แน่นอนว่าสำหรับบางคนที่ขาดพรสวรรค์โดยกำเนิด พวกเขาอาจถึงทางตันและไม่อาจก้าวหน้าในการฝึกศิลปะการต่อสู้ได้ “เอาล่ะ ไปกันเถอะ! จำไว้ด้วยว่าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ตระกูลคาเบลโล และตระกูลวู๊ดต่างมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน เราเป็นครอบครัวเดียวกัน เข้าใจไหม? ถ้าเราได้พบกับตระกูลวู๊ดที่ไหนอีก ก็อย่าทะเลาะกันเลย ได้ยินฉันไหม?” หลังจากแจกจ่ายของที่ริบมาจากสงคราม วีนัสก็โบกมือและออกคำสั่งแก่อัจฉริยะตระกูลคาเบลโล รังสีของแสงแดดอันอบอุ่นส่องเข้ามาภายในเฟนด์ เมื่อเขาได้ยินคำพูดของวีนัส เขาหวังว่าความสัมพันธ์ระหว่างสองตระกูลจะดีขึ้นและดีขึ้นเรื่อย ๆ ในการแข่งขันนี้ อย่างน้อยสามพี่น้องตระกูลคาเบลโลก็ไม่เก็บงำความเกลียดชังที่มีต่อเขาอีกต่อไป จะดีกว่านี้หากพวกเขาเอ่ยปากชมและพูดเรื่องดี ๆ ของเขาสักหนึ่งหรือสองเรื่องต่อหน้าอเล็กซานเดอร์บ้าง ไม่นานเฟนด์และคนอื่น ๆ ก็ออกจากที่เกิดเหตุ หลังจากเฟนด์ และคนอื่น ๆ จากไป นายน้อยคนที่สองของตระกูลฮันท์ก็มาถึงยังสถานที่เดียวกันนี้ พร้อมกับเหล่าคนจากตระกูลฮันท์ “แ*ง! นี่มันชอว์นนี่! พระเจ้า ระยำเอ๊ย! ชอว์น ฮันท์และแฮนสัน ฮันท์ พวกเขาต่างก็อยู่ขั้นกลางของระ
“ตอนนี้ฉันอยู่ในสวรรค์งั้นเหรอ? ถึงได้เห็นผู้ชายหน้าตาดีตั้งอกตั้งใจกลั่นยาขนาดนี้!” เด็กสาวคนหนึ่งกระซิบกับเด็กสาวอีกคนที่อยู่ข้าง ๆ สายตาที่จ้องมองไปที่เฟนด์นั้นเต็มไปด้วยความชื่นชมและเทิดทูน “ใช่ ไม่ใช่จะมีให้เห็นง่าย ๆ ซะหน่อย!” อีกฝ่ายเม้มริมฝีปากเข้าหากัน เกิดรอยยิ้มเขินอายขึ้น พวกเขาพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาและอ่อนโยน เพราะเกรงว่าจะรบกวนเฟนด์เข้า “ทางเข้าถ้ำนี้กว้างและเห็นได้ชัด เราจะถูกพบได้ง่ายนะ!” วีนัสจ้องไปที่ทางเข้าถ้ำและขมวดคิ้วเข้าหากัน เธอกังวล แต่เธอมั่นใจในพลังโดยรวมของตระกูลคาเบลโล ตระกูลคาเบลโลเป็นหนึ่งในแปดตระกูลลึกลับชั้นสูง และพวกเขาก็อยู่ในอันดับรายชื่อที่ค่อนข้างสูง ในบรรดาตระกูลที่เข้าร่วมการแข่งขัน มีไม่กี่ตระกูลที่สามารถสร้างความหวาดกลัวให้กับตระกูลคาเบลโลได้ ตราบใดที่โชคยังอยู่กับพวกเขาในวันนี้ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า ความเร็วในการสร้างเม็ดยาของเฟนด์นั้นเร็วกว่าตอนที่เขาปรุงยาครั้งแรกอย่างเห็นได้ชัด ประสบการณ์ที่ประสบความสำเร็จครั้งล่าสุดช่วยเพิ่มความมั่นใจในการปรุงยาให้เขา ตอนนี้เขารู้สึกสบายใจมากขึ้นกับกระบวนวิธีปรุงย
ผู้ชายที่เป็นผู้นำกลุ่มก็หวาดกลัวไม่แพ้กัน พวกเขากลัวการเผชิญหน้ากับผู้ฝึกยุทธที่อยู่ในระดับเทพแท้จริง ศีรษะบนคอของพวกเขาขึ้นอยู่กับอารมณ์ของนักสู้ที่แข็งแกร่งกว่า หากผู้ที่แข็งแกร่งกว่าไม่พอใจ ผู้อ่อนแอกว่าก็คงต้องบอกลาศีรษะของตัวเองพวกเขาไม่คิดว่าจะได้พบกับอัจฉริยะที่แข็งแกร่งจากตระกูลคาเบลโลในช่วงดึกเช่นนี้วีนัสลอบมองอีกฝ่ายก่อนจะพูดว่า “ออกไปจากที่นี่แล้วไปหาที่อื่นพักซะ!”“ขอบคุณมาก คุณหนูลำดับที่สองของตระกูลคาเบลโล!”คนพวกนี้ที่อยู่ต่อหน้าพวกตระกูลคาเบลโลถอนหายใจอย่างโล่งอกในใจและรีบออกจากที่เกิดเหตุไป“เฮ้อ พวกเขาโชคร้ายจริง ๆ ที่บังเอิญเจอนายน้อยลำดับที่สองของตระกูลฮันท์ แผ่นป้ายที่พวกเขาหามันมาได้อย่างยากลำบากเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาถูกฉกฉวยไปแบบนั้น! ในชั่วพริบตา!”ดาเนียลล่าออกความเห็นตอนที่เธอเห็นอีกฝ่ายออกจากถ้ำ“พวกเขาถือว่าโชคดีที่นายน้อยลำดับที่สองของตระกูลฮันท์ไม่เอาชีวิตพวกเขา ตระกูลของพวกเขาไม่ได้ทำให้ตระกูลอื่นขุ่นเคือง พวกเขาเป็นคนดี แต่ความเป็นจริงนั้นช่างโหดร้าย หากนายน้อยลำดับที่สองของตระกูลฮันท์อารมณ์ไม่ดี ฉันเกรงว่าพวกเขาคงไม่ได้มีชีวิตอยู่ต่ออีกแล้ว!”
“คุณหมายความว่ายังไง ไม่มีความหมายอะไรเลยงั้นเหรอ? คุณช่วยขยายความหน่อยได้ไหม?” วีนัสจงใจถามออกไปเพื่อถ่วงเวลาเขาไว้และสร้างเวลาให้เฟนด์มากขึ้น “เฮ้ มันไม่ง่ายอย่างนั้นเหรอ? พวกนักสู้จากตระกูลชนชั้นสองและตระกูลชนชั้นสามยอมมอบแผ่นป้ายให้ฉันได้เพียงแค่พวกเขาเจอฉัน ฉันไม่ต้องต่อสู้เพื่อมัน แผ่นป้ายก็มาอยู่ในมือของฉันแล้ว มีไม่กี่คนหรอกที่สามารถเอาชนะฉันได้ แม้แต่พี่สาวของคุณก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉัน! ยกเว้นพี่ชายของฉัน ฉันไม่คิดว่าจะมีคนอื่นบนโลกนี้ที่จะเอาชนะฉันได้ ฉันอธิบายชัดเจนเพียงพอหรือยัง?” ไทเรลหัวเราะเยาะและพูดต่อว่า “การแข่งขันครั้งนี้ฉันติดหนึ่งในสามอันดับแรกอย่างแน่นอน และจากผลลัพธ์โดยรวม ตระกูลฮันท์ต้องได้อันดับหนึ่งแน่นอน!” “คุณไม่มั่นในเกินไปหน่อยเหรอ? ฉันไม่คิดว่าพี่สาวของฉันจะอ่อนแอกว่าคุณ!” วีนัสยิ้มเยาะ ดวงตาของเธอฉายแววดูถูกเหยียดหยามออกมา“เฮ้ คุณไม่ได้รับแจ้งเหรอ? ก่อนหน้านี้พี่สาวของคุณเกือบถูกฉันจับแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะไอ้บ้าเฟนด์นั่นที่ฉวยโอกาสตอนที่ฉันเผลอ แล้วหนีไปกับพี่สาวของคุณ ป่านนี้เธอคงกลายเป็นผู้หญิงของฉันไปแล้ว! ฮึ่ม!”นายน้อยลำดับที่สองของตระกูล
ฟุ่บ!สองสาวคาเบลโลนั้นรวดเร็วมาก คนหนึ่งพุ่งเข้าหาไทเรลทางซ้าย ส่วนอีกคนพุ่งไปทางขวา พวกเธอไปถึงหน้าไทเรลภายในไม่กี่วินาทีและชกหมัดใส่เขาด้วยความโกรธ“ฮึ่มมม พยายามถ่วงเวลาฉันไว้เหรอ?”ไทเรลขมวดคิ้วแล้วหัวเราะอย่างร้ายกาจ “เอาจริงนะ ฉันไม่รู้ว่าพวกเธอจะรั้งฉันไว้ทำไม ฮ่าๆ! ไม่ช้าก็เร็วเธอก็ต้องกลายเป็นรางวัลในการต่อสู้ของฉัน!”ในชั่วพริบตาเดียว เขาก็ใช้ประโยชน์จากช่องว่างที่วีนัสเร็วกว่าดาเนียลล่านิดหน่อย แล้วซัดหมัดสองครั้งใส่ฝ่ายหญิงทันทีปัง ปัง!เสียงดังก้องสองครั้งทะลุอากาศ และในวินาทีถัดมา วีนัสก็กระเด็นไปไกลหลายเมตร จากนั้นเธอก็พยายามจนทรงตัวได้และยืนลงบนพื้นแต่ดาเนียลล่าที่มีระดับพลังยุทธสู้อยู่เพียงขั้นต้นของระดับเทพแท้จริงเท่านั้น ถูกอัดกระเด็นไปหลายฟุต และหลังจากนั้นก็ล้มลงบนพื้น เลือดทะลักออกมาเต็มปากของเธอ ใบหน้าของเธอซีดเผือดในทันที“ดาเนียลล่า!”วีนัสมองไปทางดาเนียลล่า คิ้วของเธอขมวดเข้าหากัน “คุณ… คุณอยู่ขั้นสุดท้ายของระดับเทพแท้จริงแล้วงั้นเหรอ?” เธอจ้องมองไทเรลด้วยสีหน้าเครียดและเคร่งขรึม“ฮ่าฮ่า! ฉันเป็นพวกชอบผัดวันประกันพรุ่งและไม่ชอบการฝึกฝนรวมถึงการฝึก
“เหอะ? แค่นี้เองเหรอ?" เมื่อไทเรลมองดูเทคนิคการต่อสู้นี้ ใบหน้าเขาก็ยิ้มอย่างเย็นชา “อะไรทำให้คุณคิดว่า แค่เทคนิคขั้นพื้นฐานระดับหนึ่งจะทำให้คุณชนะได้? คุณกำลังใช้เทคนิคที่คนในตระกูลชนชั้นสองใช้!”ไทเรลจำเทคนิคการต่อสู้นี้ได้ตั้งแต่แรกเห็น มันเป็นเทคนิคขั้นพื้นฐาน จากนั้นเขาก็กำหมัดแน่น สร้างพลังฉีรอบหมัดและระเบิดพลังออกมาด้วยหมัดเดียว ฟุ่บ! ต่อหน้าเขา เกิดการก่อตัวของหมัดพลังฉีที่มีขนาดใหญ่กว่าขึ้น และการโจมตีก็ดูแข็งแกร่งยิ่งกว่าการโจมตีที่วีนัสเพิ่งระเบิดพลังออกไปเสียอีก ปัง!เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว การโจมตีของวีนัสถูกอีกฝ่ายตอบโต้ได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าอีกฝ่ายจะโจมตีด้วยพลังฉีที่ทรงพลังกว่าก็ตาม คลื่นพลังฉีมุ่งตรงไปยังวีนัสและอัดเธอกระเด็นออกไปสองสามเมตร เธอลิ้มรสความขมขื่นในลำคอ และวินาทีต่อมา เลือดก็ทะลักออกมาเต็มปากของเธอ“ฉันเริ่มเบื่อแล้ว มาจบเรื่องกันเถอะ!”ไทเรลยิ้มเย็น ๆ อีกครั้งและซัดหมัดออกมาอีกหมัดคราวนี้ การโจมตีด้วยหมัดพลังฉีที่ขนาดใหญ่กว่าก็พุ่งออกมาจากฝ่ามือของเขา อากาศรอบ ๆ การโจมตีสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ใบไม้บนต้นไม้ที่อยู่ใกล้เคียงร่วงหล่นลงเนื่องจา
นี่ยังไม่รวมถึงเรื่องที่ไทเรลเป็นอัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะ เทคนิคที่เขาใช้คงเป็นเทคนิคระดับสูงของตระกูลฮันท์ วีนัสไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเลย ฟุ่บ! แต่ในตอนนั้นเอง เงามืดก็พุ่งออกมาจากถ้ำภายในเสี้ยววินาที ออร่าของดาบถูกส่งออกไปทางด้านหน้า ฟุ่บ! ออร่าของดาบปรากฏขึ้นและตรงไปที่ด้านบนของหมัดพลังฉีโดยตรง การโจมตีด้วยพลังฉีทั้งสองปะทะกันอย่างรุนแรง และสุดท้ายพวกมันก็ต้านกันเองและสลายไป“เฟนด์! คุณกลั่นโอสถเสร็จแล้วเหรอ? เยี่ยมไปเลย!” เมื่อเห็นว่าเป็นเฟนด์ออกมาปกป้องวีนัสได้ทัน ใจของดาเนียลล่าก็ฟูขึ้น ขณะเดียวกันก้อนหินในใจของเธอก็เหมือนถูกยกขึ้น เธอเคยเห็นความสามารถในการต่อสู้ของเฟนด์ด้วยตาตัวเอง เขาแข็งแกร่งกว่าวีนัสพี่สาวคนที่สองของเธอมาก “ใช่ โอสถเสร็จแล้ว ขอบคุณที่ช่วยผมถ่วงเวลาไว้ ผมกำลังจะทำสำเร็จ แต่ถ้าผมถูกขัดจังหวะ ทุกอย่างคงพังทลายหมด และผมจะต้องเริ่มกระบวนการใหม่ทั้งหมด!” เฟนด์พยักหน้าแล้วมองวีนัสที่อยู่ด้านหลังของเขา "ปล่อยให้ผมจัดการเอง!""คุณคนเดียว? คุณแน่ใจนะว่าจะเอาชนะเขาได้? ทำไมไม่ให้ฉันรวมพลังกับคุณ ด้วยวิธีนี้บางทีเราอาจมีโอกาสชนะได้!”วีนัสกังวลนิด ๆ เฟนด์
“ออร่ารุนแรงอะไรขนาดนี้! นายน้อยเฟนด์จะสู้ได้ไหม?” คนหนุ่มสาวหลายคนจากตระกูลคาเบลโล เริ่มเป็นห่วงเฟนด์ หลังจากที่พวกเขารู้สึกถึงความแข็งแกร่งของนายน้อยลำดับที่สองของตระกูลฮันท์“ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง เราเคยเห็นพลังการต่อสู้ของนายน้อยเฟนด์มาก่อนแล้ว!” ผู้หญิงหลายคนที่ชื่นชอบเฟนด์พูดอย่างมั่นใจ “ความแข็งแกร่งของพวกเขาคงพอเทียบเคียงกันได้ แม้ว่าเขาจะเอาชนะไม่ได้ ถึงตอนนั้น มันคงมีเวลาให้เราหนี ยังไงก็ตาม มันคงไม่มีปัญหาหรอก หากนายน้อยเฟนด์ลงมือเอง!”“หมัดพยัคฆ์คำราม!” เสียงตะโกนของนายน้อยลำดับที่สองของตระกูลฮันท์ดังขึ้น เขากำหมัดแน่นขณะที่ต่อยคนตรงหน้า“โฮก!” ได่ยินเสียงคำรามของพยัคฆ์ที่น่ากลัวหลังจากเขาต่อยหมัดออกมา พยัคฆ์ที่สะสมโดยฉีของเขาปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าพยัคฆ์เสมือนจริงตัวนี้ ดูเหมือนจะสูงขึ้นสองสามเมตรในขณะที่มันทำตัวราวกับราชาแห่งป่า"โอ้พระเจ้า!" ดาเนียลล่ามีสีหน้าบิดเบี้ยวด้วยความสยดสยองแล้วตะโกนบอกคนที่เหลือว่า “ทุกคน ถอยไป!”สมาชิกของตระกูลฮันท์ก็ตกใจกับสิ่งนี้เช่นกัน พวกเขาถอยออกไปไกลพอสมควรเพราะกลัวว่าจะได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้“ไอ้หนุ่ม แกรู้ไหมว่าตอนนี้ฉันแข็งแกร่