“หลิวอวิ๋นซิ่ว เธออย่ามาพูดจาไร้สาระพรรคนี้ บอกว่าเงินพวกนี้จะชดใช้วันนี้ไหม?” หลินเหว่ยผู้เป็นปู่รองไม่ยอมอ่อนข้อให้เธอและถามย้ำตอนนี้พี่ใหญ่ของเขาไม่อยู่ที่นี่ ไม่ว่าวันนี้จะเป็นเช่นไร เขาก็ต้องพยายามเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ ไม่อย่างนั้น หากพี่ชายคนโตกลับมาและอยากจะขับไล่พวกเขาออกไปจริงๆ พวกเขาเองก็คงไม่มีทางเลือกส่วนเรื่องโทรศัพท์ตอนนี้พวกเขาก็เลิกสนใจกันแล้วจริง ๆ แล้วปู่ของหลินหว่านหรูโทรมาเมื่อครู่นี้ แต่พวกเขาไม่ฟังเลยหลิวอวิ๋นซิ่วตกใจกลัวท่าทางก้าวร้าวของปู่รองที่ และอดไม่ได้ที่จะถอยกลับไปสองสามก้าวหลินหว่านหรูรีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อหยุดเขาและกล่าวว่า: “ปู่รองคะ จะทำอะไรก็ต้องมีหลักมีเกณฑ์กันบ้างนะคะ เราอาจมีความรับผิดชอบในเรื่องนี้อยู่บ้างก็จริง แต่จะโทษทุกอย่างใส่เราไม่ได้นะคะ”“หว่านหรู หลานควรเข้าใจนะว่า พวกเราเก็บออมเงินพวกนี้มายากลำบาก ตอนนี้เราทุกคนถูกหลอก แล้วเราจะทนได้ยังไง?”“พวกเราไม่เหมือนพวกหลานนะ ที่ดูแลหุ้นส่วนใหญ่ของบริษัทและมีเงินมากมาย”ท่านปู่รองสุภาพกับหลินหว่านหรูมาก“ฉันเข้าใจนะคะ แต่ตอนนี้บริษัทมีปัญหามากมาย เอาแบบนี้ได้ไหมคะทุกคนกลับไปก่อน พอเสถาน
เรื่องพวกนี้จะแก้ไขได้ง่ายขึ้นเย่เทียนหยู่ขมวดคิ้ว จะให้เขาบอกว่าเขาให้ถานล่างไปซื้อฉีเฟยกรุ๊ปคงไม่ได้ ถ้าเป็นแบบนั้นคนพวกนี้คงยิ่งไม่เชื่อไปกันใหญ่“ทำไม ไม่มีอะไรจะพูดแล้วเหรอ?”“เรื่องโกหกถูกเปิดเผยแล้ว แกคงพูดไม่ออกเลยสิท่า”“หลิวอวิ๋นซิ่วฉันขอบอกเลยนะ ถ้าวันนี้ฉันไม่ได้เงินฉันจะสู้กับเธอให้ตายไปข้าง” บางคนถึงกับเรียกชื่อกับตั้งใจจะสู้กันเลยทีเดียว ดูท่าจะร้อนใจกันมากจริง ๆหลิวอวิ๋นซิ่วโกรธมาก เธอก็เสียหายไปมากเหมือนกัน เงินเก็บของเธอเองก็ถึงกับหมดเกลี้ยงขณะที่กำลังจะเถียง เธอก็ต้องตกใจเมื่อเห็นฝูงชนกำลังจะพุ่งเข้ามาหาเธอด้วยท่าทางเดือดดาลก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะยังไงลูกสาวของเธอก็เป็นประธานบริษัท คนอื่น ๆ ต่างก็ทั้งเคารพและทำท่าประจบประแจง แต่มาวันนี้พวกเขาทุกคนราวกับเป็นบ้าไปแล้วท่านปู่รองโบกมืออีกครั้ง ส่งสัญญาณให้ทุกคนเงียบ และพูดกับหลินหว่านหรูว่า “หว่านหรู หลานพูดเถอะ ให้คำอธิบายกับปู่รองคนนี้หน่อย”หลินหว่านหรูลังเลและกำลังจะพูดเย่เทียนหยู่พูดก่อนว่า “หว่านหรู ถ้าพวกเขาอยากจะคืนเงินจริง ๆ คุณคืนเป็นขั้นต่ำให้พวกเขาดีไหมครับ”“เย่เทียนหยู่ แกกำลังพูดเรื่องไร้สาระอ
เย่เทียนหยู่เข้าใจความโกรธของหลินหว่านหรูดี จากนั้นเขาก็ยิ้มพร้อมพูดว่า “ไม่ต้องกังวล ผมจะไม่ทำให้คุณลำบากใจแน่นอนรับ”“อันที่จริง เรื่องการซื้อกิจการที่ผมเพิ่งพูดไปเป็นเรื่องจริง!”“ข่าวนี้รัฐมนตรีไช่เปืดเผยให้ผมฟังเองครับ ถ้สคุณไม่เชื่อผม คุณก็ควรเชื่อรัฐมนตรีไช่นะ” เขาซ่อนมันไว้ไม่ให้ผู้อื่นรู้ แต่กับหลินหว่านหรู เย่เทียนหยู่ไม่มีเจตนาที่จะปิดบังมันแต่ตัวเขาเองไม่มีความน่าเชื่อถือมากพอ ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากอ้างถึงรัฐมนตรีไช่“รัฐมนตรีไช่พูด เขาพูดแบบนั้นเมื่อไรกัน?”หลินหว่านหรูตกใจ ถ้าหากว่ารัฐมนตรีไช่พูดจริง ๆ มันอาจเป็นเรื่องจริงก็ได้ แต่ทำไมถึงเป็นแบบนั้นล่ะ“วันนี้ฉันไปตรวจหลานชายของเขา เขาก็เลยบอกกับผมน่ะ เหตุผลมันก็ง่ายมากเพราะฉีเฟยกรุ๊ปไม่เพียงแต่จะไม่ล้มละลายเท่านั้น แต่ยังจะได้เริ่มต้นใหม่ด้วยครับ”“อะไรนะ จะเป็นไปได้ยังไง!”เมื่อเทียบกับข่าวก่อนหน้านี้ เรื่องนี้ทำให้ใจของเธอตกใจยิ่งกว่าเดิม“ผมก็แปลกใจเหมือนกันครับ แต่รัฐมนตรีไช่พูดอย่างนั้นเอง ส่วนเหตุผลที่แน่ชัดผมเองก็ไม่แน่ใจ” เดิมทีเย่เทียนหยู่อยากจะบอก หลินหว่านหรูเกี่ยวกับการวางผังเมืองใหม่
แต่เรื่องทั้งหมดนี่ต้องโทษไอ้เย่เทียนหยู่สารเลวนั่น เพราะเขาหลอกเอาเงินของตระกูลเขาไปอีกครั้ง“ท่านปู่รอง ในที่นี้ปู่เป็นผู้ตัดสินใจได้ใช่ไหมคะ?” หลินหว่านหรูถาม“แน่นอน แน่นอน!”ทุกคนพยักหน้าสนับสนุนเช่นกัน“ดีค่ะ ฉันจะพูดอีกครั้ง หากวันนี้ปู่โอนการลงทุนของคุณมาให้ฉัน หากพรุ่งนี้เกินฉันได้เงินคืนมามากกว่านี้ อย่ามาหาฉันอีก”“แบบนี้คงไม่ติดปัญหาใช่ไหมคะ?”“ไม่มีปัญหา ไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน”“บอกแล้วไงว่าไม่มีปัญหา!” “ฉันแค่อยากจะยืนยันอีกครั้งและจัดการเรื่องสัญญาในคืนนี้ ในวันพรุ่งนี้ตอนเที่ยงพวกคุณคนไหนที่มีสัญญาก็ให้มาทำสัญญาและลงนามในการโอน”หลินหว่านหรูกล่าว“พรุ่งนี้เที่ยง ทำไมไม่ใช่วันนี้ล่ะ?” ท่านปู่รองถามทันที“ตอนนี้ดึกเกินไปแล้วนะคะ มีตั้งหลายพิธีการที่ทำไม่ได้แล้วนะคะ” หลินหว่านหรูกล่าว“แล้วทำไมถึงเป็นพรุ่งนี้ตอนเที่ยงล่ะ? พวกเธออยากจะเลื่อนเวลาออกไปรอให้ท่านปู่กลับมาใช่ไหม?” มีคนถามอย่างสงสัยหลินหว่านหรูขมวดคิ้วและพูดว่า “ปู่รองคะ คุณลุง คุณป้าและญาติ ๆ ทุกคน พวกคุณทุกคนก็รู้ว่าหนูเป็นยังไงนี่คะ ในเมื่อหนูพูดไปแล้ว หนูก็จะทำแน่นอนค่ะ”“ถ้าแม้แต่คำพูดของหนูก็
ทันทีที่ความพูดนี้ดังออกมา หลินหว่านหรูก็ได้แต่นิ่งตะลึงเย่เทียนหยู่ก็ตกตะลึงเล็กน้อยเช่นกัน และมุมมองของเขาก็ถึงกับแตกกระเจิงไม่เพียงแต่หลิวอวิ๋นซิ่วที่คิดว่าไม่เป็นไร แต่หลินหงก็พูดว่า “ใช่ พ่อกับแม่เก็บเงินพวกนี้มาก็ไม่ง่ายนะ จู่ ๆ มาหมดไปแบบนี้ หว่านหรู ลูกก็คืนให้พ่อกับแม่ด้วยเลยแล้วกันนะ”“ถูกต้อง ขนาดคนนอกยังชดเชย ลูกจะปฏิบัติต่อพ่อแม่ไม่ดีก็ไม่ได้ใช่ไหมล่ะ” หลิวอวิ๋นซิ่วกล่าวต่อหลินหว่านหรูพูดไม่ออกกับพ่อแม่ของเธอและอธิบายว่า: “จริงๆ แล้ว เหตุผลที่ฉันยินดีจะชดเชยให้พวกเขาก็เพราะว่าฉีเฟยกรุ๊ป จะซื้อกิจการจริง ๆ ค่ะ”“ซื้อกิจการเหรอ?” “หว่านหรู ลูกเชื่อเรื่องไร้สาระที่เย่เทียนหยู่พูดจริง ๆ เหรอ?”หลิวอวิ๋นซิ่วจ้องไปที่เย่เทียนหยู่ในขณะที่เธอพูด รู้อยู่แล้วเชียวว่าเป็นไอ้สารเลวนนี่เป็นคนทำ“แม่คะ!”“ไม่ว่าแม่จะเชื่อหรือไม่ก็ตาม เรื่องที่หนูพูดนั้นเป็นความจริง ดังนั้น แม่ไม่ต้องขอให้หนูชดใช้หรอกค่ะ ในอีกไม่กี่วัน แม่ก็จะได้รับเงินคืนทั้งหมดแน่นอน” หลินว่านหยูกล่าวอย่างช่วยไม่ได้“แต่แม่รอไม่ไหว”หลิวอวิ๋นซิ่วกล่าวว่า: “ลูกทำไมไม่คืนเงินให้เราล่ะ ยังไงซะมันก็ใช้เงินของ
หลินหว่านหรูยิ้มแห้ง พวกเขาไม่เคยยอมรับตัวเธอเลยตลอดช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะการปฏิวัติต่าง ๆ ของเธอหลังจากที่เธอได้รับตำแหน่ง ซึ่งไปขัดขวางการแอบรับญาติเข้าทำงาน แล้วจะยอมตกลงกับเธอเรื่องนี้ได้ยังไงหลังจากที่ท่านปู่ดุหลินหว่านหรูเสร็จเขาก็โทรศัพท์ไปหาทีละคนเพื่อสืบสานเรื่องราว และเพื่อยืนยันว่าถ้าหากการลงทุนนี้เกิดขาดทุน จะสร้างความเสียหายให้ตระกูลหลินมากแค่ไหนท่านปู่เป็นคนพูดเอง รวมกับว่าเขายอมชดใช้ค่าเสียหาย ทุกคนก็มั่นใจและไม่มีความเห็นอะไรอีกในเทื่อทุกอย่างเรียบร้อย หลินหว่านหรูก็เดินออกมาแล้วเริ่มขึ้นตอนการซื้อในเวลา ท่านปู่กำชับอีกครั้งว่าการซื้อหุ้นของทุกคนในบริษัทกลับมาเป็นการใช้งานของบริษัท อีกทั้งหลินหว่านหรูก็แบกรับความเสี่ยงมหาศาลไว้ทันทีที่สำเร็จธุรกิรรม หุ้นทั้งหมดนี่ถือว่าไม่เกี่ยวกับพวกเขาอีก และจะงอแงใครไหนก็ไร้ประโยชน์ทุกคนบอกว่าพวกเขาไม่ได้คัดค้านและรู้สึกตื่นเต้นมากสิ่งที่ทำให้พวกเขาตื่นเต้นมากยิ่งขึ้นคือหลังจากลงนามในพิธีการ พวกเขาได้รับเงินเร็วมากท้ายที่สุด ทุกคนก็จากไปพรอ้มรอยยิ้มบนใบหน้า กับคำยกย่องหลินหว่านหรูซ้ำแล้วซ้ำเล่าในใจ และอีกนัยหนึ่งพวกเข
“เรื่องนั้นจะเป็นไปได้ยังไงกันครับ?” หวงหงเจี้ยนดูแลเรื่องเศรษฐกิจของเมืองเทียนไห่และเก็เข้าใจเรื่องฉีเฟยกรุ๊ปดี แต่เขาคิดไม่ออกเลยจริง ๆ ว่าบริษัทที่โหลยโท่ยอย่างฉีเฟยกรุ๊ปจะฟื้นคืนกลับมาได้ยังไงกัน“เป็นไปได้ครับ”เย่เทียนหยู่พูดก่อนจะตอบกลับว่า “นายกเทศมนตรีหวง คุณยังจำได้ไหมว่าสองปีก่อน พวกคุณส่งแผนพัฒนาเมืองใหม่มาแผนหนึ่ง”หวงหงเจี้ยนตกตะลึงไปชั่วครู่ เรื่องนั้นเขาเข้าร่วมด้วย แต่อตนนั้นเขาไม่ได้อยู่ในตำแหน่งนี้ จากนั้นเขาก็พยักหน้าตอบ “แน่นอนครับ แต่แผนการนั้นมันใหญ่มาก ต้องการเงินสนับสนุนอย่างมหาศาล มันเลยไม่ผ่านการอนุมัติ”“แต่ถึงจะไม่ผ่านอนุมัติ แต่ก็ได้รับผลประโยชน์มาไม่น้อย เพราะถนนคมนาคมรอบด้านมีการพัฒนาไปมาก พอให้จะรองรับไปอีกสิบปีได้เลยครับ”“แพทย์เซียนเย่ คุณพูดเรื่องนี้กับผมทำไมเหรอครับ?”“ถ้าผมบอกว่า แผนการนี้ของคุณผ่านการอนุมัติแล้ว และอีกไม่กี่วันจะส่งข่าวมาถึงในเมืองล่ะ” เย่เทียนหยู่ยิ้มเล็กน้อย“อะไรนะครับ!”“เป็นไปไม่ได้!”หวงหงเจี้ยนส่ายหน้าแล้วพูดว่า: “หากการลงคะแนนเสียงผ่านจริงๆ เราจะต้องได้รับข่าวอย่างแน่นอน”หลังจากการลงคะแนน ตามปกติแล้วผู้นำหลายคนต
“งั้นก็ถูกแล้ว ดูท่าที่รัฐมนตรีไช่พูดไว้จะไม่ผิดนะครับ”“อือ ยอดไปเลยค่ะ!”“เย่เทียนหยู่ ขอบคุณนะ!”ดวงตาของหลินหว่านหรูแสดงถึงความตื่นเต้น แม้ว่าสถานการณ์นี้จะยังไม่มีรายละเอียดอะไรออกมาเลย แต่บริษัทสองแห่ง แห่งหนึ่งคือ ผู้ซื้อ และอีกบริษัทหนึ่งเป็นผู้ถูกซื้อกิจการ ร่วมกันจัดงานแถลงข่าว ซึ่งเป็นเรื่องเดียวกับที่เย่เทียนหยู่กล่าวไว้ทุกประการโดยพื้นฐานนี่ก็ถือว่าเป็นการยืนยันแน่ชัดแล้ว และขั้นตอนต่อไปคือรอเวลาบ่ายสองครึ่ง“ความพยายามครั้งนี้สำเร็จแล้วสินะ เราจะต้องไปขอบคุณรัฐมนตรีไช่สักหน่อยแล้ว โดยเฉพาะนาย ถ้าไม่ใช่เพราะรัฐมนตรีไช่ ทั้งเมืองเทียนไห่คงไร้ที่ให้นายยืนไปแล้ว”หลินหว่านหรูกล่าว“คุณควรจะขอบคุณ” เย่เทียนหยู่เห็นด้วย“ถ้าอย่างนั้นคราวหน้าเราไปด้วยกันนะคะ”“ได้ครับ!”เพราะหลินว่านหรูบอกเขา ทำให้ตัวท่านปู่เองก็รับรู้ข่าวสารอย่างรวดเร็ว และเขาก็แอบโล่งใจคู่สามีภรรยาหลิวอวิ๋นซิ่วตกตะลึง พวกเขาไม่อยากจะเชื่อเลย เป็นไปไม่ได้ หรือว่าเขาจะซื้อคืนหุ้นของตัวเองจริง ๆ หรือต่อให้ซื้อคืนก็คงไม่ได้สนใจเงินส่วนที่ถูกฉ้อโกงไปของพวกเขาหรอกการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ถือเป็นเรื่อง
ในใจโจวฉิงรู้สึกสั่นสะท้านอย่างบอกไม่ถูก ตั้งแต่ต้นจนจบหม่าต้านก็เผยความรู้สึกหวาดกลัวออกมาไม่หยุด นั่นจึงทำให้เธอรู้สึกตกใจไปชั่วขณะการแสดงออกของหม่าต้านหลังจากนั้น ราวกับคนใกล้ตายที่กำลังร้องขอชีวิตไม่หยุดไม่มีผิด ซึ่งมันก็แสดงให้เห็นถึงความกลัวของเขาที่มีต่อคุณเย่ได้เป็นอย่างดีคนคนหนึ่ง เหตุใดถึงทำให้คนอีกคนกลัวได้มากขนาดนี้ แต่นั่นก็ทำให้เธอได้เห็นถึงสถานะและจุดยืนของเขาได้อย่างชัดเจนหลังจากที่โจวฉิงได้สติ ในใจก็กลับรู้สึกเหมือนมีม้ากำลังวิ่งพล่านไปทั่ว ทำให้เธอรู้สึกสั่นสะเทือนอย่างมากในเวลานี้ เธอก็นึกถึงสิ่งที่เย่เทียนหยู่พูดก่อนหน้านั้นขึ้นมาได้ แต่ตอนนั้นเธอก็กลับไม่เชื่อเลยด้วยซ้ำว่าเขาจะสามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยการกดโทรออกเพียงครั้งเดียวเท่าที่เห็นแทบไม่จำเป็นต้องโทรเลยด้วยซ้ำ อารมณ์เหมือนแค่เขาไอออกมาก็สามารถทำให้หม่าต้านวิ่งมาคุกเข่าเพื่อร้องขอชีวิตได้เลยอย่าว่าแต่เธอเลย ขนาดหลินหว่านหรูเองก็ชะงักไปด้วยเช่นกัน แม้เธอจะรู้ดีว่าเย่เทียนหยู่เก่งกาจมาก แต่ก็คิดไม่ถึงเลยว่าเย่เทียนหยู่จะเก่งกาจได้มากถึงเพียงนี้ต้องเข้าใจก่อนว่า โจวฉินเองก็เพิ่งจะพูดไป ว่าตระกูลไป๋เป
“ช่างเถอะ เห็นแก่หน้าหว่านหรู ผมเองก็ไม่อยากจะเถียงกับคุณแล้วเหมือนกัน”เย่เทียนหยู่ส่ายหัวเบา ๆ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา และกำลังจะกดโทรออกแต่ในขณะเดียวกันนั้นเอง เสียงโทรศัพท์ของโจวฉิงก็ดังขึ้น เธอก้มลงมองครู่หนึ่ง ก่อนที่สีหน้าเปลี่ยนไปทันที ก่อนจะรีบพูดออกไปว่า “มะ หม่าต้านโทรมาค่ะ”“โอ้ พอดีเลย จะได้ประหยัดค่าโทรศัพท์ด้วย!”เย่เทียนหยู่พูดด้วยท่าทีเรียบเฉย“......”โจวฉิงจึงรีบกดรับสายอย่างช่วยไม่ได้ และเพื่อให้เย่เทียนหยู่ได้ยินเนื้อหาบทสนทนา เธอจึงกดเปิดลำโพงทันทีที่รับสาย พร้อมกับพูดด้วยความสุภาพออกไปว่า “ค่ะ ประธานหม่า!”แต่หม่าต้านกลับไม่สุภาพเลยแม้แต่น้อย เขาส่งเสียงฮึดฮัดออกมา พร้อมกับพูดขึ้นว่า “ประธานโจว คุณพิจารณาข้อเสนอที่เรามอบให้ไปถึงไหนแล้ว?”โจวฉิงเหลือบมองไปยังเย่เทียนหยู่ ก่อนจะพูดอย่างช่วยไม่ได้ออกไปว่า “ประธานหม่าคะ ข้อเรียกร้องของคุณค่อนข้างที่จะเข้มงวดเกินไป พวกเราไม่สามารถยอมรับได้จริง ๆ ค่ะ”“งั้นเหรอ หมายความว่าพวกคุณไม่ยินยอมสินะ?” หม่าต้านโกรธจัดโจวฉิงหันไปมองเย่เทียนหยู่อีกครั้ง เมื่อเห็นว่าเขาไม่พูดอะไร ในใจก็ยิ่งรู้สึกไม่มั่นใจขึ้นมา แต่ก็ย
เมื่อเห็นว่าโจวฉิงเหมือนจะไม่ค่อยเชื่อในสิ่งที่เย่เทียนหยู่พูดสักเท่าไหร่ หลินหว่านหรูเองก็รู้สึกอารมณ์ไม่ดีอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยออกมาว่า “โจวฉิง แค่เงินไม่กี่หมื่นล้าน สำหรับเทียนหยู่แล้ว มันแทบไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลยด้วยซ้ำ!”“เอ่อ......”โจวฉิงรู้สึกสับสนเล็กน้อย ที่เธอพูดออกมาว่าหลายหมื่นล้านนั้น เดิมทีก็เป็นคำพูดที่เกินจริงอยู่แล้ว แน่นอน เกี่ยวกับการสร้างโรงงาน รวมถึงการซื้ออุปกรณ์ต่าง ๆ เงินที่ต้องเตรียมเอาไว้ให้กับค่าใช้จ่ายจำนวนหมื่นล้านมันจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากเมื่อหลินหว่านหรูเห็นว่าโจวฉิงยังไม่ค่อยเชื่อ เธอจึงหยิบโทรศัพท์ออกมา ก่อนจะเปิดข้อความให้ดู พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบออกไปว่า “ไม่งั้น คุณก็ลองดูสิ่งนี้ก่อนสิ”โจวฉิงอึ้งไปชั่วขณะ เธอพยายามลองมองอย่างละเอียด ก่อนที่ต่อมาสีหน้าจะเต็มไปด้วยความรู้สึกตกใจ และถามออกไปด้วยความรู้สึกไม่อยากจะเชื่อขึ้นว่า “ห้าแสนล้านเหรอคะ?” ตั้งแต่เกิดมาเธอยังไม่เคยเห็นจำนวนเงินมหาศาลจนน่าตกใจมากขนาดนี้มาก่อน“นี่ เขาเป็นคนให้คุณเหรอคะ?”“จะว่าอย่างนั้นก็ได้ค่ะ พอเขาเห็นว่าฉันอยากจะลงทุนกับอุตสาหกรร
โจวฉิงรู้สึกสับสนนิดหน่อย ทำไมจู่ ๆ ถึงได้มาพูดเรื่องการร่วมมือได้ หรือว่าอีกฝ่ายจะสามารถแก้ปัญหาได้จริง ๆ เพียงแต่รอดูว่าตนจะสามารถให้ผลประโยชน์อะไรได้บ้างก็เท่านั้นใช่ จะต้องเป็นเช่นนั้นแน่นอน!เธอจึงรีบพูดออกไปว่า “คุณเย่คะ แล้วคุณคิดว่าเราควรจะร่วมมือกันในรูปแบบไหนถึงจะดีคะ?”“ผมว่าคุณเป็นคนเสนอจะดีกว่านะครับ” เย่เทียนหยู่พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบโจวฉิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อนึกถึงขีดจำกัดที่พ่อเธอมี เธอจึงพูดออกไปว่า “หากเป็นไปได้ พวกเราก็หวังว่าจะได้รับเงินลงทุนประมาณสองพันห้าร้อยล้านค่ะ จากนั้นหุ้นให้พวกคุณถือหุ้นหกสิบเปอร์เซ็นต์ แต่ว่า การบริหารและการดำเนินงานต่าง ๆ ให้อยู่ในความรับผิดชอบของพวกเราค่ะ”ในสถานการณ์ที่ค่อนข้างพิเศษเช่นนี้ อันที่จริงเธอเองก็ไม่กล้าที่จะหวังอะไรมากเหมือนกัน“สองพันห้าร้อนล้านมันน้อยเกินไป ทำให้น้ำกระเซ็นยังไม่ได้เลยด้วยซ้ำ!”“งั้นเอาอย่างนี้นะ พวกเราจะมอบเงินลงทุนให้คุณหนึ่งหมื่นล้าน แลกกับหุ้นแปดสิบเปอร์เซ็นต์! และต้องให้หลินหว่านหรูเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องการบริหารด้วย คุณคิดว่าแบบนี้เป็นไงบ้าง?”หนึ่งหมื่นล้านงั้นเหรอ?โจวฉิงรู้สึกตกใจ นี
โจวฉิงรู้สึกสับสนเล็กน้อย นี่หลินหว่านหรูกำลังจะไปถามใครกันอย่างไรก็ตาม เธอเองก็ไม่ได้ถามอะไรมากนัก ทำได้เพียงรีบเดินตามไปเท่านั้น แม้เรื่องนี้จะเร่งด่วนมากก็ตาม แถมอีกฝ่ายยังกำหนดเวลาให้ถึงแค่ภายในวันนี้อีกต่างหาก ตำแหน่งที่เย่เทียนหยู่ทานข้าวก็อยู่ห่างจากที่นี่ไม่ไกลมากนัก ใช้เวลาเดินเพียงสามนาทีเท่านั้น ไม่นานทั้งสองก็เดินมาถึงด้านหน้าของห้องอาหารสุดหรูกันแล้วเห็นได้ชัดว่าราคาจะต้องแพงหูฉีกแน่นอน คนธรรมดาไม่มีทางมาทานข้าวในที่แบบนี้ได้ บรรยากาศด้านในเองก็ดีมากเช่นกัน ทั้งสะอาดเรียบร้อยทั้งสะดวกสบายตามห้องอาหารส่วนตัวที่เย่เทียนหยู่บอกเอาไว้ หลินหว่านหรูจึงได้เดินเข้าไปในทันทีโจวฉิงเองก็เดินตามหลังไปติด ๆ ทันทีที่เดินเข้าไป เธอก็เห็นชายหนุ่มอายุราว ๆ ยี่สิบกว่า ๆ คนหนึ่งนั่งอยู่ด้านในรูปลักษณ์ของเขานั้น ทั้งหล่อและมีเสน่ห์อย่างมาก รูปร่างเองก็ได้มาตรฐาน แค่มองแวบแรก ก็รู้ได้เลยว่าเขาจะต้องเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าสาว ๆ อย่างแน่นอนเขาคือใครกัน อย่าบอกนะว่าเขาคือแฟนของหลินหว่านหรู หลินหว่านหรูช่างตาดีเสียจริง แต่ก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะมีความสามารถมากแค่ไหน คงไม่ได้เป็นแค่ผู้ชาย
และการที่มู่หรงอินทำดีกับตนแบบนี้ ก็เห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะเทียนหยู่ รักรังนกก็ต้องรักตัวนกด้วยเมื่อย้อนกลับมาดูตัวเอง ทำไมตนถึงไม่มีแม่แบบนี้บ้างกันนะพูดถึงความแตกต่าง ความแตกต่างระหว่างเธอกับเทียนหยู่ในตอนนี้มันก็คือความรู้สึกแตกต่างที่แม่ของเธอเคยมองเธอกับเย่เทียนหยู่มาก่อน แต่คุณป้ากลับไม่เคยดูถูกตัวเธอเลยสักครั้ง กระทั่งอาจจะดูแลเอาใจใส่เธอมากกว่าเสียด้วยซ้ำเมื่อนึกถึงแม่ของตัวเอง ไม่รู้เลยว่าช่วงนี้เธอจะเป็นยังไงบ้าง อย่างจะโทรหาอยู่ลายครั้ง แต่สุดท้ายก็ยังคงอดทนเอาไว้และต่อให้เธอจะไม่โทร แม่ของเธอก็ไม่คิดจะโทรหาเธออยู่ดีช่างเถอะ ทำไมจะต้องคิดมากขนาดนั้นด้วย อย่างน้อยก็ยังมีเทียนหยู่ที่ดีกับเธอ เมื่อนึกถึงเย่เทียนหยู่ ริมฝีปากหลินหว่านหรูก็อดไม่ได้ที่จะเผยรอยยิ้มออกมาเมื่อเวลาล่วงเลยจนมาถึงเที่ยงวัน หลินหว่านหรูก็ได้รับสายของเย่เทียนหยู่ ไม่นานเธอก็รีบลงจากตึกเพื่อออกไปข้างนอกทันทีที่เธอเพิ่งจะเดินออกมา เธอก็เห็นโจวฉิงที่ดำลังเดินอย่างเร่งรีบอยู่ด้านนอกเข้าในทันทีโจวชิงสวมใส่ชุดเดรส ร่างกายของเธอเพรียวบาง ขาเรียวยาว แต่สีหน้าของเธอกลับดูอ่อนเพลียอย่างเห็นได้ชัด ใ
หลังจากที่คำนั้นถูกพูดออกมา ทุกคนต่างก็รู้สึกตื่นตัวขึ้นมาทันที หนึ่งในพนักงานถึงกับอดไม่ได้จนต้องร้องอุทานออกมาเสียงดัง“ประธานเย่คะ พวกเรารู้ดีค่ะ ว่าประธานหลินมีข้อขัดแย้งกับคุณ แต่ว่าประธานหลินเป็นคนดีมากเลยนะคะ เธอคือความหวังของบริษัท อย่างไล่เธอออกเลยได้ไหมคะ?”“ใช่ค่ะ ประธานเย่คะ ขอร้องล่ะค่ะ ให้ประธานหลินได้ทำงานที่นี่ต่อด้วยเถอะนะคะ”“ใช่แล้วครับ ประธานเย่ พวกเราต้องการประธานหลินครับ!”“ช่วยให้ประธานหลินได้ทำงานที่นี่ต่อด้วยเถอะนะครับ!”“......”เมื่อมีผู้นำ ก็ย่อมมีผู้ตาม ไม่นาน ทุกคนต่างก็พากันพูดขอร้องด้วยความตื่นเต้นเพื่อให้หลินหว่านหรูได้ทำงานที่บริษัทต่อ จะเห็นได้ว่า ในสายตาของพวกเขา หลินหว่านหรูทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีมากจริง ๆฉากแบบนี้ อย่าว่าแต่เย่ซานที่ได้รู้เรื่องอะไรยังรู้สึกอึ้งเลย แม้แต่หลินหว่านหรูเองก็รู้สึกสับสนไปด้วยเช่นกันเธอคิดไม่ถึงเลยว่า นี่เพิ่งจะผ่านไปเพียงไม่กี่วัน แต่ทุกคนก็กลับให้การสนับสนุนเธอมากถึงขนาดนี้เย่ซานรู้สึกตกใจ ในเวลานี้เขาเองก็เพิ่งจะเข้าใจ ว่าหลินหว่านหรูยอดเยี่ยมกว่าที่ตนคิดเอาไว้มาก การที่ท่านประธานพูดแบบนั้น เกรงว่าไม่ใช
“ฉันเองก็ไม่รู้ เธออาจจะต้องพึ่งตัวของเธอเองแล้วล่ะ”เมื่ออดีตราชามังกรพูดมาถึงตรงนี้ เขาจึงพูดอย่างช่วยไม่ได้ออกมาอีกว่า “เทียนหยู่ เรื่องของตระกูลเย่เธอเองก็น่าจะได้ยินมาบ้างแล้วใช่ไหม?”“อือ!”เย่เทียนหยู่พยักหน้า“เธอคิดเอาไว้บ้างไหม ว่าจะจัดการยังไง?” อดีตราชามังกรถาม“อีกไม่นานผมจะเดินทางไปที่อาณาจักรมังกรแล้วครับ” นี่คือแผนที่เย่เทียนหยู่คิดเอาไว้ในใจ สำหรับอาจารย์แล้ว เขาเองก็ไม่มีอะไรที่จะต้องปิดบัง“เธอนี่นะ จิตใจดีจนเกินไปจริง ๆ กะแล้วว่าจะต้องเลือกแบบนี้ แต่มีอีกเรื่องที่ฉันอาจจะต้องบอกเธอให้รู้เอาไว้ เกี่ยวกับเรื่องที่ตระกูลเย่ถูกกดขี่อยู่ตอนนี้ อันที่จริงเบื้องหลังมีผู้มีอำนาจที่แข็งแกร่งมาก ๆ ผู้หนึ่งคอยหนุนหลังอยู่น่ะสิ”“ใครเหรอครับ?”“ตอนนี้ฉันเองก็ยังไม่แน่ใจว่าเป็นใคร แต่เขาก็เป็นถึงยอดฝีมือระดับเทพยาดาแดนดินที่แข็งแกร่งมากเลยทีเดียว”“แข็งแกร่งขนาดนั้นเลยเหรอครับ หากเป็นเช่นนี้ ตระกูลเย่ก็แทบไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเลยน่ะสิครับ?”“นั่นเพราะยังไม่จำเป็นต้องให้เขาเป็นคนลงมือด้วยตัวเองน่ะสิ ถ้าหากเธอช่วยตระกูลเย่ เธอก็อาจจะเผลอไปล่วงเกินคนใหญ่คนโตผู้นั้นเข้าก็ไ
เมื่อคืนเธอสามารถหลับได้อย่างสบายใจ หลักจากที่ตื่นเช้าขึ้นมา พอหลินหว่านหรูลงจากเตียง เธอก็เห็นว่าเย่เทียนหยู่กำลังยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารเช้าใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสุขช่วงหลายวันมานี้ เธอไม่เคยรู้สึกสบายใจเท่ากับเมื่อคืนมาก่อนเลยรู้สึกว่าชีวิตนี้ช่างสวยงามเหลือเกิน ทำไมตัวเองถึงได้มีความสุขมากขนาดนี้ช่วงเวลาเก้าโมงเช้า หลินหว่านหรูปรากฏตัวที่บริษัทตามเวลาเข้างาน หลังจากที่เธอทบทวนมาทั้งคืน เธอก็เปลี่ยนการตัดสินใจของเธอ นี่ยังไม่ถึงเวลาที่เธอจะต้องจากเทียนเฟิงกรุ๊ปไปเพราะแบบนั้นมันก็เท่ากับเธอกำลังหนีปัญหาในช่วงเวลาที่สำคัญ หรือต่อให้เธอจะต้องจากไปจริง ๆ เธอก็ควรที่จะสร้างผลงานให้เป็นชิ้นเป็นอันเสียก่อน เพราะไม่อย่างนั้น เธอคงจะรู้สึกผิดต่อความรักความเอ็นดูที่มู่หรงอินมีต่อเธอเป็นแน่เมื่อเห็นหลินหว่านหรู ทุกคนต่างก็แสดงความเคารพต่อเธอด้วยความจริงใจแม้ว่าจะเป็นเพียงเวลาสั้น ๆ แต่การบริหารและการจัดการของหลินหว่านหรูก็ทำให้ทุกคนรู้สึกประทับใจมากจริง ๆประสิทธิภาพของบริษัทเองก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้ว่าปัจจุบันผลทางสถิติอาจจะยังไม่ชัดเจนมากนัก แต่มันก็ทำให้ทุกคนสามารถ