“ซาเคอร์!”ครู่ต่อมายูเซฟ แมคโคว์สกี้ มาถึงพร้อมกับคนของเขาทันทีที่เห็นลูกชายของเขาที่กำลังจะตาย เขาก็เสียใจเป็นอย่างมากตระกูลซาห์นและตระกูลแมคโคว์สกี้ได้ปกครองพื้นที่ทั้งหมดของเอิร์ธ แคปปิตอล มาเป็นเวลาหลายปีในที่สุด ตระกูลแมคโคว์สกี้ก็กลายเป็นตระกูลที่ยิ่งใหญ่ในเอิร์ธ แคปปิตอลแต่ไม่คาดคิดเลยว่า ซาเคอร์ แมคโคว์สกี้ บุตรชายเพียงคนเดียวของตระกูล ซึ่งยูเซฟยกย่องให้เป็นทายาทผู้สืบทอดของตระกูลแมคโคว์สกี้ได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงเพียงนี้ “พวกนายเป็นคนที่ทำร้ายนายน้อยงั้นเหรอ?!”ตอนนี้ยูเซฟเต็มไปด้วยเจตนาร้าย เขาจ้องมองลูกน้องและปล่อยรังสีที่แข็งแกร่งออกจากร่างกายของเขารังสีเรานั้นมากมายพอที่จะทำให้เจ็ดเทพมรณะตัวสั่นและล้มลงกับพื้นราชาแห่งจักระระดับเก้านั้นน่ากลัวเกินไปพวกเขาจะต้านทานออร่าที่แข็งแกร่งของเขาได้อย่างไร?“ไม่ครับนายท่าน! นายน้อยบาดเจ็บเพราะบุตรสาวของตระกูลซาห์น และชายหนุ่มที่เธอไปเข้าพวกด้วย นอกจากนี้ หนุ่มน้อยนั่นยังชิงเอาแผนที่ของหุบเขาใต้พิภพไปอีก เราพยายามโจมตีเขา แต่เขาใช้นายน้อยเป็นเกราะกำบัง อาการบาดเจ็บของนายน้อยไม่เกี่ยวอะไรกับเราเลย!”ผู้นำของเจ็ดเทพมร
ยูเซฟ แมคโคว์สกี้เป็นผู้นำตระกูลแมคโคว์สกี้ในเอิร์ธ แคปปิตอล เขายังเป็นราชาแห่งจักระระดับเก้า ดังนั้นเขาจึงมีพลังแห่งสวรรค์ “เจอรัลด์ เราควรทำยังไงดี! เขาเร็วเกินไป นอกจากนี้ระดับการบ่มเพาะของเขายังสูงมากอีกต่างหาก!”โนริคว้าแขนของเจอรัลด์อย่างสิ้นหวังเจอรัลด์ประเมินความสามารถของราชาแห่งจักระระดับเก้าต่ำไปอย่างเห็นได้ชัดความจริงแล้ว ตาทิพย์ของเขาสัมผัสอีกฝ่ายได้ก่อนหน้านี้แล้ว เขาควรจะรีบออกไปตั้งแต่ตอนนั้นอีกฝ่ายเป็นถึงราชาแห่งจักระระดับเก้า ความเร็วของเขาไม่อาจใช้มาตรฐานของผู้บ่มเพาะทั่วไปมาตัดสินได้ตอนนี้เจอรัลด์กำลังคิดหาแผนการที่ดีที่สุดในใจเขาอย่างรวดเร็วหลังจากประสบกับการโจมตีครั้งแรก เจอรัลด์สามารถรู้สึกถึงช่องว่างระหว่างความแข็งแกร่งของเขาและยูเซฟได้อย่างชัดเจน ถ้าเขาสู้กับอีกฝ่ายแบบตัวต่อตัว เขาคงตายไปแล้วคู่ต่อสู้ของเขาอยู่ในระดับที่เก้า ซึ่งเป็นระดับที่แม้แต่เขาซึ่งได้ครอบครองวิญญาณบรรพกาลอันทรงพลังยังรู้สึกว่าการบรรลุไปถึงระดับนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย“นี่หนุ่มน้อย นายค่อนข้างน่าประทับใจทีเดียว เป็นถึงราชาแห่งจักระระดับแปดทั้งที่อายุยังน้อย ดูเหมือนว่าวันนี้ฉัน
มาถึงเวลาที่ยูเซฟต้องทำอะไรสักอย่างต่อสิ่งที่เขาเพิ่งเห็น มันก็สายเกินไปแล้วลำแสงนั้นยากที่จะป้องกันเพราะมันมาอย่างกระทันหันแสงกระทบเท่ากับดวงตาของเขาโดยตรง และทำให้เขาเซถอยหลังไปสองสามก้าว หัวของเขาหมุนอย่างบ้าคลั่งและล้มลงกับพื้นเจอรัลด์ใช้โอกาสนี้วิ่งโดยการพาโนริไปด้วย“ไอ้สารเลว แกกล้าดียังไงมาเล่นสกปรกกับฉัน! วันนี้ ฉัน ยูเซฟ แมคโคว์สกี้จะฉีกแกให้เป็นชิ้น ๆ!”พลังวิญญาณของยูเซฟได้รับความเสียหายอย่างหนัก ตอนนี้เขาได้แต่มองแผ่นหลังของเจอรัลด์ที่กำลังวิ่งหนีไปอีกทางอย่างไม่เต็มใจนัก แต่เขาทำได้เพียงกัดฟันด้วยความเกลียดชังเท่านั้นเจอรัลด์ไม่อาจรอช้าได้อีกต่อไป เขารู้ว่าพลังของเขาอ่อนแอเกินไป แม้จะได้รับความช่วยเหลือจากตาทิพย์ของเขา เขาก็ทำได้เพียงหยุดยั้งยูเซฟไว้ชั่วคราวเท่านั้น ตอนนี้ไม่อาจซ่อนตัวได้อีกต่อไปสิ่งเดียวที่เขาทำได้ คือพึ่งพาแผนที่และเข้าไปในหุบเขาใต้พิภพ แล้วใช้ค่ายกลที่มีอยู่ที่นั่นให้เป็นประโยชน์ กับค่ายกลเหล่านั้นจะช่วยสกัดกั้นไม่ให้ยูเซฟเข้าถึงตัวพวกเขาได้ระหว่างทางเจอรัลด์ตรวจสอบแผนที่อย่างละเอียด และประทับรายละเอียดทั้งหมดบนแผนที่ลงในสมองของเขาแล้ว
เกิดเสียงดังโครมครามขึ้น และดาบของเจอรัลด์ก็ฟาดเข้ากับหินก้อนใหญ่ที่อยู่ข้างหลังจนแหลกสลายเป็นเถ้าถ่านปัง!วินาทีต่อมา มีควันสีขาวพวยพุ่งออกมาจากโลงศพราวกับว่าฝาโลงศพเปลี่ยนเป็นศรแห่งเทพ และพุ่งตรงมายังเจอรัลด์พลั๊ว!เจอรัลด์ปกป้องมันด้วยฝ่ามือเมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้นเจอรัลด์รู้สึกตกใจมากพลังอันแข็งแกร่งปรากฏขึ้น และลากเจอรัลด์ไปข้างหลังหลายสิบเมตร“เจอรัลด์ คุณเป็นอะไรไหม?”โนริรีบถามด้วยความเป็นห่วงว่ากันตามตรง แม้ว่าโนริจะใช้เจอรัลด์เพื่อให้ตัวเองมีทางรอด แต่เธอก็เป็นห่วงเขาอย่างจริงใจ เมื่อได้เห็นเขาได้รับบาดเจ็บยิ่งไปกว่านั้นนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจอรัลด์ช่วยเธอถ้าไม่ได้เขาช่วย เธอคงตายไปแล้ว“สิ่งนี้ทรงพลังมาก! อย่างกับมียูเซฟ แมคโคว์สกี้ อีกคน!”เส้นเลือดสีน้ำเงินปูดขึ้นที่ท่อนแขนของเจอรัลด์ จนทำให้เกิดความรู้สึกเจ็บแปลบในขณะนั้นยังคงมีควันสีขาวพวยพุ่งออกมาจากโลงศพจากนั้นพวกเขาก็เห็นรองเท้าบูทโบราณคู่หนึ่งค่อย ๆ ปรากฏขึ้นจากด้านในโลงศพนั้นหลังจากนั้นก็ปรากฏศพสูงสองเมตรซึ่งสวมเสื้อคลุมดูเป็นทางการยืนอยู่หน้าโลงศพ ใบหน้าสีดำปกคลุมด้วยแพรผมสีเขียว และมีดวงต
“รีบลุกขึ้นเร็ว เจอรัลด์!” โนริตะโกน ขณะที่เธอวิ่งไปช่วยดึงเขาขึ้น เมื่อเห็นว่าเธอคว้าผ้าห่อตัว ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนผ้าขี้ริ้วขึ้นมา เจอรัลด์จึงจับมือมันก่อนจะขู่ว่า “ถ้ากล้าก้าวออกมาข้างหน้าอีกแม้แต่ก้าวเดียว ฉันจะทำลายมันซะ! เอาเลยสิ ฉันท้าแก!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น ซอมบี้ก็คำรามออกมาทันที! ซอมบี้ตัวนั้นยกแขนทั้งสองข้างขึ้น ก่อนจะถอยหลังไปสองสามก้าว! เห็นได้ชัดว่ามันไม่คิดจะเคลื่อนไหวเป็นอย่างอื่น จากนั้นโนริก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ก่อนที่จะพูดว่า “…ฉันไม่คาดคิดเลยจริง ๆ ว่าผ้าห่อตัวเด็กผืนนี้จะทำให้ซอมบี้นั้นยังคงหลงเหลือความเป็นมนุษย์อยู่!” ในขณะที่เจอรัลด์กำลังจะถอนหายใจด้วยความโล่งอก เสียงหัวเราะคำรามก็ดังกึกก้องไปทั่วท้องฟ้า... ต่อจากนั้น แสงวาบที่ทำให้ตาพร่าก็ปรากฏขึ้น… และวินาทีต่อมา ร่างหนึ่งก็ร่วงลงมาจากท้องฟ้าด้วยลำแสงดังกล่าว! ร่างนั้นลงจอดตรงหน้าเจอรัลด์ เขาดูเงอะงะอยู่เล็กน้อย อาจเป็นเพราะผลพวงจากการโจมตีครั้งก่อนของเจอรัลด์... แน่นอนว่าผู้ที่มาใหม่จะเป็นใครไปไม่ได้อีกนอกจากยูเซฟนั่นเอง “ไอ้ลูกหมา! คิดจริง ๆ แล้วว่าแกจะกำจัดฉันได้ง่าย ๆ แค่พอแกมีแผนที่ของห
ถึงกระนั้น ไม่ว่ายูเซฟจะล่าถอยไปไกลแค่ไหน เฟซรูมอสก็ยังไล่ตามเขาไม่เลิก! เมื่อเห็นว่าการวิ่งหนีไม่ได้ช่วยอะไร ยูเซฟจึงตะโกนว่า “ไอ้สารเลว! กล้าดียังไง! ขืนยังไล่ตามฉันต่อไป ฉันจะเผาผ้าห่อตัวของลูกแกทิ้ง! แล้วถ้าฉันทำอย่างนั้นเมื่อไหร่ ลูกผู้น่าสงสารของแกจะไม่เหลือแม้แต่กระดูก! อยากให้เป็นแบบนั้นเหรอ!” ตามข่าวลือที่ยูเซฟเคยได้ยินมาก่อนหน้านี้ เขาไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนก หรือวิ่งหนีเมื่อเผชิญหน้ากับเฟซรูมอส สิ่งเดียวที่ต้องทำเพื่อทำให้สัตว์อสูรตัวนี้หวาดกลัวคือ ขู่ว่าพวกเขาจะฉกผ้าห่อตัวของพวกมันไปถ้ามันเข้ามาใกล้กว่านี้ แม้ว่าสิ่งนั้นควรจะสามารถทำให้เฟซรูมอสยั้งตัวเองไม่ให้โจมตีเขา แต่หลังจากได้ยินยูเซฟพูดแบบนั้น ซอมบี้ตัวนี้ก็ยิ่งโจมตีรุนแรงยิ่งกว่าเดิม! คำพูดของยูเซฟดูเหมือนจะยิ่งทำให้มันโกรธมากขึ้นไปอีกเสียอย่างนั้น! “นี่มันเรื่องเวรอะไรกันวะ? ทำไมแกถึงยังไม่หยุด!” ยูเซฟบ่นด้วยความไม่เข้าใจ เขาหันไปมองเจอรัลด์และโนริด้วยความตื่นตระหนก… ก่อนที่จะตระหนักว่าทั้งคู่ได้หลบหนีไปแล้ว! ไม่มีทางที่เขาจะไล่ตามคนพวกนั้นไปได้อีก! ในขณะนั้น เขาหันไปมองสิ่งที่เขาถืออยู่… และในที่สุดตระหน
เมื่อได้ยินอย่างนั้น โนริก็กรีดร้องทันทีก่อนจะวิ่งไปหลบหลังเจอรัลด์! ก่อนหน้านี้ทั้งสองคนไม่ได้สังเกตเห็นการปรากฏตัวของดาบที่คล้ายลอยอยู่เหนือสระน้ำมาโดยตลอด อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่าก็คือ ความจริงที่ว่าเขาสามารถมองเห็นร่างสีดำลอยอยู่บนปลายดาบได้ลาง ๆ! “ค-คุณเป็นใคร…?” โนริเอ่ยปากถามด้วยความตื่นตระหนก “ผมมีนามว่ากระบี่หยกประสาน!” ร่างนั้นตอบด้วยน้ำเสียงเชิงกลที่ค่อนข้างแผ่วเบา “คุณ… คนนี้หน้าด้านมากจริง ๆ…? คิดจะแอบดูฉันเปลือยหรือไง…?”โนริพึมพำ เธออายเกินกว่าจะพูดออกมาดัง ๆ “ก่อนที่จะเข้าใจผิดกันไปมากกว่านี้ ผมต้องขอแจ้งให้ทราบก่อนว่าผมตาบอด คุณผู้หญิง ผมเพิ่งมาที่นี่เพราะผมสัมผัสได้ถึงรัศมีของผู้เป็นนายบริเวณนี้” กระบี่หยกประสานอธิบาย ขณะที่ร่างกายของเขาค่อย ๆ ก่อตัวขึ้น... เมื่อเขาก้าวเข้าไปใกล้ เจอรัลด์และโนริก็เห็นว่ากระบี่หยกประสานนั้นเป็นนักรบผมยาวที่สวมชุดเกราะสีดำเอาไว้ “ผู้เป็นนายของคุณงั้นเหรอ…?” ถามโนริที่ประหลาดใจ "ใช่แล้วล่ะ แล้วนี่ใช่คุณจริง ๆ หรือเปล่านายท่าน? นับตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่เราพบกัน ก็ผ่านวันเวลามาหลายพันปีแล้ว! แต่ในที่สุดคุณก็กลับมา
“คิดอะไรออกเหรอ?” เจอรัลด์ถาม "ใช่แล้วล่ะ! พอมาคิด ๆ ดูแล้ว ดูเหมือนว่าคุณคือร่างที่เก้าของเจ้านายผม! ถ้าคุณไม่ว่าอะไร กรุณาบอกผมทีได้ไหมว่าคุณดูเหมือนเจ้านายของผมหรือเปล่า” กระบี่หยกประสานเอ่ยถามอย่างกระวนกระวายใจ แม้ว่าเจอรัลด์จะปฏิเสธอย่างแข็งขันว่าเขาไม่ใช่ร่างจุติของลีมิสมาโดยตลอด แต่คราวนี้เขารู้สึกว่าจำเป็นต้องตอบอย่างตรงไปตรงมา ด้วยเหตุนี้ เจอรัลด์จึงพยักหน้า “ใช่แล้วล่ะ! ผมดูเหมือนกับเขาเป๊ะเลย!” “ที่นี้ก็ลงล็อกแล้ว! คุณคือร่างจุติครั้งที่เก้าของเจ้านายผมอย่างแท้จริง! ถึงกระนั้น นับตั้งแต่ที่ผมได้พบเขาครั้งสุดท้ายก็นานมากแล้วจริง ๆ… เมื่อนึกย้อนกลับไปในตอนที่จาเอลตราตกอยู่ในความโกลาหล ในตอนที่ผมได้พบกับนายท่านครั้งสุดท้าย… ในเวลานั้น เทพแห่งดวงอาทิตย์ทั้งสามของสหพันธ์ดวงอาทิตย์ได้ร่วมมือกันเพื่อจัดการกับนายท่าน ลำพังแค่พวกเขาสามคนก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรสำหรับนายท่านหรอก แต่สิ่งต่าง ๆ เริ่มกลับตาลปัตร เมื่อพวกยังไวเกอร์กล้าเข้ามามีส่วนร่วม แค่มองแวบเดียวก็เห็นเลยว่าพวกยังไวเกอร์และ พวกเทพแห่งดวงอาทิตย์วางแผนที่จะผนึกกำลังกันก่อนที่สงครามจะเริ่ม เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะกำจัดนา