การสัมมนาจัดขึ้นเพียงไม่ถึงสามชั่วโมงก็เสร็จ เจ้าของโรงแรมหนุ่มจึงได้ชวนพริตตีสาวไปทานอาหารซีฟูดร้านอร่อย แต่พอเอ่ยชื่อร้านขึ้นมาเท่านั้น หญิงสาวก็หน้าเปลี่ยนสี จำได้ทันทีว่าเป็นร้านเดียวกับที่เคยมานั่งกินกับนายจ้างหนุ่มจนทำให้เขาอาหารเป็นพิษเข้าโรงพยาบาล พอรำลึกถึงเหตุการณ์นั้นขึ้นมา ใจก็พานลอยไปไกลลิบ“คิดอะไรอยู่ครับคุณแพนด้า หรือว่าไม่ชอบอาหารซีฟูด”“อะ...อ๋อ เปล่าค่ะ แพนทานอะไรก็ได้ค่ะ เพียงแต่ช่วงนี้ท้องไส้ไม่ค่อยดี เราไปหาอย่างอื่นทานดีกว่านะคะ”“ได้สิครับ คุณอุตส่าห์นั่งรถมาเป็นเพื่อนผมทั้งที อยากทานอะไรก็บอกมาเลย เดี๋ยวป๋าเต้คนนี้จัดให้”พริตตีสาวหัวเราะคิกคักเพราะท่าทางโอ้อวดอย่างน่าหมั่นไส้ของอีกฝ่าย“มีความสุขกันจริงนะ!”จู่ๆ เสียงเย็นยะเยือกก็ดังขึ้นด้านหลังสองหนุ่มสาว ทำเอาคนกำลังหัวเราะร่วนชะงักค้าง ภีรดาตะลึงงัน ยืนตัวแข็งทื่อเพราะจำเสียงนั้นได้แม่นเขา...มาอยู่นี่ได้ยังไง“อ้าว! นายตามพวกเรามาถูกได้ไงเนี่ย” ตติยะที่ตั้งสติได้ก่อนใครหันไปเอ่ยยิ้มๆ “หรือว่าแวะมาหาใครที่นี่กันล่ะเพื่อน”รวินรุตม์มองร่างเพรียวระหงในชุดลำลองแบบที่เขาจำได้ว่าไม่เคยซื้อให้เจ้าหล่อนใส่นิ่งๆ ส
ภีรดาโกรธจนควันออกหูกับความเผด็จการไร้เหตุผลของคนตรงหน้า จึงหาทางระบายด้วยการจิกปลายเล็บคมเข้าที่เอวสอบของเขาอย่างแรง แต่คนโดนหยิกกลับนิ่งเหมือนไม่สะดุ้งสะเทือน แถมยังกระชากรถออกจากตรงนั้นอย่างรวดเร็วเป็นการตอบโต้“ว้าย!” พริตตีสาวร้องลั่นด้วยความตกใจรีบกอดเอวเขาแน่นรวินรุตม์ก้มมองมือนุ่มๆ คู่นั้นอย่างพอใจ ความใกล้ชิดระหว่างกันทำให้เขารู้สึกดีขึ้น ความโมโหที่ถูกเพื่อนแกล้งยั่วโทสะหายไปเป็นปลิดทิ้ง แล้วพอถึงแยกที่ต้องเลี้ยว ตติยะก็เลี้ยวนำทางไปก่อน แต่คนขับรถบิ๊กไบก์ตามเกิดเปลี่ยนใจเลี้ยวรถไปอีกทางทำให้คนซ้อนโวยขึ้นมา“นั่นคุณจะไปไหน รถคุณเต้ไปทางนั้นไม่ใช่เหรอคะ เลี้ยวมาทางนี้ทำไมเนี่ย” เสียงตะโกนแข่งกับสายลมที่พัดมากระทบหน้า“ผมเปลี่ยนใจไม่อยากกินที่ร้านนั้นแล้ว เบื่อคนเยอะ อยากกินแบบเงียบๆ สองคน!”ประโยคสุดท้ายของเขาทำให้หัวใจคนฟังกระตุกสั่นไหวเขาเนี่ยนะอยากกินฉัน เอ๊ย! อยากกินข้าวกับฉันสองคน แล้วผู้หญิงคนเมื่อคืนเล่า หมอนี่เอาไปไว้ไหนกัน พริตตีสาวได้แต่คิด ทว่าไม่กล้าเอ่ยปากถามเพราะกลัวงานเข้าช่างเหอะ...จะทำอะไรก็ทำไป เอาที่เขาสบายใจเลยแล้วกัน ภีรดาคิดพลางแนบใบหน้ากับแผ่นหลังกว้
“ฉันบอกว่านอนที่โรงแรมเขา แต่ไม่ได้นอนกับเขา ก็ฉันบอกแล้วว่าไม่อยากกลับไปให้เกะกะคุณกับคนรัก คุณยังจะมาโกรธอะไรอีกล่ะ ไหนฉันผิดตรงไหนก็ว่ามา จะได้สำนึกผิดเสียทีเดียวให้จบๆ ไป...”รวินรุตม์อึ้งไปชั่วขณะ แววตาขึงขังที่มองมาผ่อนคลายลงนิดๆ“ผิดที่ทำให้...เป็นห่วงน่ะสิ!”“หะ...หา?” ดวงตาคู่สวยช้อนขึ้นสบตาคนพูดอย่างตกใจ “คุณเป็นห่วง...ฉันเนี่ยนะ!”“โทรศัพท์ก็ไม่เปิด ติดต่อก็ไม่ได้ แถมไม่โทร. กลับมาบอกว่าไปไหน อยู่ๆ ก็เล่นหายตัวไปไม่กลับบ้าน ไม่รู้หรือไงว่าเมื่อคืนผมนอนไม่หลับทั้งคืนก็เพราะเป็นห่วงคุณ”คนฟังอ้าปากค้าง วิญญาณแทบหลุดจากร่าง“ละ...แล้วคุณมาห่วงฉันทำไม ทำไมไม่ไปห่วงคนรักของคุณล่ะ”“ถ้าไม่เป็นห่วงก็คงไม่รีบบึ่งรถมาถึงนี่หรอก!”คำนั้นทำเอาคนฟังสะดุดลมหายใจตัวเอง อึ้งไปชั่วขณะ หัวใจที่ขุ่นมัวเต้นระทึกราวกับมีใครรัวกลอง นี่เขาจะมาไม้ไหนอีกเนี่ย“เมื่อคืนคุณเล่นหายตัวไปก่อนจะครบกำหนด งั้นผมจะทดเวลาชดเชยให้แล้วกัน”&ldq
“คะ...คุณ! อยากกินก็แกะเองสิ ให้ไปทั้งถุงยังจะมาแย่งเขาอีก” ท้ายประโยคบ่นกระปอดกระแปดชายหนุ่มกดยิ้มมุมปากอย่างพอใจที่เห็นอีกฝ่ายเริ่มกลับมาเป็นคนเดิม มือใหญ่ล้วงไข่ปิ้งอีกฟองจากถุงมาปอกเปลือกแล้วยื่นมือไปจ่อให้ถึงปากภีรดาสะดุ้งมองไข่ในมืออีกฝ่ายอึ้งๆ ที่จริงเธอก็แค่บ่นแก้เขินไปอย่างนั้นเอง ไม่คิดว่าคนตัวโตจะมีกะใจปอกไข่มาง้อเอาใจ“อ้าปากสิ” หญิงสาวยอมทำตามเพื่อตัดปัญหา “รู้ไหมว่าคุณเป็นผู้หญิงคนแรกเลยนะที่โชคดีได้กิน...ไข่ผม”“อุ้บ! แค็ก!ๆ” คนโชคดีถึงกับสำลักตาเหลือกเพราะไข่ติดคอ ชายหนุ่มจึงต้องรีบลูบหลังลูบไหล่ ก่อนหันไปคว้าขวดน้ำในถุงมาเปิดส่งให้“เอ้า...ดื่มน้ำก่อนสิ” ภีรดาคว้าน้ำมาดื่มอั้กๆ “ช้าๆ ก็ได้คุณ เดี๋ยวน้ำก็ได้ติดคออีกหรอก”ไม่ทันขาดคำ หญิงสาวก็สำลักอย่างเขาว่า ใบหน้านวลร้อนวูบวาบเมื่อในสมองส่วนหื่นคิดไปไกล รวินรุตม์มองปฏิกิริยานั้นอย่างรู้ทัน ร่างสูงขยับเข้ามาใกล้ก่อนโน้มกายลงกระซิบ“หน้าแดงแบบนี้ อย่าบอกนะว่าคุณกำลัง...คิดลึก!”
“ระวังหน่อย อย่าปล่อยมือจากผม!”ภีรดาเกือบลืมหายใจไปชั่วขณะ เมื่อวงแขนอุ่นโอบไหล่เธอไว้ ทำให้หัวใจดวงน้อยอุ่นซ่าน รู้สึกปลอดภัยเมื่อมีเขาเดินเคียงข้างกัน และหากเป็นอย่างนี้ตลอดไปเธอคงจะมีความสุขมาก“บ้า! ฝันเฟื่อง” เผลอสบถออกมาอย่างลืมตัว“หืม? คุณว่าไงนะ”“ว่าอะไรคะ อ๋อ...เปล่านี่คะ เอ๊ะ! ทางนั้นมีที่ให้อาบน้ำแล้วก็ร้านขายเสื้อผ้าด้วย รีบไปกันเถอะค่ะ” หญิงสาวแกล้งทำหน้าเหลอหลา รีบเฉไฉเปลี่ยนเรื่องก่อนที่อีกฝ่ายจะจับได้ว่าเธอคิดไม่ซื่อกับเขา“แน่ใจนะ...ว่าจะให้ผมใส่ชุดนี้จริงๆ” คนเพิ่งรู้ตัวว่าพลาดที่ให้คนอื่นเลือกเสื้อผ้าให้ทำหน้ายุ่ง มองตัวเองในกระจกแบบไม่ค่อยมั่นใจเพราะเสื้อยืดลายหัวใจหวานแหววสีเหมือนสลิ่ม กับกางเกงขาสามส่วนสีเจ็บขัดกับลุคหนุ่มไบเกอร์มาดเท่ แต่อะไรก็ไม่จี๊ดเท่าที่หน้าอกเสื้อดันสกรีนคำว่า ‘แฟนหวง’ ตัวเบ้อเริ่ม โดยมีคนเลือกเสื้อให้ยืนอมยิ้มเชียร์อยู่ข้างๆ ในเสื้อยืดลายหัวใจเหมือนกันและสีเดียวกันเป๊ะ ต่างก
ภีรดามองแสงสียามค่ำคืนวันหยุดของเมืองท่องเที่ยวอย่างพัทยาอย่างตื่นตา ร้านรวงและผับต่างๆ เปิดเพลงกันคึกคักเพื่อเรียกลูกค้าทั้งไทยและต่างชาติให้เข้ามาเยือน แต่เดินผ่านไปกี่ร้านก็ดูเหมือนผู้ชายตัวโตที่พามาจะไม่ถูกใจไม่ยอมแวะเข้าร้านไหนสักร้าน จนคนเดินตามชักจะพาลหงุดหงิดเพราะทั้งเมื่อยขาและโมโหหิวเต็มที“กินที่ร้านนี้ละกัน” หญิงสาวร้องบอกพร้อมกับชี้ส่งเดชไปที่ร้านอาหารอีสานข้างทางเสียเลย แต่ขณะจะเดินเข้าไปมือใหญ่ก็ฉุดดึงมือเธอไว้เสียก่อน“ผมว่าร้านนั้นบรรยากาศดีกว่า”เขาพูดพร้อมกับลากเธอเข้าไปนั่งในร้านอาหารกึ่งๆ ผับห่างไปไม่ไกลกันนัก นาทีนี้ขอให้ได้กิน หญิงสาวก็พอใจ จะร้านไหนก็ไม่เกี่ยงทั้งนั้นบรรยากาศในร้านตกแต่งสไตล์เรโทรเท่ๆ น่านั่งไม่น้อย ลูกค้าในร้านยังไม่พลุกพล่านมากเท่ากับร้านอื่นๆ ที่เดินผ่านไปมา แถมมีเวทีเล็กๆ แสดงดนตรีสดให้ฟังอีกด้วย ทั้งสองเลือกสั่งอาหารง่ายๆ สามสี่อย่างและไม่ลืมสั่งเบียร์สดมาดื่มเพิ่มรสชาติพอเสียงดนตรีแบบเล่นสดร้องสดดังขึ้นบรรยากาศก็เริ่มคึกคักขึ้นมาทันตา และเช่นเคยที่รวินรุตม์ตกเป็นเป้าส
‘ฮึ่ย! ไม่ใช่หรอกน่า ตาบ้านั่นไม่ตาต่ำมามองเราหรอกมั้ง เรามันก็แค่ลูกหนี้เขาเท่านั้น อย่าฝันเฟื่องไปเลยไอ้แพนเอ๊ย นู่น...ถ้าเขาจะคิดถึงใคร ก็คงเป็นอดีตคนรักอย่าง...คุณชารียา ผู้หญิงที่เขารักและรอคอยมาถึงสี่ปีนั่นต่างหาก’ดวงตาสวยใสหมองหม่นลงทันใด รู้สึกเจ็บแปลบในหัวใจ ถ้าเขาสองคนคืนดีกันได้ ถึงตอนนั้นแล้วเธอล่ะ ควรจะเสนอหน้าอยู่ในฐานะอะไรดี ผู้ช่วยส่วนตัวหรือคนรักกำมะลอที่เขาอุปโลกน์ขึ้นมาชั่วคราว เฮ้อ...ภีรดาปล่อยใจให้ล่องลอยตามเนื้อเพลงที่ขับกล่อม จนกระทั่งเสียงทุ้มเอื้อนถึงท่อนสุดท้าย เสียงปรบมือก็ดังเกรียวกราว หลายคนเริ่มจำได้ว่าคนบนเวทีเป็นใคร เริ่มมีการถ่ายรูปถ่ายคลิปวิดีโอยกใหญ่ สาวๆ ใจกล้าบางคนไม่รู้ไปหาดอกไม้มาจากไหน นำไปมอบให้นักร้องหนุ่มรูปงามถึงหน้าเวที แต่นักร้องหนุ่มกลับตีหน้าขรึมก่อนเอ่ยด้วยเสียงเรียบติดเย็นชาตามสไตล์“ขอโทษครับ ผมคงรับดอกไม้จากพวกคุณไม่ได้จริงๆ เพราะ...” แล้วคนพูดก็ชี้ที่หน้าอกตัวเองที่มีลายสกรีนตัวเบ้อเริ่ม ก่อนปรายตาคมจ้องตรงมาทางโต๊ะที่เธอนั่งอยู่แล้วประกาศออกไมค์ชัดเจน“คนรักของผมขี
แคว่กกก!พริตตีสาวใจหายวาบเมื่อเสื้อยืดตัวบางถูกกรีดจนขาด หัวใจร่ำร้องจนดังกึกก้องด้วยความหวาดกลัวสุดหัวใจ...คุณราล์ฟ! ช่วยฉันด้วย...ช่วยด้วย!ผลั่ก! ผลัวะ!“โอ๊ย...ใครวะ”ไม่ทันได้คำตอบ ร่างชายโฉดผู้นั้นก็โดนถีบจนกระเด็นหวือไปคลุกทรายโดยไม่ทันได้ตั้งตัว จากนั้นก็มีเสียงชกต่อยกันชุลมุน หญิงสาวหลับหูหลับตากรีดร้องลั่น เมื่อเห็นใครคนหนึ่งถูกซัดจนกระเด็นไปชนโขดหินจนสลบเหมือดคาที่ไปในสภาพสะบักสะบอม“กรี๊ดดด!” พลันร่างอันสั่นสะท้านก็ถูกดึงเข้าสู่อ้อมแขนอบอุ่นอันแสนคุ้นเคย“ไม่เป็นไร คุณปลอดภัยแล้ว” เพียงได้ยินเสียงนุ่มหูเอ่ยปลอบขวัญ น้ำตาก็พลันไหลพรั่งพรู รับรู้ว่าหากอยู่ในอ้อมกอดนี้เธอจะปลอดภัยจากอันตรายทุกสิ่ง“ก็บอกแล้วไงว่า...อย่าอยู่ห่างสายตาผม”“ฉันขอโทษ...” บอกเสียงอู้อี้ทั้งน้ำตา รู้สึกอุ่นใจขึ้นมากเมื่อมีเขาอยู่ใกล้ ความกลัวค่อยๆ จางหายไป“คุณเจ็บตรงไหนหรือเปล่า” เสียงอาทรด้วยความเป็นห่วง พลันสายตาเลื่อนมาสะดุดกับรอยขาดของเสื้ออีกฝ่ายเข้า
หลังจากพ่อแม่และญาติผู้ใหญ่มาร่วมอวยพรและทำพิธีต่างๆ จนเสร็จและทยอยออกจากห้องหอไปจนหมด เหลือเพียงเจ้าบ่าวเจ้าสาวตามลำพัง ภีรดาก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ พลางหันไปมองใบหน้าหล่อเข้มของผู้ชายที่เธอเพิ่งตีตราจอง ประกาศให้ทุกคนรู้ว่าเธอเป็นเจ้าของเขาอย่างเป็นทางการแบบไม่อยากจะเชื่อในวาสนา ใครจะไปคิดว่าผู้หญิงโก๊ะกังธรรมดาๆ อย่างเธอจะมีโอกาสได้เจอคู่ครองที่แสนจะเพียบพร้อมอย่างบุรุษตรงหน้าภีรดาคิดเพลินๆ จู่ๆ ดวงตาคมที่เจือประกายวับหวานก็เลื่อนมาสบตาพอดี“มองแบบนี้ไม่กลัวว่าผมจะอดใจไม่ได้บ้างเหรอ”“ถ้ากลัวคงไม่มองหรอกค่ะ” หญิงสาวทำปากดี ก่อนประคองใบหน้าคมสันที่แสนจะมีเสน่ห์ของเขาขึ้นมา “อา...เจ้าบ่าวของฉันหล่อจัง”รวินรุตม์มองคนตรงหน้าอย่างแสนรัก แต่บางสิ่งบางอย่างที่คอยรบกวนจิตใจทำให้เขาเผลอตัวถอนหายใจออกมาเบาๆ“เป็นอะไรไปคะ ทำไมคุณทำหน้าเครียดจัง เหนื่อยกับงานเหรอคะ” หญิงสาวเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ “คุณมีอะไรในใจอยากบอกฉันหรือเปล่า อย่าบอกนะว่า...มาคิดเสียใจตอนนี้”“ผมไม่เคยเสียใจที่รักคุณ แต่...” คนพูดมีอาการอึกอัก ท่าทีเหมือนกำลังอยากจะบอกอะไรแต่แล้วก็เงียบไปดื้อๆ จนภีรดาชักเอะใจสงสัย และเธอก็ไ
“ที่พูดเมื่อกี้คุณพูดจริงใช่ไหม” เมื่อได้อยู่กันสองต่อสองในห้องพัก รวินรุตม์ก็หันมาถามหญิงสาวที่ทำหน้าตึง พอเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้สนใจฟังแต่แอบทำปากขมุบขมิบบ่นอะไรสักอย่างอยู่ก็นึกแปลกใจ“นั่นกำลังสวดภาณยักษ์ให้ใครอยู่เหรอ”นั่นแหละ ภีรดาจึงยอมเงยหน้ามา“เปล่าค่ะ...กำลังแผ่เมตตาให้สรรพสัตว์และเจ้ากรรมนายเวร!”จากที่กำลังเครียด ชายหนุ่มก็เผลอหัวเราะพรวดออกมาทันใด“ขำอะไรคะ” ดวงตาเขียวปั๊ดตวัดมาอย่างเอาเรื่อง“อย่าบอกนะว่าคุณสวดให้รียาเขา”“ถ้าใช่แล้วจะทำไมคะ” สะบัดเสียงใส่นิดๆ แต่พอนึกขึ้นได้ว่าทำเกินไป จึงหันมาพูดเสียงอ่อยลง “ฉันขอโทษค่ะ พอดีอินไปหน่อย แล้วนี่คุณจะทำยังไงต่อคะ จะไม่ลงไปช่วยคุณชารียาเขาจริงๆ เหรอคะ”รวินรุตม์ยื่นมือไปดึงร่างอรชรลงมานั่งเคียงข้างเขาบนโซฟาตัวเดียวกันแล้วโอบกอดเธอเข้ามาชิดใกล้“ไม่ละ ผมบอกแล้วว่าจะช่วยเท่าที่เพื่อนคนหนึ่งจะช่วยได้”“แล้วคุณไม่สงสารเธอเหรอ โดนสามีทำร้ายขนาดนั้น เธอคงหวังพึ่งคุณนะคะ แต่คุณดันหนีขึ้นห้องมากับฉันแบบนี้”“อย่าห่วงเลยแพน คนอย่างรียาเขาไม่ได้สิ้นไร้หนทางขนาดนั้น อีกอย่างนี่ก็เป็นเรื่องภายในครอบครัวเขา ถ้าผมขืนเข้าไปยุ่งมันก็จะไม่
“เอ่อ...คือรียาอยาก...ขอค้างที่นี่สักคืนได้ไหมคะ ตอนนี้เขาให้คนไปเฝ้าที่คอนโดที่รียาเช่าอยู่ เข้าไปเมื่อไหร่ดลก็จะรู้ทันที รียากลัวเขาจะลงไม้ลงมืออีกค่ะ” เสียงสะท้านด้วยแรงสะอื้น“ผมคงให้คุณค้างที่นี่ด้วยไม่ได้ เพราะตอนนี้ผมต้องให้เกียรติคู่หมั้นของผมด้วย แต่เดี๋ยวผมจะลองถามนายเต้ให้ว่าที่โรงแรมเขาพอจะมีห้องว่างคืนนี้ไหม ผมจะได้ให้คุณไปพักที่นั่นก่อน”“ราล์ฟ!” ชารียาเบิกตาค้าง หน้าเปลี่ยนสีเมื่อเห็นว่าผิดแผนที่วางไว้ หางตาแลไปทางผู้หญิงที่สังเกตการณ์เงียบๆ ข้างกายเขาอย่างไม่พอใจ“ทำไมคุณถึงใจร้ายกับรียานัก คุณเคยขอรียาแต่งงานตอนที่อยู่ที่โรงพยาบาลไม่ใช่เหรอคะ แล้วทำไม...” ในเมื่อไม่ได้ด้วยเล่ห์ ก็ต้องเอามารยาเข้าสู้ ให้มันรู้ไปว่าคนอย่างเธอจะแพ้นังเด็กกะโปโลนี่“ผมจำได้...แต่คุณต่างหากที่ลืมว่าคุณได้ปฏิเสธโอกาสนั้นอย่างไม่ไยดีเอง เพียงเพราะรู้ว่าผมอาจจะต้องเป็นอัมพาตไปตลอดชีวิต”“เอ่อ...คุณกำลังเข้าใจผิดนะคะราล์ฟ ที่จริงตอนนั้นรียากำลังเครียดๆ เพราะเป็นห่วงคุณมาก ก็เลยเผลอพูดออกไปแบบนั้น แต่ตอนนี้รียาสำนึกได้แล้วว่าทำผิดต่อคุณ และต่อให้คุณเป็นอัมพาตตลอดชีวิตจริงๆ รียาก็จะไม่ทิ้งคุณอีก
พวงแก้มใสซับโลหิตระเรื่อ หายใจไม่ทั่วท้อง แอบรู้สึกตื่นเต้นหน่อยๆ เมื่อต้องเป็นฝ่ายคุมเกม“อ๊ะ...” มือใหม่หัดขับสะดุ้งนิดๆ ยามที่ร่างกายสอดประสานรวมร่างเป็นหนึ่งเดียวกับเขา ความใหญ่โตที่แทรกผ่านเข้ามาสร้างความอึดอัดให้หญิงสาวไม่น้อย“อย่าเกร็ง ปล่อยตัวตามสบายที่รัก อย่างนั้น อืม...เก่งมาก!” นักแข่งรถมือทองบอกอย่างใจเย็น ทั้งที่ร่างกายเขาร้อนจนแทบจะระเบิดเป็นเสี่ยงๆ อยู่ร่อมร่อแล้ว มือหนาประคองบั้นท้ายกลมกลึงช่วยคุมจังหวะ แต่มันไม่ง่ายเลยเมื่อโดนความคับแน่นที่แสนนุ่มละมุนโอบรัดรึงตัวตนของเขาไว้เช่นนี้“ราล์ฟคะ...พะ...แพน...” เสียงหวานกรีดร้องลั่นแทบไม่เป็นภาษาด้วยความรัญจวน สมองปั่นป่วนขาวโพลนด้วยแรงปรารถนาลึกล้ำทุกคราวที่ขยับกายเข้าหาความใหญ่โตนั้น แต่เมื่อร่างกายเริ่มคุ้นชินและปรับตัวได้ ภีรดาก็เริ่มควบทะยานบิ๊กไบก์คู่ใจคันงามด้วยความเร็วแรงถึงใจ จนกระทั่งควงแขนเขาไปสู่จุดหมายปลายทางความสุขและเข้าเส้นชัยพร้อมกันได้อย่างสวยสดงดงาม“แพนรักคุณ...รักที่สุดเลย!” เสียงหวานกระซิบที่ข้างหูราวกับละเมอ ก่อนที่ร่างบางจะซวนซบลงที่อกแกร่ง หอบหายใจถี่กระชั้นอย่างหมดแรงคำที่เป็นดั่งน้ำทิพย์ชโลมห
ดวงหน้าใสแดงซ่าน เมื่อยามที่มือได้สัมผัสของรักของหวงชิ้นสำคัญของคนรักแบบเอกซ์คลูซีฟสุดๆ เมื่อเห็นเขามีปฏิกิริยากัดฟันเหมือนกำลังอดกลั้นอารมณ์อย่างหนักยามที่เธอเริ่มขยับมือขึ้นลงทักทายเจ้านกเขาขี้เซาตัวนั้นอย่างกล้าๆ กลัวๆ จนมันเริ่มมีทีท่าว่าจะแข็งขึงขึ้นมาทีละนิดๆ ดวงตากลมโตซุกซนก็ทอประกายวาวเพราะรู้ว่าตนมาถูกทาง ยิ่งเห็นคนตัวโตมีอาการหายใจสะดุด และสูดปากหนักขึ้นก็เริ่มย่ามใจ ขุดบทเรียนสยิวกิ้วที่เขาเคยสอนให้ออกมาใช้เต็มเหนี่ยวร่างแกร่งถึงกับผวาสะท้าน เกร็งเยือกไปทั้งร่าง เมื่อจุดอ่อนไหวถูกสัมผัสด้วยความชุ่มชื้นจากปลายชิวหาอันอ่อนนุ่มเบาๆ เลือดในกายหนุ่มก็เดือดพล่าน“รู้ตัวไหมว่าทำอะไรอยู่”“ชอบไหมคะ” ไม่ทันได้คำตอบ มือใหญ่ก็เผลอขยุ้มเส้นผมสวยและกดศีรษะอีกฝ่ายเข้าหากายแกร่งอย่างลืมตัว ภีรดาช้อนสายตาหวานฉ่ำมองคนรักหนุ่มรูปงามด้วยอารมณ์หวามไหวรัญจวน เธออยากทำให้เขามีความสุขที่สุดให้สมกับความรักที่เขามอบให้“พะ...พอก่อนที่รัก ผมจะมะ...ไม่ไหวแล้ว” เสียงกระเส่าเซ็กซี่ขาดเป็นห้วงๆ บอกถึงความทรมานของคนพูด“ไม่ไหวแล้วจะทำไมคะ...” จอมซนทำใจกล้าถามยั่วอย่างก๋ากั๋น ดวงตาใสแจ๋วฉายรอยเจ้าเล่ห์ยา
ตอนนี้อะไรๆ ก็พ่อราล์ฟลูกแม่ๆ ส่วนลูกสาวตัวจริงอย่างเธอน่ะเหรอ ก็ตกกระป๋องเป็นแพนด้าหัวเน่าไปตามระเบียบน่ะสิ แตะว่าที่ลูกเขยคนโปรดนิดแม่ก็คำรามใส่ฮึ่มๆ แล้ว ไม่ต้องพูดถึงยมุนาพี่สาวเธอ ขานั้นนิยมคนหล่อเป็นชีวิตจิตใจ เอะอะก็ว่าที่น้องเขยๆ ยิ่งตอนไปอัลตราซาวนด์แล้วรู้ว่าลูกในท้องเป็นผู้ชายด้วยแล้ว พี่สาวเธอก็แทบจะนั่งจ้องหน้าว่าที่น้องเขยอย่างเอาเป็นเอาตาย เพื่อซึมซับความหล่อวัวตายหล่อควายล้มทางสายตาให้ลูกชายในท้องกันเลยทีเดียว“อ้อนเข้าไปๆ ตอนนี้ลูกแท้ๆ จะไม่มีที่ยืนอยู่แล้วนะคะ”“ก็ไม่ต้องยืนสิ คุณก็นอนแทน ถ้าไม่มีที่นอนไม่เป็นไร เดี๋ยวผมเจียดเตียงผมให้ครึ่งนึง ไม่ได้กอดคุณตั้งนานจนผมใกล้จะลงแดงตายแล้วเนี่ย” ดวงตาคมๆ แพรวพราวอ้อนอย่างเจ้าเล่ห์ “เราเลื่อนกำหนดงานแต่งเป็นพรุ่งนี้เลยดีไหม”วาบ! แก้มใสๆ แดงเห่อจนถึงกกหู เขินจนอยากจะเอาหัวมุดใต้โต๊ะ ทำไมเขาถึงพูดจาน่าตบด้วยปากแบบนี้ล่ะ แค่นี้เธอก็ตกบ่วงจนตะกายขึ้นมาจากหลุมไม่ได้แล้ว แล้วดูนั่น ยังมีหน้ามาส่งยิ้มหวานกระชากใจให้อีก อย่ารอพรุ่งนี้เลย หอบผ้าหอบผ่อนหนีตามกันไปอยู่ด้วยซะวันนี้เลยเหอะ!“อย่ามาตลกค่ะ การ์ดแจกไปหมดแล้วเปลี่ยนทันที่
‘ไฮโซหนุ่มนักแข่งรถมือทองสุดฮอตตั้งโต๊ะแถลงข่าวเตรียมความพร้อมล่าแชมป์ซูเปอร์ไบก์หลังอาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถล้มตอนซ้อมหายเป็นปกติ พร้อมทำเซอร์ไพรส์ขอหวานใจพริตตีสาวสุดแซ่บที่ซุ่มคบหากันมาพักใหญ่แต่งงาน สร้างตำนานซินเดอเรลลาแห่งยุค 4.0 สุดโรแมนติก หักอกสาวๆ ค่อนเมือง...’ข่าวพาดหัวบนสื่อยักษ์ใหญ่หลายสำนัก พร้อมคลิปฉากบอกรักบันลือโลกแพร่กระจายในโลกออนไลน์จนติดอันดับในยูทูปอยู่นานเป็นเดือน พลอยทำให้ผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ของบริษัทไลอ้อนดริงก์ที่ภีรดาเป็นพรีเซนเตอร์มียอดขายถล่มทลายติดลมบนเครื่องดื่มยอดฮิตสำหรับซินเดอเรลลายุคใหม่ และหนึ่งในสาวๆ ที่อกหักนั้นก็มีชื่อของ...ชารียา...ติดโผอยู่ในนั้นด้วยอีกคน สาวหน้าหวานกระแทกโทรศัพท์มือถือลงอย่างเจ็บใจ เมื่อเห็นคลิปอดีตคนรักที่เธอเพิ่งสลัดทิ้งไปอย่างไม่ไยดีเพราะคิดว่าเขาจะพิการไปตลอดชีวิต แต่กลับมาสารภาพรักกับผู้หญิงกะโหลกกะลาที่ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็แพ้เธอทุกประตู คิดแล้วก็น่าเจ็บใจ ในขณะที่เธอกำลังมีปัญหากับสามีจนต้องหนีหัวซุกหัวซุน รวินรุตม์กลับกำลังมีความสุขกับว่าที่เจ้าสาวโลโซของเขา“บ้าชะมัด! เรื่องมันเป็นแบบนี้ได้ยังไง” หญิงสาวกำมือแน่นด้วยคว
ราวกับมีใครกดปุ่มหยุดเวลาไว้ ทุกสิ่งรอบกายของหญิงสาวกลายเป็นภาพเลือนลางไปชั่วขณะหนึ่ง เมื่อเธอได้ลอยละล่องอยู่ในอ้อมกอดแสนอบอุ่นอ่อนโยน ความหวานล้ำแผ่ซ่านไปทั่วทุกอณูขุมขน ซึมลึกลงไปในหัวใจ ความรู้สึกที่ถูกสะกดห้ามไว้ถูกปลดปล่อยออกมาด้วยฤทธิ์เสน่หาแห่งรอยจูบอันร้ายกาจนั้นรวินรุตม์กดยิ้มมุมปากอย่างสมใจเมื่อรับรู้ถึงการโอนอ่อนของอีกฝ่ายที่ตอบกลับมาอย่างอ่อนหวาน ความห่วงหาอาทรระหว่างเขากับเธอถูกถักทอรัดร้อยเข้าไว้ด้วยกันตั้งแต่เมื่อไหร่ก็สุดจะรู้ได้ แต่เมื่อตอนนี้รู้แล้วเขาก็ไม่คิดจะปล่อยคนในอ้อมแขนให้ไปเป็นของใครอื่นอีกเขารักเธอ...รักแม่สาวแพนด้าจอมยุ่งคนนี้จนถอนตัวไม่ขึ้นเสียแล้ว“ทีนี้จะลงเอยได้หรือยัง หืม?” เสียงกระซิบนุ่มหวานล้อร่างเพรียวระหงที่แข้งขาอ่อนปวกเปียกจนต้องยืนพิงอกเจ้านกยักษ์ตัวร้ายอย่างหมดเรี่ยวแรง “หรือต้องให้ใช้ไม้ตาย...เฟรนช์คิส!”คำถามนั้นไม่มีใครได้ยินนอกจากหญิงสาวผู้ต้องมนตร์สะกดของหมีขั้วโลกในคราบนกยักษ์ตัวร้ายอย่างภีรดาเท่านั้น เธอทำได้แค่เสหลบตาคมๆ ที่มองมาด้วยเกรงว่าจะใจอ่อน ทั้งที่ความจริงเธอหมดมุกจะเล่นแล้วก็ตาม“คนหน้าไม่อาย คิดเหรอว่าจูบของคุณจะทำอะไรฉัน
“เพราะผมรักคุณไง!” เสียงที่ตอบออกมานั้นทั้งมั่นคง หนักแน่น แววตาก็เต็มไปด้วยความรู้สึกเฮือก! เสียงลมหายใจคนโดนบอกรักแบบไม่ทันตั้งตัวสะดุดกึก พร้อมกับบรรยากาศรอบข้างที่ชะงักงันไปชั่วครู่ ภีรดาหน้าแดงระเรื่อ หัวใจเต้นกระหน่ำรัวจนเกือบจะทะลุออกมานอกอก กับคำที่ยืนยันว่าการเดิมพันครั้งนี้ของเธอสำเร็จอย่างไม่น่าเชื่อ อีกด้านตติยะที่ยืนเป็นพยานรักถึงกับดีดนิ้วเปาะด้วยทีท่าสาสมใจที่สามารถง้างปากเพื่อนรักได้“คะ...คุณว่าอะไรนะ” กว่าจะหาเสียงตัวเองเจอก็นานเกือบนาทีเต็มๆ“ผมบอกว่าผมรักคุณ...แพนด้า” ดวงตาเข้มคมมองสบตาหญิงสาวอย่างไม่ปิดบังความรู้สึกอีกต่อไป “คุณล่ะรู้สึกแบบเดียวกันหรือเปล่า”คนถูกถามยกมือปิดปากถึงกับอึ้งจนไปไม่เป็น กะจะเล่นตัวอีกสักหน่อย แต่ขอบตาก็ดันร้อนผ่าวมีละอองน้ำคลอคลอง ลำคอตีบตันจนพูดอะไรไม่ออก ได้แต่ยืนนิ่งจนคนรอบข้างต้องเงียบรอลุ้นกับคำตอบของสาวเจ้า“ตอบเลย!” เสียงใครคนหนึ่งในกลุ่มคนดูตะโกนเชียร์ดังขึ้น และคนอื่นๆ ก็เริ่มส่งเสียงเชียร์ตามทีละคนสองคนจนดังไปทั่วบริเวณนั้น “ตอบเลยๆๆ”งานเข้าละ! เล่นเอามวลชนมากดดันแบบนี้เธอก็แย่สิเอาไงดีๆ แพนด้าเอ๋ย...รีบตอบรับไปก็ดูจะใจง่า