ใบหน้าของชอว์นมืดลง ความปรารถนาที่จะได้รับดาบวิญญาณระดับสูงสุดที่ฉายแววในดวงตาเขานั้นลดน้อยลง ความเคร่งเครียดเข้ามาแทนที่ในขณะนั้น เขารู้สึกได้ว่าเฟนด์น่ากลัวเพียงใด เขารู้สึกได้เลยว่าชายที่อยู่ตรงหน้าเป็นคู่ต่อสู้ที่จัดการได้ไม่ง่าย“หึ.. ฉันจะไม่เสียเวลาเล่นกับพวกนายอีก ฉันไม่ยอมให้สมาชิกตระกูลคาเบลโลตายไปมากกว่านี้แล้ว!”เฟนด์หัวเราะเบา ๆ และถ่ายโอนพลังฉีของเขาลงในดาบอีกครั้ง แรงสั่นสะท้อนที่กระเพื่อมออกจากดาบนั้นรุนแรงยิ่งกว่าเดิม“ดาบเพลิงผลาญ!”เฟนด์ก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวและแกว่งดาบอย่างแรง การโจมตีนี้พุ่งออกไปด้านหน้าแรงเชือดเฉือนส่งเสียงแผ่วเบา ราวกับดาวหางทำท่าจะเผาผลาญทุกสิ่งที่ขวางหน้า ชั่วพริบตาเดียว มันก็ถึงตัวชอว์น“แ*งนี่มันทักษะการต่อสู้อะไรวะ? ขั้นสูงระดับสองรึไง?”ชอว์นตกใจมากเสียจนใบหน้าซีดเป็นไก่ต้ม เมื่อเขาสัมผัสได้ถึงพลังโจมตีของเฟนด์ เขาไม่รู้ว่าจะรับมืออย่างไร"พายุลมกรด!"เขาพุ่งเข้าสู้ด้วยการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาอย่างรวดเร็ว น่าเสียดายที่มันไร้ประโยชน์ เพราะการโจมตีของเฟนด์ได้ทำลายเขาลงในชั่วพริบตา พลังงานที่เหลือล้นไหลเข้าสู่ร่างกายของเขา
ดาเนียลล่าหัวเราะแม้ว่าพี่สาวคนที่สองของเธอจะดูหม่นหมองอย่างเห็นได้ชัด เธอรู้ดีว่าพี่รองและพี่ใหญ่เป็นต้นแบบของคนรุ่นใหม่ในตระกูล แต่ถึงกระนั้นเหล่าอัจฉริยะแห่งตระกูลคาเบลโลต่างก็ชมเชยเฟนด์ไม่รู้จักหยุดหย่อน ทำให้เขากลายเป็นคนต้นแบบคนใหม่ขึ้นมา การที่พี่สาวคนที่สองจะรู้สึกอิจฉามันก็เป็นเรื่องปกติ"เธอพูดถูก ไม่มีทางเทียบได้เลย เขาแข็งแกร่งกว่าฉันมาก”วีนัสเม้มริมฝีปาก เธอคิดก่อนที่จะพูดด้วยความหงุดหงิด “แต่ที่เขาเก่งแบบนี้ได้ก็เพราะเขามีดาบวิญญาณระดับสูงสุดต่างหาก ถ้าฉันมีอย่างเขา ฉันก็คงแข็งแกร่งพอ ๆ กับเขานั่นแหละ!”เธอไม่คิดว่าดาเนียลล่าจะกลอกตาใส่ “ทำไมพี่ไม่พูดไปเลยล่ะว่า พี่ต้องการดาบวิญญาณระดับที่เหนือกว่าเขา? มีตำนานกล่าวไว้ว่ามีสมบัติที่แข็งแกร่งกว่าอุปกรณ์วิญญาณระดับสูงสุดอยู่ และนั่นคืออุปกรณ์วิญญาณชั้นยอด มันลึกลับพอ ๆ กับระดับเทพขั้นสูงสุดเขียวนะ น่าเสียดายที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน ใครได้ครอบครองไว้ แน่นอนว่าจะไม่มีใครหยุดเขาได้อีก!”“อุปกรณ์วิญญาณชั้นยอด?”นี่เป็นครั้งแรกที่เฟนด์ได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้ หัวใจของเขาเต้นรัว มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับระดับเทพสูงสุด และอุปกรณ์
"ใช่ คุณช่วยชีวิตคุณหนูวีนัสไว้ และคุณก็เป็นคนรักของคุณหนูเฮเลน่าอีกต่างหาก เรามันคนกันเองทั้งนั้น ไม่ต้องเกรงใจอะไรหรอก!”ผู้หญิงอีกคนจ้องมองที่เฟนด์ด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง น้ำลายไหลออกมาจากมุมปากโดยไม่รู้ตัวเมื่อได้เห็นอัจฉริยะหญิงทุกคนจากตระกูลคาเบลโลที่สติเตลิดไปมากขึ้นเรื่อย ๆ วีนัสก็ยิ่งรู้สึกพูดไม่ออก เธอจ้องมองพวกเขา “พวกเธอทำอะไรกัน? ทำไมเธอถึงไปรุมล้อมเฟนด์แบบนั้น? อย่าลืมว่าพวกเธอเป็นผู้หญิง รักษากิริยากันหน่อย!”สาว ๆ ค่อย ๆ ถอยห่างเมื่อเห็นว่าวีนัสกำลังโกรธ แต่พวกเธอก็ยังเหลือบมองไปยังชายรูปงามผู้แข็งแกร่งคนเดิมไม่วางตาดาเนียลล่าไม่คิดว่าพวกเขาไม่ค่อยเหมาะกัน แต่หากอัจฉริยะหญิงพวกนี้ชื่นชมเฟนด์ก็หมายความว่าเธอเลือกถูกคนแล้ว แปลว่าเธอน่ะตาถึงหลังจากนั้นไม่นาน ทุกคนก็รวบรวมของที่ริบมาจากคู้ต่อสู้เสร็จสิ้น โดยมีแผ่นป้ายสีดำรวมยี่สิบกว่าแผ่น แถมยังมีแผ่นสีขาวอีกสองแผ่นด้วย“ป้ายเยอะน่าดูเลย รีบรับไปสิ อย่าให้ฉันต้องเสียใจกับการตัดสินใจของตัวเองล่ะ!”วีนัสโบกมือ และแผ่นป้ายเหล่านั้นก็บินไปหาเฟนด์ เธอกลอกตา ใบหน้าที่สวยงามของเธอที่แต่งแต้มด้วยสีหน้าขุ่นเคืองยิ่งดูน่าดึงด
อย่าว่าแต่คนอื่นที่ไหนเลย แม้แต่วีนัสเองก็ยังมองดูเม็ดยาด้วยความชื่นชมเธอจ้องมันสักพักก่อนจะหันไปหาเฟนด์ “หืม ไม่ยุติธรรมเอาซเลย!""ไม่ยุติธรรมงั้นเหรอ?"เฟนด์ขมวดคิ้วเพราะไม่แน่ใจว่าเธอหมายถึงอะไร วีนัสรู้ว่าเขากับดาเนียลล่าคบหากันอยู่ การให้ยากับแฟนสาวของเขาไม่ใช่เรื่องปกติตรงไหน?สมาชิกตระกูลคาเบลโลคนอื่น ๆ แลกเปลี่ยนสายตากัน พวกเขาทำหน้าแปลก ๆ นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นวีนัสใช้น้ำเสียงราบเรียบตอนคุยกับคนอื่น"แน่นอน อืม คุณเป็นคู่รักกับพี่สาวคนโต แถมคุณยังให้ยาเม็ดขั้นสูงระดับหนึ่งกับดาเนียลล่า อย่าลืมสิว่าฉันก็เป็นน้องสาวและพี่สาวของพวกเธอเหมือนกัน!”วีนัสโวยวายอย่างไร้อารมณ์และพูดด้วยน้ำเสียงกระมิดกระเมี้ยนริมฝีปากของดาเนียลล่าแยกออก เธอไม่เคยคิดเลยว่าถึงพี่สาวคนที่สองของเธอจะรู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเฟนด์ดี แต่เธอก็ยังจะเสแสร้งออกมาเพื่อจะแย่งยาแค่เม็ดเดียวเฟนด์ไม่คิดว่าวีนัสจะใช้ข้ออ้างนั้นเพราะอยากได้ยา เขายิ้มอย่างขมขื่น "ไม่มีปัญหา ผมจะให้ยาแบบนั้นอีกเม็ดกับคุณเหมือนกัน” เขากล่าว “แต่ผมจะทำเมื่อมีเวลาว่างตอนกลางคืนเท่านั้น!”เมื่อวีนัสได้ยินดังนั้น ใบห
แน่นอนว่าสำหรับบางคนที่ขาดพรสวรรค์โดยกำเนิด พวกเขาอาจถึงทางตันและไม่อาจก้าวหน้าในการฝึกศิลปะการต่อสู้ได้ “เอาล่ะ ไปกันเถอะ! จำไว้ด้วยว่าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ตระกูลคาเบลโล และตระกูลวู๊ดต่างมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน เราเป็นครอบครัวเดียวกัน เข้าใจไหม? ถ้าเราได้พบกับตระกูลวู๊ดที่ไหนอีก ก็อย่าทะเลาะกันเลย ได้ยินฉันไหม?” หลังจากแจกจ่ายของที่ริบมาจากสงคราม วีนัสก็โบกมือและออกคำสั่งแก่อัจฉริยะตระกูลคาเบลโล รังสีของแสงแดดอันอบอุ่นส่องเข้ามาภายในเฟนด์ เมื่อเขาได้ยินคำพูดของวีนัส เขาหวังว่าความสัมพันธ์ระหว่างสองตระกูลจะดีขึ้นและดีขึ้นเรื่อย ๆ ในการแข่งขันนี้ อย่างน้อยสามพี่น้องตระกูลคาเบลโลก็ไม่เก็บงำความเกลียดชังที่มีต่อเขาอีกต่อไป จะดีกว่านี้หากพวกเขาเอ่ยปากชมและพูดเรื่องดี ๆ ของเขาสักหนึ่งหรือสองเรื่องต่อหน้าอเล็กซานเดอร์บ้าง ไม่นานเฟนด์และคนอื่น ๆ ก็ออกจากที่เกิดเหตุ หลังจากเฟนด์ และคนอื่น ๆ จากไป นายน้อยคนที่สองของตระกูลฮันท์ก็มาถึงยังสถานที่เดียวกันนี้ พร้อมกับเหล่าคนจากตระกูลฮันท์ “แ*ง! นี่มันชอว์นนี่! พระเจ้า ระยำเอ๊ย! ชอว์น ฮันท์และแฮนสัน ฮันท์ พวกเขาต่างก็อยู่ขั้นกลางของระ
“ตอนนี้ฉันอยู่ในสวรรค์งั้นเหรอ? ถึงได้เห็นผู้ชายหน้าตาดีตั้งอกตั้งใจกลั่นยาขนาดนี้!” เด็กสาวคนหนึ่งกระซิบกับเด็กสาวอีกคนที่อยู่ข้าง ๆ สายตาที่จ้องมองไปที่เฟนด์นั้นเต็มไปด้วยความชื่นชมและเทิดทูน “ใช่ ไม่ใช่จะมีให้เห็นง่าย ๆ ซะหน่อย!” อีกฝ่ายเม้มริมฝีปากเข้าหากัน เกิดรอยยิ้มเขินอายขึ้น พวกเขาพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาและอ่อนโยน เพราะเกรงว่าจะรบกวนเฟนด์เข้า “ทางเข้าถ้ำนี้กว้างและเห็นได้ชัด เราจะถูกพบได้ง่ายนะ!” วีนัสจ้องไปที่ทางเข้าถ้ำและขมวดคิ้วเข้าหากัน เธอกังวล แต่เธอมั่นใจในพลังโดยรวมของตระกูลคาเบลโล ตระกูลคาเบลโลเป็นหนึ่งในแปดตระกูลลึกลับชั้นสูง และพวกเขาก็อยู่ในอันดับรายชื่อที่ค่อนข้างสูง ในบรรดาตระกูลที่เข้าร่วมการแข่งขัน มีไม่กี่ตระกูลที่สามารถสร้างความหวาดกลัวให้กับตระกูลคาเบลโลได้ ตราบใดที่โชคยังอยู่กับพวกเขาในวันนี้ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า ความเร็วในการสร้างเม็ดยาของเฟนด์นั้นเร็วกว่าตอนที่เขาปรุงยาครั้งแรกอย่างเห็นได้ชัด ประสบการณ์ที่ประสบความสำเร็จครั้งล่าสุดช่วยเพิ่มความมั่นใจในการปรุงยาให้เขา ตอนนี้เขารู้สึกสบายใจมากขึ้นกับกระบวนวิธีปรุงย
ผู้ชายที่เป็นผู้นำกลุ่มก็หวาดกลัวไม่แพ้กัน พวกเขากลัวการเผชิญหน้ากับผู้ฝึกยุทธที่อยู่ในระดับเทพแท้จริง ศีรษะบนคอของพวกเขาขึ้นอยู่กับอารมณ์ของนักสู้ที่แข็งแกร่งกว่า หากผู้ที่แข็งแกร่งกว่าไม่พอใจ ผู้อ่อนแอกว่าก็คงต้องบอกลาศีรษะของตัวเองพวกเขาไม่คิดว่าจะได้พบกับอัจฉริยะที่แข็งแกร่งจากตระกูลคาเบลโลในช่วงดึกเช่นนี้วีนัสลอบมองอีกฝ่ายก่อนจะพูดว่า “ออกไปจากที่นี่แล้วไปหาที่อื่นพักซะ!”“ขอบคุณมาก คุณหนูลำดับที่สองของตระกูลคาเบลโล!”คนพวกนี้ที่อยู่ต่อหน้าพวกตระกูลคาเบลโลถอนหายใจอย่างโล่งอกในใจและรีบออกจากที่เกิดเหตุไป“เฮ้อ พวกเขาโชคร้ายจริง ๆ ที่บังเอิญเจอนายน้อยลำดับที่สองของตระกูลฮันท์ แผ่นป้ายที่พวกเขาหามันมาได้อย่างยากลำบากเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาถูกฉกฉวยไปแบบนั้น! ในชั่วพริบตา!”ดาเนียลล่าออกความเห็นตอนที่เธอเห็นอีกฝ่ายออกจากถ้ำ“พวกเขาถือว่าโชคดีที่นายน้อยลำดับที่สองของตระกูลฮันท์ไม่เอาชีวิตพวกเขา ตระกูลของพวกเขาไม่ได้ทำให้ตระกูลอื่นขุ่นเคือง พวกเขาเป็นคนดี แต่ความเป็นจริงนั้นช่างโหดร้าย หากนายน้อยลำดับที่สองของตระกูลฮันท์อารมณ์ไม่ดี ฉันเกรงว่าพวกเขาคงไม่ได้มีชีวิตอยู่ต่ออีกแล้ว!”
“คุณหมายความว่ายังไง ไม่มีความหมายอะไรเลยงั้นเหรอ? คุณช่วยขยายความหน่อยได้ไหม?” วีนัสจงใจถามออกไปเพื่อถ่วงเวลาเขาไว้และสร้างเวลาให้เฟนด์มากขึ้น “เฮ้ มันไม่ง่ายอย่างนั้นเหรอ? พวกนักสู้จากตระกูลชนชั้นสองและตระกูลชนชั้นสามยอมมอบแผ่นป้ายให้ฉันได้เพียงแค่พวกเขาเจอฉัน ฉันไม่ต้องต่อสู้เพื่อมัน แผ่นป้ายก็มาอยู่ในมือของฉันแล้ว มีไม่กี่คนหรอกที่สามารถเอาชนะฉันได้ แม้แต่พี่สาวของคุณก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉัน! ยกเว้นพี่ชายของฉัน ฉันไม่คิดว่าจะมีคนอื่นบนโลกนี้ที่จะเอาชนะฉันได้ ฉันอธิบายชัดเจนเพียงพอหรือยัง?” ไทเรลหัวเราะเยาะและพูดต่อว่า “การแข่งขันครั้งนี้ฉันติดหนึ่งในสามอันดับแรกอย่างแน่นอน และจากผลลัพธ์โดยรวม ตระกูลฮันท์ต้องได้อันดับหนึ่งแน่นอน!” “คุณไม่มั่นในเกินไปหน่อยเหรอ? ฉันไม่คิดว่าพี่สาวของฉันจะอ่อนแอกว่าคุณ!” วีนัสยิ้มเยาะ ดวงตาของเธอฉายแววดูถูกเหยียดหยามออกมา“เฮ้ คุณไม่ได้รับแจ้งเหรอ? ก่อนหน้านี้พี่สาวของคุณเกือบถูกฉันจับแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะไอ้บ้าเฟนด์นั่นที่ฉวยโอกาสตอนที่ฉันเผลอ แล้วหนีไปกับพี่สาวของคุณ ป่านนี้เธอคงกลายเป็นผู้หญิงของฉันไปแล้ว! ฮึ่ม!”นายน้อยลำดับที่สองของตระกูล