“มันเป็นอาวุธวิญญาณระดับสุดยอด!” ไม่นานไทเรลก็รู้สึกถึงความต่างของดาบสีดำที่อยู่ในมือเฟนด์ ตอนแรกเขาโอ้อวดและมั่นใจในตัวเอง แต่ตอนนี้เขาระมัดระวังมากขึ้นเมื่อเริ่มรู้ตัว ปฏิกิริยาของเขาสะท้อนออกมาให้เห็นบนใบหน้า"อะไรนะ?! มันคืออาวุธวิญญาณระดับสุดยอดเหรอ?”“ไม่แปลกใจเลยที่ชายคนนี้มีความมั่นใจมาก เพราะเขาเป็นเจ้าของสิ่งล้ำค่าเช่นนี้นี่เอง!”“ฉันสงสัยว่าครั้งนี้นายน้อยลำดับที่สองยังจะสามารถเอาชนะชายคนนั้นได้ไหม!” สมาชิกหลายคนในตระกูลฮันท์รู้สึกกังวลนิด ๆ หลังจากที่พวกเขารู้แล้วว่าดาบในมือของเฟนด์เป็นอาวุธวิญญาณระดับสุดยอดจริง ๆ"ไม่ต้องกังวล นายน้อยลำดับที่สองของเราได้ฝึกฝนทักษะพลังยุทธร้อยพฤษาสลัดใบของเขาถึงจุดสูงสุดแล้ว พลังการต่อสู้ของเขาไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะสู้ได้ สำหรับเฟนด์แม้ว่าเขาจะได้รับการสนับสนุนจากอาวุธวิญญาณระดับสุดยอด แต่เขาก็ยังอยู่ในขั้นกลางของระดับเทพแท้จริงเท่านั้น เรายังมีความหวังอีกมาก!” ชายคนหนึ่งจากตระกูลฮันท์พูดอย่างมั่นใจหลังจากที่เขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยเหตุนี้ พวกเขาหลายคนจึงเริ่มมั่นใจมากขึ้นเกี่ยวกับสถานการณ์ หลังจากที่ได้ยินการวิเคราะห์นั้น“ร้อย
“เราต้องหนีแล้ว! เร็วเข้า!" สมาชิกคนอื่น ๆ ของตระกูลฮันท์เริ่มเหาะหนีและพยายามหลบหนีไปเมื่อพวกเขาเห็นว่านายน้อยลำดับที่สองของตระกูลฮันท์ไม่อาจยืนหยัดต่อสู้กับการโจมตีได้อีกต่อไปปัง!หลังจากเกิดการระเบิดขึ้น ไทเรลทนไม่ได้อีกต่อไป ใบไม้ทั้งหมดของเขาถูกทำลาย เขากระอักเลือดออกมาเต็มปาก ก่อนหน้านี้เขาได้รับบาดเจ็บหนัก และใบหน้าของเขาซีดมากหลังจากได้รับบาดเจ็บสาหัสอีกครั้งพลังประมาณครึ่งหนึ่งจากการโจมตีของเฟนด์พุ่งเข้าใส่เขา"ไม่!" ไทเรลกรีดร้อง เมื่อรู้ตัวว่าเขาไม่มีเวลาหลบหนีอีกต่อไป เขากัดฟันกรอดและรีบสร้างชั้นพลังฉีเล็ก ๆ ป้องกันรอบตัวเขาไว้ พลังการโจมตีที่เหลืออยู่ของเฟนด์พุ่งเข้าใส่เกาะป้องกันฉีทันทีที่มันก่อตัวขึ้นเปรี้ยง!นายน้อยลำดับที่สองของตระกูลฮันท์หวังว่าเกาะป้องกันฉีจะต้านทานการโจมตีได้อย่างน้อยครึ่งหนึ่ง แต่ไม่คิดเลยว่าเกาะป้องกันจะระเบิดออกเป็นเสี่ยง ๆ และแตกสลายภายในเวลาไม่ถึงวินาทีหลังจากโดนการโจมตีนั้นปัง!การโจมตีที่น่าสะพรึงกลัวระเบิดใส่ร่างนายน้อยลำดับที่สองของตระกูลฮันท์ มันทำให้เขากระเด็นออกไปไกลหลายเมตรปัง! ปัง! ปัง!ต้นไม้หลายต้นหักและล้มลงกับพื้น
“ตอนนี้ การสื่อจิตระหว่างฉันกับไทเรล ลูกชายของฉัน…ถูกตัดขาด! ลูกชายของฉัน!" เควนตินดูเหมือนจะแก่ลงสองปีในเวลาเพียงชั่วพริบตาขณะที่เขาจมดิ่งลงสู่ความสิ้นหวัง“ฉันอยากรู้ว่าอัจฉริยะที่ฆ่านายน้อยลำดับที่สองของตระกูลฮันท์มาจากตระกูลไหน!” เสียงพึมพำเงียบ ๆ เกิดขึ้นในหมู่พวกเขาบางคน“ถูกต้อง คนผู้นี้ช่างกล้าหาญจริง ๆ ฉันคิดว่ามีเพียงอัจฉริยะระดับแนวหน้าจากแปดตระกูลลึกลับเท่านั้นที่สามารถทำได้!” หัวหน้าจากตระกูลชนชั้นสองพูดหลังจากคิดอย่างรอบคอบแล้ว “ถือว่าน่าทึ่งมากสำหรับพวกอัจฉริยะจากตระกูลชนชั้นสูงอย่างพวกเราที่เพิ่งอยู่ขั้นต้นหรือขั้นกลางของระดับเทพแท้จริง พวกเขาไม่มีพลังพอที่จะฆ่านายน้อยลำดับที่สองของตระกูลฮันท์ได้หรอก!"“ลูก… ลูกชายของฉันทะลวงไปถึงขั้นสุดท้ายของระดับเทพแท้จริงแล้วก่อนที่เขาจะเข้าไปในป่า และเขายังมีอาวุธวิญญาณขั้นกลางอยู่กับตัวด้วย! ใครจะแข็งแกร่งพอที่จะฆ่าเขา? ฉันอยากรู้นัก!” เควนตินโกรธจัดจนกำหมัดแน่น ไม่อาจรับเรื่องการตายของลูกชายได้แม้ว่าชีวิตและความตายจะเป็นความรับผิดชอบส่วนบุคคลในระหว่างการแข่งขันครั้งก่อน ๆ แต่การแข่งขันก็ดำเนินการบนเวทีแบบตัวต่อตัว นอกจากนั้น
จากนั้นเทรนตันก็พูดต่อราวกับว่าเห็นการต่อสู้ด้วยตาของเขาเอง “ไม่ต้องสงสัยเลย นายน้อยลำดับที่สองของตระกูลฮันท์เกลียดลูกชายของคุณเพราะเรื่องนั้น เป็นไปได้สูงว่าพวกเขาจะสู้กันจนตายหากพวกเขาบังเอิญเจอกันระหว่างการแข่งขัน ในกรณีนี้ลูกชายของคุณน่าสงสัยอย่างมาก!”“ไร้สาระ!” แนชโกรธมากจนใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีเขียวขณะที่เขาตะคอกอย่างไม่พอใจ “ลูกชายของฉันค่อนข้างแข็งแกร่ง แต่เขาเพิ่งทะลวงผ่านและบรรลุระดับเทพแท้จริงขั้นกลางไปเมื่อประมาณหนึ่งเดือนที่แล้วเอง แม้ว่านายน้อยลำดับที่สองของตระกูลฮันท์จะไม่ทะลวงข้ามขั้นไป ลูกชายของฉันก็คงเอาชนะเขาไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้น นายน้อยลำดับที่สองของตระกูลฮันท์ได้ทะลวงผ่านและบรรลุขั้นสุดท้ายของระดับเทพแท้จริงแล้ว ลูกชายของฉันจะต่อกรกับเขาได้ยังไง?”แนชกระวนกระวายถึงขีดสุดไม่อาจปล่อยให้เทรนตันกล่าวโทษว่าการตายของไทเรลล์เกี่ยวข้องกับสมาชิกในตระกูลวู๊ดนายใหญ่ของตระกูลฮันท์ก็โกรธและยืนอยู่นิ่งเงียบอยู่ที่นั่นด้วย เขาพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าแนชกระวนกระวายใจแค่ไหน “พอแล้ว ฉันไม่คิดว่าลูกชายของคุณมีความสามารถพอหรอก ฉันรู้พลังการต่อสู้ของหลานชายของฉันดี และเขาได้ฝึกฝนทักษะการต
“นี่มันเรื่องไร้สาระอะไรกันเนี่ย!” อเล็กซานเดอร์จ้องไปที่เทรนตัน “นายท่านลาโกริโอ คุณไม่คิดว่าฉันจะฆ่าคุณหากคุณยังคงพูดเรื่องไร้สาระเช่นนี้ต่อไปเหรอ? มีเหตุผลอะไรที่มาบอกว่าลูกสาวของฉันเป็นฆาตกรโดยที่คุณไม่มีหลักฐาน? แสดงหลักฐานให้เราเห็นสิถ้าคุณมีความสามารถ!”"นั่นสิ มันจะเป็นประโยชน์สูงสุดกับคุณ อย่าทำผิดต่อผู้อื่นโดยไม่มีหลักฐาน!” ตระกูลวู๊ดและตระกูลคาเบลโลมีความบาดหมางกันมานาน จนทำให้ทั้งสองตระกูลไม่ลงรอยกันแต่ถึงอย่างนั้น นี่ก็เป็นครั้งแรกที่อเล็กซานเดอร์เข้าข้างแนช"ถูกต้อง เฟนด์เพิ่งทะลวงผ่านและบรรลุระดับเทพแท้จริงขั้นกลาง ดังนั้นพลังการต่อสู้ของเขาจึงยังไม่แข็งแกร่งนัก นอกจากนี้ แม้ว่าลูกสาวของฉันจะมีพลังยุทธอยู่ขั้นนั้นแล้วก็จริง แต่มันคงไม่ง่ายนักถ้าพวกเขาต้องการที่จะฆ่านายน้อยลำดับที่สองของตระกูลฮันท์ ฉันไม่คิดว่าทั้งคู่จะสามารถฆ่าเขาได้แม้ว่าพวกเขาจะร่วมมือกันก็ตาม!” อเล็กซานเดอร์ปฏิเสธอย่างโกรธเคือง“ฮ่าฮ่า… มันก็พูดยากนะ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าลูกสาวของคุณแกล้งทำเป็นยั่วยวนนายน้อยคนที่สองด้วยความงามของเธอ? เพราะยังไงซะ มันคงยากสำหรับนายน้อยลำดับที่สองของตระกูลฮันท์ที่จะต่อ
มุมปากของเควนตินกระตุกนิด ๆ เมื่อเขาได้ยินแบบนั้นผู้อาวุโสลำดับแรกของตระกูลฮันท์ก้าวออกมาและจ้องไปที่เชลบี้ด้วยความโกรธในขณะที่เขาพูดว่า “เชลบี้ ความหมายว่าไง? มันจะเหมือนกันได้ยังไง? นั่นคือลูกชายของหัวหน้าตระกูลฮันท์ของเรา และนายน้อยรองก็เป็นลูกชายที่น่าภาคภูมิใจที่สุดของหัวหน้าตระกูลเราด้วย นายน้อยรองไม่เพียงแต่มีพรสวรรค์ แต่เขายังเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับสองอีกด้วย คุณจะเปรียบเทียบเขากับอัจฉริยะของคุณได้ไง?”“ฮ่าฮ่า…! ดูเหมือนว่าพวกคุณไม่มีแผนที่จะปฏิบัติต่อพวกเขาทั้งหมดอย่างเท่าเทียมกัน!” เชลบี้ยิ้มอย่างเย็นชา “ถ้าเป็นอย่างนั้น พวกคุณก็ไม่ควรปล่อยให้ลูกชายของหัวหน้าตระกูลคุณเข้าร่วมการต่อสู้สิ!”"ใช่แล้ว! คุณกำลังจะบอกว่าลูกของเราไม่ใช่คนเหรอ?”“ครั้งนี้คุณทำเกินไปแล้วนะ ลูกชายของเราตายได้ แต่ลูกชายคุณตายไม่ได้? งั้นพวกคุณตั้งกฎสำหรับการแข่งขันครั้งนี้ขึ้นมาทำไม?” ผู้อาวุโสและหัวหน้าตระกูลบางคนจากตระกูลชนชั้นสามที่ยืนอยู่ข้างหน้าและเริ่มแสดงความไม่พอใจออกมาทีละคน ๆ ยังไงเสีย พวกเขาก็เริ่มกังวลว่าถ้าอัจฉริยะของพวกเขาเข้าใจเรื่องกฎการแข่งขัน พวกเขาคงรู้สึกว่าการแข่งขันครั้งน
“ฮ่าฮ่า… ไม่ต้องกังวล ตระกูลฮันท์ก็เจอกับความสูญเสียได้ นอกจากนั้น เราจะไม่ทำตามกฎที่เราตั้งไว้ได้ยังไง?” นายใหญ่ฮันท์หัวเราะและเหมือนจะลืมไปว่าคนที่ตายคือหลานชายของเขาอย่างไรก็ตาม ทุกคนรู้ว่าชายชราคงไม่มีวันเพิกเฉยต่อการตายของหลานชายของเขาแน่ ถ้าเขารู้ว่าใครเป็นคนทำ เขาจะต้องทำสิ่งที่เลวร้ายที่สุดและสร้างความหายนะให้กับชีวิตของคนคนนั้นแน่ เขาจะฆ่าคนคนนั้นด้วยหากมีโอกาส“ใช่แล้ว เรามารอดูกันเถอะ ดูสิ แสงหลายจุดหายไปจากบริเวณนั้น และนั่นหมายความว่ามีคนตายหลายคน ฉันสงสัยว่าพวกเขาเป็นคนจากตระกูลไหน!” เควนตินพูดพร้อมหัวเราะเบา ๆ ขณะที่เขาจงใจเปลี่ยนบทสนทนาพร้อมชี้ไปที่พื้นที่บางส่วนบนหน้าจอผู้คนมากมายจากแต่ละตระกูลต่างพากันถอนหายใจเมื่อได้ยินแบบนั้น พวกเขาเริ่มคาดเดาเมื่อเห็นจุดแสงหายไปจากหน้าจอในระหว่างการแข่งขันนี้ ขณะที่เควนตินเตือนพวกเขาเกี่ยวกับมัน พวกเขาอธิษฐานในใจและหวังว่าอัจฉริยะจากตระกูลของพวกเขาจะรอดชีวิตกลับมา...ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!ในพื้นที่ที่ปกคลุมด้วยพลังสีฟ้าอ่อนขนาดใหญ่ ในที่สุดวีนัสและคนอื่น ๆ ก็เหาะกลับมาตรงหน้าเฟนด์เฟนด์มองไปที่วีนัสกับดาเนียลล่าก่อนที่จะถามว่
วีนัสเสนอมอบแหวนให้เฟนด์ หลังจากที่พิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้วทุกคนรู้ว่าตั้งแต่สมาชิกของตระกูลฮันท์ออกเดินทางพร้อมกับนายน้อยลำดับที่สองของตระกูลฮันท์ พวกเขาต้องส่งแผ่นป้ายทั้งหมดที่ได้รับมาให้เขา นั่นหมายความว่าแหวนยุทธของคุณนายน้อยลำดับที่สองของตระกูลฮันท์คงซ่อนสิ่งของมีค่าต่าง ๆ ไว้ในนั้น“ตกลง ผมจะรับไว้ด้วยความขอบคุณ” เฟนด์ไม่ได้แสดงอาการเสแสร้ง เขาพลิกมือและหยิบโอสถคุณภาพสูงระดับหนึ่งที่เขาบ่มเพาะไว้ก่อนหน้านี้ออกมา ก่อนจะส่งมันให้วีนัส “ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง และผมก็ประสบความสำเร็จในการบ่มเพาะโอสถในครั้งนี้ ตามสัญญา นี่คือของขวัญสำหรับคุณ”"โอ้พระเจ้า! คุณให้อะไรเธอ? ฉันขอดูหน่อย!” ในตอนนั้นเอง เฟนด์และคนอื่น ๆ ไม่คิดว่าเฮเลน่าจะเหาะมาหาพวกเขาพร้อมกับคนมากกว่ายี่สิบคน“โอสถคุณภาพสูงระดับหนึ่ง!” เฮเลน่าสูดหายใจเข้าลึก ๆ ตอนที่เห็นโอสถในมือของน้องรองและพึมพำว่า “น่าประทับใจมากเฟนด์ คุณมีโอสถคุณภาพสูงขนาดนี้ด้วย! แต่ทำไมคุณถึงให้มันกับน้องรองของฉันล่ะ?เฟนด์รู้สึกได้ทันทีว่าคลื่นแห่งความลำบากใจพัดเข้ามาสู่เขา เขาไม่คิดเลยว่าแฟนปลอม ๆ ของเขามาในตอนที่เขาหยิบโอสถให้วีนัสดูเหมือนว