ใกล้กับเขตแดนของยานัมในปัจจุบัน สิ่งที่เคยเป็นหอคอยมังกรได้กลายมาเป็นอาคารที่มีลักษณะเหมือนปราสาท ทหารประจำการและผู้ฝึกฝนที่แข็งแกร่งอีกสองสามคนกำลังคุ้มกันอาคารอย่างแน่นหนา ไม่มีใครกล้าแม้แต่จะอยู่ในรัศมีหนึ่งร้อยไมล์จากพื้นที่แห่งนี้... ในพื้นที่ด้านในสุดของอาคาร จะเห็นทหารยามชราที่ดูน่าเกรงขามสิบคนยืนอยู่ทั้งสองด้านของทางเข้าที่นำไปสู่ถ้ำหินที่ดูลึกลับ… “ท่านอาจารย์ยังไม่ออกมาอีกเหรอ…?” ทหารยามคนหนึ่งกระซิบด้วยเสียงที่แผ่วเบา ในขณะเดียวกัน ทหารยามอีกคนหนึ่งก็เดินไปมาโดยเอามือไพล่หลังไว้ หลังจากนั้นไม่นาน จูเลียน ซึ่งเป็นหนึ่งในทหารยามก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มขณะที่เขาพูดว่า “คาร์ลอส คุณช่วยหยุดเดินไปมาสักทีจะได้ไหม? คุณทำให้ผมเวียนหัวไปหมดแล้ว!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น ชายที่เหลืออีกแปดคนก็เริ่มหยอกล้อคาร์ลอสเช่นกัน ทหารยามอีกแปดคนเป็นผู้ฝึกฝนวิชาที่แข็งแกร่ง ซึ่งมาขอติดตามเจอรัลด์ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา และพวกเขาก็ไม่ใช่คนเพียงกลุ่มเดียวที่ทำเช่นนั้น พูดกันตามตรง มีผู้ฝึกฝนที่แข็งแกร่งอีกมากมายที่ตัดสินใจเข้ามาขอเป็นผู้ติดตามของราชาแห่งทิศเหนือผู้นี้ จากที่กล่าวมา องค์กรของเขาได
ด้วยเสียงดัง 'ครืด' ในที่สุดประตูหินก็ถูกเปิดออกจนสุด และเจอรัลด์ก็ก้าวออกมา... แม้ว่ารูปร่างหน้าตาของเขาจะไม่ได้เปลี่ยนไปมากนักในช่วงห้าปีที่ผ่านมา แต่อารมณ์ของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ถ้าจะให้อธิบายตอนนี้ เขาเปล่งรัศมีที่ดูน่าเกรงขามกว่าเดิม "ท่านอาจารย์!" ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นตะโกนเรียก ขณะที่พวกเขาโค้งคำนับด้วยสีหน้าที่ซาบซึ้ง เจอรัลด์พยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นเขาก็หันไปมองมิล่าที่มีสีหน้าพึงพอใจ และเธอก็ไม่สามารถห้ามตัวเองไม่ให้พูดว่า “ในที่สุดเธอก็กลับมาแล้ว เจอรัลด์…!” "ใช่ แต่ถึงกระนั้นฉันก็ต้องเร่งฝึกฝน มิฉะนั้น ฉันจะไม่สามารถรับมือกับการโจมตีซ้ำซากจากพวกองค์กรเจ้าแห่งการทำลายล้างและราชาแห่งจักระได้!” เจอรัลด์ตอบ “ตอนนี้ท่านกำลังมีรัศมีที่ดูไม่ธรรมดาเลย นายท่าน… เป็นไปได้หรือไม่ว่าท่านจะกลายเป็นราชาจักระระดับแปดไปแล้ว…?” คาร์ลอสถาม เขารู้สึกประหลาดใจกับการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ที่เขาสัมผัสได้ในตัวเจอรัลด์ "ถูกต้องแล้ว ด้วยความช่วยเหลือของแหล่งที่มาของวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ฉันสามารถบรรลุถึงระดับแปดได้เมื่อประมาณครึ่งปีก่อน น่าเศร้าที่ฉันไม่สามารถพัฒนาให้ไกลกว่านั้นไ
เมื่อมองไปที่สีหน้าที่เปลี่ยนแปลงของเจอรัลด์ ผู้นำวิญญาณทำท่าเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะปิดปากของเขาเอาไว้ มิล่าเองก็ทำหน้าสลดเพราะรู้สึกผิด แม้ว่าการแสดงออกของพวกเขาแทบจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่เจอรัลด์ก็ยังสังเกตเห็นถึงความผิดปกติบางอย่าง “…แล้วพวกที่มาจากองค์กรเจ้าแห่งการทำลายล้างล่ะ? พวกเขามาสร้างปัญหาให้เราอีกหรือไม่?” เจอรัลด์ถาม “พวกเขาคอยตามรังควานเรามาตลอด! เราเริ่มชินกับพวกเขาเสียแล้ว!” "ผมเข้าใจแล้ว แล้วพ่อแม่กับน้องสาวของผมเป็นยังไงกันบ้าง?” เจอรัลด์ถามพร้อมกับขมวดคิ้วเล็กน้อย “…เรื่อง…นั้น…” ผู้นำวิญญาณตอบ ในขณะที่ใบหน้าของเขาซีดลงเล็กน้อย… แม้แต่ผู้อาวุโสทั้งสิบก็ยังคงก้มหน้าต่อไป โดยไม่มีใครกล้าแม้แต่จะหายใจ... สำหรับมิล่า ไม่นานน้ำตาของเธอก็เริ่มไหลอาบแก้ม เจอรัลด์มองดู ขณะที่เธอเอามือขึ้นมาปิดปากด้วยความโศกเศร้า จากนั้นเขาก็คำรามว่า “เป็นอะไรกันไปหมด? เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา?” เมื่อได้ยินเช่นนั้น มิล่าก็ยิ่งร้องไห้หนักขึ้น ในขณะที่ผู้อาวุโสทั้งสิบคนคุกเข่าลงพร้อมกัน ผู้นำวิญญาณกลืนน้ำลายลงคอ ก่อนจะตอบว่า “…เมื่อประมาณหนึ่งปี
ในขณะเดียวกัน ที่ด้านหลังของภูเขาในวังซาคราโซลิสเจอรัลด์เคยเช่าคฤหาสน์ที่นี่เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยของมิล่าและครอบครัวของเขาด้วยเหตุนี้จึงได้รับการตั้งชื่อว่าคฤหาสน์คลอฟอร์ดภายในปีนี้ เจอรัลด์ได้กลั่นศิลาต้นกำเนิดในแหล่งกำเนิดวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ด้วยเขาวางแผนที่จะย้ายแหล่งวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดไปที่เกาะคลอฟอร์ดในนอร์ทเบย์เมื่อถึงตอนนั้น เขาจะสามารถฟื้นฟูกิจการของตระกูลคลอฟอร์ดได้ และวังซาคราโซลิสของเขาก็จะกลายเป็นสำนักงานใหญ่ไปด้วยแต่ถึงกระนั้น นี่ก็เป็นโครงการขนาดใหญ่ไม่น้อย ไม่อาจแล้วเสร็จภายในปีนี้เขาจึงสร้างคฤหาสน์หลังนี้เป็นบ้านพักชั่วคราวภายในคฤหาสน์ ชายร่างท้วมคนหนึ่งกำลังคลานอยู่บนพื้น เขาสูญเสียการมองเห็นและไม่สามารถพูดได้ ยิ่งกว่านั้น เส้นเอ็นที่ขาและมือของเขาก็ขาดหมดแล้วสิ่งนี้ทำให้ชีวิตของเขาลำบากอย่างยิ่งอีกด้านหนึ่ง พ่อแม่ของเจอรัลด์นั่งอยู่บนรถเข็นพวกเขากำลังสั่งให้คนรับใช้ช่วยชายร่างท้วมคนนั้นให้ยืนขึ้น"ระวังด้วย อย่าปล่อยให้โยเอลล้มไปเชียวล่ะ!”ดีแลนพูดด้วยความกังวลเป็นอย่างสูง “นายใหญ่ นายน้อยโยเอลดูเหมือนจะเขียนอะไรบางอย่างลงบนพื้น!” บ่าวรับ
เปลวไฟแห่งความเกลียดชังถูกจุดประกายและแผ่ขยายไปทั่วทุกอณูในร่างกายของเจอรัลด์ ทุกคนในวังซาคราโซลิสดูคล้ายจะสัมผัสได้ถึงโทสะของเขาดังนั้นหลายวันผ่านไป ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เจอรัลด์แม้แต่ก้าวเดียว“ตระกูลแควนท็อคอยู่ที่ไหน?”วันหนึ่งเจอรัลด์เรียกผู้อาวุโสทั้งสิบคนมาถาม“ปัจจุบันตระกูลแควนท็อคตั้งอยู่ในบริเวณชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองซันนีวา พวกเขาเป็นตระกูลที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นใหม่ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากตระกูลควอเตอร์เมนในจาเอลตรา ตระกูลควอเตอร์เมนใช้พวกเขาในการพิชิตแหล่งกำเนิดวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ในขณะเดียวกันก็อยากทำให้พวกเขาเป็นกษัตริย์แห่งทิศเหนือองค์ใหม่! ผู้นำตระกูลแควนท็อคคนปัจจุบันมีชื่อว่า ซากิ แควนท็อคเขาเป็นคนที่แข็งแกร่งมาก และฉันแน่ใจว่าอย่างน้อยเขาก็อยู่ในอาณาจักรรูนแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นลูกน้องของเขาหลายคนก็ทรงพลังมากด้วย และที่สำคัญกว่านั้น พวกเขายังได้รับการสนับสนุนจากหนึ่งในกองกำลังของจาเอลตรา!” ผู้นำวิญญาณ อธิบาย“ดังนั้นสิ่งที่ผมจะบอกได้ก็คือ ถ้าคุณต้องการแก้แค้นเขาในตอนนี้ ก็ไม่ต่างอะไรกับการเข้าไปหาความตาย!”ผู้นำวิญญาณแสดงความกังวล“ฉันรู้เรื่องนั้นดี นั่นเป
เสียงประทุของไฟ…ยามดึกได้ยินเสียงกองไฟในขณะที่ไฟสีเขียวเข้มเผาไหม้อย่างสว่างไสว มันเหมือนกับเสียงป๊อปคอร์นที่ดังระเบิดออกมาเจอรัลด์นั่งอยู่ข้างกองไฟ ขณะที่เขาเพิ่มฟืนลงไปในนั้น เขาเงยหน้าขึ้นมองสำรวจป่าเขียวขจีโดยรอบในคืนที่มืดมิด ป่าทึบก็ยิ่งทำให้มันดูน่าขนลุกขึ้นไปอีกและในป่าอันหนาวเหน็บ แม้แต่เจอรัลด์ซึ่งเป็นราชาแห่งจักระก็ยังต้องผิงไฟให้ร่างกายอบอุ่นเขาไม่ได้อยู่พื้นดินของโลกอีกต่อไปแล้ว แต่ได้มาถึงเมืองจาเอลตรางานแต่งงานของเขากับมิล่าจัดขึ้นเมื่อเกือบหนึ่งเดือนที่แล้วแม้ว่าเจอรัลด์จะได้ทำให้ตระกูลคลอฟอร์ดและพระราชวังซาคราโซลิสลงหลักปักฐานและได้แต่งงานกับมิล่าในที่สุด แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกโล่งใจเลยแม้แต่น้อยนี่เป็นเพราะเขาไม่สามารถรู้ได้ว่าช่วงเวลาอันแสนวิเศษและอบอุ่นเช่นนี้จะหายไปอีกครั้งเมื่อใด เนื่องจากตระกูลแควนท็อคคอยตามล่าพวกเขาตลอดเวลา และตระกูลควอเตอร์เมนก็พร้อมที่จะเปิดการโจมตีเสมอเจอรัลด์ไม่มีพลังพอที่จะโต้กลับ ดังนั้นเขาจึงต้องแข็งแกร่งยิ่งขึ้นเพื่อปกป้องครอบครัวของตัวเองเจอรัลด์จึงไปที่เจลลาตราเพียงลำพัง ตำแหน่งปัจจุบันของเขาคือชานเมืองจาเอ
เจอรัลด์ชำเลืองมองพวกเขาจากหางตา ดูเหมือนว่าพลังของพวกเขาจะไม่ใช่เล่นๆเลยชวิ้ง! ฟุ่บ! ชู่ว!คุไนสีเงินสามชิ้นถูกปาใส่ต้นไม้บนคุไนสีเงินแต่ละอันมีการแกะสลักหัวกะโหลกทั้งเจ็ดเอาไว้ ซึ่งทำให้ดูน่าขนลุกโจรทั้งสามตัวแข็งทื่อ และใบหน้าของพวกเขาก็แสดงความสยดสยองออกมาทันทีหลังจากนั้น"อะไรกัน? พวกเขาคือเจ็ดเทพมรณะแห่งเอิร์ธ แคปปิตอล!”หลังจากที่พวกเขารู้ว่าผู้มาเยือนเป็นใคร โจรทั้งสามก็คุกเข่าและหมอบลงทันที“ท่านเทพทั้งเจ็ด เราไม่รู้ว่าพวกท่านจะมาที่นี่ เราเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่รบกวนพวกท่าน เราจะออกไปทันทีและอยู่ให้ห่างไปเจ็ดไมล์!”พวกเขาคำนับเจ็ดเทพมรณะ โดยไม่รอคำตอบจากคนเหล่านั้น พวกเขาหายตัวไปอย่างรวดเร็วหลังจากส่งสายตาเกลียดชังไปยังเจอรัลด์ในทางกลับกัน เจอรัลด์กลับเพิกเฉยต่อพวกเขาหลังจากชำเลืองมองพวกเขา เขาก็ก้มหัวลงและกินต่อไปคนหลายคนจ้องมองไปยังเจอรัลด์อย่างเย็นชา ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยเจตนาสังหาร อย่างไรก็ตาม เจอรัลด์ไม่ใช่คนที่พวกเขาหมายหัวเอาไว้ดังนั้นแทนที่จะยุ่งกับเจอรัลด์ พวกเขาทำเพียงแค่นั่งลงและหลับตาราวกับกำลังรออะไรบางอย่างอย่างที่คาดไว้ หลังจากนั้นไม่นานก็
“คู่หมั้น?”แน่นอนว่าเจอรัลด์รู้ว่าผู้หญิงที่ชื่อว่า โนริ ซาห์นกำลังจะเล่นตลกอะไรในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกรำคาญคำพูดของเธอบางทีเธออาจไม่รู้ว่าคำพูดของเธอจะนำปัญหาอะไรมาให้เขาเพราะตอนนี้ ซาเร็คและพรรคพวกของเขาก็กำลังมองมาที่เขาด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป“คู่หมั้น? น่าสนใจดีนี่ เฮ้ เจ้าหนู นายมาจากตระกูลใดในเอิร์ธ แคปปิตอล?”ซาเร็คหัวเราะอย่างเย็นชาสำหรับโนริ เธอกัดริมฝีปากและวิ่งไปซ่อนข้างหลังเจอรัลด์ทันทีความจริงแล้ว แค่มองปราดเดียวก็ดูออกว่าเธอเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งมาก และที่เธอทำอย่างนี้ก็คงเพราะเธอไม่มีทางเลือกอื่นเหลืออีกแล้วถึงกระนั้น สิ่งเดียวที่เธอไม่แน่ใจก็คือ ชายหนุ่มคนนี้จะเอาชนะเจ็ดเทพมรณะและพวกแมคโคว์สกี้ได้หรือไม่ ถึงกระนั้นเธอก็จะไม่ปล่อยให้โอกาสรอดชีวิตหลุดมือไปแม้แต่ครั้งเดียว“ต้องพึ่งนายแล้วแหละ!”โนริมองไปที่เจอรัลด์และกระซิบกับตัวเองแต่จากความคาดหวังของเธอ เจอรัลด์ยิ้มให้เธออย่างช่วยไม่ได้“ไม่ได้มาจากตระกูลไหนทั้งนั้น อีกอย่าง ผมไม่ใช่คู่หมั้นของผู้หญิงคนนี้ เราไม่รู้จักกัน ผมแค่ผ่านทางมา คุณแมคโคว์สกี้ ไม่ต้องสนใจผมหรอก ถ้าคุณมีเรื่องบาดหมางอะไรกับผ