เปลวไฟเล็ก ๆ เริ่มลุกโชนใต้หม้อ หลังจากนั้นไม่นานเฟนด์ก็สามารถทำให้หม้อทั้งใบร้อนขึ้นได้ เห็นได้ชัดว่าเขาชำนาญในเรื่องนี้ดาเนียลล่าไม่กล้าที่จะขัดขวางเฟนด์ เธอนั่งเงียบ ๆ ข้าง ๆ ชื่นชมสีหน้าจริงจังของเฟนด์ ขณะที่เขาอยู่เหนือหม้อเฟนด์รีบคว้าส่วนผสมบางอย่างแล้วโยนลงในหม้อ ควบคุมเปลวไฟด้วยพลังจิตของเขา และเริ่มสกัดของเหลวบางส่วนออกมาหลังจากนั้นไม่นาน เขาก็เพิ่มส่วนผสมลงไปอีกกำมือหนึ่ง เขาสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของส่วนผสม และน้ำโอสถที่เริ่มกลั่นตัวเมื่อเวลาล่วงเลยไปไม่นาน เฟนด์ก็โยนส่วนผสมทั้งหมดของเขาลงในหม้อ เม็ดเหงื่อเริ่มรวมตัวกันเหนือที่คิ้วรอยยิ้มเล็ก ๆ ปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของดาเนียลล่า ขณะที่เธอเฝ้าดูเฟนด์ปรุงส่วนผสม เขาขมวดคิ้วและคลายมันอยู่เป็นพัก ๆ และเธอคิดว่าการได้ดูเขาปรุงยานั้นช่างมีความสุขหลังจากนั้นสักพัก เขาก็รีดน้ำยาทั้งหมดออกมา ทำทุกอย่างด้วยมือที่ผ่านการฝึกฝนจนชำนาญหลังจากนั้นครู่หนึ่ง ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการสร้างเม็ดยาก็มาถึง ของเหลวเริ่มแข็งตัวเฟนด์ยังคงควบคุมไฟและของเหลวก็เดือดเป็นฟอง มันหดตัวลงและเริ่มแข็งตัว"ขึ้นมา!"ในชั่วพริบตาเฟนด์ยกมือข
“ดูเหมือนจะเป็นการต่อสู้ครั้งใหญ่ที่เต็มไปด้วยผู้คนมากมายเชียวล่ะ!”ดาเนียลล่าขมวดคิ้ว “ไปดูกันเถอะ คงไม่ดีแน่ถ้าสมาชิกในตระกูลของเราอยู่ที่นั่น!”"ตกลง!"เฟนด์พยักหน้าและบินไปยังทิศทางของเสียงพร้อมกับดาเนียลล่าหลังจากที่พวกเขาบินไประยะหนึ่ง ก็ได้เห็นเด็กกว่าสิบคนจากตระกูลคาเบลโลบนสนามหญ้า พวกเขาถูกล้อมรอบด้วยอัจฉริยะมากกว่ายี่สิบคนจากตระกูลลาโกริโอ และอีกหลายสิบคนจากตระกูลฮันท์ ทั้งสองตระกูลจ้องมองเหยื่ออย่างโหดเหี้ยมมีอัจฉริยะเจ็ดหรือแปดคนจากตระกูลคาเบลโลอยู่บนพื้น ไร้ซึ่งลมหายใจ“เ*รเอ๊ย พวกตระกูลลาโกริโอมันหน้าด้านจริง ๆ พวกเขาร่วมมือกับตระกูลฮันต์เพื่อฆ่าคนของเรา!”ดาเนียลล่าโกรธจนตัวสั่น“พี่สาวคนที่สองของคุณก็อยู่ที่นั่นด้วย!”เฟนด์ยิ้มอย่างไร้ความหวังเมื่อเขาเห็นเธอจากระยะไกลเขาไม่แปลกใจกับเหตุการณ์นี้เลยสักนิด ตระกูลลาโกริโอไม่ได้รับการสนับสนุนจากตระกูลวู๊ด แน่นอนว่าพวกเขาย่อมต้องหันไปหาตระกูลฮันท์ในขณะเดียวกัน ตระกูลฮันท์ซึ่งรู้ ๆ กันอยู่ว่าแค้นตระกูลวู๊ดกับตระกูลคาเบลโล เพราะเรื่องระหว่างเฟนด์กับเฮเลน่าเพราะอย่างนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่พวกเขาจะร่วมมือกันกำจัดส
“เ*รเอ๊ย ไอ้พันทางตระกูลวู๊ดมาแล้ว!”อัจริยะจากตระกูลฮันท์สังเกตเห็นเฟนด์ และดาเนียลล่า สีหน้าของเขาหม่นลง “ฉันได้ยินมาว่าหมอนี่นี้ต่อสู้เก่งมาก!”“ไม่ง่ายแล้วสิ!”หนึ่งในสองนักสู้ระดับเทพแท้จริงขั้นกลางจากตระกูลฮันต์ชื่อชอว์น อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเมื่อเห็นเฟนด์แต่เขาก็ฉีกยิ้มเย็นอย่างรวดเร็ว “เขาคงจะน่ารำคาญนิดหน่อย แต่เรามีคนเยอะกว่า” เขากล่าว “อีกอย่างวีนัสและสมาชิกตระกูลคาเบลโลคนอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถึงร่วมมือกันพวกนั้นก็สู้เราไม่ได้หรอก แต่ฝ่ายเราก็อาจต้องสูญเสียไปไม่น้อย!”“มั่นใจซะจริง!”เฟนด์พลิกฝ่ามือและหยิบดาบสีดำออกมา ก่อนส่งพลังฉีเข้าไปในดาบ“แรงสะท้อนจากดาบเล่มนั้นแข็งแกร่งมาก!”มีคนรับรู้อย่างรวดเร็วว่าดาบเล่มนั้นพิเศษ สีหน้าของเขาหม่นลงในขณะที่พูดกับนักสู้สองคนจากตระกูลฮันท์“แ*งเอ๊ย ผมว่าดาบของหมอนั่นเป็นอุปกรณ์วิญญาณระดับสูงสุด หนึ่งในนั้นนายท่านของเราเป็นผู้ครอบครอง แต่นี่เขาก็มีเหมือนกัน!”สีหน้าของชอว์นหม่นลง เขาพลิกฝ่ามือและหยิบดาบวิญญาณระดับล่างออกมาจับจนแน่นเดิมทีเขาคิดว่าดาบวิญญาณที่เขาหามาได้ค่อนข้างดี แต่เมื่อเขาจับมันขึ้นมาแล้วเขาก็ไม่รู้ส
ใบหน้าของชอว์นมืดลง ความปรารถนาที่จะได้รับดาบวิญญาณระดับสูงสุดที่ฉายแววในดวงตาเขานั้นลดน้อยลง ความเคร่งเครียดเข้ามาแทนที่ในขณะนั้น เขารู้สึกได้ว่าเฟนด์น่ากลัวเพียงใด เขารู้สึกได้เลยว่าชายที่อยู่ตรงหน้าเป็นคู่ต่อสู้ที่จัดการได้ไม่ง่าย“หึ.. ฉันจะไม่เสียเวลาเล่นกับพวกนายอีก ฉันไม่ยอมให้สมาชิกตระกูลคาเบลโลตายไปมากกว่านี้แล้ว!”เฟนด์หัวเราะเบา ๆ และถ่ายโอนพลังฉีของเขาลงในดาบอีกครั้ง แรงสั่นสะท้อนที่กระเพื่อมออกจากดาบนั้นรุนแรงยิ่งกว่าเดิม“ดาบเพลิงผลาญ!”เฟนด์ก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวและแกว่งดาบอย่างแรง การโจมตีนี้พุ่งออกไปด้านหน้าแรงเชือดเฉือนส่งเสียงแผ่วเบา ราวกับดาวหางทำท่าจะเผาผลาญทุกสิ่งที่ขวางหน้า ชั่วพริบตาเดียว มันก็ถึงตัวชอว์น“แ*งนี่มันทักษะการต่อสู้อะไรวะ? ขั้นสูงระดับสองรึไง?”ชอว์นตกใจมากเสียจนใบหน้าซีดเป็นไก่ต้ม เมื่อเขาสัมผัสได้ถึงพลังโจมตีของเฟนด์ เขาไม่รู้ว่าจะรับมืออย่างไร"พายุลมกรด!"เขาพุ่งเข้าสู้ด้วยการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาอย่างรวดเร็ว น่าเสียดายที่มันไร้ประโยชน์ เพราะการโจมตีของเฟนด์ได้ทำลายเขาลงในชั่วพริบตา พลังงานที่เหลือล้นไหลเข้าสู่ร่างกายของเขา
ดาเนียลล่าหัวเราะแม้ว่าพี่สาวคนที่สองของเธอจะดูหม่นหมองอย่างเห็นได้ชัด เธอรู้ดีว่าพี่รองและพี่ใหญ่เป็นต้นแบบของคนรุ่นใหม่ในตระกูล แต่ถึงกระนั้นเหล่าอัจฉริยะแห่งตระกูลคาเบลโลต่างก็ชมเชยเฟนด์ไม่รู้จักหยุดหย่อน ทำให้เขากลายเป็นคนต้นแบบคนใหม่ขึ้นมา การที่พี่สาวคนที่สองจะรู้สึกอิจฉามันก็เป็นเรื่องปกติ"เธอพูดถูก ไม่มีทางเทียบได้เลย เขาแข็งแกร่งกว่าฉันมาก”วีนัสเม้มริมฝีปาก เธอคิดก่อนที่จะพูดด้วยความหงุดหงิด “แต่ที่เขาเก่งแบบนี้ได้ก็เพราะเขามีดาบวิญญาณระดับสูงสุดต่างหาก ถ้าฉันมีอย่างเขา ฉันก็คงแข็งแกร่งพอ ๆ กับเขานั่นแหละ!”เธอไม่คิดว่าดาเนียลล่าจะกลอกตาใส่ “ทำไมพี่ไม่พูดไปเลยล่ะว่า พี่ต้องการดาบวิญญาณระดับที่เหนือกว่าเขา? มีตำนานกล่าวไว้ว่ามีสมบัติที่แข็งแกร่งกว่าอุปกรณ์วิญญาณระดับสูงสุดอยู่ และนั่นคืออุปกรณ์วิญญาณชั้นยอด มันลึกลับพอ ๆ กับระดับเทพขั้นสูงสุดเขียวนะ น่าเสียดายที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน ใครได้ครอบครองไว้ แน่นอนว่าจะไม่มีใครหยุดเขาได้อีก!”“อุปกรณ์วิญญาณชั้นยอด?”นี่เป็นครั้งแรกที่เฟนด์ได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้ หัวใจของเขาเต้นรัว มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับระดับเทพสูงสุด และอุปกรณ์
"ใช่ คุณช่วยชีวิตคุณหนูวีนัสไว้ และคุณก็เป็นคนรักของคุณหนูเฮเลน่าอีกต่างหาก เรามันคนกันเองทั้งนั้น ไม่ต้องเกรงใจอะไรหรอก!”ผู้หญิงอีกคนจ้องมองที่เฟนด์ด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง น้ำลายไหลออกมาจากมุมปากโดยไม่รู้ตัวเมื่อได้เห็นอัจฉริยะหญิงทุกคนจากตระกูลคาเบลโลที่สติเตลิดไปมากขึ้นเรื่อย ๆ วีนัสก็ยิ่งรู้สึกพูดไม่ออก เธอจ้องมองพวกเขา “พวกเธอทำอะไรกัน? ทำไมเธอถึงไปรุมล้อมเฟนด์แบบนั้น? อย่าลืมว่าพวกเธอเป็นผู้หญิง รักษากิริยากันหน่อย!”สาว ๆ ค่อย ๆ ถอยห่างเมื่อเห็นว่าวีนัสกำลังโกรธ แต่พวกเธอก็ยังเหลือบมองไปยังชายรูปงามผู้แข็งแกร่งคนเดิมไม่วางตาดาเนียลล่าไม่คิดว่าพวกเขาไม่ค่อยเหมาะกัน แต่หากอัจฉริยะหญิงพวกนี้ชื่นชมเฟนด์ก็หมายความว่าเธอเลือกถูกคนแล้ว แปลว่าเธอน่ะตาถึงหลังจากนั้นไม่นาน ทุกคนก็รวบรวมของที่ริบมาจากคู้ต่อสู้เสร็จสิ้น โดยมีแผ่นป้ายสีดำรวมยี่สิบกว่าแผ่น แถมยังมีแผ่นสีขาวอีกสองแผ่นด้วย“ป้ายเยอะน่าดูเลย รีบรับไปสิ อย่าให้ฉันต้องเสียใจกับการตัดสินใจของตัวเองล่ะ!”วีนัสโบกมือ และแผ่นป้ายเหล่านั้นก็บินไปหาเฟนด์ เธอกลอกตา ใบหน้าที่สวยงามของเธอที่แต่งแต้มด้วยสีหน้าขุ่นเคืองยิ่งดูน่าดึงด
อย่าว่าแต่คนอื่นที่ไหนเลย แม้แต่วีนัสเองก็ยังมองดูเม็ดยาด้วยความชื่นชมเธอจ้องมันสักพักก่อนจะหันไปหาเฟนด์ “หืม ไม่ยุติธรรมเอาซเลย!""ไม่ยุติธรรมงั้นเหรอ?"เฟนด์ขมวดคิ้วเพราะไม่แน่ใจว่าเธอหมายถึงอะไร วีนัสรู้ว่าเขากับดาเนียลล่าคบหากันอยู่ การให้ยากับแฟนสาวของเขาไม่ใช่เรื่องปกติตรงไหน?สมาชิกตระกูลคาเบลโลคนอื่น ๆ แลกเปลี่ยนสายตากัน พวกเขาทำหน้าแปลก ๆ นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นวีนัสใช้น้ำเสียงราบเรียบตอนคุยกับคนอื่น"แน่นอน อืม คุณเป็นคู่รักกับพี่สาวคนโต แถมคุณยังให้ยาเม็ดขั้นสูงระดับหนึ่งกับดาเนียลล่า อย่าลืมสิว่าฉันก็เป็นน้องสาวและพี่สาวของพวกเธอเหมือนกัน!”วีนัสโวยวายอย่างไร้อารมณ์และพูดด้วยน้ำเสียงกระมิดกระเมี้ยนริมฝีปากของดาเนียลล่าแยกออก เธอไม่เคยคิดเลยว่าถึงพี่สาวคนที่สองของเธอจะรู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเฟนด์ดี แต่เธอก็ยังจะเสแสร้งออกมาเพื่อจะแย่งยาแค่เม็ดเดียวเฟนด์ไม่คิดว่าวีนัสจะใช้ข้ออ้างนั้นเพราะอยากได้ยา เขายิ้มอย่างขมขื่น "ไม่มีปัญหา ผมจะให้ยาแบบนั้นอีกเม็ดกับคุณเหมือนกัน” เขากล่าว “แต่ผมจะทำเมื่อมีเวลาว่างตอนกลางคืนเท่านั้น!”เมื่อวีนัสได้ยินดังนั้น ใบห
แน่นอนว่าสำหรับบางคนที่ขาดพรสวรรค์โดยกำเนิด พวกเขาอาจถึงทางตันและไม่อาจก้าวหน้าในการฝึกศิลปะการต่อสู้ได้ “เอาล่ะ ไปกันเถอะ! จำไว้ด้วยว่าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ตระกูลคาเบลโล และตระกูลวู๊ดต่างมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน เราเป็นครอบครัวเดียวกัน เข้าใจไหม? ถ้าเราได้พบกับตระกูลวู๊ดที่ไหนอีก ก็อย่าทะเลาะกันเลย ได้ยินฉันไหม?” หลังจากแจกจ่ายของที่ริบมาจากสงคราม วีนัสก็โบกมือและออกคำสั่งแก่อัจฉริยะตระกูลคาเบลโล รังสีของแสงแดดอันอบอุ่นส่องเข้ามาภายในเฟนด์ เมื่อเขาได้ยินคำพูดของวีนัส เขาหวังว่าความสัมพันธ์ระหว่างสองตระกูลจะดีขึ้นและดีขึ้นเรื่อย ๆ ในการแข่งขันนี้ อย่างน้อยสามพี่น้องตระกูลคาเบลโลก็ไม่เก็บงำความเกลียดชังที่มีต่อเขาอีกต่อไป จะดีกว่านี้หากพวกเขาเอ่ยปากชมและพูดเรื่องดี ๆ ของเขาสักหนึ่งหรือสองเรื่องต่อหน้าอเล็กซานเดอร์บ้าง ไม่นานเฟนด์และคนอื่น ๆ ก็ออกจากที่เกิดเหตุ หลังจากเฟนด์ และคนอื่น ๆ จากไป นายน้อยคนที่สองของตระกูลฮันท์ก็มาถึงยังสถานที่เดียวกันนี้ พร้อมกับเหล่าคนจากตระกูลฮันท์ “แ*ง! นี่มันชอว์นนี่! พระเจ้า ระยำเอ๊ย! ชอว์น ฮันท์และแฮนสัน ฮันท์ พวกเขาต่างก็อยู่ขั้นกลางของระ