"เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าค่ะ หวังว่าพวกคุณคงเห็นอีเมลที่ดิฉันส่งเข้ามาให้แล้ว""อีเมลอะไรหรือคะ" เลขาท่านประธานเอ่ยถามขึ้น"อีเมลรายละเอียดขั้นตอนที่ฉันส่งมาให้ไงคะ ฉันคิดว่าพวกคุณได้รับแล้วซะอีก""ทางเรายังไม่ได้รับอีเมลจากคุณดีไซเนอร์เลยนะคะ""ไม่เป็นไรค่ะเดี๋ยวฉันค้นหาให้ แต่ขอยืมโน๊ตบุ๊คหน่อยได้ไหมคะ" แค่รีบพาตัวเองมาให้ทันที่ประชุมก็เกือบเอาตัวไม่รอดแล้ว เธอก็เลยไม่ได้เอาอะไรติดมาด้วยนอกจากกระเป๋าสะพาย เพราะคิดว่าตัวเองส่งอีเมลรายละเอียดทั้งหมดเข้ามาให้แล้วทุกคนมองไปที่ท่านประธาน เพราะตอนนี้ Notebook มีอยู่กับเขาแค่เครื่องเดียวชายหนุ่มขยับมันเล็กน้อยเพื่ออนุญาตให้เธอใช้รักนรินทร์ก็เลยเดินเข้าไปยืนข้างๆ ท่านประธานพร้อมกับโน้มตัวลงไปเลื่อนเมาส์เพื่อที่จะเปิดอีเมล"ปลดล็อครหัสผ่านให้หน่อยค่ะ""ถ้าคุณปลดล็อคไม่ได้นั่นแสดงว่าเครื่องนี้เป็นเครื่องส่วนตัวของผม คิดว่าคุณจะมืออาชีพมากกว่านี้ อุปกรณ์สำคัญขนาดนั้นคุณยังไม่เตรียมมาล่ะ"ติก ติก ติก "ขอโทษอีกครั้งค่ะฉันไม่คิดว่าประเทศไทยจะรถติดขนาดนี้" ขณะที่พูดหญิงสาวก็ยังคงกดอะไรไม่รู้ที่แป้นพิมพ์โน๊ตบุ๊คของเขา"ที่หลังก็ต้องเผื่อเวลาไ
ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นก็คงหอบเอกสารของตัวเองออกจากห้องประชุมไปแล้ว เพราะถูกท่านประธานพูดขัดขาได้ทุกเรื่อง แต่กับรักนรินทร์แล้วฝันไปเถอะ หญิงสาวมองซ้ายขวาเพื่อหาเก้าอี้ตัวใหม่ และเธอก็เห็นเก้าอี้เสริมที่วางอยู่ด้านข้าง รักนรินทร์ไม่รอช้าเดินไปลากเก้าอี้ตัวนั้นมานั่งลงข้างๆ ท่านประธานที่จริงมันไม่ใช่หน้าที่ของเธอหรอกที่ต้องหาเก้าอี้นั่งเอง ถ้าพวกเขาฉลาดพอ แต่พวกเขาคงเห็นแล้วว่าเจ้านายไม่ค่อยปลื้มดีไซเนอร์คนนี้ และนั่นมันหน้าที่ของเธอที่จะทำให้เขามองในแบบที่เธอเป็นให้ได้"ก่อนที่คุณจะตัดสินใจอะไร คุณอย่าลืมนะคะว่าเราเซ็นต์อะไรกันไว้แล้ว"ไอรยาตวัดสายตามองไปดูภูมิฐาน เพื่อที่จะถามว่าเขาเซ็นต์อะไรกับเธอคนนี้"หึ.." เป็นแบบที่คิดไว้จริงๆ ผู้หญิงคนนี้คงมีอิทธิพลกับเขามาก "ถ้าในระยะเวลาหนึ่งเดือนที่เราตกลงกันไว้ ฉันทำให้คุณไม่พอใจกับการดีไซน์ ..ฉันยอมถอยก็ได้ค่ะ" ที่จริงแล้วคนที่เซ็นต์เอกสารไม่ใช่ภูมิฐาน แต่เขาก็ต้องได้รับผิดชอบเรื่องนี้อยู่ดี"ก็ได้..ในระหว่างนี้ผมก็จะให้คุณไอ ทำในส่วนของคุณไอไปก่อน เผื่อว่าคนแถวนี้สู้ไม่ไหว เราจะได้ไม่ต้องรอ" "ตามนั้นค่ะ" แล้วเธอจะเลือกอะไรได้ล่ะ ในเมื่อมั
ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง เสื้อเชิ้ตตัวนั้นก็ได้ถูกตัดเย็บเป็นที่เรียบร้อย ถึงแม้ผ้าจะเป็นผ้าจากโรงงาน แต่วิธีการตัดเย็บทำให้ยกระดับผ้าชิ้นนั้นขึ้นมาได้"คุณดีไซเนอร์ตัดเสื้อตัวนี้ให้ใครคะ สวยจังเลย" เพราะดูแล้วรูปร่างเฉพาะคนมาก"ตัดให้คนสำคัญค่ะ" หญิงสาวพยายามพูดให้เขาได้ยินด้วย เพราะเธอจะต้องเปลี่ยนแนวความคิดที่เขามีกับเธอให้ได้ก่อน"ขอดูหน่อยได้ไหมคะ" พิมพา คือหัวหน้าไลน์หนึ่งคนใหม่ แต่ก่อนถ้าจำได้หัวหน้าไลน์หนึ่งคือญาติของภูสิษฐ์"ได้สิคะ" ว่าแล้วหญิงสาวก็ยื่นเสื้อเชิ้ตนั้นให้กับหัวหน้าได้ดู"เก่งจังเลยค่ะ เราซ่อนฝีเข็มตรงนี้ก็ได้หรือคะ" นี่แหละที่พิมพาอยากจะขอดู เพราะเห็นตอนที่เธอเย็บซ่อนฝีเข็มไว้จริงๆ แล้วถ้าไม่ได้ข้องเกี่ยวกับวงการนี้ก็จะดูกันไม่ค่อยออกหรอก คงคิดว่าเสื้อตัวไหนก็เหมือนกันหมด แต่สำหรับคนที่รู้ลึกแล้วดูไปถึงฝีเข็มและการหักเหลี่ยมหักมุมภูมิฐานเป็นผู้บริหารโรงงานเย็บผ้าก็จริง แต่เขาก็รู้ไม่ลึกไปถึงขั้นตอนในการเย็บเสื้อผ้า พอเห็นสายตาของหัวหน้าไลน์ มองแบบปลื้มใจที่ได้เห็นฝีมือของเธอคนนี้แล้ว เขาก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเสื้อตัวนี้มันพิเศษยังไง แต่ต้องได้เก็บอาการนั้น
"ไปไหนแล้ว" รักนรินทร์เดินตามเข้ามาแต่ก็ไม่ทัน "หายตัวได้หรือไง" คนก็ไม่เยอะเท่าไรแต่ทำไมถึงหาไม่เจอ..หรือจงใจจะหลบเรา?อีกมุมหนึ่งของสถานบันเทิงแห่งนั้น.."มาแต่วันเลยหรือวะ" เขาชื่อทศพล เป็นเจ้าของสถานบันเทิง และเป็นเพื่อนรักของ.."เปล่าหรอก วันนี้ไม่ได้มาดื่ม""ไม่มาดื่มแล้วมาทำไมวะ""มาทำอะไรสนุกๆ สักหน่อย" ชายหนุ่มตอบเพื่อนออกไปแบบมีเลศนัย"ที่นี่มีอะไรสนุกให้มึงทำเหรอ" ทศพลแปลกใจรีบเดินเข้าไปนั่งข้างๆ เพื่อน"เอาโทรศัพท์มายืมหน่อยสิ""โทรศัพท์กูเนี่ยนะ""โทรศัพท์มึงนั่นแหละ"ทศพลก็เลยล้วงเอาโทรศัพท์ในกระเป๋าออกมาส่งให้กับเพื่อนที่ยืมโทรศัพท์ของเพื่อนเพราะอยากจะดูกล้องวงจรปิด"ใครวะ" ทศพลยื่นหน้าเข้ามาดูเช่นกัน"มึงอย่ารู้เลย""เอ้าไอ้นี่ มึงก็ให้กูสนุกด้วยหน่อยสิวะ""อะไร??" ภูมิฐานเห็นว่าเธอยื่นโทรศัพท์ ให้กับพนักงานได้ดู แล้วพนักงานก็ชี้มาห้องที่เขาอยู่ในเวลานี้"เหอะ" เห็นแค่นี้ทศพลก็รู้แล้ว เพราะพนักงานที่นี่รู้จักภูมิฐานเป็นอย่างดี และรู้ด้วยว่าถ้ามาแล้วเขาจะไปที่ห้องไหน"คืนนี้กูยืมห้องมึงหน่อยนะ" มีเหรอที่ภูมิฐานจะจนมุม"ห้องอะไรวะ""ก็ห้องนอนที่นี่ไง" ว่าแล้วชายหนุ่มก็ร
"??" อยู่ดีๆ ก็เหมือนมีอะไรไต่อยู่กลางหลัง ชายหนุ่มหันขวับกลับไปมอง "ทำอะไรของคุณ?""ใครบอกให้คุณไม่ยอมปล่อยผ้าห่มมาให้ฉันห่มด้วยล่ะ"ภูมิฐานเห็นแล้วว่าผู้หญิงคนนี้คงพอตัวแล้ว ถึงได้ไม่กลัวผู้ชายแบบเขาเลย ..ชายหนุ่มก็เลยยอมให้เธอห่มผ้าด้วย แต่ก็ไม่ได้สละให้เธอทั้งผืนคนเดียวหรอกนะก๊อก ก๊อก ผ่านไปสักพักก็มีเสียงคนมาเคาะประตูห้อง"ใครมา" หญิงสาวกำลังจะลุกไปเปิดดู ..แต่ผู้ชายที่เธอคิดว่าหลับไปแล้วก็ได้ลุกขึ้นเดินไปที่ประตูก่อนแกร็ก!"มีอะไร""คุณทศชวนให้ลงไปดื่มด้วยครับ""เดี๋ยวตามไป" ให้นอนต่อคงนอนไม่หลับแล้ว ภูมิฐานคิดว่าลงไปดื่มหน่อยก็ดีเหมือนกัน ปล่อยให้เธอนอนไป"คุณจะไปไหน" ขณะที่เขาเดินมาหยิบกระเป๋าและโทรศัพท์รักนรินทร์ก็เลยถามดู"ถามทำไม""ก็แค่ถามดูว่าจะไปไหน"แต่ภูมิฐานก็ไม่ได้ตอบ เพราะเธอไม่ได้เป็นอะไรกับเขาสักหน่อยที่ต้องได้ขออนุญาตออกจากห้องในยามวิกาล"เล่นตัวนักนะ" ที่ถามเพราะมารยาทเท่านั้นแหละ เดี๋ยวหาว่านอนอยู่ห้องเดียวกันไปไหนมาไหนไม่ถาม รักนรินทร์ก็เลยทิ้งตัวลงนอนที่เดิม "เสียงดังขนาดนี้นอนไปได้ยังไงวะ" มือเรียวคว้าหมอนที่เขาหนุนเมื่อสักครู่มาปิดหูไว้"ว่าไง ได้กี่ดอกแล
ใบหน้าสวยหวานส่ายไปมาเพื่อขอให้เขาหยุด แต่ก็ดูจะไม่เป็นผลมือหนาลูบคลำความโหนกนูนได้สักครู่ ก็เริ่มรูดซิปกางเกงของตัวเองลงมา ..ดวงตากลมเปิดกว้างขึ้นเมื่อเขาควักเอาความเป็นชายออกมาโดยที่ไม่ได้ถอดกางเกง"อื้อ!!!" ขาเรียวพยายามหนีบเข้าหากันแต่ก็ไร้ผล "อื๊ดดด" พอร่างหนาคืบคลานขึ้นมาบนเตียง รักนรินทร์ก็รู้แล้วว่าตัวเองคงจะไม่รอด ..ไม่น่าเล่นกับไฟเลย คิดว่าเขาจะไม่ใช่คนแบบนี้"เรามาเล่นของจริงกันดีกว่า" คนตัวโตโน้มลงไปทับร่างบาง พร้อมกับจับความเป็นชายถูไถขึ้นลงตรงรอยแยก แต่มันก็แนบชิดกันมากจนเขาต้องได้ใช้สองนิ้วเพื่อที่จะคลี่มันออกจากกัน"อี๊ดดด" หญิงสาวพยายามกรีดร้อง แต่ยิ่งร้องก็ยิ่งเหมือนเสียงคราง เพราะสิ่งที่ปิดปากเธออยู่"อ้าาา" ความใหญ่โตที่เขาใช้มันถูอยู่เมื่อสักครู่ก็ค่อยๆ ถูกส่งเข้าไปในร่างกายของอีกฝ่าย "ซี๊ดดด ทำไมฟิตจัง?" ผิดจากที่คิดไว้มาก เขาก็เลยต้องได้ใช้แรงดันมันเข้าไปอีก"งื้อออ!!" หญิงสาวพยายามส่งเสียงให้เขาหยุด แต่ภูมิฐานก็ยังดันทุรังดันมันเข้าไปอีกจนเข้าได้เกินครึ่งลำ"อ๊าาา??" ยิ่งดันเข้าไปก็ยิ่งรัดแน่น "นี่มันอะไรกัน" ดวงตาคมกรอกมองใบหน้าเจ้าของเรือนร่างระหงแบบแปลกใจ "
เย็นวันนั้น.. ที่คฤหาสน์หลังงามรรรรรรโทรชวนรักนรินทร์มาทานข้าวเย็นที่บ้านด้วย เพราะไม่ได้เจอหน้าหลานสาวหลายวันแล้ว"เรื่องงานมีปัญหาหรือเปล่า" แต่พอเจอกันดูหน้าของรักนรินทร์เหมือนมีเรื่องไม่สบายใจ"เปล่าค่ะ""น้าว่าย้ายมาพักด้วยกันที่บ้านนี้ดีกว่า อยู่ไกลหูไกลตาน้าเป็นห่วง" อย่างที่รู้กันอยู่ว่ารรรรรรเลี้ยงหลานสาวคนนี้มาตั้งแต่แบเบาะ และชื่อของรักนรินทร์เธอก็เป็นคนตั้งให้"ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย..บอกให้ก็ได้รักเครียดเรื่องงานนิดหน่อย" โกหกผู้ใหญ่จะบาปไหมเนี่ย เพราะรักนรินทร์ยังทำใจกับเรื่องนั้นไม่ได้ อุตส่าห์ห่วงแหนมา 20 กว่าปี"เรารักงานนี้มากไม่ใช่เหรอลูก ถ้าอุปสรรคไม่หนักหนา เราก็ใช้ใจแก้มัน""ขอบคุณนะคะคุณน้า" รักนรินทร์โน้มใบหน้าลงไปแนบกับลำตัวของน้าสาว "รักกลับก่อนดีกว่าจะต้องได้ไปเตรียมแบบในการประชุมพรุ่งนี้ค่ะ""ถ้ามีอะไรให้น้าช่วย พูดมาได้เลยนะ" แม่ของรักนรินทร์โทรมาหาทุกวันเพื่อถามข่าวลูกสาว ตอนนี้รรินธรและสามีย้ายกลับไปอยู่ต่างประเทศถาวรแล้ว ส่วนบริษัทที่อัญชัญให้บริหารก็ได้ขายกิจการให้คนอื่นไปรักนรินทร์ไม่อยากจะใช้ชีวิตอยู่ที่โน่น ก็เลยต้องหาหนทางกลับมาประเทศบ้านเกิดให้ไ
"คนบ้า! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!!" หญิงสาวรีบยันตัวลุกขึ้นนั่ง และกำลังจะกระโดดลงจากโต๊ะ แต่ถูกร่างหนายืนเบียดเพื่อกันไว้ก่อน"ถ้าคุณไม่คุยด้วยเหตุผล ผมจะไม่ปล่อย" มือของเขายังคงพยายามรูดซิปลง เพื่อที่จะจับเจ้าสิ่งนั้นออกมาขู่"คุณต่างหากที่ไม่คุยด้วยเหตุผล" รักนรินทร์คิดว่าคนบ้าๆ แบบเขาต้องทำได้แน่"ผมรับช่วงต่อจากพ่อมารู้ดีว่างานสไตล์ไหนที่ท้องตลาดต้องการ""ฉันก็เป็นดีไซเนอร์ รู้เหมือนกันว่าท้องตลาดต้องการแบบไหน""ก็ได้ ถ้างั้นผมจะให้คุณเย็บตัวอย่างขึ้นมาทั้งสองแบบ แล้วจะให้คนพิเศษของผมเป็นคนเลือก" เถียงกับเธอไปคงไม่จบง่ายๆ แน่"คนพิเศษของคุณ?" หญิงสาวเริ่มไม่พอใจตั้งแต่บอกว่าจะให้คนพิเศษเลือกแล้ว เพราะถ้าเป็นคนพิเศษของเขาจริง ก็ต้องเลือกแบบที่เขาเสนอมาอยู่แล้ว ..แต่เธอก็เลยมีข้อตกลงไปว่า ห้ามบอกคนพิเศษคนนั้น ว่าชุดไหนที่เขาเป็นคนขอแก้พอทั้งสองตกลงกันได้ ภูมิฐานก็เก็บเจ้าสิ่งนั้นเข้าไว้ที่เดิมรักนรินทร์โล่งใจขึ้นมา คิดว่าจะเสียตัวในห้องประชุมแล้วไหมล่ะ หญิงสาวรีบออกมาจากห้องนั้น เพื่อที่จะเริ่มลงมือทำเสื้อตัวอย่างออกมาและเธอก็ต้องได้ไปทำที่แผนกตัวอย่าง ..นั่นก็คือไลน์ของพิมพาหญิงสาว
เช้าวันต่อมา.."ขอบพระคุณคุณปู่คุณย่ามากนะคะ""ถ้าอยากมาค้างที่นี่ก็มาได้ตลอดเวลาเลยนะ ปู่กับย่ายินดีต้อนรับเสมอ""ขอบคุณมากเลยนะครับ ส่วนเรื่องประตู เดี๋ยวผมจะให้ช่างมาดูให้""ไม่เป็นไรหรอก แค่เปลี่ยนลูกบิดเฉยๆ ก็ใช้งานได้เหมือนเดิมแล้ว""ให้ช่างมาดูดีกว่าค่ะคุณปู่" รักนรินทร์เกรงใจ มาขออาศัยอยู่บ้านท่านแท้ๆ ยังมาทำของท่านเสียหายอีก"ถ้างั้นก็เอาที่พวกเราสบายใจเลยแล้วกัน เดินทางปลอดภัยนะลูก""ขอบคุณอีกครั้งนะคะ" ทั้งสองไหว้ร่ำลาพวกท่านแล้วก็ออกมา[บ้านภูมิฐาน]ชายหนุ่มพาเธอกลับมาที่บ้านก่อน เพื่อจะมาเปลี่ยนเสื้อผ้าพอมาถึงก็เจอพ่อกับแม่ของเขาอยู่ที่บ้านพอดี"คุณพ่อจะออกไปไหนหรือครับ" เดินเข้ามาก็เห็นผู้เป็นพ่อกำลังจะออกจากบ้าน"ก็เข้าบริษัทน่ะสิ ที่บริษัทโทรมาบอกว่าตามตัวผู้บริหารไม่เจอ""ขอโทษครับ เดี๋ยวผมเข้าไปเอง แต่ขอขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะครับ" เขามัวแต่ยุ่งตามหาเธออยู่ ก็เลยปล่อยปละละเลยเรื่องบริษัทไป"ฉันรออยู่ข้างล่างได้ค่ะ" หญิงสาวชักมือออกเมื่อเขายื่นมาจะจูงเธอขึ้นไปด้วย"จะรออยู่ข้างล่างทำไม..ไม่อาบน้ำก่อนหรือไง""คุณก็ไปอาบเองสิ""ไปด้วยกัน แล้วก็เข้าบริษัทด้วยกัน""ฉ
"ใครเขาจะให้คุณนอนด้วย" หญิงสาวรีบเก็บของบนโต๊ะอาหาร พอเก็บเสร็จก็เดินไปที่ประตูบ้าน "คุณกลับไปเลยนะ ฉันจะล็อกบ้านแล้ว""บอกแล้วไงว่าจะนอนที่นี่ด้วย""แต่นี่มันไม่ใช่บ้านฉันนะ""งั้นก็กลับบ้านสิ""ไม่"จากที่ยืนกอดอกพิงผนังอยู่ชายหนุ่มก็ก้าวเดินไปที่บันได"นี่คุณ!" รักนรินทร์รีบหันไปล็อกบ้านไว้แล้วก็เดินตามเขาขึ้นมา"คุณพักอยู่ห้องไหน""ไม่บอก"ไม่บอกก็ไม่เห็นจะยาก เพราะชั้นบนมีห้องนอนแค่สองห้อง ภูมิฐานเดินไปหน้าห้องนอนหนึ่งในสองนั้น"คุณภูมิหยุดเดี๋ยวนี้นะ!" รักนรินทร์รีบเดินเข้าไปรั้งตัวเขาไว้ก่อนที่จะเปิดประตูห้องนั้น "นี่มันห้องของคุณปู่คุณย่า""คุณก็ไม่บอกแต่ทีแรก" ว่าแล้วชายหนุ่มก็เอื้อมไปเปิดอีกห้องที่อยู่ข้างกัน หญิงสาวก็เลยรีบตามเข้าไป"ก็ได้แต่ฉันให้คุณค้างแค่คืนนี้คืนเดียวนะ"เขาไม่ตอบ..ให้พ้นคืนนี้ไปก่อนแล้วกัน ถ้ายังรับไหวอยู่ภูมิฐานเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วก็เข้าห้องน้ำ ทำเหมือนบ้านของตัวเองยังไงยังงั้นรักนรินทร์ได้แต่ยืนทำหน้าบูดบึ้งใส่ แต่หัวใจกลับเต้นแรงสวนทางกับสิ่งที่แสดงออกมาเพียงไม่นานภูมิฐานก็ออกมาจากห้องน้ำ เธอก็เลยเข้าไปใช้ต่อพรึบ! "กรี๊ดด" หญิงสาวที่กำลังอา
[คอนโด]เพียงไม่นานรถของภูมิฐานก็มาถึงคอนโด ชายหนุ่มลงจากรถได้ก็รีบตรงขึ้นไปก๊อก ก๊อกแกร็ก! แกร็ก!! เขาไม่มีคีย์การ์ดของห้องนี้ ก็เลยต้องได้เคาะประตูแล้วลองเปิด แต่ข้างในก็ยังเงียบอยู่"รักนรินทร์..คุณมาถึงหรือยังเปิดประตูให้ผมหน่อย" ขณะที่เรียกเขาก็ยังคงเคาะประตู แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับใดๆชายหนุ่มเอาโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาเธอ หลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ยังคงเหมือนเดิม[ร้านขายของชำ]"ผมก็ได้ยินคุณแม่บอกว่า ได้ฤกษ์ยามแล้วไม่ใช่หรือครับพี่" เมื่อเกียร์เห็นพี่สาวมาหา ด้วยใบหน้าที่เศร้าหมอง ก็เลยถามเอาความจริง"สงสัยเขาจะยังไม่พร้อม""พี่จะไปสนใจอะไร" เกียร์ของขึ้นทันทีเมื่อได้ยินว่าฝ่ายชายไม่พร้อมที่จะแต่งงานกับพี่สาว"เรื่องนี้เราอย่าไปพูดให้ใครฟังนะ" ที่รักนรินทร์ต้องเล่าให้เกียร์ฟังก็เพราะอยากจะมาขออาศัยอยู่ที่นี่ก่อน ในระหว่างที่รอให้เขาตัดสินใจ พอคิดแล้วดูเหมือนไม่มีค่า ต้องให้ผู้ชายตัดสินใจว่าอยากจะแต่งงานด้วยไหม"ถ้างั้นพี่ก็ค้างที่ห้องผมเลยแล้วกัน..เพราะผมต้องกลับไปค้างที่บ้านของคุณแม่" ข้าวฟ่างไม่ได้มาด้วย เกียร์แค่แวะมาดูร้านช่วยปู่กับย่า"แล้วคุณปู่คุณย่าของเกียร์จะไม่ว่าพี่เหรอ""
"ปล่อยค่ะนี่มันห้องทำงานนะ" พอเป็นอิสระหญิงสาวก็รีบห้ามปรามกลัวว่าเขาจะเลยเถิด"คุณทำเสน่ห์ใส่ผมหรือเปล่าเนี่ย" ยอมรับว่าไม่เป็นอันทำการทำงานเลย เพราะตั้งแต่ได้สัมผัสร่างกายของเธอมา เขาก็โหยหาเธอโดยตลอด"ทำเสน่ห์? อะไรคือทำเสน่ห์คะ" อย่างที่รู้กันอยู่ว่าเธอเติบโตที่ต่างประเทศ เรื่องแบบนี้ที่นั่นเขาไม่เชื่อกันอยู่แล้ว และไม่มีใครพูดถึง แม้แต่พ่อและแม่ สื่อโซเชียลก็ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่สนใจ แต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี"ผมแค่ล้อเล่น มันเป็นเสน่ห์จากตัวคุณเอง""คุณรักฉันจริงเหรอ" รักนรินทร์ถามอีกครั้ง เพราะคิดว่าเขาคงอยากจะพูดแค่ต่อหน้าผู้ใหญ่"รักสิ ผมรักคุณ ว่าแต่คุณคิดยังไงกับผม""คิดยังไง?" ใช่แล้วเราคิดยังไงกับเขากันแน่ แต่พอได้ยินเขาบอกรักทำไมถึงดีใจมาก ดีใจจนห้ามน้ำตาของตัวเองไม่ได้"ผมไม่ได้บังคับให้คุณพูดหรอก เรื่องแบบนี้ต้องพูดออกมาจากใจ เหมือนที่ผมบอกคุณไง""คุณพูดจากใจจริงหรือคะ" ก็มันยากที่จะเชื่อนี่ วันนั้นยังทำเหมือนไม่ชอบหน้าเธออยู่เลย"ถ้าพูดแล้วคุณยังไม่เชื่อ งั้นผมทำให้คุณเชื่อเลยแล้วกัน""ทำอะไรคะ"คนตัวโตเดินมาที่ประตู แล้วก็จัดการล็อกมันไว้ แถมไม่ได้ล็อกแค่ลูกบิด เขายังล็อกก
"กระดาษอะไรแปะอยู่ด้านหลัง" รรินธรที่ยืนอยู่ห่างหน่อยมองไปเห็นตอนที่สามียกแพทเทิร์นขึ้นมาดูหมั่บ รักนรินทร์รีบดึงมันออกมา แล้วก็ขยำไว้ในมือ "ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ก็แค่เจ้านายเขียนโน้ตแก้งานไว้ค่ะ"ภูมิฐานมองที่มือของเธอแบบยิ้มๆ "คุณพ่อกับคุณแม่ทานข้าวมาหรือยังครับ" แล้วเขาก็หันมาชวนพวกท่านคุย"ยังไม่ได้ทานเลย ก็นัดทานข้าวกับพ่อเรานั่นแหละ ไม่รู้ป่านนี้มาหรือยัง""อ้าวหรือครับ พอดีเลยผมกำลังหิว ขอไปร่วมทานด้วยคนนะครับ"ในขณะนั้นโทรศัพท์ของคริสก็ได้ดังขึ้น และคนที่โทรมาก็คือภูสิษฐ์รับโทรศัพท์อยู่ครู่หนึ่งคริสก็หันมาหาภูมิฐาน"ถ้าจะไปทานด้วยกันก็ป่ะ ตอนนี้พ่อกับแม่เราอยู่ข้างล่างแล้ว" ว่าแล้วคริสก็เอื้อมไปจูงแขนภรรยาให้เดินตามมา ส่วนภูมิฐานก็รีบเดินนำหน้าไป เพื่อเปิดประตูห้องให้"แล้วเราไม่ไปเหรอลูก" รรินธรเห็นว่าลูกสาวไม่เดินตาม"ไม่หรอกค่ะ เดี๋ยวรักหาอะไรทานแถวโรงอาหารนี้ก็ได้"ภูมิฐานถึงกับหันกลับมามอง เพราะเขาเดินนำพวกท่านจะออกนอกห้องอยู่แล้ว..หน้าประตูลิฟต์.."ผมเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ามีงานด่วน คงไปร่วมทานข้าวด้วยไม่ได้ เอาไว้โอกาสหน้านะครับคุณพ่อคุณแม่" เขาพูดในขณะที่ประตูลิฟต์กำลังเปิดอ
แกร็ก! แกร็ก!!"ทำไมประตูเปิดไม่ได้ล่ะคะคุณ หรือคีย์การ์ดใช้ไม่ได้แล้ว" คีย์การ์ดเคยเป็นของรรินธรสมัยที่พักอยู่ที่คอนโดนี้ ตอนนั้นเธอไม่ได้คืนให้กับคฑา แต่ก็ไม่ได้ทิ้งยังคงเก็บไว้เป็นอย่างดี"ก็เปิดได้อยู่นะ..แต่เหมือนถูกปิด" คริสใช้คีย์การ์ดเปิดอีกครั้งลองดู"ใครคะ" เสียงคนที่อยู่ด้านในดังออกมา เมื่อได้ยินว่าคนข้างนอกจะเปิดลองดูอีกครั้ง"อ้าวหนูยังไม่นอนเหรอลูก เปิดประตูให้พ่อกับแม่หน่อย" ที่ไม่เคาะเรียกเพราะกลัวจะรบกวนลูกสาว"แป๊บหนึ่งนะคะพ่อ"ที่คริสเปิดประตูเข้ามาไม่ได้ ก็เพราะตอนนั้นภูมิฐานอุ้มรักนรินทร์ยืนอยู่ใกล้ประตู พอได้ยินเสียงแกร๊กเท่านั้นแหละเขาก็รีบใช้มือดันประตูปิดไว้เหมือนเดิม ด้านในมันก็เลยล็อกอีกที ..และตอนนี้ทั้งสองกำลังมัววุ่นใส่เสื้อผ้ากันอยู่แกร็ก~"อ้าวนี่หนูยังไม่อาบน้ำเลยเหรอลูก แม่นึกว่าหนูหลับไปแล้วเสียอีก""ยังค่ะมัวเคลียร์งานอยู่" โกหกแม่จะบาปไหมเรา"ถ้างั้นหนูก็ไปทำงานต่อเถอะลูก ไม่ต้องห่วงพ่อกับแม่หรอก""คุณพ่อจะทำอะไรคะ" รักนรินทร์เห็นพ่อกำลังจะเดินไปเปิดประตูห้องนอน"หนูจะให้พ่อกับแม่นอนห้องไหนล่ะ" คริสถึงกับตกใจแล้วหันกลับมาถามลูกสาว"อีกห้องค่ะพ่อ"
[ร้านอาหารหรู]"ว่าไงเสือ""ใครเสือ เรียกให้ถูกหน่อยสิ" ดวงตาภูสิษฐ์ กรอกมองไปดูภรรยาที่นั่งอยู่ข้างๆ ถ้าจำกันได้สมัยก่อนภูสิษฐ์ก็ไม่ใช่เบาๆ และคนที่กล้าเรียกเขาว่าเสือก็คือ.. "นายก็ไม่เบาเหมือนกันแหละไอ้คุณคริส"ใช่แล้วคนที่คริสมาทานข้าวด้วยก็คือภูสิษฐ์ ทั้งสองรู้จักกันที่ต่างประเทศ หลายสิบปีผ่านมาแล้ว"อุ๊ย" เมื่อได้ยินเพื่อนเอาคืนคริสก็ได้มองมาที่ภรรยาบ้าง พอเห็นสายตาพิฆาตแล้วถึงกับเสียวสันหลังวูบ"แล้วเมื่อไรเด็กๆ จะมากันเนี่ย" สามีทั้งสองยกนาฬิกาขึ้นมาและพูดพร้อมกันโดยที่ไม่ได้นัดหมาย"ไม่มีพิรุธเลยนะคะ""แหะๆ เมียจ๋าา อย่าไปเชื่อไอ้ภูมันเลย""นั่นไงมาแล้ว" เหมือนกรรมการตีระฆังเพื่อพักยก เมื่อเห็นภูมิฐานเดินเข้ามาพอมองเห็นแล้วว่าพ่อกับแม่นั่งอยู่โต๊ะไหนภูมิฐานก็เดินตรงเข้ามา สายตาคมมองดูชายหญิงวัยกลางคนคู่หนึ่งที่นั่งอยู่โต๊ะเดียวกัน"สวัสดีครับ" เขายังไม่รู้หรอกว่าทั้งสองท่านเป็นใครแต่ด้วยมารยาทพอมาถึงก็ยกมือไหว้"หล่อกว่าพ่อเยอะเลยนะเนี่ย" คริสพูดพร้อมกับรับไหว้"ขอบคุณครับ" ชายหนุ่มมองไปที่พ่อ เพื่ออยากจะถามว่าเพื่อนของท่านทำไมเขาถึงไม่รู้จัก"เพื่อนพ่อเพิ่งเดินทางมาจากต่างปร
ภูมิฐานรีบตามออกมา คิดว่าที่เธอรีบออกไปคงเพราะเรื่องดินสอแท่งนั้นแน่แกร็ก! ประตูห้องประชุมถูกเปิดเข้าไปแบบถือวิสาสะ รักนรินทร์คิดว่าไอรยาคงยังอยู่ในห้องประชุมเพราะต้องได้คุยเรื่องแบบต่อทุกคนที่ยังอยู่ในห้องประชุมต่างก็หันมองมาที่ประตู"ฉันได้ยินท่านประธานบอกว่าคุณได้ดินสอด้ามนี้ที่ถังขยะ" รักนรินทร์เดินตรงเข้าไปแล้ววางดินสอลงตรงหน้าของไอรยา"ค่ะ" ไอรยาตอบรับเมื่อเห็นว่าภูมิฐานเดินตามเข้ามาด้วย"ถังไหนคะ""เออ..ถัง? ถังไหนแล้วทำไมคะ""มันวางอยู่บนโต๊ะทำงานของฉันแล้วมันจะไปอยู่ข้างถังขยะได้ยังไง ฉันก็เลยอยากรู้ว่าถังไหน""ถังหน้าห้อง" ถ้าจะบอกว่าถังขยะที่ไกลกว่านั้น กลัวจะไม่น่าเชื่อถือ"คุณเจอตอนไหน""นี่คุณ ฉันไม่มีเวลามานั่งจำเวลาหรอกนะ""ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวฉันจะให้คนตรวจสอบกล้องวงจรปิดเองแล้วกัน""??" ไอรยาลืมคิดเรื่องนี้ไปเลยคนที่อยู่ในห้องประชุมได้แค่นั่งฟัง เพราะไม่รู้ว่าทั้งสองมีเรื่องอะไรกัน"ออกไปก่อนครับ" ภูมิฐานเป็นคนสั่ง เพราะเห็นแล้วว่าศึกครั้งนี้คงไม่สงบง่าย"ไม่ต้องหรอกค่ะ อยู่ฟังด้วยกันนี่แหละ"คนที่กำลังเก็บของจะลุกขึ้นต่างก็นั่งลงที่เดิม เมื่อได้ยินรักนรินทร์สั่งอี
แกร็ก~ "??" พอรู้ว่าใครมาเคาะประตูเท่านั้นแหละ รักนรินทร์ก็รีบปิด..แต่ก็ไม่ทัน"คุณออกจากห้องฉันไปเดี๋ยวนี้เลยนะ"แต่ดูเหมือนว่าภูมิฐานจะไม่สนใจที่เธอไล่ เขายังคงดันประตูแล้วก็แทรกตัวเข้ามา"คุณดื่มเหล้ามาเหรอ?""ขอค้างด้วยหน่อยสิ""คุณเห็นฉันเป็นอะไร""ผมยังไม่รู้ เราคบกันดูก่อนไหม" มันเป็นสิ่งที่เขาคิดไว้ ในระหว่างที่เขายังไม่รู้ใจตัวเองอยากจะอยู่ใกล้เธอให้มากที่สุด"อะไรนะ?""ในระหว่างนี้เราก็คบกันไปก่อน""ฟังดูดีนะ คนเห็นแก่ตัว" ถ้าเขาขอเป็นแฟนเธออาจจะรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง แต่นี่แค่มาขอคบ แถมยังคบกันดูก่อนอีก"แล้วคุณต้องการแบบไหนก็บอกมาสิ""ต้องการให้คุณออกไปจากห้องนี้""คำก็ไล่สองคำก็ไล่ คุณจะให้ผมคิดยังไง""คิดว่าฉันไม่สนใจคุณไง ถ้าสนใจคุณแล้วฉันจะไล่เหรอ""ถ้างั้นแสดงว่าผมคิดกับคุณอยู่ฝ่ายเดียวหรอกหรือ"หญิงสาวทำได้แค่กลืนน้ำลายลงคอ เขาไม่คิดเหรอว่าเธอต้องเล่นตัวไว้บ้าง ถ้ารีบตกลงไป ก็จะดูเหมือนไม่มีค่าไม่มีราคาอะไรเลย"อืม?!" ในขณะที่กำลังใช้ความคิดอยู่นั้นก็ถูกอีกฝ่ายจู่โจมโดยการจูบมือเรียวแนบลงที่แผ่นอกกว้าง นี่เธอโหยหาจูบจากเขาขนาดนี้เลยเหรอ เพราะแรงจะผลักออกก็ยังไม่มีเมื่