เจอรัลด์กำลังเร่งรีบ เขารู้ว่าเรื่องนี้ควรจะจบลงและเสร็จสิ้นเรียบร้อยภายในสองวันก่อนแล้วแต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากว่าไปสะดุดกับเรื่องของเซโน่ โครงการหอพักนี้จึงล่าช้าไปเพราะบางพื้นที่เจอรัลด์เป็นคนเลือกเองอย่างชัดเจน เขาจึงตัดสินใจที่จะมาเยี่ยมชมที่ศูนย์อสังหาริมทรัพย์แห่งนี้เป็นการส่วนตัวเจอรัลด์เข้ามาในศูนย์และไปที่เคาน์เตอร์ด้านหน้าทันทีทีนทีที่ตัวแทนอสังหาริมทรัพย์สังเกตุเห็นเจอรัลด์ สีหน้าของเธอก็ไม่มีความสุขขึ้นมาทันที เธอเต็มไปด้วยความอึดอัดใจและผิดหวังเธอคิดว่าเจอรัลด์เป็นแค่คนโง่จน ๆ อีกคนที่ไม่มีเงินจะสามารถซื้ออสังหาริมทรัพย์ได้ เช่นนั้น เมื่อเขามาแวะมาโดยการเป็นเพื่อนของ เลลา จอง เธอจึงยืนยันได้ว่าเจอรัลด์จะเริ่มต้นกู้เงินท่าทางของเธอที่มีต่อเจอรัลด์ก็เย็นชาเช่นกัน; เธอคิดว่าเขาไม่คุ้มค่ากับความพยายามเพราะเขาไม่ได้ดูเหมือนจะเป็นคนมั่งคั่งอะไรอย่างนั้นจากนั้นในวันถัดมา เขาตัดสินใจไม่กู้เงินแทน แต่เขากลับต้องการจะซื้ออสังหาริมทรัพย์ด้วยการชำระเต็มจำนวน นี่จะหมายความว่าตัวแทนจะได้รับค่าคอมมิชชั่นที่ต่ำที่สุดเท่าที่เป็นไปได้เธอจึงแก้ตัวเพื่อเลี่ยงหน้าที่ท่าทางควา
พนักงานทั้งหมดตรงเคาน์เตอร์ด้านหน้าลุกยืนขึ้นทันทีด้วยการเอาใจใส่ และกล่าวทักทายเธออย่างสุภาพ“อ่า คุณหญิงมิลเลอร์ ยินดีต้อนรับค่ะ!”“ว้าว คุณหญิงมิลเลอร์ ยังคงสวยเหมือนเดิมเลยนะคะ!” ทุกคนพูดแทรกกันขึ้นมาลูน่ายิ้มอย่างสดใสและพูดขึ้นมา “คุณหญิงมิลเลอร์ค่ะ ก็แค่ผู้ชายคนนี้ตรงนี้ ก่อเรื่องน่ารำคาญน่ะสิค่ะ ถ้าลูกพี่ลูกน้องของฉันไม่ได้ขอให้ฉันช่วยเหลือเขาละก็ ฉันก็คงไม่แม้แต่จะคุยกับเขาในตอนแรกเลยด้วยซ้ำ เช่นนั้นคุณผู้ชายมิลเลอร์ ครั้งนี้คุณอยากจะซื้ออสังหาริมทรัพย์กี่แห่งกันคะ?” เธอหันไปหาสามีของเธอและถามขึ้นมาคุณผู้ชายมิลเลอร์ มัณฑณากร คือคนที่ซื้อสังหาริมทรัพย์มากมายหลายแห่งและให้รูปลักษณ์ใหม่ทั้งหมดกับพวกมันจากนั้นอสังหาริมทรัพย์เหล่านี้ก็จะถูกปล่อยเช่าออกไป เช่นนั้น เขาจึงเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของบริษัท“ผมแค่อยากจะซื้อที่เดียวในคราวนี้ แต่ผมต้องการทำมันให้เสร็จอย่างเร็ว!” คุณผู้ชายมิลเลอร์กล่าวขณะที่เขาโอบเอวภรรยาของเขาเอาไว้จากนั้นคู่รักก็มองไปที่เจอรัลด์อย่างไม่ชอบใจ; ดูเหมือนว่าพวกเขาจะพัฒนาความรู้สึกที่เหนือกว่าคนอื่น ทุกคนกำลังแห่ไปที่พวกเขากันแต่ไม่สนใจเจอรัลด์เลยใ
“ว่าไงนะ?!”ทุกคนในล็อบบี้รวมถึงลูน่า ต่างก็ตกตะลึงไปตาม ๆ กันสิ่งที่ตามมาหลังจากนั้นคือห้องที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูน่าและคู่รักมิลเลอร์นั่น พวกเขาหัวเราะหนักมากจนน้ำตาอาบแก้มพวกเขา“ฮ่าฮ่าฮ่า บ้าจริงเชียวเพื่อนเอ้ย นายไม่สามารถแสร้งทำแบบนี้ไปทั่วได้นะ!” คุณผู้ชายมิเลอร์หัวเราะ พร้อมกับกุมท้องเขาเอาไว้“เขาบ้าหรือเปล่าเนี่ย?”“ใช่ อาคารทั้งสองหลังเลยนะ! ฉันคิดว่าแม่งได้ยินเขาผิดไปซะอีก ฮ่าฮ่าฮ่า!” “โยว่…พวกเราต้องโทรเรียกผู้รักษาความปลอดภัยหรือเปล่า?”แม้แต่พนักงานตรงเคาน์เตอร์ด้านหน้าก็ดูเหมือนจะหายใจไม่ออกกันแล้วจากการหัวเราะทันทีทันใดนั้น ผู้จัดการก็เดินเข้ามาในล็อบบี้ด้วยสีหน้าเข้มงวด“เกิดอะไรขึ้น? ความเป็นมืออาชีพของทุกคนอยู่ที่ไหน? ดูพวกเธอทุกคนสิ! ช่างไร้สาระ!”ลูน่ากัดริมฝีปากของเธอเพื่อสงบสติอารมณ์ลง “ไม่ค่ะ…ไม่ คุณผู้ชาย ผู้ชายตรงนั้น เจอรัลด์ คลอฟอร์ด เขา…เขาพูดว่าเขาอยากจะซื้ออาคารของเราสองหลัง! ฮ่าฮ่าฮ่า!” น้ำตาไหลอาบแก้มสีแดงสดของเธอผู้จัดการดูเหมือนจะมีความเป็นมืออาชีพมากกว่าตัวแทนเหล่านี้ เขาสูดหายใจเข้าลึกและจ้องไปที่เจอรัลด์ชั่ว
ทุกคนในล็อบบี้ตกอยู่ในความเงียบ สายตาของพวกเขาเบิกกว้างด้วยความไม่เชื่อขณะที่พวกเขาพยายามจะพิจารณาฉากตรงหน้าของพวกเขานี้ผู้ชายคนนี้เป็นใครกันเนี่ย? นี่มันมากเกินไปแล้ว!จากนั้นผู้ชายในชุดสูทคนหนึ่งก็เดินผ่านกองเงินมาอย่างระมัดระวัง และเข้ามาในล็อบบี้จากนั้นเขาก็เข้าไปหาเจอรัลด์และกระซิบบางอย่างข้าหูของเขา “ผมทำตามที่คุณขอแล้วครับ คุณคลอฟอร์ด”“อ่าใช่ ดีมาก ผมจะทิ้งที่เหลือให้พวกคุณ ผมเลือกอาคารที่ผมต้องการเรียบร้อยแล้ว คุณนิกกี้คนนี้จะบอกคุณเองว่าพวกเราจะต้องการอะไรอื่นอีก” เจอรัลด์กล่าวขณะที่เขาตบไหล่นิกกี้เบา ๆ ในทางกลับกัน นิกกี้ถึงอ้าปากค้างและไม่กล้าพูดเลยสักคำ ถ้าเธอสามารถทำให้อาคารสองหลังนี้ได้รับการลงนาม ค่าคอมมิชชั่นก็คงจะเยี่ยมยอดไปเลยสิ! นิกกี้รู้สึกราวกับว่าเธอเพิ่งจะขึ้นไปที่สวรรค์ และพบกับสวรรค์วิมานลูน่าที่ยังคงตกตะลึง ตอนนี้จมอยู่กับความตระหนกตกใจและเสียใจ เธอไม่คาดคิดว่าเขาจะซื้อมันจริง ๆ ถ้ามันไม่ใช่เพราะการวางตัวของเธอละก็ เธอก็คงจะเป็นคนที่ได้รับค่าคอมมิชชั่นจำนวนมากเช่นนั้นแล้วเธอไม่ต้องทำงานสำหรับชีวิตที่เหลือของเธอหลังจากนี้เลยก็ได้ด้วยซ้ำ! แต่น่าเส
“เจอรัลด์ พวกเรามีการรวมตัวกันเล็ก ๆ และพวกเราก็จะชวนนายมาด้วยกันกับพวกเรา!” ลิเลียนรีบไปที่ด้านข้างของเขาและอธิบายตอนนี้ทุกคนกำลังจ้องไปที่เจอรัลด์ เพื่อรอคำตอบมันจะดูเหมือนกับว่าการที่สามารถได้ยืนอยู่ข้างเจอรัลด์ก็จะช่วยยกสถานะของพวกเขาได้แล้ว ชารอนจ้องไปที่เขา อย่างว่างเปล่า ยังคงจมอยู่กับอารมณ์ที่หลากหลาย เธอถึงกับเงียบไปอีกครั้ง “โอเค ขอให้สนุกกันละกัน! ฉันยังมีเรื่องบางอย่างที่จะต้องทำ ดังนั้นฉันต้องไปเดี๋ยวนี้แหละ!” เจอรัลด์ยิ้มโดยไม่ลังเลใจ จากนั้นเขาก็ออกจากล็อบบี้ไปทันทีชารอนโกรธเล็กน้อยเมื่อเห็นเจอรัลด์จากไป เขาไม่แม้แต่จะเหลือบมองมายังทิศทางของเธอเลยด้วยซ้ำ ผิดหวัง เธอรู้สึกเหมือนกับว่าเธอสามารถได้ยินเสียงหัวใจที่แตกสลายของเธอได้ขณะที่เจอรัลด์ออกจากล็อบบี้มา เขาก็ค่อย ๆ เดินไปที่ถนนและตัดสินใจเรียกแท็กซี่แต่อย่างไรก็ตาม ก็มีเสียงหนึ่งตะโกนเรียกเขา “เจอรัลด์ใช่ไหม? นายกำลังรอรถบัสอยู่หรือเปล่า?จากนั้นรถคัมรี่ก็มาจอดด้านหน้าของเขา ด้วยการลดกระจกลง เป็นเบียนก้านั่นเอง และถัดจากเธอก็คือเอวา และสำหรับคนขับนั้น เป็นผู้ชายที่หล่อเหล่าคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะอายุไล่เลี
หลังจากพูดคุยกันเล็กน้อย ทั้งสามก็กลับบ้าน ตอนเช้าเจอรัลด์ไปที่สำนักงานเร็วกว่าปกติ หลังจากก้าวเข้าไปในลิฟต์เจอรัลด์ก็ตระหนักว่ามีคนอื่นอยู่ในนั้นด้วยเมื่อหันไปมองด้านข้างเขารู้สึกตะหงิดใจเขารู้ว่าชายที่ถือกระเป๋าเอกสารซึ่งกำลังจ้องมองมาที่เขาเช่นกัน คือนาธาเนล คนที่ติดหนึบกับเบียนก้าเมื่อวันก่อนนาธาเนลจ้องเขม็งไปที่เจอรัลด์ทันที เมื่อเขารู้ว่าใครยืนอยู่ข้างเขาความเงียบเกิดขึ้นก่อนที่นาธาเนลจะพูดขึ้นในที่สุด “เฮ้ คุณเป็นคนดูแลระบบขนส่งเหรอ? คุณสนิทกับเบียนก้าใช่ไหม?” “ใช่ ฉันเป็นเพื่อนกับเธอ” เจอรัลด์ตอบอย่างไม่ใส่ใจ เจอรัลด์เห็นว่านาธาเนลมองเขาอย่างไรเมื่อวันก่อน และเขารู้ว่าชายคนนั้นกำลังถืออะไรบางอย่างต่อต้านเขาอย่างแน่นอนอย่างไรก็ตาม เจอรัลด์รู้ว่าการทนอยู่กับเขาจะทำให้เสียเวลาและความพยายามไปเปล่า ๆ “เฮ้ แน่นอน แค่รักษาระยะห่างจากเธอ เธอเลี้ยงคุณแค่อาหารเย็นอย่างสุภาพเท่านั้น เหมือนกับว่าเธอพยายามสร้างความประทับใจให้ใครบางคนจากชนชั้นต่ำอย่างคุณ” เขาเย้ยหยัน นาธาเนลรู้สึกว่าเจอรัลด์ต้องถูกแทนที่เพราะเบียงก้าสมควรที่จะได้อยู่กับผู้ชายอย่างเขา “และคุณควรเรียนรู้ที่จะคำนึงถึ
“เธอเป็นใครเหรอครับ?” เจอรัลด์ถาม “คุณไมลส์เป็นน้องสาวของรองหัวหน้าแผนกการตลาด จะดีที่สุดถ้าคุณคอยเฝ้าดูทุกครั้งที่เธออยู่ใกล้!” เฟย์กระซิบเจอรัลด์เพียงแค่ยักไหล่และทำตามที่เขาบอก เนื่องจากเขาต้องการที่จะซ่อนตัวต่อไปให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขาอาจจะแค่ฟังเธอ ด้วยเหตุนี้เขาจึงเริ่มดาวน์โหลดภาพยนตร์บางเรื่อง“เฮ้ นี่คุณ! คนโลจิสติกส์ คุณกำลังทำอะไรอยู่” ชายวัยกลางคนถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา แขนของเขาถูกพับเข้าหาหลังของเขา เนื่องจากเจอรัลด์นั่งอยู่ใกล้ทางเข้าล็อบบี้ ผู้ชายคนนั้นคงมองเห็นหน้าจอคอมพิวเตอร์ของเจอรัลด์ ข้างหลังชายคนนั้น มีพนักงานอีกคนหนึ่งยืนอยู่ แต่นี่ไม่ใช่แค่พนักงานประจำ เขาเป็นรองหัวหน้าทีมในกลุ่มของเอวา นาธาเนลดูเหมือนว่าเขาจะเพลิดเพลินกับการแสดงและเขาก็ยิ้มเยาะขณะที่เขาพูดว่า “คุณเมอร์ฟี่ ดูเหมือนว่าพนักงานคนนี้กำลังดาวน์โหลดภาพยนตร์ในเวลาราชการ! ฮ่า ๆ! เป๊ะเว่อร์! และคิดว่านี่เป็นการทำงานที่โหดร้ายวันแรกของเขา! ผมว่า!” ทันใดนั้น คุณเมอร์ฟีก็ยืนอยู่ข้างหลังเจอรัลด์ แม้ว่าเจอรัลด์จะย่อขนาดแท็บให้เล็กสุดเท่าที่จะทำได้ แต่เขาก็ยังทำไม่เร็วพอที่จะหลบสายตาที่แหลมค
”เฮ้ นี่เนท! พนักงานคนใหม่ทำพลาดครั้งใหญ่จริง ๆ ว่าไหม? รอจนกว่าระยะเวลาทดลองงานของเขาสิ้นสุดลง หัวหน้าแผนกจะไม่ให้เขาผ่านแน่นอน!” คนสูบบุหรี่คนหนึ่งพูดอย่างอวดดี“นายเข้าใจถูกแล้ว! เขากล้าที่จะกวนประสาทเนท เนทจะต้องทำให้ชีวิตของผู้ชายคนนั้นกลายเป็นฝันร้ายแน่ ๆ ตราบใดที่เขายังอยู่ที่นี่!” ผู้ชายอีกคนเสริม “พูดหน่อยเถอะ! ทำไมฉันต้องไปยุ่งกับเขาด้วย!” บุคคลที่สามกล่าว“ยังไงก็ตาม ฉันต้องจับตาดู เบียนก้าและทำให้แน่ใจว่าไม่มีใครกล้ายุ่งกับเธอแม้แต่น้อย!” เสียงสะท้อนที่คุ้นเคยและหยิ่งผยอง“อย่าฝันไปเลย!” เนทบอกทุกคนที่อยู่ในห้องน้ำ จากนั้นพวกเขาทั้งหมดก็ทิ้งก้นบุหรี่ไปทีละคน เจอรัลด์ซ่อนตัวอยู่ในร้านขายของแห่งหนึ่ง และเขาได้ยินการสนทนาทั้งหมดของพวกเขา เนทที่พวกเขาคุยด้วยไม่ต้องสงสัยเลยว่าคือ นาธาเนล เห็นได้ชัดว่านาธาเนลเป็นคนเรียกคุณเมอร์ฟีมาที่สำนักงานก่อนหน้านี้ ในฐานะรองหัวหน้าทีม เขาจะรู้เรื่องนิสัยของมีน่าในสำนักงานอย่างแน่นอน หลังจากเห็นเธอยื่นยูเอสบีให้เจอรัลด์ และรู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงอารมณ์ร้อนมากแค่ไหน นาธาเนลก็ใช้เหตุการณ์ที่เปลี่ยนไปเป็นโอกาสสำคัญที่จะทำให้เขาขายหน้า ผู้
พวกเขาได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วในตอนที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่มีใครหรือรถคันอื่นใดอยู่รอบ ๆ เลยแม้แต่คันเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ยังอยู่ในรถเพียงลำพังด้วยนั่นหมายความว่าสถานการณ์ที่ผู้เฒ่าฟลินท์พบกับอุบัติเหตุนั้นแปลกประหลาดอย่างยิ่งในวิดีโอที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นแสดงให้เห็นว่ารถของผู้เฒ่าฟลินท์ลื่นไถลและหลุดการควบคุมไปเองในทันทีเจอรัลด์และเรย์ได้รับการปล่อยตัวในช่วงบ่ายนั้นเองพวกเขานั่งแท็กซี่กลับไปที่สำนักงานระหว่างทางกลับ เรย์มองเจอรัลด์ด้วยสีหน้างุนงงอย่างหนักแล้วถามว่า “เจอรัลด์ คุณคิดเห็นยังไงกับการตายของผู้เฒ่าฟลินท์?เขาตายได้ยังไง?”ใบหน้าของเจอรัลด์เคร่งเครียดมาก เขาเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน แต่ถึงกระนั้นเขาก็มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุธรรมดาแน่นอน“นี่หมายความว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดยังไม่ตายเหรอ?”วินาทีต่อมา ความคิดอันบ้าบิ่นก็ผุดขึ้นในใจของเรย์เจอรัลด์รู้สึกว่าการคาดเดานี้เป็นไปได้น้อยมาก นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดตายไปต่อหน้าต่อตาเขาเอง แล้วเขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?“เรากลับก่อนเถอะ บางทีมันอาจจะเป็นแค่อุบัติเหตุจริง ๆ ก็ได้!”เจอรัลด์บอก
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เจอรัลด์และเรย์ยังคงหลับอยู่ กริ่งที่ประตูก็ปลุกพวกเขาให้ตื่นเรย์เดินออกจากห้องไปที่ประตูในลักษณะกึ่งหลับกึ่งตื่นแล้วเปิดประตูออกเมื่อประตูถูกเปิดออก เขาก็ได้เห็นชายสองสามคนซึ่งกำลังสวมเครื่องแบบยืนอยู่ข้างนอก เมื่อเห็นตราบนเครื่องแบบของพวกเขา พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้มาจากรัฐบาลกลาง“ขออภัย คุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ดและคุณเรย์ เลห์ตันอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาถามเรย์พยักหน้าและตอบว่า “ผมนี่แหละเรย์ มีอะไรเหรอ?""พาเขาออกไป!"เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเรย์ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็สั่งคนของเขา และทันใดนั้นเอง เจ้าหน้าที่อีกสองคนก็เข้ามาคว้าแขนของเรย์แล้วลากเขาออกไปข้างนอก"เฮ้ย! นี่มันอะไรกัน?!"เรย์ตะโกนทันทีความโกลาหลดังกล่าวทำให้เจอรัลด์ จูโน่ และโนริตื่นขึ้นพวกเขาออกจากห้องอย่างรวดเร็ว"คุณเป็นใคร?"เมื่อเจอรัลด์ออกมา เขาก็มองดูเจ้าหน้าที่พวกนั้นด้วยความประหลาดใจและเอ่ยถามขึ้น“คุณคงเป็นคุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ด เรากำลังสงสัยว่าคุณเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรม สารวัตรเลค หรือที่รู้จักกันในชื่อผู้เฒ่าฟลินท์ ดังนั้นเราต้องการนำคุณไปสอบ
ในเวลาเดียวกัน หมอกควันสีทมิฬของเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ล้อมรอบกายของชายชราเอาไว้หลังจากนั้นไม่นาน หมอกควันสีทมิฬดังกล่าวก็ดูดกลืนวิญญาณและพลังงานของชายชราไป ทำให้ชายกลายเป็นศพแห้งกรังเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกสิ่งนี้ทำให้เอ็มเบอร์ลอร์ดตระหนกเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้คาดหวังให้เกิดผลลัพธ์เช่นนี้ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่คิดแล้วว่าชายชราจะมาสกัดกั้นการโจมตีจากเจอรัลด์แทนเขาแบบนี้“เอ็มเบอร์ลอร์ด คุณฆ่าคนบริสุทธิ์อีกแล้ว!”เจอรัลด์ตะโกนใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดด้วยความโกรธเมื่อพูดเช่นนั้น เจอรัลด์จึงตัดสินใจใช้ทักษะต้องห้ามของตัวเองเพื่อทำลายเอ็มเบอร์ลอร์ดให้สิ้นซากในขณะนี้เอ็มเบอร์ลอร์ดเสียสติไปแล้ว เขายืนนิ่งไม่ขยับ ราวกับสูญเสียจิตวิญญาณของตัวเองไป “วิชาทลายสหัสภพ!”เจอรัลด์ตะโกนและขว้างดาบแอสตราบิซในมือใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดเมื่อดาบแทงเข้าไปในร่างของเอ็มเบอร์ลอร์ด มันก็เปล่งแสงเจิดจ้าออกมาและกลืนกินเอ็มเบอร์ลอร์ดไปจนสิ้น“อ๊าก!”เอ็มเบอร์ลอร์ดกรีดร้องวินาทีต่อมา เอ็มเบอร์ลอร์ดก็กลายเป็นเถ้าถ่านในที่สุด เจอรัลด์ก็กวาดล้างเอ็มเบอร์ลอร์ดลงได้แล้วเจอรัลด์ล้างแค้นให้ชาวบ้านในหมู่บ้านฟ้าทมิฬได้แล้ว
ทั้งสามรีบมองออกไปข้างนอก ก่อนจะเห็นว่าชายชราออกจากบ้านไปตามลำพังโดยถือตะกร้าติดตัวไปด้วยขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังกระท่อมไม้ของยามิเล็ต เฟซเมื่อเห็นสิ่งนี้ ทั้งสามก็สบตากันพวกเขาพบว่ามันค่อนข้างแปลกที่ชายชราคิดจะถือตะกร้าออกไปกลางดึกเช่นนี้ นี่จะต้องมีความลับบางอย่างที่ไม่มีใครล่วงรู้ซ่อนอยู่เป็นแน่ไม่นานหลังจากนั้น เจอรัลด์และทั้งสองก็ออกจากบ้านและติดตามชายชราไปอย่างเงียบ ๆพวกเขาติดตามชายชราไปจนถึงกระท่อมไม้ จากนั้นพวกเขาเห็นเขาหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเพื่อปลดล็อคประตูเมื่อประตูถูกปลดล็อค ชายชราผู้นั้นสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างระมัดระวัง หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เขาก็ผลักประตูเปิดออกแล้วเดินเข้าไปอย่างมั่นใจเจอรัลด์และอีกสองคนก็เดินไปที่กระท่อมไม้ทันทีและยืนอยู่ตรงหน้ากระท่อมหลังนั้น“เจอรัลด์ ดูเหมือนว่าชายชรากำลังปิดบังอะไรบางอย่างกับเรา เพราะเขามีกุญแจบ้านหลังนี้อยู่กับตัว!”เรย์กระซิบกับเจอรัลด์ตอนนี้พวกเขาตระหนักได้แล้วว่าชายชราไม่ใช่คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างที่คิด เขาต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเอ็มเบอร์ลอร์ดแน่“เรย์ ผู้เฒ่าฟลินท์ คุณสองคนไปซ่อนตัวก่อน เ
“เอ๋ นี่ก็ดึกแล้วนะ! ผมว่าคนที่คุณกำลังรออยู่คงไม่มาหรอก มาเถอะไปที่บ้านของผมและพักผ่อนกันจะดีกว่า!”ชายชราถอนหายใจและยื่นข้อเสนอให้ทั้งสามคนเมื่อผู้เฒ่าฟลินท์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็หันกลับมาที่เจอรัลด์เพื่อสอบถามความคิดเห็นของเขาเจอรัลด์เห็นปฏิกิริยาของเขาและพยักหน้าอย่างช้า ๆเนื่องจากพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงไปพักผ่อนที่บ้านของชายชราเท่านั้นนอกจากนี้ ท้องฟ้ามืดสนิท และไม่ปลอดภัยเลย ไม่รู้เลยว่าข้างนอกนี่มีอะไรรอพวกเขาอยู่?หลังจากพูดคุยกัน เจอรัลด์และคนอื่น ๆ ก็ติดตามชายชราออกจากกระท่อมไม้ไปชายชราพาเจอรัลด์และคนอื่น ๆ ไปที่บ้านของเขา บ้านของเขาดูไม่เก่าเท่าไหร่ ราวกับเพิ่งถูกซ่อมแซมใหม่ก่อนหน้านี้“ผู้เฒ่า หมู่บ้านนี้เหลือคุณอยู่เพียงคนเดียวหรือเปล่า?”เมื่อพวกเขาอยู่ในบ้านของชายชรา ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ถามอย่างสงสัย"หึหึ!" ชายชราหัวเราะเบา ๆ"ใช่ คนอื่น ๆ ย้ายไปอยู่ในเมืองกันหมด ที่นี่เลยเหลือแค่ฉันคนเดียว!”หลังจากที่เขาหัวเราะแล้วเขาก็ตอบ“แล้วทำไมคุณไม่ย้ายเข้าเมืองด้วยล่ะ? อยู่ในเมืองไม่สบายกว่าเหรอ?”ผู้เฒ่าฟลินท์ยังคงถามต่อไป“อนิจจา ผมมันไร้ญา
“หึหึ เรย์ อย่าลืมสิว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว เขาน่ากลัวกว่าผีเสียอีก กับอีกแค่สถานที่แบบนี้นายคิดว่าเขาจะกลัวเหรอ”เจอรัลด์หัวเราะและเตือนเรย์เมื่อเรย์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดสมเหตุสมผล “สำรวจกันตามสบายเลย ผมคงต้องไปก่อน!”ชายชราพูดกับทั้งสามคน“ได้เลย ผู้เฒ่า ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณมากเลย!"ผู้เฒ่าฟลินท์ขอบคุณชายชราผู้นั้นอย่างรวดเร็ว“ไม่เป็นไรหรอก!”ชายชราตอบพลางโบกมือหลังจากที่ชายชราผู้นั้นจากไป เจอรัลด์และอีกสองคนก็ยืนอยู่หน้ากระท่อมไม้ จ้องมองออกไปอย่างว่างเปล่าพวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำอะไร พวกเขาไม่อาจเข้าไปในกระท่อมได้ และไม่รู้ด้วยว่าจะเข้าไปเช่นไร“พี่เจอรัลด์ ผู้เฒ่าฟลินท์ ทีนี้เราจะทำยังไงดี? เปิดประตูออกไปเลยดีไหม?”เรย์มองไปที่เจอรัลด์และผู้เฒ่าฟลินท์แล้วถาม“ไม่ นั่นไร้สาระมาก เราบุกรุกเข้าไปไม่ได้!”ผู้เฒ่าฟลินท์ปรามเรย์ทันทีแม้ว่ายามิเล็ต เฟซจะไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว แต่กระท่อมหลังนี้ยังคงเป็นของเธอ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจทำตามอำเภอใจได้“แล้วเราควรทำยังไง? เราไม่มีกุญแจ”เรย์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“เ
ไม่มีทางที่ข้อเท็จจริงทั้งสองนี้จะเป็นเรื่องบังเอิญได้ เพราะฉะนั้นนั่นก็อาจหมายความได้ว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดกำลังซ่อนตัวอยู่ที่นั่น แต่เพราะนี้คือคำใบ้ที่เอ็มเบอร์ลอร์ทิ้งไว้ให้พวกเขา จึงเป็นไปได้ว่าแทนที่จะไปพบเขาที่นั่น พวกเขาจะออกค้นหาตำแหน่งของเหยื่อรายต่อไปแทน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผู้เฒ่าฟลินท์ก็สตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งไปทันที! พวกเขาจำเป็นต้องมุ่งหน้าไปที่บ้านของยามิเล็ต เฟซเดี๋ยวนี้! “คุณแน่ใจจริง ๆ เหรอว่า เอ็มเบอร์ลอร์ดจะซ่อนอยู่ที่นั่น พี่เจอรัลด์…?” เรย์ถามระหว่างทางไปที่นั่น เจอรัลด์ส่ายหน้าแล้วตอบด้วยสีหน้าจริงจังว่า “บอกตามตรง ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดเป็นคนจู้จี้จุกจิกและไม่เคยทำตามกฎเกณฑ์ ฉันเดาว่าเลขพวกนี้จะนำเราไปสู่เหยื่อรายต่อไป แต่ในการตามหาเหยื่อรายนั้น เราจะเข้าใกล้ที่กบดานของเอ็มเบอร์ลอร์ดอีกก้าวหนึ่งอย่างแน่นอน!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เรย์ก็พยักหน้าเข้าใจ... หลังจากขับรถไปประมาณสี่สิบนาที ในที่สุดทั้งสามก็มาถึงบ้านคุณยายของเอ็มเบอร์ลอร์ด ยามิเล็ตอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ อันห่างไกล และไม่นานทั้งสามก็เดินอยู่ในถนนของหมู่บ้าน
"สวัสดี? เจอรัลด์มีอะไรหรือเปล่า?” ผู้เฒ่าฟลินท์ถามจากอีกฟากหนึ่งของสาย “ผู้เฒ่าฟลินท์ ถึงผมจะรู้ว่าคุณไม่อาจยอมให้เราเข้าร่วมการสืบสวนได้ แต่ผมก็หวังว่าคุณจะสามารถช่วยเราได้ นั่นก็แปลว่าหากคุณต้องการคลี่คลายคดีและจับเอ็มเบอร์ลอร์ดให้ได้ ก็ช่วยตั้งใจฟังผมและเชื่อผมด้วย ทุกสิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณต่อไปนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งทีเดียว!” เจอรัลด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ทว่าในที่สุดเขาก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาสามารถไว้ใจเจอรัลด์ได้ ดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะเสี่ยงเหนือสิ่งอื่นใด ทั้งเขาและเด็กหนุ่มต่างก็ต้องการให้คดีคลี่คลายลงและจับตัวเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ในท้ายที่สุด “…เอาล่ะ บอกมาว่าฉันจะช่วยยังไงได้บ้าง!” “มุ่งหน้าไปที่สำนักงานเขตเดี๋ยวนี้เลย ผมเองก็จะไปที่นั่นด้วยเช่นกัน แล้วเมื่อเราพบกันที่นั่นผมจะบอกข้อมูลเพิ่มเติมกับคุณทีหลัง!” เจอรัลด์ตอบก่อนจะวางสาย ครึ่งชั่วโมงต่อมาเรย์และเจอรัลด์ได้พบกับผู้เฒ่าฟลินท์ ณ สถานที่ที่พวกเขานัดกัน “เรามาทำอะไรที่นี่ เจอรัลด์…?” ผู้เฒ่าฟลินท์เอ่ยถามอย่างสับสน “ฟังนะ ผมต้องการให้คุณตรวจสอบประวัต
เมื่อตระหนักว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้เฒ่าฟลินท์ เจอรัลด์และเรย์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกผู้เฒ่าฟลินท์อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วเล็กน้อยในขณะที่เขาถามอย่างงุนงงว่า “…พวกนายสองคนเองเหรอ? มาทำอะไรกันที่นี่? แล้วเข้ามาที่นี่ได้ยังไง?”หัวหน้าสารวัตรมีคำสั่งไม่ให้เขาติดต่อกับเจอรัลด์อีกต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้รับแจ้งว่าเจอรัลด์ไม่ได้รับอนุญาตให้มาช่วยในการสืบสวนอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ผู้เฒ่าฟลินท์จึงทำได้เพียงเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาของเขาเท่านั้น“เรามาตามหาเบาะแส!” เจอรัลด์ตอบ “ฟังนะ ฉันต้องขอโทษ ด้วย แต่นายสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้มายุ่งย่ามกับคดีนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นได้โปรดออกไปเสีย! ถ้านายกลับมาที่นี่อีกครั้ง เราก็จำเป็นต้องจับพวกนายกลับไปกับเราด้วย!” ผู้เฒ่าฟลินท์เตือน เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ทำเพียงแค่พยักหน้า ด้วยความที่ไม่อยากสร้างเรื่องยุ่งยากให้แก่ตาเฒ่าคนนี้ เจอรัลด์จึงตอบกลับไปว่า “รับทราบ!” ขณะที่เขากำลังจะจากไปพร้อมกับเรย์ เขาก็ได้ยินเสียงผู้เฒ่าฟลินท์ตะโกนว่า "เดี๋ยวก่อน! ตอนที่อยู่ที่นี่นายได้พบเบาะแสอะไรบ้างหรือเปล่า? ถ้ามีล่ะก็ช่วยมอบมันให้เราด้วย!” เ