“คุณฆ่าเขาเหรอ? คุณ… คุณแข็งแกร่งขนาดนั้นเลยเหรอ?”เฮเลน่าผู้ซึ่งเกือบถูกนายน้อยลำดับที่สองตระกูลฮันท์ตามฆ่าก่อนหน้านี้ตกใจสุดขีดเมื่อรู้ว่าเฟนด์คือคนที่ฆ่าเขาเฟนด์ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ “เพราะมีคนจำนวนมากเห็นมันผมคงจะปฏิเสธไม่ได้”“เป็นคุณจริง ๆ!” เฮเลน่าอยู่ในอาการงุนงง ดูเหมือนเธอจะไม่เข้าใจความจริงที่เพิ่งเปิดเผยออกมาภายในเวลาสั้น ๆ เธอไม่รู้เลยว่าเฟนด์นั้นแข็งแกร่งมากถึงเพียงนี้เธอพิจารณาแล้วเดินไปมองที่เฟนด์ ก่อนที่เธอจะพูดอย่างเหลือเชื่อออกไป “เป็นไปได้ไหมว่าคุณเลื่อนขั้นไปแล้ว? คุณก้าวเข้าสู่ขั้นสูงสุดของอันดับเทพแท้จริงไปแล้วหรือเปล่า? ถ้าคุณยังไม่เลื่อนขั้น การฆ่าเขามันคงไม่ง่ายอย่างนี้หรอกจริงไหม? ฉันจำได้ว่าคุณยังเคยพาฉันหนีมาแล้ว”เฟนด์ยิ้มอย่างขมขื่นก่อนจะอธิบายกับเฮเลน่าว่า “ผมบอกแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าตอนนั้นมีคนแอบมองการต่อสู้ของเราจากความเงามืดอยู่น่ะ? ถ้าผมฆ่าเขาในตอนนั้น สมาชิกของตระกูลฮันต์จะรู้เรื่องนี้ได้ง่าย และผมก็กังวลเกี่ยวกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นทีหลัง อีกอย่างที่ผมไม่ได้ฆ่าเขาตั้งแต่ตอนนั้น เพราะผมไม่ต้องการทำให้ตระกูลฮันท์ขุ่นเคือง”เฟนด์หยุดเมื่อจบประโยคก่อนที
“ใช่ ไปกันเถอะ เราต้องรีบออกจากที่นี่ คืนนี้เราจะอยู่ในถ้ำนี่ไม่ได้!” วีนัสพูดขึ้นทันที ไม่ดีแน่หากตระกูลฮันท์ได้รับแจ้งเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในสถานที่แห่งนี้คนกลุ่มนั้นออกจากสถานที่ดังกล่าวทันที“โอ้ ขอบคุณพระเจ้า ในที่สุดเราก็พบพวกคุณแล้วคุณนายน้อยเฟนด์!” เฟนด์และคนอื่น ๆ พบกลุ่มคนในพื้นที่เปิดโล่งหลังจากเหาะออกไปราวครึ่งชั่วโมง พวกเขาคือเบธ ยูล และอัจฉริยะคนอื่น ๆ ของตระกูลวู๊ดเฟนด์รู้สึกโล่งใจเล็กน้อยเมื่อเห็นใบหน้าที่คุ้นเคยมากมาย “พวกนายเป็นยังไงบ้าง? เจอปัญหาอะไรหรือเปล่า”ยูลยิ้มขณะที่เธอพูดว่า “ทุกอย่างเรียบร้อยดี เราป้องกันตัวเองกันอย่างดีที่สุดและซ่อนตัวในที่อันห่างไกลตอนที่เราพบกับคนที่เราไม่อาจมีปัญหาด้วยได้ แต่เราบังเอิญเจอบางคนจากตระกูลลาโกริโอ และพวกเขาก็ต้องการแย่งชิงของ ๆ เราไป และเพราะพวกเขามีความสามารถในการต่อสู้ที่ค่อนข้างธรรมดา เราก็เลยฆ่าพวกเขาและยึดแผ่นป้ายทั้งหมดมา!”ทันทีที่พูดจบ เบธเดินไปข้างหน้าและหยิบแหวนยุทธออกมาจากกระเป๋าของเธอก่อนจะยื่นให้เฟนด์ “เราเก็บแผ่นป้ายทั้งหมดไว้ในแหวนยุทธนี้และคิดว่าจะมอบให้คุณตอนที่เราเจอกัน ฮ่า ๆ…! เราได้รับแผ่นป้ายค่
ทุกคนพักผ่อนด้วยกันในคืนนี้เพื่อความปลอดภัย เฟนด์ไม่ให้ยูลและคนอื่น ๆ เดินทางเพียงลำพัง เมื่อสมาชิกของตระกูลคาเบลโลมารวมกัน ก็ทำให้มีกันราว 70 ถึง 80 คนทีเดียว และพวกเขาทั้งหมดยังคงเดินทางต่อไปอย่างไรก็ตาม ทุกคนรักษาระยะห่างระหว่างพวกเขาเพื่อค้นหาแผ่นป้าย จากนั้นพวกเขาก็แยกจากกัน แม้ว่าจะไม่ไกลกันนัก ก่อนจะค่อย ๆ เดินทางไปที่ตีเขาของภูเขาโกเบต้องบอกว่ามีสิ่งของล้ำค่ามากมายในแหวนยุทธของนายน้อยฮันท์ นอกจากแผ่นป้ายจำนวนมากแล้ว เฟนด์ ยังได้รับหญ้าวิญญาณจำนวนมากพอดู แต่นี่ไม่ใช่ส่วนที่น่าตื่นเต้นที่สุดสำหรับเขา สิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดก็คือมีเตาปรุงยาที่ดีและยารักษาโรคอีกสองสามอย่างในแหวนยุทธของไทเรลด้วยยาเม็ดบางชนิดนั้นเป็นยาเม็ดระดับสอง สิ่งนี้ทำให้เฟนด์ตื่นเต้นอย่างมากเนื่องจากเขาไม่รู้วิธีปรุงยาเม็ดระดับสองนี้ และเขากังวลเกี่ยวกับสิ่งที่ตัวเองจะสามารถทำได้ในอนาคต เขาไม่เคยคิดว่าหลังจากสังหารไทเรลแล้วเขาจะได้รับสิ่งของมีค่ามากมายอย่างนี้แน่นอน เฟนด์หยิบสิ่งเหล่านี้ออกมาและใส่ไว้ในแหวนยุทธของเขาก่อนที่จะโยนแหวนยุทธของนายน้อยลำดับที่สองตระกูลฮันท์ทิ้งไป คงลำบากหากตระกูลฮันต์พบว่าแห
หนุ่มน้อย เราเป็นสมาชิกของตระกูลฮันท์นะ ตระกูลวู๊ดคิดจะต่อต้านตระกูลฮันท์ของเรารึไง?” ชายจากตระกูลฮันท์หันกลับมามองพวกเขาก่อนที่จะพูดอย่างเย่อหยิ่ง “เราเป็นคนเจอคนตระกูลแลงคาสเตอร์ก่อน พวกแกอยากมีปัญหาเพิ่มอีกกลุ่มไหมล่ะ?”“นายเพิ่งบอกว่านี่คือกฎ แถมยังได้รับอนุญาตให้ฆ่าได้ตามต้องการด้วย! สมาชิกของตระกูลฮันท์กำลังเล่นสนุกและถือไพ่เหนือกว่าอยู่ด้วยงั้นสินะ” ด้วยการพลิกมือ เฟนด์หยิบดาบของเขาออกมาชิ้ง! ชิ้ง! ชิ้ง!สมาชิกของตระกูลวู๊ด และตระกูลคาเบลโล บินไปล้อมฝ่ายตรงข้ามทันที"สุดยอด! ตระกูลวู๊ดน่าทึ่งมาก!”"ใช่ ไม่เคยคิดว่าพวกคาเบลโลจะช่วยเราด้วยซ้ำ!” ก่อนที่พวกเขาจะมาถึงพวกแลงคาสเตอร์อยู่ในภาวะสิ้นหวัง พวกเขามีจำนวนน้อยกว่าเมื่อเทียบกับอีกฝ่าย และพวกเขาสู้พวกฮันท์ที่มีทักษะในการต่อสู้สูงกว่าไม่ได้พวกเขาไม่เคยคาดคิดว่าจุดเปลี่ยนของพวกเขาจะมาถึงเร็วอย่างนี้“พวกแกต้องคิดเรื่องนี้ให้รอบคอบนะ สิ่งที่แกกำลังทำคือการดูหมิ่นตระกูลฮันท์ และพวกแกกำลังตั้งตนเป็นศัตรูกับตระกูลฮันท์!” ชายจากตระกูลฮันท์ตกใจมากจนเสียงของเขาสั่น เมื่อเขาเห็นเฟนด์และคนอื่น ๆ เริ่มลงมือ ในอดีต ไม่ว่าจะเป็นที่ไห
“การล่าสังหารคนเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจอย่างแท้จริง หลังจากที่เราออกจากที่นี่ไปได้ ผมจะแจ้งให้หัวหน้าตระกูลทราบอย่างแน่นอน!” ชายจากตระกูลแลงคาสเตอร์คำรามในขณะที่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชังในขณะนั้น ตระกูลวู๊ด และตระกูลคาเบลโลได้รวบรวมแหวนยุทธทั้งหมดขึ้นมา“เราควรจัดสรรของพวกนี้ยังไงดี?” เฟนด์ขมวดคิ้วขณะที่มองไปที่เฮเลน่าเฮเลน่าขมวดคิ้วเข้าหากันโดยไม่รู้ว่าจะแจกจ่ายสิ่งของที่พวกเขามีอย่างไรพวกแลงคาสเตอร์ก้าวไปข้างหน้าทันทีและพูดอย่างถ่อมตนว่า “เพื่อแทบคำขอบคุณที่ช่วยพวกเราไว้ เราจะไม่ขอรับของพวกนี้ ดังนั้นพวกคุณก็แค่แจกจ่ายกันเอาเองเถอะ!”เฮเลน่าคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “เอาแบบนี้ไหมเฟนด์ ครั้งนี้พวกคุณได้หกสิบเปอร์เซ็นต์ ส่วนพวกเราคาเบโลจะรับแค่ 40 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือ ในอนาคต เรามาเป็นพันธมิตรกับพวกแลงคาสเตอร์กันเถอะ ตระกูลของฉันและตระกูลแลงคาสเตอร์จะได้รับส่วนแบ่งคนละ 30 เปอร์เซ็นต์ในอนาคต ในขณะที่ตระกูลวู๊ดของคุณได้รับ 40 เปอร์เซ็นต์ คุณคิดว่าดีไหม?"เฟนด์ผงะเมื่อได้ยินคำแนะนำของเธอ “พวกคุณจะไม่ขาดทุนกับแผนนี้เหรอ? ถ้าผมได้รับของมากที่สุดทุกครั้ง พวกคุณจะไม่สามารถชน
เฮเลน่าพยักหน้าก่อนจะเหลือบมองไปยังพวกแลงคาสเตอร์และเตือนพวกเขา “ฉันได้แต่หวังว่าทุกคนจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับและไม่บอกคนอื่นว่าใครเป็นคนฆ่าเขา เข้าใจไหม? แม้ว่ากฎจะถูกกำหนดไว้แล้วก็เถอะ แต่ก็มันจะยังคงสร้างปัญหาให้เราในอนาคต หากหัวหน้าตระกูลฮันท์รู้ว่าใครเป็นคนฆ่าลูกชายของเขา”“ไม่ต้องห่วง เราจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับอย่างแน่นอน” สมาชิกทุกคนในตระกูลแลงคาสเตอร์ที่มาร่วมวงรับคำขณะที่พวกเขาตบหน้าอกให้คำปฏิญาณเฮเลน่าคิดถึงเรื่องนี้และขมวดคิ้วอีกครั้งเมื่อหันไปหาเฟนด์ “เฟนด์ จะเป็นยังไงถ้าเราบังเอิญไปเจอกับ นายน้อยลำดับที่หนึ่งตระกูลฮันท์ล่ะ?” เธอพูด “ถ้าเราไม่ได้พบเขาก็ไม่เป็นไรหรอก แต่ถ้าเจอเขาเข้าเราก็ต้องสู้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้! ผู้ชายคนนี้มีพลังการต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่ามากเมื่อเทียบกับนายน้อยลำดับที่สอง!”เฟนด์เงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะตอบอย่างเคร่งขรึม “มาดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น? หากเราไม่มีทางเลือกอื่น เราก็ได้แต่คิดหาวิธีที่จะกำจัดเขาเท่านั้น เราไม่อาจปล่อยให้เขาฆ่าคนของเราได้ตามใจชอบหรอก!”“ฉันรู้ว่าคุณมีพลังการต่อสู้ที่น่าประทับใจ แต่ฉันก็ยังอดกังวลไม่ได้ ฉันกังวลเกี
อีกสองวันผ่านไป เฟนด์และคนอื่น ๆ ได้พบกับสมาชิกจากตระกูลแลงคาสเตอร์ และตระกูลคาเบลโล ระหว่างทาง ซึ่งมันเพิ่มขนาดของกลุ่มพวกเขาขึ้นไปกว่าเดิมเฟนด์ และกลุ่มของเขาไม่จับเชลย เมื่อสมาชิกจากตระกูลฮันต์ ตระกูลเชิร์ช และตระกูลลาโกริโอ มาโจมตีพวกเขา เฟนด์ได้รับ 40 เปอร์เซ็นต์ของข้าวของที่พวกเขาริบจากพวกนั้น ในขณะที่พวกแลงคาสเตอร์ และคาเบลโล ได้รับไปฝ่ายละ 30 เปอร์เซ็นต์...ในขณะนั้น ทุกคนเห็นการเปลี่ยนแปลงบนดวงแสงสีน้ำเงินขนาดใหญ่จากภายนอก“คุณเห็นนั่นไหม? คนกลุ่มนั้นต้องมีประมาณสองร้อยคนได้เลยมั้ง? พวกนั้นกำจัดจุดแสงอย่างต่อเนื่องและยังคงเพิ่มจำนวนมากขึ้นด้วย!” ผู้อาวุโสจากตระกูลหนึ่งอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ “ในตอนนี้ มีคนไม่มากนักที่เคลื่อนไหวเพียงลำพัง พวกเขารวมตัวกันเป็นกลุ่มที่เกิดจากคนหลายคนหรือหลายสิบคน ยังมีกลุ่มที่เกือบร้อยคนอีก แต่มีเพียงสองกลุ่มเท่านั้นที่มีจำนวนคนที่น่าประทับใจ!”"ใช่แล้วล่ะ ผมสงสัยว่าคนเหล่านี้อยู่ในตระกูลไหน พวกเขารวบรวมคนจำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว! มีกลุ่มแสงอีกกลุ่มหนึ่งที่มีผู้คนจำนวนเยอะไม่แพ้กัน แต่พวกเขายังคงอยู่กับที่และไม่ขยับเขยื้อนไปไหน ผู้คนจากกลุ่มแส
ภายในโดมนั้น สมาชิกหลายร้อยคนจากตระกูลวู๊ดรู้สึกยินดีเมื่อได้พบกับเฟนด์ และคนอื่น ๆ พวกเขาซ่อนตัวอยู่บนยอดไม้และกระโดดลงมาเมื่อเห็นเฟนด์และพรรคพวกของเขาเท่านั้น“นี่มันเยี่ยมไปเลย อย่างน้อยก็ยังมีสมาชิกตระกูลวู๊ดรออยู่ที่นี่!” เฟนด์รู้สึกสบายใจเล็กน้อยเมื่อเขาสังเกตเห็นจำนวนอัจฉริยะของตระกูลวู๊ด ก่อนหน้านี้เขากลัวว่าสมาชิกตระกูลของเขาทั้งหลายแหล่จะถูกสังหารในการสู้รบทว่าสำหรับสมาชิกคนอื่น ๆ ของตระกูลวู๊ดในปัจจุบันก็มีอย่างน้อย 100 คนแล้ว ใครจะรู้ว่าพวกเขากระจายอยู่ในพื้นที่ใดบ้าง?ยูลคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และถามเฟนด์ว่า "พี่เฟนด์ เราควรทำอย่างไรดี? เรายังต้องรออยู่ตรงนี้ต่อไปไหม?”“ใช่ รออีกสักสองวัน เพราะท้ายที่สุดสมาชิกอีกหลายคนจากตระกูลวู๊ดควรจะเดินทางมาถึงที่นี่” เฟนด์ตอบขณะที่เขาตัดสินใจ"พระเจ้า คนของคุณรออยู่ที่นี่เหรอ? พวกคุณเคยคุยกันเรื่องนี้มาก่อนไหม? ผมอิจฉาคุณนะ ได้แต่สงสัยว่าตอนนี้สมาชิกในตระกูลของผมจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร ใครจะรู้ว่ามีสมาชิกจากตระกูลแลงคาสเตอร์ของเรากี่คนที่ยังมีชีวิตอยู่ในตอนนี้!” อัจฉริยะจากตระกูลแลงคาสเตอร์และอยู่ในขั้นสุดท้ายของระดับเทพแท้จริงรู้ส