เหตุการณ์ต่อจากตอนนั้น ตอนที่เขากระซิบใกล้ ..ถ้าผู้ชายคนนี้ไม่ใช่เจ้านายของพี่สาว เธอสาบานได้เลยว่า ป่านนี้เขาคงไปฟื้นที่โรงพยาบาลแล้ว หญิงสาวทำได้แค่กัดฟันไว้ ไม่ใช่ว่าผู้หญิงทุกคนจะชอบคนหล่อรวยเสมอไปสะที่ไหน
เพราะคนพวกนี้ ยังไงเธอก็เอื้อมไม่ถึงอยู่แล้ว จะไปชอบให้เสียเวลาชีวิตทำไม..
"ผู้หญิงคนนี้ เป็นน้องสาวของเลขาเราไม่ใช่เหรอ"
"ทำการบ้านมาดีนี่ครับ..รู้เร็วจัง"
"คฑา! อย่ามาเล่นลิ้นกับพี่นะ"
"ผมรู้ว่างานโรงแรมคืนนี้แม่เป็นคนจัดฉากขึ้นมา เดี๋ยวก็หาผู้หญิงมาประเคนให้ผมอีก พี่รู้ไหมว่าผม.."
"แต่เราก็ต้องมีคู่ครองได้แล้ว" คนเป็นพี่พูดแทรกขึ้นมาในทันที
"พี่พูดแบบนี้ไม่สงสาร เมียผมบ้างเหรอครับ"
มะ? เมีย?? เอาแล้วไง หนักกว่าที่คิดอีก ..หญิงสาวที่ถูกเขาโอบกอดไว้ ทำได้แค่คิดอยู่ในใจ
"แกอย่ามาใช้คำว่าเมีย ผู้หญิงคนนี้เป็นใครมาจากไหนก็ยังไม่รู้"
"พี่ไม่ใช่เหรอครับที่บอกผมว่าเธอเป็นน้องสาวของเลขา"
"คฑาอย่าย้อนพี่ได้ไหม คืนนี้ยังไงเราต้องไปทานข้าวที่โรงแรมให้ได้ ลูกสาวของคุณหญิงมาลัย เพิ่งบินมาจากยุโรป"
"แล้วไงครับ พี่ก็แต่งเองเลยสิ"
"คฑา!!" เรามารู้จักพี่ของท่านประธานคฑากันบ้าง ..เธอเป็นผู้หญิง และเป็นผู้บริหารโรงแรมที่กล่าวอ้างมาว่ามีงานเลี้ยง และเธอก็มีสามีแล้ว แต่.. เธอไม่สามารถที่จะมีหลานให้ยายอุ้มได้ เพราะอุบัติเหตุในสมัยนั้น ทำให้ถูกตัดอวัยวะที่สำคัญที่สุดส่วนนั้นออกไป ความหวังเดียวของวงตระกูลก็เลยตกมาอยู่ที่คฑา
"ฉันว่าเธอออกไปก่อนดีกว่าไหม ฉันขอคุยส่วนตัวกับน้องชายหน่อย" กัลยาไม่คิดว่าน้องชายจะจริงจังกับผู้หญิงแบบนี้ เพราะเขารู้จักน้องชายดีกว่าใคร
"ค่ะ" คนตัวเล็กรีบยันกายลุกขึ้น แต่ก็ไม่มีแรงมากพอที่จะทำให้เขาปล่อยได้ สะโพกของเธอก็เลยต้องได้ทิ้งลงที่เดิม เพิ่มเติมคือตอนนี้ รู้สึกว่ามีพลังงานอะไรบางอย่างดัน สะโพกของเธออยู่ "????"
"ผมว่าพี่นั่นแหละครับออกไป ตอนนี้ผมพร้อมที่จะทำหลานให้กับคุณแม่แล้วครับ" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับมองต่ำลงไปที่น้องชาย..
"นี่คุณ!" หญิงสาวที่ถูกเขาดึงเข้ามามีเอี่ยวด้วยเริ่มจะไม่พอใจ"ใจเย็นก่อนสิครับรอให้พี่สาวผมออกไปก่อน" ดวงตาคมกริบมองจ้องแบบเปล่งประกาย จนทำให้คนที่ถูกมองสะท้านเข้าไปถึงทรวงหญิงสาวลอบกลืนน้ำลายลงคอหายใจติดขัด เพราะมองใกล้ระยะเผาขนขนาดนี้"ยังไงคืนนี้แกต้องไปงานเลี้ยงที่โรงแรมให้ได้ ถ้าแกไม่ไป คงรู้นะว่าพี่จะทำอะไร!" ว่าแล้วกัลยาก็สะบัดบ๊อบออกไปในทันทีเสียงถอนหายใจของชายหนุ่มดังออกมาเมื่อประตูบานนั้นถูกปิดลง แววตาที่เขามองเธอเมื่อสักครู่เปลี่ยนไป จนหญิงสาวต้องรีบลุกออกจากตัก เพราะรู้ดีแล้วว่าเขาจะพูดอะไร"เดี๋ยวก่อน" คฑาเอ่ยพูดขึ้นเมื่อเห็นเธอเดินไปที่ประตู หญิงสาวหยุดแล้วค่อยๆ หันกลับมา"คะ?" เขาจะว่าอะไรให้เราไหมเนี่ย ถ้าเหมือนตอนที่เล่นละครตบตาแม่ พอเราหมดประโยชน์แล้วเขาก็ไล่ออกจากห้อง ..เธอถึงต้องได้รีบออกไปก่อนที่เขาจะไล่"ฉันรู้ว่าเธอฉลาดพอ ที่จะไม่พูดเรื่องนี้""เรื่องอะไรคะ""ก็เรื่อง...." ชายหนุ่มหยุดพูด คิ้วหนาขมวดเข้าหากัน ดวงตาคมมองไปที่หญิงคนที่กล้าย้อนถามเขา เพราะเธอฉลาดกว่าที่เขาคิด "ออกไปได้"เย็นวันเดียวกัน..ที่โรงแรมหรู"หนูไม่ทำให้แม่ผิดหวังจริงๆ" อัญชัญเอ่ยชมลูกสา
"ตกลงพี่จะให้ฉันเข้าไปไหม" ไม่รู้จะตอบพี่สาวยังไง เพราะเธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันกำลังเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง"อย่าทำให้พี่ลำบากใจเข้าใจไหม ..รู้ไหมว่างานสมัยนี้มันหายาก ยิ่งตอนนี้พี่ใกล้คลอด ต้องได้เก็บเงินไว้เลี้ยงหลานอีก""ค่ะ" ถ้าเขาไม่เริ่มก่อนนะ ..ประโยคหลังเธอได้แค่คิดเอาเพราะไม่กล้าพูดกลัวพี่สาวจะไม่สบายใจแล้วหญิงสาวร่างระหงก็ได้ก้าวเดินมาที่หน้าห้องของท่านประธาน พร้อมกับเคาะประตูเบาๆ"เชิญ"ประตูบานนั้นถูกเปิดเข้ามาทันทีที่เจ้าของห้องอนุญาต พอเธอเข้ามาก็เห็นว่าเขายืนล้วงกระเป๋ากางเกงอยู่ สายตามองทอดออกไปนอกอาคารที่รอบล้อมไปด้วยกระจก"เธอต้องการเท่าไร" ชายหนุ่มพูดออกไปแบบไม่อ้อมค้อม แต่ที่จริงมันก็เป็นนิสัยของเขาอยู่แล้ว"คะ??" ดวงตากลมเปิดกว้างขึ้นเมื่อได้ยินประโยคนั้นจากปากเจ้านาย"ฉันจะให้เงินเท่าที่เธอต้องการ""บอสจะให้ฉันทำไม" หญิงสาวพยายามคิดถึงหน้าพี่สาวไว้ให้มาก เพราะถ้าบู่มบ่ามพูดอะไรออกไปกลัวพี่สาวจะลำบากไปด้วย"ฉันไม่ได้พิศวาสอะไรในตัวเธอหรอก""อ้าว!" หญิงสาวเอ่ยพูดขึ้นโดยที่ไม่ได้รอฟังให้จบก่อน ในเมื่อไม่พิศวาสแล้วจะเรียกเธอเข้ามาหาพระแสงอะไร"ฟังให้จบก่อนสิ""ว่ามา
ดวงตาอัญชัญมองลูกชายแบบเปล่งประกาย นางหยุดพูดตั้งแต่ถามประโยคที่ว่า ลูกชายไม่รู้จักชื่อผู้หญิงคนนั้นเหรอและเหมือนกับลูกชายจะรู้ว่าแม่กำลังคิดอะไรอยู่ เขาพลาดเองที่ไม่รู้จักชื่อเธอ แต่แม่เขานี่ก็ยิ่งกว่า 5g สะอีก รู้ดีทุกเรื่องจริงๆชายหนุ่มขึ้นมาถึงข้างบน มือหนาล้วงเอาโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงออกมารูดค้นหาชื่อของเลขา เพื่อที่จะโทรไปถามว่าน้องสาวของเธอชื่ออะไร แต่เขาต้องได้รีบหยุดตัวเองไว้ก่อนวันต่อมาที่บริษัท.."ผมจะไปดูงานที่ต่างจังหวัด""ค่ะ" รรินธรยืนฟังเจ้านายสั่งงาน"ผมจำเป็นต้องได้ให้เลขาไปด้วย ดูจากคุณรินแล้วคงจะไปไม่ได้""คะ?..เออ..ค่ะ" ไม่ว่าท่านประธานจะไปดูงานที่ต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ ก็ไม่เคยต้องเอาเลขาติดไปด้วย เพราะมีผู้ช่วยที่เป็นผู้ชายอยู่แล้ว"เพราะฉะนั้นคงเป็นหน้าที่เลขาใหม่แล้วล่ะ คุณบอกคนที่จะมาทำตำแหน่งเลขาแทนคุณให้เตรียมตัวด้วยนะเราจะเดินทางไปสามวัน""บอสหมายถึงน้องสาวของรินเหรอคะ""ก็คุณเอาน้องสาวมาทำงานในตำแหน่งนี้แทนคุณไม่ใช่เหรอ""แต่รันทำอะไรยังไม่ค่อยเป็นนะคะ""รันเหรอ" ในที่สุดก็รู้ชื่อเล่นของเธอแล้ว "ช่วยเอาสำเนาบัตรประชาชนของน้องสาวคุณ มาให้ผมด้วยนะ เด
วันต่อมา..คฑาจำเป็นต้องได้ล้มเลิกแผนการ ที่จะพาเธอไปด้วย เพราะถ้าเธอไป เขาก็ต้องได้พาผู้หญิงที่แม่จัดหามาให้ไปด้วย แถมต้องได้ให้ผู้หญิงคนนั้นเข้ามาทำงานในบริษัท ความวุ่นวายคงได้บังเกิดแน่ชายหนุ่มก็เลยไปดูงานกับผู้ช่วยแค่สองคน จริงๆ แล้วงานไม่จำเป็นต้องมาดูถึงสามวัน เขาแค่อยากจะสานสัมพันธ์กับเธอ แต่พอเธอไม่มาด้วย พอเสร็จงานเขาก็เลยต้องบินกลับ ภายในวันนั้นเลยแต่กลับมาถึงก็ไม่ได้บอกใคร ชายหนุ่มมาพักอยู่ที่คอนโดหรู ใจกลางเมืองที่ซื้อทิ้งไว้ แต่ก่อนตอนที่ยังมีพ่ออยู่ เขามาพักอยู่ที่นี่ประจำ พอเสียพ่อไปแล้ว ก็เลยต้องได้กลับไปค้างที่บ้านเป็นเพื่อนแม่อีกหนึ่งวันผ่านไป.. เขาถือว่าเป็นการพักผ่อนไปในตัว ตั้งแต่กลับมาเมื่อวานนี้คฑาก็ใช้เวลาทั้งหมดอยู่ในคอนโด และอดไม่ได้ที่จะคิดถึงคนที่เคยอยู่ร่วมคอนโดเดียวกัน ถึงเธอคนนั้นจะจากเขาไป เพราะเงินก้อนใหญ่ที่แม่เสนอให้ เขาก็ยังอดคิดถึงเธอไม่ได้คฑาต้องได้รีบสลัดภาพเก่าๆ ให้ออกไป เพราะถึงยังไงเธอก็เลือกเงิน ไม่ได้เลือกความรัก นี่แหละที่เขาไม่สนใจผู้หญิงคนไหนอีกเลย เพราะคิดว่าผู้หญิงทุกคนหวังแค่เงินคฑาพักผ่อนอยู่ได้เพียงไม่นาน ก็ต้องได้เข้าบริษัท เพ
หลายวันผ่านไป.. จากวันนั้นคฑาก็ยังหาวิธีโน้มน้าวจิตใจของเธอ แต่ก็ไม่ได้ผล จะใช้งานผู้หญิงคนอื่นก็ไม่ได้ เพราะเขาได้โยนบทบาทนี้ให้กับเธอไปแล้วหึ..ธุรกิจมูลค่าหมื่นล้าน เขายังสานต่อจากพ่อมาได้ แต่กับผู้หญิงคนนี้ทำไมมันยากนักวะสายตาของทุกคนในห้องประชุมต่างก็เพ่งเล็งมาที่เดียวกัน..นั่นคือท่านประธาน"บอสครับ" นิรันดร์ผู้ช่วยได้สะกิดผู้เป็นนายเบาๆ"หือ? เอกสารพร้อมแล้วเหรอ""พร้อมแล้วครับ""พร้อมแล้วจะรออะไรอยู่ ก็เปิดดูกันสิครับ" เขาแค่พูดกลบเกลื่อนไปความแปลกของผู้หญิงคนนี้ไม่ได้มีแค่ชื่อ นิสัยของเธอก็ยังแปลกไม่ยอมใคร คนแบบนี้แหละที่เขากำลังต้องการมุมปากชายหนุ่มยกยิ้มขึ้นเมื่อเปิดเอกสาร ..ผู้บริหารและหัวหน้าฝ่ายที่เข้าร่วมประชุมต่างก็มองเอกสารกันให้วุ่น เพราะไม่รู้ว่าตรงไหนที่ทำให้ ท่านประธานอารมณ์ดีได้ถึงขนาดนี้หลังการประชุม.."คุณระ..ระ..""คะ?" เธอรู้ได้ในทันทีว่าเขาคงต้องการอยากจะเรียกชื่อเธอ แต่คงยังจำไม่ได้"เข้าไปหาผมในห้องหน่อย" ชายหนุ่มที่เพิ่งจะออกมาจากห้องประชุม ก็รีบตรงเข้าไปในห้องทำงาน "ระรอนรัน..ไม่สิ..ระรันรอน.." ก่อนที่เธอจะเข้ามาเขาพยายามทำความเข้าใจกับชื่อของเธอ"คะ?
>>{"คุณคือญาติของคุณรรินธร ใช่ไหมคะ"} {"ใช่ค่ะ??"} ถ้าตั้งใจฟังดีๆ ตอนนี้น้ำเสียงของเธอเริ่มสั่น เพราะรู้สึกใจไม่ดีตั้งแต่พี่สาวออกไปแล้ว แถมยังมีคนโทรมาถามว่าเป็นญาติของพี่สาวไหม"ตอนนี้คุณรรินธร ประสบอุบัติเหตุ ทางเราต้องได้ผ่าคลอดให้เธอเป็นเคสเร่งด่วน คุณช่วยมาที่โรงพยาบาลได้ไหมคะ"กึก!! โทรศัพท์ในมือร่วงลงพื้นแบบไม่รู้ตัว ร่างกายของเธอชาไปหมดจนทำอะไรไม่ถูกแกร็ก! ประตูห้องถูกเปิดออกมาพร้อมกับเจ้าของเรือนร่างสูงโปร่ง สายตาของเขามองกวาดไปทั่วหน้าห้อง แต่ก็ไม่เจอใครอยู่เลย"อะไรกัน" ชายหนุ่มไม่พอใจ..ถึงแม้ว่าเลขาคนพี่มีธุระกลับก่อน แต่คนน้องสมควรที่จะกลับทีหลังเขาไม่ใช่เหรอ คฑาก็เลยต้องได้กลับเข้าไปปิดไฟ ปิดประตูเองเช้าวันต่อมา.."นี่อะไรกัน" เมื่อวานนี้ออกไปก่อนก็ยังพออนุโลมได้ แต่มาวันนี้ ทั้งคนพี่และคนน้องก็ยังไม่เข้าบริษัทนิรันดร์ผู้ช่วยก็เลยต้องเป็นคนตามเอกสารให้กับท่านประธานเอง"เอกสารที่บอสต้องการครับ""ติดต่อได้หรือยัง" คฑาสั่งให้ผู้ช่วยติดต่อเลขาไป"ยังไม่ได้เลยครับ" นิรันดร์โทรหาทั้งพี่และน้องไม่มีใครเปิดเครื่องเลยสักคน "กำหนดคลอดก็ยังเหลืออีกตั้งสองสัปดาห์นี่ครับ""อ
"คุณแม่?""นี่มันอะไรกัน!" อัญชัญมองมือที่เกาะแขนลูกชายแบบไม่พอใจเอามากๆหญิงสาวเห็นสายตานั้นแล้วกำลังจะชักมือออก แต่ถูกเขาเหนี่ยวรั้งไว้ ถ้าเป็นก่อนหน้านี้เธอคงจะปฏิเสธ ..แต่ครั้งนี้จากที่ทำแค่เกาะ มือเรียวเลื่อนขึ้นเป็นคล้องแขนเขาไว้ เหมือนคู่รักทั่วไปที่ทำกัน"ผมกำลังจะออกไปทานข้าวข้างนอกครับ คุณแม่มีธุระอะไร" ชายหนุ่มมองดูผู้หญิงที่มากับแม่แบบไม่พอใจ"แม่กำลังจะมาชวนลูกไปทานข้าวนั่นแหละ พอดีเลยออกไปทานพร้อมกัน""ผมจะไปทานกับ.." สายตาของเขามองกลับมาดูคนที่กอดแขนเขาอยู่ กลัวว่าเธอจะไม่เล่นละครด้วย"ฉันหิวแล้วค่ะเรารีบไปกันเถอะ" รรรรรรรู้ดีว่าเวลานี้เธอต้องทำยังไง"คุณแม่คะ เอมมี่ว่าเรากลับกันดีกว่า" หญิงสาวที่มากับอัญชัญเอ่ยพูดขึ้นด้วยใบหน้าที่สื่อออกมาให้เห็นว่าเสียใจมาก กับภาพที่เห็นอยู่ในเวลานี้"หนูคือลูกสะใภ้ของแม่ตัวจริงจะกลัวอะไรล่ะ""แม่จะพูดอะไรก็สงสารเมียผมบ้างสิ""เมีย?" เห็นควงแขนกันก็ว่าตกใจมากแล้ว แต่ได้ยินคำว่าเมียออกจากปากท่านประธาน นิรันดร์ถึงกับทำอะไรไม่ถูก"แกจะเอาใครเป็นเมียกี่ร้อยกี่พันคนแม่ไม่ว่า แต่คนที่จะมาเป็นลูกสะใภ้ของแม่มีแค่คนนี้คนเดียวเท่านั้น!""คงไม่ไ
แล้วคฑาจะรออะไร เงินหนึ่งล้านบาทสำหรับเขามันแค่เศษฝุ่น ชายหนุ่มโอนเข้าบัญชีธนาคารให้กับเธอในทันที เพราะนั่นมันหมายถึงการผูกมัดเธอเพื่อที่จะเก็บไว้ใช้งานพอได้เงินรรรรรรก็ขอไปทำธุระให้เสร็จก่อน แล้วค่อยจะกลับมาหาเขา ซึ่งคฑาก็ยอม ในที่สุดผู้หญิงทุกคนไม่เว้นแม้แต่คนที่หยิ่งผยองแบบเธอก็ยังต้องการเงินของเขาอยู่ดีโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง..นี่แหละเหตุผลที่เธอต้องใช้เงินถึงหนึ่งล้านบาท เพราะพี่สาวของเธอถูกส่งมารักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชน และค่าใช้จ่ายก็สูงลิบลิ่วที่รรรรรรเลือกโรงพยาบาลแห่งนี้ เพราะเธอเหลือพี่สาวแค่คนเดียว ถึงแม้ว่าตอนนี้เด็กจะถูกผ่าคลอดออกมา แต่ก็ต้องได้อยู่ห้องอบสำหรับเด็กทารกแรกเกิด เพราะได้รับความกระทบกระเทือนตอนที่แม่ประสบอุบัติเหตุ"พี่สาวของฉันปลอดภัยแล้วใช่ไหมคะคุณหมอ" หญิงสาวถามขึ้นเมื่อเห็นคุณหมอออกมาจากห้องผ่าตัด"ใช่แล้วครับ แต่ต้องรอให้เธอฟื้นตัวให้ได้ก่อน คงใช้เวลาอีกสักระยะ""ฝากคุณหมอดูแลพี่สาวและก็หลานของฉันด้วยนะคะ" ตอนนี้ยิ่งกว่ายกภูเขาออกจากอกเมื่อรู้ว่าพี่สาวปลอดภัยแล้ว แต่ด่านต่อไปที่เธอจะเจอมันคงหนักหนาเอาการ เพราะเธอเห็นฤทธิ์เดชของแม่และพี่สาวของเขาแล้ว
เช้าวันต่อมา.."ขอบพระคุณคุณปู่คุณย่ามากนะคะ""ถ้าอยากมาค้างที่นี่ก็มาได้ตลอดเวลาเลยนะ ปู่กับย่ายินดีต้อนรับเสมอ""ขอบคุณมากเลยนะครับ ส่วนเรื่องประตู เดี๋ยวผมจะให้ช่างมาดูให้""ไม่เป็นไรหรอก แค่เปลี่ยนลูกบิดเฉยๆ ก็ใช้งานได้เหมือนเดิมแล้ว""ให้ช่างมาดูดีกว่าค่ะคุณปู่" รักนรินทร์เกรงใจ มาขออาศัยอยู่บ้านท่านแท้ๆ ยังมาทำของท่านเสียหายอีก"ถ้างั้นก็เอาที่พวกเราสบายใจเลยแล้วกัน เดินทางปลอดภัยนะลูก""ขอบคุณอีกครั้งนะคะ" ทั้งสองไหว้ร่ำลาพวกท่านแล้วก็ออกมา[บ้านภูมิฐาน]ชายหนุ่มพาเธอกลับมาที่บ้านก่อน เพื่อจะมาเปลี่ยนเสื้อผ้าพอมาถึงก็เจอพ่อกับแม่ของเขาอยู่ที่บ้านพอดี"คุณพ่อจะออกไปไหนหรือครับ" เดินเข้ามาก็เห็นผู้เป็นพ่อกำลังจะออกจากบ้าน"ก็เข้าบริษัทน่ะสิ ที่บริษัทโทรมาบอกว่าตามตัวผู้บริหารไม่เจอ""ขอโทษครับ เดี๋ยวผมเข้าไปเอง แต่ขอขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะครับ" เขามัวแต่ยุ่งตามหาเธออยู่ ก็เลยปล่อยปละละเลยเรื่องบริษัทไป"ฉันรออยู่ข้างล่างได้ค่ะ" หญิงสาวชักมือออกเมื่อเขายื่นมาจะจูงเธอขึ้นไปด้วย"จะรออยู่ข้างล่างทำไม..ไม่อาบน้ำก่อนหรือไง""คุณก็ไปอาบเองสิ""ไปด้วยกัน แล้วก็เข้าบริษัทด้วยกัน""ฉ
"ใครเขาจะให้คุณนอนด้วย" หญิงสาวรีบเก็บของบนโต๊ะอาหาร พอเก็บเสร็จก็เดินไปที่ประตูบ้าน "คุณกลับไปเลยนะ ฉันจะล็อกบ้านแล้ว""บอกแล้วไงว่าจะนอนที่นี่ด้วย""แต่นี่มันไม่ใช่บ้านฉันนะ""งั้นก็กลับบ้านสิ""ไม่"จากที่ยืนกอดอกพิงผนังอยู่ชายหนุ่มก็ก้าวเดินไปที่บันได"นี่คุณ!" รักนรินทร์รีบหันไปล็อกบ้านไว้แล้วก็เดินตามเขาขึ้นมา"คุณพักอยู่ห้องไหน""ไม่บอก"ไม่บอกก็ไม่เห็นจะยาก เพราะชั้นบนมีห้องนอนแค่สองห้อง ภูมิฐานเดินไปหน้าห้องนอนหนึ่งในสองนั้น"คุณภูมิหยุดเดี๋ยวนี้นะ!" รักนรินทร์รีบเดินเข้าไปรั้งตัวเขาไว้ก่อนที่จะเปิดประตูห้องนั้น "นี่มันห้องของคุณปู่คุณย่า""คุณก็ไม่บอกแต่ทีแรก" ว่าแล้วชายหนุ่มก็เอื้อมไปเปิดอีกห้องที่อยู่ข้างกัน หญิงสาวก็เลยรีบตามเข้าไป"ก็ได้แต่ฉันให้คุณค้างแค่คืนนี้คืนเดียวนะ"เขาไม่ตอบ..ให้พ้นคืนนี้ไปก่อนแล้วกัน ถ้ายังรับไหวอยู่ภูมิฐานเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วก็เข้าห้องน้ำ ทำเหมือนบ้านของตัวเองยังไงยังงั้นรักนรินทร์ได้แต่ยืนทำหน้าบูดบึ้งใส่ แต่หัวใจกลับเต้นแรงสวนทางกับสิ่งที่แสดงออกมาเพียงไม่นานภูมิฐานก็ออกมาจากห้องน้ำ เธอก็เลยเข้าไปใช้ต่อพรึบ! "กรี๊ดด" หญิงสาวที่กำลังอา
[คอนโด]เพียงไม่นานรถของภูมิฐานก็มาถึงคอนโด ชายหนุ่มลงจากรถได้ก็รีบตรงขึ้นไปก๊อก ก๊อกแกร็ก! แกร็ก!! เขาไม่มีคีย์การ์ดของห้องนี้ ก็เลยต้องได้เคาะประตูแล้วลองเปิด แต่ข้างในก็ยังเงียบอยู่"รักนรินทร์..คุณมาถึงหรือยังเปิดประตูให้ผมหน่อย" ขณะที่เรียกเขาก็ยังคงเคาะประตู แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับใดๆชายหนุ่มเอาโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาเธอ หลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ยังคงเหมือนเดิม[ร้านขายของชำ]"ผมก็ได้ยินคุณแม่บอกว่า ได้ฤกษ์ยามแล้วไม่ใช่หรือครับพี่" เมื่อเกียร์เห็นพี่สาวมาหา ด้วยใบหน้าที่เศร้าหมอง ก็เลยถามเอาความจริง"สงสัยเขาจะยังไม่พร้อม""พี่จะไปสนใจอะไร" เกียร์ของขึ้นทันทีเมื่อได้ยินว่าฝ่ายชายไม่พร้อมที่จะแต่งงานกับพี่สาว"เรื่องนี้เราอย่าไปพูดให้ใครฟังนะ" ที่รักนรินทร์ต้องเล่าให้เกียร์ฟังก็เพราะอยากจะมาขออาศัยอยู่ที่นี่ก่อน ในระหว่างที่รอให้เขาตัดสินใจ พอคิดแล้วดูเหมือนไม่มีค่า ต้องให้ผู้ชายตัดสินใจว่าอยากจะแต่งงานด้วยไหม"ถ้างั้นพี่ก็ค้างที่ห้องผมเลยแล้วกัน..เพราะผมต้องกลับไปค้างที่บ้านของคุณแม่" ข้าวฟ่างไม่ได้มาด้วย เกียร์แค่แวะมาดูร้านช่วยปู่กับย่า"แล้วคุณปู่คุณย่าของเกียร์จะไม่ว่าพี่เหรอ""
"ปล่อยค่ะนี่มันห้องทำงานนะ" พอเป็นอิสระหญิงสาวก็รีบห้ามปรามกลัวว่าเขาจะเลยเถิด"คุณทำเสน่ห์ใส่ผมหรือเปล่าเนี่ย" ยอมรับว่าไม่เป็นอันทำการทำงานเลย เพราะตั้งแต่ได้สัมผัสร่างกายของเธอมา เขาก็โหยหาเธอโดยตลอด"ทำเสน่ห์? อะไรคือทำเสน่ห์คะ" อย่างที่รู้กันอยู่ว่าเธอเติบโตที่ต่างประเทศ เรื่องแบบนี้ที่นั่นเขาไม่เชื่อกันอยู่แล้ว และไม่มีใครพูดถึง แม้แต่พ่อและแม่ สื่อโซเชียลก็ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่สนใจ แต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี"ผมแค่ล้อเล่น มันเป็นเสน่ห์จากตัวคุณเอง""คุณรักฉันจริงเหรอ" รักนรินทร์ถามอีกครั้ง เพราะคิดว่าเขาคงอยากจะพูดแค่ต่อหน้าผู้ใหญ่"รักสิ ผมรักคุณ ว่าแต่คุณคิดยังไงกับผม""คิดยังไง?" ใช่แล้วเราคิดยังไงกับเขากันแน่ แต่พอได้ยินเขาบอกรักทำไมถึงดีใจมาก ดีใจจนห้ามน้ำตาของตัวเองไม่ได้"ผมไม่ได้บังคับให้คุณพูดหรอก เรื่องแบบนี้ต้องพูดออกมาจากใจ เหมือนที่ผมบอกคุณไง""คุณพูดจากใจจริงหรือคะ" ก็มันยากที่จะเชื่อนี่ วันนั้นยังทำเหมือนไม่ชอบหน้าเธออยู่เลย"ถ้าพูดแล้วคุณยังไม่เชื่อ งั้นผมทำให้คุณเชื่อเลยแล้วกัน""ทำอะไรคะ"คนตัวโตเดินมาที่ประตู แล้วก็จัดการล็อกมันไว้ แถมไม่ได้ล็อกแค่ลูกบิด เขายังล็อกก
"กระดาษอะไรแปะอยู่ด้านหลัง" รรินธรที่ยืนอยู่ห่างหน่อยมองไปเห็นตอนที่สามียกแพทเทิร์นขึ้นมาดูหมั่บ รักนรินทร์รีบดึงมันออกมา แล้วก็ขยำไว้ในมือ "ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ก็แค่เจ้านายเขียนโน้ตแก้งานไว้ค่ะ"ภูมิฐานมองที่มือของเธอแบบยิ้มๆ "คุณพ่อกับคุณแม่ทานข้าวมาหรือยังครับ" แล้วเขาก็หันมาชวนพวกท่านคุย"ยังไม่ได้ทานเลย ก็นัดทานข้าวกับพ่อเรานั่นแหละ ไม่รู้ป่านนี้มาหรือยัง""อ้าวหรือครับ พอดีเลยผมกำลังหิว ขอไปร่วมทานด้วยคนนะครับ"ในขณะนั้นโทรศัพท์ของคริสก็ได้ดังขึ้น และคนที่โทรมาก็คือภูสิษฐ์รับโทรศัพท์อยู่ครู่หนึ่งคริสก็หันมาหาภูมิฐาน"ถ้าจะไปทานด้วยกันก็ป่ะ ตอนนี้พ่อกับแม่เราอยู่ข้างล่างแล้ว" ว่าแล้วคริสก็เอื้อมไปจูงแขนภรรยาให้เดินตามมา ส่วนภูมิฐานก็รีบเดินนำหน้าไป เพื่อเปิดประตูห้องให้"แล้วเราไม่ไปเหรอลูก" รรินธรเห็นว่าลูกสาวไม่เดินตาม"ไม่หรอกค่ะ เดี๋ยวรักหาอะไรทานแถวโรงอาหารนี้ก็ได้"ภูมิฐานถึงกับหันกลับมามอง เพราะเขาเดินนำพวกท่านจะออกนอกห้องอยู่แล้ว..หน้าประตูลิฟต์.."ผมเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ามีงานด่วน คงไปร่วมทานข้าวด้วยไม่ได้ เอาไว้โอกาสหน้านะครับคุณพ่อคุณแม่" เขาพูดในขณะที่ประตูลิฟต์กำลังเปิดอ
แกร็ก! แกร็ก!!"ทำไมประตูเปิดไม่ได้ล่ะคะคุณ หรือคีย์การ์ดใช้ไม่ได้แล้ว" คีย์การ์ดเคยเป็นของรรินธรสมัยที่พักอยู่ที่คอนโดนี้ ตอนนั้นเธอไม่ได้คืนให้กับคฑา แต่ก็ไม่ได้ทิ้งยังคงเก็บไว้เป็นอย่างดี"ก็เปิดได้อยู่นะ..แต่เหมือนถูกปิด" คริสใช้คีย์การ์ดเปิดอีกครั้งลองดู"ใครคะ" เสียงคนที่อยู่ด้านในดังออกมา เมื่อได้ยินว่าคนข้างนอกจะเปิดลองดูอีกครั้ง"อ้าวหนูยังไม่นอนเหรอลูก เปิดประตูให้พ่อกับแม่หน่อย" ที่ไม่เคาะเรียกเพราะกลัวจะรบกวนลูกสาว"แป๊บหนึ่งนะคะพ่อ"ที่คริสเปิดประตูเข้ามาไม่ได้ ก็เพราะตอนนั้นภูมิฐานอุ้มรักนรินทร์ยืนอยู่ใกล้ประตู พอได้ยินเสียงแกร๊กเท่านั้นแหละเขาก็รีบใช้มือดันประตูปิดไว้เหมือนเดิม ด้านในมันก็เลยล็อกอีกที ..และตอนนี้ทั้งสองกำลังมัววุ่นใส่เสื้อผ้ากันอยู่แกร็ก~"อ้าวนี่หนูยังไม่อาบน้ำเลยเหรอลูก แม่นึกว่าหนูหลับไปแล้วเสียอีก""ยังค่ะมัวเคลียร์งานอยู่" โกหกแม่จะบาปไหมเรา"ถ้างั้นหนูก็ไปทำงานต่อเถอะลูก ไม่ต้องห่วงพ่อกับแม่หรอก""คุณพ่อจะทำอะไรคะ" รักนรินทร์เห็นพ่อกำลังจะเดินไปเปิดประตูห้องนอน"หนูจะให้พ่อกับแม่นอนห้องไหนล่ะ" คริสถึงกับตกใจแล้วหันกลับมาถามลูกสาว"อีกห้องค่ะพ่อ"
[ร้านอาหารหรู]"ว่าไงเสือ""ใครเสือ เรียกให้ถูกหน่อยสิ" ดวงตาภูสิษฐ์ กรอกมองไปดูภรรยาที่นั่งอยู่ข้างๆ ถ้าจำกันได้สมัยก่อนภูสิษฐ์ก็ไม่ใช่เบาๆ และคนที่กล้าเรียกเขาว่าเสือก็คือ.. "นายก็ไม่เบาเหมือนกันแหละไอ้คุณคริส"ใช่แล้วคนที่คริสมาทานข้าวด้วยก็คือภูสิษฐ์ ทั้งสองรู้จักกันที่ต่างประเทศ หลายสิบปีผ่านมาแล้ว"อุ๊ย" เมื่อได้ยินเพื่อนเอาคืนคริสก็ได้มองมาที่ภรรยาบ้าง พอเห็นสายตาพิฆาตแล้วถึงกับเสียวสันหลังวูบ"แล้วเมื่อไรเด็กๆ จะมากันเนี่ย" สามีทั้งสองยกนาฬิกาขึ้นมาและพูดพร้อมกันโดยที่ไม่ได้นัดหมาย"ไม่มีพิรุธเลยนะคะ""แหะๆ เมียจ๋าา อย่าไปเชื่อไอ้ภูมันเลย""นั่นไงมาแล้ว" เหมือนกรรมการตีระฆังเพื่อพักยก เมื่อเห็นภูมิฐานเดินเข้ามาพอมองเห็นแล้วว่าพ่อกับแม่นั่งอยู่โต๊ะไหนภูมิฐานก็เดินตรงเข้ามา สายตาคมมองดูชายหญิงวัยกลางคนคู่หนึ่งที่นั่งอยู่โต๊ะเดียวกัน"สวัสดีครับ" เขายังไม่รู้หรอกว่าทั้งสองท่านเป็นใครแต่ด้วยมารยาทพอมาถึงก็ยกมือไหว้"หล่อกว่าพ่อเยอะเลยนะเนี่ย" คริสพูดพร้อมกับรับไหว้"ขอบคุณครับ" ชายหนุ่มมองไปที่พ่อ เพื่ออยากจะถามว่าเพื่อนของท่านทำไมเขาถึงไม่รู้จัก"เพื่อนพ่อเพิ่งเดินทางมาจากต่างปร
ภูมิฐานรีบตามออกมา คิดว่าที่เธอรีบออกไปคงเพราะเรื่องดินสอแท่งนั้นแน่แกร็ก! ประตูห้องประชุมถูกเปิดเข้าไปแบบถือวิสาสะ รักนรินทร์คิดว่าไอรยาคงยังอยู่ในห้องประชุมเพราะต้องได้คุยเรื่องแบบต่อทุกคนที่ยังอยู่ในห้องประชุมต่างก็หันมองมาที่ประตู"ฉันได้ยินท่านประธานบอกว่าคุณได้ดินสอด้ามนี้ที่ถังขยะ" รักนรินทร์เดินตรงเข้าไปแล้ววางดินสอลงตรงหน้าของไอรยา"ค่ะ" ไอรยาตอบรับเมื่อเห็นว่าภูมิฐานเดินตามเข้ามาด้วย"ถังไหนคะ""เออ..ถัง? ถังไหนแล้วทำไมคะ""มันวางอยู่บนโต๊ะทำงานของฉันแล้วมันจะไปอยู่ข้างถังขยะได้ยังไง ฉันก็เลยอยากรู้ว่าถังไหน""ถังหน้าห้อง" ถ้าจะบอกว่าถังขยะที่ไกลกว่านั้น กลัวจะไม่น่าเชื่อถือ"คุณเจอตอนไหน""นี่คุณ ฉันไม่มีเวลามานั่งจำเวลาหรอกนะ""ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวฉันจะให้คนตรวจสอบกล้องวงจรปิดเองแล้วกัน""??" ไอรยาลืมคิดเรื่องนี้ไปเลยคนที่อยู่ในห้องประชุมได้แค่นั่งฟัง เพราะไม่รู้ว่าทั้งสองมีเรื่องอะไรกัน"ออกไปก่อนครับ" ภูมิฐานเป็นคนสั่ง เพราะเห็นแล้วว่าศึกครั้งนี้คงไม่สงบง่าย"ไม่ต้องหรอกค่ะ อยู่ฟังด้วยกันนี่แหละ"คนที่กำลังเก็บของจะลุกขึ้นต่างก็นั่งลงที่เดิม เมื่อได้ยินรักนรินทร์สั่งอี
แกร็ก~ "??" พอรู้ว่าใครมาเคาะประตูเท่านั้นแหละ รักนรินทร์ก็รีบปิด..แต่ก็ไม่ทัน"คุณออกจากห้องฉันไปเดี๋ยวนี้เลยนะ"แต่ดูเหมือนว่าภูมิฐานจะไม่สนใจที่เธอไล่ เขายังคงดันประตูแล้วก็แทรกตัวเข้ามา"คุณดื่มเหล้ามาเหรอ?""ขอค้างด้วยหน่อยสิ""คุณเห็นฉันเป็นอะไร""ผมยังไม่รู้ เราคบกันดูก่อนไหม" มันเป็นสิ่งที่เขาคิดไว้ ในระหว่างที่เขายังไม่รู้ใจตัวเองอยากจะอยู่ใกล้เธอให้มากที่สุด"อะไรนะ?""ในระหว่างนี้เราก็คบกันไปก่อน""ฟังดูดีนะ คนเห็นแก่ตัว" ถ้าเขาขอเป็นแฟนเธออาจจะรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง แต่นี่แค่มาขอคบ แถมยังคบกันดูก่อนอีก"แล้วคุณต้องการแบบไหนก็บอกมาสิ""ต้องการให้คุณออกไปจากห้องนี้""คำก็ไล่สองคำก็ไล่ คุณจะให้ผมคิดยังไง""คิดว่าฉันไม่สนใจคุณไง ถ้าสนใจคุณแล้วฉันจะไล่เหรอ""ถ้างั้นแสดงว่าผมคิดกับคุณอยู่ฝ่ายเดียวหรอกหรือ"หญิงสาวทำได้แค่กลืนน้ำลายลงคอ เขาไม่คิดเหรอว่าเธอต้องเล่นตัวไว้บ้าง ถ้ารีบตกลงไป ก็จะดูเหมือนไม่มีค่าไม่มีราคาอะไรเลย"อืม?!" ในขณะที่กำลังใช้ความคิดอยู่นั้นก็ถูกอีกฝ่ายจู่โจมโดยการจูบมือเรียวแนบลงที่แผ่นอกกว้าง นี่เธอโหยหาจูบจากเขาขนาดนี้เลยเหรอ เพราะแรงจะผลักออกก็ยังไม่มีเมื่