หยางไฉ่อวิ๋นเห็นท่าทีของหลินหว่านหรู่ที่เป็นแบบนี้ เธอจึงสับสนไปชั่วขณะ ในใจรู้สึกไม่เข้าใจเลยสักนิด ทั้งที่ความจริงถูกเปิดเผยแล้วแท้ ๆ นี่เป็นเรื่องที่ควรจะดีใจไม่ใช่เหรอแต่ดูเหมือนประธานหลินจะไม่ค่อยมีความสุขสักเท่าไหร่เธอเงยหน้าขึ้นและอ่านเนื้อหาที่ประกาศอีกครั้ง เมื่อเห็นรายชื่อแนะนำของหลิวอวิ๋นซิ่ว เธอก็เข้าใจได้ทันทีว่าทำไมเอ่อ ผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้คือแม่ของประธานหลินงั้นเหรอ“เธอออกไปก่อนเถอะ”เย่เทียนหยู่โบกมือให้สัญญาณหยางไฉ่อวิ๋นออกไปจากที่นี่ก่อนหยางไฉ่อวิ๋นพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะรู้สึกเสียใจขึ้นมาบางที ตนอาจไม่จำเป็นต้องรีบร้อนบอกทุกอย่างกับประธานหลินเร็วขนาดนี้ก็ได้เมื่อหยางไฉ่อวิ๋นจากไป เย่เทียนหยู่ก็ถึงเดินไปอยู่ข้าง ๆ เธอ และกอดเธอเอาไว้เบา ๆ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนขึ้นว่า “หว่านหรู!”หลินหว่านหรูน้ำตาคลอเบ้า ครั้งนี้เธอรู้สึกเสียใจมากเป็นพิเศษ เป็นความเสียใจที่ไม่อาจยอมรับได้ เธอบ่นพึมพำขึ้นว่า “เทียนหยู่ คุณรู้เรื่องนี้มาก่อนแล้วใช่ไหม?”เธอนึกถึงตอนที่หยางไฉ่อวิ๋นพูดถึงเรื่องนี้ เทียนหยู่ไม่เพียงแต่ไม่มีคำพูดใด ๆ แม้แต่ความประหลาดใจก็
แม่ตระกูลหลินแอบรู้สึกพอใจอยู่ลึก ๆ จัดการกับเย่เทียนหยู่ไม่ได้ แต่จะจัดการกับลูกสาวตัวเองไม่ได้ด้วยรึไง เธอจึงพูดขึ้นว่า “คืออย่างนี้ ช่วงนี้เครื่องสำอางแบรนด์ปัวเรต์ขายดีมาก แต่ว่าสูตรของส่วนผสมชนิดหนึ่งกลับอยู่ที่เย่เทียนหยู่”“ซึ่งวิธีนี้ก็ถือว่าดีมากจริง ๆ สามารถหลีกเลี่ยงการถูกลอกเลียนแบบไป ก่อนหน้านี้มันก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอก ถึงยังไงพวกแกก็อยู่ที่บริษัทตลอด แต่ตอนนี้พวกแกไปแล้ว มันเลยเกิดเรื่องยุ่งยากขึ้นน่ะ”“แกช่วยขอสูตรจากเย่เทียนหยู่ส่งมาให้ที่บริษัทหน่อยได้ไหม?”ปากก็บอกว่าทำเพื่อบริษัท ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง เธอทำไปก็เพื่อให้บริษัทไปได้ดี ซึ่งก็เป็นการทำเพื่อตระกูลหลินหลังจากที่หลินหว่านหรูได้ยิน เธอก็เริ่มรู้สึกว่านี่ไม่ถูกต้อง ไม่ได้จะโทรมาขอโทษเธอหรอกเหรอ ทำไมถึงพูดเรื่องนี้ขึ้นมาได้ เธอจึงอดไม่ได้ที่จะพูดออกไปว่า “แม่คะ แม่ไม่มีเรื่องอื่นจะพูดแล้วเหรอคะ?”เมื่อแม่ตระกูลหลินได้ยินแบบนั้น เธอก็รู้สึกไม่พอใจ ที่พูดมาหมายความว่ายังไง เธอจึงพูดด้วยความโกรธออกไปว่า “เรื่องอื่นอะไรกัน นี่แกทำใจมอบสูตรของส่วนผสมให้ฉันไม่ได้อย่างนั้นใช่ไหม?”เย่เทียนหยู่ที่อยู่ข้าง ๆ เ
แม่ตระกูลหลินตัดสินใจอย่างแน่วแน่แล้ว ไม่ว่าอย่างไร ขอแค่เธอไม่ยอมรับว่าตนเป็นคนทำ เรื่องนี้ก็จะถือว่าตนไม่ได้เป็นคนทำ ต่อให้ผลการตรวจสอบจะออกมายังไง ก็จะต้องเป็นผลการตรวจสอบที่ผิดพลาดของพวกเขาอย่างแน่นอนเมื่อได้ยินคำแก้ตัวที่ดูร้อนรนและฟังดูมีเหตุผลของแม่ หลินหว่านหรูก็เริ่มรู้สึกสงสัยขึ้นมา เดิมทีเธอก็คิดอยู่แล้วว่าแม่ไม่ได้เป็นคนทำ เพราะมันไม่สมเหตุสมผลเลยสักนิด และไม่มีเหตุผลที่เธอจะทำเช่นนั้นได้นี่จึงทำให้เธอไม่รู้จะตอบออกไปอย่างไรดีเย่เทียนหยู่กลับไม่เชื่อคำพูดของคุณแม่หลินเลยแม่แต่น้อย เขาพูดออกไปตรง ๆ ว่า “นี่ป้า ผมจะให้โอกาสคุณเป็นครั้งสุดท้าย ขอแค่คุณอธิบายเรื่องนี้ออกมาให้ชัดเจน อธิบายว่าทำไมถึงทำร้ายหว่านหรู ผมจะส่งสูตรนั้นให้คุณทันที!”“ไม่ใช่ฉันจริง ๆ นะ!”“เทียนหยู่ เธอกำลังเข้าใจฉันผิดอยู่นะ!”แม่ตระกูลหลินรู้สึกน้อยใจ จึงพูดออกไปว่า “ฉันรู้นะ ว่าเป็นเพราะสถานะเมื่อก่อนของฉัน มันเลยทำให้ระหว่างเราเกิดความเข้าใจผิดกัน แต่ว่า ที่ฉันทำไปก็เพื่อหลินหว่านหรูทั้งนั้น แค่อยากให้เธอได้แต่งงานกับคนดี ๆ ก็เท่านั้น”“แต่พอเป็นตอนนี้ ฉันก็รู้แล้วว่า เธอนั้นยอดเยี่ยม
เย่เทียนหยู่ตื่นขึ้นมาในตอนเช้าตรู่เขารู้สึกได้ถึงสัมผัสอันนุ่มนวลที่ฝ่ามือข้างขวา ก่อนที่เขาจะบีบมันเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว เป็นสัมผัสที่ไม่เลวเลยเมื่อเขาหันหน้าไปมอง ใบหน้าอันงดงามดุจสาวงามล่มเมืองก็เข้าสู่วิสัยทัศน์ของเขา ผิวพรรณขาวเนียนละเอียด และเปล่งปลั่งนุ่มนิ่ม“อ๊ะ…”หลินหว่านหรูถูกบีบจนตื่น ก่อนจะพบว่าเธอกำลังโป๊เปลือย เธอกรีดร้องแล้วผลักเย่เทียนหยู่ออกมือข้างหนึ่งดึงผ้าห่มไว้ และมืออีกข้างก็ถือหมอนทุบออกไปอย่างแรง“ไอ้คนชั่ว ไอ้คนลามก แกทำอะไรฉัน!”“เรื่องนั้น เหมือนจะทำไปทุกท่าเลย”“หน้าด้าน ไอ้คนไร้ยางอาย” หลินหว่านหรูทั้งอับอายทั้งโกรธ“จะพูดแบบนั้นก็ไม่ถูกมั้งครับ เมื่อคืนคุณเป็นคนเริ่มก่อนนี่” เย่เทียนหยู่น้อยเนื้อต่ำใจ“เหลวไหล ก็…”หลินหว่านหรูอยากจะเถียงแต่ก็พูดต่อไม่ออก เพราะสมองของเธอกำลังฉายภาพฉากเมื่อคืนเมื่อคืนวานเพื่อจะเก็บหนี้ก้อนโต เธอถูกคนวางยา และเมื่อพบความผิดปกติก็ใช้โอกาสหนีออกมาตอนไปเข้าห้องน้ำอีกฝ่ายพาเธอมาส่งที่ประตูโรงแรมและจะกลับออกไป แน่นอนว่าเธอเองเป็นคนรั้งเขาไว้และกระโจนใส่เขา“ฮือ ฮือ…”หลินหว่านหรูกลั้นเอาไว้ไม่อยู่อีกต่อไป เธ
“นี่เป็นแบล็กการ์ดหลงเถิง ข้างในบัตรมีเงินอยู่ห้าร้อยล้านบาท สามารถใช้ได้ทุกร้านค้าที่อยู่ในเครือหอการค้าหลงเถิงเมืองเทียนไห่ครับ”“อีกทั้งท่านเองคงเพิ่งมาถึง น่าจะยังไม่มีที่พัก นี่เป็นบัตรคีย์การ์ดวิลล่าของโซนสกายพาเลซหนึ่งครับ ได้โปรดรับมันไว้เถอะ”“ใจกว้างดีนะครับ มีเรื่องอะไรก็ว่ามาเถอะ” เย่เทียนหยู่เผยแววตาลึกล้ำราวกับเขามองทุกอย่างออกอยู่แล้ว“ราชามังกรช่างปรีชา หยางเฉียนเฉียนลูกสาวของกระผมมักมีอาการตัวเย็นมาตลอดครึ่งปีที่ผ่านมานี้ เราหาหมอมาไม่น้อย แต่ไร้หนทางครับ” หยางต้าฝูรีบพูด“ไม่ต้องกังวล แค่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น รอพรุ่งนี้ผมหาเวลาว่างไปช่วยเธอรักษาก็พอแล้ว”“ยอดไปเลยครับ กระผมขอขอบคุณท่านราชามังกร!”หยางต้าฝูพูดด้วยความตื่นเต้น เขาเองก็ได้สอบถามผู้คนไปทั่วสารทิศ จนในที่สุดก็ค้นพบความลับอันยิ่งใหญ่ราชามังกรหนุ่มองค์ใหม่กลายเป็นแพทย์เซียนที่เขาตามหามาแสนนานแต่หาไม่พบเสียที เป็นแพทย์เซียนที่ชอบหลบซ่อนตัวช่างเหลือเชื่อจริง ๆ ใครจะคิดว่า แพทย์เซียนในตำนานจะยังเด็กขนาดนี้ และยังเป็นราชามังกรแห่งหลงเหมินอีกด้วยหลังจากได้รับคำตอบแล้ว หยางต้าฝูมีความสุขมากเขาจึงพูดขึ
“เทียนหยู่ ตั้งแต่ปู่ได้รับสายจากแพทย์เซียนเฒ่า ปู่ก็รอหลานมาตลอดเลย ในที่สุดวันนี้หลานก็มาสักที แล้วนั่นจะยังยืนอยู่หน้าประตูทำไมเล่า?”หลังจากที่ท่านปู่ได้รับแจ้งการมาถึงและรออยู่สักพักแล้วพบว่าเขาไม่เข้าไป ท่านปู่จึงมาถึงหน้าประตูด้วยตัวเองเย่เทียนหยู่หันมองก่อนจะเรียกเขาพร้อมรอยยิ้ม “ท่านปู่หลิน!”“พวกหลานรู้จักกันรึ?” ท่านปู่มองดูหลานสาวที่อยู่ด้านข้างแล้วถามขึ้นด้วยความสงสัยสีหน้าของหลินหว่านหรูกร่อยไปเล็กน้อยในพริบตา“เจอกันตอนกลางวันน่ะครับ” เย่เทียนหยู่รีบช่วยอธิบาย“อย่างนั้นก็บังเอิญจริง ๆ บางที นี่อาจเป็นพรหมลิขิตของสวรรค์ก็ได้ พอดีวันนี้เป็นฤกษ์ดีสำหรับการแต่งงาน รอเราทานอาหารกลางวันเสร็จแล้ว พวกหลานก็ไปจดทะเบียนกันเถอะ” ท่านปู่หลินพูดพร้อมกับยิ้มกว้าง แพทย์เซียนเฒ่ามีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ดังนั้นลูกศิษย์ของเขาก็น่าจะเก่งมากเช่นกันเย่เทียนหยู่ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่สุดท้ายเขาจะตระหนักได้ว่าสาวสวยคนนี้คือคู่หมั้นของเขา หลินหว่านหรู เขาอดไม่ได้ที่จะมองดูรูปร่างของเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าอีกครั้ง โดยเฉพาะ ‘ส่วนสำคัญ’หลินหว่านหรูเองก็สังเกตเห็นสายตาลามกของเ
“ฝันไปเถอะย่ะ ต่อให้ฉันต้องไปชอบหมาตัวไหนก็คงไม่ชอบนายหรอก!”หลินหว่านหรูพูดด้วยความโมโห ชายหนุ่มที่ทั้งหล่อ รวย มีความสามารถมากกว่านายยังมีอีกตั้งเท่าไร ฉันยังไม่ถูกใจเลย แล้วจะให้ถูกใจนายเนี่ยนะ?“หว่านหรู!”ในตอนนั้นเอง ผู้หญิงหน้าตาสละสวยที่สวมชุดสุดร้อนแรงคนหนึ่งเดินเข้ามา กางเกงขาสั้นยาวถึงสะโพกกับเสื้อยืดรัดสะดือเผยให้เห็นเรียวขาและเอวเรียวบางของเธออย่างสมบูรณ์ อีกทั้งเนินขาวเนียนนั้นก็สะดุดตามากเธอเหลือบมองเย่เทียนหยู่ข้าง ๆ อย่างไม่ตั้งใจเขาแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าธรรมดา ๆ แต่รูปร่างหน้าตาดีใช้ได้ แต่อย่างว่า คนบ้านนอกจากภูเขาแบบเขาไม่ว่าเขาจะใส่ชุดอะไร ก็คงเหมือนกับคางคกใส่สูทอยู่ดีเพ้อฝัน“มาสักที”หลินหว่านหรูกล่าวทักทาย ก่อนจะพูดกับเย่เทียนหยู่ “นี่คือเพื่อนสนิทของฉัน ซูถิง”เย่เทียนหยู่ยื่นมือออกแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม: “สวัสดีครับ!”แต่ซูถิงไม่ชายตามองเขาเลยด้วยซ้ำ เธอจับมือของหลินว่านหรูแล้วพูดว่า “เราไปกันเถอะ นายน้อยหลิวและคนอื่น ๆ กำลังรอเราอยู่”หลินหว่านหรูพยักหน้า จากนั้นก็หันมาเรียกเขา “คุณก็มาด้วยกันสิ!”ซูถิงปรากฏตัวแค่เพียงเพื่อจัดการกับเขา ทำให้เขาลำ
ทุกคนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง นี่เขากล้าขึ้นไปจริง ๆ เหรอ ก่อนจะพากันหัวเราะ“ฮ่า ๆ ฉันล่ะตลกเป็นบ้า คนบ้านนอกอย่างแกยังกล้าพูดจาอวดเบ่งขนาดนี้”“...”เย่เทียนหยู่ขี้เกียจเกินกว่าจะสนใจพวกเขา เขาหยิบดาบขึ้นมาแล้วเร่งเร้า: “ยังไม่รีบอีก?”หลิวเจี๋ยรู้สึกสับสนเล็กน้อย เขาจึงเดินเข้าไปแล้วพูดว่า “แกไม่สวมอุปกรณ์ป้องกันเหรอ?”“ไม่จำเป็นหรอก”เมื่อหลิวเจี๋ยได้ยินแบบนั้นก็โกรธจัด เขายิ้มเยาะแล้วพูดว่า “ดี ถ้าอีกพักแกเจ็บตัวก็อย่ามาโทษฉันภายหลังแล้วกัน” เขาคิดจะใช้โอกาสนี้ทำให้มือและเท้าของเขาพิการ“พูดมากจริงจังเลยครับ” เย่เทียนหยู่ขมวดคิ้วไม่ต้องพูดว่าหลิวเจี๋ยโกรธมากขนาดนั้น แต่ทุกคนต่างก็หมดคำจะพูดแค่ดูท่าถือดาบของเขา ก็มองออกเลยว่าเป็นคนนอกวงการ ดันกล้ามาอวดแบบนี้ นี่มันรนหาที่ตายชัด ๆ ไม่ใช่เหรอ?หลินหว่านหรูกังวลเล็กน้อย แม้ว่าเธอจะไม่ชอบเย่เทียนหยู่ และอยากให้เขาออกจากชีวิตเธอไปเสียเดี๋ยวนี้ แต่เธอก็ไม่ได้อยากให้มีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นกับเขาซูถิงปลอบเธอทันที: “หว่านหรู ไม่ต้องกังวล ไม่เป็นไรหรอกหน่า นายน้อยหลิวมีทักษะมากและก็รู้จักขอบเขตด้วย ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเขาหรอก”หลินห
แม่ตระกูลหลินตัดสินใจอย่างแน่วแน่แล้ว ไม่ว่าอย่างไร ขอแค่เธอไม่ยอมรับว่าตนเป็นคนทำ เรื่องนี้ก็จะถือว่าตนไม่ได้เป็นคนทำ ต่อให้ผลการตรวจสอบจะออกมายังไง ก็จะต้องเป็นผลการตรวจสอบที่ผิดพลาดของพวกเขาอย่างแน่นอนเมื่อได้ยินคำแก้ตัวที่ดูร้อนรนและฟังดูมีเหตุผลของแม่ หลินหว่านหรูก็เริ่มรู้สึกสงสัยขึ้นมา เดิมทีเธอก็คิดอยู่แล้วว่าแม่ไม่ได้เป็นคนทำ เพราะมันไม่สมเหตุสมผลเลยสักนิด และไม่มีเหตุผลที่เธอจะทำเช่นนั้นได้นี่จึงทำให้เธอไม่รู้จะตอบออกไปอย่างไรดีเย่เทียนหยู่กลับไม่เชื่อคำพูดของคุณแม่หลินเลยแม่แต่น้อย เขาพูดออกไปตรง ๆ ว่า “นี่ป้า ผมจะให้โอกาสคุณเป็นครั้งสุดท้าย ขอแค่คุณอธิบายเรื่องนี้ออกมาให้ชัดเจน อธิบายว่าทำไมถึงทำร้ายหว่านหรู ผมจะส่งสูตรนั้นให้คุณทันที!”“ไม่ใช่ฉันจริง ๆ นะ!”“เทียนหยู่ เธอกำลังเข้าใจฉันผิดอยู่นะ!”แม่ตระกูลหลินรู้สึกน้อยใจ จึงพูดออกไปว่า “ฉันรู้นะ ว่าเป็นเพราะสถานะเมื่อก่อนของฉัน มันเลยทำให้ระหว่างเราเกิดความเข้าใจผิดกัน แต่ว่า ที่ฉันทำไปก็เพื่อหลินหว่านหรูทั้งนั้น แค่อยากให้เธอได้แต่งงานกับคนดี ๆ ก็เท่านั้น”“แต่พอเป็นตอนนี้ ฉันก็รู้แล้วว่า เธอนั้นยอดเยี่ยม
แม่ตระกูลหลินแอบรู้สึกพอใจอยู่ลึก ๆ จัดการกับเย่เทียนหยู่ไม่ได้ แต่จะจัดการกับลูกสาวตัวเองไม่ได้ด้วยรึไง เธอจึงพูดขึ้นว่า “คืออย่างนี้ ช่วงนี้เครื่องสำอางแบรนด์ปัวเรต์ขายดีมาก แต่ว่าสูตรของส่วนผสมชนิดหนึ่งกลับอยู่ที่เย่เทียนหยู่”“ซึ่งวิธีนี้ก็ถือว่าดีมากจริง ๆ สามารถหลีกเลี่ยงการถูกลอกเลียนแบบไป ก่อนหน้านี้มันก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอก ถึงยังไงพวกแกก็อยู่ที่บริษัทตลอด แต่ตอนนี้พวกแกไปแล้ว มันเลยเกิดเรื่องยุ่งยากขึ้นน่ะ”“แกช่วยขอสูตรจากเย่เทียนหยู่ส่งมาให้ที่บริษัทหน่อยได้ไหม?”ปากก็บอกว่าทำเพื่อบริษัท ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง เธอทำไปก็เพื่อให้บริษัทไปได้ดี ซึ่งก็เป็นการทำเพื่อตระกูลหลินหลังจากที่หลินหว่านหรูได้ยิน เธอก็เริ่มรู้สึกว่านี่ไม่ถูกต้อง ไม่ได้จะโทรมาขอโทษเธอหรอกเหรอ ทำไมถึงพูดเรื่องนี้ขึ้นมาได้ เธอจึงอดไม่ได้ที่จะพูดออกไปว่า “แม่คะ แม่ไม่มีเรื่องอื่นจะพูดแล้วเหรอคะ?”เมื่อแม่ตระกูลหลินได้ยินแบบนั้น เธอก็รู้สึกไม่พอใจ ที่พูดมาหมายความว่ายังไง เธอจึงพูดด้วยความโกรธออกไปว่า “เรื่องอื่นอะไรกัน นี่แกทำใจมอบสูตรของส่วนผสมให้ฉันไม่ได้อย่างนั้นใช่ไหม?”เย่เทียนหยู่ที่อยู่ข้าง ๆ เ
หยางไฉ่อวิ๋นเห็นท่าทีของหลินหว่านหรู่ที่เป็นแบบนี้ เธอจึงสับสนไปชั่วขณะ ในใจรู้สึกไม่เข้าใจเลยสักนิด ทั้งที่ความจริงถูกเปิดเผยแล้วแท้ ๆ นี่เป็นเรื่องที่ควรจะดีใจไม่ใช่เหรอแต่ดูเหมือนประธานหลินจะไม่ค่อยมีความสุขสักเท่าไหร่เธอเงยหน้าขึ้นและอ่านเนื้อหาที่ประกาศอีกครั้ง เมื่อเห็นรายชื่อแนะนำของหลิวอวิ๋นซิ่ว เธอก็เข้าใจได้ทันทีว่าทำไมเอ่อ ผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้คือแม่ของประธานหลินงั้นเหรอ“เธอออกไปก่อนเถอะ”เย่เทียนหยู่โบกมือให้สัญญาณหยางไฉ่อวิ๋นออกไปจากที่นี่ก่อนหยางไฉ่อวิ๋นพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะรู้สึกเสียใจขึ้นมาบางที ตนอาจไม่จำเป็นต้องรีบร้อนบอกทุกอย่างกับประธานหลินเร็วขนาดนี้ก็ได้เมื่อหยางไฉ่อวิ๋นจากไป เย่เทียนหยู่ก็ถึงเดินไปอยู่ข้าง ๆ เธอ และกอดเธอเอาไว้เบา ๆ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนขึ้นว่า “หว่านหรู!”หลินหว่านหรูน้ำตาคลอเบ้า ครั้งนี้เธอรู้สึกเสียใจมากเป็นพิเศษ เป็นความเสียใจที่ไม่อาจยอมรับได้ เธอบ่นพึมพำขึ้นว่า “เทียนหยู่ คุณรู้เรื่องนี้มาก่อนแล้วใช่ไหม?”เธอนึกถึงตอนที่หยางไฉ่อวิ๋นพูดถึงเรื่องนี้ เทียนหยู่ไม่เพียงแต่ไม่มีคำพูดใด ๆ แม้แต่ความประหลาดใจก็
“จริงจังเกินไปแล้ว!”หลินหว่านหรูบ่นพึมพำ แต่ในใจกลับรู้สึกหวานราวกับน้ำผึ้งโดยเฉพาะเมื่อมองไปยังอาหารที่จัดวางอยู่ตรงหน้าอย่างประณีต แต่ละจานยังคงความสวยงามอยู่ ดูยังไงก็ไม่เหมือนกล่องข้าวธรรมดาทั่วไปเลยแม้แต่น้อยแถมยังเป็นอาหารที่ตัวเองชอบมากอีกด้วย ซึ่งมันทำเธอให้รู้สึกมีความสุขมากยิ่งขึ้นหยางไฉ่อวิ๋นที่อยู่ข้าง ๆ ก็อดไม่ได้ที่จะพูดออกมา “ประธานหลินคะ คุณเย่ดีกับคุณจังเลยนะคะ”“ของมันแน่อยู่แล้ว เมียใครใครก็รัก” เย่เทียนหยู่พูดพลางหัวเราะ“รำคาญ!”หลินหว่านหรูหน้าแดง จากนั้นเธอก็พูดขึ้นว่า “ไฉ่อวิ๋น เธอเองก็มานั่งกินด้วยกันเถอะ”“ไม่ดีกว่าค่ะ คุณเย่ตั้งใจซื้อมาให้คุณโดยเฉพาะเลยนะคะนั่น” หยางไฉ่อวิ๋นรีบพูดพร้อมกับส่ายหัว“ไม่เป็นไร ถึงยังไงก็มีตั้งเยอะ พวกเรากินไม่หมดหรอก”“ยังไงก็ไม่ดีกว่าค่ะ อาหารพวกนี้ดูแพงเกินไป”“ถึงแพงก็ทำให้คนกินอยู่ดีนั่นแหละ มานั่งกินด้วยกันเถอะ” เย่เทียนหยู่พูดขึ้นมาเมื่อได้ยินเย่เทียนหยู่พูด หยางไฉ่อวิ๋นถึงกล้าหย่อนก้นนั่งลง พอเห็นอาหารเหล่านี้ เธอก็รู้ได้ทันทีว่ามาจากโรงแรมหรูแน่นอน แถมกุ้งล็อบสเตอร์ก็ตัวใหญ่มากอีกต่างหาก ตั้งแต่
“อะไร ยังยืนอยู่อีกทำไม หรืออยากให้ฉันเปลี่ยนคนจริง ๆ?” แม่ตระกูลหลินพูดด้วยความโกรธ นี่คิดว่าฉันไม่กล้าเปลี่ยนตัวหล่อนจริง ๆ งั้นเหรอ?“ไม่ใช่นะคะ!”หลิวเหวินพยายามควบคุมอารมณ์ และตอบออกไปว่า “วัตถุดิบนี้หาซื้อไม่ได้ค่ะ”“หาซื้อไม่ได้ แล้วก่อนหน้านี้ได้มาจากไหน?” แม่ตระกูลหลินถาม“ปกติประธานเย่เป็นคนจัดการค่ะ”“ประธานเย่ ประธานเย่คนไหน?” แม่ตระกูลหลินสงสัย บริษัทของพวกเขาไม่น่าจะมีประธานที่นามสกุลเย่ได้“เย่เทียนหยู่ค่ะ!”“ว่าไงนะ เธอบอกว่าเป็นเขางั้นเหรอ!”แม่ตระกูลหลินขมวดคิ้วขึ้นทันที ก่อนจะพูดด้วยความโกรธออกไปว่า “ทำไมจะต้องให้เขาเป็นคนจัดหาด้วย พวกเราหาซื้อกันเองไม่ได้รึไง?”“ไม่ได้ค่ะ เพราะนี่คือส่วนผสมที่เขาปรุงขึ้นมาด้วยตัวเอง ตอนนั้นที่ทำแบบนี้ก็เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการลอกเลียนแบบและขโมยสูตร ดังนั้นนอกจากเขาแล้ว ก็ไม่มีใครทำได้ค่ะ” หลิวเหวินอธิบาย“ว่าไงนะ ยังมีเรื่องแบบนี้อยู่ด้วยงั้นเหรอ เวรเอ้ย ฉันว่ามันไม่ได้กลัวถูกขโมยสูตรอะไรหรอก มันตั้งใจขัดขวางพวกเรามากกว่า” แม่ตระกูลหลินพูดด้วยความโกรธแต่ไม่นานแม่ตระกูลหลินก็รีบพูดขึ้นอย่างรวดเร็วว่า “นาน
“ไม่ว่าจะยังไง ต่อไปจะให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นไม่ได้อีก มันอันตรายเกินไป เอาแบบนี้นะ เดี๋ยวพี่จะจัดกำลังคนมาคอยปกป้องพวกเธอเอง”เย่เทียนหยู่คิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนตัดสินใจว่าจะหาคนมาคุ้มครองเฉินเฟยเฟย รอจนกว่าพวกเธอจะแข็งแกร่งขึ้น เมื่อถึงตอนนั้นก็ไม่จำเป็นต้องปกป้องพวกเธออีกเช่นเดียวกับคนอื่นที่มีความสัมพันธ์อันดีกับเขา เช่นเฉินเข่อซิน เขาเองก็ได้ส่งยอดฝีมือไปคอยปกป้องเธออย่างลับ ๆ ด้วยเช่นกัน ส่วนหยางเฉียนเฉียนและจูเก่อหลิวหลี เดิมพวกเธอก็เป็นยอดฝีมืออยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องมีการปกป้องใด ๆและหลินหว่านหรูที่อยู่ข้างกายเขา เธอมียอดฝีมือระดับสูงเป็นผู้หญิงที่คอยปกป้องเธอมากกว่าหนึ่งคนด้วยซ้ำ เพียงแค่ตัวหลินหว่านหรูเองไม่ทันได้สังเกตุก็เท่านั้นการปกป้องภรรยานั้น สำหรับเขามันคือสิ่งที่สำคัญที่สุดหลังจากที่จัดการทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว เย่เทียนหยู่ถึงได้จากไปตอนนี้เวลาก็ใกล้จะเที่ยงแล้ว เย่เทียนหยู่จึงโทรไปหาเลขาส่วนตัวของหลินหว่านหรู เพื่อสอบถามว่าหลินหว่านหรูได้ให้เธอสั่งอาหารเที่ยงมาแล้วรึยังเมื่อได้ยินดังนั้น เย่เทียนหยู่ก็รีบบอกให้เธออย่าเพิ่งสั่ง ก่อนที่เขาจะโทรสั่งให้โร
เมื่อกลับมาถึงห้อง เหอฉุนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่สุดท้ายก็พูดออกมาว่า “คุณเย่คะ ฉันรู้ว่าคุณเก่งกาจมาก แต่เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่ไม่จำเป็น เราไปที่โรงพยาบาลกันเถอะนะคะ”“ทำไม?” เย่เทียนหยู่ถาม“แบบนั้นเราก็จะสามารถตรวจสอบร่องรอยบาดแผลได้ เพื่อเป็นหลักฐานพิสูจน์ว่าเราถูกพวกเขาทำร้าย เพื่อให้คุณได้สามารถตอบโต้กับข้อกล่าวหาของอีกฝ่ายได้ เพราะไม่อย่างนั้น ตำรวจก็อาจจะไม่เชื่อเรื่องนี้ก็ได้”เหอฉุนพยายามอธิบายเย่เทียนหยู่ส่ายหัว และพูดออกไปว่า “ต่อให้จะมีบาดแผลอยู่จริง ๆ แต่หากนำไปที่สถานีตำรวจ พวกเราก็ยังไม่ถือว่าเป็นฝ่ายถูกอยู่ดี กลับกัน อาจกลายเป็นผู้รับผิดชอบด้วยซ้ำ”“เรื่องนั้น......”“ไม่ต้องห่วง ในเมื่อฉันกล้าลงมือ นั่นก็หมายความว่า ฉันไม่ได้สนใจเรื่องเหล่านี้เลยแม้แต่น้อย”“หากเป็นแบบนั้น ฉันคิดว่าคุณนายไป๋คงจะไม่ยอมปล่อยผ่านไปง่าย ๆ แน่ แม้ว่าพวกเขาจะไม่เก่งเท่าคุณเย่ แต่ถึงยังไงก็เป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองตะวันออก อำนาจคับฟ้า ยังไงก็ควรจะระมัดระวังเอาไว้บ้างนะคะ”เหอฉุนเคยได้ยินเกี่ยวกับตระกูลไป๋มาอยู่บ้าง รู้ว่าตระกูลไป๋นั้นน่ากลัวและทรงพลังมากแค่ไหน โดยเฉพาะหั
ถึงยังไง ก็เป็นแค่ลูกน้องคนหนึ่ง แม้จะลงมือรุนแรงแค่ไหน แต่ความผิดก็ยังไม่ถึงตายแต่ฉากนี้ก็กลับทำให้อีกคนที่ยังแกล้งสลบอยู่ตกใจจนพูดไม่ออกครั้งนี้ ไม่ต้องรอให้เย่เทียนหยู่ถาม เขาก็รีบพุ่งตัวออกมาทันที พร้อมกับพูดอย่างลนลานว่า “ขอโทษครับ ผมทำเอง ผมยอมรับผิด ผมออกมายอมรับผิดเองแล้วครับ”“สายไปแล้ว!”“แกหักขาข้างหนึ่งของตัวเองซะ” เย่เทียนหยู่พูดอย่างเฉยเมย“ครับ ๆ!”เขาไม่มีความลังเลเลยแม้แต่น้อย ก่อนจะรีบไปหาอุปกรณ์ แล้วลงมือทำทันที อันที่จริง เขาไม่กล้าลงมือจริง ๆ แต่เมื่อเห็นสภาพของพวกพ้องแล้ว เขาก็ไม่มีอะไรที่ไม่กล้าทำอีกในตอนนั้นเอง คุณนายไป๋ก็ได้สติ เธอมองดูเย่เทียนหยู่ที่กำลังทำตัวหยิ่งยโสอวดดี มันก็ยิ่งทำให้เธอทั้งโกรธและโมโห แต่เธอก็รู้ดีว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะไปสู้กับอีกฝ่ายเพราะไม่เช่นนั้นก็อาจจะไม่เป็นผลดีกับตัวเองเป็นแน่เพราะคนคนนี้มันบ้า คนบ้าที่ไม่รู้จักเกรงกลัวอะไรเลยเธอจะต้องทำให้อีกฝ่ายเสียใจอย่างแน่นอนเมื่อจัดการกับคนที่ต้องจัดการเสร็จแล้ว เย่เทียนหยู่ก็ไม่อยากสนใจพวกเขาอีกต่อไป เขาจึงเดินไปหาเฉินเฟยเฟย พร้อมกับพูดขึ้นว่า “พวกเราไปกันเถอะ”เฉ
คำพูดนี้ ทำให้จางผิงรู้สึกทำตัวไม่ถูกขึ้นมาทันทีหลายคนเองก็อดยิ้มอย่างขมขื่นออกมาไม่ได้ เมื่อเห็นฉากนี้ก็รู้สึกว่าแปลก ๆในเวลานี้ เหมือนว่าคุณนายไป๋จะลืมความเจ็บปวดไปจนหมดสิ้นแล้ว ร่างกายชาไปทั้งตัววันนี้เธอไม่เพียงแค่ประสบกับความเจ็บปวดทางร่างกายเท่านั้น แต่ยังต้องเสียหน้าในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนอีกด้วยยิ่งไปกว่านั้น เธอแทบจะเหมือนถูกกดให้จมดิน แล้วบดขยี้อย่างบ้าคลั่งอีกด้วยเย่เทียนหยู่ไม่ได้สนใจคุณนายไป๋อีกต่อไป เขาพูดอย่างเฉยเมยออกมาว่า “เมื่อกี้ใครบ้างที่ลงมือ ตอนนี้ก็ก้าวออกมาเองซะ!”ทันทีที่คำนี้ถูกพูดออกมา บอดี้การ์ดที่เคยลงมือต่างก็หน้าซีดกันหมดพวกเขานอนดูสถานการณ์อยู่ด้านข้างมาโดยตลอด กระทั่งมีคนแกล้งทำเป็นหมดสติไปเลยด้วยซ้ำ ในใจรู้สึกหวาดกลัวอยู่ตลอดเวลา กลัวว่าเย่เทียนหยู่จะเริ่มคิดบัญชีกับพวกเขาแต่เมื่อเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น เลยรู้สึกว่าคงไม่มีเรื่องอะไรแล้ว กลับคิดไม่ถึงว่าสุดท้ายแล้วก็ยังหนีไม่พ้นอยู่ดี“อย่าคิดว่าการแกล้งตายจะทำให้หนีรอดไปได้นะ ให้เวลาพวกแกอีกสิบวินาที”เย่เทียนหยู่กวาดสายตามองไปรอบ ๆ พร้อมกับเสียงพูดที่ดูเย็นชาเมื่อเย่เ