เย็นวันเดียวกัน.."ทำไมต้องซื้อของเยอะขนาดนี้" ญาณินทำความสะอาดห้องรอตอนที่คชาไปจ่ายตลาด แต่พอเห็นของที่เขาซื้อกลับมา เธอกลัวว่าเงินจะไม่พอใช้ เพราะกว่าจะหางานใหม่ได้"ของในห้องนี้ไม่มีอะไรสักอย่าง" คชาซื้อของใช้ทุกอย่างที่จำเป็น ที่จริงอยู่เมืองนอกเขาก็ไม่ได้สะดวกสบายอะไรมากมาย เพราะต้องได้ทำเองเกือบทุกอย่าง สิ่งไหนที่คิดว่าต้องได้ใช้ก็เลยซื้อมาด้วย"นายเคยอยู่เคยกินยังไงก็ทำเหมือนเดิมเถอะ" แต่ญาณินคิดว่าที่เขาซื้อมาเพราะมีเธอเพิ่มขึ้นมาอีกคน"สักวันผมจะจัดงานแต่งให้คุณแบบยิ่งใหญ่ไม่ให้น้อยหน้าใครนะ" ชายหนุ่มล้วงเอาของสำคัญจากกระเป๋า แล้วเปิดมันออกมาให้เธอได้เห็น"ไปเอามาจากไหน เหมือนของจริงมากเลย" พอคิดได้ว่าตัวเองพูดอะไรออกมา ดวงตางามก็ได้กรอกขึ้นไปมองคนตัวสูงแล้วส่งยิ้มแห้งๆ ให้กับเขา ด้วยความปากไวไม่น่าพูดออกไปเลยแต่เพชรเม็ดที่อยู่บนหัวแหวนก็เหมือนจริงมาก คิดอีกทีคงไม่ใช่หรอก เขาจะเอามาจากไหน เพราะถ้ามันเป็นของจริงคงหลายกะรัตน่าดู ..ถึงแม้มันจะไม่ใช่ของจริง ขอแค่เป็นสิ่งที่เขาให้ก็ดีใจแล้วเขาจับมือข้างซ้ายของเธอขึ้นมา เพื่อที่จะสวมแหวนให้ ซึ่งหญิงสาวก็เต็มใจญาณินยกมือข้างที่เพ
เปลี่ยนใจชวนเธอไปเข้าโรงแรมยังทันไหมเนี่ย พอได้ยินเสียงเธอร้องครวญครางตอนที่โดนเข้าไปเกินครึ่งลำ คชาถึงได้เข้าใจข้างห้องที่บางทีเสียงก็เงียบ"อื้อ" แต่พอเขาเริ่มขยับสะโพกใหม่ เธอก็เริ่มมีเสียงอีก เพราะความเจ็บจากการเสียดสี จึงทำให้ช่องแคบที่ไม่เคยถูกชายใดล่วงล้ำมาก่อนได้ขยายตัวตามท่อนเอ็นที่สอดใส่เข้ามา และตอนนี้เนื้อบางๆ ของเธอเริ่มฉีกออกจากกัน ความแสบและความเจ็บปวดไม่ต้องพูดถึง ถ้าเขายังกระแทกอยู่แบบนี้ มันก็ยิ่งจะเพิ่มความเจ็บให้กับเธอ"พอก่อนไหม" เขาไม่สนใจคนข้างห้องแล้วว่าจะได้ยินไหม แต่ตอนนี้เขาสนใจเธอ เพราะดูเหมือนจะไม่ไหวแล้วใบหน้างามส่ายเล็กน้อยเพื่อเป็นการตอบว่ายังไหว ถ้าแค่นี้เธอยังทนไม่ได้ แล้วจะสู้ไปกับเขาได้ยังไงชายหนุ่มจึงค่อยๆ ขยับท่อนเอ็น โดยที่ไม่เร่งรีบ แต่บางจังหวะเขาก็เผลอทำแรงลงไป เพราะความเสียวมันรออยู่แค่เอื้อม"อือ อื้อ อื้ออ" ใบหน้างามเริ่มบิดเบี้ยวไปตามแรงกระแทก จากที่มีแต่ความเจ็บปวดก็เริ่มมีความเสียวซ่านปนเปกันเข้ามา "เร็วกว่านี้ค่ะ" ที่ต้องบอกให้เร็ว เพราะกลัวเขาคิดว่าเธอยังเจ็บอยู่"ไหวแน่นะครับ" มือแกร่งลูบไล้ไรผมที่บดบังใบหน้าสวยๆ นั้นออก แล้วมืออีกข
แกร่ก!! "ทำไมกลับมาเร็วจัง" หญิงสาวพูดพร้อมกับเปิดประตูออกมา "‽‽‽" พอรู้ว่าเป็นใครญาณินก็รีบปิดประตูอย่างไว..แต่ก็ไม่ทัน"กลับบ้าน!" มือหนาของอนุชิตยื่นเข้าไปลากแขนลูกสาวให้ออกมา แต่ญาณินไม่ยอม เธอพยายามเกาะประตูไว้"ณินไม่กลับค่ะพ่อ""พ่อบอกให้กลับไง ไอ้ลูกไม่รักดี เตรียมตัวเดินทางไปเรียนต่อได้เลย!"สองสามีภรรยาข้างห้องที่กำลังจะออกไปทำงานได้ยินเสียงรีบเดินมาดู"ปล่อยผู้หญิงเดี๋ยวนี้นะ"ผู้หญิงอีกห้องที่ทำงานโรงงาน เดียวกันกับสองคนนี้ก็รีบเดินเข้ามาช่วยเช่นกัน"พวกแกไม่ต้องมายุ่งเรื่องของชาวบ้าน นี่ลูกสาวของฉันเอง"ทั้งสามที่เข้ามาช่วยต่างก็มองไปที่ญาณิน เพื่ออยากจะถามว่าสิ่งที่ผู้ชายคนนี้พูดมาเป็นความจริงไหม"ฉันไม่กลับกับเขา" ถึงแม้จะไม่บอกว่าเป็นพ่อ แต่พูดออกมาแค่นี้ก็พอจะรู้กันแล้ว และเธอคงจะถูกกดดันจนไม่อยากกลับบ้าน"พวกมึงไม่กลัวว่าจะโดนข้อหากันหรือไง!""พวกเราไม่กลัวหรอก คุณจะพาผู้หญิงไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น" ผู้ชายรีบเดินเข้ามาขวาง"ทำไมจะพาไปไม่ได้ ก็นี่มันลูกสาวของกู!" ว่าแล้วอนุชิตก็ยื่นมือไปเพื่อที่จะคว้าตัวลูกสาว แต่เพื่อนข้างห้องก็รีบเข้ามาช่วยกันไว้ก่อน"ถ้าเธอไม่อยากกลับ
ในเมื่อทำงานที่เดิมแล้วมองไม่เห็นความก้าวหน้าเอาสะเลย เพราะเงินที่ได้มาแค่เลี้ยงตัวเองไปได้วันๆ แต่ถ้าความหวังอันน้อยนิดที่มีคนยื่นมาให้ ทำไมพวกเขาจะไม่รีบคว้ามันไว้ ทั้งสามคนก็เลยยอมทำตาม ..และไม่ได้ให้แค่ชื่อกับนามสกุล ยังให้เอกสารที่เกี่ยวกับตัวตนของพวกเขามอบให้กับคชาไว้ และวันนี้ทั้งสามก็ไปลาออกตามที่คชาบอกด้วย"อีกแค่สามวันเองนะ แล้วนายจะทำยังไง""อย่าพูดว่าอีกแค่สามวันสิ อีกตั้งสามวันต่างหาก""มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลยนะคชา!" เพราะเธอเห็นเขาทำเป็นเรื่องเล่นๆ ได้สะทุกเรื่อง"พูดกับผัวไม่เพราะเลย""ฉันกำลังซีเรียสอยู่นะ เห็นไหมพวกเขามีความหวังกันมากแค่ไหน" ตอนที่ทั้งสามคนออกไป ญาณินเห็นรอยยิ้มของพวกเขา"แล้วใครบอกว่าจะโกหกล่ะ""ฉันไม่พูดกับนายแล้ว" หญิงสาวกลับเข้าไปในห้องเพื่อเก็บห้องต่อ เธอคงอยู่ที่นี่ได้อีกไม่กี่วันแล้วสิ นอกจากเขาเป็นเทวดาแปลงร่างมา หรือไม่ก็เป็นลูกชายของเจ้าของบริษัทเสียเอง ถึงจะทำตามข้อเสนอที่พ่อเธอให้มาได้"ที่นอนไม่ต้องเก็บแล้วเอาไว้แบบนั้นแหละ" ชายหนุ่มไปเอาของที่รถกลับเข้ามาก็เห็นว่าเธอกำลังเก็บที่นอนอยู่"ทำไมถึงจะไม่เก็บล่ะรกห้องจะตาย" เพราะห้องก็พื้นที่
ถึงยังไงเธอก็ฝากชีวิตไว้กับเขาแล้ว ก็ต้องเชื่อใจเขาสิ หญิงสาวยอมทำตาม..ให้ช่างแต่งหน้าและทำผมให้กับเธอ พอถึงขั้นตอนสุดท้าย ตอนที่เสื้อผ้าถูกส่งมา "‽‽‽" ที่หญิงสาวตกใจปนแปลกใจก็เพราะ ชุดที่ทางร้านส่งมาให้ก็คือชุดแบรนด์เนม แถมเป็น Collection ใหม่ ไม่ใช่ว่าใครก็จับต้องได้"ถ้าคุณผู้หญิงได้ใส่ชุดนี้เข้าไป ไม่ต้องกลัวเลยค่ะว่าจะมีคนเด่นกว่า"เขาไปเอาเงินมาจากไหน‽ ..มันคือคำถามเดียวที่เธออยากจะถาม แต่คงถามตอนนี้ไม่ได้ เพราะมันจะดูเหมือนหักหน้าคนรัก หญิงสาวก็เลยยอมสวมใส่ชุดนั้น"สวย" ชายหนุ่มถึงกับตะลึงเมื่อเธอเปิดผ้าม่านออกมา ไม่รู้ว่าเขาจะขอบคุณอะไรก่อนดี ที่ทำให้ได้เจอกับผู้หญิงคนนี้ เพราะเธอคู่ควรแล้วที่จะมาเป็นสะใภ้คนเล็กของวงศ์ตระกูล แต่ติดอยู่ตรงที่พ่อของเธอ ดูจะมักใหญ่ใฝ่สูงมากเกินไป แต่เรื่องแค่นั้นมันไม่คณามือของเขาหรอกกว่าจะทำทุกอย่างเสร็จก็เย็นมากแล้ว แต่เขาก็ยังคงนั่งรอเธอ ซึ่งคชาไม่เคยต้องได้นั่งรอผู้หญิงที่ไหนแบบนี้ แต่กับคนนี้แล้วเขาเต็มใจรอจนเธอแต่งตัวใกล้จะเสร็จ ชายหนุ่มก็เลยเอาชุดของตัวเองที่เตรียมไว้ไปเปลี่ยนบ้างความหล่อของคชาทำให้แม้แต่คนงานในร้านเสริมสวยตกตะลึง เพราะ
"ขับรถเร็วๆ หน่อยสิคะ" พอผู้ใหญ่กลับกันหมดแล้ว คชาก็เลยพาเธอกลับบ้าง"จะรีบไปไหน" เพราะเพิ่งจะขับรถพ้นโรงแรมออกมา"ก็รีบกลับไง""ดูคุณจะชอบห้องนั้นมากเลยนะ" ทีแรกคิดว่าจะชวนเธอไปอยู่ที่บ้านด้วยกัน แต่เห็นว่าเธออยากจะกลับห้องเช่ามาก คชาก็เลยต้องได้ตามใจ แต่ก็ไม่คิดว่าเธออยากจะกลับขนาดนี้ เพราะนี่เขาคิดว่าตัวเองขับรถเร็วแล้วนะเธอยังบอกให้เร็วกว่านี้รถยังไม่จอดดีเลยด้วยซ้ำเธอก็รีบเปิดประตู "ทำไมต้องรีบขนาดนั้นด้วยเดี๋ยวก็ตกรถ" ชายหนุ่มจึงต้องได้จอดรถไว้ตรงนั้นแล้วตามเธอมา"คุณออกไปไม่ได้ล็อกห้องเหรอ" พอเห็นว่าไม่มีกุญแจล็อกอยู่เธอก็เลยหันกลับไปถามเสียงเข้ม"จะล็อกทำไม..ข้างในไม่มีอะไรหรอก""ทำไมจะไม่มีล่ะ ทีหลังอย่าสะเพร่าแบบนี้นะออกจากห้องต้องล็อกตลอด""อะไรของเธอเนี่ย" ชายหนุ่มเกาศีรษะแล้วเดินตามเข้ามา เพราะไม่รู้ว่าเธอไปกินรังแตนมาจากไหน"อยูไหนเนี่ย คิดว่าวางใส่ในกระเป๋านี้ไว้แล้วนะ" หญิงสาวพยายามค้นหาเพราะเธอวางมันไว้ตรงนี้..แต่ไปไหนแล้ว"หาอะไร""ไม่ต้องถามได้ไหม""ก็จะได้ช่วยหาไงครับคุณผู้หญิง""เจอแล้ว.." นาทีนี้ไม่มีอะไรทำให้ดีใจเท่าเจอแหวนวงนี้อีกแล้ว"อย่าบอกนะที่อยากจะกลับมา
[บริษัท]"ทำไมหน้าคุ้นๆ" พนักงานต้อนรับที่อยู่เคาน์เตอร์ด้านหน้า ต่างก็หันไปถามกันเมื่อเห็นคชาเดินผ่านไป"ใช่คนที่เป็นยามอยู่ลานจอดรถแต่ก่อนไหม" คนที่พูดขึ้นเคยสนใจเขาตั้งแต่ทำงานเป็นรปภ. จนเลื่อนขั้นมาเป็นผู้ช่วยเลขาของผู้จัดการ ก็เลยจำได้แม่น"เออจริงด้วย..ว่าอยู่ทำไมถึงหน้าคุ้นๆ แต่เขาถูกไล่ออกไปแล้วไม่ใช่เหรอ" เพราะวันนั้นพ่อของญาณินโมโหมาก ก็เลยแปะป้ายรูปหน้าของคชาไว้ที่บอร์ด ว่าห้ามผู้ชายคนนี้เข้าบริษัทอีก.. แต่คฑายังไม่รู้เรื่องนี้"ลืมไปเลยแล้วนี่เขาจะขึ้นไปข้างบนทำไม" พนักงานหลายคนต่างก็รีบตามไปเพื่อจะกันไม่ให้เขาขึ้นไป..แต่ก็ไม่ทัน จนต้องได้เรียกรปภ.ให้ตามไปหยุดเขาไว้ก่อนคชากดลิฟต์ขึ้นไปที่ชั้นผู้บริหาร เพราะห้องประชุมอยู่ที่ชั้นนั้นรปภ.ที่อยู่ชั้นใกล้ที่สุดก็รีบวิ่งขึ้นบันได เพื่อจะให้ทันลิฟต์ตัวที่กำลังจะเปิดที่ชั้นผู้บริหารประตูลิฟต์เปิดออก จังหวะเดียวกับที่รปภ.ขึ้นมาถึง คชาไม่รู้ว่าที่ทุกคนกำลังวุ่นวายกันอยู่เพราะกันไม่ให้เขาขึ้นมา ก็เลยเดินผ่านไปโดยที่ไม่ใส่ใจ"คนนั้นแหละ" พนักงานที่ขึ้นลิฟท์ตามมาได้ชี้บอกให้รปภ.รู้ เพราะเขาแต่งตัวดีมากรปภ.ก็เลยดูไม่ออก"หยุดนะ! อย่า
ขณะที่คชาเดินออกมาจากบริษัท พนักงานที่เพิ่งรู้ข่าวว่าเขาคือลูกชายคนเล็กของท่านประธานต่างก็มองตามตาไม่กระพริบ"ฉันว่าแล้ว รปภ.อะไรจะหล่อขนาดนี้""เคยดูแต่ในละครทีวี ลูกคนรวยปลอมตัวมาเป็นพนักงาน แต่นี่ปลอมตัวมาเป็นยามเลยเหรอ""ถ้ารู้แบบนี้นะ..""รู้แล้วแกจะทำอะไร" เพื่อนที่ยืนอยู่ด้วยกันรีบทำออกไป"ก็จะจับมาทำผัวน่ะสิ.."ที่คชาทิ้งห้องประชุมไว้แบบนั้น เพราะรีบกลับไปหาเธอที่ยังนอนอยู่[ห้องเช่า]"นายไปไหนมา" หลังจากที่เสร็จกิจกรรมเข้าจังหวะ ญาณินก็เผลอหลับต่อ ที่ตื่นมาเพราะเสียงเปิดประตูห้อง"ก็บอกแล้วไงว่าออกไปธุระ""ธุระอะไรทำไมแต่งตัวหล่อขนาดนั้น" ใบหน้างามบึ้งตึงขึ้นมาเมื่อเห็นชุดที่สามีใส่"วันนี้ครบกำหนดที่คุณพ่อตาขีดเส้นตายไว้จำไม่ได้หรือครับ""จริงด้วย" หญิงสาวรีบลุกขึ้นควานหาเสื้อผ้าเพื่อที่จะมาใส่ เพราะตอนนี้เธอยังคงอยู่ในชุดวันเกิด"จะทำอะไร""ก็วันนี้วันที่คุณพ่อ.." นี่เธอลืมไปได้ยังไง"ผมทำเสร็จหมดแล้ว""หมายความว่ายังไง""ก็ผมจัดการทุกอย่างเสร็จแล้วนี่ไง""ทำไมเสร็จเร็วจัง""คิดถึงเมียก็เลยรีบกลับมาก่อน"ได้ยินประโยคนี้ถึงกับพูดอะไรไม่ออก"ผมมีเวลาให้คุณทั้งวันแล้วนะ เรามาต
เช้าวันต่อมา.."ขอบพระคุณคุณปู่คุณย่ามากนะคะ""ถ้าอยากมาค้างที่นี่ก็มาได้ตลอดเวลาเลยนะ ปู่กับย่ายินดีต้อนรับเสมอ""ขอบคุณมากเลยนะครับ ส่วนเรื่องประตู เดี๋ยวผมจะให้ช่างมาดูให้""ไม่เป็นไรหรอก แค่เปลี่ยนลูกบิดเฉยๆ ก็ใช้งานได้เหมือนเดิมแล้ว""ให้ช่างมาดูดีกว่าค่ะคุณปู่" รักนรินทร์เกรงใจ มาขออาศัยอยู่บ้านท่านแท้ๆ ยังมาทำของท่านเสียหายอีก"ถ้างั้นก็เอาที่พวกเราสบายใจเลยแล้วกัน เดินทางปลอดภัยนะลูก""ขอบคุณอีกครั้งนะคะ" ทั้งสองไหว้ร่ำลาพวกท่านแล้วก็ออกมา[บ้านภูมิฐาน]ชายหนุ่มพาเธอกลับมาที่บ้านก่อน เพื่อจะมาเปลี่ยนเสื้อผ้าพอมาถึงก็เจอพ่อกับแม่ของเขาอยู่ที่บ้านพอดี"คุณพ่อจะออกไปไหนหรือครับ" เดินเข้ามาก็เห็นผู้เป็นพ่อกำลังจะออกจากบ้าน"ก็เข้าบริษัทน่ะสิ ที่บริษัทโทรมาบอกว่าตามตัวผู้บริหารไม่เจอ""ขอโทษครับ เดี๋ยวผมเข้าไปเอง แต่ขอขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะครับ" เขามัวแต่ยุ่งตามหาเธออยู่ ก็เลยปล่อยปละละเลยเรื่องบริษัทไป"ฉันรออยู่ข้างล่างได้ค่ะ" หญิงสาวชักมือออกเมื่อเขายื่นมาจะจูงเธอขึ้นไปด้วย"จะรออยู่ข้างล่างทำไม..ไม่อาบน้ำก่อนหรือไง""คุณก็ไปอาบเองสิ""ไปด้วยกัน แล้วก็เข้าบริษัทด้วยกัน""ฉ
"ใครเขาจะให้คุณนอนด้วย" หญิงสาวรีบเก็บของบนโต๊ะอาหาร พอเก็บเสร็จก็เดินไปที่ประตูบ้าน "คุณกลับไปเลยนะ ฉันจะล็อกบ้านแล้ว""บอกแล้วไงว่าจะนอนที่นี่ด้วย""แต่นี่มันไม่ใช่บ้านฉันนะ""งั้นก็กลับบ้านสิ""ไม่"จากที่ยืนกอดอกพิงผนังอยู่ชายหนุ่มก็ก้าวเดินไปที่บันได"นี่คุณ!" รักนรินทร์รีบหันไปล็อกบ้านไว้แล้วก็เดินตามเขาขึ้นมา"คุณพักอยู่ห้องไหน""ไม่บอก"ไม่บอกก็ไม่เห็นจะยาก เพราะชั้นบนมีห้องนอนแค่สองห้อง ภูมิฐานเดินไปหน้าห้องนอนหนึ่งในสองนั้น"คุณภูมิหยุดเดี๋ยวนี้นะ!" รักนรินทร์รีบเดินเข้าไปรั้งตัวเขาไว้ก่อนที่จะเปิดประตูห้องนั้น "นี่มันห้องของคุณปู่คุณย่า""คุณก็ไม่บอกแต่ทีแรก" ว่าแล้วชายหนุ่มก็เอื้อมไปเปิดอีกห้องที่อยู่ข้างกัน หญิงสาวก็เลยรีบตามเข้าไป"ก็ได้แต่ฉันให้คุณค้างแค่คืนนี้คืนเดียวนะ"เขาไม่ตอบ..ให้พ้นคืนนี้ไปก่อนแล้วกัน ถ้ายังรับไหวอยู่ภูมิฐานเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วก็เข้าห้องน้ำ ทำเหมือนบ้านของตัวเองยังไงยังงั้นรักนรินทร์ได้แต่ยืนทำหน้าบูดบึ้งใส่ แต่หัวใจกลับเต้นแรงสวนทางกับสิ่งที่แสดงออกมาเพียงไม่นานภูมิฐานก็ออกมาจากห้องน้ำ เธอก็เลยเข้าไปใช้ต่อพรึบ! "กรี๊ดด" หญิงสาวที่กำลังอา
[คอนโด]เพียงไม่นานรถของภูมิฐานก็มาถึงคอนโด ชายหนุ่มลงจากรถได้ก็รีบตรงขึ้นไปก๊อก ก๊อกแกร็ก! แกร็ก!! เขาไม่มีคีย์การ์ดของห้องนี้ ก็เลยต้องได้เคาะประตูแล้วลองเปิด แต่ข้างในก็ยังเงียบอยู่"รักนรินทร์..คุณมาถึงหรือยังเปิดประตูให้ผมหน่อย" ขณะที่เรียกเขาก็ยังคงเคาะประตู แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับใดๆชายหนุ่มเอาโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาเธอ หลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ยังคงเหมือนเดิม[ร้านขายของชำ]"ผมก็ได้ยินคุณแม่บอกว่า ได้ฤกษ์ยามแล้วไม่ใช่หรือครับพี่" เมื่อเกียร์เห็นพี่สาวมาหา ด้วยใบหน้าที่เศร้าหมอง ก็เลยถามเอาความจริง"สงสัยเขาจะยังไม่พร้อม""พี่จะไปสนใจอะไร" เกียร์ของขึ้นทันทีเมื่อได้ยินว่าฝ่ายชายไม่พร้อมที่จะแต่งงานกับพี่สาว"เรื่องนี้เราอย่าไปพูดให้ใครฟังนะ" ที่รักนรินทร์ต้องเล่าให้เกียร์ฟังก็เพราะอยากจะมาขออาศัยอยู่ที่นี่ก่อน ในระหว่างที่รอให้เขาตัดสินใจ พอคิดแล้วดูเหมือนไม่มีค่า ต้องให้ผู้ชายตัดสินใจว่าอยากจะแต่งงานด้วยไหม"ถ้างั้นพี่ก็ค้างที่ห้องผมเลยแล้วกัน..เพราะผมต้องกลับไปค้างที่บ้านของคุณแม่" ข้าวฟ่างไม่ได้มาด้วย เกียร์แค่แวะมาดูร้านช่วยปู่กับย่า"แล้วคุณปู่คุณย่าของเกียร์จะไม่ว่าพี่เหรอ""
"ปล่อยค่ะนี่มันห้องทำงานนะ" พอเป็นอิสระหญิงสาวก็รีบห้ามปรามกลัวว่าเขาจะเลยเถิด"คุณทำเสน่ห์ใส่ผมหรือเปล่าเนี่ย" ยอมรับว่าไม่เป็นอันทำการทำงานเลย เพราะตั้งแต่ได้สัมผัสร่างกายของเธอมา เขาก็โหยหาเธอโดยตลอด"ทำเสน่ห์? อะไรคือทำเสน่ห์คะ" อย่างที่รู้กันอยู่ว่าเธอเติบโตที่ต่างประเทศ เรื่องแบบนี้ที่นั่นเขาไม่เชื่อกันอยู่แล้ว และไม่มีใครพูดถึง แม้แต่พ่อและแม่ สื่อโซเชียลก็ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่สนใจ แต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี"ผมแค่ล้อเล่น มันเป็นเสน่ห์จากตัวคุณเอง""คุณรักฉันจริงเหรอ" รักนรินทร์ถามอีกครั้ง เพราะคิดว่าเขาคงอยากจะพูดแค่ต่อหน้าผู้ใหญ่"รักสิ ผมรักคุณ ว่าแต่คุณคิดยังไงกับผม""คิดยังไง?" ใช่แล้วเราคิดยังไงกับเขากันแน่ แต่พอได้ยินเขาบอกรักทำไมถึงดีใจมาก ดีใจจนห้ามน้ำตาของตัวเองไม่ได้"ผมไม่ได้บังคับให้คุณพูดหรอก เรื่องแบบนี้ต้องพูดออกมาจากใจ เหมือนที่ผมบอกคุณไง""คุณพูดจากใจจริงหรือคะ" ก็มันยากที่จะเชื่อนี่ วันนั้นยังทำเหมือนไม่ชอบหน้าเธออยู่เลย"ถ้าพูดแล้วคุณยังไม่เชื่อ งั้นผมทำให้คุณเชื่อเลยแล้วกัน""ทำอะไรคะ"คนตัวโตเดินมาที่ประตู แล้วก็จัดการล็อกมันไว้ แถมไม่ได้ล็อกแค่ลูกบิด เขายังล็อกก
"กระดาษอะไรแปะอยู่ด้านหลัง" รรินธรที่ยืนอยู่ห่างหน่อยมองไปเห็นตอนที่สามียกแพทเทิร์นขึ้นมาดูหมั่บ รักนรินทร์รีบดึงมันออกมา แล้วก็ขยำไว้ในมือ "ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ก็แค่เจ้านายเขียนโน้ตแก้งานไว้ค่ะ"ภูมิฐานมองที่มือของเธอแบบยิ้มๆ "คุณพ่อกับคุณแม่ทานข้าวมาหรือยังครับ" แล้วเขาก็หันมาชวนพวกท่านคุย"ยังไม่ได้ทานเลย ก็นัดทานข้าวกับพ่อเรานั่นแหละ ไม่รู้ป่านนี้มาหรือยัง""อ้าวหรือครับ พอดีเลยผมกำลังหิว ขอไปร่วมทานด้วยคนนะครับ"ในขณะนั้นโทรศัพท์ของคริสก็ได้ดังขึ้น และคนที่โทรมาก็คือภูสิษฐ์รับโทรศัพท์อยู่ครู่หนึ่งคริสก็หันมาหาภูมิฐาน"ถ้าจะไปทานด้วยกันก็ป่ะ ตอนนี้พ่อกับแม่เราอยู่ข้างล่างแล้ว" ว่าแล้วคริสก็เอื้อมไปจูงแขนภรรยาให้เดินตามมา ส่วนภูมิฐานก็รีบเดินนำหน้าไป เพื่อเปิดประตูห้องให้"แล้วเราไม่ไปเหรอลูก" รรินธรเห็นว่าลูกสาวไม่เดินตาม"ไม่หรอกค่ะ เดี๋ยวรักหาอะไรทานแถวโรงอาหารนี้ก็ได้"ภูมิฐานถึงกับหันกลับมามอง เพราะเขาเดินนำพวกท่านจะออกนอกห้องอยู่แล้ว..หน้าประตูลิฟต์.."ผมเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ามีงานด่วน คงไปร่วมทานข้าวด้วยไม่ได้ เอาไว้โอกาสหน้านะครับคุณพ่อคุณแม่" เขาพูดในขณะที่ประตูลิฟต์กำลังเปิดอ
แกร็ก! แกร็ก!!"ทำไมประตูเปิดไม่ได้ล่ะคะคุณ หรือคีย์การ์ดใช้ไม่ได้แล้ว" คีย์การ์ดเคยเป็นของรรินธรสมัยที่พักอยู่ที่คอนโดนี้ ตอนนั้นเธอไม่ได้คืนให้กับคฑา แต่ก็ไม่ได้ทิ้งยังคงเก็บไว้เป็นอย่างดี"ก็เปิดได้อยู่นะ..แต่เหมือนถูกปิด" คริสใช้คีย์การ์ดเปิดอีกครั้งลองดู"ใครคะ" เสียงคนที่อยู่ด้านในดังออกมา เมื่อได้ยินว่าคนข้างนอกจะเปิดลองดูอีกครั้ง"อ้าวหนูยังไม่นอนเหรอลูก เปิดประตูให้พ่อกับแม่หน่อย" ที่ไม่เคาะเรียกเพราะกลัวจะรบกวนลูกสาว"แป๊บหนึ่งนะคะพ่อ"ที่คริสเปิดประตูเข้ามาไม่ได้ ก็เพราะตอนนั้นภูมิฐานอุ้มรักนรินทร์ยืนอยู่ใกล้ประตู พอได้ยินเสียงแกร๊กเท่านั้นแหละเขาก็รีบใช้มือดันประตูปิดไว้เหมือนเดิม ด้านในมันก็เลยล็อกอีกที ..และตอนนี้ทั้งสองกำลังมัววุ่นใส่เสื้อผ้ากันอยู่แกร็ก~"อ้าวนี่หนูยังไม่อาบน้ำเลยเหรอลูก แม่นึกว่าหนูหลับไปแล้วเสียอีก""ยังค่ะมัวเคลียร์งานอยู่" โกหกแม่จะบาปไหมเรา"ถ้างั้นหนูก็ไปทำงานต่อเถอะลูก ไม่ต้องห่วงพ่อกับแม่หรอก""คุณพ่อจะทำอะไรคะ" รักนรินทร์เห็นพ่อกำลังจะเดินไปเปิดประตูห้องนอน"หนูจะให้พ่อกับแม่นอนห้องไหนล่ะ" คริสถึงกับตกใจแล้วหันกลับมาถามลูกสาว"อีกห้องค่ะพ่อ"
[ร้านอาหารหรู]"ว่าไงเสือ""ใครเสือ เรียกให้ถูกหน่อยสิ" ดวงตาภูสิษฐ์ กรอกมองไปดูภรรยาที่นั่งอยู่ข้างๆ ถ้าจำกันได้สมัยก่อนภูสิษฐ์ก็ไม่ใช่เบาๆ และคนที่กล้าเรียกเขาว่าเสือก็คือ.. "นายก็ไม่เบาเหมือนกันแหละไอ้คุณคริส"ใช่แล้วคนที่คริสมาทานข้าวด้วยก็คือภูสิษฐ์ ทั้งสองรู้จักกันที่ต่างประเทศ หลายสิบปีผ่านมาแล้ว"อุ๊ย" เมื่อได้ยินเพื่อนเอาคืนคริสก็ได้มองมาที่ภรรยาบ้าง พอเห็นสายตาพิฆาตแล้วถึงกับเสียวสันหลังวูบ"แล้วเมื่อไรเด็กๆ จะมากันเนี่ย" สามีทั้งสองยกนาฬิกาขึ้นมาและพูดพร้อมกันโดยที่ไม่ได้นัดหมาย"ไม่มีพิรุธเลยนะคะ""แหะๆ เมียจ๋าา อย่าไปเชื่อไอ้ภูมันเลย""นั่นไงมาแล้ว" เหมือนกรรมการตีระฆังเพื่อพักยก เมื่อเห็นภูมิฐานเดินเข้ามาพอมองเห็นแล้วว่าพ่อกับแม่นั่งอยู่โต๊ะไหนภูมิฐานก็เดินตรงเข้ามา สายตาคมมองดูชายหญิงวัยกลางคนคู่หนึ่งที่นั่งอยู่โต๊ะเดียวกัน"สวัสดีครับ" เขายังไม่รู้หรอกว่าทั้งสองท่านเป็นใครแต่ด้วยมารยาทพอมาถึงก็ยกมือไหว้"หล่อกว่าพ่อเยอะเลยนะเนี่ย" คริสพูดพร้อมกับรับไหว้"ขอบคุณครับ" ชายหนุ่มมองไปที่พ่อ เพื่ออยากจะถามว่าเพื่อนของท่านทำไมเขาถึงไม่รู้จัก"เพื่อนพ่อเพิ่งเดินทางมาจากต่างปร
ภูมิฐานรีบตามออกมา คิดว่าที่เธอรีบออกไปคงเพราะเรื่องดินสอแท่งนั้นแน่แกร็ก! ประตูห้องประชุมถูกเปิดเข้าไปแบบถือวิสาสะ รักนรินทร์คิดว่าไอรยาคงยังอยู่ในห้องประชุมเพราะต้องได้คุยเรื่องแบบต่อทุกคนที่ยังอยู่ในห้องประชุมต่างก็หันมองมาที่ประตู"ฉันได้ยินท่านประธานบอกว่าคุณได้ดินสอด้ามนี้ที่ถังขยะ" รักนรินทร์เดินตรงเข้าไปแล้ววางดินสอลงตรงหน้าของไอรยา"ค่ะ" ไอรยาตอบรับเมื่อเห็นว่าภูมิฐานเดินตามเข้ามาด้วย"ถังไหนคะ""เออ..ถัง? ถังไหนแล้วทำไมคะ""มันวางอยู่บนโต๊ะทำงานของฉันแล้วมันจะไปอยู่ข้างถังขยะได้ยังไง ฉันก็เลยอยากรู้ว่าถังไหน""ถังหน้าห้อง" ถ้าจะบอกว่าถังขยะที่ไกลกว่านั้น กลัวจะไม่น่าเชื่อถือ"คุณเจอตอนไหน""นี่คุณ ฉันไม่มีเวลามานั่งจำเวลาหรอกนะ""ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวฉันจะให้คนตรวจสอบกล้องวงจรปิดเองแล้วกัน""??" ไอรยาลืมคิดเรื่องนี้ไปเลยคนที่อยู่ในห้องประชุมได้แค่นั่งฟัง เพราะไม่รู้ว่าทั้งสองมีเรื่องอะไรกัน"ออกไปก่อนครับ" ภูมิฐานเป็นคนสั่ง เพราะเห็นแล้วว่าศึกครั้งนี้คงไม่สงบง่าย"ไม่ต้องหรอกค่ะ อยู่ฟังด้วยกันนี่แหละ"คนที่กำลังเก็บของจะลุกขึ้นต่างก็นั่งลงที่เดิม เมื่อได้ยินรักนรินทร์สั่งอี
แกร็ก~ "??" พอรู้ว่าใครมาเคาะประตูเท่านั้นแหละ รักนรินทร์ก็รีบปิด..แต่ก็ไม่ทัน"คุณออกจากห้องฉันไปเดี๋ยวนี้เลยนะ"แต่ดูเหมือนว่าภูมิฐานจะไม่สนใจที่เธอไล่ เขายังคงดันประตูแล้วก็แทรกตัวเข้ามา"คุณดื่มเหล้ามาเหรอ?""ขอค้างด้วยหน่อยสิ""คุณเห็นฉันเป็นอะไร""ผมยังไม่รู้ เราคบกันดูก่อนไหม" มันเป็นสิ่งที่เขาคิดไว้ ในระหว่างที่เขายังไม่รู้ใจตัวเองอยากจะอยู่ใกล้เธอให้มากที่สุด"อะไรนะ?""ในระหว่างนี้เราก็คบกันไปก่อน""ฟังดูดีนะ คนเห็นแก่ตัว" ถ้าเขาขอเป็นแฟนเธออาจจะรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง แต่นี่แค่มาขอคบ แถมยังคบกันดูก่อนอีก"แล้วคุณต้องการแบบไหนก็บอกมาสิ""ต้องการให้คุณออกไปจากห้องนี้""คำก็ไล่สองคำก็ไล่ คุณจะให้ผมคิดยังไง""คิดว่าฉันไม่สนใจคุณไง ถ้าสนใจคุณแล้วฉันจะไล่เหรอ""ถ้างั้นแสดงว่าผมคิดกับคุณอยู่ฝ่ายเดียวหรอกหรือ"หญิงสาวทำได้แค่กลืนน้ำลายลงคอ เขาไม่คิดเหรอว่าเธอต้องเล่นตัวไว้บ้าง ถ้ารีบตกลงไป ก็จะดูเหมือนไม่มีค่าไม่มีราคาอะไรเลย"อืม?!" ในขณะที่กำลังใช้ความคิดอยู่นั้นก็ถูกอีกฝ่ายจู่โจมโดยการจูบมือเรียวแนบลงที่แผ่นอกกว้าง นี่เธอโหยหาจูบจากเขาขนาดนี้เลยเหรอ เพราะแรงจะผลักออกก็ยังไม่มีเมื่