“คุณพูดถูกครับ คุณคลอฟอร์ด!” เซลิกตอบ ขณะที่เขาเริ่มทำแผลให้ตัวเองทันที เมื่อเสร็จแล้ว เขาก็ออกเดินทางพร้อมกับเจอรัลด์และโนริ โชคดีที่เหยื่อรายต่อมาที่พวกเขาพบเจอนั้นค่อนข้างอ่อนแอ ดังนั้นพวกเขาทั้งสามคนจึงใช้เวลาไม่นานนักก็สามารถรวบรวมหินศักดิ์สิทธิ์ทั้งแปดก้อนที่เหลือได้จนครบ... เมื่อทำเสร็จแล้ว พวกเขาก็รีบกลับไปที่ทางออกอย่างรวดเร็วเพื่อยืนยันตัวตน และหลังจากนั้น พวกเขาก็ออกจากพื้นที่แห่งภาพลวงตา เมื่อกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง พวกเขาแต่ละคนได้รับเหรียญไม้ ซึ่งใช้เป็นข้อพิสูจน์ว่าพวกเขาผ่านการแข่งขัน และยังนำไปใช้เป็นบัตร 'ผ่าน' ในการเดินทางเข้าสู่ทวีปไลคอมได้อีกด้วย ซึ่งก็หมายความว่าผู้ที่ไม่ได้รับเหรียญไม้นี้ จะไม่ได้รับอนุญาติให้ข้ามทวีปเข้าไปได้ หลังจากที่รออยู่ที่ทางเข้ามาได้ระยะหนึ่งแล้ว ทั้งสามคนก็เดินทางผ่านประตูมิติแห่งแรกไปได้อย่างไม่ยากเย็นนัก... พวกเขาปกป้องดวงตาของพวกเขาจากแสงสีขาวอันเจิดจ้า และในที่สุดพวกเขาก็เดินทางเข้าสู่ทวีปไลคอมได้อย่างไร้ปัญหา เนื่องจากเจอรัลด์เพิ่งเคยมาที่นี่เป็นครั้งแรก เขาจึงผงะไปชั่วขณะกับความสวยงามของสถานที่แห่งนี้ ไม่เพียงแต่
อย่างไรก็ตาม หลังจากรอสักพัก ในที่สุดพวกเขาทั้งสามคนก็มีโอกาสเปิดเผยของที่จะนำมาประมูลของตนต่อผู้ประเมินราคา เมื่อนำจี้หยกออกมาให้เขาดู ผู้ประเมินราคาก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจ หลังจากสังเกตอย่างถี่ถ้วนสักพัก ผู้ประเมินก็พูดว่า “…มากับผมสิ! พวกคุณทั้งสามคน!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทั้งสามคนก็เดินตามเขาเข้าไปในโรงประมูลออรัม… เมื่อเข้าไปข้างใน ไม่นานพวกเขาก็พบกับชายชราคนหนึ่งที่สวมมงกุฏทองคำบนศีรษะ หลังจากที่ผู้ประเมินมอบจี้หยกให้ชายชรา เขาก็กระซิบบางอย่างเข้าหู ทำให้ชายชรามีท่าทีที่ประหลาดใจเล็กน้อย หลังจากที่เขาจ้องมองเจอรัลด์สักพัก ชายชราก็ถามว่า “คุณไปเอาจี้หยกมังกรเขียวนี้มาจากไหน?” แม้ว่าในตอนแรกเขาจะลังเลเล็กน้อยที่จะเปิดเผยข้อมูล แต่ในที่สุดเจอรัลด์ก็ตอบว่า “ผมได้มันมาหลังจากสังหารมังกรเขียวตัวหนึ่งที่ผมเจอระหว่างการท้าทายแห่งแดนสวรรค์ได้!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น ความประหลาดของชายชราก็กลายเป็นความยินดีในทันที “ไม่คิดเลยว่าคุณจะสามารถสังหารมังกรเขียวได้! ผมแค่อยากจะบอกให้คุณรู้ไว้ว่าจี้หยกนี้มีคุณค่าอย่างเหลือเชื่อ เนื่องจากวิธีเดียวที่จะหามันมาได้คือการเอาชนะมังกรตัวน
“เราจะเริ่มประมูลที่หนึ่งแสนเหรียญทอง! เพื่อเป็นการเตือนความจำ การเสนอราคาประมูลในแต่ละครั้งจะต้องเกินห้าหมื่นเหรียญทองขึ้นไปนะครับ!” ชายชราสวมมงกุฎอธิบาย ตอนนี้กระบวนการประมูลได้เริ่มต้นอย่างเป็นทางการแล้ว ฝูงชนก็เกิดความโกลาหลทันที! “สองแสนเหรียญทอง!” ชายผู้มีฐานะร่ำรวยคนหนึ่งตะโกน เนื่องจากเขาได้เสนอราคาเพิ่มอีกหนึ่งแสนเหรียญทองทันที จึงเป็นที่แน่ชัดว่าเขาเป็นคนที่ร่ำรวยอย่างมหาศาล อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นชายอ้วนคนหนึ่งซึ่งนั่งอยู่ตรงข้ามกับผู้ประมูลคนก่อนก็ลุกขึ้นยืน ก่อนจะตะโกนว่า “สามแสนเหรียญทอง!” หากจะให้พูดตามตรง เจอรัลด์และอีกสองคนรู้สึกว่าพัดโบราณนั้นไม่คุ้มค่ากับราคาประมูลที่พวกเขากำลังเสนอนัก ถึงกระนั้น พวกเขามีสิทธิ์อะไรที่จะไปตัดสินคนเหล่านี้? พวกเขารวยมาก ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถทำอะไรก็ได้กับเงินของพวกเขา ในที่สุด พัดก็ถูกขายให้กับนักธุรกิจคนแรกที่เริ่มประมูลในราคาสูงถึงหกแสนเหรียญทอง! หลังจากนั้น เวลาก็ผ่านไปประมาณสองชั่วโมงกับการประมูลของอีกสองรายการ เนื่องจากจี้หยกมังกรเขียวของเจอรัลด์เป็นสินค้ารายการที่สี่ และรายการสุดท้ายที่จะประมูลในวันนั้น ทั้งสามจึง
ในที่สุดโนริก็หลุดออกจากภวังค์ เธอมองหน้าเจอรัลด์ก่อนจะถามว่า “…นั่น… มันเยอะมากเลยนะ เราจะแบกเหรียญทองพวกนี้กลับไปยังไงล่ะ เจอรัลด์…?” แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องจริงที่มีหีบอยู่สามใบ และในทางเทคนิกแล้ว ทั้งสามคนสามารถช่วยกันถือหีบคนละใบได้ แต่มันจะยุ่งยากเกินไปในระยะยาว ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อผู้คนเห็นทองทั้งหมดนั้น พวกเขาก็อาจจะวางแผนปล้นเพื่อแย่งชิงทองไปอย่างแน่นอน... เมื่อตระหนักว่าเจอรัลด์กำลังเครียดกับวิธีนำเหรียญทองทั้งหมดกลับไป ชายชราที่สวมมงกุฎจึงยื่นแหวนวงเล็ก ๆ ให้เขา เจอรัลด์ตกใจเล็กน้อยที่ได้รับแหวน เขาอดไม่ได้ที่จะถามว่า “…ขอโทษนะครับ แต่คุณให้แหวนวงนี้กับผมทำไม…?” “มันเป็นแหวนเก็บของที่มีพื้นที่เก็บของขนาดใหญ่เป็นพิเศษ! คุณสามารถเก็บทองของคุณไว้ในนั้นได้ เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องกังวลกับการพกพามันไปไหนต่อไหนด้วย!” ชายชราอธิบายด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตร “นั่น… ผมรับของแบบนี้ไว้ไม่ได้หรอกครับ! เอาแบบนี้ดีไหม? ผมจะซื้อแหวนวงนี้จากคุณในราคาหนึ่งล้านเหรียญทอง! คุณจะยอมรับข้อเสนอของผมไหม?” เจอรัลด์ถาม เขาไม่ใช่คนที่จะเที่ยวรับของจากใครโดยไม่มีสิ่งตอบแทน เมื่อเห็นว่าเจอรัลด์มีไหว
เจอรัลด์พยักหน้าเป็นการตอบเขา “ใช่ครับ ผมและเพื่อน ๆ มาจากจาเอลตรา และเนื่องจากเราไม่มีเงิน ผมจึงตัดสินใจขายจี้หยกชิ้นนี้!” “…คุณ… คุณไม่รู้เหรอว่าจี้หยกมังกรเขียวนี้มีค่าแค่ไหน…?” เจ้าชายเซเวรินพึมพำด้วยความสับสน เจอรัลด์ไม่รู้เรื่องนั้นจริง ๆ หากจะให้พูดตามตรง ถ้าเขาไม่ต้องการเงินมากนัก เขาคงไม่ขายจี้หยกชิ้นนี้ เพราะท้ายที่สุดแล้ว เขายังไม่ได้ใช้เวลาศึกษามันด้วยซ้ำ ถึงกระนั้น น้ำเสียงของเจ้าชายเซเวรินเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอที่จะบอกเจอรัลด์ได้ว่าจี้หยกนี้เป็นสมบัติที่ล้ำค่าแค่ไหน... ในตอนนี้เจอรัลด์เริ่มอยากรู้อยากเห็นมากขึ้น เขาส่ายหัวก่อนจะถามว่า “ผมเกรงว่าผมจะไม่รู้จริง ๆ ครับ เจ้าชายเซเวรินโปรดให้ความกระจ่างแก่ผมด้วย!” "…ได้สิ! คืออย่างนี้นะ จี้หยกที่คุณขายให้ผมนั้นเป็นสัญลักษณ์ของมังกรเขียว และผู้ที่เป็นเจ้าของมันก็จะได้รับพลังของมังกรเขียว! ในกรณีที่คุณไม่รู้ ในบรรดาสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่ มังกรเขียวนั้นแข็งแกร่งที่สุด!” เซเวรินอธิบาย เมื่อได้ยินดังนั้น ทั้งสามคนก็ต้องประหลาดใจทันที พวกเขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าจี้หยกจะมีประโยชน์ขนาดนี้! ตอนนี้เมื่อเขารู้แล้วว่าจี้หยกนั
ขณะที่เธอกำลังจะเอื้อมมือไปแตะมัน ลูกมังกรก็ตอบสนองด้วยเสียงคำรามเล็กน้อย! แม้ว่ามังกรตัวเล็กจะมีเขี้ยวเล็ก ๆ อยู่สองเขี้ยว แต่การปฏิกิริยาของมันกลับทำให้หัวใจของโนริละลายยิ่งขึ้นไปอีก "โอ้…? เธอจะใจร้ายกับฉันทั้ง ๆ ที่ฉันปฏิบัติต่อเธออย่างดีเหรอ เจ้าตัวน้อย?” โนริขมวดคิ้วและพูดจาหยอกล้อมัน ดูเหมือนจะเข้าใจว่ามันถูกดุ ลูกมังกรจึงขดตัวเป็นลูกบอลอย่างรวดเร็ว... เมื่อเห็นเช่นนั้น เจอรัลด์ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้ม เจอรัลด์เอื้อมมือออกไปยกลูกมังกรขึ้นก่อนจะวางมันไว้บนฝ่ามือของเขา… ตรงกันข้ามกับปฏิกิริยาเริ่มแรกที่มีต่อโนริ มังกรดูเหมือนจะเชื่อใจเจอรัลด์มากกว่า และสิ่งนี้เห็นได้ชัดจากการที่มันเอาแก้มถูกับฝ่ามือของเขา เมื่อเห็นว่ามังกรเข้ากับเจอรัลด์ได้ โนริก็พูดด้วยน้ำเสียงร่าเริงว่า “ดูเหมือนเจ้าตัวน้อยจะเชื่อใจคุณมากเลยนะ! มันไม่ได้พยายามที่จะสู้คุณตอนที่คุณสัมผัสมันครั้งแรก!” ความจริงก็คือ มังกรน้อยเพียงแต่ประพฤติเช่นนี้เนื่องจากมันคุ้นเคยกับกลิ่นของเจอรัลด์ ท้ายที่สุดแล้ว เขาเป็นคนที่แบกไข่ใบนี้ติดตัวไปไหนมาไหนตลอดเวลา ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่มังกรจะไว้วางใจเจอรัลด์มากที
เมื่อสรุปได้เช่นนั้น พวกเขาทั้งสามคนก็เงยหน้าขึ้นมองด้านบน… และต้องประหลาดใจเมื่อเห็นผลไม้จำนวนนับไม่ถ้วนเปล่งแสงสีชมพูพร่างพรายอยู่บนต้นไม้ต้นนั้น! "พระเจ้า! ผลไม้พวกนั้นดูสวยงามและชุ่มฉ่ำมาก! มันเป็นผลไม้ชนิดไหนกันนะ?” โนริอุทานด้วยความตกตะลึง เธอไม่ได้พูดเกินจริงเลยเมื่อเธออธิบายว่าผลไม้เหล่านั้นดูน่าทึ่งเพียงใด ดูจากรูปลักษณ์ของมันแล้ว ผลไม้นั้นน่าจะมีถิ่นกำเนิดในทวีปไลคอมเท่านั้น… หลังจากที่เก็บผลไม้มาหนึ่งผล เจอรัลด์ก็สัมผัสได้ถึงพลังงานประหลาดที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากผลไม้นั้นทันที ช่างน่าลึกลับ… ไม่ถึงวินาทีต่อมา ทั้งสามคนก็ต้องชะงัก เมื่อพวกเขาเห็นผู้หญิงที่สวมเสื้อคลุมสีขาวและมีปีกสีขาวที่งอกอยู่บนหลังสองคนลอยลงมาจากท้องฟ้า! “พวกคุณเป็นใครกัน? กล้าดียังไงมาขโมยผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ของเรา!” ผู้หญิงคนหนึ่งตะโกน ขณะที่เธอชี้ไปที่เจอรัลด์ด้วยความโกรธ “ผู้หญิงพวกนี้ทรงพลังมากนะ พี่เจอรัลด์!” เซลิกเตือน เมื่อเห็นว่าผู้หญิงสองคนนั้นดูแปลกประหลาดมากแค่ไหน จากสิ่งที่เขาสามารถบอกได้ อย่างน้อยพวกเธอก็น่าจะเข้าสู่จิตวิญญาณระดับสี่ในอาณาจักรนักปราชญ์! “อืม… ต้องขออภัยด้วยนะครับ แต่
“ประการหนึ่ง ผลไม้ชนิดนี้เป็นผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่เรียกว่าแอปเปิ้ลแห่งสวรรค์!” หญิงสวมมงกุฎอธิบาย ขณะที่เธอเล่าต่อ เจอรัลด์ก็ได้เรียนรู้ว่าทุก ๆ หนึ่งร้อยปี ผลแอปเปิ้ลแห่งสวรรค์จะสุกเพียงหนึ่งครั้ง เนื่องจากผลไม้นี้สามารถเติมพลังงานและรักษาบาดแผลได้ มันจึงเป็นส่วนผสมทางเภสัชกรรมขั้นพื้นฐานในทวีปไลคอม “…เอาล่ะ แต่… นั่นไม่ได้อธิบายว่าทำไมมังกรถึงหมกมุ่นในแอปเปิ้ลแห่งสวรรค์มากถึงขนาดนั้น ขอบอกไว้เลยว่าก่อนหน้านี้ผมก็ป้อนเนื้อให้มันแล้วด้วยซ้ำ แต่มันแทบจะไม่แตะเลยสักนิด!” เจอรัลด์ซึ่งกำลังสับสนเอ่ยปากพูด หญิงสาวสวมมงกุฎหัวเราะคิกคักแล้วตอบว่า "หากเป็นเช่นนี้ ตอนนี้ฉันก็มั่นใจมากยิ่งกว่าเดิมแล้วว่ามังกรเขียวตัวนี้ คือหนึ่งในสัตว์ศักดิ์สิทธิ์แห่งทวีปไลคอม เดาว่าคุณคงไปเจอมันเข้าตอนที่อยู่ที่ลานประลองแห่งสรวงสวรรค์? ยังไงก็เถอะ รู้ไว้ซะด้วยว่ามังกรตัวนี้จะกินแค่แอปเปิ้ลแห่งสวรรค์เท่านั้น!” เมื่อเห็นว่าเจอรัลด์เข้าใจในคำพูดของเธอ หญิงสาวสวมมงกุฎก็กระแอมในลำคอก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังมากขึ้นว่า “ไม่ว่ายังไงก็ตาม ในเมื่อเจ้ามังกรเขียวตัวน้อยเลือกให้คุณเป็นเจ้านายของมัน ฉันก็มั่นใจว่าค