นี่เป็นเพียงการรนหาที่ตายแน่นอนว่าเย่เฮ่าไม่เคยถูกดูถูกในที่สาธารณะเช่นนี้มาก่อน ทันใดนั้นเขาก็โกรธและพูดด้วยเจตนาฆ่า "ไอ้หนู คุณกล้าดุฉัน ถ้าฉันไม่ฆ่าคนที่ไม่รู้จัก ฉันจะให้ชื่อของฉันแก่คุณ !"“นามสกุลของฉันคือเย่ และชื่อของฉันคือเทียนหยู่!”“มันบังเอิญว่าฉันไม่เคยฆ่าสุนัขนิรนามเลย แล้วทำไมคุณไม่บอกชื่อของคุณให้ฉันด้วยล่ะ” เย่เทียนหยู่พูดอย่างเย็นชาในใจของเขา คนเหล่านี้ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามควรมีความศักดิ์สิทธิ์อย่างไม่ต้องสงสัย ท้ายที่สุดแล้ว ประเทศก็ต้องการการปกป้องของพวกเขาแต่วันนี้อีกฝ่ายส่งคนไปจัดการกับเขามากมายเพราะคุณชายเย่ซึ่งไม่คู่ควรแก่การเคารพเลย“รนหาที่ตาย!”เย่เฮ่าโกรธทันที แต่เขาตอบสนองอย่างรวดเร็วและพูดด้วยความโมโห "คุณคือเย่เทียนหยู่ และคุณก็กลับมาตาย เราเพิ่งบังเอิญจับมันมาด้วยกันวันนี้ ดังนั้นฉันไม่ต้องเสียเวลาตามหาคุณ ”เขากล้าพูดแบบนี้เพราะเขาไม่กลัวสิ่งที่เรียกว่าวรยุทธ์ของเย่เทียนหยู่ในความเห็นของเขาเย่เซวียนไม่สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ เพราะความแข็งแกร่งสูงสุดของเย่เซวียนขึ้นอยู่กับกำลังคนและทรัพยากรที่สะสม ซึ่งไม่มั่นคงเลย เขาจึงพ่ายแพ้เย่เซวียนอาจพย
เมื่อได้ยินคำถามของเย่เทียนหยู่ ใบหน้าของเย่เฮ่าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยเหตุผลที่เขาลงมือปฏิบัติก็เพราะเขากลัวว่าเย่เทียนหยู่อาจไม่สามารถจัดการได้ภายใต้สถานการณ์ปกติ แต่เทพสงครามพยัคฆ์ขาวบังเอิญไปทำธุรกิจในต่างประเทศและไม่สามารถกลับมาได้ภายในไม่กี่วันมิฉะนั้นเขาคงไม่ดำเนินการอย่างรวดเร็วขนาดนี้ ไม่ต้องพูดถึงเขาเลยแต่เทพแห่งสงครามเสือขาวลงมือเอง เมื่อเทพสงครามพยัคฆ์ขาวลงมือ ก็ย่อมไม่มีข้อผิดพลาดแต่เย่เฮ่าตอบสนองอย่างรวดเร็วและพูดอย่างเย็นชา "ไร้สาระ เรามาที่นี่วันนี้เพราะเราได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาของเราในวันนี้ มีนักโทษที่อันตรายและสำคัญมากซุ่มซ่อนอยู่ในตระกูลหลินเขาอาจเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของ อาณาจักรมังกรได้ตลอดเวลา”“ฮ่าฮ่า คุณแค่บอกว่าคุณจับฉันเพราะฉันโจมตีและทำร้ายผู้อื่นอย่างเปิดเผย ถ้าคุณเก่งวรยุทธ์ขนาดนี้ มันจะเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของอาณาจักรมังกร”“อีกสักพักฉันจะเป็นอันตรายต่อโลกและเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของจักรวาลหรือไม่”น้ำเสียงของเย่เทียนหยู่เต็มไปด้วยความเยาะเย้ยเย่เฮ่าดูเฉยเมยและพูดอย่างเย็นชา "ฉันขี้เกียจเกินไปที่จะพูดเรื่องไร้สาระกับคุณที่นี่ เมื
“ผมคิดว่าโอกาสในการชนะน่าจะสูงทีเดียว พูดได้ว่าเป็น 100% เลย” เย่เทียนหยู่พูดอย่างแผ่วเบาและมั่นใจทุกคนรอบตัวเขาพูดไม่ออกเมื่อได้ยินแบบนั้นเขาพูดอะไร เขากล้าพูดว่าเขาสามารถเป็นเทพแห่งสงครามเสือขาวได้ 100%เย่เฮ่าตกตะลึงมากจนไม่รู้จะกลับไปยังไง เด็กคนนี้บ้าไปแล้ว ดูเหมือนว่าเขาไม่เคยเห็นมาก่อนว่าปรมาจารย์ในระยะหลัง ๆ ของปรมาจารย์จะน่ากลัวเพียงใดไม่ต้องพูดถึงความหมายของการเป็นปรมาจารย์ ฉันเกรงว่าเขาจะไม่ฟังด้วยซ้ำมิฉะนั้นเขาจะโง่เขลาขนาดนี้ได้ยังไง“แล้วคุณขอให้เทพสงครามพยัคฆ์ขาวมาลองดูมั้ย” เย่เทียนหยู่พูดอย่างใจเย็น“ช่างอวดดีเสียนี่กระไร เย่เทียนหยู่ คุณกำลังล้อเล่นเทพสงครามพยัคฆ์ขาวแบบนี้ ฉันคิดว่าคุณกำลังขุดหลุมศพของตัวเอง” เย่เฮ่าโกรธเพราะเขาไม่สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ ไม่อย่างนั้นละก็คู่ต่อสู้คงพ่ายแพ้ไปนานแล้ว“เป็นครอบครัวเย่ของคุณที่ขุดหลุมศพของคุณเอง”เย่เทียนหยู่ คิดถึงสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าอีกครั้ง และพูดอย่างเย็นชาและโกรธ "ฉันไม่คิดว่าจำเป็นต้องมีครอบครัวที่ดุร้ายและเลวทรามที่ไม่แยกแยะระหว่างถูกและผิด"“รนหาที่ตาย!”เย่เฮ่าโกรธมากและพูดเสียงดัง "ทุกคนอยู่ที่นี่
ทุกคนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ไม่มีใครคาดคิดว่าแม้ในขณะนี้ เย่เทียนหยู่จะกล้าหยิ่งผยองขนาดนี้ ท่ามกลางผู้คนมากมายที่มีปืนไม่ว่าวรยุทธ์ของคุณจะเก่งแค่ไหน คุณก็ไม่สามารถหยุดปืนมากมายได้แต่โทเค็นที่เขายกขึ้นในมือคืออะไรแต่นี่เป็นไปได้เหรอเย่เฮ่าโกรธมากเมื่ออีกฝ่ายด่าว่าเขาเป็นเพียงขี้ข้า แต่ความเย่อหยิ่งของอีกฝ่ายทำให้เขารู้สึกประหม่าอย่างอธิบายไม่ถูก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาแสดงสัญลักษณ์บางอย่างเขาอดไม่ได้ที่จะมองใกล้ ๆ นี่ดูเหมือนจะเป็นคำสั่งของราชามังกรจากพรรคมังกรคนส่วนใหญ่อาจไม่รู้เรื่องคำสั่งของราชามังกร แต่ในตระกูลซุปเปอร์เช่นตระกูลเย่ เขายังสามารถบอกความแตกต่างตามตัวตนของเขาได้ยิ่งไปกว่านั้น คนธรรมดาไม่สามารถปลอมแปลงการดำรงอยู่เช่นราชามังกรหลิงได้ ผู้ที่สามารถเลียนแบบได้ก็ไม่กล้าที่จะเลียนแบบ ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นองค์กรที่ทรงพลังที่สุดนอกเหนือจากผู้อารักขาเฟยหลง“เจ้า นี่เจ้ากำลังพูดเรื่องอะไร” เย่เฮ่าไม่กล้ามั่นใจไปก่อน“ป้ายคำสั่งราชามังกร!”เย่เทียนหยู่พูดอย่างเย็นชา“อะไรนะ…”สีหน้าของเย่เฮ่าเปลี่ยนไปอย่างมาก คู่ต่อสู้ยังเด็กมาก แต่ความแข็งแกร่งของเขาช่างน่ากล
หลินหว่านหรูก็ตกตะลึงไปชั่วขณะหนึ่ง นี่ เทียนหยู่คือราชามังกรแห่งพรรคมังกรจริง ๆ หรือ เมื่อก่อนฉันล้อเล่น แต่ฉันเข้าใจถูกแล้วนี่มันเรื่องจริงเหรอหากเป็นกรณีนี้ ฉันเคยมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเขามากเกินไปมาก่อน ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยสถานะที่สูงส่งเช่นนี้ เขาจึงถูกพ่อแม่ของเขาอับอายที่บ้านหลิวเมิ่งรู้สึกตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น เธอรู้ว่าพี่เขยของเธอต้องไม่ธรรมดา ไม่อย่างนั้นละก็คนเหล่านั้นเมื่อก่อนจะกลัวเธอขนาดนี้ได้ยังไงข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าพี่เขยของฉันยอดเยี่ยมจริง ๆเย่เทียนหยู่เหลือบมองเย่เฮ่าอย่างเย็นชาและพูดว่า "เหอะ สิ่งที่คุณพูดคือถ้าฉันไม่ใช่ราชามังกร คุณจะทำทุกอย่างที่คุณต้องการได้ยังไง"“ไม่แน่นอน ฉันแค่ทำตามคำสั่ง” เย่เฮ่ารีบพูด“ทำตามคำสั่ง”“คุณทำตามคำสั่งของใคร คำสั่งของตระกูลเย่” เย่เทียนหยู่ถามเย่เฮ่าเงียบ แน่นอนว่าเขาไม่สามารถพูดได้ว่าเขาทำตามคำสั่งของตระกูลเย่ ท้ายที่สุดแล้ว ตระกูลเย่ไม่ใช่ผู้เหนือกว่าเขาทันทีเป็นเรื่องปกติภายใต้สถานการณ์ปกติ แต่ถ้ามีคนที่มีพลังเท่ากันไล่ตามเขา พฤติกรรมของเขาก็จะผิดขณะที่เย่เทียนหยู่กำลังจะพูดอีกครั้ง โทรศัพท์มือถือของเย
พอคิดถึงการแต่งงานใหม่ แม่ตระกูลหลินก็ทำเวลาทันที เธอก้าวตรงเข้าไปโดยไม่รีรอและพูดว่า “ก่อนหน้านี้มันเป็นความผิดของแม่ฉันทั้งหมด มันเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่!”“แม่เข้าใจคุณผิดมาโดยตลอด จะทำร้ายตบตีแม่ยังไงก็ได้เลยนะแต่อย่าโทษหว่านหรูเลย เพราะหว่านหรูถูกพวกเราบังคับ”“ใช่ ใช่ หัวใจของหว่านหรูมีต่อคุณเสมอ เพียงในฐานะพ่อแม่ เราคิดมากเกินไปและมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับคุณมากเกินไป พ่อมาเพื่อขอโทษคุณโดยเฉพาะ”หลินหงรีบไปข้างหน้าทันทีเย่เทียนหยู่ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งเมื่อเขาได้ยินแบบนั้น พ่อแม่เหล่านี้ไม่ธรรมดาจริง ๆ พวกเขาจำพ่อแม่ของตนได้เร็วมาก ภาพเบื้องหน้าดูเหมือนจะคุ้นเคยเล็กน้อยเขาส่ายหัวและพูดอย่างสงบ “ก่อนอื่น ผมไม่ได้ตำหนิหว่านหรูมาแต่ไหนแต่ไร”“ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้ว…” แม่ตระกูลหลินพยักหน้าอย่างมีความสุข และตอนนี้ก็มีความหวังว่าจะได้แต่งงานใหม่“แต่หว่านหรูกับผมหย่ากันแล้ว ผมไม่กล้าข้องแวะกับพวกคุณอีก”“อย่างที่คุณบอก หย่ากันแล้วก็หย่าไป แต่พวกคุณสองคนเป็นชายโสดสาวโสด ก็กลับมาแต่งกันได้นะ”แม่ตระกูลหลินรีบพูดทันที“ใช่แล้ว คุณสองคนคือคู่ต่อสู้ที่ถูกสร้างขึ้นมาในสวรรค์ หากคุณ
หากนี่เป็นครั้งแรก เย่เทียนหยู่คงไม่คิดมาก แต่หลังจากเหตุการณ์เล่านั้น เขากลับดูสงบและพูดอย่างสงบ "มันไม่สำคัญ ฉันคุ้นเคยกับมันแล้ว"“คุณยังโทษปู่อยู่เลย”คุณปู่ตระกูลหลินยิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า "ถ้าอย่างนั้นให้ฉันแสดงความเห็นที่นี่ ฉันสาบานว่าฉันจะสนับสนุนคุณและวันรูอย่างเต็มที่นับจากนี้ไป"“ฉันด้วย ฉันก็ด้วย” แม่ตระกูลหลินรีบพูด"และฉัน!"หลินหงก็พูดทันทีหลินหว่านหรู ยิ้มอย่างขมขื่น แต่ภายในเธอมีความสุขเพราะสุดท้ายแล้ว ก็ไม่มีใครหยุดเธอจากการอยู่กับเย่เทียนหยู่ได้เย่เทียนหยู่ส่ายหัวอย่างลับๆ จากนั้นโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น ทันทีที่ฉันผ่าน ฉันได้ยินเนื้อหาของคำพูดของอีกฝ่าย และใบหน้าของฉันก็มืดมนเล็กน้อยหลังจากวางสาย เขาก็ตะโกนว่า "เฉียนเฉียน!"ที่แท้แล้วหยางเฉียนเฉียนปรากฏตัวแล้วตั้งแต่ต้น เธอกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของเย่เทียนหยู่ ดังนั้นเธอจึงอาศัยวรยุทธ์ดีๆ ของเธอเพื่อซ่อนตัวอยู่บริเวณรอบๆ และพร้อมที่จะช่วยเหลือตลอดเวลาแม้ว่าพ่อของเขาจะบอกว่าพี่เย่คือราชามังกรและไม่จำเป็นต้องกังวล แต่การเห็นก็เชื่อ ตอนนี้ดูเหมือนสถานการณ์จะประมาณเดิม ถ้าไม่มีปัญหา เราก็ควรออ
คุณแม่ตระกูลหลินยืนเหม่ออยู่ตรงนั้น รู้สึกไม่รู้จะทำอย่างไรกันแน่ ทำไมเรื่องถึงได้กลายเป็นแบบนี้? หรือนี่คือลูกเขยที่ยอดเยี่ยมจริงๆ จะหนีไปแบบนี้เหรอ?โดยเฉพาะเด็กสาวเมื่อครู่นี้ที่มีรูปหน้าสวยงาม บริสุทธิ์และสะอาดราวกับนางฟ้า ดูสวยไม่แพ้ลูกสาวของตนเลยแม้แต่นิดไหนจะมีชายใดสามารถต้านทานเสน่ห์ที่เหนือชั้นได้?และอีกฝ่ายยังเป็นคุณหนูจากตระกูลใหญ่ในเมืองเทียนไห่ ทุกอย่างมันช่างเพอร์เฟ็กต์คุณปู่ตระกูลหลินก็สังเกตเห็นทุกอย่างนี้ หากเป็นผู้หญิงคนอื่นเขาคงไม่แคร์ แต่หยางเฉียนเฉียนมีคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมเกินไป สถานการณ์ทางบ้านของเธอนั้นตระกูลหลินไม่สามารถเปรียบเทียบได้เลย"พ่อ จะทำยังไงดี?"“ควรไปตามไปขอโทษเขาดีไหม? ฉันเชื่อว่าเขายังมีความรู้สึกต่อหว่านหรูอยู่ เขาคงแค่โกรธเรา" คุณแม่ตระกูลหลินพูดด้วยความกระวนกระวายแม้กระทั่งจะให้เธอคุกเข่าขอร้องก็ไม่เป็นปัญหา แค่เย่เทียนหยู่ยอมกลับไปคืนดีกับลูกสาว"ไม่ต้องรีบ รอจนถึงวันพรุ่งนี้ค่อยดูก็ได้"คุณปู่ตระกูลหลินส่ายหน้า การไปขอร้องตรงๆ แบบนี้ เขาคงโดนข่มเหงกลับ จึงไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย"นี้ มันจะไม่สายเกินไปจริงหรอ!" คุณแม่ตระกูลหลินรู
ผั๊วะ!คุณนายไป๋สวมรองเท้าส้นสูง ก้าวไปข้างหน้า แล้วเตะไปที่ตัวของเหอฉุนอย่างแรง พร้อมกับด่าทอออกไปว่า “นางสารเลวอย่างแก ยังกล้ามาขวางฉันอีกเหรอ ฉันจะเตะแกให้ตายไปซะ!”เธอพูดพลางเหวี่ยงเท้าออกไป ที่แท้เพราะเฉินเฟยเฟยพยายามขัดขืน เลยถูกพวกนั้นรุมทำร้ายเหอฉุนทนไม่ไหว จึงรีบไปนอนขวางเฉินเฟยเฟย เพื่อช่วยป้องกันการโจมตีให้กับเธอพยัคฆ์ทมิฬที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็ยิ้มอย่างขมขื่นในใจ คุณนายไป๋ในตอนยังเป็นวัยรุ่นดุร้ายและเอาแต่ใจเป็นอย่างมาก คิดไม่ถึงเลยว่าเมื่ออายุมากขึ้นแล้ว เธอกลับยิ่งดื้อรั้นและเอาแต่ใจมากกว่าเดิมเสียอีกโชคดีที่ตนไม่ได้เผลอไปทำตัวเป็นศัตรูกับเธอ!การที่หญิงสาวเหล่านี้เผลอไปยั่วโมโหเธอเข้า เกรงว่าคงต้องเตรียมตัวเจอกับผลลัพธ์ที่น่าสลดใจแล้วล่ะเฮ้อ ยุ่งกับใครไม่ยุ่ง ดันไปยุ่งกับตระกูลไป๋เสียได้!คุณนายไป๋รู้สึกโกรธมาก สำหรับลูกชายสุดที่รักของเธอแล้ว ตั้งแต่เล็กจนโตก็ตามใจเขามาตลอด เขาอยากได้อะไรอยากซื้ออะไร เธอก็แทบจะประเคนให้ทุกอย่างและไม่ว่านอกบ้านเขาจะทำผิดพลาดมากแค่ไหน คุณนายไป๋ก็ไม่เคยดุด่าเขา แต่จะพูดแค่ว่า “ไม่เป็นไร แม่จะจัดการทุกอย่างเอง”จากนั้นก็จะช่วย
ท่ามกลางฝูงชนด้านนอก มีหนึ่งคนในนั้นที่ตาเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ เธอจำผู้หญิงคนนั้นได้ นี่ไม่ใช่ดารานักแสดงหญิงที่ชื่อเฉินเฟยเฟยรึไง แต่ในเวลานี้ เธอก็กลับไม่กล้าพูดอะไรออกไปผู้จัดการรู้ตัวตนของเฉินเฟยเฟยเป็นอย่างดี แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้ เมื่อคืนที่ผ่านมา สถานที่ที่เฉินเฟยเฟยพักอยู่ก็เกิดปัญหาเขาเองก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเฉินเฟยเฟย มีแต่ปัญหาเต็มไปหมดเมื่อเฉินเฟยเฟยได้ยินคำพูดของผู้หญิงตรงหน้า เธอก็รีบพูดด้วยความโกรธขึ้นทันทีว่า “คุณพูดบ้าอะไร ฉันไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าลูกชายของคุณคือใคร?”“แกยังกล้าพูดว่าไม่รู้จัดลูกชายของฉันอีกเหรอ หากไม่ใช่เพราะแก แกคิดว่าลูกชายของฉันจะถูกตีขาหัก จนตอนนี้ก็ยังไม่ฟื้นได้รึไง?”คุณนายไป๋พูดด้วยความโกรธออกไปอีกว่า “ใครก็ได้ ไปลากตัวผู้หญิงคนนี้มาให้ฉันเดี๋ยวนี้ ฉันจะให้มันไปคุกเข่าขอโทษต่อหน้าลูกชายของฉัน!”เมื่อได้ยินคำสั่ง ก็มีคนรีบตรงเข้าไปจับตัวของเธอทันที“พวกคุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!”เหอฉุนรีบพูดขึ้นมา จะเกิดเรื่องขึ้นกับเฉินเฟยเฟยไม่ได้ เพราะไม่อย่างนั้นคุณเย่จะต้องโกรธมากแน่ ๆ เธอจึงตะโกนออกไปอีกว่า “พวกคุณรู้ไหมว่าเธอคือใคร ถึงกล้าทำ
พอคุณนายไป๋มาถึง พวกเฉินเฟยเฟยก็สังเกตเห็นได้ในทันที เมื่อได้ยินคำพูดของคุณนายไป๋ สีหน้าของพวกเธอก็เปลี่ยนไปแม้จะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมาด้วยเหตุผลอะไร แต่ดูท่าทางแล้ว ค่อนข้างน่ากลัวเลยทีเดียวเหอฉุนรีบพูดขึ้นว่า “เฟยเฟย เร็วเข้า รีบติดต่อคุณเย่เร็ว!”“เอ่อ ฉันว่าเราลองอ้างชื่อพี่เย่กันก่อนดีไหม?” เฉินเฟยเฟยกลัวว่าจะสร้างปัญหาให้เย่เทียนหยู่มากเกินไป“ไม่ได้ รีบโทรหาเขาด่วนเลย ผู้หญิงคนนี้น่ากลัวเกินไป ดูจากท่าทีโกรธเกรี้ยวของเธอแล้ว เกรงว่าแค่อ้างชื่อออกไปจะไม่ได้ผลกับเธอแน่” “อีกอย่าง เกิดว่าเธอไม่เคยได้ยินชื่อเสียงของราชามังกร แล้วยังโกรธเกรี้ยวอยู่เหมือนเดิม เราจะทำอย่างไรดี” เหอฉุนรีบพูดขึ้นมาอันที่จริงเฉินเฟยเฟยเองก็คิดถึงเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน เพียงแค่กลัวว่าจะทำให้เย่เทียนหยู่ลำบากก็เท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นตอนนี้เธอก็ไม่มีเวลาให้ไปสนใจเรื่องพวกนั้นอีกแล้ว เธอจึงรีบกดเบอร์โทรศัพท์โทรหาเย่เทียนหยู่ทันทีเพียงแต่ตอนนี้เย่เทียนหยู่กำลังทำอาหารเช้าอยู่ จึงทำให้ไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ เนื่องจากตอนที่หลินหว่านหรูตื่นเช้าขึ้นมา แล้วบอกว่าอยากกินบะหมี่เหมือนเมื่อวานอีกครั้งในเ
แถมยังเป็นดาราอีกต่างหาก!แม้ว่าจะยังไม่ทราบสถานการณ์ที่แน่ชัด แต่เฉินเฟยเฟยคนนี้ เธอจะต้องตายอย่างแน่นอนไม่ว่าเธอจะเป็นดาราดังมากแค่ไหน เมื่ออยู่ต่อหน้าตระกูลไป๋ที่มีทรัพย์สินเป็นพันล้าน เธอก็เป็นได้แค่มดตัวหนึ่งเท่านั้น!คุณนายไป๋หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา กดโทรออกเพื่อจัดการวางแผนต่าง ๆ ในขณะเดียวกันเธอก็พูดด้วยความโกรธขึ้นว่า “พยัคฆ์ทมิฬ ไปสืบมาให้ฉันเดี๋ยวนี้ ถ้าหากไม่สามารถหาที่อยู่ของนางนั่นมาได้ภายในเช้าของวันพรุ่งนี้ พวกแกก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องอยู่ต่อแล้ว”“แล้วก็ยังมีไอ้ฆาตกรอีกคน เดี๋ยวฉันจะส่งวิดีโอไปให้ พวกแกก็ลองตรวจสอบมันดูด้วย แต่ภารกิจหลักคือการตามหาที่อยู่ของเฉินเฟยเฟยมาให้ได้!”เพราะขอแค่หาเฉินเฟยเฟยเจอ ก็จะสามารถหาคนที่ทำร้ายหยางหยางเจอได้เช่นกัน ซึ่งก็คือไอ้ฆาตกรคนนั้นพยัคฆ์ทมิฬที่ได้ยินคำสั่ง สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก ตั้งแต่ที่ตระกูลไป๋ชุบตัวขึ้นมาใหม่ เขาก็ยังไม่เคยเห็นเธอโกรธจัดเพียงแค่ต้องการให้สืบเรื่องของคนคนหนึ่งมาก่อนเลย เพราะงั้นเขาจึงได้รีบจัดการในทันทีพยัคฆ์ทมิฬเป็นหัวหน้าแก๊งพยัคฆ์ทมิฬ หนึ่งในแก๊งแห่งวงการอาชญากรรม การที่พวกเขาสามารถค
“เป็นอะไรไป ไม่อร่อยเหรอ?” ท่าทีของหลินหว่านหรูดูแปลก ๆ จึงทำให้เย่เทียนหยู่รู้สึกสับสนเล็กน้อย หรือว่าฝีมือทำครัวของตนจะแย่ลงรึเปล่านะแต่ถึงยังไง ก็คงไม่อร่อยจนถึงขั้นร้องไห้ออกมาหรอกมั้ง“เปล่าหรอก!”“อร่อยมาก อร่อยเกินไปเสียด้วยซ้ำ!”หลินหว่านหรูร้องไห้ฮือออกมาเย่เทียนหยู่รู้สึกทำอะไรไม่ถูก จึงพูดอย่างช่วยไม่ได้ออกไปว่า “ถึงจะอร่อยก็ต้องค่อย ๆ กินนะ ไม่ต้องรีบ ผมก็คิดว่าคุณร้องไห้เพราะทนกับรสชาติที่ไม่อร่อยอยู่เสียอีก”คำพูดนี้ทำให้หลินหว่านหรูอดหัวเราะออกมาไม่ได้ ก่อนจะพูดขึ้นว่า “อย่าทำให้ฉันขำสิ เอาซะฉันเกือบจะพ่นเส้นบะหมี่ออกมาแล้วเนี่ย”รอยยิ้มของหลินหว่านหรูนี้ ก็ทำให้รู้สึกว่าพื้นที่รอบตัวเปลี่ยนไปทันที ราวกับว่ามีดอกไม้สวยงามนับไม่ถ้วนกำลังบานสะพรั่ง ทำให้เย่เทียนหยู่ถึงกับต้องมองตาค้างกันเลยทีเดียว“มัวเหม่ออะไรอยู่”“ก็มองคุณอยู่ไง”“โกหก”หลินหว่านหรูหน้าแดงเล็กน้อย เธอกินต่ออีกสองสามคำ ก่อนเธออดไม่ได้ที่จะถามออกไปว่า “เมื่อก่อนคุณเคยทำบะหมี่บ่อยมากเลยเหรอ?”“ก็ไม่ได้ทำบ่อยนักหรอก ผมยังทำอย่างอื่นเป็นด้วยนะ”“คุณทำอย่างอื่นเป็นด้วยงั้นเหรอ?”“แน่นอ
“คุณทำอาหารเป็นด้วยเหรอ?”หลินหว่านหรูถามด้วยความสงสัย แต่เมื่อลองคิดอีกที บะหมี่เองก็ค่อนข้างที่จะต้มง่าย แทบไม่มีความยากเลยด้วยซ้ำ แค่ไม่เผลอใส่เกลือมากเกินไปก็พอแต่อีกเดี๋ยว ไม่ว่าจะเค็มหรือไม่ก็ตาม เธอจะต้องอดทนกินมันให้หมด แม้ว่าจะรสชาติแย่แค่ไหนก็ตามถึงยังไง การที่คนอย่างเย่เทียนหยู่ยอมลงมือทำบะหมี่ให้เธอด้วยตัวเองแบบนี้ เธอก็รู้สึกมีความสุขมากแล้ว“อีกเดี๋ยวก็รู้แล้ว”เย่เทียนหยู่ยิ้มเล็กน้อย การเคลื่อนไหวของเขานั้นรวดเร็ว และดูคล่องแคล่วมาก ไข่ไก่ที่อยู่ในมือของเขา ไม่นานก็ถูกตีจนเป็นเนื้อเดียวกัน ก่อนจะถูกผสมลงไปกับเส้นบะหมี่ภายใต้การเคลื่อนไหวที่รวดเร็วและน่าตื่นตาตื่นใจของเขา ทั้งเส้นบะหมี่ไข่ผักก็ได้ถูกปรุงจนเสร็จเรียบร้อยแล้วหากรวมเวลาตั้งแต่ที่เขาเริ่มลงไปซื้อของด้วย เมื่อกี้มันเพิ่งจะผ่านไปแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้นเองหลินหว่านหรูมองไปยังชามและตะเกียบที่วางอยู่ตรงหน้า ความสุขอันล้นหลามก็ห่อหุ้มตัวเธอเอาไว้ จากนั้นเธอก็รีบก้มหน้าคีบเส้นบะหมี่เข้าปากทันทีเดิมเธอคิดว่ามันไม่น่าจะกินได้แน่ ๆแต่ทันทีที่เธอได้สูดเส้นบะหมี่เข้าไป หลินหว่านหรูก็รู้สึกเหมือนถูกมนต์ส
“อือ งานยุ่งจนดึกมากขนาดนี้ คงหิวแล้วใช่ไหม?” เย่เทียนหยู่ถาม“ยังไหว ยังไม่หิวเท่าไหร่!”แต่ทันทีที่หลินหว่านหรูพูดจบ ท้องของเธอก็ส่งเสียงดังออกมา ซึ่งทำให้เธอหน้าแดงเล็กน้อย“ยังจะบอกว่าไม่หิวอีก ไปกันเถอะ ผมจะพาคุณไปกินมื้อดึก”“มันดึกมากแล้ว ไม่ต้องไปหรอก สั่งเดลิเวอรีมาก็ได้” หลินหว่านหรูนึกขึ้นได้ว่าแถวนี้ไม่ค่อยมีอะไรให้กินสักเท่าไหร่ นอกเสียจากต้องเดินออกไปไกลอีกหน่อย หรือไม่ก็ขับรถไปแบบนั้นมันดูจะยุ่งยากไปหน่อย ที่สำคัญคือกลัวว่ามันจะดึกเกินไป จนทำให้ส่งผลกระทบกับการทำงานของเธอในวันพรุ่งนี้เย่เทียนหยู่ขมวดคิ้วและส่ายหัว ก่อนจะพูดขึ้นว่า “ของข้างนอกสามารถกินได้ แต่ก็ไม่ควรกินบ่อย ๆ ถ้าคุณกลัวว่ามันจะยุ่งยากจริง ๆ งั้นคุณก็รอผมเดี๋ยวนะ”เมื่อพูดจบ เขาก็เดินออกไปทันทีเขาจำได้ว่าข้างล่างห่างไปไม่ไกลนัก มีร้านขายของชำเล็ก ๆ อยู่ร้านหนึ่ง ซึ่งก็น่าจะมีบะหมี่อะไรแบบนั้นขายอยู่ด้วยด้วยความเร็วของเขา ไม่นานเขาก็กลับมา แถมยังซื้อของกลับมาได้อย่างรวดเร็วอีกด้วยไข่ไก่ บะหมี่ ผงปรุงรสรสไก่ แล้วก็ซีอิ๊วขาว ส่วนอย่างอื่นก็ไม่ได้ซื้ออะไรมาอีกแต่ถึงอย่างนั้น เจ้าของร้านท
ทันใดนั้น เหอฉุนก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เกรงว่าคุณเย่เองก็น่าจะมองออกตั้งแต่แรกแล้ว ว่าเธอจะไม่กล้าทำอะไรแบบนั้น ถึงได้กล้ามอบเงินกว่าห้าหมื่นล้านให้กับเฟยเฟยโดยไม่คิดอะไรเกรงว่าคุณเย่อาจจะเดาได้แต่แรกแล้ว ว่าเฉินเฟยเฟยจะมอบเงินให้ตนเป็นคนจัดการ เขาไม่กลัวว่าตนจะฉ้อโกงเลยแม้แต่น้อยคุณเย่คนนี้ ช่างเป็นคนที่มีความสามารถมากจริง ๆ!คุณเย่คะ วางใจเถอะค่ะ ฉันรับรองว่าฉันจะทำให้สุดความสามารถ ทำให้บริษัทเติบโตอย่างรวดเร็วให้ได้ และทำให้เงินลงทุนของคุณได้กำไรคืนทุนมากกว่าสิบเท่าให้ได้!แต่เห็นได้ชัดว่าเธอไม่รู้เรื่องอะไรเลย เย่เทียนหยู่ไม่ได้คิดอะไรมากขนาดนั้น เขาแค่อยากให้เฉินเฟยเฟยได้มีที่ที่ปลอดภัยก็เท่านั้น จะหาเงินได้ไหม หรือว่าจะถูกฉ้อโกงรึเปล่า มันไม่สำคัญเลยสักนิดสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือความสุขและความเป็นอิสระ!เงินแค่ห้าหมื่นล้าน ก็เป็นเพียงเศษเงินของเขาเท่านั้น หายไปก็ไม่เสียดายหลังจากที่เย่เทียนหยู่ออกจากโรงแรม เขาก็ตรงกลับไปยังที่พักทันที เกี่ยวกับห้องชุดนี้ เขาก็ได้ส่งกุญแจห้องให้หลินหว่านหรูตั้งแต่ช่วงบ่ายแล้วพร้อมทั้งบอกที่อยู่กับเธอแล้วด้วย และให้เธอเลิกงานเร็วหน่
สีหน้าของจางผิงเต็มไปด้วยความตื่นเต้นต่อไปนี้ จะไม่มีใครกล้ามารังแกพี่เฟยเฟยได้อีกแล้ว พวกเธอก็ไม่จำเป็นต้องกลัวอีกต่อไปเมื่อเห็นว่าเงินเข้าบัญชีแล้ว ทุกอย่างก็สามารถเริ่มดำเนินการได้ในทันที หลังจากนี้ก็คงต้องคิดชื่อบริษัทให้ดี ๆ แล้วล่ะเหอฉุนคิดอยู่สักพัก ก่อนที่จู่ ๆ จะพูดขึ้นว่า “ฉันนึกออกแล้วหนึ่งชื่อ ไม่งั้นเราก็ใช้ชื่อว่าเฟยเทียนมิวสิคคัลเจอร์กันเถอะ!”“เฟยเทียนงั้นเหรอ?”เฉินเฟยเฟยถามด้วยความอยากรู้ขึ้นว่า “ทำไมถึงต้องเรียกว่าเฟยเทียน หมายถึงการบินทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าอะไรทำนองนั้นน่ะเหรอ?”เหอฉุนที่ได้ยินดังนั้นก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ ก่อนจะอธิบายออกไปว่า “อันที่จริงก็มีความหมายแบบนั้นแหละ แต่อักษรเฟยตัวนี้ไม่ได้หมายถึงอักษรที่แปลว่าบินทยานหรอก!”เฉินเฟยเฟยรู้สึกตกใจเล็กน้อย ทันใดนั้นเธอก็คิดออก แววตาเปล่งประกายด้วยความตื่นเต้น ชื่อนี้ไม่เลวเลยจริง ๆ“ฉันรู้แล้ว เป็นอักษรเฟยที่มาจากชื่อของพี่เฟยเฟยนี่เอง!”ครั้งนี้ จางผิงเองก็เข้าใจเช่นกัน ก่อนจะพูดด้วยความตื่นเต้นออกไปว่า “เฟยที่หมายถึงพี่เฟยเฟย เทียนก็หมายถึงคุณเย่ เป็นการรวมเอาชื่อของพวกพี่มารวมกันได้พอดีเลย