สถานที่นั้นอยู่เมืองรีวิงตัน!ทันทีทันใดนั้นโทรศัพท์ของเจอรัลด์ก็ดังขึ้นหางตาของเขา เห็นว่าเป็นสายเรียกจากเอเลน่า“คุณคลอฟอร์ด คุณได้รับบัตรผ่านประตูแล้วหรือยังค่ะ?”“อืม ผมได้มันแล้ว คุณแค่น่าจะให้มันกับผมเป็นการส่วนตัวเมื่อคุณมีโอกาสที่จะทำนะ ทำไมต้องเดือดร้อนตัวเองจนถึงที่สุดเพื่อส่งมันมาให้ผมด้วย?”“ฮี่ฮี่ฮี่ คุณคลอฟอร์ด นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น ฉันมาถึงที่เมืองรีวิลตันแล้วเมื่อวานนี้เพื่อมาเยี่ยมคุณป้าของฉัน จู่ ๆ ฉันก็นึกได้เมื่อคืน ว่าคุณยังไม่มีตั๋วผ่านประตู ดังนั้นฉันถึงตัดสินใจส่งมันไปให้คุณชั่วข้ามคืนไงล่ะ!”หลังจากรู้สถานะของเจอรัลด์ เอเลน่าก็ยำเกรงมากต่อเจอรัลด์เดิมทีเอเลน่าถูกบังคับโดยพ่อแม่ของเธอเพื่อทำให้เจอรัลด์พอใจตั้งแต่เริ่มแรกแต่หลังจากการใช้เวลาไม่กี่วันในการทำความรู้จักกับเจอรัลด์ เอเลน่าก็ค้นพบว่าเขามีเสน่ห์ที่พิเศษมากจริง ๆ เกี่ยวกับตัวเขาเขาคือทายาทรุ่นที่สองที่ร่ำรวยแต่เขาไม่ได้มีบรรยากาศที่ทำตัวอยู่เหนือคนอื่น เขาอยู่กับความเป็นจริงและเรียบง่ายมากจริง ๆมันทำให้เอเลน่าอยากจะเข้าใกล้หัวใจของเจอรัลด์มากขึ้น ดังนั้น ครั้งนี้เธอจึงเป็นคนที่ต้องการเชิญ
“นายกำลังล้อเล่นหรือเปล่า ฉันเพิ่งเห็นนายกำลังถือมันอยู่ไม่ใช่หรือไง?”พวกเขามาถึงตรงทางเข้า และชายหนุ่มที่ร่ำรวยคนอื่น ๆ ก็ได้แนะนำเขา“ใช่ แต่เมื่อครู่ฉันไปเข้าห้องน้ำใช่ไหมล่ะ? รถหยุดที่ไหนสักแห่งระหว่างทางและฉันไปฉี่ในป่าด้วยอ่ะ โธ่เว้ย ฉันถือบัตรผ่านประตูและหลังจากที่ฉันทำธุระเสร็จ ดูเหมือนว่าฉันจะจำได้ว่าไม่ได้ถืออะไรไว้ในมือแล้ว ฉันคิดว่าตอนนั้นแหละที่ฉันทำมันหาย!”กลุ่มคนเริ่มกระทุ้งเขาเล่น แต่เห็นได้ชัดว่าพวกเขาแค่ล้อเล่นในฐานะเพื่อนกันทุกคนเริ่มกระวนกระวายใจขึ้นมานิด ๆ แล้ว“ไปหาดูมันอีกครั้งกันเถอะ แต่ถ้าพวกเราไม่สามารถหามันเจอได้ เราค่อยกลับไปและเอามัน…”“ที่นั่นค่อนข้างไกลจากนี่นะ!”พวกเขาหารือกันและอธิบายเกี่ยวกับว่าเขามีตั๋วแต่เขาทำมันหายไปให้พนักงานต้อนรับหญิง และถ้าเขายังคงได้รับอนุญาตให้เข้าไปและเช่นนั้นพนักงานต้อนรับหญิงปฏิเสธการเข้าของพวกเขาอย่างตรงไปตรงมา“มีเรื่องอะไรเหรอ?”ในเวลานี้เอง ชายวัยกลางคนที่แต่งกายด้วยชุดสูทเดินมาทางกลุ่มของชายหญิงกลุ่มนี้“โอ้ คุณต้องเป็นคุณยานซี ซิมเมอร์แมน แน่”เดิมทีผู้จัดการวัยกลางคนมีสีหน้าที่เฉยเมย แต่เมื่อเขาเห็นคน
เจอรัลด์ประหลาดใจ เขาหยุดเพื่อดูว่าพวกเขากำลังทำอะไรอยู่“คุณ! แสดงบัตรผ่านประตูของคุณเดี๋ยวนี้!”ความโกรธของเท็ด โลเปสนั้นท่วมท้นเอาตามตรง เจอรัลด์ไม่ได้ดูเหมือนชายหนุ่มที่ร่ำรวยเลยก่อนหน้านี้เขาสงสัยว่านี่อาจจะเป็นความผิดพลาด แต่หลังจากที่ได้มองไปที่เสื้อผ้าของเจอรัลด์นี่ไม่ใช่ความผิดพลาดอย่างแน่นอน!เท็ดเกลียดเขาไปถึงกระดูกเลยทีเดียว“คุณตรวจบัตรผ่านประตูของผมไปก่อนหน้านี้แล้วไม่ใช่หรือไง!” เจอรัลด์ชี้ไปที่พนักงานต้อนรับหญิง“ถ้าฉันไม่ได้ตรวจ ฉันจะรู้ได้อย่างไรว่าคนขี้แพ้เพิ่งจะแอบเข้ามาที่นี่!”“คุณซิมเมอร์แมน นี่คือคนนั้น ฉันคิดว่าเขาได้เก็บบัตรผ่านประตูของคุณไป!” แฮดลีย์ตะคอกใส่เขาอย่างหยาบคายหลังจากพูดเช่นนั้น เธอก็เข้าไปหาเจอรัลด์และฉกบัตรผ่านประตูไปจากมือของเขา“โธ่ โลกนี้ช่างกว้างใหญ่จริง ๆ และมีคนหลากหลายประเภท และคนอย่างนายคิดว่านายสามารถเข้าร่วมปาร์ตี้ล่องเรือในคืนนี้ได้จริง ๆ!”หญิงสาวสองสามคนปิดปากขณะที่พวกเธอหัวเราะเยาะ สายตาของพวกเธอเต็มไปด้วยความดูถูกดูแคลนตอนนั้นเองเจอรัลด์ก็ได้เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นเขามีความรู้สึกว่าที่พวกเขาตะโกนร้องเรียกเขาก็เพร
เจอรัลด์รู้ว่าเอเลน่าหมายถึงอะไรโดยไม่ต้องคิดด้วยซ้ำ!แน่นอนว่าเธอกำลังพยายามจะให้เขาแกล้งทำเป็นว่าเป็นแฟนของเธอ เพื่อที่เธอจะได้ใช้เขาจัดการกับญาติคนนั้นของเธอเจอรัลด์สุดจะทนแล้วกับการเสแสร้งแกล้งทำ แม้กระทั่ง นับประสาอะไรกับการแกล้งเป็นแฟนของเธอ“เจอรัลด์ ได้โปรด ฉันขอร้องคุณ โปรดแกล้งทำเป็นว่าคุณเป็นแฟนของฉัน เอเดนและคนอื่น ๆ ดูเหมือนพวกอันธพาลมากเกินไป พวกเขาไม่ได้ใจเย็นเหมือนกับที่คุณเป็น คุณคือผู้ท้าชิงที่ดีที่สุดสำหรับฉัน ถ้าคุณไม่ช่วยฉัน ลูกพี่ลูกน้องของฉันจะให้ฉันพบปะทำความรู้จักกับผู้ชายคนนั้นแน่ และฉันไม่อยากจะพบกับเขาเลยจริง ๆ!” เอเลน่าขอร้องแม้ว่าเจอรัลด์อยากจะปฏิเสธ แต่เขาก็หาเหตุผลไม่ได้จริง ๆ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เอเลน่าก็ได้ช่วยเขามาสองสามครั้งแล้วก่อนหน้านี้ และตอนนี้เธอก็แค่ขอให้เขาตอบแทนความช่วยเหลือนั้น มันคือคำร้องขอที่ธรรมดา และมันคงจะน่าอับอายถ้าเขาปฏิเสธมันไป“ก็ได้!” เจอรัลด์พยักหน้าตกลงหลังจากวางสายโทรศัพท์ เจอรัลด์ไม่ได้ขึ้นไปชั้นบนกับเอเดนและคนอื่น ๆ แต่แทนที่ เขากลับนั่งรถแท็กซี่ไปที่บ้านของญาติเอเลน่าครอบครัวของลูกพี่ลูกน้องของเธอค่อนข้างมั่งคั่ง
“เขาคือแฟนของเธอหรือ เอเลน่า?”เมื่อเดินเข้ามาในบ้าน ชายหญิงกลุ่มหนึ่งในวัยเดียวกันเดินมาหาพวกเขาก่อนที่พวกผู้ใหญ่จะทันได้พูดอะไรพวกเขาแต่ละคนคาดเดาในตัวเจอรัลด์มันเป็นเวลาไม่นานก่อนที่คนเหล่านี้จะเปิดเผยความในใจของพวกเขา‘ว้าว เอเลน่าเป็นคนสวยมาก แต่กระนั้นเธอมีรสนิยมที่แย่มากขนาดนี้เลยหรือ? เห็นได้ว่าแฟนของเธอนั้นห่างไกลจากที่คิดไว้มาก!”“เอเลน่า พวกเราจะขอให้เธอไปร่วมงานปาร์ตี้ล่องเรือด้วยกันกับเรา แต่เธอก็มักจะบอกว่าเธอมีบางอย่างที่ต้องทำอยู่เสมอ อืม เธอพาแฟนของเธอมาด้วย!” เด็กสาวคนหนึ่งพูดขึ้นมา“ใช่ แต่บังเอิญอะไรอย่างนี้...พวกเราสามารถไปด้วยกันได้หนิ!” เอเลน่ายิ้มและจับมือเจอรัลด์ ไม่ปล่อยเลยสักครั้งไม่มีลูกพี่ลูกน้องของเธอคนไหนเลยที่จะกล่าวทักทายเจอรัลด์เอเลน่าก็รู้ว่าพวกเขาดูถูกเขาเหมือนกันแต่อย่างไรก็ตาม เธอไม่กล้าที่จะเผยตัวตนของเจอรัลด์โดยไม่ได้รับการยินยอมจากเขา เมื่อเห็นว่าเจอรัลด์ดูเหมือนจะโอเคดีอยู่ เธอก็โล่งอกแต่เจอรัลด์ยังรู้สึกห่างไกลจากความสุข มึนงงจากการเข้าร่วมโอกาสเช่นนี้บ่อยเกินไป เขาเพียงเลือกที่จะอยู่เงียบ ๆ และรักษาความสงบของเขาเอาไว้“โอเค เ
“คุณป้าค่ะ อย่าพูดแบบนั้น!”เอเลน่าจ้องมองเธอด้วยสายตาที่เบิกกว้างขึ้นเธอไม่คาดคิดว่าคำพูดที่โหดร้ายต่าง ๆ เหล่านี้จะออกมาจากปากคุณป้าของเธอจริง ๆเธอไม่รู้จริง ๆ แล้วว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าของเธอเป็นใคร เธอคือนักธุรกิจใหญ่ที่ยอดเยี่ยมและเป็นผู้อุปถัมภ์ค้ำชูที่ดีของตระกูลลาร์ซัน!เอเลน่าตกตะลึงไปเล็กน้อยหลังจากถูกดุว่ามามากแล้ว เจอรัลด์เพียงแค่รู้สึกปั่นป่วนเล็กน้อยเท่านั้น คำพูดและคำเยาะเย้ยต่าง ๆ ดูเหมือนจะทำให้เขาหมดความรู้สึกไปแล้วรูบี้กำลังจะตำหนิเจอรัลด์ยิ่งกว่านี้ เธอต้องการจะทำให้เขาเข้าใจว่าเขาต้องอยู่ให้ห่างจากเอเลน่าทันทีทันใดนั้น โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น และเธอหยิบมันขึ้นมาเพื่อกดรับสาย“โอ้? ดิกสัน เวย์เวิร์ด เหรอ? ห๊ะ? ฉันบอกไปว่าจะให้คุณมาในครั้งหน้าไม่ใช่หรือ? ว่าไงนะ? คุณอยู่ที่นี่ตรงประตูแล้วเหรอ? โอเค โอเค ฉันจะไปรับคุณเดี๋ยวนี้แหละ!”เป็นสายจาก ดิกสัน เวย์เวิร์ด รูบี้ได้บอกเขาไปแล้วว่าไม่ต้องมาที่นี่ในวันนี้แต่ใครจะไปรู้ว่าดิกสันจะยังคงยืนกรานที่จะมาที่นี่?เป็นแฟนหนุ่มของเอเลน่าที่จะมาที่นี่ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม รูบี้คิด เธอค่อนข้างพึงพอใจกับดิกสันและต้
“งั้นคุณกำลังจะบอกว่าคุณมาจากมหาวิทยาลัยซันนี่เดลเหรอ? ผมไม่เคยเห็นคุณที่นั่นมาก่อนเลย!” ดิกสันยิ้มแย้มอยู่ตลอดเวลา“ไม่ ผมมาจากมหาวิทยาลัยเมย์เบอร์รี่” เจอรัลด์รู้วิธีที่จะสงบสติอารมณ์ไม่ว่าคนอื่นจะให้ความรู้สึกแบบไหนกับเขาก็ตาม“มหาวิทยาลัยเมย์เบอร์รี่ก็ดี ยังไงซะ ครอบครัวของคุณทำงานอะไร? คุณทำให้เอเลน่าตกหลุมรักคุณได้อย่างไรกัน?” ดิกสันถาม“เอาล่ะ ดิกสัน ให้ฉันบอกคุณนะ เขามาจากหมู่บ้านเล็ก ๆ และครอบครัวของเขาเปิดร้านขายของชำที่เล็กมาก ๆ ! คุณจะไม่เข้าใจได้อย่างไรเมื่อมองวิธีที่เขาแต่งตัว?” แอมเบอร์ตอบ สภาวะสูงสุดของการเพิกเฉยก็คือการแสร้งทำเป็นว่าใครบางคนไม่ได้มีตัวตนอยู่ถึงแม้เขาจะอยู่ตรงหน้าของคุณก็ตาม แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่เจ็บปวด แต่จริง ๆ แล้วก็คงไม่มีใครจะบ่งชี้ให้เห็น อย่างไรก็ตาม แอมเบอร์ได้ทำอย่างนั้นกับเจอรัลด์มาโดยตลอด และมันแสดงให้เห็นว่าเธอรังเกียจเขามากเพียงใด“โอ้ การมาจากเมืองเล็ก ๆ มันต้องเป็นการเรียนที่ยากลำบากแน่ในเมืองเมย์เบอร์รี่ โปรดแจ้งให้ผมได้รู้ถ้าคุณมีปัญหาใด ๆ ก็ตาม พ่อของผมรู้จักกับคณบดี และผมสามารถจัดการเรื่องต่าง ๆ ให้คุณได้ ถ้าคุณต้องการเงินกู้ คุ
ดิกสันพูดโอ้อวดเกี่ยวกับเส้นสายในเมืองเมย์เบอร์รี่ของครอบครัวของเขาตลอดบทสนทนาที่เหลือขณะที่แหย่เจอรัลด์เล่นไปด้วยมันคงไม่จริงถ้าเจอรัลด์ไม่ได้รู้สึกโกรธใด ๆ เลย ณ ขณะนี้ เขาอยากจะชกเข้าที่ใบหน้าของดิกสันจริง ๆ สิ่งที่ดิกสันทำได้ก็เพียงแค่โอ้อวดและล้อเลียนผู้คนเท่านั้น นอกเหนือจากสิ่งอื่นเหล่านั้น เขาก็ไม่ได้มีความมุ่งหมายใดที่ใหญ่กว่าการสังสรรค์ของครอบครัวในบ่ายวันนั้นค่อนข้างแย่มาก พวกเขายังคงพูดคุยกันต่อหลังจากมื้อเที่ยง และไม่นาน ก็ล่วงเลยเที่ยงวันไปแล้วเจอรัลด์ตื่นแต่เช้าตรู่ และเขาก็เริ่มเหนื่อยล้าแล้วจู่ ๆ แอมเบอร์ก็ตะโกนขึ้นมา และทำให้เจอรัลด์ตกใจ “ดิกสัน นี่ก็เกือบจะห้าโมงเย็นแล้วและปาร์ตี้ก็กำลังจะเริ่มในไม่ช้านี้! ไปเตรียมพร้อมกันเถอะตอนนี้ มันคงไม่ดีถ้าเราไปสาย!”“ใช่! โยเอล โฮลเดน เป็นคนจัดงานนี้ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม พวกเราต้องไม่ไปสาย!” ดิกสันพูด“โอเค คุณควรจะไปตอนนี้เลย ดิกสัน โปรดดูแลแอมเบอร์และเอเลน่าด้วยนะ!” รูบี้พูด กันเจอรัลด์ออกจากบทสนทนาอย่างจงใจ“ครับ คุณผู้หญิง!” ดิกสันตอบพวกเขาไปรับรถของพวกเขา และเจอรัลด์ก็กระโดดขึ้นไปกับรถปอร์เช่ของแอมเบอร์ เป็นเพร