เมื่อได้ยินเสียงนั้น หลิวซือซือยืนนิ่งอยู่กับที่ ตัวเธอเองก็ตกใจเล็กน้อยอะไรกัน ฟังดูเหมือนเป็นเสียงของหัวหน้าทีมเย่? หรือเธอเกิดประสาทหลอนเพราะเป็นห่วงเขามากเกินไป?เธออดหันหน้าไปมองทันที เป็นหัวหน้าทีมเย่จริง ๆ ด้วย และทันใดนั้นความสุขก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอหัวหน้าทีมเย่กลับมาเร็วขนาดนี้ ก็หมายความว่าหมดเรื่องแล้วใช่หรือเปล่านะ?เย่เทียนหยู่เดินเข้ามา และมองดูจางเหยียนที่ตกอยู่ในอาการตกใจ แล้วพูดอย่างใจเย็น: “จางเหยียน ผมถามคำถามคุณนะ ทำไมไม่ตอบ?”ใบหน้าของจางเหยียนซีดขาว ในที่สุดเธอก็รู้สึกตัวและรีบตอบทันที: “หัวหน้าทีมเย่ เข้าใจผิดแล้วค่ะ เข้าใจผิดแล้ว ฉันแค่พูดเรื่องไร้สาระไปเรื่อย”เย่เทียนหยู่ยิ้ม ในดวงตาของเขามีแสงเย็นวาบผ่าน และพูดว่า “คุณคิดว่าผมเชื่อเหรอ”“ฉัน……”“ดูสิว่าท่าทางขี้ขลาดของคุณสิ!”เย่เทียนหยู่ส่ายหน้า ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความรังเกียจ เขาหันหลังกลับและเดินจากไป แต่ทิ้งประโยคไว้หนึ่งประโยค“จางเหยียน ผมขอเตือนคุณว่า อย่าทำในสิ่งที่ไม่เหมาะกับตัวเอง ไม่อย่างนั้นวันหนึ่งคุณจะต้องตายอย่างน่าสังเวช”เมื่อมองดูเย่เทียนหยู่จากไป สีหน้าของจางเหยียนน่าเกลี
“แล้วก็ ต่อไปนายต้องตั้งใจทำงานที่บริษัทให้มาก ๆ นะ อย่าให้หลิวสุ่ยทำทุกอย่างแทน ความพยายามของนายในตอนนี้จะมีผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน รอจนมีโอกาสฉันจะเลื่อนขั้นให้นายเอง”หลินหว่านหรูบอกเขาตามตรง และเพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับเย่เทียนหยู่ด้วยแต่เมื่อเย่เทียนหยู่ได้ฟัง เขาก็รีบส่ายหน้าแล้วพูดว่า: “ไม่ต้องลำบากขนาดนั้นหรอกครับ ผมมีแค่นี้ก็พอแล้ว”“พอแล้วอะไรของนาย นายไม่คิดจะก้าวหน้าเลยหรือยังไง?”“มันไม่จำเป็นจริง ๆ ครับ”“ไม่จำเป็น นายคิดว่านายตามเงินคืนมาได้เยอะมากก็เลยเก่งสุดๆ ไปเลยอย่างนั้นเหรอ? นายคิดว่าแค่นี้จะแต่งงานกับใครก็ได้แล้วรึยังไง?”เมื่อเย่เทียนหยู่ได้ฟังแบบนั้น ในที่สุดเขาก็เข้าใจและพูดว่า “คุณหมายถึงว่า ถ้าคุณอยากให้ผมทำงานเลื่อนตำแหน่ง แล้วคุณจะยอมเป็นภรรยาจริง ๆ ของผมแบบนั้นสินะ”“หึ ฉันไม่ได้พูดแบบนั้นนะ”“งั้นก็ลืมไปเถอะ ผมไม่อยากทำงานไร้ประโยชน์”“นาย!”หลินหว่านหรูโกรธมาก แต่เพื่อให้เย่เทียนหยู่ก้าวหน้า เธอเลยจะเป็นต้องเปิดเผยความในใจเล็กน้อย: “นายพูดถูก ถ้านายได้รับตำแหน่งผู้อำนวยการ ฉันจะพิจารณาเป็นภรรยาของนาย”“บอกมาซะก็จบเรื่อง ถ้าอย่างนั้นผมจะพยาย
“เค่อซิน......”หลังจากออกจากบริษัท เย่เทียนหยู่ก็ไปเยี่ยมเฉินเค่อซินแม้ว่าจะไม่ได้เจอกันมาสักพักแล้ว แต่เฉินเค่อซินยังคงสวมกระโปรงยาวเรียบง่ายเป็นนิสัย ซึ่งเผยรูปร่างเพรียวบางของเธอได้เป็นอย่างดีใบหน้าที่ละเอียดอ่อนนั้นสวยงามมากและผิวพรรณของเธอเนียบละเอียดผู้ชายคนไหนได้เห็นก็คงถูกทำเอาหลงหัวปักหัวปำ“พี่เย่ พี่มาแล้ว!”เฉินเค่อซินมีความสุขมากที่ได้พบเย่เทียนหยู่ ความจริงแล้ว หลายครั้งเธออยากจะเป็นคนเข้าหาเขาก่อน แต่เธอกลัวที่จะส่งผลกระทบต่อครอบครัวของพี่เย่“อือ ก็คิดถึงคุณไม่ใช่รึไงเล่า”“ฉันไม่เชื่อพี่หรอกค่ะ” ใบหน้าของเฉินเค่อซินแดงก่ำ แต่ภายในใจเธอมีความสุขมากหลังจากที่ทั้งสองนั่งลง เย่เทียนหยู่ก็ถามสถานการณ์ของเค่อซินในระยะนี้เขารู้มาว่าเฉินเค่อซินลาออกจากที่เดิมแล้วและกำลังมองหางานใหม่ ตอนนี้เธอไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องเงินอีกต่อไป เธอแค่อยากหางานที่เหมาะกับเธอเท่านั้นแถมยังไปสัมภาษณ์ที่หลินซื่อกรุ๊ปด้วย“คุณไปสัมภาษณ์ที่หลินซื่อกรุ๊ปมาเหรอ?”“อือ น่าเสียดายที่ไม่ผ่านค่ะ” เฉินเค่อซินไม่รู้เลยว่าภรรยาของเย่เทียนหยู่เป็นประธานของหลินซื่อกรุ๊ป“ใครเป็นคนสัมภาษณ์?
เฉินเค่อซินไม่อยากพลาดโอกาส หลังจากวางสาย เธอก็ทั้งมีความสุขและวิตกกังวล เธอค้นหาคำถามสัมภาษณ์มากมายในกูเกิลทันทีและท่องคำถามเหล่านี้ไม่หยุดเพื่อจะเตรียมตัวทำผลงานดี ๆ ในวันพรุ่งนี้เช้าวันรุ่งขึ้น เฉินเค่อซินเตรียมตัวอย่างปราณีต ไม่นานเธอก็มาถึงชั้นล่างของบริษัทเทียนมู่กรุ๊ป เธอกังวลมากจนต้องหายใจเข้าลึก ๆ สักสองสามครั้งก่อนจะเข้าไปทันทีที่มาถึงประตู ก็มีคนเดินเข้ามาและพูดด้วยรอยยิ้ม: “สวัสดีค่ะ คุณคือคุณเฉินเค่อซินหรือเปล่าคะ”“ใช่แล้วค่ะ!”“เชิญทางนี้เลยค่ะ ฉันจะพาคุณขึ้นไปเอง”เฉินเค่อซินตกตะลึง บริษัทเทียนมู่กรุ๊ปสุภาพต่อผู้สัมภาษณ์ขนาดนี้เลยเหรอ? แถมพี่สาวคนนี้ก็นิสัยดีมากและยังมารับเธอเป็นพิเศษอีกด้วยเธออดไม่ได้ที่จะถามอย่างสงสัย: “สวัสดีค่ะ บริษัทของคุณสุภาพต่อผู้สัมภาษณ์เกินไปหรือเปล่าคะ?”หญิงสาวอ้ำอึ้งไปชั่วครู่ ดูเหมือนเธอจะไม่รู้ถึงสถานการณ์เลยสินะ แต่ว่าในฐานะเลขาของประธานถาน เธอรู้ดีว่ามีบางอย่างที่เธอไม่สามารถพูด เธอยิ้มและพูดว่า “ยินดีค่ะ เรียกฉันว่าหวงฉินก็ได้นะคะ”แม้เธอจะไม่รู้ว่าเด็กหญิงตัวน้อยคนนี้คือใคร แต่เธอก็ทำให้ประธานถานบอกเธอได้ ว่าเธอต้องดูแลผู
เช้าวันรุ่งขึ้น หลินหว่านหรูมาที่สำนักงานของบริษัทตามปกติและกำลังยุ่งอยู่กับงานในมือ แต่ในไม่ช้าซูถิงก็เดินเข้ามาและพูดอย่างกังวล: “หว่านหรู มีเรื่องใหญ่แล้วล่ะ!”“มีเรื่องอะไรเหรอ?”หลินหว่านหรูสะดุ้งเล็กน้อยหลังจากที่ซูถิงเตือน หลินหว่านหรูก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและค้นหาในที่สุดก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ใบหน้าของเธอมืดมนลงทันทีที่แท้แล้วบนอินเตอร์เน็ตก็กำลังคอมเพลนปัญหาเครื่องสำอางแบรนด์ปัวเรต์ของหลินซื่อกรุ๊ป ว่าหลังจากทาแล้วแทนที่จะทำให้ผิวขาวขึ้นและฟื้นฟูผิวกลับมีจุดด่างดำมากมายปรากฏบนใบหน้าประเด็นคือ พวกเขาตามตัวบริษัทผ่านทางผู้ขาย แต่ทางบริษัทไม่เพียงแต่ปฏิเสธที่จะยอมรับความผิดของตน โดยบอกว่าผลิตภัณฑ์ไม่มีปัญหาอะไร แต่มันเป็นปัญหาที่ผิวของลูกค้าเองพวกเขายังขู่ด้วยว่า ประธานหลินผู้เป็นประธานบริษัทบอกแล้วว่า หากพวกเขาเผยแพร่ข่าวลือและทำลายชื่อเสียงของบริษัท บริษัทจะฟ้องร้องพวกเขาและขอให้พวกเขาจ่ายค่าชดเชยจำนวนมหาศาลนอกจากนี้เขายังกล่าวด้วยว่าเจ้านายของพวกเขา ประธานหลินเป็น CEO สาวสวยที่มีชื่อเสียงในเมืองเทียนไห่ มีคนใหญ่คนโตคอยหนุนหลังมากมาย และมีหลายวิธีที่จะฆ่าพวกเขา ดังนั
แน่นอนว่าเมื่อได้รับรู้สถานการณ์นี้แล้ว เขาก็คงต้องสงสัยเธอก่อนเป็นอันดับแรก“ขออภัยค่ะ ฉันกำลังตรวจสอบว่าตกลงเรื่องราวมันเป็นยังไงกันแน่ ถ้าหากได้คำตอบแล้ว ฉันจะรีบแจ้งประธานซูทันทีค่ะ” หลินหว่านหรูกล่าว“ได้ ผมจะรอรายงานของคุณ ถ้าผมต้องเสียหายมหาศาลเพราะความผิดพลาดร้ายแรงของคุณ ผมจะต้องให้คุณได้ชดใช้แน่” ซูเหวินฮุยวางสายโทรศัพท์ลง ก่อนที่ดวงตาของเขาจะมีแสงเย็นวาบผ่านในตอนแรกเรื่องนี้ได้รับการอนุมัติจากเขา ไม่อย่างนั้น หลี่ว์ซิงเหอเองคงไม่กล้าดำเนินการแน่ ถึงยังไงซะ คนที่จะได้รับผลเสียไม่ใช่แค่ตระกูลหลิน แต่ยังรวมไปถึงตระกูลซูด้วยเพราะตระกูลซูก็ลงทุนไปเช่นกันแต่หลี่ว์ซิงเหอคนนี้ถือว่าใจเด็ดมากพอที่จะทำเช่นนี้ หากไม่ได้รับการจัดการอย่างถูกต้อง มันจะสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อหลินซื่อกรุ๊ปและหลี่ว์ซิงเหอเองก็จะต้องประสบกับความสูญเสียครั้งใหญ่สีหน้าของหลินหว่านหรูย่ำแย่มาก ตอนนี้เธอยังไม่ทราบสาเหตุของเรื่องราวทั้งหมด หลังจากเห็นเฉินเวยมาถึง เธอก็ถามขึ้นด้วยความโมโหทันทีเธอโมโหมากจริง ๆ เมื่อได้อ่านความคิดเห็นบนอินเตอร์เน็ตเมื่อครู่โดยเฉพาะ การตอบกลับที่ดูเถียงไปข้าง ๆ
เมื่อเห็นเย่เทียนหยู่โอบกอดสาวสวย กงซุนจื้อก็พูดอย่างขมขื่น: “ไม่รู้ว่าเย่เทียนหยู่มันดวงดีอะไร ถึงได้รู้จักกับผู้หญิงที่สวยสุด ๆ แบบนี้ แถมยังเหยียบเรือสองแคมเลยด้วย”“ใช่ แต่ว่าภูมิหลังของผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดาเลย”“อ่อ?”“เขาเป็นลูกสาวยอดดวงใจของ หยางต้าฝู ประธานหอการค้าหลงเถิง”“ลูกสาวหยางต้าฝูเหรอ?”“อย่างนั้นเองสินะ ถึงว่าทำไมไม่มีรูปถูกเผยแพร่ออกมาเลยสักรูปเดียว ตำรวจก็ปล่อยเขาเร็วมาก ที่แท้ก็เพราะหยางต้าฝู”“ใช่ครับ เรื่องนี้พิสูจน์ได้ว่ามันไม่ใช่ความสามารถของเขา แต่เพราะเขาโชคดี ถ้าลูกสาวของหยางต้าฝูไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เขาคงไม่ได้ออกมาแน่นอน”“มีโอกาสเป็นอย่างนั้นสูงทีเดียว ถ้าอย่างนั้นเราพักมันไว้ก่อน รอดูว่าเด็กคนนี้ปฏิบัติต่อลูกสาวของหยางต้าฝูยังไงบ้าง หยางต้าฝูก็เป็นคนที่ลงมือได้อย่างโหดเหี้ยมพอตัว คงไม่ปล่อยเขาไปง่าย ๆ แน่”กงซุนจื้อพูดอย่างใจเย็น แต่ว่า ดันกล้ามาแข่งเรื่องผู้หญิงกับเขา ความตายต้องมาถึงไม่ช้าก็เร็วไม่ต้องพูดถึงว่า เขาจะหนีจากเงื้อมมือของหยางต้าฝูได้หรือไม่ แม้ว่าเขาจะหลบหนีไปได้เพราะโชคช่วย เขาก็จะแสดงให้เห็นเองว่า กระต่ายก็คือกระต่าย ไม่มีทางไปถ
“เกิดอะไรขึ้นกับหลินซื่อกรุ๊ป?”“คุณยังไม่รู้เหรอครับ?” ซูเหวินฮวาตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดอย่างเร่งรีบว่า “เครื่องสำอางที่ประธานหลินร่วมมือกับตระกูลซูมีปัญหาใหญ่ ตอนนี้ดังไปทั้งอินเตอร์เน็ตเลยครับ”เย่เทียนหยู่ขมวดคิ้ว เขาไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและค้นหาอย่างรวดเร็ว หลังจากอ่านไปเล็กน้อย ใบหน้าของเขาก็เผยความขุ่นเคืองขึ้นมาทันทีแม้ว่าเครื่องสำอางจะมีปัญหา แต่ก็ไม่น่าจะมีปัญหาใหญ่หลวงขนาดนี้ แถวมยังมีแรงกระเพือมมหาศาล จะต้องมีคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้แน่ในสถานการณ์เช่นนี้ เขาจะไม่โกรธได้ยังไงโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเห็นคำพูดที่เลวร้ายมากมายมุ่งเป้าไปที่หลินหว่านหรู หัวใจของเขาก็ปะทุเจตนาฆ่าอันแรงกล้านี่เป็นครั้งแรกที่เขาโกรธอย่างแท้จริง นับตั้งแต่มาที่เมืองเทียนไห่เห็นทีบางคนคงเบื่อการมีชิวิตอยู่แล้วสินะ“ซูเหวินฮวา ที่คุณโทรหาผม คงไม่ได้จะบอกผมแค่นี้หรอกใช่ไหม?” เย่เทียนหยู่ถามตรงๆ ซูเหวินฮวาตกใจเล็กน้อย เขาสัมผัสได้ถึงแรงสังหารจากน้ำเสียงของเย่เทียนหยู่ผ่านทางโทรศัพท์ และพูดอย่างเร่งรีบ: “ไม่ใช่แค่นั้นหรอกครับ ผมอยากจะบอกว่าคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ค
ในตอนที่เหอฉุนเดินออกมา เดิมทีเธอตั้งใจหยิบตั๋วเพิ่มมาสองสามใบ มีที่นั่งดี ๆ ในแถวแรกแค่หนึ่งที่เท่านั้น ส่วนที่นั่งอื่น ๆ อยู่ถัดลงไปด้านหลังอีกเล็กน้อยเวทีตรงนี้จัดไว้เพื่อที่เวลาทำการแสดง แม้ผู้ชมจะนั่งแถวหน้า ก็ไม่จำเป็นต้องเงยหน้าขึ้นเลยแม้แต่น้อย เป็นตำแหน่งที่สบายมากแต่เพราะสายตาที่ไม่อยู่นิ่งของเย่เทียนหยู่ เธอเลยหยิบตั๋วแบบลวก ๆ ให้เขาไปหนึ่งใบ เดิมทีตามคำขอของเฉินเฟยเฟยนั้น คือต้องการให้เย่เทียนหยู่นั่งอยู่ตรงกลางของแถวแรกอย่างไรก็ตาม ตำแหน่งที่เย่เทียนหยู่ได้รับนั้นก็ถือว่าค่อนข้างดีเช่นกัน อยู่ในแถวที่สาม ซึ่งอาจจะสบายกว่าด้วยซ้ำแต่การโต้ตอบกับดารานักร้องนั้น ก็อาจจะลำบากไปสักหน่อยเย่เทียนหยู่สังเกตเห็นอารมณ์ร้ายของเหอฉุนได้โดยธรรมชาติ ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่เด็ก ๆ แล้ว แถมอารมณ์ร้ายอีกต่างหาก เธอคงเคยถูกผู้ชายรังแกมาสินะในครั้งนี้ เขานั้นทายถูกแล้วจริง ๆแน่นอนว่าเย่เทียนหยู่ก็ไม่คิดที่จะถือสาเรื่องเล็กน้อยพวกนี้อยู่แล้ว เขาเหลือบมองหมายเลขบนตั๋ว และเดินตามฝูงชนเข้าไปด้านในหลังจากผ่านความยากลำบากในการแหวกฝูงชนเข้ามา ในที่สุดเย่เทียนหยู่ก็พบที่นั่งของเขาที่อยู่ตรง
เธอถึงขั้นตั้งใจสืบเรื่องนี้มาโดยเฉพาะ และพบว่าตระกูลหนานกงเป็นถึงหนึ่งในตระกูลอันดับต้น ๆ ของอาณาจักรมังกร พวกเขามีความแข็งแกร่งที่น่าสะพรึงกลัว แทบจะไม่มีใครสามารถเทียบเคียงพวกเขาได้เลยพี่เย่เก่งกาจมากก็จริง หากเป็นแค่ตระกูลทั่วไปในเมืองตะวันออก เธอก็อาจจะลองเสี่ยงดวงดู แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับตระกูลหนานกง ไม่ว่ายังไงก็ไม่มีทางรับมือพวกเขาได้เลย“คุณเย่จะมาเหรอคะ?” จางผิงถามด้วยความประหลาดใจ“อือ ฉันเชิญเขามาชมคอนเสิร์ตของฉันในคืนนี้ และเขาเองก็ตอบตกลงแล้วด้วย” เมื่อพูดถึงเย่เทียนหยู่ ใบหน้าของเฉินเฟยเฟยก็แสดงถึงความปิติขึ้นมา“ได้ค่ะ!”จางผิงพยักหน้า แต่ในใจเธอกลับกำลังคิดอยู่ว่า เธอควรจะใช้วิธีไหนเพื่อทำให้คุณเย่รู้เรื่องที่พี่เฟยเฟยกำลังถูกรังแกโดยเธอไม่จำเป็นต้องเป็นคนพูดดีไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด เธอถึงมักคิดว่าตัวตนของคุณเย่นั้นไม่ธรรมดาบางที เขาอาจจะมีวิธีรับมือจริง ๆ ก็ได้เหอฉุนไม่ได้พูดอะไรอีก เธอเองก็อยากที่จะพบกับบุคคลในตำนานคนนี้เหมือนกัน ดูว่าเขาโดดเด่นอย่างที่ทุกคนพูดกันจริงไหมแน่นอน หากดูจากเหตุการณ์ของปาร์คดาฮยอนก่อนหน้านี้แล้ว คนคนนี้น่าจะพอมีความสามา
เกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว สุดท้ายหลินหว่านหรูก็ตัดสินใจปล่อยให้เป็นเรื่องของเวลา ยังไงอีกไม่นานความจริงก็จะถูกเปิดเผยออกมาแล้วและในเวลาเดียวกันนั้นเอง หญิงสาวทั้งสามคนกำลังนั่งอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่ง ใกล้กับสนามกีฬาคนหนึ่งคือเฉินเฟยเฟย นักร้องชื่อดังจากอาณาจักรมังกร ตอนนี้เฉินเฟยเฟยกำลังโด่งดังมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้ว่าเธอจะต้องแบกรับแรงกดดันที่ค่อนข้างสูง แต่ตอนนี้เธอก็ค่อย ๆ ดีขึ้นมาบ้างแล้วอีกคนคืออดีตผู้ช่วยของเฉินเฟยเฟย ซึ่งปัจจุบันคนที่ทำหน้าที่แทนคือจางผิงคนสุดท้ายเป็นหญิงวัยสามสิบกว่า ๆ ที่มีใบหน้างดงาม หุ่นค่อนข้างสูง ทั้งหน้าอกและบั้นท้ายดูอวบอิ่ม มีเสน่ห์เฉพาะตัวในแบบของผู้หญิงที่อยู่ในวัยผู้ใหญ่และก็เป็นเพราะไม่สามารถทนต่อการคุกคามจากผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเดิมได้ เธอจึงถูกบังคับให้ลาออก นอกจากนี้ก็เป็นเพราะได้รู้จักกับเฉินเฟยเฟย เฉินเฟยเฟยที่เดิมทีไม่ต้องการจะอยู่ภายใต้การควบคุมของบริษัท ดังนั้นสตูดิโอส่วนตัวของเธอเองจึงต้องการผู้จัดการด้วยเช่นกันเหอฉุนจึงเป็นคนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตำแหน่งนี้ เธอเป็นคนที่มีความสามารถ เธอจัดการทุกอย่างได้อย่างเป็นระเบียบแต่เพราะค
หลังจากลังเลอยู่สักพัก เธอก็กดเบอร์โทรหาแม่ตระกูลหลินโดยตรง“ฮัลโหล!”“แม่ หนูเองนะคะ!”“อ๋อ หว่านหรูเองเหรอ” แม่ตระกูลหลินรู้สึกประหม่าในตอนแรก แต่เธอก็สงบสติอารมณ์ลงทันที และถามออกไปว่า “แกเป็นไงบ้าง ช่วงนี้สบายดีไหม”“ก็ดีค่ะ แค่มีเรื่องเกิดขึ้นนิดหน่อย”“แกหมายถึงเรื่องของปาร์คดาฮยอนนั่นน่ะเหรอ ฉันเองก็ติดตามข่าวนี้อยู่เหมือนกัน ปาร์คดาฮยอนนั่นเป็นคนที่ไร้ยางอายมากจริง ๆ นั่นแหละ ชาวเน็ตหน้าโง่พวกนั้นด้วย”“แต่ยังไงฉันก็เชื่อว่าขอแค่มีเทียนหยู่ แกจะต้องไม่เป็นไร เพราะงั้นฉันเลยไม่โทรศัพท์ไปรบกวนแก”แม่ตระกูลหลินอธิบายอย่างรวดเร็วในฐานะแม่ ตอนนั้นเธอไม่แม้แต่จะโทรหาเพื่อถามไถ่เลยด้วยซ้ำ เป็นเรื่องที่รับไม่ได้จริง ๆ“อืม เป็นอย่างที่ว่าแหละค่ะ ครั้งนี้ต้องขอบคุณเทียนหยู่มากจริง ๆ” หลินหว่านหรูลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ยังคงเลือกที่จะถามออกไป “แม่คะ ไม่นานมานี้มีข่าวเชิงลบเกี่ยวกับหนูบนโลกอินเทอร์เน็ต แม่เห็นหรือยังคะ?”“ข่าวอะไรเหรอ แม่ไม่ค่อยเล่นอินเทอร์เน็ตสักเท่าไหร่ แล้วก็ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องอะไรพวกนี้ด้วย เลยไม่รู้เรื่องน่ะ เรื่องของปาร์คดาฮยอนเองก็ฟังจากปากคนอื่
และนี่ก็ทำให้เย่เทียนหยู่รู้สึกโกรธมากจริง ๆตัวเองไม่ได้ไปหาเรื่องเธอ แต่เธอกลับมาทำให้หว่านหรูเดือดร้อน คนแบบนี้สมควรที่จะเป็นแม่คนได้ด้วยงั้นเหรอ แต่ว่าเรื่องนี้ จะบอกให้หว่านหรูรู้ดีไหมนะแต่ก็ไม่รู้ว่าเธอจะเชื่อรึเปล่า เพราะยังไงนั่นก็คือแม่ของเธอแต่จู่ ๆ เย่เทียนหยู่ก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ ผู้รับผิดชอบแพลตฟอร์มได้กล่าวเอาไว้ว่า เรื่องนี้ได้มีคนรีพอร์ตเข้ามาแล้ว ปัจจุบันอาณาจักรมังกรก็กำลังเร่งตรวจสอบข้อมูลในโพสต์ดังกล่าวอย่างละเอียดอยู่เดี๋ยวจะมีการประกาศชื่อผู้เสียหาย และคืนความบริสุทธิ์ให้กับผู้เสียหายอีกด้วยจากนั้นก็จะมีการเชิญตัวผู้ที่ปล่อยข่าวเสียหายมา และมอบคำเตือนที่เข้มงวดให้กับพวกเขา รวมถึงหากว่ามีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น พวกเขาก็อาจมีการได้รับโทษร้ายแรงอีกด้วยตามที่ผู้รับผิดชอบกล่าวมา เรื่องนี้จะถูกรายงานขึ้นไป และด้วยความเข้มงวดในการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ในปัจจุบัน คาดว่าใช้เวลาไม่เกินหนึ่งหรือสองวัน ก็จะสามารถตรวจสอบให้ชัดเจนได้ทั้งหมดผลลัพธ์อย่างน้อยก็อาจจะประกาศออกมาภายในวันมะรืนนี้งั้นก็รออีกสักหน่อย เขาเองก็อยากจะรู้เหมือนกันพอถึงตอนนั้น แม่ตระกูล
“เป็นคำพูดที่เหลวไหลจริงหรือเปล่านั้น ต่อไปเดี๋ยวก็รู้เองค่ะ”จูเก่อหลิวหลีลุกขึ้น แต่ก็ไม่ได้ตรงไปสวมเสื้อผ้าในทันที กลับมายืนอยู่ตรงหน้าเย่เทียนหยู่ พูดพลางส่งรอยยิ้มเย้ายวนให้ “คุณชายคะ คุณคิดว่ารูปร่างของฉันเป็นยังไงบ้าง?”เย่เทียนหยู่ไม่มีคำพูดใด ๆ และรีบหลับตาลงทันทีแต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ทั้งที่เขาหลับตา รูปร่างที่สมบูรณ์นั้นกลับยังคงปรากฏในหัวอยู่ดี สะโพกที่ทั้งโค้งมนและเพรียวบาง ไม่มีไขมันส่วนเกินเลยแม้แต่น้อยความสวยงามของหน้าอกคู่นั้น รูปร่างโค้งมนที่สมบูรณ์แบบ ผิวพรรณนุ่มนวลจนทำให้คนตะลึงราวกับว่ากำลังลืมตามองดูอยู่ยังไงอย่างงั้นจูเก่อหลิวหลีที่เห็นเย่เทียนหยู่หลับตาอยู่ ในใจก็รู้สึกมีความสุขมาก เธอจึงพูดพลางหัวเราะขึ้นว่า “คุณชายคะ เลือดกำเดาคุณไหลแล้วนะคะ!”“ว่าไงนะ?”เย่เทียนหยู่อดไม่ได้ที่จะลืมตาขึ้นมา แต่เขากลับคิดไม่ถึงเลยว่า จูเก่อหลิวหลีจะนั่งคุกเข่าลง และโน้มตัวเข้ามาใกล้ ๆ ซึ่งทำให้เขาเห็นทุกอย่างได้ชัดเจนยิ่งขึ้น“นี่คุณ......”เย่เทียนหยู่รู้สึกพูดไม่ออก หญิงสาวคนนี้ถึงกับกล้าหลอกเขาเสียได้“ฮ่า ๆ......คุณชายนี่น่ารักจังเลยนะคะ!”แต่จูเก่อหลิ
เป็นอยู่อย่านั้น มีจูเก่อหลิวหลีแค่คนเดียวที่พูดอยู่ตลอดเวลา แม้แต่เธอเองก็ยังไม่รู้ตัวว่าพูดอะไรออกไปบ้าง เอาแต่แสดงออกถึงความรู้สึกทุกสิ่งทุกอย่างของตัวเองอย่างไม่หยุดหย่อนเย่เทียนหยู่ไม่ได้พูดอะไร แค่ยืนฟังอยู่ข้าง ๆ ฟังอย่างงงงวยก็เท่านั้นเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่า จูเก่อหลิวหลีจะมีความรู้สึกที่ลึกซึ้งต่อเขามากขนาดนี้ จนทำให้เย่เทียนหยู่ต้องรู้สึกผิด และไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูกหยางเฉียนเฉียนเองก็เป็นแบบนี้ แต่นั่นเขาก็ได้ทำเพื่อหยางเฉียนเฉียนไปไม่น้อย ช่วยเหลือเธอมากมาย จนทำให้ใจของเย่เทียนหยู่รู้สึกดีขึ้นมาบ้างกลับกัน พอเป็นหลิวหลี นอกจากเรื่องที่ช่วยให้เธอทะลวงถึงระดับปรมาจารย์แล้ว เขาก็ไม่ได้ทำอะไรอีกเลย เพื่อที่จะตามหาเขา กลับเป็นเธอที่คอยช่วยเหลือตน ช่วยเหลือแม่ของตนไปไม่น้อยที่สำคัญเลยก็คือ เย่เทียนหยู่ไม่รู้ว่าจะรับมือกับเธออย่างไร หรือจะปลอบใจเธอยังไงได้บ้างแน่นอน หากยอมหลับนอนกับเธอ ทำให้เธอเป็นผู้หญิงของเขา สำหรับเขาแล้วก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร สำหรับผู้ชายคนหนึ่งแล้ว ก็คงเป็นแค่สิ่งที่ปรารถนาไม่รู้จบแต่ว่า ขืนเขาทำแบบนั้น แล้วหว่านหรูจะทำยังไงหากหว่านหรูรู้เรื
“อืม ฉันรู้แล้ว เห็นว่าเธอยังโพสต์เฟสบุ๊กสนับสนุนพวกเราอยู่ด้วยเลยนี่” เย่เทียนหยู่กล่าวด้วยรอยยิ้มคิดไม่ถึงเลยว่าพี่เย่จะรู้เรื่องนี้ด้วย ซึ่งทำให้เฉินเฟยเฟยดีใจเอามาก ๆ ก่อนที่จะรีบพูดขึ้นว่า “ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกค่ะ ช่วยอะไรพี่ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ”“ทำไมจะไม่ช่วยล่ะ ไม่ว่าจะทำอะไรก็มีความหมายทั้งนั้นแหละ แค่เธอมองไม่เห็นก็เท่านั้นเอง”“จริงเหรอคะ ขอบคุณพี่เย่ที่ให้กำลังใจฉันนะคะ อันที่จริง ที่ฉันโทรหาพี่ครั้งนี้ เป็นเพราะฉันเห็นว่าพี่อยู่ที่ตงเฉิง เลยอยากเชิญพี่มาดูคอนเสิร์ตของฉันน่ะค่ะ”“เธอมีคอนเสิร์ตที่ตงเฉิงงั้นเหรอ เมื่อไหร่?” เย่เทียนหยู่ถาม เขาอาจจะต้องดูเวลาก่อน หากว่าตรงกับการประชุมศักดิ์สิทธิ์ ก็อาจจะไม่ว่างไป“คืนนี้ตอนทุ่มครึ่งค่ะ ที่สนามกีฬา พี่พอจะว่างไหม?” เฉินเฟยเฟยถามด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวัง เธออยากให้เย่เทียนหยู่ไปงานคอนเสิร์ตของเธอมากจริง ๆ เพื่อให้เขาได้ฟังเพลงที่เธอร้องหากไม่ใช่เพราะเรื่องของปาร์คดาฮยอน เธอก็คงส่งคำเชิญให้เขาไปนานแล้ว พอตอนนี้เห็นว่าไม่มีเรื่องวุ่นวายอะไรแล้ว จึงคิดว่าพี่เย่อาจจะว่างก็ได้ ถึงได้เชิญไป“ว่างสิ!”เย่เทียนห
เย่เทียนหยู่ตกใจเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเขาไม่คิดว่าเธอจะเข้ามาใกล้ขนาดนี้ แถมยังโอบกอดเขาแน่น พร้อมกับเปิดปากพุ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่งแบบนี้แม้จะดูเก้งก้างไปบ้าง แต่เขากลับรู้สึกมีอารมร์ร่วมในความเป็นจริงแล้ว ด้วยพลังอันแข็งแกร่งของเย่เทียนหยู่ เขานั้นไม่ได้ถูกควบคุมแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ส่วนใหญ่เป็นเพราะเสน่ห์อันเย้ายวนและความงดงามของจูเก่อหลิวหลีทั้งนั้นความรู้สึกต่อจูเก่อหลิวหลีตอนนี้เหมือนกันกับตอนหยางเฉียนเฉียน คือชมชอบ รู้สึกดี และถึงขั้นชอบเสียด้วยซ้ำแต่เนื่องจากความรับผิดชอบที่มีในใจ และความจริงที่ว่าหลินหว่านหรูคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าที่จะก้าวข้ามไปแม้แต่ก้าวเดียวแต่ท่าทีของจูเก่อหลิวหลีในตอนนี้ เสน่ห์ของจูเก่อหลิวหลี บวกกับฤทธิ์ยา ไม่นานมันก็ได้กระตุ้นความตื่นตัวของเย่เทียนหยู่ขึ้นมาเขาถึงกับไม่สามารถควบคุมตัวเองเอาไว้ได้ และเปิดปากออกโดยไม่รู้ตัว มือก็เริ่มเคลื่อนไหวไปบนร่างของจูเก่อหลิวหลี ความรู้สึกนั้น มันทำให้ตื่นเต้นจนแทบทนไม่ไหวสมบูรณ์แบบมาก!ต้องบอกเลยว่า หากพูดถึงแรงดึงดูดต่อผู้ชาย จูเก่อหลิวหลีนั้นไม่แพ้หลินหว่านหรูเลยแม้แต่น้อย เป็นคว