ้มให้ “นายท่านวู๊ด เราสองคนไม่ได้เจอกันมาเจ็ดหรือแปดปีได้แล้วใช่ไหม?”“เป็นเช่นนั้น เจ้าตำหนักโจเอล ยินดีด้วยนะครับ!" แนชยิ้มอย่างเคอะเขินในขณะที่เขาแสดงความเคารพด้วยมือของเขาคนรอบข้างค่อย ๆ หันมาทางพวกเขาทีละคน จากนั้นบรรยากาศก็ค่อนข้างอึมครึมขึ้น"จริงหรือ?" โจเอลดึงลิลลี่เข้ามาใกล้เขาและกอดเข้าที่เอวของเธอต่อหน้าแนชก่อนที่เขาจะพูดว่า “ผมได้ยินมาว่าสาวสวยคนนี้เคยเป็นภรรยาคนแรกของคุณมาก่อน เฮ้อ! ทำไมคุณไม่รู้วิธีถนอมบุปผางามอย่างเธอ? ฮ่า ๆ…! ในเมื่อคุณไม่รู้วิธีรักหยกถนอมบุปผา อย่างนั้นผมจะทำแทนคุณตั้งแต่บั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1476

    โจเอล คอลลินส์ทำให้แนชอับอายอย่างมากในขณะนั้น ไม่เพียงแต่เขาจะไม่ให้เกียรติแนชและเพิกเฉยต่อความรู้สึกของเขาเท่านั้น แต่เขายังต้องการให้แนชอวยพรให้เขาและลิลลี่ในงานแต่งงานอีกต่างหากผู้คนที่จากตระกูลลึกลับรู้สึกไม่ต่างกันว่าโจเอลล้ำเส้นแนชมากเกินไป การที่แนชต้องมาร่วมงานแต่งงานนี้ก็เป็นเรื่องน่าละอายมากพอแล้ว แต่พวกเขายังจงใจทำให้เขาอับอายต่อหน้าสายตาของทุกคนที่พบเห็นหลังจากที่เขาไตร่ตรองอย่างถ้วนถี่แล้ว แนชก็ยิ้มและพูดว่า “อย่างนั้นผมก็ขอให้คุณทั้งคู่มีความสุข อายุยืนยาวร้อยปี! มีทายาทเร็ว ๆ!”ทันทีเมื่อแนชพูดถึงการมีลูกลิลลี่ก็นึกไปถึงลูกชายของเธอ มุมปากของเธอกระตุกหลายครั้ง และสีหน้าของเธอก็บูดบึ้งลงเล็กน้อย“ฮ่า ฮ่า! คุณนายเก้าได้ยินไหม? นายท่านวู๊ดอวยพรให้เรามีลูกกันเร็ว ๆ ผมว่าเรามาเริ่มกันเลยดีกว่า เป็นไปได้ไหมที่ผมจะมีลูกในวัยชราขนาดนี้” โจเอลหัวเราะเสียงดังหลังจากที่เขาได้ยินเรื่องนี้ แม้ว่าเขาจะชะงักไปชั่วขณะ ก่อนที่จะกล่าวเสริมว่า “ผมค่อนข้างพอใจกับคำแสดงความยินดีของคุณ นายท่านวู๊ด แต่ผมไม่เห็นด้วยกับคำที่คุณว่า 'อายุยืนยันร้อยปี' ถ้าฉันค้นพบหนทางที่จะก้าวไปสู่ระดับเทพสู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1477

    ข้อมูลที่แนชบอกกับเฟนด์ทำให้ฝ่ายที่ฟังสับสน เขาเหลือบมองสตรีศักดิ์สิทธิ์จากที่ไกล ๆขณะที่เธอยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน ความลึกลับและสูงส่งเปล่งประกายออกมาจากตัวเธอ เธอสวมชุดกระโปรงผ้าโปร่งสีขาว โดยมีผ้าคลุมสีขาวปิดที่ครึ่งล่างของใบหน้า ชุดสีขาวของเธอทำให้คนมองรู้สึกถึงความบริสุทธิ์อย่างยิ่งแม้ว่าจะมองเห็นเพียงดวงตากลมโต หน้าผาก และผมยาวสีเข้มที่ดูมีชีวิตชีวาของเธอ แต่คงไม่เป็นการกล่าวเกินจริงหากจะบอกว่าเธอมีความงามที่ไม่มีใครเลียนแบบได้น่าเสียดายที่ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของความงามนี้ และเธอจะไม่ได้แต่งงานไปตลอดชีวิต“ฮ่า ฮ่า… นี่เป็นกฎที่มีมานานของตำหนักเทพยดา” แนชหัวเราะขณะที่เขาอธิบายให้เฟนด์ฟัง “ยังมีตำนานกล่าวว่าตำหนักเทพยดามีมานับพันปีแล้ว และตำนานเดียวกันนั้นก็ยังเล่าอีกว่าผู้ก่อตั้งชนเผ่าโบราณชนเผ่านี้เป็นสตรีผู้มีความงามอันน่าอัศจรรย์ แต่มีชายคนหนึ่งทำให้เธอเจ็บช้ำแสนสาหัส ในตอนนั้นเองที่เธอได้ออกกฎว่าเจ้าตำหนักทุกคนในอนาคตจะต้องปกป้องพรหมจรรย์ของเธอไว้ เธอบอกว่าเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้การฝึกของเจ้าตำหนักได้รับผลกระทบ เพราะเธอจะไม่ถูกความรู้สึกรักใคร่มารบ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1478

    หลังงานเลี้ยง มีไม่กี่ตระกูลที่ร่ำลาโจเอลก่อนจะจากไปแนชยังพาเฟนด์และเคนเน็ธไปกล่าวคำอำลากับโจเอล ก่อนที่ทั้งสามคนจะเดินทางกลับบ้านโดยบินไปเหมือนที่ตอนมาดาเนียลล่าขมวดคิ้วเมื่อเห็นตระกูลวู๊ดจากไป เธอหันไปหาอเล็กซานเดอร์ซึ่งยืนอยู่ข้าง ๆ ก่อนจะแสดงสีหน้ากลุ้มใจออกมา “พ่อ หนูเป็นห่วงพวกเขา หนูสงสัยว่าเฟนด์และคนอื่น ๆ จะพบกับอันตรายอะไร ระหว่างทางกลับหรือเปล่า? พวกลาโกริโอต้องการกำจัดคนในตระกูลวู๊ด แถมลิลลี่ยังแต่งงานกับตาเฒ่าโจเอล คอลลินส์คนนั้นอีก มันทำให้หนูรู้สึกถึงแผนการอะไรบางอย่างเบื้องหลัง”อเล็กซานเดอร์พยักหน้าเห็นด้วย “ใช่ ตอนได้รับบัตรเชิญ พ่อก็รู้สึกประหลาดใจพอ ๆ กัน ใครจะไปคิดว่าลิลลี่จะแต่งงานกับโจเอลในช่วงเวลาที่สำคัญเช่นนี้! เป็นไปได้ว่าเธออาจต้องการใช้เขาเป็นเครื่องมือในการกำจัดตระกูลวู๊ด!”เมื่อเธอได้ยินสิ่งที่อเล็กซานเดอร์พูด ความกังวลของดาเนียลล่าเพิ่มขึ้นอเล็กซานเดอร์ยิ้มอย่างขมขื่นเมื่อเห็นลูกสาวหน้านิ่ว “ลูกต้องตั้งใจฝึกให้ดี โลกก็เป็นเช่นนี้ ไม่มีใครกล้ารังแกลูกหากลูกแข็งแกร่งพอ ไม่อย่างนั้นการฆ่าลูกจะง่ายเหมือนฆ่ามด และลูกจะไม่มีโอกาสได้ขัดขืนด้วยซ้ำ!”“ค่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1479

    จากนั้นแนชก็พูดถึงความกังวลของเขาอย่างเสียไม่ได้ “ผมจะไม่เข้าใจเรื่องนี้ได้อย่างไร แน่นอนว่าผมเองก็หวังว่าเฟนด์จะสามารถบรรลุแต่ละขั้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปได้ แต่จะเกิดอะไรขึ้นหากมีคนบรรลุไปถึงระดับเทพสูงสุดก่อน? ถ้าคน ๆ นั้นเป็นพันธมิตรของเราก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าพวกเขาเป็นศัตรูนี่คงไม่ต่างจากการตกนรก ทุกอย่างจะเปลี่ยนไปจนไม่เหลือเค้าโครงเดิมอีก!”“อย่ากังวลไปเลยพ่อ ระดับพลังยุทธของผมมั่นคงมาโดยตลอด และผมมีพื้นฐานที่มั่นคง! ดังนั้นจะไม่มีผลกระทบอะไรมากหากผมพยายามที่จะบรรลุเข้าสู่ขั้นสูงสุดของระดับเทพแท้จริงเร็วสักหน่อย!” เฟนด์รับคำหลังจากพิจารณาสถานการณ์แล้ว “ไม่ต้องรีบร้อน เพราะเรายังเข้าไม่ถึงเจ็ดพื้นที่อันตราย ผมคิดว่าเป็นการดีที่สุดที่จะปล่อยให้ระดับพลังยุทธของผมสงบลงสักพักก่อนที่จะพยายามบุกทะลวงไปในคราวเดียวในอนาคต ผมจะพยายามบ่มเพาะโอสถขั้นกลางระดับสองภายในสองวันนี้เพื่อดูว่าผมจะสามารถฝ่าฟันและกลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุขั้นกลางระดับสองได้หรือไม่ หากเตรียมยาและพกติดตัวไปด้วยคงไม่มีปัญหา!”แนชพยักหน้าในขณะที่เขาสารภาพ “อืม พ่อพูดออกไปอย่างนั้นก็เพราะพ่อกลัวว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกะทันหัน ง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29

บทล่าสุด

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

DMCA.com Protection Status