เมื่อช่วยเหลือซาเวียหลังจากการตื่นจากอาการโคม่าระยะสั้นของเขา เจอรัลด์จึงสั่งให้เวลสันและคนของเขารีบเร่งมาที่นี่ในทันที เจอรัลด์ยังบอกเขาให้ใช้เทคนิคสกานเน็ตของพระราชวังจิตวิญญาณเช่นกัน ซึ่งเป็นวิธีที่รวดเร็วที่สุดสำหรับพวกเขาในการดักจับโมลเดลทั้งหมดไว้ภายในบ้านของเขาเมื่อเริ่มเกิดไฟไหม้ เจอรัลด์จะไม่เสี่ยงโอกาสใด ๆ ที่จะให้พวกเขาคนไหนได้ออกไปโดยมีชีวิตอยู่ “แม้มีคนไม่กี่คนจากการหนีรอดไปจากพวกเราได้ แต่พวกเราก็สามารถคาดคะเนตำแหน่งปัจจุบันของพวกเขาทั้งหมดได้นะครับ นายน้อย” เวลสันรายงาน “เยี่ยมมาก อย่าลืมตามล่าพวกเขาทุกคนไม่ยกเว้นใคร ผมต้องการให้พวกเขาประสบกับความรู้สึกสิ้นหวังอย่างแท้จริงว่าเป็นยังไง…” เจอรัลด์ตอบกลับ ร่างกายของเขาเปียกโชกไปด้วยเลือดสด ๆ ขณะที่เขาหันกลับไปมองคฤหาสน์ที่กำลังถูกเผาไหม้ เมื่อเฝ้ามองเปลวเพลิง เจอรัลด์ก็อดไม่ได้ที่จะยกริมฝีปากของเขาเป็นการยิ้มเยาะที่มุ่งร้าย เป็นตอนนั้นเองเมื่อหัวใจของเวลสันเต้นสั่น ‘… เนื่องจากนายน้อยดื่มเลือดศักดิ์สิทธิ์ไปแล้ว ตอนนี้เขาก็น่าจะสามารถควบคุมอารมณ์ของเขาได้อย่างสบาย…แล้วทำไมฉันถึงรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติเกี่ยวกับนายน
ซาเวียยังคงเงียบต่อไปขณะที่เธอก้มหน้าลง ไม่กล้าแม้แต่จะพูดสักคำเลยด้วยซ้ำ “แม้ผมยอมรับว่าโมลเดลล้ำเส้นมาได้สักพักแล้วในตอนนี้อย่างแน่นอน แต่มีความจำเป็นจริง ๆ ที่จะต้องแก้แค้นขนาดนี้เลยหรือไม่ คุณคลอฟอร์ด? คุณต้องทรมานและทำให้พวกเราขายหน้าแบบนี้จริง ๆ หรือ? คุณทำกับพวกเรามามากพอแล้ว ดังนั้นได้โปรดปล่อยพวกเราไปได้แล้ว…” ยาชเจราจาต่อรอง ขณะที่เขาลุกขึ้นยืน อย่างไรก็ดี เจอรัลด์ไม่ได้ตอบกลับ โดยเลือกที่จะเล่นกาน้ำชาฆ่าเวลาแทน “พอแค่นี้แหละ! ฉันจะฆ่าแกซะถ้ามันเป็นสิ่งสุดท้ายที่ฉันจะทำ!” หนึ่งในคนของโมลเดลตะโกนขึ้น ขณะที่เขาพุ่งเข้าหาเจอรัลด์ โดยไม่เต็มใจที่จะเผชิญกับความทุกข์ทรมานทางจิตใจไปมากกว่านี้ อย่างไรก็ดี ผู้ชายคนนั้นได้รับการจัดการในทันทีโดยลูกน้องคนหนึ่งของเจอรัลด์ เมื่อได้รับคำสั่งของเวลสัน “รู้ไหม จากสิ่งที่ผมรู้มา คอร์ดเพิ่งมาถึงในจังหวัดโลแกน…ผมมั่นใจว่ามันจะไม่นานหรอกก่อนที่เขาจะรีบเร่งมาที่นี่…” เจอรัลด์กล่าวด้วยรอยยิ้ม เมื่อได้ยินแบบนั้น ทั้งยูวานและยาชจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสะเทือนใจเล็กน้อย ภายหลังเวลาอันนานในที่สุด เมื่อช่วงแห่งความหวังที่พวกเขารอคอยก็มาถึงในท้
“เ เป็นเรื่องจริงครับ! เจอรัลด์กลายมาเป็นคนน่ากลัวมากจริง ๆ!” คนหนุ่มคนนั้นร้องไห้ออกมา เห็นได้ชัดว่ารู้สึกกลัวมาก “…ไอ้…ไอ้สารเลวนั้น! เป็นเวลาแค่ปีเดียวเท่านั้น! เขาจะสะสมกำลังมากมายขนาดนั้นในช่วงเวลาสั้น ๆ เช่นนี้ได้ยังไง?! ยังไงซะ ตระกูลคลอฟอร์ดก็จะต้องชดใช้อย่างสาสมสำหรับเรื่องนี้อย่างแน่นอน! ยูวานอยู่ไหนล่ะ?!” คอร์ดคำราม ขณะที่เขาตัวสั่นด้วยความโกรธอย่างมาก “น นายท่านสอง!” ลูกน้องคนหนึ่งตะโกนขึ้น ขณะที่เขาเดินโซเซมาหา “ผม…ผมพบพวกเขาแล้ว…ผมพบศพของนายน้อยสองและพ่อบ้านโมลเดลแล้วครับ!” ลูกน้องคนนั้นแจ้งให้ทราบในระหว่างการหอบหายใจ “ว่าไงนะ?!” คอร์ดที่ตื่นตระหนกตะโกนขึ้นด้วยเสียงที่ดังมาก จนเสียงตะโกนของเขาอาจได้ยินก้องไปทั่วทั้งจังหวัดโลแกนได้ ในขณะเดียวกัน ดีแลนอยู่ในห้องนั่งเล่นภายในคฤหาสน์ตระกูลคลอฟอร์ดในนอร์ทเบย์ เขารู้สึกอยากจะขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างกระทันหัน จากนั้นก็พึมพำ “…อาจมีบางอย่างอาจเกิดขึ้นหรือเปล่า…? ผมรู้สึกลุกลี้ลุกลนมาได้สักพักแล้วตอนนี้…ผมแค่รู้สึกราวกับว่ามีบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้น!” “จะเกิดอะไรขึ้นได้ล่ะ? ที่ฉันเห็นนะ คุณแค่รู้สึกว่าเนื่องจากความกดดันท
“สวัสดีครับ คุณโมลเดล!” “ประธานคลอฟอร์ด ไม่เจอกันนานแล้วนะครับ!” “จริงด้วย…เนื่องจากคุณมาในวันนี้ อาจเป็นเพราะคุณได้รับเบาะแสบางอย่างเกี่ยวกับการล่มของเรือในนอร์ทเบย์แล้วหรือเปล่าครับ คุณโมลเดล?” ดีแลนถามอย่างค่อนข้างตื่นเต้น ปาร์คเกอร์นั่งลงเมื่อพวกเขาอยู่ข้างในกันแล้ว จากนั้นก็ตอบกลับ “ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้! หลังจากการทำงานหนักทั้งหมดในปีก่อน ผมภูมิใจที่จะพูดว่าความพยายามของเราไม่ได้เปล่าประโยชน์! ในที่สุดพวกเราก็จัดการได้รับเบาะแสบางอย่างเกี่ยวกับการทำงานของสหพันธ์ดวงอาทิตย์ที่น่าพิศวงนั่นซะที!” เมื่อได้ยินแบบนั้น ดีแลนและคนอื่น ๆ จึงแลกเปลี่ยนสายตากันอย่างมีความสุข ขณะที่ปาร์คเกอร์หยิบแผนที่ยาว ๆ อันหนึ่งออกมาจากกระเป๋าของเขา เมื่อเผยให้เห็นเนื้อหาของมัน แผนที่ถูกวาดไว้อย่างสวยงามมากจนมันเกือบจะให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าพื้นที่ที่ถูกวาดแผนผังนั้น เป็นหนึ่งในดินแดนในฝันที่บรรลุผลได้สำเร็จ แม้แต่ภูเขาและแม่น้ำก็ถูกวาดไว้ยาวไปตามแผนที่อย่างน่าสะดุดตาแน่นอน ในที่สุดทุกคนก็จับจ้องไปยังสัญลักษณ์ที่อยู่มุมซ้ายบนสุดของแผนที่ มันเป็นสัญลักษณ์ของสหพันธ์ดวงอาทิตย์! “งั้นน
“จากสิ่งที่คุณเพิ่งถาม ผมคาดเดาว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นหรือเปล่าครับ คุณโมลเดล?” ดีแลนตอบกลับหลังจากคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มาสักพัก เมื่อได้ยินแบบนั้น ปาร์คเกอร์จึงพยักหน้าก่อนจะพูด “คือมีเหตุการณ์ที่ค่อนข้างลึกลับเกิดขึ้นกับผม และทีมของผมในขณะที่พวกเรากำลังมองหาเบาะแสเรื่องสหพันธ์ดวงอาทิตย์ มันค่อนข้างน่าละอายที่จะยอมรับ แต่เมื่อนานมาแล้ว ทีมของผมและผมไม่สามารถที่จะค้นหาเบาะแสใด ๆ ที่เกี่ยวข้องได้เลย สหพันธ์ดวงอาทิตย์นั้นน่าลึกลับและทรงพลังมากอย่างแท้จริง จนสามารถปกปิดร่องรอยของพวกเขาได้สุดยอดมาก ถึงไม่ใช่ทั้งหมดก็ตาม!” “อย่างไรซะ เมื่อผมรู้สึกว่าพวกเรามาถึงทางตันแล้ว บุคคลที่น่าลึกลับคนหนึ่งก็มาปรากฏตัว…ผมบอกได้เลยเนื่องจากพวกเราไม่เคยพบกันเป็นการส่วนตัวมาก่อน…ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ตั้งแต่นาทีนั้นเป็นต้นมา เขาก็ให้คำใบ้ที่จำเป็นกับพวกเราว่าจะไปที่ไหนต่อไปเมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเราสับสันกัน ความช่วยเหลือของเขานำพวกเราไปหาเบาะแสะที่แน่นอนที่พวกเราต้องการเพื่อดำเนินการต่อ เขาเป็นเหตุผลเดียวที่พวกเราสามารถมีความคืบหน้ามากขนาดนี้ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมานี้ เนื่องจากความช่วยเหลือตามธรรมชาติของเข
“น้องสาว…!” เมื่อยูเซลล์ตะโกนเรียกเธอ ร่างของวินนี่ก็เป็นจุดเล็กจิ๋วไปแล้วขณะที่เธอตามคอร์ดและคนของเขาไปที่คฤหาสน์อย่างฉับไว “สิ่งต่าง ๆ มากมายกำลังริเริ่มขึ้น ฉันคิดว่าฉันควรไปดูเช่นกัน…” ยูเซลล์พึมพำกับตัวเอง ขณะที่เธอเริ่มเดินไปหาพวกเขา ก่อนที่เธอจะทันได้ก้าวไป อย่างไรก็ตาม เธอก็ถึงกับตกตะลึงอย่างที่สุดกับร่างสีดำที่พุ่งผ่านเธอไปอย่างเร็วมาก! “…นั่นคืออะไรกันเนี่ย?” ยูเซลล์กล่าว ขณะที่เธอขมวดคิ้ว ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตาม ก็เอาไว้ก่อนเถอะ ยูเซลล์ยังคงมุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์ต่อไป ครู่สั้น ๆ ต่อมา ประตูไปสู่ห้องโถงใหญ่ภายในคฤหาสน์คลอฟอร์ดก็ถูกเหวี่ยงเปิดออก ขณะที่เสียงที่น่าหวาดหวั่นและฟังดูแก่ชราแผดร้องขึ้นมา “ตระกูลคลอฟอร์ดทั้งหมดจะต้องชดใช้ด้วยเลือดในวันนี้ หากมันเป็นสิ่งสุดท้ายที่ฉันจะทำ!” เสียงตะโกนนั้นดังมากจนทุกคนสามารถรู้สึกหูอื้อ ขณะที่ลมบอกลางร้ายพัดเข้ามาในห้อง ตามมาหลังจากนั้น คอร์ดนำคนที่ดูทรงกำลังของเขาเข้ามาในห้องโถง ขณะที่ปาร์คเกอร์ก้าวออกไปข้างหน้าก่อนจะถามขึ้นมา “นายหวังจะบรรลุผลอะไรโดยการทำแบบนี้ คอร์ด?” “หลีกไป ปาร์คเกอร์! อย่ายุ่งกับเรื่องนี้! ฉันมา
เมื่อสัมผัสได้ถึงเจตนาฆ่าอันย่ิงใหญ่จากลูกน้องโมลเดล ซึ่งเริ่มลงมือกันแล้ว ดีแลนจึงรู้สึกว่าสีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างรุนแรง ตลอดเวลามานี้ เขาไม่เต็มใจที่จะติดต่อกับสมาคมลับใด ๆ เว้นแต่ว่าเขาถูกบังคับโดยสิ้นเชิง ท้ายที่สุดแล้ว สำหรับทั้งหมดที่เขารู้ สมาคมลับนั้นมักจะทั้งยากที่จะควบคุมได้และเผด็จการกัน สุดท้ายเขาก็ทำแบบนั้นเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสหพันธ์ดวงอาทิตย์ แต่โชคไม่ดี ความกังวลใจทั้งหมดของเขาก็กำลังมาปรากฏตัวซึ่ง ๆ หน้าในตอนนี้ เขาจำได้ในตอนนั้นว่า พ่อของเขาบอกเขาว่าตระกูลคลอฟอร์ดมักจะเผชิญกับภัยอันตรายของการถูกฆ่าจนหมดสิ้นมาโดยตลอด สิ่งที่พ่อของเขาบอกในที่สุดก็จะเกิดขึ้นในวันนี้แล้วใช่ไหม? พวกเขาจะพบกับจุดจบของการสังหารหมู่โดยคนของตระกูลโมลเดลหรือเปล่า? ความคิดนั้นอย่างเดียวก็ทำให้ดีแลนกล้ำกลืนเล็กน้อยแเว เป็นตอนนั้นเอง เมื่อมีเสียงดังที่ค่อนข้างฟังดูดุร้ายตะโกนขึ้นมา “ฉันอยากจะเห็นด้วยตัวเองว่าใครจะกล้าดีมาทำร้ายคนของตระกูลคลอฟอร์ด!” เสียงที่มีอำนาจเหนือนั้นดังมาก จนกระจกโดยรอบแตกเป็นเสี่ยง ๆ ในท้ายที่สุด! ขณะที่ลมกรรโชกพัดผ่านห้องโถง ลูกน้องของตระกูลโมลเ
เมื่อได้ยินชื่อนั้น ทั้งคอร์ดและปาร์คเกอร์ก็ถึงกับตะลึงงันไปชั่วขณะ “…จากสิ่งที่คุณพูดมา ผมขอเดาว่าคุณรู้จักกับลุงสามของผม คริสโตเฟอร์ ซึ่งเป็นผู้อาวุโสของตระกูลโมลเดลเช่นกัน ถูกต้องไหมครับ? ถึงอย่างนั้นผมพบว่ามันแปลกที่เขาไม่เคยเอ่ยถึงชื่อ ‘แดริล’ มาก่อนเลย” คอร์ดตอบกลับ โดยรู้สึกว่าหัวใจของเขาเต้นผิดจังหวะ แม้แต่ในหมู่สมาคมลับอื่น ๆ ก็มีไม่กี่คนที่รู้มากเกี่ยวกับคริสโตเฟอร์ผู้ลึกลับว่าเป็นใคร ในทางหนึ่ง เขาเป็นสัญลักษณ์อนุสรณ์ของตระกูลโมลเดล เท่าที่คอร์ดรู้ คลอฟอร์ดเป็นเพียงตระกูลมั่งคั่งธรรมดา แล้วแดริลจะไปรู้จักมักคุ้นกับชายชราคนนั้นได้ยังไง? “ถ้าฉันจำไม่ผิด ‘สมาคมลับ’ อย่างพวกนายแต่ละกลุ่มต่างก็มีกฎที่เข้มงวดของตัวเองที่ต้องปฏิบัติตาม ก”สากลสำหรับพวกนายทั้งหมดก็คือความจริงที่ว่านายไม่สามารถเข้ามาเกี่ยวข้องกับโลกธรรมดาทั้งหมดได้ตามอำเภอใจ ไม่ใช่หรือไง? แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่คนเลวอย่างพวกนายทำกัน! ยิ่งไปกว่านั้น นายยังสร้างตระกูลของตัวเองตั้งแต่เริ่มต้นอีกด้วยซ้ำ เพียงเพื่อจะได้เข้ามายุ่งในโลกธรรมดามากขึ้น! นายยังอาจหาญพอที่จะประกาศว่าต้องการจะทำลายตระกูลคลอฟอร์ดอีกด้วยซ้ำ! พว
พวกเขาได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วในตอนที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่มีใครหรือรถคันอื่นใดอยู่รอบ ๆ เลยแม้แต่คันเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ยังอยู่ในรถเพียงลำพังด้วยนั่นหมายความว่าสถานการณ์ที่ผู้เฒ่าฟลินท์พบกับอุบัติเหตุนั้นแปลกประหลาดอย่างยิ่งในวิดีโอที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นแสดงให้เห็นว่ารถของผู้เฒ่าฟลินท์ลื่นไถลและหลุดการควบคุมไปเองในทันทีเจอรัลด์และเรย์ได้รับการปล่อยตัวในช่วงบ่ายนั้นเองพวกเขานั่งแท็กซี่กลับไปที่สำนักงานระหว่างทางกลับ เรย์มองเจอรัลด์ด้วยสีหน้างุนงงอย่างหนักแล้วถามว่า “เจอรัลด์ คุณคิดเห็นยังไงกับการตายของผู้เฒ่าฟลินท์?เขาตายได้ยังไง?”ใบหน้าของเจอรัลด์เคร่งเครียดมาก เขาเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน แต่ถึงกระนั้นเขาก็มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุธรรมดาแน่นอน“นี่หมายความว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดยังไม่ตายเหรอ?”วินาทีต่อมา ความคิดอันบ้าบิ่นก็ผุดขึ้นในใจของเรย์เจอรัลด์รู้สึกว่าการคาดเดานี้เป็นไปได้น้อยมาก นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดตายไปต่อหน้าต่อตาเขาเอง แล้วเขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?“เรากลับก่อนเถอะ บางทีมันอาจจะเป็นแค่อุบัติเหตุจริง ๆ ก็ได้!”เจอรัลด์บอก
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เจอรัลด์และเรย์ยังคงหลับอยู่ กริ่งที่ประตูก็ปลุกพวกเขาให้ตื่นเรย์เดินออกจากห้องไปที่ประตูในลักษณะกึ่งหลับกึ่งตื่นแล้วเปิดประตูออกเมื่อประตูถูกเปิดออก เขาก็ได้เห็นชายสองสามคนซึ่งกำลังสวมเครื่องแบบยืนอยู่ข้างนอก เมื่อเห็นตราบนเครื่องแบบของพวกเขา พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้มาจากรัฐบาลกลาง“ขออภัย คุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ดและคุณเรย์ เลห์ตันอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาถามเรย์พยักหน้าและตอบว่า “ผมนี่แหละเรย์ มีอะไรเหรอ?""พาเขาออกไป!"เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเรย์ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็สั่งคนของเขา และทันใดนั้นเอง เจ้าหน้าที่อีกสองคนก็เข้ามาคว้าแขนของเรย์แล้วลากเขาออกไปข้างนอก"เฮ้ย! นี่มันอะไรกัน?!"เรย์ตะโกนทันทีความโกลาหลดังกล่าวทำให้เจอรัลด์ จูโน่ และโนริตื่นขึ้นพวกเขาออกจากห้องอย่างรวดเร็ว"คุณเป็นใคร?"เมื่อเจอรัลด์ออกมา เขาก็มองดูเจ้าหน้าที่พวกนั้นด้วยความประหลาดใจและเอ่ยถามขึ้น“คุณคงเป็นคุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ด เรากำลังสงสัยว่าคุณเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรม สารวัตรเลค หรือที่รู้จักกันในชื่อผู้เฒ่าฟลินท์ ดังนั้นเราต้องการนำคุณไปสอบ
ในเวลาเดียวกัน หมอกควันสีทมิฬของเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ล้อมรอบกายของชายชราเอาไว้หลังจากนั้นไม่นาน หมอกควันสีทมิฬดังกล่าวก็ดูดกลืนวิญญาณและพลังงานของชายชราไป ทำให้ชายกลายเป็นศพแห้งกรังเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกสิ่งนี้ทำให้เอ็มเบอร์ลอร์ดตระหนกเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้คาดหวังให้เกิดผลลัพธ์เช่นนี้ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่คิดแล้วว่าชายชราจะมาสกัดกั้นการโจมตีจากเจอรัลด์แทนเขาแบบนี้“เอ็มเบอร์ลอร์ด คุณฆ่าคนบริสุทธิ์อีกแล้ว!”เจอรัลด์ตะโกนใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดด้วยความโกรธเมื่อพูดเช่นนั้น เจอรัลด์จึงตัดสินใจใช้ทักษะต้องห้ามของตัวเองเพื่อทำลายเอ็มเบอร์ลอร์ดให้สิ้นซากในขณะนี้เอ็มเบอร์ลอร์ดเสียสติไปแล้ว เขายืนนิ่งไม่ขยับ ราวกับสูญเสียจิตวิญญาณของตัวเองไป “วิชาทลายสหัสภพ!”เจอรัลด์ตะโกนและขว้างดาบแอสตราบิซในมือใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดเมื่อดาบแทงเข้าไปในร่างของเอ็มเบอร์ลอร์ด มันก็เปล่งแสงเจิดจ้าออกมาและกลืนกินเอ็มเบอร์ลอร์ดไปจนสิ้น“อ๊าก!”เอ็มเบอร์ลอร์ดกรีดร้องวินาทีต่อมา เอ็มเบอร์ลอร์ดก็กลายเป็นเถ้าถ่านในที่สุด เจอรัลด์ก็กวาดล้างเอ็มเบอร์ลอร์ดลงได้แล้วเจอรัลด์ล้างแค้นให้ชาวบ้านในหมู่บ้านฟ้าทมิฬได้แล้ว
ทั้งสามรีบมองออกไปข้างนอก ก่อนจะเห็นว่าชายชราออกจากบ้านไปตามลำพังโดยถือตะกร้าติดตัวไปด้วยขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังกระท่อมไม้ของยามิเล็ต เฟซเมื่อเห็นสิ่งนี้ ทั้งสามก็สบตากันพวกเขาพบว่ามันค่อนข้างแปลกที่ชายชราคิดจะถือตะกร้าออกไปกลางดึกเช่นนี้ นี่จะต้องมีความลับบางอย่างที่ไม่มีใครล่วงรู้ซ่อนอยู่เป็นแน่ไม่นานหลังจากนั้น เจอรัลด์และทั้งสองก็ออกจากบ้านและติดตามชายชราไปอย่างเงียบ ๆพวกเขาติดตามชายชราไปจนถึงกระท่อมไม้ จากนั้นพวกเขาเห็นเขาหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเพื่อปลดล็อคประตูเมื่อประตูถูกปลดล็อค ชายชราผู้นั้นสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างระมัดระวัง หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เขาก็ผลักประตูเปิดออกแล้วเดินเข้าไปอย่างมั่นใจเจอรัลด์และอีกสองคนก็เดินไปที่กระท่อมไม้ทันทีและยืนอยู่ตรงหน้ากระท่อมหลังนั้น“เจอรัลด์ ดูเหมือนว่าชายชรากำลังปิดบังอะไรบางอย่างกับเรา เพราะเขามีกุญแจบ้านหลังนี้อยู่กับตัว!”เรย์กระซิบกับเจอรัลด์ตอนนี้พวกเขาตระหนักได้แล้วว่าชายชราไม่ใช่คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างที่คิด เขาต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเอ็มเบอร์ลอร์ดแน่“เรย์ ผู้เฒ่าฟลินท์ คุณสองคนไปซ่อนตัวก่อน เ
“เอ๋ นี่ก็ดึกแล้วนะ! ผมว่าคนที่คุณกำลังรออยู่คงไม่มาหรอก มาเถอะไปที่บ้านของผมและพักผ่อนกันจะดีกว่า!”ชายชราถอนหายใจและยื่นข้อเสนอให้ทั้งสามคนเมื่อผู้เฒ่าฟลินท์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็หันกลับมาที่เจอรัลด์เพื่อสอบถามความคิดเห็นของเขาเจอรัลด์เห็นปฏิกิริยาของเขาและพยักหน้าอย่างช้า ๆเนื่องจากพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงไปพักผ่อนที่บ้านของชายชราเท่านั้นนอกจากนี้ ท้องฟ้ามืดสนิท และไม่ปลอดภัยเลย ไม่รู้เลยว่าข้างนอกนี่มีอะไรรอพวกเขาอยู่?หลังจากพูดคุยกัน เจอรัลด์และคนอื่น ๆ ก็ติดตามชายชราออกจากกระท่อมไม้ไปชายชราพาเจอรัลด์และคนอื่น ๆ ไปที่บ้านของเขา บ้านของเขาดูไม่เก่าเท่าไหร่ ราวกับเพิ่งถูกซ่อมแซมใหม่ก่อนหน้านี้“ผู้เฒ่า หมู่บ้านนี้เหลือคุณอยู่เพียงคนเดียวหรือเปล่า?”เมื่อพวกเขาอยู่ในบ้านของชายชรา ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ถามอย่างสงสัย"หึหึ!" ชายชราหัวเราะเบา ๆ"ใช่ คนอื่น ๆ ย้ายไปอยู่ในเมืองกันหมด ที่นี่เลยเหลือแค่ฉันคนเดียว!”หลังจากที่เขาหัวเราะแล้วเขาก็ตอบ“แล้วทำไมคุณไม่ย้ายเข้าเมืองด้วยล่ะ? อยู่ในเมืองไม่สบายกว่าเหรอ?”ผู้เฒ่าฟลินท์ยังคงถามต่อไป“อนิจจา ผมมันไร้ญา
“หึหึ เรย์ อย่าลืมสิว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว เขาน่ากลัวกว่าผีเสียอีก กับอีกแค่สถานที่แบบนี้นายคิดว่าเขาจะกลัวเหรอ”เจอรัลด์หัวเราะและเตือนเรย์เมื่อเรย์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดสมเหตุสมผล “สำรวจกันตามสบายเลย ผมคงต้องไปก่อน!”ชายชราพูดกับทั้งสามคน“ได้เลย ผู้เฒ่า ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณมากเลย!"ผู้เฒ่าฟลินท์ขอบคุณชายชราผู้นั้นอย่างรวดเร็ว“ไม่เป็นไรหรอก!”ชายชราตอบพลางโบกมือหลังจากที่ชายชราผู้นั้นจากไป เจอรัลด์และอีกสองคนก็ยืนอยู่หน้ากระท่อมไม้ จ้องมองออกไปอย่างว่างเปล่าพวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำอะไร พวกเขาไม่อาจเข้าไปในกระท่อมได้ และไม่รู้ด้วยว่าจะเข้าไปเช่นไร“พี่เจอรัลด์ ผู้เฒ่าฟลินท์ ทีนี้เราจะทำยังไงดี? เปิดประตูออกไปเลยดีไหม?”เรย์มองไปที่เจอรัลด์และผู้เฒ่าฟลินท์แล้วถาม“ไม่ นั่นไร้สาระมาก เราบุกรุกเข้าไปไม่ได้!”ผู้เฒ่าฟลินท์ปรามเรย์ทันทีแม้ว่ายามิเล็ต เฟซจะไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว แต่กระท่อมหลังนี้ยังคงเป็นของเธอ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจทำตามอำเภอใจได้“แล้วเราควรทำยังไง? เราไม่มีกุญแจ”เรย์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“เ
ไม่มีทางที่ข้อเท็จจริงทั้งสองนี้จะเป็นเรื่องบังเอิญได้ เพราะฉะนั้นนั่นก็อาจหมายความได้ว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดกำลังซ่อนตัวอยู่ที่นั่น แต่เพราะนี้คือคำใบ้ที่เอ็มเบอร์ลอร์ทิ้งไว้ให้พวกเขา จึงเป็นไปได้ว่าแทนที่จะไปพบเขาที่นั่น พวกเขาจะออกค้นหาตำแหน่งของเหยื่อรายต่อไปแทน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผู้เฒ่าฟลินท์ก็สตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งไปทันที! พวกเขาจำเป็นต้องมุ่งหน้าไปที่บ้านของยามิเล็ต เฟซเดี๋ยวนี้! “คุณแน่ใจจริง ๆ เหรอว่า เอ็มเบอร์ลอร์ดจะซ่อนอยู่ที่นั่น พี่เจอรัลด์…?” เรย์ถามระหว่างทางไปที่นั่น เจอรัลด์ส่ายหน้าแล้วตอบด้วยสีหน้าจริงจังว่า “บอกตามตรง ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดเป็นคนจู้จี้จุกจิกและไม่เคยทำตามกฎเกณฑ์ ฉันเดาว่าเลขพวกนี้จะนำเราไปสู่เหยื่อรายต่อไป แต่ในการตามหาเหยื่อรายนั้น เราจะเข้าใกล้ที่กบดานของเอ็มเบอร์ลอร์ดอีกก้าวหนึ่งอย่างแน่นอน!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เรย์ก็พยักหน้าเข้าใจ... หลังจากขับรถไปประมาณสี่สิบนาที ในที่สุดทั้งสามก็มาถึงบ้านคุณยายของเอ็มเบอร์ลอร์ด ยามิเล็ตอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ อันห่างไกล และไม่นานทั้งสามก็เดินอยู่ในถนนของหมู่บ้าน
"สวัสดี? เจอรัลด์มีอะไรหรือเปล่า?” ผู้เฒ่าฟลินท์ถามจากอีกฟากหนึ่งของสาย “ผู้เฒ่าฟลินท์ ถึงผมจะรู้ว่าคุณไม่อาจยอมให้เราเข้าร่วมการสืบสวนได้ แต่ผมก็หวังว่าคุณจะสามารถช่วยเราได้ นั่นก็แปลว่าหากคุณต้องการคลี่คลายคดีและจับเอ็มเบอร์ลอร์ดให้ได้ ก็ช่วยตั้งใจฟังผมและเชื่อผมด้วย ทุกสิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณต่อไปนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งทีเดียว!” เจอรัลด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ทว่าในที่สุดเขาก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาสามารถไว้ใจเจอรัลด์ได้ ดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะเสี่ยงเหนือสิ่งอื่นใด ทั้งเขาและเด็กหนุ่มต่างก็ต้องการให้คดีคลี่คลายลงและจับตัวเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ในท้ายที่สุด “…เอาล่ะ บอกมาว่าฉันจะช่วยยังไงได้บ้าง!” “มุ่งหน้าไปที่สำนักงานเขตเดี๋ยวนี้เลย ผมเองก็จะไปที่นั่นด้วยเช่นกัน แล้วเมื่อเราพบกันที่นั่นผมจะบอกข้อมูลเพิ่มเติมกับคุณทีหลัง!” เจอรัลด์ตอบก่อนจะวางสาย ครึ่งชั่วโมงต่อมาเรย์และเจอรัลด์ได้พบกับผู้เฒ่าฟลินท์ ณ สถานที่ที่พวกเขานัดกัน “เรามาทำอะไรที่นี่ เจอรัลด์…?” ผู้เฒ่าฟลินท์เอ่ยถามอย่างสับสน “ฟังนะ ผมต้องการให้คุณตรวจสอบประวัต
เมื่อตระหนักว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้เฒ่าฟลินท์ เจอรัลด์และเรย์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกผู้เฒ่าฟลินท์อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วเล็กน้อยในขณะที่เขาถามอย่างงุนงงว่า “…พวกนายสองคนเองเหรอ? มาทำอะไรกันที่นี่? แล้วเข้ามาที่นี่ได้ยังไง?”หัวหน้าสารวัตรมีคำสั่งไม่ให้เขาติดต่อกับเจอรัลด์อีกต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้รับแจ้งว่าเจอรัลด์ไม่ได้รับอนุญาตให้มาช่วยในการสืบสวนอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ผู้เฒ่าฟลินท์จึงทำได้เพียงเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาของเขาเท่านั้น“เรามาตามหาเบาะแส!” เจอรัลด์ตอบ “ฟังนะ ฉันต้องขอโทษ ด้วย แต่นายสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้มายุ่งย่ามกับคดีนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นได้โปรดออกไปเสีย! ถ้านายกลับมาที่นี่อีกครั้ง เราก็จำเป็นต้องจับพวกนายกลับไปกับเราด้วย!” ผู้เฒ่าฟลินท์เตือน เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ทำเพียงแค่พยักหน้า ด้วยความที่ไม่อยากสร้างเรื่องยุ่งยากให้แก่ตาเฒ่าคนนี้ เจอรัลด์จึงตอบกลับไปว่า “รับทราบ!” ขณะที่เขากำลังจะจากไปพร้อมกับเรย์ เขาก็ได้ยินเสียงผู้เฒ่าฟลินท์ตะโกนว่า "เดี๋ยวก่อน! ตอนที่อยู่ที่นี่นายได้พบเบาะแสอะไรบ้างหรือเปล่า? ถ้ามีล่ะก็ช่วยมอบมันให้เราด้วย!” เ