เมื่อมองไปที่สีหน้าที่เปลี่ยนแปลงของเจอรัลด์ ผู้นำวิญญาณทำท่าเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะปิดปากของเขาเอาไว้ มิล่าเองก็ทำหน้าสลดเพราะรู้สึกผิด แม้ว่าการแสดงออกของพวกเขาแทบจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่เจอรัลด์ก็ยังสังเกตเห็นถึงความผิดปกติบางอย่าง “…แล้วพวกที่มาจากองค์กรเจ้าแห่งการทำลายล้างล่ะ? พวกเขามาสร้างปัญหาให้เราอีกหรือไม่?” เจอรัลด์ถาม “พวกเขาคอยตามรังควานเรามาตลอด! เราเริ่มชินกับพวกเขาเสียแล้ว!” "ผมเข้าใจแล้ว แล้วพ่อแม่กับน้องสาวของผมเป็นยังไงกันบ้าง?” เจอรัลด์ถามพร้อมกับขมวดคิ้วเล็กน้อย “…เรื่อง…นั้น…” ผู้นำวิญญาณตอบ ในขณะที่ใบหน้าของเขาซีดลงเล็กน้อย… แม้แต่ผู้อาวุโสทั้งสิบก็ยังคงก้มหน้าต่อไป โดยไม่มีใครกล้าแม้แต่จะหายใจ... สำหรับมิล่า ไม่นานน้ำตาของเธอก็เริ่มไหลอาบแก้ม เจอรัลด์มองดู ขณะที่เธอเอามือขึ้นมาปิดปากด้วยความโศกเศร้า จากนั้นเขาก็คำรามว่า “เป็นอะไรกันไปหมด? เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา?” เมื่อได้ยินเช่นนั้น มิล่าก็ยิ่งร้องไห้หนักขึ้น ในขณะที่ผู้อาวุโสทั้งสิบคนคุกเข่าลงพร้อมกัน ผู้นำวิญญาณกลืนน้ำลายลงคอ ก่อนจะตอบว่า “…เมื่อประมาณหนึ่งปี
ในขณะเดียวกัน ที่ด้านหลังของภูเขาในวังซาคราโซลิสเจอรัลด์เคยเช่าคฤหาสน์ที่นี่เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยของมิล่าและครอบครัวของเขาด้วยเหตุนี้จึงได้รับการตั้งชื่อว่าคฤหาสน์คลอฟอร์ดภายในปีนี้ เจอรัลด์ได้กลั่นศิลาต้นกำเนิดในแหล่งกำเนิดวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ด้วยเขาวางแผนที่จะย้ายแหล่งวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดไปที่เกาะคลอฟอร์ดในนอร์ทเบย์เมื่อถึงตอนนั้น เขาจะสามารถฟื้นฟูกิจการของตระกูลคลอฟอร์ดได้ และวังซาคราโซลิสของเขาก็จะกลายเป็นสำนักงานใหญ่ไปด้วยแต่ถึงกระนั้น นี่ก็เป็นโครงการขนาดใหญ่ไม่น้อย ไม่อาจแล้วเสร็จภายในปีนี้เขาจึงสร้างคฤหาสน์หลังนี้เป็นบ้านพักชั่วคราวภายในคฤหาสน์ ชายร่างท้วมคนหนึ่งกำลังคลานอยู่บนพื้น เขาสูญเสียการมองเห็นและไม่สามารถพูดได้ ยิ่งกว่านั้น เส้นเอ็นที่ขาและมือของเขาก็ขาดหมดแล้วสิ่งนี้ทำให้ชีวิตของเขาลำบากอย่างยิ่งอีกด้านหนึ่ง พ่อแม่ของเจอรัลด์นั่งอยู่บนรถเข็นพวกเขากำลังสั่งให้คนรับใช้ช่วยชายร่างท้วมคนนั้นให้ยืนขึ้น"ระวังด้วย อย่าปล่อยให้โยเอลล้มไปเชียวล่ะ!”ดีแลนพูดด้วยความกังวลเป็นอย่างสูง “นายใหญ่ นายน้อยโยเอลดูเหมือนจะเขียนอะไรบางอย่างลงบนพื้น!” บ่าวรับ
เปลวไฟแห่งความเกลียดชังถูกจุดประกายและแผ่ขยายไปทั่วทุกอณูในร่างกายของเจอรัลด์ ทุกคนในวังซาคราโซลิสดูคล้ายจะสัมผัสได้ถึงโทสะของเขาดังนั้นหลายวันผ่านไป ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เจอรัลด์แม้แต่ก้าวเดียว“ตระกูลแควนท็อคอยู่ที่ไหน?”วันหนึ่งเจอรัลด์เรียกผู้อาวุโสทั้งสิบคนมาถาม“ปัจจุบันตระกูลแควนท็อคตั้งอยู่ในบริเวณชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองซันนีวา พวกเขาเป็นตระกูลที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นใหม่ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากตระกูลควอเตอร์เมนในจาเอลตรา ตระกูลควอเตอร์เมนใช้พวกเขาในการพิชิตแหล่งกำเนิดวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ในขณะเดียวกันก็อยากทำให้พวกเขาเป็นกษัตริย์แห่งทิศเหนือองค์ใหม่! ผู้นำตระกูลแควนท็อคคนปัจจุบันมีชื่อว่า ซากิ แควนท็อคเขาเป็นคนที่แข็งแกร่งมาก และฉันแน่ใจว่าอย่างน้อยเขาก็อยู่ในอาณาจักรรูนแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นลูกน้องของเขาหลายคนก็ทรงพลังมากด้วย และที่สำคัญกว่านั้น พวกเขายังได้รับการสนับสนุนจากหนึ่งในกองกำลังของจาเอลตรา!” ผู้นำวิญญาณ อธิบาย“ดังนั้นสิ่งที่ผมจะบอกได้ก็คือ ถ้าคุณต้องการแก้แค้นเขาในตอนนี้ ก็ไม่ต่างอะไรกับการเข้าไปหาความตาย!”ผู้นำวิญญาณแสดงความกังวล“ฉันรู้เรื่องนั้นดี นั่นเป
เสียงประทุของไฟ…ยามดึกได้ยินเสียงกองไฟในขณะที่ไฟสีเขียวเข้มเผาไหม้อย่างสว่างไสว มันเหมือนกับเสียงป๊อปคอร์นที่ดังระเบิดออกมาเจอรัลด์นั่งอยู่ข้างกองไฟ ขณะที่เขาเพิ่มฟืนลงไปในนั้น เขาเงยหน้าขึ้นมองสำรวจป่าเขียวขจีโดยรอบในคืนที่มืดมิด ป่าทึบก็ยิ่งทำให้มันดูน่าขนลุกขึ้นไปอีกและในป่าอันหนาวเหน็บ แม้แต่เจอรัลด์ซึ่งเป็นราชาแห่งจักระก็ยังต้องผิงไฟให้ร่างกายอบอุ่นเขาไม่ได้อยู่พื้นดินของโลกอีกต่อไปแล้ว แต่ได้มาถึงเมืองจาเอลตรางานแต่งงานของเขากับมิล่าจัดขึ้นเมื่อเกือบหนึ่งเดือนที่แล้วแม้ว่าเจอรัลด์จะได้ทำให้ตระกูลคลอฟอร์ดและพระราชวังซาคราโซลิสลงหลักปักฐานและได้แต่งงานกับมิล่าในที่สุด แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกโล่งใจเลยแม้แต่น้อยนี่เป็นเพราะเขาไม่สามารถรู้ได้ว่าช่วงเวลาอันแสนวิเศษและอบอุ่นเช่นนี้จะหายไปอีกครั้งเมื่อใด เนื่องจากตระกูลแควนท็อคคอยตามล่าพวกเขาตลอดเวลา และตระกูลควอเตอร์เมนก็พร้อมที่จะเปิดการโจมตีเสมอเจอรัลด์ไม่มีพลังพอที่จะโต้กลับ ดังนั้นเขาจึงต้องแข็งแกร่งยิ่งขึ้นเพื่อปกป้องครอบครัวของตัวเองเจอรัลด์จึงไปที่เจลลาตราเพียงลำพัง ตำแหน่งปัจจุบันของเขาคือชานเมืองจาเอ
เจอรัลด์ชำเลืองมองพวกเขาจากหางตา ดูเหมือนว่าพลังของพวกเขาจะไม่ใช่เล่นๆเลยชวิ้ง! ฟุ่บ! ชู่ว!คุไนสีเงินสามชิ้นถูกปาใส่ต้นไม้บนคุไนสีเงินแต่ละอันมีการแกะสลักหัวกะโหลกทั้งเจ็ดเอาไว้ ซึ่งทำให้ดูน่าขนลุกโจรทั้งสามตัวแข็งทื่อ และใบหน้าของพวกเขาก็แสดงความสยดสยองออกมาทันทีหลังจากนั้น"อะไรกัน? พวกเขาคือเจ็ดเทพมรณะแห่งเอิร์ธ แคปปิตอล!”หลังจากที่พวกเขารู้ว่าผู้มาเยือนเป็นใคร โจรทั้งสามก็คุกเข่าและหมอบลงทันที“ท่านเทพทั้งเจ็ด เราไม่รู้ว่าพวกท่านจะมาที่นี่ เราเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่รบกวนพวกท่าน เราจะออกไปทันทีและอยู่ให้ห่างไปเจ็ดไมล์!”พวกเขาคำนับเจ็ดเทพมรณะ โดยไม่รอคำตอบจากคนเหล่านั้น พวกเขาหายตัวไปอย่างรวดเร็วหลังจากส่งสายตาเกลียดชังไปยังเจอรัลด์ในทางกลับกัน เจอรัลด์กลับเพิกเฉยต่อพวกเขาหลังจากชำเลืองมองพวกเขา เขาก็ก้มหัวลงและกินต่อไปคนหลายคนจ้องมองไปยังเจอรัลด์อย่างเย็นชา ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยเจตนาสังหาร อย่างไรก็ตาม เจอรัลด์ไม่ใช่คนที่พวกเขาหมายหัวเอาไว้ดังนั้นแทนที่จะยุ่งกับเจอรัลด์ พวกเขาทำเพียงแค่นั่งลงและหลับตาราวกับกำลังรออะไรบางอย่างอย่างที่คาดไว้ หลังจากนั้นไม่นานก็
“คู่หมั้น?”แน่นอนว่าเจอรัลด์รู้ว่าผู้หญิงที่ชื่อว่า โนริ ซาห์นกำลังจะเล่นตลกอะไรในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกรำคาญคำพูดของเธอบางทีเธออาจไม่รู้ว่าคำพูดของเธอจะนำปัญหาอะไรมาให้เขาเพราะตอนนี้ ซาเร็คและพรรคพวกของเขาก็กำลังมองมาที่เขาด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป“คู่หมั้น? น่าสนใจดีนี่ เฮ้ เจ้าหนู นายมาจากตระกูลใดในเอิร์ธ แคปปิตอล?”ซาเร็คหัวเราะอย่างเย็นชาสำหรับโนริ เธอกัดริมฝีปากและวิ่งไปซ่อนข้างหลังเจอรัลด์ทันทีความจริงแล้ว แค่มองปราดเดียวก็ดูออกว่าเธอเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งมาก และที่เธอทำอย่างนี้ก็คงเพราะเธอไม่มีทางเลือกอื่นเหลืออีกแล้วถึงกระนั้น สิ่งเดียวที่เธอไม่แน่ใจก็คือ ชายหนุ่มคนนี้จะเอาชนะเจ็ดเทพมรณะและพวกแมคโคว์สกี้ได้หรือไม่ ถึงกระนั้นเธอก็จะไม่ปล่อยให้โอกาสรอดชีวิตหลุดมือไปแม้แต่ครั้งเดียว“ต้องพึ่งนายแล้วแหละ!”โนริมองไปที่เจอรัลด์และกระซิบกับตัวเองแต่จากความคาดหวังของเธอ เจอรัลด์ยิ้มให้เธออย่างช่วยไม่ได้“ไม่ได้มาจากตระกูลไหนทั้งนั้น อีกอย่าง ผมไม่ใช่คู่หมั้นของผู้หญิงคนนี้ เราไม่รู้จักกัน ผมแค่ผ่านทางมา คุณแมคโคว์สกี้ ไม่ต้องสนใจผมหรอก ถ้าคุณมีเรื่องบาดหมางอะไรกับผ
“ฉันถามนาย ตอบฉันมา!" เจอรัลด์กล่าว"ถูกต้อง แผนที่นั่นแสดงกลไกของค่ายกลในหุบเขาใต้พิภพมันเป็นกุญแจสำคัญในการค้นหาพรีโมโคโรส แต่ที่สำคัญก็คือ ฉันชิงมันมาจากตระกูลซาห์นแล้ว ตอนนี้มันตกเป็นของตระกูลแมคโคว์สกี้ น้องชาย อย่าบอกนะว่านายไม่เคยได้ยินชื่อของตระกูลฉัน?”ตอนนี้ซาเคอร์รู้แล้วว่าเขาไม่อาจเทียบกับอีกฝ่ายได้และไม่รู้ว่าเจ็ดเทพมรณะหายไปไหน เขาจึงทำได้เพียงยอมจำนน“ไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมถึงมีหมอกหนาปกคลุมอยู่ที่หุบเขาอันเดอร์เวิร์ลทุกครั้งที่ฉันไป ดูเหมือนว่าฉันเดาถูกแล้ว มีค่ายกลพิเศษอยู่ในหุบเขานั่นเอง”ในที่สุดเจอรัลด์ก็พบคำตอบสำหรับคำถามของเขา และดวงตาของเขาก็เป็นประกายขึ้นในทันที“นายบอกว่าแผนที่อยู่กับนายใช่หรือเปล่า?”เจอรัลด์เอ่ยตอบอย่างตื่นเต้น"ใช่แล้วน้องชาย นายนี่มีพลังแข็งแกร่งจริง ๆ เลยนะ แต่ถึงอย่างนั้น นายไปถามใครดูก็ได้ แล้วจะได้รู้ว่าตระกูลแมคโคว์สกี้นั้นทรงพลังแค่ไหน วันนี้ฉันจะยกโทษให้กับความหยาบคายของนาย แต่ฉันจะแนะนำนายว่าอย่าคิดที่จะแตะต้องแผนที่นั่นจะดีกว่า…”เพี๊ยะ!ก่อนที่เขาจะพูดจบ เจอรัลด์ก็ตบเขาอย่างแรงอีกครั้งแล้วเหวี่ยงเขาลงกับพื้นจากนั้นเจอรัลด
“ซาเคอร์!”ครู่ต่อมายูเซฟ แมคโคว์สกี้ มาถึงพร้อมกับคนของเขาทันทีที่เห็นลูกชายของเขาที่กำลังจะตาย เขาก็เสียใจเป็นอย่างมากตระกูลซาห์นและตระกูลแมคโคว์สกี้ได้ปกครองพื้นที่ทั้งหมดของเอิร์ธ แคปปิตอล มาเป็นเวลาหลายปีในที่สุด ตระกูลแมคโคว์สกี้ก็กลายเป็นตระกูลที่ยิ่งใหญ่ในเอิร์ธ แคปปิตอลแต่ไม่คาดคิดเลยว่า ซาเคอร์ แมคโคว์สกี้ บุตรชายเพียงคนเดียวของตระกูล ซึ่งยูเซฟยกย่องให้เป็นทายาทผู้สืบทอดของตระกูลแมคโคว์สกี้ได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงเพียงนี้ “พวกนายเป็นคนที่ทำร้ายนายน้อยงั้นเหรอ?!”ตอนนี้ยูเซฟเต็มไปด้วยเจตนาร้าย เขาจ้องมองลูกน้องและปล่อยรังสีที่แข็งแกร่งออกจากร่างกายของเขารังสีเรานั้นมากมายพอที่จะทำให้เจ็ดเทพมรณะตัวสั่นและล้มลงกับพื้นราชาแห่งจักระระดับเก้านั้นน่ากลัวเกินไปพวกเขาจะต้านทานออร่าที่แข็งแกร่งของเขาได้อย่างไร?“ไม่ครับนายท่าน! นายน้อยบาดเจ็บเพราะบุตรสาวของตระกูลซาห์น และชายหนุ่มที่เธอไปเข้าพวกด้วย นอกจากนี้ หนุ่มน้อยนั่นยังชิงเอาแผนที่ของหุบเขาใต้พิภพไปอีก เราพยายามโจมตีเขา แต่เขาใช้นายน้อยเป็นเกราะกำบัง อาการบาดเจ็บของนายน้อยไม่เกี่ยวอะไรกับเราเลย!”ผู้นำของเจ็ดเทพมร
พวกเขาได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วในตอนที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่มีใครหรือรถคันอื่นใดอยู่รอบ ๆ เลยแม้แต่คันเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ยังอยู่ในรถเพียงลำพังด้วยนั่นหมายความว่าสถานการณ์ที่ผู้เฒ่าฟลินท์พบกับอุบัติเหตุนั้นแปลกประหลาดอย่างยิ่งในวิดีโอที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นแสดงให้เห็นว่ารถของผู้เฒ่าฟลินท์ลื่นไถลและหลุดการควบคุมไปเองในทันทีเจอรัลด์และเรย์ได้รับการปล่อยตัวในช่วงบ่ายนั้นเองพวกเขานั่งแท็กซี่กลับไปที่สำนักงานระหว่างทางกลับ เรย์มองเจอรัลด์ด้วยสีหน้างุนงงอย่างหนักแล้วถามว่า “เจอรัลด์ คุณคิดเห็นยังไงกับการตายของผู้เฒ่าฟลินท์?เขาตายได้ยังไง?”ใบหน้าของเจอรัลด์เคร่งเครียดมาก เขาเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน แต่ถึงกระนั้นเขาก็มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุธรรมดาแน่นอน“นี่หมายความว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดยังไม่ตายเหรอ?”วินาทีต่อมา ความคิดอันบ้าบิ่นก็ผุดขึ้นในใจของเรย์เจอรัลด์รู้สึกว่าการคาดเดานี้เป็นไปได้น้อยมาก นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดตายไปต่อหน้าต่อตาเขาเอง แล้วเขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?“เรากลับก่อนเถอะ บางทีมันอาจจะเป็นแค่อุบัติเหตุจริง ๆ ก็ได้!”เจอรัลด์บอก
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เจอรัลด์และเรย์ยังคงหลับอยู่ กริ่งที่ประตูก็ปลุกพวกเขาให้ตื่นเรย์เดินออกจากห้องไปที่ประตูในลักษณะกึ่งหลับกึ่งตื่นแล้วเปิดประตูออกเมื่อประตูถูกเปิดออก เขาก็ได้เห็นชายสองสามคนซึ่งกำลังสวมเครื่องแบบยืนอยู่ข้างนอก เมื่อเห็นตราบนเครื่องแบบของพวกเขา พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้มาจากรัฐบาลกลาง“ขออภัย คุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ดและคุณเรย์ เลห์ตันอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาถามเรย์พยักหน้าและตอบว่า “ผมนี่แหละเรย์ มีอะไรเหรอ?""พาเขาออกไป!"เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเรย์ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็สั่งคนของเขา และทันใดนั้นเอง เจ้าหน้าที่อีกสองคนก็เข้ามาคว้าแขนของเรย์แล้วลากเขาออกไปข้างนอก"เฮ้ย! นี่มันอะไรกัน?!"เรย์ตะโกนทันทีความโกลาหลดังกล่าวทำให้เจอรัลด์ จูโน่ และโนริตื่นขึ้นพวกเขาออกจากห้องอย่างรวดเร็ว"คุณเป็นใคร?"เมื่อเจอรัลด์ออกมา เขาก็มองดูเจ้าหน้าที่พวกนั้นด้วยความประหลาดใจและเอ่ยถามขึ้น“คุณคงเป็นคุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ด เรากำลังสงสัยว่าคุณเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรม สารวัตรเลค หรือที่รู้จักกันในชื่อผู้เฒ่าฟลินท์ ดังนั้นเราต้องการนำคุณไปสอบ
ในเวลาเดียวกัน หมอกควันสีทมิฬของเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ล้อมรอบกายของชายชราเอาไว้หลังจากนั้นไม่นาน หมอกควันสีทมิฬดังกล่าวก็ดูดกลืนวิญญาณและพลังงานของชายชราไป ทำให้ชายกลายเป็นศพแห้งกรังเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกสิ่งนี้ทำให้เอ็มเบอร์ลอร์ดตระหนกเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้คาดหวังให้เกิดผลลัพธ์เช่นนี้ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่คิดแล้วว่าชายชราจะมาสกัดกั้นการโจมตีจากเจอรัลด์แทนเขาแบบนี้“เอ็มเบอร์ลอร์ด คุณฆ่าคนบริสุทธิ์อีกแล้ว!”เจอรัลด์ตะโกนใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดด้วยความโกรธเมื่อพูดเช่นนั้น เจอรัลด์จึงตัดสินใจใช้ทักษะต้องห้ามของตัวเองเพื่อทำลายเอ็มเบอร์ลอร์ดให้สิ้นซากในขณะนี้เอ็มเบอร์ลอร์ดเสียสติไปแล้ว เขายืนนิ่งไม่ขยับ ราวกับสูญเสียจิตวิญญาณของตัวเองไป “วิชาทลายสหัสภพ!”เจอรัลด์ตะโกนและขว้างดาบแอสตราบิซในมือใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดเมื่อดาบแทงเข้าไปในร่างของเอ็มเบอร์ลอร์ด มันก็เปล่งแสงเจิดจ้าออกมาและกลืนกินเอ็มเบอร์ลอร์ดไปจนสิ้น“อ๊าก!”เอ็มเบอร์ลอร์ดกรีดร้องวินาทีต่อมา เอ็มเบอร์ลอร์ดก็กลายเป็นเถ้าถ่านในที่สุด เจอรัลด์ก็กวาดล้างเอ็มเบอร์ลอร์ดลงได้แล้วเจอรัลด์ล้างแค้นให้ชาวบ้านในหมู่บ้านฟ้าทมิฬได้แล้ว
ทั้งสามรีบมองออกไปข้างนอก ก่อนจะเห็นว่าชายชราออกจากบ้านไปตามลำพังโดยถือตะกร้าติดตัวไปด้วยขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังกระท่อมไม้ของยามิเล็ต เฟซเมื่อเห็นสิ่งนี้ ทั้งสามก็สบตากันพวกเขาพบว่ามันค่อนข้างแปลกที่ชายชราคิดจะถือตะกร้าออกไปกลางดึกเช่นนี้ นี่จะต้องมีความลับบางอย่างที่ไม่มีใครล่วงรู้ซ่อนอยู่เป็นแน่ไม่นานหลังจากนั้น เจอรัลด์และทั้งสองก็ออกจากบ้านและติดตามชายชราไปอย่างเงียบ ๆพวกเขาติดตามชายชราไปจนถึงกระท่อมไม้ จากนั้นพวกเขาเห็นเขาหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเพื่อปลดล็อคประตูเมื่อประตูถูกปลดล็อค ชายชราผู้นั้นสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างระมัดระวัง หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เขาก็ผลักประตูเปิดออกแล้วเดินเข้าไปอย่างมั่นใจเจอรัลด์และอีกสองคนก็เดินไปที่กระท่อมไม้ทันทีและยืนอยู่ตรงหน้ากระท่อมหลังนั้น“เจอรัลด์ ดูเหมือนว่าชายชรากำลังปิดบังอะไรบางอย่างกับเรา เพราะเขามีกุญแจบ้านหลังนี้อยู่กับตัว!”เรย์กระซิบกับเจอรัลด์ตอนนี้พวกเขาตระหนักได้แล้วว่าชายชราไม่ใช่คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างที่คิด เขาต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเอ็มเบอร์ลอร์ดแน่“เรย์ ผู้เฒ่าฟลินท์ คุณสองคนไปซ่อนตัวก่อน เ
“เอ๋ นี่ก็ดึกแล้วนะ! ผมว่าคนที่คุณกำลังรออยู่คงไม่มาหรอก มาเถอะไปที่บ้านของผมและพักผ่อนกันจะดีกว่า!”ชายชราถอนหายใจและยื่นข้อเสนอให้ทั้งสามคนเมื่อผู้เฒ่าฟลินท์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็หันกลับมาที่เจอรัลด์เพื่อสอบถามความคิดเห็นของเขาเจอรัลด์เห็นปฏิกิริยาของเขาและพยักหน้าอย่างช้า ๆเนื่องจากพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงไปพักผ่อนที่บ้านของชายชราเท่านั้นนอกจากนี้ ท้องฟ้ามืดสนิท และไม่ปลอดภัยเลย ไม่รู้เลยว่าข้างนอกนี่มีอะไรรอพวกเขาอยู่?หลังจากพูดคุยกัน เจอรัลด์และคนอื่น ๆ ก็ติดตามชายชราออกจากกระท่อมไม้ไปชายชราพาเจอรัลด์และคนอื่น ๆ ไปที่บ้านของเขา บ้านของเขาดูไม่เก่าเท่าไหร่ ราวกับเพิ่งถูกซ่อมแซมใหม่ก่อนหน้านี้“ผู้เฒ่า หมู่บ้านนี้เหลือคุณอยู่เพียงคนเดียวหรือเปล่า?”เมื่อพวกเขาอยู่ในบ้านของชายชรา ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ถามอย่างสงสัย"หึหึ!" ชายชราหัวเราะเบา ๆ"ใช่ คนอื่น ๆ ย้ายไปอยู่ในเมืองกันหมด ที่นี่เลยเหลือแค่ฉันคนเดียว!”หลังจากที่เขาหัวเราะแล้วเขาก็ตอบ“แล้วทำไมคุณไม่ย้ายเข้าเมืองด้วยล่ะ? อยู่ในเมืองไม่สบายกว่าเหรอ?”ผู้เฒ่าฟลินท์ยังคงถามต่อไป“อนิจจา ผมมันไร้ญา
“หึหึ เรย์ อย่าลืมสิว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว เขาน่ากลัวกว่าผีเสียอีก กับอีกแค่สถานที่แบบนี้นายคิดว่าเขาจะกลัวเหรอ”เจอรัลด์หัวเราะและเตือนเรย์เมื่อเรย์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดสมเหตุสมผล “สำรวจกันตามสบายเลย ผมคงต้องไปก่อน!”ชายชราพูดกับทั้งสามคน“ได้เลย ผู้เฒ่า ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณมากเลย!"ผู้เฒ่าฟลินท์ขอบคุณชายชราผู้นั้นอย่างรวดเร็ว“ไม่เป็นไรหรอก!”ชายชราตอบพลางโบกมือหลังจากที่ชายชราผู้นั้นจากไป เจอรัลด์และอีกสองคนก็ยืนอยู่หน้ากระท่อมไม้ จ้องมองออกไปอย่างว่างเปล่าพวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำอะไร พวกเขาไม่อาจเข้าไปในกระท่อมได้ และไม่รู้ด้วยว่าจะเข้าไปเช่นไร“พี่เจอรัลด์ ผู้เฒ่าฟลินท์ ทีนี้เราจะทำยังไงดี? เปิดประตูออกไปเลยดีไหม?”เรย์มองไปที่เจอรัลด์และผู้เฒ่าฟลินท์แล้วถาม“ไม่ นั่นไร้สาระมาก เราบุกรุกเข้าไปไม่ได้!”ผู้เฒ่าฟลินท์ปรามเรย์ทันทีแม้ว่ายามิเล็ต เฟซจะไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว แต่กระท่อมหลังนี้ยังคงเป็นของเธอ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจทำตามอำเภอใจได้“แล้วเราควรทำยังไง? เราไม่มีกุญแจ”เรย์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“เ
ไม่มีทางที่ข้อเท็จจริงทั้งสองนี้จะเป็นเรื่องบังเอิญได้ เพราะฉะนั้นนั่นก็อาจหมายความได้ว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดกำลังซ่อนตัวอยู่ที่นั่น แต่เพราะนี้คือคำใบ้ที่เอ็มเบอร์ลอร์ทิ้งไว้ให้พวกเขา จึงเป็นไปได้ว่าแทนที่จะไปพบเขาที่นั่น พวกเขาจะออกค้นหาตำแหน่งของเหยื่อรายต่อไปแทน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผู้เฒ่าฟลินท์ก็สตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งไปทันที! พวกเขาจำเป็นต้องมุ่งหน้าไปที่บ้านของยามิเล็ต เฟซเดี๋ยวนี้! “คุณแน่ใจจริง ๆ เหรอว่า เอ็มเบอร์ลอร์ดจะซ่อนอยู่ที่นั่น พี่เจอรัลด์…?” เรย์ถามระหว่างทางไปที่นั่น เจอรัลด์ส่ายหน้าแล้วตอบด้วยสีหน้าจริงจังว่า “บอกตามตรง ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดเป็นคนจู้จี้จุกจิกและไม่เคยทำตามกฎเกณฑ์ ฉันเดาว่าเลขพวกนี้จะนำเราไปสู่เหยื่อรายต่อไป แต่ในการตามหาเหยื่อรายนั้น เราจะเข้าใกล้ที่กบดานของเอ็มเบอร์ลอร์ดอีกก้าวหนึ่งอย่างแน่นอน!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เรย์ก็พยักหน้าเข้าใจ... หลังจากขับรถไปประมาณสี่สิบนาที ในที่สุดทั้งสามก็มาถึงบ้านคุณยายของเอ็มเบอร์ลอร์ด ยามิเล็ตอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ อันห่างไกล และไม่นานทั้งสามก็เดินอยู่ในถนนของหมู่บ้าน
"สวัสดี? เจอรัลด์มีอะไรหรือเปล่า?” ผู้เฒ่าฟลินท์ถามจากอีกฟากหนึ่งของสาย “ผู้เฒ่าฟลินท์ ถึงผมจะรู้ว่าคุณไม่อาจยอมให้เราเข้าร่วมการสืบสวนได้ แต่ผมก็หวังว่าคุณจะสามารถช่วยเราได้ นั่นก็แปลว่าหากคุณต้องการคลี่คลายคดีและจับเอ็มเบอร์ลอร์ดให้ได้ ก็ช่วยตั้งใจฟังผมและเชื่อผมด้วย ทุกสิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณต่อไปนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งทีเดียว!” เจอรัลด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ทว่าในที่สุดเขาก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาสามารถไว้ใจเจอรัลด์ได้ ดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะเสี่ยงเหนือสิ่งอื่นใด ทั้งเขาและเด็กหนุ่มต่างก็ต้องการให้คดีคลี่คลายลงและจับตัวเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ในท้ายที่สุด “…เอาล่ะ บอกมาว่าฉันจะช่วยยังไงได้บ้าง!” “มุ่งหน้าไปที่สำนักงานเขตเดี๋ยวนี้เลย ผมเองก็จะไปที่นั่นด้วยเช่นกัน แล้วเมื่อเราพบกันที่นั่นผมจะบอกข้อมูลเพิ่มเติมกับคุณทีหลัง!” เจอรัลด์ตอบก่อนจะวางสาย ครึ่งชั่วโมงต่อมาเรย์และเจอรัลด์ได้พบกับผู้เฒ่าฟลินท์ ณ สถานที่ที่พวกเขานัดกัน “เรามาทำอะไรที่นี่ เจอรัลด์…?” ผู้เฒ่าฟลินท์เอ่ยถามอย่างสับสน “ฟังนะ ผมต้องการให้คุณตรวจสอบประวัต
เมื่อตระหนักว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้เฒ่าฟลินท์ เจอรัลด์และเรย์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกผู้เฒ่าฟลินท์อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วเล็กน้อยในขณะที่เขาถามอย่างงุนงงว่า “…พวกนายสองคนเองเหรอ? มาทำอะไรกันที่นี่? แล้วเข้ามาที่นี่ได้ยังไง?”หัวหน้าสารวัตรมีคำสั่งไม่ให้เขาติดต่อกับเจอรัลด์อีกต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้รับแจ้งว่าเจอรัลด์ไม่ได้รับอนุญาตให้มาช่วยในการสืบสวนอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ผู้เฒ่าฟลินท์จึงทำได้เพียงเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาของเขาเท่านั้น“เรามาตามหาเบาะแส!” เจอรัลด์ตอบ “ฟังนะ ฉันต้องขอโทษ ด้วย แต่นายสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้มายุ่งย่ามกับคดีนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นได้โปรดออกไปเสีย! ถ้านายกลับมาที่นี่อีกครั้ง เราก็จำเป็นต้องจับพวกนายกลับไปกับเราด้วย!” ผู้เฒ่าฟลินท์เตือน เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ทำเพียงแค่พยักหน้า ด้วยความที่ไม่อยากสร้างเรื่องยุ่งยากให้แก่ตาเฒ่าคนนี้ เจอรัลด์จึงตอบกลับไปว่า “รับทราบ!” ขณะที่เขากำลังจะจากไปพร้อมกับเรย์ เขาก็ได้ยินเสียงผู้เฒ่าฟลินท์ตะโกนว่า "เดี๋ยวก่อน! ตอนที่อยู่ที่นี่นายได้พบเบาะแสอะไรบ้างหรือเปล่า? ถ้ามีล่ะก็ช่วยมอบมันให้เราด้วย!” เ