“คิดอะไรออกเหรอ?” เจอรัลด์ถาม "ใช่แล้วล่ะ! พอมาคิด ๆ ดูแล้ว ดูเหมือนว่าคุณคือร่างที่เก้าของเจ้านายผม! ถ้าคุณไม่ว่าอะไร กรุณาบอกผมทีได้ไหมว่าคุณดูเหมือนเจ้านายของผมหรือเปล่า” กระบี่หยกประสานเอ่ยถามอย่างกระวนกระวายใจ แม้ว่าเจอรัลด์จะปฏิเสธอย่างแข็งขันว่าเขาไม่ใช่ร่างจุติของลีมิสมาโดยตลอด แต่คราวนี้เขารู้สึกว่าจำเป็นต้องตอบอย่างตรงไปตรงมา ด้วยเหตุนี้ เจอรัลด์จึงพยักหน้า “ใช่แล้วล่ะ! ผมดูเหมือนกับเขาเป๊ะเลย!” “ที่นี้ก็ลงล็อกแล้ว! คุณคือร่างจุติครั้งที่เก้าของเจ้านายผมอย่างแท้จริง! ถึงกระนั้น นับตั้งแต่ที่ผมได้พบเขาครั้งสุดท้ายก็นานมากแล้วจริง ๆ… เมื่อนึกย้อนกลับไปในตอนที่จาเอลตราตกอยู่ในความโกลาหล ในตอนที่ผมได้พบกับนายท่านครั้งสุดท้าย… ในเวลานั้น เทพแห่งดวงอาทิตย์ทั้งสามของสหพันธ์ดวงอาทิตย์ได้ร่วมมือกันเพื่อจัดการกับนายท่าน ลำพังแค่พวกเขาสามคนก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรสำหรับนายท่านหรอก แต่สิ่งต่าง ๆ เริ่มกลับตาลปัตร เมื่อพวกยังไวเกอร์กล้าเข้ามามีส่วนร่วม แค่มองแวบเดียวก็เห็นเลยว่าพวกยังไวเกอร์และ พวกเทพแห่งดวงอาทิตย์วางแผนที่จะผนึกกำลังกันก่อนที่สงครามจะเริ่ม เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะกำจัดนา
“จริงสิ… พอพูดถึงเรื่องนี้แล้ว ผมขอถามได้ไหมว่าเหตุผลอะไรที่ทำให้คุณต้องมาที่นี่ นายท่าน? อีกอย่าง คุณบอกว่าตอนนี้คุณล็อคแลนด์เองก็อยู่ในโลกมนุษย์ด้วย ใช่ไหม?” กระบี่หยกประสานถาม โดยยังคงก้มหน้าอยู่ต่อหน้าเจอรัลด์ "ใช่แล้วล่ะ แต่เธอก็อยู่ในฐานะวิญญาณในโลกนั้นเท่านั้น น่าเศร้าที่ผมไม่แข็งแกร่งพอในตอนที่ราชาประตูมิติแห่งการพิพากษามาตามล่าพวกเรา นั่นเพราะผมไม่อาจป้องกันตัวเองได้ ไซล่าจึงใช้ตัวเองเข้าล่อเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของราชาประตูมิติแห่งการพิพากษาให้ตามเธอไป หลังจากเหตุการณ์นั้น ผมก็ตามหาเธอไปทั่วแผ่นดินโลก น่าเสียดายที่ไม่ว่าที่ไหนก็ไม่มีเบาะแสของเธอเลย! เมื่อคิดได้ดังนั้น ผมถึงได้สังหรณ์ใจว่าเธออาจจะกลับไปที่จาเอลตราแล้วก็เป็นได้!” “ส่วนเรื่องเหตุผลที่ผมมาที่นี่ ก็ต้องนับว่าการพาลีมิสไปส่งคืนให้กับไซล่าก็ถือเป็นหนึ่งในเหตุผลของผมด้วย ส่วนอีกเหตุผลหนึ่งที่ผมมาที่นี่ ก็เพราะพี่สาวของผมถูกตระกูลควอเตอร์เมนลักพาตัวไป! ตอนนี้เธอกำลังทรมาน ผมถึงต้องช่วยเธอให้ได้! แต่เพื่อให้ผมมีชีวิตอยู่ต่อไปให้นานพอ ผมจึงต้องค้นหาพรีโมโคโรสที่จะสามารถช่วยให้ผมทะลวงเข้าสู่อาณาจักรแห่งนักปราชญ์ให้ได
หลังจากนั้นเสียงระเบิดก็ดังขึ้น! ทุกคนทำได้เพียงเบิกตากว้างเมื่อใบไม้ที่อยู่รอบ ๆ เริ่มรวมตัวกันต่อหน้ายูเซฟ โดยเฉพาะบริเวณหน้าอกของเขา... จากนั้นใบไม้เหล่านั้นก็เริ่มม้วนตัวขึ้น และเมื่อใบไม้รวมตัวกันจนกลายเป็นลูกบอลทรงกลมขนาดใหญ่ ยูเซฟก็เริ่มกระโดดพร้อมกับใช้หน้าอกผลักลูกบอลใบไม้ไปข้างหน้า! ในขณะนั้นเอง เสียงระเบิดก็ดังขึ้นอีกครั้งจากลูกบอลใบไม้ที่พุ่งเข้าใส่เจอรัลด์อย่างรวดเร็ว จนแทบจะมองตามกันไม่ทัน! เจอรัลด์โต้ตอบการจู่โจมนั้นโดยการตั้งนิ้วขึ้นเป็นรูปดาบ ก่อนที่จะพึมพำในใจของเขาว่า 'ไปจัดการมันเดี๋ยวนี้ ดาบเจ้าพายุ!' หลังจากนั้น เจอรัลด์ก็ตวัดนิ้วไปทางลูกบอลใบไม้ ซึ่งส่งผลให้ดาบแสงพุ่งออกไปโจมตีฝ่ายตรงข้าม! การระเบิดครั้งแล้วครั้งเล่าเกิดขึ้นตามมาอย่างต่อเนื่องเมื่อทั้งสองฝ่ายปะทะกันอย่างรุนแรง… จนกระทั่งในที่สุด ลูกบอลใบไม้ขนาดใหญ่ก็ถูกผ่าออกเป็นสองส่วน ทำให้เกิดเสียงระเบิดที่ดังสนั่นหวั่นไหวตามมาเป็นครั้งสุดท้าย! ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นได้แต่ผงะถอยไปสองสามก้าวด้วยความตกตะลึงกับพลังมหาศาลที่พวกเขาเพิ่งได้เห็น "…อะไรกันเนี่ย?" ยูเซฟที่กำลังงุนงงพึมพำ เด็กคนนั้น… เขารับ
หลังจากที่เธอถูกคนจากตระกูลควอเตอร์เมนจากจาเอลตราจับตัวมา เจสสิก้าก็ต้องทนทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสทุกวัน แม้จะถูกทำร้ายอย่างต่อเนื่อง แต่เธอยังคงแข็งแกร่งและแน่วแน่อยู่เสมอ เธอเชื่อว่าวันหนึ่งเจอรัลด์จะต้องมาช่วยเธอจากสถานที่แห่งนี้อย่างแน่นอน ด้วยเหตุนี้ เธอจึงรู้ว่าเธอจำเป็นต้องอยู่รอดให้ได้จนกว่าจะถึงวันนั้น แต่เธอไม่รู้เลยว่าวันนั้นจะมาถึงเร็วกว่าที่คาดไว้ ท้ายที่สุด เจอรัลด์ก็เดินทางมาถึงจาเอลตราแล้ว ซ้ำเขายังยอมเลื่อนการต่อสู้ระหว่างเขากับยูเซฟออกไป เนื่องจากเขาให้ความสำคัญกับการช่วยชีวิตพี่สาวของเขามากกว่า ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด ตอนนี้เขาได้เข้าสู่ระดับที่เก้าของอาณาจักรรูนแล้ว ซึ่งก็หมายความว่าเขากำลังเข้าใกล้อาณาจักรแห่งนักปราชญ์มากขึ้นทุกที ด้วยเหตุนี้ เขาจึงรู้ว่าเขาไม่จำเป็นต้องกลัวการเผชิญหน้ากับพวกควอเตอร์เมนอีกต่อไป ตอนนี้เขามีความสามารถมากพอที่จะช่วยพี่สาวของเขาได้แล้ว! ไม่นานนักเจอรัลด์ก็มาถึงเมืองบาริโอ เขาสวมเสื้อคลุมตัวยาวและเดินไปตามถนนในเมืองอย่างช้า ๆ เพียงลำพัง ตลอดถนนหนทาง เจอรัลด์เห็นผู้คนที่แต่งตัวด้วยชุดที่ดูหรูหรายืนอยู่ทั่วเมือง ซึ่งบ่งบอกอย่างชัดเจ
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทุกคนก็ร่าเริงทันที! ในทางกลับกัน เจอรัลด์ยังคงเฝ้ามองอย่างเงียบ ๆ ในมุมมืดของโถงจัดเลี้ยง สำหรับเขาแล้ว วันนี้ไม่ใช่วันฉลองวันเกิดของเยเซิร์น แต่เขากลับมองว่ามันเป็นวันจัดพิธีรำลึกถึงเยเซิร์นต่างหาก เมื่อมองดูทุกคนดื่มด่ำกับความสุข เยเซิร์นไม่ได้ตระหนักด้วยซ้ำว่าอันตรายใหญ่หลวงกำลังจะเกิดขึ้นกับเขา... เจอรัลด์เคยได้ยินคำกล่าวหนึ่งที่เหมาะสมกับสิ่งที่เขากำลังจะทำเป็นอย่างมาก โดยพื้นฐานแล้ว 'การสิ้นสุดของงานเลี้ยงเป็นเวลาที่ดีที่สุดเสมอสำหรับการทำธุระสำคัญให้เสร็จ' ในขณะที่เขากำลังคิดอยู่นั้น เจอรัลด์ก็ดึงผ้าคลุมของเขาลงมาปิดบังใบหน้า ก่อนที่จะกระโจนขึ้นไปในอากาศ! ไม่กี่วินาทีต่อมา ทุกคนที่อยู่ในงานก็ได้เห็นภาพของชายที่ดูแข็งแกร่งคนหนึ่งร่วงลงมาจากเพดานของห้องจัดเลี้ยง…ก่อนจะร่อนลงบนโต๊ะอาหารโต๊ะหนึ่ง! ด้วยความตกใจกับเสียงที่ดังสนั่นหวั่นไหว และภาพของโต๊ะอาหารที่แตกออกครึ่งหนึ่ง แขกที่อยู่รอบข้างจึงรีบวิ่งหนีออกจากบริเวณนั้นด้วยความกลัวทันที! เนื่องจากความผิดปกติอย่างกะทันหัน บรรยากาศที่สนุกสนานในตอนแรกหายไปอย่างรวดเร็วและถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกตึงเครีย
เมื่อเห็นเช่นนั้น เจอรัลด์เพียงแค่ดันฝ่ามือของเขาไปข้างหน้า ส่งผลให้บอดี้การ์ดทั้งสองคนลอยกระเด็นถอยหลังทันทีจากแรงระเบิดของพลังลมปราณอันทรงพลัง! เมื่อร่างทั้งสองร่วงลงสู่พื้น เยเซิร์นก็ตระหนักได้ว่าทั้งคู่เสียชีวิตแล้ว เพียงครั้งเดียวเท่านั้น! เจอรัลด์ใช้การโจมตีเพียงครั้งเดียวเพื่อฆ่าบอดี้การ์ดที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาทั้งสองคน…! ตอนนี้เขารู้ตัวแล้วว่าพลังและอำนาจของเขาไม่สามารถเทียบกับเจอรัลด์ได้เลย เยเซิร์นผู้หวาดกลัวกำลังตัวสั่นในขณะที่เขาค่อย ๆ ถอยหลังไปสองสามก้าวพร้อมกับขู่ว่า “ถอยไป...! ถ้าแกกล้าแม้แต่จะแตะต้องฉัน ครอบครัวของฉันไม่มีทางไว้ชีวิตแกอย่างแน่นอน…!” แม้ว่าเยเซิร์นจะรู้ว่าความตายของเขากำลังคืบคลานเข้ามาใกล้แล้ว แต่เขาก็ยังพยายามยกอำนาจของควอเตอร์เมนขึ้นมาข่มขู่เจอรัลด์ อย่างไรก็ตาม เจอรัลด์ตัดสินใจเดินทางมาที่นี่คนเดียวเพื่อจัดการกับครอบครัวของเขา ด้วยความที่เขาเป็นคนบ้าบิ่น เจอรัลด์จึงมั่นใจว่าคนที่ไร้ความรู้สึกอย่างเขาคงไม่ตกเป็นเหยื่อของการคุกคาม ถูกต้องหรือไม่…? ความหวังของเยเซิร์นสำหรับสถานการณ์ดังกล่าวพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาเป็นคนที่โง่เง่าเพียงใด เยเซ
หลังจากนั้น มือของเจอรัลด์ก็เปลี่ยนเป็นกรงเล็บที่แหลมคมเช่นกัน! ก่อนที่มิเกลจะทันได้ลงมือโจมตี เจอรัลด์ก็คว้าคอชายวัยกลางคนอย่างง่ายดาย ก่อนจะยกร่างของเขาขึ้นแล้วเหวี่ยงไปด้านข้าง! ตอนนี้คอของเขามีเลือดไหล มิเกลที่ได้รับบาดเจ็บค่อย ๆ คุกเข่าด้วยความยากลำบาก ก่อนจะพึมพำ “…แก… ไม่… คิดเลยว่าแก… จะรู้วิธี… ใช้หมัดทะลวงวิญญาณด้วย…!” ด้วยเลือดของมิเกลที่พุ่งออกมาจากปากของเขาในตอนนี้ ชายที่กำลังจะตายไม่สามารถแม้แต่จะจบประโยคของเขาได้ อย่างไรก็ตาม เขาได้รู้ความจริงที่ว่าเจอรัลด์ใช้วิชามังกรทะลวงวิญญาณในการโจมตีเขา… จากที่กล่าวมา มิเกลไม่คาดคิดเลยว่าเจอรัลด์จะใช้ทักษะที่เขาภาคภูมิใจเพื่อใช้เป็นวิธีในการจบชีวิตของเขา… เมื่อรู้ว่าเขาคงไม่สามารถไถ่โทษตัวเองจากความอัปยศอดสูนี้ได้ ในที่สุดมิเกลก็ยอมแพ้ เขาล้มลงจมกองเลือดของเขาจนตาย... หลังจากได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น เยเซิร์นก็รู้สึกหวาดกลัวมากจนเขาแทบจะขาดสติ! เขานั่งยอง ๆ เพื่อพยายามควบคุมร่างกายที่สั่นเทาของเขาให้สมดุล เยเซิร์นกำลังคิดว่า '...แม้แต่มิเกล ราชาแห่งจักระระดับหก และผู้พิทักษ์ของตระกูลควอเตอร์เมน ก็ยังไม่สามารถจั
ทันทีที่เจอรัลด์พูดจบ เสียง 'แกร๊ก' ของบางอย่างที่แตกหักก็ดังขึ้นอย่างชัดเจน หลังจากนั้น เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดของเยเซิร์นก็ดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ! เจอรัลด์เพิ่งหักแขนข้างหนึ่งของเยเซิร์น สีหน้าของนายน้อยผู้ไร้ทางสู้แสดงให้เห็นถึงความเจ็บปวดแสนสาหัส เมื่อเห็นอย่างนั้น ความโกรธของเฮนริกก็ยิ่งทวีคูณขึ้น ในขณะที่เขาจ้องไปที่เจอรัลด์พร้อมกับตะโกนว่า “แก…!” “ดูซะให้เต็มตา ไอ้แก่สารเลว! ลูกชายของแกตกอยู่ในกำมือของฉันแล้ว และถ้าแกต้องการให้เขามีชีวิตอยู่ในตอนจบของเรื่องราวทั้งหมดนี้ แกก็ควรปล่อยตัวพี่สาวของฉันซะ! ฉันแน่ใจว่าแกเองก็รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเขา ถ้าแกไม่ทำตามที่ฉันสั่ง!” เจอรัลด์โต้กลับอย่างตรงไปตรงมา เพราะเขาไม่อยากเสียเวลากับเฮนริกมากเกินกว่าที่ควร เห็นได้ชัดว่ามันเป็นข้อเสนอที่เฮนริกไม่สามารถปฏิเสธได้ เว้นแต่เขาจะไม่สนใจลูกชายของเขา และทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็รู้ดี อย่างไรก็ตาม เฮนริกกลับชี้ไปที่เจอรัลด์พร้อมกับตะโกนว่า “ฟังนะ ถ้าลูกชายของฉันตาย แกกับพี่สาวของแกก็ไม่มีทางเอาชีวิตรอดไปจากจาเอลตราได้เหมือนกัน!” 'แกต้องการแบบนั้นจริง ๆ ใช่ไหม?' เจอรัลด์คิดกับตัว