“เอาล่ะ นายน้อยเชิร์ช ช่วยฉันฆ่าเขาที เขาเป็นปลาตัวใหญ่จริง ๆ!”หลังจากได้ยินเช่นนั้นดวงตาของลูซี่เป็นประกาย “นายน้อยเชิร์ช ถ้าคุณฆ่าหมอนี่ได้ ฉันจะอยู่เคียงข้างคุณทั้งวันทั้งคืนตลอดทั้งเดือนนี้เลย!” เธอพูดอย่างมีความสุข“ฮ่า ตกลง เธอพูดแล้วนะ!”พอได้ยินอย่างนั้นนายน้อยเชิร์ชยิ้มอย่างมีความสุข เขาตบก้นเธอด้วยซ้ำ“คุณนี่มันขี้แกล้งจริง ๆ นายน้อยเชิร์ช!”สีหน้าของลูซี่ดูยั่วเย้า“พวกโสโครกเอ๊ย!”เฟนด์ส่ายหัวอย่างหมดความอดทน “นาธาน ฉันได้ยินมาว่าคุณเป็นหลานชายของผู้อาวุโสลำดับที่สาม” เขาพูดกับนายน้อยเชิร์ช “แถมคุณมีพรสวรรค์และระดับการฝึกฝนที่แข็งแกร่งที่สุดในตระกูลเชิร์ช ต้องเป็นเรื่องยากที่บรรลุเข้าสู่ขั้นสูงของอันดับเทพแท้จริง!”“หึ.. นายได้ยินเรื่องฉันมาเยอะเลยใช่ไหม?”นาธานหัวเราะเบา ๆ “ถึงฉันจะไม่ได้มีปัญหาอะไรกับนายก็เถอะ แต่ถึงนายจะคุกเข่าขอร้องฉันตอนนี้ ฉันก็จะไม่ปล่อยนายไปหรอก” เขากล่าว “เพราะฉันสัญญากับลูซี่ไว้แล้ว!”“ฉันไม่คิดจะร้องขอชีวิตเสียหน่อย!”เฟนด์กำหมัดแน่นและพุ่งเข้าหาคู่ต่อสู้ “ที่ฉันอยากบอกก็แค่มันน่าเสียดายที่คุณมีพรสวรรค์อันยิ่งใหญ่แบบ แต่ดันรนหาที่ตายซ
วูบ!คราวนี้นาธานเริ่มการโจมตีและบินไปในพริบตาเดียว กำปั้นของเขาพุ่งเข้าหาเฟนด์เปรี้ยง!ไม่นานนักก็มีเสียงการปะทะอันน่าสะพรึงกลัวดังขึ้น เสียงนี้น่ากลัวกว่าการระเบิดครั้งก่อนมากแต่นาธานทนได้เพียงแค่สองวินาที ก่อนที่เฟนด์จะถูกพัดจนปลิวไปด้านหลัง“นายน้อยเชิร์ช เกิด-เกิดอะไรขึ้น? คุณสู้หมอนั่นไม่ได้เหรอ?”ลูซี่รู้สึกมึนงงไปหมด เฟนด์บินออกไปและยืนอยู่หน้าหน้าผา เขาจ้องมองคนเหล่านั้นอย่างเหยียดหยามราวกับตนเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังที่สุดในโลก สายตาของเขาทำให้ลูซี่สงสัยในความสามารถของนาธาน"ผม…"นาธานรู้สึกอายมาก เขากัดฟันและพลิกฝ่ามือ "ไม่ต้องห่วง เขาเชี่ยวชาญในการใช้พลังฉี แต่อาวุธของผมเป็นอุปกรณ์วิญญาณระดับกลาง” เขากล่าว “ฮึ่ม.. ด้วยทักษะการต่อสู้เบื้องต้นระดับสองของผม ไอ้นอกคอกนี่จะถูกผมบดขยี้แน่!”เฟนด์พลิกฝ่ามือและหยิบดาบสีดำออกมา เขาใส่พลังฉีเข้าไปหึ่ง!เสียงโลหะดังสะท้อนออกมาอย่างน่าสยดสยอง หมอกสีดำเริ่มห่อหุ้มใบมีด มันสั่นกระเพื่อมราวกับกำลังแกว่งไปมาราวกับกำลังร่ายรำ“ทำไมเสียงสะท้อนมันให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไป”ลูซี่ขมวดคิ้ว รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ราวกับดาบข
นาธานซึ่งอยู่ในขั้นสูงของระดับเทพแท้จริง เป็นหนึ่งในอัจฉริยะอันดับต้น ๆ ในบรรดาแปดตระกูลชั้นหนึ่ง อัจฉริยะเหล่านี้ถือเป็นตัวเต็งของการแข่งขันครั้งนี้แม้ว่าพวกเขาจะเอาชนะคู่ต่อสู้ไม่ได้ แต่การจะหลบหนีจากคู่ต่อสู้ก็คงไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร พวกเขามีโอกาสถูกฆ่าเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเว้นแต่คู่ต่อสู้จะแข็งแกร่งกว่าพวกเขามากการตายของนาธานทำให้สมาชิกตระกูลเชิร์ชตกใจจนหน้าซีด พวกเขาแทบไม่เชื่อสายตา"หนี!"ทุกคนเตรียมที่จะหลบหนีหลังจากที่พวกเขาดึงสติกลับมาได้เฟนด์กล้าฆ่าหลานชายของผู้อาวุโสลำดับที่สามของพวกเขา ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขามีระดับการฝึกฝนที่ต่ำกว่ามาก แถมยังอยู่ในอันดับที่ต่ำกว่าสมาชิกตระกูลเชิร์ชหลายคนอีรกด้วยฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!ถึงกระนั้นเฟนด์ก็กำดาบของเขาไว้ ด้วยแสงวาบเพียงสองสามครั้ง เขาส่งรัศมีของดาบให้พุ่งออกไปสองสามครั้ง เพื่อฆ่าพวกที่ต้องการหลบหนีทันทีฟุ่บ!เมื่อแสงปรากฏขึ้นอีกครั้ง เฟนด์ก็ปรากฏตัวต่อหน้าลูซี่เธอกวาดสายตามองไปรอบ ๆ และตระหนักว่าตอนนี้สมาชิกตระกูลเชิร์ชทุกคนตายหมดแล้ว เธอเป็นคนเดียวที่เหลืออยู่เธอกลัวจนหน้าซีด เฟนด์ยกดาบในมือขึ้นช้า ๆ เธอรีบคุกเข่า
เฟนด์เก็บดาบของเขาและบินลงมา รวบรวมแหวนยุทธจากทุกคนดาเนียลล่าก็บินลงมาเช่นกัน เธอยิ้มหวานให้เฟนด์ “คุณไม่ลังเลเลย ทั้งที่เธอพยายามเกลี้ยกล่อมคุณ เธอเสนอตัวให้คุณด้วยซ้ำ! แล้วคุณยังไม่ตกหลุมพรางเธออีก?”กิริยาของเฟนด์ทำให้ดาเนียลล่ารู้สึกพอใจมาก ผู้ชายที่เธอหมายตาไว้นั้นเป็นคนดีจริง ๆ และไม่หวั่นไหนต่อสิ่งล่อใจอีกต่างหาก“หึ พอมีคนเสนอตัวมาให้ผมก็ต้องว่าตามตลอดงั้นเหรอ?”เฟนด์หัวเราะเบา ๆ และพูดว่า “อีกอย่างผู้หญิงอย่างลูซี่ก็เหมือนกับตุ๊กตาไร้ชีวิตสำหรับผม ผมเคยพบเธอเพียงครั้งเดียว แล้วจะชอบเธอได้ยังไง?!”“อย่างนั้นกลับเข้าไปในรอยแตกแล้วดูหน่อยดีกว่าว่าคุณไปเจออะไรมา!”ดาเนียลล่ายิ้มเล็กน้อยและพร้อมที่จะบินไปที่รอยแตกนั้นถึงกระนั้นเฟนด์ก็ยิ้มอย่างขมขื่น “อย่ากลับเข้าไปอีก ที่นั่นมีแต่ศพ ถ้ามีใครผ่านไปมาจะยิ่งทำให้รอยแตกเห็นได้ง่าย คงเลวร้ายน่าดูถ้าคนอื่นรู้ว่าผมฆ่าคนพวกนั้น! ถึงพวกเขาจะบอกว่าในการแข่งขันครั้งนี้ เราสามารถฆ่าใครก็ได้ อยู่ให้ห่างจากตระกูลเชิร์ชดูจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด!”"จริงด้วย! พวกเขาอาจโกรธแค้นคุณ!”ดาเนียลล่ายิ้ม "ไปกันเถอะ เราจะหาที่อื่น!”ทั้งสองค้น
เปลวไฟเล็ก ๆ เริ่มลุกโชนใต้หม้อ หลังจากนั้นไม่นานเฟนด์ก็สามารถทำให้หม้อทั้งใบร้อนขึ้นได้ เห็นได้ชัดว่าเขาชำนาญในเรื่องนี้ดาเนียลล่าไม่กล้าที่จะขัดขวางเฟนด์ เธอนั่งเงียบ ๆ ข้าง ๆ ชื่นชมสีหน้าจริงจังของเฟนด์ ขณะที่เขาอยู่เหนือหม้อเฟนด์รีบคว้าส่วนผสมบางอย่างแล้วโยนลงในหม้อ ควบคุมเปลวไฟด้วยพลังจิตของเขา และเริ่มสกัดของเหลวบางส่วนออกมาหลังจากนั้นไม่นาน เขาก็เพิ่มส่วนผสมลงไปอีกกำมือหนึ่ง เขาสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของส่วนผสม และน้ำโอสถที่เริ่มกลั่นตัวเมื่อเวลาล่วงเลยไปไม่นาน เฟนด์ก็โยนส่วนผสมทั้งหมดของเขาลงในหม้อ เม็ดเหงื่อเริ่มรวมตัวกันเหนือที่คิ้วรอยยิ้มเล็ก ๆ ปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของดาเนียลล่า ขณะที่เธอเฝ้าดูเฟนด์ปรุงส่วนผสม เขาขมวดคิ้วและคลายมันอยู่เป็นพัก ๆ และเธอคิดว่าการได้ดูเขาปรุงยานั้นช่างมีความสุขหลังจากนั้นสักพัก เขาก็รีดน้ำยาทั้งหมดออกมา ทำทุกอย่างด้วยมือที่ผ่านการฝึกฝนจนชำนาญหลังจากนั้นครู่หนึ่ง ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการสร้างเม็ดยาก็มาถึง ของเหลวเริ่มแข็งตัวเฟนด์ยังคงควบคุมไฟและของเหลวก็เดือดเป็นฟอง มันหดตัวลงและเริ่มแข็งตัว"ขึ้นมา!"ในชั่วพริบตาเฟนด์ยกมือข
“ดูเหมือนจะเป็นการต่อสู้ครั้งใหญ่ที่เต็มไปด้วยผู้คนมากมายเชียวล่ะ!”ดาเนียลล่าขมวดคิ้ว “ไปดูกันเถอะ คงไม่ดีแน่ถ้าสมาชิกในตระกูลของเราอยู่ที่นั่น!”"ตกลง!"เฟนด์พยักหน้าและบินไปยังทิศทางของเสียงพร้อมกับดาเนียลล่าหลังจากที่พวกเขาบินไประยะหนึ่ง ก็ได้เห็นเด็กกว่าสิบคนจากตระกูลคาเบลโลบนสนามหญ้า พวกเขาถูกล้อมรอบด้วยอัจฉริยะมากกว่ายี่สิบคนจากตระกูลลาโกริโอ และอีกหลายสิบคนจากตระกูลฮันท์ ทั้งสองตระกูลจ้องมองเหยื่ออย่างโหดเหี้ยมมีอัจฉริยะเจ็ดหรือแปดคนจากตระกูลคาเบลโลอยู่บนพื้น ไร้ซึ่งลมหายใจ“เ*รเอ๊ย พวกตระกูลลาโกริโอมันหน้าด้านจริง ๆ พวกเขาร่วมมือกับตระกูลฮันต์เพื่อฆ่าคนของเรา!”ดาเนียลล่าโกรธจนตัวสั่น“พี่สาวคนที่สองของคุณก็อยู่ที่นั่นด้วย!”เฟนด์ยิ้มอย่างไร้ความหวังเมื่อเขาเห็นเธอจากระยะไกลเขาไม่แปลกใจกับเหตุการณ์นี้เลยสักนิด ตระกูลลาโกริโอไม่ได้รับการสนับสนุนจากตระกูลวู๊ด แน่นอนว่าพวกเขาย่อมต้องหันไปหาตระกูลฮันท์ในขณะเดียวกัน ตระกูลฮันท์ซึ่งรู้ ๆ กันอยู่ว่าแค้นตระกูลวู๊ดกับตระกูลคาเบลโล เพราะเรื่องระหว่างเฟนด์กับเฮเลน่าเพราะอย่างนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่พวกเขาจะร่วมมือกันกำจัดส
“เ*รเอ๊ย ไอ้พันทางตระกูลวู๊ดมาแล้ว!”อัจริยะจากตระกูลฮันท์สังเกตเห็นเฟนด์ และดาเนียลล่า สีหน้าของเขาหม่นลง “ฉันได้ยินมาว่าหมอนี่นี้ต่อสู้เก่งมาก!”“ไม่ง่ายแล้วสิ!”หนึ่งในสองนักสู้ระดับเทพแท้จริงขั้นกลางจากตระกูลฮันต์ชื่อชอว์น อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเมื่อเห็นเฟนด์แต่เขาก็ฉีกยิ้มเย็นอย่างรวดเร็ว “เขาคงจะน่ารำคาญนิดหน่อย แต่เรามีคนเยอะกว่า” เขากล่าว “อีกอย่างวีนัสและสมาชิกตระกูลคาเบลโลคนอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถึงร่วมมือกันพวกนั้นก็สู้เราไม่ได้หรอก แต่ฝ่ายเราก็อาจต้องสูญเสียไปไม่น้อย!”“มั่นใจซะจริง!”เฟนด์พลิกฝ่ามือและหยิบดาบสีดำออกมา ก่อนส่งพลังฉีเข้าไปในดาบ“แรงสะท้อนจากดาบเล่มนั้นแข็งแกร่งมาก!”มีคนรับรู้อย่างรวดเร็วว่าดาบเล่มนั้นพิเศษ สีหน้าของเขาหม่นลงในขณะที่พูดกับนักสู้สองคนจากตระกูลฮันท์“แ*งเอ๊ย ผมว่าดาบของหมอนั่นเป็นอุปกรณ์วิญญาณระดับสูงสุด หนึ่งในนั้นนายท่านของเราเป็นผู้ครอบครอง แต่นี่เขาก็มีเหมือนกัน!”สีหน้าของชอว์นหม่นลง เขาพลิกฝ่ามือและหยิบดาบวิญญาณระดับล่างออกมาจับจนแน่นเดิมทีเขาคิดว่าดาบวิญญาณที่เขาหามาได้ค่อนข้างดี แต่เมื่อเขาจับมันขึ้นมาแล้วเขาก็ไม่รู้ส
ใบหน้าของชอว์นมืดลง ความปรารถนาที่จะได้รับดาบวิญญาณระดับสูงสุดที่ฉายแววในดวงตาเขานั้นลดน้อยลง ความเคร่งเครียดเข้ามาแทนที่ในขณะนั้น เขารู้สึกได้ว่าเฟนด์น่ากลัวเพียงใด เขารู้สึกได้เลยว่าชายที่อยู่ตรงหน้าเป็นคู่ต่อสู้ที่จัดการได้ไม่ง่าย“หึ.. ฉันจะไม่เสียเวลาเล่นกับพวกนายอีก ฉันไม่ยอมให้สมาชิกตระกูลคาเบลโลตายไปมากกว่านี้แล้ว!”เฟนด์หัวเราะเบา ๆ และถ่ายโอนพลังฉีของเขาลงในดาบอีกครั้ง แรงสั่นสะท้อนที่กระเพื่อมออกจากดาบนั้นรุนแรงยิ่งกว่าเดิม“ดาบเพลิงผลาญ!”เฟนด์ก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวและแกว่งดาบอย่างแรง การโจมตีนี้พุ่งออกไปด้านหน้าแรงเชือดเฉือนส่งเสียงแผ่วเบา ราวกับดาวหางทำท่าจะเผาผลาญทุกสิ่งที่ขวางหน้า ชั่วพริบตาเดียว มันก็ถึงตัวชอว์น“แ*งนี่มันทักษะการต่อสู้อะไรวะ? ขั้นสูงระดับสองรึไง?”ชอว์นตกใจมากเสียจนใบหน้าซีดเป็นไก่ต้ม เมื่อเขาสัมผัสได้ถึงพลังโจมตีของเฟนด์ เขาไม่รู้ว่าจะรับมืออย่างไร"พายุลมกรด!"เขาพุ่งเข้าสู้ด้วยการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาอย่างรวดเร็ว น่าเสียดายที่มันไร้ประโยชน์ เพราะการโจมตีของเฟนด์ได้ทำลายเขาลงในชั่วพริบตา พลังงานที่เหลือล้นไหลเข้าสู่ร่างกายของเขา