แชร์

บทที่ 1362

ผู้เขียน: โมเนโต้
“คุณหมายความว่ายังไง ไม่มีความหมายอะไรเลยงั้นเหรอ? คุณช่วยขยายความหน่อยได้ไหม?”

วีนัสจงใจถามออกไปเพื่อถ่วงเวลาเขาไว้และสร้างเวลาให้เฟนด์มากขึ้น

“เฮ้ มันไม่ง่ายอย่างนั้นเหรอ? พวกนักสู้จากตระกูลชนชั้นสองและตระกูลชนชั้นสามยอมมอบแผ่นป้ายให้ฉันได้เพียงแค่พวกเขาเจอฉัน ฉันไม่ต้องต่อสู้เพื่อมัน แผ่นป้ายก็มาอยู่ในมือของฉันแล้ว มีไม่กี่คนหรอกที่สามารถเอาชนะฉันได้ แม้แต่พี่สาวของคุณก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉัน! ยกเว้นพี่ชายของฉัน ฉันไม่คิดว่าจะมีคนอื่นบนโลกนี้ที่จะเอาชนะฉันได้ ฉันอธิบายชัดเจนเพียงพอหรือยัง?”

ไทเรลหัวเราะเยาะและพูดต่อว่า “การแข่งขันครั้งนี้ฉันติดหนึ่งในสามอันดับแรกอย่างแน่นอน และจากผลลัพธ์โดยรวม ตระกูลฮันท์ต้องได้อันดับหนึ่งแน่นอน!”

“คุณไม่มั่นในเกินไปหน่อยเหรอ? ฉันไม่คิดว่าพี่สาวของฉันจะอ่อนแอกว่าคุณ!”

วีนัสยิ้มเยาะ ดวงตาของเธอฉายแววดูถูกเหยียดหยามออกมา

“เฮ้ คุณไม่ได้รับแจ้งเหรอ? ก่อนหน้านี้พี่สาวของคุณเกือบถูกฉันจับแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะไอ้บ้าเฟนด์นั่นที่ฉวยโอกาสตอนที่ฉันเผลอ แล้วหนีไปกับพี่สาวของคุณ ป่านนี้เธอคงกลายเป็นผู้หญิงของฉันไปแล้ว! ฮึ่ม!”

นายน้อยลำดับที่สองของตระกูล
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1363

    ฟุ่บ!สองสาวคาเบลโลนั้นรวดเร็วมาก คนหนึ่งพุ่งเข้าหาไทเรลทางซ้าย ส่วนอีกคนพุ่งไปทางขวา พวกเธอไปถึงหน้าไทเรลภายในไม่กี่วินาทีและชกหมัดใส่เขาด้วยความโกรธ“ฮึ่มมม พยายามถ่วงเวลาฉันไว้เหรอ?”ไทเรลขมวดคิ้วแล้วหัวเราะอย่างร้ายกาจ “เอาจริงนะ ฉันไม่รู้ว่าพวกเธอจะรั้งฉันไว้ทำไม ฮ่าๆ! ไม่ช้าก็เร็วเธอก็ต้องกลายเป็นรางวัลในการต่อสู้ของฉัน!”ในชั่วพริบตาเดียว เขาก็ใช้ประโยชน์จากช่องว่างที่วีนัสเร็วกว่าดาเนียลล่านิดหน่อย แล้วซัดหมัดสองครั้งใส่ฝ่ายหญิงทันทีปัง ปัง!เสียงดังก้องสองครั้งทะลุอากาศ และในวินาทีถัดมา วีนัสก็กระเด็นไปไกลหลายเมตร จากนั้นเธอก็พยายามจนทรงตัวได้และยืนลงบนพื้นแต่ดาเนียลล่าที่มีระดับพลังยุทธสู้อยู่เพียงขั้นต้นของระดับเทพแท้จริงเท่านั้น ถูกอัดกระเด็นไปหลายฟุต และหลังจากนั้นก็ล้มลงบนพื้น เลือดทะลักออกมาเต็มปากของเธอ ใบหน้าของเธอซีดเผือดในทันที“ดาเนียลล่า!”วีนัสมองไปทางดาเนียลล่า คิ้วของเธอขมวดเข้าหากัน “คุณ… คุณอยู่ขั้นสุดท้ายของระดับเทพแท้จริงแล้วงั้นเหรอ?” เธอจ้องมองไทเรลด้วยสีหน้าเครียดและเคร่งขรึม“ฮ่าฮ่า! ฉันเป็นพวกชอบผัดวันประกันพรุ่งและไม่ชอบการฝึกฝนรวมถึงการฝึก

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1364

    “เหอะ? แค่นี้เองเหรอ?" เมื่อไทเรลมองดูเทคนิคการต่อสู้นี้ ใบหน้าเขาก็ยิ้มอย่างเย็นชา “อะไรทำให้คุณคิดว่า แค่เทคนิคขั้นพื้นฐานระดับหนึ่งจะทำให้คุณชนะได้? คุณกำลังใช้เทคนิคที่คนในตระกูลชนชั้นสองใช้!”ไทเรลจำเทคนิคการต่อสู้นี้ได้ตั้งแต่แรกเห็น มันเป็นเทคนิคขั้นพื้นฐาน จากนั้นเขาก็กำหมัดแน่น สร้างพลังฉีรอบหมัดและระเบิดพลังออกมาด้วยหมัดเดียว ฟุ่บ! ต่อหน้าเขา เกิดการก่อตัวของหมัดพลังฉีที่มีขนาดใหญ่กว่าขึ้น และการโจมตีก็ดูแข็งแกร่งยิ่งกว่าการโจมตีที่วีนัสเพิ่งระเบิดพลังออกไปเสียอีก ปัง!เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว การโจมตีของวีนัสถูกอีกฝ่ายตอบโต้ได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าอีกฝ่ายจะโจมตีด้วยพลังฉีที่ทรงพลังกว่าก็ตาม คลื่นพลังฉีมุ่งตรงไปยังวีนัสและอัดเธอกระเด็นออกไปสองสามเมตร เธอลิ้มรสความขมขื่นในลำคอ และวินาทีต่อมา เลือดก็ทะลักออกมาเต็มปากของเธอ“ฉันเริ่มเบื่อแล้ว มาจบเรื่องกันเถอะ!”ไทเรลยิ้มเย็น ๆ อีกครั้งและซัดหมัดออกมาอีกหมัดคราวนี้ การโจมตีด้วยหมัดพลังฉีที่ขนาดใหญ่กว่าก็พุ่งออกมาจากฝ่ามือของเขา อากาศรอบ ๆ การโจมตีสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ใบไม้บนต้นไม้ที่อยู่ใกล้เคียงร่วงหล่นลงเนื่องจา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1365

    นี่ยังไม่รวมถึงเรื่องที่ไทเรลเป็นอัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะ เทคนิคที่เขาใช้คงเป็นเทคนิคระดับสูงของตระกูลฮันท์ วีนัสไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเลย ฟุ่บ! แต่ในตอนนั้นเอง เงามืดก็พุ่งออกมาจากถ้ำภายในเสี้ยววินาที ออร่าของดาบถูกส่งออกไปทางด้านหน้า ฟุ่บ! ออร่าของดาบปรากฏขึ้นและตรงไปที่ด้านบนของหมัดพลังฉีโดยตรง การโจมตีด้วยพลังฉีทั้งสองปะทะกันอย่างรุนแรง และสุดท้ายพวกมันก็ต้านกันเองและสลายไป“เฟนด์! คุณกลั่นโอสถเสร็จแล้วเหรอ? เยี่ยมไปเลย!” เมื่อเห็นว่าเป็นเฟนด์ออกมาปกป้องวีนัสได้ทัน ใจของดาเนียลล่าก็ฟูขึ้น ขณะเดียวกันก้อนหินในใจของเธอก็เหมือนถูกยกขึ้น เธอเคยเห็นความสามารถในการต่อสู้ของเฟนด์ด้วยตาตัวเอง เขาแข็งแกร่งกว่าวีนัสพี่สาวคนที่สองของเธอมาก “ใช่ โอสถเสร็จแล้ว ขอบคุณที่ช่วยผมถ่วงเวลาไว้ ผมกำลังจะทำสำเร็จ แต่ถ้าผมถูกขัดจังหวะ ทุกอย่างคงพังทลายหมด และผมจะต้องเริ่มกระบวนการใหม่ทั้งหมด!” เฟนด์พยักหน้าแล้วมองวีนัสที่อยู่ด้านหลังของเขา "ปล่อยให้ผมจัดการเอง!""คุณคนเดียว? คุณแน่ใจนะว่าจะเอาชนะเขาได้? ทำไมไม่ให้ฉันรวมพลังกับคุณ ด้วยวิธีนี้บางทีเราอาจมีโอกาสชนะได้!”วีนัสกังวลนิด ๆ เฟนด์

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1366

    “ออร่ารุนแรงอะไรขนาดนี้! นายน้อยเฟนด์จะสู้ได้ไหม?” คนหนุ่มสาวหลายคนจากตระกูลคาเบลโล เริ่มเป็นห่วงเฟนด์ หลังจากที่พวกเขารู้สึกถึงความแข็งแกร่งของนายน้อยลำดับที่สองของตระกูลฮันท์“ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง เราเคยเห็นพลังการต่อสู้ของนายน้อยเฟนด์มาก่อนแล้ว!” ผู้หญิงหลายคนที่ชื่นชอบเฟนด์พูดอย่างมั่นใจ “ความแข็งแกร่งของพวกเขาคงพอเทียบเคียงกันได้ แม้ว่าเขาจะเอาชนะไม่ได้ ถึงตอนนั้น มันคงมีเวลาให้เราหนี ยังไงก็ตาม มันคงไม่มีปัญหาหรอก หากนายน้อยเฟนด์ลงมือเอง!”“หมัดพยัคฆ์คำราม!” เสียงตะโกนของนายน้อยลำดับที่สองของตระกูลฮันท์ดังขึ้น เขากำหมัดแน่นขณะที่ต่อยคนตรงหน้า“โฮก!” ได่ยินเสียงคำรามของพยัคฆ์ที่น่ากลัวหลังจากเขาต่อยหมัดออกมา พยัคฆ์ที่สะสมโดยฉีของเขาปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าพยัคฆ์เสมือนจริงตัวนี้ ดูเหมือนจะสูงขึ้นสองสามเมตรในขณะที่มันทำตัวราวกับราชาแห่งป่า"โอ้พระเจ้า!" ดาเนียลล่ามีสีหน้าบิดเบี้ยวด้วยความสยดสยองแล้วตะโกนบอกคนที่เหลือว่า “ทุกคน ถอยไป!”สมาชิกของตระกูลฮันท์ก็ตกใจกับสิ่งนี้เช่นกัน พวกเขาถอยออกไปไกลพอสมควรเพราะกลัวว่าจะได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้“ไอ้หนุ่ม แกรู้ไหมว่าตอนนี้ฉันแข็งแกร่

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1367

    อย่างไรก็ตาม พลังการต่อสู้ของเฟนด์นั้นแข็งแกร่งกว่าเฮเลน่ามาก"จัดการซะ!" เขาใช้พลังจิตควบคุมมังกรให้คำรามอย่างต่อเนื่องด้วยความแข็งแกร่ง มังกรพุ่งเข้าใส่คู่ต่อสู้ด้วยกรงเล็บขนาดใหญ่เปรี้ยง!พยัคฆ์ค่อย ๆ สลายไป เพราะไม่สามารถต้านทานแรงของมันได้นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น แม้ว่ามังกรของเฟนด์จะเริ่มจางลงและดูเหมือนจะสลายได้ทุกเมื่อ แต่การโจมตีของมันก็รุนแรงกว่าของพยัคฆ์มาก“อัก!”ในที่สุด นายน้อยลำดับที่สองของตระกูลฮันท์ก็ทนไม่ไหว เขากระอักเลือดออกมาเต็มปาก ใบหน้าของเขาซีดขณะที่เซถอยหลังสองสามก้าว“เป็นไปได้ยังไง? เขาได้รับบาดเจ็บ?!” อัจฉริยะในตระกูลฮันต์ที่มั่นใจในตัวนายน้อยฮันต์มากต่างพากันตกตะลึงเมื่อเหตุการณ์เปลี่ยนไปต่อหน้าต่อตาพวกเขา และสงสัยว่าพวกเขากำลังเห็นภาพหลอนหรือเปล่าการโจมตีของเฟนด์ทำให้นายน้อยลำดับที่สองของตระกูลฮันท์ได้รับบาดเจ็บจริง ๆ'เยี่ยมไปเลย!' วีนัสดีใจจนแทบจะกระโดดด้วยความตื่นเต้น เธอไม่อาจต้านทานการโจมตีของนายน้อยลำดับที่สองของตระกูลฮันท์ได้แต่เฟนด์ไม่เพียงแต่ต้านทานการโจมตีนี้เท่านั้น แต่เขายังทำลายการโจมตีและทำให้คู่ต่อสู้ได้รับบาดเจ็บอีกด้วยกรร!ม

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1368

    “มันเป็นอาวุธวิญญาณระดับสุดยอด!” ไม่นานไทเรลก็รู้สึกถึงความต่างของดาบสีดำที่อยู่ในมือเฟนด์ ตอนแรกเขาโอ้อวดและมั่นใจในตัวเอง แต่ตอนนี้เขาระมัดระวังมากขึ้นเมื่อเริ่มรู้ตัว ปฏิกิริยาของเขาสะท้อนออกมาให้เห็นบนใบหน้า"อะไรนะ?! มันคืออาวุธวิญญาณระดับสุดยอดเหรอ?”“ไม่แปลกใจเลยที่ชายคนนี้มีความมั่นใจมาก เพราะเขาเป็นเจ้าของสิ่งล้ำค่าเช่นนี้นี่เอง!”“ฉันสงสัยว่าครั้งนี้นายน้อยลำดับที่สองยังจะสามารถเอาชนะชายคนนั้นได้ไหม!” สมาชิกหลายคนในตระกูลฮันท์รู้สึกกังวลนิด ๆ หลังจากที่พวกเขารู้แล้วว่าดาบในมือของเฟนด์เป็นอาวุธวิญญาณระดับสุดยอดจริง ๆ"ไม่ต้องกังวล นายน้อยลำดับที่สองของเราได้ฝึกฝนทักษะพลังยุทธร้อยพฤษาสลัดใบของเขาถึงจุดสูงสุดแล้ว พลังการต่อสู้ของเขาไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะสู้ได้ สำหรับเฟนด์แม้ว่าเขาจะได้รับการสนับสนุนจากอาวุธวิญญาณระดับสุดยอด แต่เขาก็ยังอยู่ในขั้นกลางของระดับเทพแท้จริงเท่านั้น เรายังมีความหวังอีกมาก!” ชายคนหนึ่งจากตระกูลฮันท์พูดอย่างมั่นใจหลังจากที่เขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยเหตุนี้ พวกเขาหลายคนจึงเริ่มมั่นใจมากขึ้นเกี่ยวกับสถานการณ์ หลังจากที่ได้ยินการวิเคราะห์นั้น“ร้อย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1369

    “เราต้องหนีแล้ว! เร็วเข้า!" สมาชิกคนอื่น ๆ ของตระกูลฮันท์เริ่มเหาะหนีและพยายามหลบหนีไปเมื่อพวกเขาเห็นว่านายน้อยลำดับที่สองของตระกูลฮันท์ไม่อาจยืนหยัดต่อสู้กับการโจมตีได้อีกต่อไปปัง!หลังจากเกิดการระเบิดขึ้น ไทเรลทนไม่ได้อีกต่อไป ใบไม้ทั้งหมดของเขาถูกทำลาย เขากระอักเลือดออกมาเต็มปาก ก่อนหน้านี้เขาได้รับบาดเจ็บหนัก และใบหน้าของเขาซีดมากหลังจากได้รับบาดเจ็บสาหัสอีกครั้งพลังประมาณครึ่งหนึ่งจากการโจมตีของเฟนด์พุ่งเข้าใส่เขา"ไม่!" ไทเรลกรีดร้อง เมื่อรู้ตัวว่าเขาไม่มีเวลาหลบหนีอีกต่อไป เขากัดฟันกรอดและรีบสร้างชั้นพลังฉีเล็ก ๆ ป้องกันรอบตัวเขาไว้ พลังการโจมตีที่เหลืออยู่ของเฟนด์พุ่งเข้าใส่เกาะป้องกันฉีทันทีที่มันก่อตัวขึ้นเปรี้ยง!นายน้อยลำดับที่สองของตระกูลฮันท์หวังว่าเกาะป้องกันฉีจะต้านทานการโจมตีได้อย่างน้อยครึ่งหนึ่ง แต่ไม่คิดเลยว่าเกาะป้องกันจะระเบิดออกเป็นเสี่ยง ๆ และแตกสลายภายในเวลาไม่ถึงวินาทีหลังจากโดนการโจมตีนั้นปัง!การโจมตีที่น่าสะพรึงกลัวระเบิดใส่ร่างนายน้อยลำดับที่สองของตระกูลฮันท์ มันทำให้เขากระเด็นออกไปไกลหลายเมตรปัง! ปัง! ปัง!ต้นไม้หลายต้นหักและล้มลงกับพื้น

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1370

    “ตอนนี้ การสื่อจิตระหว่างฉันกับไทเรล ลูกชายของฉัน…ถูกตัดขาด! ลูกชายของฉัน!" เควนตินดูเหมือนจะแก่ลงสองปีในเวลาเพียงชั่วพริบตาขณะที่เขาจมดิ่งลงสู่ความสิ้นหวัง“ฉันอยากรู้ว่าอัจฉริยะที่ฆ่านายน้อยลำดับที่สองของตระกูลฮันท์มาจากตระกูลไหน!” เสียงพึมพำเงียบ ๆ เกิดขึ้นในหมู่พวกเขาบางคน“ถูกต้อง คนผู้นี้ช่างกล้าหาญจริง ๆ ฉันคิดว่ามีเพียงอัจฉริยะระดับแนวหน้าจากแปดตระกูลลึกลับเท่านั้นที่สามารถทำได้!” หัวหน้าจากตระกูลชนชั้นสองพูดหลังจากคิดอย่างรอบคอบแล้ว “ถือว่าน่าทึ่งมากสำหรับพวกอัจฉริยะจากตระกูลชนชั้นสูงอย่างพวกเราที่เพิ่งอยู่ขั้นต้นหรือขั้นกลางของระดับเทพแท้จริง พวกเขาไม่มีพลังพอที่จะฆ่านายน้อยลำดับที่สองของตระกูลฮันท์ได้หรอก!"“ลูก… ลูกชายของฉันทะลวงไปถึงขั้นสุดท้ายของระดับเทพแท้จริงแล้วก่อนที่เขาจะเข้าไปในป่า และเขายังมีอาวุธวิญญาณขั้นกลางอยู่กับตัวด้วย! ใครจะแข็งแกร่งพอที่จะฆ่าเขา? ฉันอยากรู้นัก!” เควนตินโกรธจัดจนกำหมัดแน่น ไม่อาจรับเรื่องการตายของลูกชายได้แม้ว่าชีวิตและความตายจะเป็นความรับผิดชอบส่วนบุคคลในระหว่างการแข่งขันครั้งก่อน ๆ แต่การแข่งขันก็ดำเนินการบนเวทีแบบตัวต่อตัว นอกจากนั้น

บทล่าสุด

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status