เมื่อจูเลียนเห็นมังกรสีเขียวขนาดมหึมาบินเข้ามาใกล้เจอรัลด์เพียงไม่กี่นิ้ว เขาก็รู้สึกตกใจจนหัวใจของเขาแทบจะหยุดเต้น! อย่างไรก็ตาม สิ่งต่อมาที่ทุกคนเห็นคือ แสงสีทองที่ปรากฏขึ้นและห่อหุ้มร่างของเจอรัลด์ไว้อย่างสมบูรณ์! วินาทีที่มังกรสัมผัสกับส่วนโค้งของแสง มันก็ผงะออกไปทันที! จากมุมมองของผู้ชม ดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างที่ทำให้มันรู้สึกตกใจสุดขีด! "โอ้พระเจ้า! เขากำลังใช้กลยุทธ์อะไรกันแน่?!” คาร์ลอสอุทานด้วยความประหลาดใจและไม่กล้าแม้แต่จะกระพริบตาในขณะที่การต่อสู้ดำเนินต่อไป แดริลเองก็รู้สึกประหลาดใจไม่แพ้กัน ท้ายที่สุด เขาและทุกคนรู้ดีว่าคาถามังกรคู่นั้นทรงพลังเพียงใด ในขณะที่แดริลรู้ว่าเจอรัลด์ตั้งใจปล่อยแสงสีทองออกมาเพื่อป้องกันตัวเองจากการโจมตี แต่เขากลับไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้วเกราะแสงนั้นคืออะไรกันแน่ มันคงจะไม่ใช่อาวุธเวทมนตร์อย่างแน่นอน เพราะนั่นคงจะไม่สามารถป้องกันคาถามังกรคู่ได้… และเกราะแสงนั้นน่าจะไม่ได้ถูกสร้างขึ้นจากการใช้กำลังภายในเพียงอย่างเดียวเช่นกัน ท้ายที่สุดแล้ว กำลังภายในที่แข็งแกร่งที่สุดก็ยังไม่สามารถต่อต้านพลังของคาถาได้ แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่…? ตอ
ท้ายที่สุดแล้ว สิ่งสุดท้ายที่พวกเขามองเห็นได้คือแสงที่ริบหรี่จากบนยอดหอคอยที่ทำให้พวกเขาทุกคนต้องปิดตาลงชั่วขณะ... เมื่อดวงตาของพวกเขาปรับสภาพได้ในที่สุด แดริล คลอฟอร์ด กษัตริย์ผู้เป็นตำนานแห่งเอเชียใต้ก็นอนกองอยู่บนพื้นแล้ว! "…อะไรกันเนี่ย?" เสียงพึมพำดังขึ้นจากฝูงชน ด้วยการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ที่เกิดขึ้น จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่สมาชิกจากตระกูลคลอฟอร์ดทุกคนจะมารวมตัวกันที่หอคอยมังกร คนที่พูดดูเหมือนจะเป็นนายน้อยคนหนึ่งของตระกูล และเขาเฝ้าดูทุกอย่างด้วยสายตาที่หวาดกลัวตั้งแต่วินาทีที่การต่อสู้ได้เริ่มต้นขึ้น ถึงกระนั้น เขาก็ไม่คาดคิดเลยว่าเหตุการณ์ทุกอย่างจะออกมาในลักษณะนี้ 'คุณปู่ไม่สามารถแตะต้องเจอรัลด์ได้แม้แต่ปลายนิ้วเชียวเหรอ ...?' ในขณะเดียวกัน คาร์ลอสและจูเลียนเองก็ประหลาดใจอย่างมากกับสิ่งที่พวกเขาเพิ่งได้เห็น… นี่เป็นการต่อสู้ที่แตกต่างจากที่พวกเขาเคยได้พบได้เจอมาอย่างสิ้นเชิง… "…นี่นาย…. นายไปเรียนรู้เทคนิคพิเศษทั้งหมดมาจากลีมิสอย่างนั้นเหรอ…? หากเป็นเช่นนั้นจริง นั่นก็สามารถอธิบายได้ว่าทำไมฉันจึงหาบันทึกทักษะวิชาที่เขาเชี่ยวชาญไม่เจอ แม้ว่าจะสำรวจสุสานโบราณทั้งหมดอย่
เนื่องจากเด้ด แอนนี่ ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของหัวใจแดริลแล้ว จึงแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เจอรัลด์จะฆ่าแดริลได้ ท้ายที่สุดแล้ว ไม่มีพลังใดที่จะสามารถทำลายอาวุธเวทมนตร์ที่สุดยอดนั้นได้อย่างแท้จริง ถึงอย่างนั้น แดริลก็ตระหนักดีว่า ถ้าเขาไม่ใช้ดอกไม้เพื่อช่วยกระตุ้นคาถาทลายจักรพรรดิมังกร เขาก็จะไม่สามารถแตะต้องเจอรัลด์ได้เลย เขาจะไม่มีวันปล่อยให้ปีศาจที่แข็งแกร่งเช่นนี้มีชีวิตรอดอยู่ในโลกนี้ได้! โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่! ด้วยเหตุนี้ ดอกเด้ด แอนนี่จึงเปล่งประกายเจิดจ้ากว่าที่เคย! ในขณะเดียวกัน การทำลายล้างครั้งใหญ่ก็เกิดขึ้นที่เชิงหอคอยมังกร! เมื่อเสียงกรีดร้องของมังกรดังขึ้นในอากาศ ก้อนเมฆที่ดำมืดก็เริ่มลอยเข้ามาปกคลุมพื้นที่นั้นทันที มันปกคลุมท้องฟ้าทั้งหมดเอาไว้อย่างน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างยิ่ง… แม้แต่ในสมัยโบราณ คาถานี้ก็มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักว่าเป็นคาถามีพลังมหาศาล… ด้วยเหตุนี้ การเปลี่ยนแปลงทั้งท้องฟ้าและโลกจึงเป็นเรื่องธรรมชาติเมื่อคาถาถูกร่ายขึ้นมา ขณะที่เหตุการณ์ทั้งหมดกำลังดำเนินไป คาร์ลอส จูเลียน และทุกคนที่ยืนดูอยู่ก็ได้แต่มองไปรอบ ๆ อย่างกระวนกระวายใจ “
เด้ด แอนนี่จากไปแล้ว แต่เจอรัลด์ยังมีชีวิตอยู่ และไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย... ยิ่งแดริลคิดถึงเรื่องนี้ เขาก็ยิ่งรู้สึกเจ็บปวดใจ ขณะที่เขาเริ่มรู้สึกเวียนหัวและมีเลือดไหลหยดลงมาจากมุมปากของเขา ชายที่กำลังจะตายยังคงชี้ไปที่เจอรัลด์และทำได้เพียงพึมพำด้วยความไม่เชื่ออย่างยิ่งว่า “แก… แก… เด้ด… แอนนี่ของฉัน…!” เขาเอามือทาบอก ขณะที่เขายังคงพึมพำกับตัวเองต่อไป มันเกือบจะเหมือนว่าแดริลได้สูญเสียจิตวิญญาณของเขาไปโดยสิ้นเชิง… ไม่เพียงแค่นั้น แต่ตอนนี้เขาดูแก่กว่าที่เคยเป็นมาก ความเยาว์วัยบนใบหน้าของเขาและผมสีขาวเป็นประกายได้หายไปหมดแล้ว… ชายชรากัดฟันแน่น ขณะที่เขาพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อจ้องมองเจอรัลด์ต่อไป ชายชรารู้อยู่ลึก ๆ ในใจว่าไม่มีอะไรที่เขาสามารถทำได้อีกต่อไปแล้ว ในทางกลับกัน เจอรัลด์กลับดูค่อนข้างสดชื่นเมื่อเขาเดินเข้าไปใกล้แดริลมากขึ้น เจอรัลด์พูดด้วยน้ำเสียงที่สงบว่า “ก่อนที่คุณจะตาย ผมมีอะไรอยากจะบอกคุณ แดริล” "…มีอะไร…?" “ในระหว่างการต่อสู้ครั้งแรกของเรา ผมใช้พลังลมปราณที่จำเป็นของผมไปประมาณยี่สิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้น…” “…แก…แกว่าอะไรนะ…?!” ชายชราที่อ่อนแอพึมพำ ในขณ
ในขณะที่ฝุ่นผงจำนวนมากยังคงลอยฟุ้งอยู่ในอากาศ ร่องเหวลึกก็ได้ก่อตัวขึ้นอย่างชัดเจนใต้หอคอย… อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจมากที่สุด ไม่สิ ความประหลาดใจของพวกเขาเกิดจากการที่แสงหลากสีพุ่งออกมาจากภายในหุบเหวนั้น! ด้วยแสงไฟระยิบระยับที่ส่องสว่างท่ามกลางท้องฟ้าที่มืดมิด มันทำให้ทุกคนรู้สึกเหมือนมีขุมทรัพย์ที่ยังคงรอคอยการค้นพบอยู่ที่นั่น… อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นว่าเจอรัลด์ไม่ได้เคลื่อนไหว ก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปสำรวจมันใกล้ ๆ ท้ายที่สุด หลังจากได้เห็นการต่อสู้ที่อันตรายถึงชีวิตด้วยตาของพวกเขาเอง พวกเขาทั้งหมดล้วนกังวลว่าราชาแห่งทิศเหนือจะลงเอยด้วยการฆ่าพวกเขา หากพวกเขาไม่ทันระวังตัว... ในทางกลับกัน แดริลก็ถูกสมาชิกคลอฟอร์ดคนอื่นนำตัวออกไปจากสถานที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว... อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาหันไปเห็นแสงหลากสี ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างทันที ในขณะที่เขาตะโกน “…ไม่… ไม่…!” ถึงกระนั้นก็ไม่มีใครได้ยินเสียงร้องของเขา… ในทางกลับกัน มันเหมือนกับว่าเขากำลังพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะหยุดบางสิ่งบางอย่างเอาไว้… ในขณะเดียวกัน ผู้นำวิญญาณก็กำลังเดินเข้าไปหาเจอรัลด์ โดยดวงตาของเขานั้นจับ
เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว ปรากฏว่ามีคนอีกหลายคนที่สามารถบรรลุอาณาจักรแห่งร่างอมตะได้... อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลานั้น ผู้คนต่างก็ไม่เชื่อเรื่องการมีอยู่ของราชาแห่งจักระระดับเก้า ดังนั้นจึงไม่มีใครเชื่อเรื่องการมีอยู่ของนักปราชญ์เช่นกัน สาเหตุหลักเกิดมาจากวิญญาณศักดิ์สิทธิ์บนโลกที่ลดจำนวนลงในตอนนั้น เนื่องจากเหตุการณ์นั้น ไม่เพียงความวุ่นวายครั้งใหญ่หลวงระหว่างสวรรค์และโลกจะเกิดขึ้นเท่านั้น แต่ภัยพิบัติต่าง ๆ ยังเกิดขึ้นค่อนข้างบ่อยอีกด้วย ท้ายที่สุดแล้ว ทั้งหมดนี้ก่อให้เกิดการล่มสลายของยุคของผู้ฝึกฝนที่ยิ่งใหญ่… ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด มีไม่กี่คนที่โชคดีพอที่จะพบว่าโลกข้างในนั้นกลวง เมื่อตระหนักว่ามีโลกอีกโลกหนึ่งคั่นอยู่ระหว่างเปลือกโลกและแกนกลางของโลก ผู้ที่พบวิธีหลบหนีจากที่นั่นสามารถเอาชีวิตรอดจากหายนะครั้งใหญ่ได้... ในโลกอีกใบหนึ่ง แกนโลกเปรียบเสมือนแหล่งพลังงานไม่ต่างจากดวงอาทิตย์ หลังจากนั้น ไม่เพียงแต่พวกเขาจะเอาชีวิตรอดได้เท่านั้น แต่พวกเขายังสร้างอารยธรรมใหม่ขึ้นที่นั่นได้สำเร็จอีกด้วย! และแม้ว่าอารยธรรมนั้นจะยังคงอยู่จนถึงปัจจุบัน แต่ก็ไม่มีใครสามารถฝึกฝนจนบรรลุถึงจุดสูงสุดอย
“บนแผนที่นั้นมีอะไรเหรอครับ ท่านอาจารย์” ผู้นำวิญญาณถาม เมื่อเขาเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันของเจอรัลด์ “…นี่เป็นแผนที่แรกจากสองแผนที่ แผนที่อันนี้แสดงทางเข้าสู่จาเอลตรา…! สำหรับอีกอันหนึ่ง ดูเหมือนว่ามันจะแสดงมิติที่แยกจากทั้งโลกและจาเอลตรา… ตามบันทึกนี้ เราอาจจะพบพรีโมโคโรสได้ที่นั่น!” เจอรัลด์อธิบาย การตามหาพรีโมโคโรสในทุกวันนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับการพยายามมองหาเม็ดทรายที่มีลักษณะพิเศษในทะเลทรายอันกว้างใหญ่... ด้วยความช่วยเหลือจากแดริลและทุกคน ตอนนี้พวกเขาได้ข้อมูลแล้วว่าจะมองหาต้นไม้ชนิดนี้ได้จากที่ไหน! แม้ว่าเขาจะตื่นเต้น แต่เจอรัลด์ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสมเพชแดริล ท้ายที่สุด ชายชราคนนั้นก็ได้วางแผนอย่างถี่ถ้วนมาโดยตลอด… เขาคงไม่คาดคิดมาก่อนว่าทุกหยาดเหงื่อที่เขาได้ทุ่มเทลงไป จะกลายมาเป็นรางวัลของคนอื่นในที่สุด… จากสิ่งที่เจอรัลด์สามารถสันนิษฐานได้ แดริลต้องการใช้วิญญาณบรรพกาลอันทรงพลังของเจอรัลด์เป็นฐานในการฝึกฝนในระดับที่สูงขึ้น หลังจากนั้น เขาจะพยายามตามหาพรีโมโคโรสเพื่อเอามาปรุงยาเม็ดให้ตัวเอง และเมื่อทุกอย่างเป็นไปตามแผนแล้ว แดริลจะต้องก้าวเข้าสู่อาณาจักรแห่งนักป
ใกล้กับเขตแดนของยานัมในปัจจุบัน สิ่งที่เคยเป็นหอคอยมังกรได้กลายมาเป็นอาคารที่มีลักษณะเหมือนปราสาท ทหารประจำการและผู้ฝึกฝนที่แข็งแกร่งอีกสองสามคนกำลังคุ้มกันอาคารอย่างแน่นหนา ไม่มีใครกล้าแม้แต่จะอยู่ในรัศมีหนึ่งร้อยไมล์จากพื้นที่แห่งนี้... ในพื้นที่ด้านในสุดของอาคาร จะเห็นทหารยามชราที่ดูน่าเกรงขามสิบคนยืนอยู่ทั้งสองด้านของทางเข้าที่นำไปสู่ถ้ำหินที่ดูลึกลับ… “ท่านอาจารย์ยังไม่ออกมาอีกเหรอ…?” ทหารยามคนหนึ่งกระซิบด้วยเสียงที่แผ่วเบา ในขณะเดียวกัน ทหารยามอีกคนหนึ่งก็เดินไปมาโดยเอามือไพล่หลังไว้ หลังจากนั้นไม่นาน จูเลียน ซึ่งเป็นหนึ่งในทหารยามก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มขณะที่เขาพูดว่า “คาร์ลอส คุณช่วยหยุดเดินไปมาสักทีจะได้ไหม? คุณทำให้ผมเวียนหัวไปหมดแล้ว!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น ชายที่เหลืออีกแปดคนก็เริ่มหยอกล้อคาร์ลอสเช่นกัน ทหารยามอีกแปดคนเป็นผู้ฝึกฝนวิชาที่แข็งแกร่ง ซึ่งมาขอติดตามเจอรัลด์ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา และพวกเขาก็ไม่ใช่คนเพียงกลุ่มเดียวที่ทำเช่นนั้น พูดกันตามตรง มีผู้ฝึกฝนที่แข็งแกร่งอีกมากมายที่ตัดสินใจเข้ามาขอเป็นผู้ติดตามของราชาแห่งทิศเหนือผู้นี้ จากที่กล่าวมา องค์กรของเขาได
พวกเขาได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วในตอนที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่มีใครหรือรถคันอื่นใดอยู่รอบ ๆ เลยแม้แต่คันเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ยังอยู่ในรถเพียงลำพังด้วยนั่นหมายความว่าสถานการณ์ที่ผู้เฒ่าฟลินท์พบกับอุบัติเหตุนั้นแปลกประหลาดอย่างยิ่งในวิดีโอที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นแสดงให้เห็นว่ารถของผู้เฒ่าฟลินท์ลื่นไถลและหลุดการควบคุมไปเองในทันทีเจอรัลด์และเรย์ได้รับการปล่อยตัวในช่วงบ่ายนั้นเองพวกเขานั่งแท็กซี่กลับไปที่สำนักงานระหว่างทางกลับ เรย์มองเจอรัลด์ด้วยสีหน้างุนงงอย่างหนักแล้วถามว่า “เจอรัลด์ คุณคิดเห็นยังไงกับการตายของผู้เฒ่าฟลินท์?เขาตายได้ยังไง?”ใบหน้าของเจอรัลด์เคร่งเครียดมาก เขาเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน แต่ถึงกระนั้นเขาก็มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุธรรมดาแน่นอน“นี่หมายความว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดยังไม่ตายเหรอ?”วินาทีต่อมา ความคิดอันบ้าบิ่นก็ผุดขึ้นในใจของเรย์เจอรัลด์รู้สึกว่าการคาดเดานี้เป็นไปได้น้อยมาก นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดตายไปต่อหน้าต่อตาเขาเอง แล้วเขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?“เรากลับก่อนเถอะ บางทีมันอาจจะเป็นแค่อุบัติเหตุจริง ๆ ก็ได้!”เจอรัลด์บอก
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เจอรัลด์และเรย์ยังคงหลับอยู่ กริ่งที่ประตูก็ปลุกพวกเขาให้ตื่นเรย์เดินออกจากห้องไปที่ประตูในลักษณะกึ่งหลับกึ่งตื่นแล้วเปิดประตูออกเมื่อประตูถูกเปิดออก เขาก็ได้เห็นชายสองสามคนซึ่งกำลังสวมเครื่องแบบยืนอยู่ข้างนอก เมื่อเห็นตราบนเครื่องแบบของพวกเขา พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้มาจากรัฐบาลกลาง“ขออภัย คุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ดและคุณเรย์ เลห์ตันอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาถามเรย์พยักหน้าและตอบว่า “ผมนี่แหละเรย์ มีอะไรเหรอ?""พาเขาออกไป!"เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเรย์ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็สั่งคนของเขา และทันใดนั้นเอง เจ้าหน้าที่อีกสองคนก็เข้ามาคว้าแขนของเรย์แล้วลากเขาออกไปข้างนอก"เฮ้ย! นี่มันอะไรกัน?!"เรย์ตะโกนทันทีความโกลาหลดังกล่าวทำให้เจอรัลด์ จูโน่ และโนริตื่นขึ้นพวกเขาออกจากห้องอย่างรวดเร็ว"คุณเป็นใคร?"เมื่อเจอรัลด์ออกมา เขาก็มองดูเจ้าหน้าที่พวกนั้นด้วยความประหลาดใจและเอ่ยถามขึ้น“คุณคงเป็นคุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ด เรากำลังสงสัยว่าคุณเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรม สารวัตรเลค หรือที่รู้จักกันในชื่อผู้เฒ่าฟลินท์ ดังนั้นเราต้องการนำคุณไปสอบ
ในเวลาเดียวกัน หมอกควันสีทมิฬของเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ล้อมรอบกายของชายชราเอาไว้หลังจากนั้นไม่นาน หมอกควันสีทมิฬดังกล่าวก็ดูดกลืนวิญญาณและพลังงานของชายชราไป ทำให้ชายกลายเป็นศพแห้งกรังเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกสิ่งนี้ทำให้เอ็มเบอร์ลอร์ดตระหนกเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้คาดหวังให้เกิดผลลัพธ์เช่นนี้ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่คิดแล้วว่าชายชราจะมาสกัดกั้นการโจมตีจากเจอรัลด์แทนเขาแบบนี้“เอ็มเบอร์ลอร์ด คุณฆ่าคนบริสุทธิ์อีกแล้ว!”เจอรัลด์ตะโกนใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดด้วยความโกรธเมื่อพูดเช่นนั้น เจอรัลด์จึงตัดสินใจใช้ทักษะต้องห้ามของตัวเองเพื่อทำลายเอ็มเบอร์ลอร์ดให้สิ้นซากในขณะนี้เอ็มเบอร์ลอร์ดเสียสติไปแล้ว เขายืนนิ่งไม่ขยับ ราวกับสูญเสียจิตวิญญาณของตัวเองไป “วิชาทลายสหัสภพ!”เจอรัลด์ตะโกนและขว้างดาบแอสตราบิซในมือใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดเมื่อดาบแทงเข้าไปในร่างของเอ็มเบอร์ลอร์ด มันก็เปล่งแสงเจิดจ้าออกมาและกลืนกินเอ็มเบอร์ลอร์ดไปจนสิ้น“อ๊าก!”เอ็มเบอร์ลอร์ดกรีดร้องวินาทีต่อมา เอ็มเบอร์ลอร์ดก็กลายเป็นเถ้าถ่านในที่สุด เจอรัลด์ก็กวาดล้างเอ็มเบอร์ลอร์ดลงได้แล้วเจอรัลด์ล้างแค้นให้ชาวบ้านในหมู่บ้านฟ้าทมิฬได้แล้ว
ทั้งสามรีบมองออกไปข้างนอก ก่อนจะเห็นว่าชายชราออกจากบ้านไปตามลำพังโดยถือตะกร้าติดตัวไปด้วยขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังกระท่อมไม้ของยามิเล็ต เฟซเมื่อเห็นสิ่งนี้ ทั้งสามก็สบตากันพวกเขาพบว่ามันค่อนข้างแปลกที่ชายชราคิดจะถือตะกร้าออกไปกลางดึกเช่นนี้ นี่จะต้องมีความลับบางอย่างที่ไม่มีใครล่วงรู้ซ่อนอยู่เป็นแน่ไม่นานหลังจากนั้น เจอรัลด์และทั้งสองก็ออกจากบ้านและติดตามชายชราไปอย่างเงียบ ๆพวกเขาติดตามชายชราไปจนถึงกระท่อมไม้ จากนั้นพวกเขาเห็นเขาหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเพื่อปลดล็อคประตูเมื่อประตูถูกปลดล็อค ชายชราผู้นั้นสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างระมัดระวัง หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เขาก็ผลักประตูเปิดออกแล้วเดินเข้าไปอย่างมั่นใจเจอรัลด์และอีกสองคนก็เดินไปที่กระท่อมไม้ทันทีและยืนอยู่ตรงหน้ากระท่อมหลังนั้น“เจอรัลด์ ดูเหมือนว่าชายชรากำลังปิดบังอะไรบางอย่างกับเรา เพราะเขามีกุญแจบ้านหลังนี้อยู่กับตัว!”เรย์กระซิบกับเจอรัลด์ตอนนี้พวกเขาตระหนักได้แล้วว่าชายชราไม่ใช่คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างที่คิด เขาต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเอ็มเบอร์ลอร์ดแน่“เรย์ ผู้เฒ่าฟลินท์ คุณสองคนไปซ่อนตัวก่อน เ
“เอ๋ นี่ก็ดึกแล้วนะ! ผมว่าคนที่คุณกำลังรออยู่คงไม่มาหรอก มาเถอะไปที่บ้านของผมและพักผ่อนกันจะดีกว่า!”ชายชราถอนหายใจและยื่นข้อเสนอให้ทั้งสามคนเมื่อผู้เฒ่าฟลินท์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็หันกลับมาที่เจอรัลด์เพื่อสอบถามความคิดเห็นของเขาเจอรัลด์เห็นปฏิกิริยาของเขาและพยักหน้าอย่างช้า ๆเนื่องจากพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงไปพักผ่อนที่บ้านของชายชราเท่านั้นนอกจากนี้ ท้องฟ้ามืดสนิท และไม่ปลอดภัยเลย ไม่รู้เลยว่าข้างนอกนี่มีอะไรรอพวกเขาอยู่?หลังจากพูดคุยกัน เจอรัลด์และคนอื่น ๆ ก็ติดตามชายชราออกจากกระท่อมไม้ไปชายชราพาเจอรัลด์และคนอื่น ๆ ไปที่บ้านของเขา บ้านของเขาดูไม่เก่าเท่าไหร่ ราวกับเพิ่งถูกซ่อมแซมใหม่ก่อนหน้านี้“ผู้เฒ่า หมู่บ้านนี้เหลือคุณอยู่เพียงคนเดียวหรือเปล่า?”เมื่อพวกเขาอยู่ในบ้านของชายชรา ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ถามอย่างสงสัย"หึหึ!" ชายชราหัวเราะเบา ๆ"ใช่ คนอื่น ๆ ย้ายไปอยู่ในเมืองกันหมด ที่นี่เลยเหลือแค่ฉันคนเดียว!”หลังจากที่เขาหัวเราะแล้วเขาก็ตอบ“แล้วทำไมคุณไม่ย้ายเข้าเมืองด้วยล่ะ? อยู่ในเมืองไม่สบายกว่าเหรอ?”ผู้เฒ่าฟลินท์ยังคงถามต่อไป“อนิจจา ผมมันไร้ญา
“หึหึ เรย์ อย่าลืมสิว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว เขาน่ากลัวกว่าผีเสียอีก กับอีกแค่สถานที่แบบนี้นายคิดว่าเขาจะกลัวเหรอ”เจอรัลด์หัวเราะและเตือนเรย์เมื่อเรย์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดสมเหตุสมผล “สำรวจกันตามสบายเลย ผมคงต้องไปก่อน!”ชายชราพูดกับทั้งสามคน“ได้เลย ผู้เฒ่า ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณมากเลย!"ผู้เฒ่าฟลินท์ขอบคุณชายชราผู้นั้นอย่างรวดเร็ว“ไม่เป็นไรหรอก!”ชายชราตอบพลางโบกมือหลังจากที่ชายชราผู้นั้นจากไป เจอรัลด์และอีกสองคนก็ยืนอยู่หน้ากระท่อมไม้ จ้องมองออกไปอย่างว่างเปล่าพวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำอะไร พวกเขาไม่อาจเข้าไปในกระท่อมได้ และไม่รู้ด้วยว่าจะเข้าไปเช่นไร“พี่เจอรัลด์ ผู้เฒ่าฟลินท์ ทีนี้เราจะทำยังไงดี? เปิดประตูออกไปเลยดีไหม?”เรย์มองไปที่เจอรัลด์และผู้เฒ่าฟลินท์แล้วถาม“ไม่ นั่นไร้สาระมาก เราบุกรุกเข้าไปไม่ได้!”ผู้เฒ่าฟลินท์ปรามเรย์ทันทีแม้ว่ายามิเล็ต เฟซจะไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว แต่กระท่อมหลังนี้ยังคงเป็นของเธอ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจทำตามอำเภอใจได้“แล้วเราควรทำยังไง? เราไม่มีกุญแจ”เรย์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“เ
ไม่มีทางที่ข้อเท็จจริงทั้งสองนี้จะเป็นเรื่องบังเอิญได้ เพราะฉะนั้นนั่นก็อาจหมายความได้ว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดกำลังซ่อนตัวอยู่ที่นั่น แต่เพราะนี้คือคำใบ้ที่เอ็มเบอร์ลอร์ทิ้งไว้ให้พวกเขา จึงเป็นไปได้ว่าแทนที่จะไปพบเขาที่นั่น พวกเขาจะออกค้นหาตำแหน่งของเหยื่อรายต่อไปแทน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผู้เฒ่าฟลินท์ก็สตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งไปทันที! พวกเขาจำเป็นต้องมุ่งหน้าไปที่บ้านของยามิเล็ต เฟซเดี๋ยวนี้! “คุณแน่ใจจริง ๆ เหรอว่า เอ็มเบอร์ลอร์ดจะซ่อนอยู่ที่นั่น พี่เจอรัลด์…?” เรย์ถามระหว่างทางไปที่นั่น เจอรัลด์ส่ายหน้าแล้วตอบด้วยสีหน้าจริงจังว่า “บอกตามตรง ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดเป็นคนจู้จี้จุกจิกและไม่เคยทำตามกฎเกณฑ์ ฉันเดาว่าเลขพวกนี้จะนำเราไปสู่เหยื่อรายต่อไป แต่ในการตามหาเหยื่อรายนั้น เราจะเข้าใกล้ที่กบดานของเอ็มเบอร์ลอร์ดอีกก้าวหนึ่งอย่างแน่นอน!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เรย์ก็พยักหน้าเข้าใจ... หลังจากขับรถไปประมาณสี่สิบนาที ในที่สุดทั้งสามก็มาถึงบ้านคุณยายของเอ็มเบอร์ลอร์ด ยามิเล็ตอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ อันห่างไกล และไม่นานทั้งสามก็เดินอยู่ในถนนของหมู่บ้าน
"สวัสดี? เจอรัลด์มีอะไรหรือเปล่า?” ผู้เฒ่าฟลินท์ถามจากอีกฟากหนึ่งของสาย “ผู้เฒ่าฟลินท์ ถึงผมจะรู้ว่าคุณไม่อาจยอมให้เราเข้าร่วมการสืบสวนได้ แต่ผมก็หวังว่าคุณจะสามารถช่วยเราได้ นั่นก็แปลว่าหากคุณต้องการคลี่คลายคดีและจับเอ็มเบอร์ลอร์ดให้ได้ ก็ช่วยตั้งใจฟังผมและเชื่อผมด้วย ทุกสิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณต่อไปนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งทีเดียว!” เจอรัลด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ทว่าในที่สุดเขาก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาสามารถไว้ใจเจอรัลด์ได้ ดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะเสี่ยงเหนือสิ่งอื่นใด ทั้งเขาและเด็กหนุ่มต่างก็ต้องการให้คดีคลี่คลายลงและจับตัวเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ในท้ายที่สุด “…เอาล่ะ บอกมาว่าฉันจะช่วยยังไงได้บ้าง!” “มุ่งหน้าไปที่สำนักงานเขตเดี๋ยวนี้เลย ผมเองก็จะไปที่นั่นด้วยเช่นกัน แล้วเมื่อเราพบกันที่นั่นผมจะบอกข้อมูลเพิ่มเติมกับคุณทีหลัง!” เจอรัลด์ตอบก่อนจะวางสาย ครึ่งชั่วโมงต่อมาเรย์และเจอรัลด์ได้พบกับผู้เฒ่าฟลินท์ ณ สถานที่ที่พวกเขานัดกัน “เรามาทำอะไรที่นี่ เจอรัลด์…?” ผู้เฒ่าฟลินท์เอ่ยถามอย่างสับสน “ฟังนะ ผมต้องการให้คุณตรวจสอบประวัต
เมื่อตระหนักว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้เฒ่าฟลินท์ เจอรัลด์และเรย์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกผู้เฒ่าฟลินท์อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วเล็กน้อยในขณะที่เขาถามอย่างงุนงงว่า “…พวกนายสองคนเองเหรอ? มาทำอะไรกันที่นี่? แล้วเข้ามาที่นี่ได้ยังไง?”หัวหน้าสารวัตรมีคำสั่งไม่ให้เขาติดต่อกับเจอรัลด์อีกต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้รับแจ้งว่าเจอรัลด์ไม่ได้รับอนุญาตให้มาช่วยในการสืบสวนอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ผู้เฒ่าฟลินท์จึงทำได้เพียงเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาของเขาเท่านั้น“เรามาตามหาเบาะแส!” เจอรัลด์ตอบ “ฟังนะ ฉันต้องขอโทษ ด้วย แต่นายสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้มายุ่งย่ามกับคดีนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นได้โปรดออกไปเสีย! ถ้านายกลับมาที่นี่อีกครั้ง เราก็จำเป็นต้องจับพวกนายกลับไปกับเราด้วย!” ผู้เฒ่าฟลินท์เตือน เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ทำเพียงแค่พยักหน้า ด้วยความที่ไม่อยากสร้างเรื่องยุ่งยากให้แก่ตาเฒ่าคนนี้ เจอรัลด์จึงตอบกลับไปว่า “รับทราบ!” ขณะที่เขากำลังจะจากไปพร้อมกับเรย์ เขาก็ได้ยินเสียงผู้เฒ่าฟลินท์ตะโกนว่า "เดี๋ยวก่อน! ตอนที่อยู่ที่นี่นายได้พบเบาะแสอะไรบ้างหรือเปล่า? ถ้ามีล่ะก็ช่วยมอบมันให้เราด้วย!” เ