“อ่า…”“ห้องไหนคะ?” หลินว่านหรูเองก็ไม่รู้ว่าเตรียมห้องไหนเอาไว้“ยังจะห้องไหนอีก ก็ต้องเป็นห้องของลูกน่ะสิ”“พวกลูกจดทะเบียนกันมานานขนาดนี้แล้วนะ ไม่นอนห้องเดียวกันหรือจะให้แยกกันนอนรึไง ทำแบบนั้นคนได้หัวเราะเยาะกันหมดพอดี” แม่หลินพูดด้วยท่าทางหงุดหงิดที่พูดนี่มันก็ เมื่อก่อนก็ไม่ได้นอนด้วยกันก็ไม่เห็นจะบอกเลยว่าคนอื่นเขาจะหัวเราะเยาะทว่าไม่รู้เป็นเพราะคุณปู่ตระกูลหลินเมาหรือเปล่า แต่เขาก็สนับสนุนทั้งสองคนให้นอนด้วยกัน “หว่านหรู หลานอยากอยู่กับเทียนหยู่มาตลอดเลยไม่ใช่รึไง ตอนนี้เราทุกคนเห็นด้วยกับหลานนะ หรือหลานไม่อยากอยู่กับเขาแล้ว?”“เปล่านะคะ!”“แต่ถ้าหนูพาเขาเข้ามาแล้ว พวกปู่ห้ามมาดุหนูทีหลังนะคะ” หลินหว่านหรูพูดอย่างช่วยไม่ได้“จะมาดุลูกทำไม เราน่ะอยากจะให้ลูกมีหลานตัวอ้วนให้เราเร็ว ๆ ด้วยซ้ำ”แม่ตระกูลหลินพูดด้วยความโกรธอาจเพราะคุณปู่ตระกูลหลินเมา เขาจึงเห็นด้วยกับเรื่องอุ้มหลานที่ว่าหลินหว่านหรูไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องช่วยพยุงเย่เทียนหยู่ โชคดียังดีที่ดูเหมือนตาบ้านี่จะไม่ได้ตัวหนักเท่าไหร่ แต่เขากลับแนบตัวชิดกับเธอแบบนี้ทำให้เธอรู้สึกแปลกเล็กน้อย ยิ่งไปกว่า
ร่างกายของหลินหว่านหรูอ่อนระทวย เสื้อผ้าของเธอเองก็เริ่มยุ่งเหยิง เพลิดเพลินไปกับอารมณ์และรับสัมผัสอันงดงามแบบที่เธอไม่เคยเจอมาก่อนแม้เย่เทียนหยู่จะไม่เมา แต่สุราพวกนั้นก็ยังเพิ่มความดิบเถื่อนของเขขาอย่างเห็นได้ชัด เขารู้สึกตื่นตัวมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งกระบวนท่าที่เริ่มกำเริบทำตามอำเภอใจแต่ในขณะนั้น จู่ๆ ประตูก็ถูกผลักเปิดออก ก่อนที่แม่ตระกูลหลินก็ตะโกนเรียก “หว่านหรู!”หากแต่ทันทีที่พูดจบ แม่หลินก็ต้องตกตะลึง เทียนหยู่ดื่มมากเกินไปไม่ใช่เหรอ ทำไมยังลุกมาทำได้อีก “พวกลูกต่อเลย” เธอลดเสียงลงแล้วปิดประตูอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันก็ก่นด่าตัวเองในใจว่าตัวเองทำอะไรลงไปนี่มันความผิดประหารชัดๆถ้าเธอทำลายฤกษ์ดีของลูกสาว เธอต้องเสียใจจนตายแน่ที่แท้หลังจากที่เธอเห็นทั้งสองคนเข้ามา แม่ตระกูลหลินยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าต้องออกตัวเองมากกว่านี้ ไม่อย่างนั้นลูกสาวของเธอหน้าบางเกินไป ส่วนเทียนหยู่ก็ดื่มไปไม่น้อยบางทีคืนนี้พวกเขาอาจไม่ได้ทำอะไรกันเธอคิดจะเข้าไปขู่ลูกสาวของตัวเองเสียหน่อยว่าหากไม่คว้าโอกาสนี้ ต่อไปเธอจะไม่อนุญาตให้เธอคบกับเย่เทียนหยู่อีกแต่ไม่คิดว่าทันทีที่เปิดประตูทักทาย เธ
แค่รู้สึกว่าบางครั้งเขาก็แสดงมากเกินเบอร์ จะแสดงเป็นใครก็ว่าไป ดันมาทำเป็นราชามังกร เขาคนนั้นเป็นบุคคลผู้มีอำนาจถึงขนาดไหน“แสดงอะไร?” เย่เทียนหยู่สับสน“ยังจะแสดงอีก นายคิดว่าตัวเองเป็นราชามังกรจริง ๆ รึไง ถ้าไม่ใช่เพราะฉันหลอกคุณปู่ พวกเขาจะคิดว่านายเป็นราชามังกรได้ยังไง”หลินหว่านหรูจ้องเย่เทียนหยู่และพูดด้วยความโกรธแต่ตาบ้านี่แสดงเก่งจริง ๆตอนแรกเธอกังวลว่าเย่เทียนหยู่จะรับบทไม่ทัน เธอกำลังจะเตือนให้เขาแกล้งทำเป็นราชามังกรแห่งพรรคมังกรแต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะยอมรับบทจากเธอ หลังจากนั้นก็ทำเสียเป็นเรื่องราวจริงจัง ราวกับว่าเขาเป็นราชามังกรองค์ใหม่ของพรรคมังกรจริง ๆ อย่างนั้นถ้าเธอไม่รู้ความจริง เธอคงโดนเขาหลอกไปแล้วแต่ไม่เป็นไร เพราะทีท่าของพ่อแม่และปู่ที่มีต่อเขาเปลี่ยนไปมาก กลัวก็แต่ว่าวันหนึ่งความจริงจะถูกเปิดเผย และสิ่งต่าง ๆ อาจจะเลวร้ายลงมากตอนนี้หวังได้เพียงว่าเทียนหยู่จะเก่งกาจขึ้นทุกวัน รอจนเขาเก่งมากพอแล้วทุกอย่างก็ไม่มีปัญหาความจริงแล้ว วันนั้นหลังจากที่เธอกับเย่เทียนหยู่แยกกันแล้ว หลินหว่านหรูก็นึกถึงคนคนหนึ่งที่สามารถช่วยพวกเขาได้จริง ๆ และนั่นคือเย่เซวียน บ
ใช่แล้วละ ตอนนั้นเย่เทียนหยู่คุยโวว่าเขาคือราชามังกรหัวใจของ หลินหว่านหรูสั่นไหวเมื่อเธอคิดถึงเรื่องนี้แม้ว่าเทียนหยู่จะไม่ใช่ราชามังกร แต่เธอก็สามารถโกหกคุณปู่และคนอื่น ๆ และตอบตกลงได้ มันเกิดขึ้นจนหลายสิ่งหลายอย่างในอดีตสามารถพูดได้ว่าเทียนหยู่ทำโดยใช้ตัวตนของเขาในฐานะราชามังกรรวมถึงคราวนี้เพื่อข่มขู่ตระกูลหลี่ว์นอกจากนี้เทียนหยู่ยังอวดอ้างในช่วงต้นครั้งนี้ว่าเขาสามารถดูแลตระกูลหลี่ว์ ได้อย่างง่ายดาย เขาเคยคุยโวมากมาก่อนซึ่งสอดคล้องกับตัวละครอย่างสมบูรณ์หลังจากคิดถึงเรื่องทั้งหมดนี้แล้ว หลินหว่านหรูก็บอกกับคุณปู่ตระกูลหลินและคนอื่นๆ ว่า เย่เทียนหยู่คือราชามังกรองค์ใหม่ของพรรคมังกรทันทีที่มีข่าวออกมา คุณปู่ตระกูลหลินและคนอื่น ๆ ก็ตกตะลึงค้างเติ่งอยู่กับที่ด้วยความเหลือเชื่อ แต่หลังจากที่หลินหว่านหรูอธิบาย ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนถูกต้องครบถ้วนแต่ประเด็นคือเดิมทีเย่เทียนหยู่ก็เป็นคนจัดการเรื่องพวกนั้นหลังจากที่ทั้งสามรวมหัวกันคิดอีกเล็กน้อย พวกเขาก็พบว่าเย่เทียนหยู่คือราชามังกรองค์ใหม่จริง ๆ และทุกคนก็เสียใจทันที แต่ว่าพวกเขาก็รับรู้ได้อย่างรวดเร็วว่าพวกเขาไม่มีที่ให้เสียใจภ
“แบบนั้นก็ดี พวกเขาบังคับให้พวกเราอยู่ด้วยกันเองนี่ พอถึงตอนนั้นก็หมดวิธีบังคับให้เราแยกทางกันแล้วละ”“นั่นสินะครับ ดูท่าคุณจะยืนหยัดอยู่กับผมจริง ๆ ด้วยนะ”“ใครอยากอยู่กับนายกันยะ ฉันก็แค่…ก็แค่…”ก่อนที่หลินหว่านหรูจะพูดจบ เย่เทียนหยู่กอดเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาอีกครั้งและพูดว่า “คุณน่ะคอยคิดอยู่ทุกวันว่าผมจะกลายเป็นคนที่เก่งกาจเร็ว ๆ และให้อุปสรรคทั้งหมดที่ขัดขวางเราถูกกวาดล้างให้สิ้นซาก”“แต่ความจริง คุณไม่ต้องเหนื่อยขนาดนั้นหรอกครับ เพราะถึงสามีของคุณจะไม่ได้เป็นมังกรบินได้ แต่ก็ยังเป็นผู้นำที่แท้จริงบนโลกนี้แน่นอน”“เริ่มโม้อีกแล้วเหรอ”คราวนี้หลินหว่านหรูไม่ได้หลบหนีและโน้มตัวเข้าไปในอ้อมแขนของเย่เทียนหยู่ แม้ว่าเขาจะทะเลาะกับเย่เทียนหยู่อยู่แค่ปาก แต่ในใจเขากลับรู้สึกหวานราวกับน้ำผึ้งย้อมและฉันก็เชื่อด้วยว่าเย่เทียนหยู่จะประสบความสำเร็จบางอย่างในอนาคตอย่างแน่นอนแม้ว่าเขาจะไม่มีพื้นฐานมากนัก แต่ผลงานของเขาในยุคนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะพิสูจน์ความเป็นเลิศและความแข็งแกร่งของเขาตราบใดที่คุณให้เวลาเขา เขาจะกลายเป็นแขนที่ทรงพลังที่สุดของคุณอย่างแน่นอนเย่เทียนหยู่ยิ้มและไม่ได้ป
“ไม่ต้องกังวล คุณป้า ฉันจะทำแน่นอน แต่ฉันเกรงว่าคุณจะเปลี่ยนใจ” เย่เทียนหยู่นึกถึงสิ่งที่หลินหว่านหรู พูด เมื่อพวกเขารู้ความจริงแล้ว พวกเขาไม่รู้ว่าจะทำยังไง“อะไรกัน คุณลืมไปแล้วเหรอ เมื่อวานฉันสาบานไปแล้วนะ”“ใช่ จะผิดคำสาบานไม่ได้ง่าย ๆ แต่เกิดมันเป็นเรื่องจริงๆขึ้นมาจะทำยังไงครับ” เย่เทียนหยู่พูดด้วยรอยยิ้มหลังจากพูดจบ แม่ตระกูลหลินมักจะรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ยังไงก็ตาม อาจเป็นเพราะฉันเคยรุนแรงกับเขามาก่อน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่จะไม่มีอะไรดีจะพูดเธอจึงทำได้แค่อดทนและรีบชวนเขาไปนั่งรับประทานอาหารเช้า และการเตรียมการก็เข้มข้นมากหลังจากนั้นไม่นาน หลินหว่านหรูก็ออกมาเช่นกันเมื่อเห็นท่าทางเอาอกเอาใจของคนในตระกูลที่มีต่อเย่เทียนหยู่ เขาก็อดไม่ได้ที่จะแอบยิ้มแห้งหวังแต่ว่าคำสาบานเมื่อคืนของพวกเขาจะเป็นแค่คำหลอกลวงก็แล้วกันหลังอาหารเช้า ทั้งสองออกจากวิลล่าภายใต้สายตาที่มีความสุขของคุณแม่ตระกูลหลินแต่เย่เทียนหยู่ไม่ได้ไปกับหลินหว่านหรู เพราะจุดหมายปลายทางของเขาคือหงหม่ากรุ๊ป ไม่ใช่หลินซื่อกรุ๊ปหลินหว่านหรูกลับมาที่บริษัทและถามเกี่ยวกับสถานการณ์ของหงหม่ากรุ๊ปทันที
นั่นไม่ใช่สำนักงานใหญ่ของพรรคถังหรอกเหรอ เด็กนั่นไปทำอะไร หรือว่าเขาคิดจะไปที่สำนักงานใหญ่ของพรรคถัง?เป็นไปไม่ได้!เหลวไหลเกินไปแล้วแต่ไม่ว่าเจ้าเด็กเมื่อวานซืนนั่นจะคิดยังไง ด้วยที่อยู่กับป้ายทะเบียน และจุดหมายปลายทาง ทำให้คนของเขาสามารถค้นหาตำแหน่งของเขาได้อย่างง่ายดายกลัวก็แต่เด็กนั่นจะหลอกลวงเขาแต่ไม่นานนักคนที่มากับเขาแจ้งว่าเย่เทียนหยู่ไม่ได้โกหก ดังนั้น พวกเขาจึงรีบขับรถพาถังวั่นลี่ไล่ตามเย่เทียนหยู่ไปทันทีเย่เทียนหยู่ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ถังวั่นหลี่ต้องอับอาย ท้ายที่สุด มันยากมากที่จะมาที่นี่จากระยะไกลขนาดนี้ และเขาก็ยังคงเป็นจอมยุทธ์ผู้มากฝีมือยังไงก็ตามเขาต้องการประหยัดเวลานอกจากนี้เขายังวางแผนที่จะทำความสะอาดพรรคถังให้เสร็จสิ้นในวันนี้และพยายามอย่างเต็มที่เพื่อกลับไปหาตระหูลหลินเพื่ออยู่กับภรรยาของเขารถกำลังขับไปตลอดทาง และปกติแล้ว เย่เทียนหยู่จะเร็วกว่ามาก แต่เพื่อที่จะตามทันเย่เทียนหยู่ถังวั่นหลี่ขอให้สหายของเขาเพิ่มความเร็วให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ แทบจะวิ่งไปพร้อมกันประกอบกับการที่เย่เทียนหยู่จงใจชะลอความเร็วลงเล็กน้อย ในที่สุดรถก็หยุดลงในสถานที่ห่างไกล
“พูดจาเหลวไหล!”ถังวั่นหลี่รู้สึกเสียใจและไม่สบายใจมากหลังจากถูก เย่เทียนหยู่ดุ เพราะเขาสังเกตและฟังอย่างระมัดระวัง จึงไม่มีการซุ่มโจมตีรอบตัวเขาจริงๆ แต่ถ้าไม่มีการซุ่มโจมตี ทำไมอีกฝ่ายถึงสงบขนาดนี้ลืมไปเถอะ ทำไมคุณถึงสนใจมากขนาดนี้ คุณถูกไอ้สารเลวคนนี้ชักนำโดยสมบูรณ์ เขาพูดตรงๆ ทันที “หยุดพูดเรื่องไร้สาระ หากเจ้ากล้าทำให้พรรคถังอับอาย วันนี้เจ้าก็มีแต่ต้องตายเท่านั้น”ทันทีที่เขาพูดจบ เขาก็ขยับเกือบจะในทันที ปรากฏตัวตรงหน้าเย่เทียนหยู่ จากนั้นก็ฟาดกระบวนท่าที่ดุร้ายออกไปกระบวนท่านี้ เขาใช้ความแข็งแกร่งเพียงสองสามส่วนในสิบเท่านั้นนอกจากนี้ยังเป็นการทดสอบเพื่อทดสอบความแข็งแกร่งของเย่เทียนหยู่ก่อน เขาไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ ว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะเป็นปรมาจารย์ได้เย่เทียนหยู่ยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้ และรีบวิ่งไปข้างหน้าด้วยมือขวาทันที ไม่ใช่ว่าเขาหลีกเลี่ยงไม่ได้แต่ถ้าหลีกเลี่ยงรถก็จะเดือดร้อนรถคันนี้จะพาเขาไปยังสำนักงานใหญ่ของพรรคถังด้วยการแก้ปัญหาปรมาจารย์พรรคถังไม่สามารถแก้ปัญหาของหยางเฉียนเฉียนได้โครม เสียงของการชนกระแทกอย่างรุนแรง!กระแสลมแรงพัดไปทั่ว รถถูกเคลื่อนไปด้านข้า
“พ่อคะ หรือว่าพ่อไม่เคยสนใจอนาคตของหนูเลยอย่างนั้นเหรอคะ ถึงได้บังคับหนูแบบนี้?” สวี่เจียเจียกล่าวทั้งน้ำตา พร้อมกับจ้องไปทางพ่อด้วยความโกรธสีหน้าพ่อตระกูลสวี่ดูไม่พอใจมากนัก แต่นี่คือความหมายของครอบครัว เขาทำไปก็เพื่อครอบครัว เพราะไม่อย่างนั้น ผลที่จะตามมาจากการรุกรานของตระกูลซุนคงจะน่ากลัวมาก ๆ เขาจึงพูดอย่างจำใจว่า “พ่อไม่ได้บังคับลูก แต่คุณชายซุนเป็นคนที่ดีที่สุดสำหรับลูก”“ใช่แล้ว เจียเจีย คุณชายซุนทั้งหล่อเหลาและมีความสามารถ สาว ๆ จากตระกูลใหญ่ในเมืองตะวันออกมากมายอยากแต่งงานกับเขา แต่ก็ไม่มีโอกาส เธออย่าไปหลงเชื่อคนไร้ค่าแบบนั้นเอาได้ล่ะ” สวี่อี้พูดเสริมขึ้นทันที“นั่นสิ เจียเจีย ตระกูลหลินเป็นเพียงตระกูลเล็ก ๆ หลินจื่อตงก็ยิ่งเป็นแค่ขยะ หากเธอต้องไปอยู่กับมัน ชาตินี้คงไม่มีวันได้เห็นแสงสว่างแน่”สวี่กวงเองก็รีบพูดขึ้นมาด้วยเช่นกันแต่สวี่เจียเจียกลับส่ายหัว แล้วพูดออกไปว่า “ฉันไม่สน ฉันแค่ชอบพี่ตง ฉันต้องการแต่งงานกับเขา!”เย่เทียนหยู่เองก็แอบรู้สึกประหลาดใจ คิดไม่ถึงเลยว่า หลินจื่อตง จะโชคดีขนาดนี้ สามารถทำให้หญิงสาวที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้หลงใหลในตัวเองได้หลินหว่า
หูของเย่เทียนหยู่ค่อนข้างไวต่อเสียง เพิ่งจะเดินเข้ามาที่ประตูห้องโถง ก็ได้ยินคำพูดของคุณแม่ตระกูลซุนพูดขึ้นทันที ดังนั้นเขาจึงพูดออกมาดัง ๆ จากประตูว่าพวกเขามีความเห็นต่างทันทีที่พวกเขาพูดจบ ไม่นานก็เดินตรงเข้ามาทุกคนต่างก็ตกใจเล็กน้อย ในช่วงเวลาแบบนี้ใครกันจะกล้าพูดจาไร้สาระ หรือกล้าคัดค้านบ้าง เพราะเหตุนี้จึงทำให้ทุกคนต่างก็หันไปมองพร้อมกัน และเห็นว่ามีคนสามคนยืนอยู่ตรงประตูโดยเฉพาะสวี่เจียเจีย ทันทีที่เธอเห็น เธอก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้อีกต่อไป เธอลุกขึ้นยืนในทันที และตะโกนด้วยความตื่นเต้นออกไปว่า “พี่ตง!”ทันทีที่สวี่กวนเห็นคนที่เดินเข้ามา เขาก็รู้สึกโกรธขึ้น สีหน้าดูซีดเซียว เขาคิดไม่ถึงเลยว่า หลินจื่อตงจะกล้าบุกเข้ามาในบ้านตระกูลสวี่เพื่อแย่งคนจริง ๆนี่เท่ากับว่าเขาไม่สนใจคำขู่ของตนโดยสิ้นเชิง ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลยสักนิด จนแทบจะทำให้เขาหมดความอดทนแต่ในขณะเดียวกัน น้องชายของพ่อตระกูลสวี่ สวี่อี้ก็รู้สึกโกรธมาก แล้วพูดอย่างเย็นชา“พวกแกเป็นใครกัน ถึงกล้าบุกเข้ามาพูดจาไร้สาระในบ้านตระกูลสวี่ของฉันแบบนี้?”“อารองครับ มันก็คือคางคกที่เพ้อฝันอยากกินเนื้อหงส์ หลินจ
ตระกูลสวี่ก็ถือว่าพอมีอิทธิพลอยู่จริง ๆ แต่ถ้าหากเทียบกับสี่ตระกูลใหญ่แล้ว ความแตกต่างนั้นก็ค่อนข้างจะห่างชั้นอยู่พอสมควรหลายคนในตระกูลสวี่ โดยเฉพาะน้องชายของพ่อตระกูลสวี่ สวี่อี้ และลูกชายของเขา สวี่กวง ต่างก็มีความปรารถนาที่จะเข้าใกล้ตระกูลซุน เพียงเท่านี้ ก็จะทำให้อิทธิพลของตระกูลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และพวกเขาเองก็จะได้รับประโยชน์อย่างมากเช่นกันเพียงแต่สีหน้าของคุณแม่ตระกูลสวี่ดูไม่ค่อยดีนัก เพราะเธอรู้ว่าลูกสาวตนชอบหลินจื่อตง ครั้งที่แล้วก็เป็นเธอที่แอบปล่อยสวี่เจียเจียไปอย่างลับ ๆ เพื่อให้เธอได้ไปหาหลินจื่อตงที่เมืองเทียนไห่แม้ว่าพ่อตระกูลสวี่จะไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่เพื่อครอบครัวแล้ว เขาจำเป็นต้องยอมรับสิ่งเหล่านี้สวี่เจียเจียก้มหน้า และกดตัวอักษรบนหน้าจอโทรศัพท์อย่างไม่หยุดหย่อน เธอกำลังส่งข้อความหาหลินจื่อตงแต่หลังจากที่ส่งข้อความไปหลายข้อความ หลินจื่อตงก็ยังไม่ตอบเธอเลยสักข้อความ อีกทั้ง ตอนนี้การสนทนาระหว่างทั้งสองฝ่ายก็ใกล้จะจบลงแล้ว เขากลับยังไม่ปรากฏตัวสิ่งนี่ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจมากนักแม้เธอจะรู้ว่าครอบครัวของหลินจื่อตงไม่ได้มีความสามารถ แทบจะไม่มีวิธีเลยด
เมื่อคุณแม่ตระกูลหลินได้ยินเสียง ก็ตกใจขึ้นมาทันทีพอหันไปมองก็เห็นว่าเย่เทียนหยู่กำลังเดินมา สีหน้าดูตื่นตระหนกเล็กน้อย และพูดติดอ่างขึ้นว่า “เทียนหยู่ เธอมาแล้วเหรอ ฉะ ฉันก็พูดมั่ว ๆ ไปอย่างั้นแหละ เธออย่าเก็บมาใส่ใจเลยนะ”“ฮึ ๆ!”เย่เทียนหยู่หัวเราะฮึ ๆ ออกมา ครั้งนี้เขาเปลี่ยนเป็นรถอีกคัน บางทีอาจเป็นเพราะเหตุนี้ คุณแม่ตระกูลหลินจึงไม่ทันได้สังเกตเห็นล่ะมั้งแต่เขาก็ขี้เกียจที่จะสนใจ และพูดอย่างเฉยเมยไปว่า “หว่านหรู จื่อตง รีบขึ้นรถเถอะ”เมื่อหลินจื่อตงและหลินหว่านหรูได้ยินแบบนั้น ก็รีบเดินไปที่รถเพื่อเตรียมขึ้นรถในทันที“จื่อตง นายมาขับรถ” เย่เทียนหยู่หยิบกุญแจรถโยนให้กับหลินจื่อตงทันทีหลินจื่อตงพยักหน้า แล้วถือกุญแจเดินขึ้นรถไปเขาหวังเอาไว้อยู่แล้วว่าจะได้เป็นคนขับ แบบนั้นเขาก็จะสามารถเพิ่มความเร็วได้ดั่งใจ เพราะเขาเป็นคนที่ชื่นชอบการแข่งรถมาก และทักษะการขับขี่ของเขาก็ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับเขาแล้ว พี่เขยจะต้องขับรถได้แย่มากแน่นอนคุณแม่ตระกูลหลินเดินตรงเข้าไป พร้อมกับเปิดประตูรถ เพื่อที่จะขึ้นไปด้วย เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ในฐานะผู้อาวุโส เธอรู้สึกว่า ยังไ
หม่าจวิ้นตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและรีบพูดทันทีว่า “สภาพร่างกายของผมยอดเยี่ยมมาแต่เด็ก ผมไม่จำเป็นต้องฝึกหรอกครับ”“ผมบอกว่าต้องก็ต้อง จะไปมั้ย” เย่เทียนหยู่ถาม“ไปครับ!”หม่าจวิ้นจะไม่คว้าโอกาสแบบนี้เอาไว้ได้ยังไง เขาจึงตอบกลับทันทีเย่เทียนหยู่แจ้งหมายเลขโทรศัพท์และชื่อของหยางผั่วจวินให้เขาทันที จากนั้นเขาก็โทรหาหยางผั่วจวินและเล่าความเป็นมาให้เขาฟังแม้ว่าเขาจะยังไม่สามารถติดตามราชามังกร แต่เขาก็เป็นได้เป็นลูกกระจ๊อกคนหนึ่งแล้ว ต่อไปในอนาคตเขายังมีโอกาสอีกมากใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มกับความตื่นเต้นอันไม่อาจควบคุมเมื่อหลิวเมิ่งเห็นว่าเย่เทียนหยู่คุยกำลังว่าง่าย เธอก็พูดทันที “พี่เขย เรื่องพี่สาว...”“ผมพูดไปแล้ว ไม่ต้องพูดอะไรอีก”เย่เทียนหยู่ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ดึกแล้ว ผมจะไปพักผ่อน ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็รีบกลับไปเถอะ” หลิวเมิ่งทำอะไรไม่ถูก หมายความว่าไงถ้าไม่มีอะไรแล้ว เธอก็พูดอยู่ตลอดว่ามีเรื่องนี่ แต่เขาเองที่ไม่ยอมฟังดูเหมือนคราวนี้พี่เขยตั้งใจจะออกจากตระกูลหลินอย่างแน่วแน่ แล้วลูกพี่ลูกน้องของเธอจะทำยังไงดีภายใต้ความสิ้นหวัง หลิวเมิ่งจากไปพร้อมกับหม่าจวิ้น หลังจากก
หลังจากวางสาย เย่เทียนหยู่ก็เดินทางไปยังบ้านพักของตระกูลหยางและแจ้งให้หยางเฉียนเฉียนทราบด้วยตัวเองว่าปัญหาแก้ไขแล้ว หรือให้พูดตามตรงก็คือ เขาไม่อยากทำให้เธอต้องเสียใจวินาทีแรกที่หยางเฉียนเฉียนได้ยิน เธอก็ยินยอมรับปากเย่เทียนหยู่ สำหรับเธอขอแค่พี่เย่มีความสุขเธอก็มีความสุขต่อมาแม้เธอจะผิดหวังอยู่บ้าง ที่สุดท้ายเธอไม่ได้ลงเอยกับพี่เย่ แต่อย่างน้อยเธอก็ได้จัดงานแต่งงานที่สมบูรณ์แบบกับเขา และยังได้รับใบทะเบียนสมรสกับเขาด้วยหยางต้าฝูดูหดหู่มากกว่า เขาได้แต่ยิ้มอย่างขมขื่นดูเหมือนว่า ความมั่งคั่งมหาศาลนั่น จะไม่ใช่ของตระกูลหยางของพวกเขาหลังจากจัดการเรื่องนี้แล้ว เย่เทียนหยู่ก็ขับรถกลับไปที่วิลล่าสกายพาเลซหมายเลขหนึ่งแต่ทันทีที่เขามาถึงหน้าประตู เขาก็พบแขกที่ไม่ได้รับเชิญสองคนถูกเขาลงโทษไปแล้ว เจ้าโง่นั่นก็ไม่ยอมแพ้แถมยังตามเขามาถึงที่นี่ ยังไม่รู้ตัวอีกเหรอว่าตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาคงไม่ได้โง่ขนาดนั้นหรอกใช่มั้ย!เดี๋ยวก่อน หลิวเมิ่งก็อยู่ที่นี่ด้วย แม้ว่าจะน่ารำคาญเล็กน้อย แต่เธอกับหว่านหรูก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันพวกเขาทั้งสองเห็นเย่เทียนหยู่แล้วรีบรุดหน้ามาทันที
ใบหน้าของหลินหว่านหรูแดงระเรื่อขึ้นมาทันทีเล็กน้อย เมื่อคิดถึงเรื่องเมื่อคืน เธอรู้สึกถึงความปรารถนาที่อธิบายไม่ได้ในใจ“เฮ้ คุณบอกว่าคุณต้องการมันมากใช่ไหม” เย่เทียนหยู่พูดด้วยรอยยิ้มที่ไม่ดี เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอกหลังจากแก้ไขปัญหานี้ไม่อย่างนั้น เขารู้สึกจริง ๆ ว่าเขาเป็นหนี้หยางเฉียนเฉียนมากจนเขาไม่รู้ว่าจะเผชิญมันยังไง ในอนาคต“อะไรนะ ฉันจะมีอารมณ์คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ยังไง” ในเวลานี้ หลินหว่านหรูรู้สึกเหนื่อยมากเมื่อเธอคิดถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น“เกิดอะไรขึ้น เกิดอะไรขึ้น ตระกูลสวี่มาที่นี่หรือเปล่า” เย่เทียนหยู่ถาม ปัจจุบัน ตระกูลหลินควรจะมีเพียงธุรกิจของ หลินจื่อตงเท่านั้น“นั่นไม่เป็นความจริง แต่ตระกูลสวี่และตระกูลซุนตกลงกันว่าพ่อแม่ทั้งสองจะหมั้นกันในวันพรุ่งนี้ เราจะรอจนกว่าจะเลือกวันอันเป็นมงคลอื่นก่อนจึงจะจัดงานแต่งงานอย่างเป็นทางการ”“แล้วจื่อตงก็เริ่มวิตกกังวล พรุ่งนี้เขาต้องไปเยี่ยมตระกูลสวี่เขาบอกว่าแม้ว่าเขาจะตาย เขาก็จะไม่ปล่อยให้สวี่เจียเจียหมั้นหมายกับตระกูลซุนเลย” หลินหว่านหรูกล่าวอย่างช่วยไม่ได้ในความเป็นจริง เขารู้สึกว่าทั้งสองฝ่ายเพิ่งหมั้นกันและ
หลินหว่านหรูขมวดคิ้วทันที มาจนถึงตอนนี้แล้วทำไมแม่เธอยังไม่ได้สติอีก ถ้าแม่เธอยังเป็นอยู่แบบนี้ ต่อให้เย่เทียนหยู่กลับมา จะช้าเร็วก็คงเกิดปัญหาอยู่ดีเมื่อแม่ตระกูลหลินเห็นหน้าตาของลูกสาว เธอก็รำคาญทันที “สายตาอะไรของลูกฮะ หรือแกจะทนดูน้องชายตัวเองตายไปทั้งแบบนี้รึไง”คุณปู่ตระกูลหลินเองก็รีบ “หว่านหรู ไม่ว่ายังไงก็ น้องก็คอยสนับสนุนหลานมาโดยตลอด หลานต้องช่วยเขานะ”“ใช่ หว่านหรู ลูกต้องช่วยจื่อตงนะ” หลินหงรีบพูดเสริมหลินจื่อตงเปิดปาก เขาไม่ต้องการรบกวนพี่สาว เพราะมีหลายเรื่องเกิดขึ้นในช่วงนี้ แถมความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลกับพี่เขยก็จบลงไปแล้วแต่เขาไม่อยากเสียสวี่เจียเจียไปเลยจริง ๆเมื่อมองดูสายตาของคนในตระกูล หลินหว่านหรูรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่งและพูดว่า “คิดว่าหนูจะไม่ช่วยจื่อตงเหรอคะ”คุณปู่ตระกูลหลินดูไม่ค่อยดีนัก แต่หลินจื่อตงก็พูดทันที “พี่ อย่าฟังคุณปู่กับทุกคนเลยครับ ผมเชื่อพี่อยู่แล้ว ถ้าพี่ไม่สะดวกจริง ๆ ผมจะไปเองครับ”“นายก็ยังไม่เชื่อพี่อยู่ดี”หลินหว่านหรูโกรธ เธอหันหลังกลับและเดินกลับห้องด้วยความโมโหคุณปู่ตระกูลหลินและคนอื่นๆ ที่ถูกทิ้งไว้ มองหน้ากันอย่างไม่เช
“แต่เธอจะมาที่นี่เร็วๆ นี้”“โอเค ถ้างั้นผมจะรอ”ตอนนี้ ขอแค่แม่ของเขาสบายดีแล้ว เย่เทียนหยู่ก็รู้สึกโล่งใจมากขึ้น แต่เขากังวลว่าตอนนี้แม่ของเขาเป็นอิสระแล้วจริง ๆ หรือเปล่า“ผมขอยืนยันอีกที พวกคุณไม่ขอให้ผมจดทะเบียนกับหยางเฉียนเฉียนแล้วใช่มั้ย” เย่เทียนหยู่ถามย้ำ“ใช่!”“โอเค ถ้างั้นผมไปละ!”เย่เทียนหยู่จากไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ แม้ว่าผู้หญิงตรงหน้าเขาจะมีเสน่ห์มากและดูเหมือนเธอจะไม่ได้ต่อต้านการการลุกล้ำของเขาเลยด้วยซ้ำจูเก่อหลิวหลีตกอยู่ในอาการมึนงง นี่เขา ออกไปแล้วเหรอตัวเธอมีเสน่ห์ไม่พอเลยหรือไงนี่เป็นครั้งแรกที่เธอสงสัยในความสวยของตัวเอง!เธอรู้สึกมาโดยตลอดว่าถ้าเธอเต็มใจ ก็คงไม่มีใครต้านทานเสน่ห์ของเธอได้ขณะที่เธอกำลังคิดอยู่ โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น ท่านผู้หญิงของเธอโทรมา“ท่านผู้หญิง ฉันขอโทษ ทั้งหมดเป็นความผิดของฉัน” จูเก่อหลิวหลีรับสายและพูดทันที“ไม่เป็นไร!”“ฉันเพิ่งรู้ว่าเทียนหยู่ได้รับพลังลมปราณซวนหมิงของหยางเฉียนเฉียนมาแล้ว เพราะงั้นเขาจะอยู่กับหยางเฉียนเฉียนหรือไม่ก็ไม่สำคัญ”ท่านผู้หญิงตอบ“พลังลมปราณซวนหมิงนั่นคืออะไรคะ” จูเก่อหลิวหลีไม่เคยรู้