“หว่านหรู หุบปาก!”“ปู่ทำผิดและสมควรได้รับบทเรียน เราต้องขอบคุณคุณชายเย่” คุณปู่หลินรีบพูดทันทีเย่เซวียนหัวเราะเยาะ ก่อนจะเอ่ยปากเย้ยเขาว่า: “ได้ยินมั้ย หลินหว่านหรู ถ้าคุณหัดมีสำนึกแบบปู่ของคุณซะบ้าง คุณคงไม่มาถึงจุดนี้”“คุณคิดว่าผมชอบคุณขนาดนั้นจริง ๆ รึไง? คิดว่าตัวเองเป็นเทพีแสนวิเศษวิโสคนไหนหรือยังไง?”“พูดตรง ๆ คุณก็แค่ผู้หญิงที่ผมอยากเล่นด้วยตอนนี้ ผมยอมตามใจคุณครั้งแล้วครั้งเล่า แต่คุณกลับได้ใจขึ้นมาซะอย่างนั้น”“อยากฆ่าตัวตายใช่มั้ย? ได้สิ ฆ่าตัวตายเลยก็ได้ ผมจะอยู่ดู พอคุณตาย ผมจะสับไอ้งั่งนั่นเป็นชิ้น ๆ แล้วก็จะควักกระดูกมันออกมาตอนที่มันยังมีชีวิต”เย่เซวียนพูดจาน่ากลัวด้วยสีหน้าไม่สะทกสะท้าน: “แล้วก็ทุกคนในตระกูลหลิน อย่าคิดจะได้ใช้ชีวิตสุขสบายอีกเลย เพราะผมจะจัดการพวกมันทีละคน”ทันทีที่สิ้นคำพูดเล่านั้น ทุกคนก็หน้าซีดและหวาดกลัวเมื่อมองดูคุณชายผู้สง่างามของตระกูลเย่ผู้ยืนอย่างสง่าอยู่ตรงตรง กลับรู้สึกว่าเขาน่ากลัวราวกับปีศาจ กระทั่งทำให้รู้สึกกลัวจนหนาวสั่นพวกเขากลัวและมองดูหลินหว่านหรูด้วยสายตาวิงวอน เห็นได้ชัดว่าหวังว่าพวกเขากำลังหวังให้หลินหว่านหรูเลิกดื้อ
เขาพูดว่าอะไรนะ?เขาจะจัดการกับคุณชายเย่เหรอ?นี่เขากลัวจนสมองน้ำเข้าไปแล้วหรือไงไม่สิ น่าจะกลัวจนสติแตกพูดเรื่องไร้สาระไปแล้วเหล่าบรรดาญาติและมิตรสหายของตระกูลหลิน มองเทียนหยู่ราวกับมองคนโง่แม้แต่หลิวเมิ่งยังตกตะลึง คำพูดของพี่เขยทำเอาเธอเหงื่อตก ในขณะนี้ ในที่สุดเธอก็เข้าใจสักทีว่าทำไมพี่สาวของเธอถึงไม่ยอมให้ตัวเองบอกความจริงกับพี่เขยของเธอตอนนี้เธอเสียใจจริง ๆ ต่อให้พี่เขยของเธอจะดูกล้าหาญมาก แต่ถ้าตายทุกอย่างก็จบคุณปู่ตระกูลหลินและแม่ตระกูลหลินแทบอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาดัง ๆ ไอ้เจ้าเทียนหยู่มันจะอวดดีมากเกินไปแล้ว เขารู้ดีอยู่แก่ใจแท้ ๆ ว่าเย่เซวียนเป็นบุตรชายของตระกูลเย่เมืองหลงตู แล้วเขายังกล้าพูดจาบ้าบิ่นแบบนั้นอีกแต่พอคิดได้ว่าตระกูลของเธออาจต้องถูกลากไปเอี่ยวด้วย เธอก็หัวเราะไม่ออกแต่หลังจากวันนี้ไป สุดท้ายเขาก็จะต้องจบเห่อยู่ดีอย่าว่าแต่พวกเขาเลย แม้แต่หลินหว่านหรูเองก็ยังสับสนเล็กน้อย แต่ถ้าคิดให้รอบคอบเทียนหยู่ก็เป็นของเขาแบบนี้มาตลอดไม่ใช่เหรอ พวกไม่กลัวหน้าอินทร์หน้าพรหมน่ะในเมื่อเรื่องนี้มาถึงตรงนี้แล้ว ยังมีอะไรต้องคิดอีก เธอจึงพูดได้แค่ว่า: “ถ้าอย
เมื่อคุณปู่ตระกูลหลินเห็นว่าหลินหว่านหรูมองเขาด้วยท่าทีแบบนั้น เขาก็โกรธมาก: “เป็นใครมันสำคัญด้วยหรือไง? ที่ปู่ทำไปทั้งหมดก็เพราะเห็นแก่หลานนะ!”“ถ้าอย่างนั้นหนูรู้แล้วค่ะ!”คำพูดของคุณปู่ทำให้หลินหว่านหรูยืนยันความคิดในหัวของตัวเอง เธอหันไปหาเย่เทียนหยู่และพูดว่า: “เทียนหยู่ ชาตินี้ฉันเป็นคนทำร้ายนายเอง!”“แต่ว่าอย่ากลัวไปเลยนะ ถ้านายตายฉันจะไปกับนายด้วย แล้วชาติหน้าเรามาอยู่ด้วยกันใหม่นะ”ในตอนนี้ เธอไม่กังวลอะไรอีกแล้ว และไม่สนคำขู่ที่ตระกูลเย่มีต่อตระกูลหลินด้วยตระกูลของเธอกำลังร่วมมือกับคนนอกเพื่อข่มขู่เธอชัด ๆวินาทีนี้ เธอแค่อยากจะบอกเย่เทียนหยู่ว่าเธอจะตายไปพร้อมกับเขาต่อให้หนทางข้างหน้าจะมีจุดจบเป็นความตาย เธอก็จะเดินไปพร้อมกับเย่เทียนหยู่ยามนี้ หลินหว่านหรูกลับพบว่าตัวเองกำลังผ่อนคลายลง แทบจะเรียกได้ว่ายกภูเขาออกจากอกแต่เมื่อคุณปู่ตระกูลหลินและคนอื่น ๆ ได้ยินแบบนั้น พวกเขาก็โมโหจนแทบจะคลั่ง อย่าว่าแต่การหัวเราะตอนเห็นโชคร้ายกำลังพุ่งใส่เย่เทียนหยู่เลยทว่านี่เท่ากับการตัดเส้นแบ่งระหว่างตระกูลหลินกับคุณชายเย่ แถมยังเป็นการยั่วยุคุณชายเย่สุดขีด ตระกูลหลินจะต้องมีจ
ทุกคนมองดูภาพเบื้องหน้าและอดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าช้าเกินไป!ทั้งท่าทางและกระบวนท่าของเย่เทียนหยู่ เขามาเพื่อถูกกระทืบชัดๆเขาตายแน่หลินจื่อตงมองดูด้วยความร้อนใจ พี่เขย วรยุทธ์ของพี่ดีมากไม่ใช่เหรอ รีบเอาออกมาใช้สิ ยังจะมัวยืนนิ่งทำอะไรอยู่เล่าแต่แล้ววินาทีต่อมา ทุกคนก็ตกตะลึงเล็กน้อยรวมถึงตัวเฉินอู่ด้วย เพราะในตอนนั้นเอง ขณะที่เขารู้สึกว่ากระบวนท่านี้จะโจมตีถูกคู่ต่อสู้อย่างแน่นอน เย่เทียนหยู่ก็ยกมือขวาขึ้นทันทีเพียงแค่การเคลื่อนไหวเล็กน้อย เขาก็ใช้เพียงมือขวาจับอีกฝ่ายเพื่อหยุดการโจมตีสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้น คือวินาทีต่อมาเขาได้ยินเสียงกึกก่อนที่ความรู้สึกเจ็บปวดรุนแรงจะแล่นพล่านไปทั่วร่าง มือของเขาถูกอีกฝ่ายหักไปทั้งแบบนั้นภายใต้ความรู้สึกเจ็บปวด เฉินอู่โจมตีด้วยมืออีกข้างทันทีแต่เย่เทียนหยู่ก็ลงมืออีกครั้ง คราวนี้เขาบดขยี้มือซ้ายของเฉินอู่ด้วยกำลังภายในของเขาก่อนที่เฉินอู่จะทันได้ยื่นขาออกมา เย่เทียนหยู่ก็ถีบเขาออกไปอย่างแรงทุกกระบวนการเบื้องหน้าซับซ้อนเกินอธิบายและจบลงในระยะเวลาอันสั้นดูเขาไม่เปลืองแรงเลยสักนิดเฉินอู่ส่งเสียงร้องอย่างอนาถ เขากระเด็นออกไปไ
“เหอะ ผู้คุ้มกันของผมเป็นแค่พวกระดับพลังจันทรา ขอแค่เป็นพลังผลัดเปลี่ยนขั้นกลางขึ้นไปก็ทำแบบแกได้ทั้งนั้น ส่วนแก อย่างมากก็แค่พลังผลัดเปลี่ยนขั้นปลาย”“แต่ถ้าผมวิเคราะห์ไม่ผิด คุณก็แค่พลังผลัดเปลี่ยนขั้นกลาง และผมต่างหากที่เป็นระดับผลัดเปลี่ยนขั้นสูงสุดของจริง ห่างชั้นจากการเป็นระดับปรมาจารย์ที่สามารถสร้างพรรคขึ้นเองได้อีกแค่ก้าวเดียว”“เทียบกับผมแล้ว แกมันก็แค่มดปลวก!”เย่เซวียนลุกขึ้นยืน ก่อนจะเผยท่าทางโหดเหี้ยมกับสีหน้าภาคภูมิใจไม่คิดมาก่อนว่าวรยุทธ์ของเย่เทียนหยู่จะทรงพลังขนาดนี้ แต่ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหน ก็เทียบไม่ได้กับเขา และนี่ก็เป็นโอกาสให้เขาเอาหน้าคืนพอดีให้ทุกคนได้เห็นว่าใครคือผู้กันแน่คือผู้มีพรสวรรค์แท้จริงทุกคนแอบถอนหายใจ ตามที่คาดไว้ คุณชายเย่ยังคงมีพลังมากกว่าส่วนเจ้างั่งเย่เทียนหยู่นั่น ไม่ว่าเขาจะมีความสามารถและทรงพลังแค่ไหน แต่สุดท้ายเขาก็จะถูกคุณชายเย่จัดการ และทุกอย่างก็จะสูญเปล่าแม่ตระกูลหลินถึงกับในใจว่า คุณชายเย่ รีบลงมือกำจัดเจ้าขยะน่าน่าขยะแขยงนั่นไปเลยหลินหว่านหรูเอวงก็ถูกคำพูดของเขาทำเอาหวาดหลัว หัวใจของเธอกังวลมากขึ้นไปอีก แม้พวกเขาจะเตร
เย่เทียนหยูพูดไม่ออก เดิมทีเขาคิดว่าเย่เซวียนเป็นคนที่มีจิตสำนึกห่วยแตก ฟังจากสิ่งที่เขาพูดกับสิ่งที่เขาจะทำ เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นคนเลวที่เลวทรามมากทั้งไม่เห็นค่าของมนุษย์ปุถุชน ชั่วช้าสามานย์จิตใจคับแคบทว่าตอนนี้ดูยังไง เขาก็เป็นแค่คนโง่ชัด ๆแต่เย่เซวียนไม่คิดว่าตัวเองจะผิดพลาด กลับทำท่าทางเย่อหยิ่ง และเอ่ยปากข่มขู่ “หลินหว่านหรู ผมจะให้โอกาสคุณเป็นครั้งสุดท้าย”“มานี่ซะ คุกเข่าขอโทษผม ต่อไปก็มาปรนิบัติรับใช้ผมให้ดี ผมจะยอมไม่เอาเรื่องความผิดของคุณวันนี้”“ไม่อย่างนั้นละก็ คุณสองคน รวมถึงปู่ พ่อแม่ พี่น้องของคุณทุกคน เตรียมตัวตายได้เลย”ขณะที่เย่เซวียนพูดเขาก็ชี้ไปที่ทุกคน คำพูดทุกคำล้วนเป็นการคุกคามข่มขู่ทันทีที่เขาพูดแบบนั้นออกมา แม่ตระกูลหลินก็ตกใจกลัวทันทีและรีบพูด “หว่านหรู มัวยืนบื้อทำอะไรอยู่อีก คุณชายเย่มีน้ำใจขนดานี้ ทำไมยังไม่รีบคุกเข่าลงอีกฮะ”“ใช่ หว่านหรู เร็วเข้าสิ การคุกเข่าคุณชายเย่ไม่ใช่เรื่องน่าอายหรอก พ่ออยากจะคุกเข่าแทนอยู่แล้วแต่คุณชายเย่ไม่อนุญาต หรือลูกคิดจะทำร้ายคนในตระกูลทุกคนหรือไง”พ่อตระกูลหลินรีบพูดขึ้นมาทันที“ยังไม่รีบอีก หรือต้องให้ฉันลากไป
เย่เทียนหยู่หัวเราะเยาะและถามซ้ำแล้วซ้ำอีกโดยไม่หันหน้าหนีเลยแม่ตระกูลหลินและพ่อตระกูลหลินโกรธมากจนรู้สึกเหมือนกินอุจจาระและปัสสาวะไปหลายกิโลกรัม น่าเสียดายที่พวกเขาไม่มีทางปฏิเสธได้สิ่งที่ทำให้พวกเขาอึดอัดที่สุดคือทุกคนที่อยู่รอบตัวพวกเขาแสดงท่าทีเข้าใจอย่างลึกซึ้งและเห็นด้วยกับคำพูดของเย่เทียนหยู่แม้ว่าพวกเขาจะรู้ด้วยว่าเย่เซวียนนั้นทรงพลังและน่ากลัวเพียงใด แต่การแสดงของแม่ตระกูลหลินทำให้พวกเขาตกใจมากและทำให้มุมมองของพวกเขาถึงจุดสูงสุด"พวกแก!”“พวกแกจะรู้อะไร!”“ถ้าคุณต้องยืนอยู่ในตำแหน่งนี้ และปล่อยให้ลูกสาวของคุณแต่งงานกับนายน้อยที่โดดเด่นเช่นนี้ คุณคงจะแย่กว่าฉัน”แม่ตระกูลหลินโกรธมาก เมื่อเห็นทุกคนสนับสนุนคำพูดของเย่เทียนหยู่อย่างเงียบๆ เธอก็โกรธมากจนตอบโต้เสียงดังเมื่อทุกคนได้ยินก็ไม่กล้าพูดอะไรเพราะเย่เซวียนอยู่ด้วย แต่ทุกคนก็แสดงชัดเจนว่าพวกเขายังคงไม่เห็นด้วยกับคำพูดของเธอ และพวกเขาก็ดูเหมือนกำลังหัวเราะอีกด้วยแม่ตระกูลหลินไม่เคยรู้สึกละอายใจขนาดนี้มาก่อน ราวกับว่าเธอถูกกล่าวหาว่ามีความชั่วร้ายมากมายขนาดนี้เธอคลั่งไคล้และก่นด่าด้วยความโมโห "เย่เทียนหยู่ คุณเป
เย่เซวียนไม่คิดเลยว่าเย่เทียนหยู่จะทำตัวสบายขนาดนี้ แต่เขาก็เข้าใจเหตุผลอย่างรวดเร็ว เขายิ้มเยอะก่อนจะพูดอย่างเย้ยหยันว่า “แกคิดว่าแกจงใจแกล้งทำท่าสบายแบบนั้น แล้วผมจะไม่รู้เหรอว่าแกอยากถ่วงเวลา”“ไอ้เจ้างั่ง เทียบกับผมแล้วแกมันยังกระจอกเกินไป!”“……”เย่เทียนหยู่พูดไม่ออกและพูดว่า "แล้วคุณกำลังเขียนถึงอะไรอีกล่ะ รีบลงมือทำเลย!"“ยอดมาก แกมันรนหาที่เอง วันนี้ผมจะให้คุณเห็นกระบวนท่าที่ไม่มีใครเทียบได้ของตระกูลเย่! เมื่อผมใช้กระบวนท่านี้ คุณจะไม่สามารถสัมผัสเงาของผมได้ ไม่ต้องพูดถึงการโจมตีผมเลย”“……”“พูดจบหรือยัง พูดจบแล้วก็รีบลงมือ” เย่เทียนหยู่เริ่มเร่งเวลา เพราะเขาไม่ว่างมาทำตัวอืดอาดกับเขา“รนหาที่ตาย!”“ในเมื่อเจ้าอยากตาย วันนี้ฉันจะตัดมือและเท้าของเจ้าออก แล้ว…”เย่เซวียนต้องการพูดคำเสแสร้งสองสามคำก่อน จากนั้นจึงแสดงความดุร้ายอันน่าทึ่งของเขา เมื่อถึงเวลา เย่เทียนหยู่จะถูกเขาเหยียบย่ำ และเขาไม่กลัวว่าหลินหว่านหรูจะไม่เชื่อฟังแต่เขาไม่คาดคิดว่าในขณะนี้ เย่เทียนหยู่ก็ออกจากสถานที่นั้นทันที และความเร็วของเขาก็เร็วอย่างน่าประหลาดใจด้วยการจ้องมองของเขา มันยากที่จะจับมันทั้ง