“ข ขอร้อง! ไว้ชีวิตฉันด้วย! อย่าฆ่าฉัน!” “…ไว้ชีวิตงั้นเหรอ? นายเป็นโมลเดลใช่ไหม? และโมลเดลทั้งหมดก็สมควรที่จะตาย!” เจอรัลด์คำรามใส่ ขณะที่เขากำมือแน่น จนกระทั่งได้ยินเสียงกระดูกแตกร้าวที่คุ้นเคยดังขึ้นมา ขณะที่เจอรัลด์ทิ้งร่างไร้ชีวิตของควินเลนลงกับพื้น ซาเวียก็ลุกขึ้นนั่งอย่างอ่อนแรงอยู่บนเตียงก่อนจะถามขึ้นมา “จ เจอรัลด์…นาย…นายสบายดีใช่ไหม?!” “ใช่ แน่นอนสิ!” เจอรัลด์ตอบกลับพร้อมกับพยักหน้า “ก่อนอะไรอื่น ฉันจะจำเป็นต้องยืมห้องของเธอ เพื่ออาบน้ำโดยเร็วก่อน!” เป็นบางเวลาต่อมาเมื่อสมาชิกทั้งหมดของตระกูลโมลเดลได้มารวมตัวกันอยู่ในห้องโถงของคฤหาสน์ของพวกเขา “ไร้ค่า! พวกแกทุกคน! พวกแกดูแลสุนัขแค่ไม่กี่ตัวให้ดี ๆ ไม่ได้หรือไง?!” ยูวานที่อารมณ์ไม่ดีไปแล้วในตอนนี้แผดเสียงใส่ ยูวานได้ใช้เวลาและความพยายามส่วนใหญ่เพื่อฝึกฝนสุนัขแต่ละตัวของเขา ดังนั้นพวกมันทั้งหมดต่างก็สำคัญต่อเขาพอ ๆ กัน ด้วยเหตุนี้ ทุกคนในตระกูลจึงเข้าใจได้ว่าความโกรธอันยิ่งใหญ่ของเขาเกิดจากอะไร แต่อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่เหมือนว่าพวกเขาสามารถทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้อยู่ดี “ไสหัวไปซะ! ทุกคนนั่นแหละ!” ยูวานหน้
“…ฮะ?” โดยรู้สึกสะดุ้งตกใจกับสิ่งที่พวกเขาได้ยิน ทุกคนจึงหันมองไปมองลานบ้านในทันที ในความมืดมิด เงาจาง ๆ ของร่างสองร่างสามารถเห็นได้ว่ากำลังเข้ามาใกล้บ้านของพวกเขา หนึ่งในพวกเขาคือผู้ชายคนหนึ่ง ในขณะที่อีกหนึ่ง ซึ่งติดตามอยู่ด้านหลังเงาของชายผู้นั้นอย่างใกล้ชิด ดูเหมือนว่าจะลูกสุนัขตัวหนึ่งที่มีดวงตาสีเขียวที่ค่อนข้างแวววาว เมื่อแสงจันทร์ส่องกระทบทั้งสอง ทุกคนจึงลงเอยด้วยการสูดหายใจเข้าลึก เมื่อพวกเขาตระหนักได้ว่านั่นเป็นใคร “จ เจอรัลด์ คลอฟอร์ด?!” “เขาออกไปจากที่นั่นได้ยังไงกัน? เขาไม่ได้อยู่ในอาการโคม่าหรอกเหรอ?!” หนึ่งในโมลเดลกล่าว “ใครจะไปสนล่ะ? ถ้าจะพูดให้ถูก มันไม่ดีเลิศหรอกเหรอที่พวกเรารู้แล้วว่าเขาอยู่ที่ไหน? พวกเราไม่ต้องเสียเวลาในการค้นหาเขาแล้วตอนนี้!” สมาชิกอีกคนของตระกูลโมลเดลกล่าวเสริมด้วยน้ำเสียงเย็นชา ขณะที่ทุกคนยังคงถกสถานการณ์กันต่อไป ประตูของทางเข้าก็เปิดออกดังเอี๊ยด เจอรัลด์เดินเข้ามาอย่างสบาย ๆ จากนั้นก็ถามด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา “เอาล่ะ ฉันคิดว่าทุกคนจากตระกูลโมลเดลอยู่ที่นี่กันแล้วนะ ใช่ไหม?” แม้เขากำลังยิ้มอยู่ แต่ทุกคนที่เห็นเขาก็รู้สึกเสียวส
“ทุกคน! โจมตีพร้อมกันเลย!” ยาชสั่งเสียงดัง ด้วยการที่ตอนนี้โมลเดลมากมายโกรธจัดกันอยู่แล้ว พวกเขาทั้งหมดจึงทำตามคำสั่งของยาช โดยวิ่งไปข้างหน้ากันเพื่อจะล้อมโจมตีเจอรัลด์! ความจริงก็คือว่าคนมีฝีมือที่ปรากฏตัวอยู่ในเวลานี้ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญระดับสูงที่แท้จริงภายในตระกูลโมลเดล พวกเขาเพียงเชี่ยวชาญทางทักษะและความสามารถในการต่อสู้มากกว่าโมลเดลทั่วไปเท่านั้น เป็นผลให้เห็นได้ชัดว่าไม่มีพวกเขาคนไหนใกล้เคียงที่จะเป็นคู่ต่อสู้ที่เหมาะสมของเจอรัลด์ได้เลย เจอรัลด์เองตอนนี้ก็กำลังโจมตี และฆ่าทุกคนที่เขาเห็นได้อย่างง่ายดายราวกับว่าเขาเพียงกำลังหั่นผักอยู่ ใครก็ตามที่ขวางทางเขาก็จะพบกับความตายที่รุนแรงในทันที “ข เขาแข็งแกร่งมาก…เขาแข็งแกร่งมากเกินไป!” ยาชตะโกนขณะที่เขากลืนน้ำลายอย่างแรง การมีคนมากมายไม่ได้มีความอะไรถ้าพวกเขาไม่สามารถทำร้ายเจอรัลด์ได้เลยด้วยซ้ำ! เขาฉวยโอกาสของความวุ่นวาย ยาชรีบเข้าไปหายูวาน ที่ยังคงนอนอยู่จุดเดิมที่เขาตกลงมา ก่อนจะถามอย่างกระวนกระวานใจ “น นายน้อยสอง! คุณรู้สึกยังไงบ้าง?!” “พ พวกมันถูกตัดขาด…เส้นลมปราณทั้งหมดของฉันถูกตัดขาดแล้ว!” ยูวานตะคอกออกมา ขณะที่เขา
เมื่อช่วยเหลือซาเวียหลังจากการตื่นจากอาการโคม่าระยะสั้นของเขา เจอรัลด์จึงสั่งให้เวลสันและคนของเขารีบเร่งมาที่นี่ในทันที เจอรัลด์ยังบอกเขาให้ใช้เทคนิคสกานเน็ตของพระราชวังจิตวิญญาณเช่นกัน ซึ่งเป็นวิธีที่รวดเร็วที่สุดสำหรับพวกเขาในการดักจับโมลเดลทั้งหมดไว้ภายในบ้านของเขาเมื่อเริ่มเกิดไฟไหม้ เจอรัลด์จะไม่เสี่ยงโอกาสใด ๆ ที่จะให้พวกเขาคนไหนได้ออกไปโดยมีชีวิตอยู่ “แม้มีคนไม่กี่คนจากการหนีรอดไปจากพวกเราได้ แต่พวกเราก็สามารถคาดคะเนตำแหน่งปัจจุบันของพวกเขาทั้งหมดได้นะครับ นายน้อย” เวลสันรายงาน “เยี่ยมมาก อย่าลืมตามล่าพวกเขาทุกคนไม่ยกเว้นใคร ผมต้องการให้พวกเขาประสบกับความรู้สึกสิ้นหวังอย่างแท้จริงว่าเป็นยังไง…” เจอรัลด์ตอบกลับ ร่างกายของเขาเปียกโชกไปด้วยเลือดสด ๆ ขณะที่เขาหันกลับไปมองคฤหาสน์ที่กำลังถูกเผาไหม้ เมื่อเฝ้ามองเปลวเพลิง เจอรัลด์ก็อดไม่ได้ที่จะยกริมฝีปากของเขาเป็นการยิ้มเยาะที่มุ่งร้าย เป็นตอนนั้นเองเมื่อหัวใจของเวลสันเต้นสั่น ‘… เนื่องจากนายน้อยดื่มเลือดศักดิ์สิทธิ์ไปแล้ว ตอนนี้เขาก็น่าจะสามารถควบคุมอารมณ์ของเขาได้อย่างสบาย…แล้วทำไมฉันถึงรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติเกี่ยวกับนายน
ซาเวียยังคงเงียบต่อไปขณะที่เธอก้มหน้าลง ไม่กล้าแม้แต่จะพูดสักคำเลยด้วยซ้ำ “แม้ผมยอมรับว่าโมลเดลล้ำเส้นมาได้สักพักแล้วในตอนนี้อย่างแน่นอน แต่มีความจำเป็นจริง ๆ ที่จะต้องแก้แค้นขนาดนี้เลยหรือไม่ คุณคลอฟอร์ด? คุณต้องทรมานและทำให้พวกเราขายหน้าแบบนี้จริง ๆ หรือ? คุณทำกับพวกเรามามากพอแล้ว ดังนั้นได้โปรดปล่อยพวกเราไปได้แล้ว…” ยาชเจราจาต่อรอง ขณะที่เขาลุกขึ้นยืน อย่างไรก็ดี เจอรัลด์ไม่ได้ตอบกลับ โดยเลือกที่จะเล่นกาน้ำชาฆ่าเวลาแทน “พอแค่นี้แหละ! ฉันจะฆ่าแกซะถ้ามันเป็นสิ่งสุดท้ายที่ฉันจะทำ!” หนึ่งในคนของโมลเดลตะโกนขึ้น ขณะที่เขาพุ่งเข้าหาเจอรัลด์ โดยไม่เต็มใจที่จะเผชิญกับความทุกข์ทรมานทางจิตใจไปมากกว่านี้ อย่างไรก็ดี ผู้ชายคนนั้นได้รับการจัดการในทันทีโดยลูกน้องคนหนึ่งของเจอรัลด์ เมื่อได้รับคำสั่งของเวลสัน “รู้ไหม จากสิ่งที่ผมรู้มา คอร์ดเพิ่งมาถึงในจังหวัดโลแกน…ผมมั่นใจว่ามันจะไม่นานหรอกก่อนที่เขาจะรีบเร่งมาที่นี่…” เจอรัลด์กล่าวด้วยรอยยิ้ม เมื่อได้ยินแบบนั้น ทั้งยูวานและยาชจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสะเทือนใจเล็กน้อย ภายหลังเวลาอันนานในที่สุด เมื่อช่วงแห่งความหวังที่พวกเขารอคอยก็มาถึงในท้
“เ เป็นเรื่องจริงครับ! เจอรัลด์กลายมาเป็นคนน่ากลัวมากจริง ๆ!” คนหนุ่มคนนั้นร้องไห้ออกมา เห็นได้ชัดว่ารู้สึกกลัวมาก “…ไอ้…ไอ้สารเลวนั้น! เป็นเวลาแค่ปีเดียวเท่านั้น! เขาจะสะสมกำลังมากมายขนาดนั้นในช่วงเวลาสั้น ๆ เช่นนี้ได้ยังไง?! ยังไงซะ ตระกูลคลอฟอร์ดก็จะต้องชดใช้อย่างสาสมสำหรับเรื่องนี้อย่างแน่นอน! ยูวานอยู่ไหนล่ะ?!” คอร์ดคำราม ขณะที่เขาตัวสั่นด้วยความโกรธอย่างมาก “น นายท่านสอง!” ลูกน้องคนหนึ่งตะโกนขึ้น ขณะที่เขาเดินโซเซมาหา “ผม…ผมพบพวกเขาแล้ว…ผมพบศพของนายน้อยสองและพ่อบ้านโมลเดลแล้วครับ!” ลูกน้องคนนั้นแจ้งให้ทราบในระหว่างการหอบหายใจ “ว่าไงนะ?!” คอร์ดที่ตื่นตระหนกตะโกนขึ้นด้วยเสียงที่ดังมาก จนเสียงตะโกนของเขาอาจได้ยินก้องไปทั่วทั้งจังหวัดโลแกนได้ ในขณะเดียวกัน ดีแลนอยู่ในห้องนั่งเล่นภายในคฤหาสน์ตระกูลคลอฟอร์ดในนอร์ทเบย์ เขารู้สึกอยากจะขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างกระทันหัน จากนั้นก็พึมพำ “…อาจมีบางอย่างอาจเกิดขึ้นหรือเปล่า…? ผมรู้สึกลุกลี้ลุกลนมาได้สักพักแล้วตอนนี้…ผมแค่รู้สึกราวกับว่ามีบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้น!” “จะเกิดอะไรขึ้นได้ล่ะ? ที่ฉันเห็นนะ คุณแค่รู้สึกว่าเนื่องจากความกดดันท
“สวัสดีครับ คุณโมลเดล!” “ประธานคลอฟอร์ด ไม่เจอกันนานแล้วนะครับ!” “จริงด้วย…เนื่องจากคุณมาในวันนี้ อาจเป็นเพราะคุณได้รับเบาะแสบางอย่างเกี่ยวกับการล่มของเรือในนอร์ทเบย์แล้วหรือเปล่าครับ คุณโมลเดล?” ดีแลนถามอย่างค่อนข้างตื่นเต้น ปาร์คเกอร์นั่งลงเมื่อพวกเขาอยู่ข้างในกันแล้ว จากนั้นก็ตอบกลับ “ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้! หลังจากการทำงานหนักทั้งหมดในปีก่อน ผมภูมิใจที่จะพูดว่าความพยายามของเราไม่ได้เปล่าประโยชน์! ในที่สุดพวกเราก็จัดการได้รับเบาะแสบางอย่างเกี่ยวกับการทำงานของสหพันธ์ดวงอาทิตย์ที่น่าพิศวงนั่นซะที!” เมื่อได้ยินแบบนั้น ดีแลนและคนอื่น ๆ จึงแลกเปลี่ยนสายตากันอย่างมีความสุข ขณะที่ปาร์คเกอร์หยิบแผนที่ยาว ๆ อันหนึ่งออกมาจากกระเป๋าของเขา เมื่อเผยให้เห็นเนื้อหาของมัน แผนที่ถูกวาดไว้อย่างสวยงามมากจนมันเกือบจะให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าพื้นที่ที่ถูกวาดแผนผังนั้น เป็นหนึ่งในดินแดนในฝันที่บรรลุผลได้สำเร็จ แม้แต่ภูเขาและแม่น้ำก็ถูกวาดไว้ยาวไปตามแผนที่อย่างน่าสะดุดตาแน่นอน ในที่สุดทุกคนก็จับจ้องไปยังสัญลักษณ์ที่อยู่มุมซ้ายบนสุดของแผนที่ มันเป็นสัญลักษณ์ของสหพันธ์ดวงอาทิตย์! “งั้นน
“จากสิ่งที่คุณเพิ่งถาม ผมคาดเดาว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นหรือเปล่าครับ คุณโมลเดล?” ดีแลนตอบกลับหลังจากคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มาสักพัก เมื่อได้ยินแบบนั้น ปาร์คเกอร์จึงพยักหน้าก่อนจะพูด “คือมีเหตุการณ์ที่ค่อนข้างลึกลับเกิดขึ้นกับผม และทีมของผมในขณะที่พวกเรากำลังมองหาเบาะแสเรื่องสหพันธ์ดวงอาทิตย์ มันค่อนข้างน่าละอายที่จะยอมรับ แต่เมื่อนานมาแล้ว ทีมของผมและผมไม่สามารถที่จะค้นหาเบาะแสใด ๆ ที่เกี่ยวข้องได้เลย สหพันธ์ดวงอาทิตย์นั้นน่าลึกลับและทรงพลังมากอย่างแท้จริง จนสามารถปกปิดร่องรอยของพวกเขาได้สุดยอดมาก ถึงไม่ใช่ทั้งหมดก็ตาม!” “อย่างไรซะ เมื่อผมรู้สึกว่าพวกเรามาถึงทางตันแล้ว บุคคลที่น่าลึกลับคนหนึ่งก็มาปรากฏตัว…ผมบอกได้เลยเนื่องจากพวกเราไม่เคยพบกันเป็นการส่วนตัวมาก่อน…ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ตั้งแต่นาทีนั้นเป็นต้นมา เขาก็ให้คำใบ้ที่จำเป็นกับพวกเราว่าจะไปที่ไหนต่อไปเมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเราสับสันกัน ความช่วยเหลือของเขานำพวกเราไปหาเบาะแสะที่แน่นอนที่พวกเราต้องการเพื่อดำเนินการต่อ เขาเป็นเหตุผลเดียวที่พวกเราสามารถมีความคืบหน้ามากขนาดนี้ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมานี้ เนื่องจากความช่วยเหลือตามธรรมชาติของเข