[สถานบันเทิงแห่งหนึ่ง]
"อยากทานอะไรก็สั่งเพิ่มได้เลยนะ"
"ขอบคุณค่ะ"
"สักห้าทุ่มค่อยกลับ"
"ที่จริงคุณไม่จำเป็นต้องตามใจผู้ใหญ่ขนาดนั้นก็ได้"
"น้อง.." ชายหนุ่มไม่ได้สนใจคำพูดของอีกฝ่ายเลย เขาชูมือขึ้นแล้วสั่งพนักงานเสิร์ฟให้นำเหล้ามาเพิ่ม
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป..
"เราชื่ออะไรนะ" แก้วเหล้าที่เพิ่งชงเสร็จถูกวางลงตรงหน้าฝ่ายหญิงพร้อมกับถามชื่อ
"....." ที่จริงชื่อของเธอ เขาได้ยินไป 2-3 ครั้งแล้ว เพราะผู้ใหญ่แนะนำให้รู้จักกันก่อนที่จะออกมา..แต่มันคงไม่สำคัญเขาถึงไม่จำ "สโรชาค่ะ"
"ดื่มเก่งนิ" ชงแก้วไหนให้เธอก็ยกดื่ม จะไม่ชมว่าดื่มเก่งได้ยังไง
มือหนาเอื้อมไปหยิบแก้วเหล้าที่เธอเพิ่งจะดื่มหมดมาผสมให้อีกครั้ง
"ถ่ายรูปกันหน่อยนะ" ว่าแล้วเขาก็ล้วงเอาโทรศัพท์ออกมาเพื่อเซลฟี "ขยับเข้ามาอีกหน่อยสิ"
สโรชาก็ทำตามโดยการขยับมานั่งใกล้ ..ก่อนที่จะถ่ายมือของเขาได้เอื้อมมาแตะไหล่พร้อมกับใช้แรงดันอีกฝ่ายให้เข้ามาชิดตัว
"??" หญิงสาวแอบมองดูอยู่ว่าเขาจะทำอะไรกับภาพนั้น
ลง I* ไปได้ครู่หนึ่งก็เริ่มมีคนมากดถูกใจให้ และเหมือนเขาจะพอใจมากที่เห็น account หนึ่งเข้ามากดถูกใจ ใบหน้าหล่อยิ้มมุมปากเล็กน้อย แล้วก็เก็บโทรศัพท์
เวลาผ่านไป.. และตอนนี้ก็เลยเวลาที่ทั้งสองคุยกันแล้วว่าจะกลับบ้าน
"ยัง..ยัง..จำได้ม๊ายยย" เสียงเพลงที่ร้องออกมาก็เริ่มจะเพี้ยน
"คุณหนักแล้วนะ"
"โอ๊ยยโอ๊ยยย" (ผสมเพลงไปมั่ว)
"เก็บตังค์ด้วย" เมาขนาดนี้ก็คงจ่ายไม่ได้แล้วแหละ เธอก็เลยต้องเป็นคนจ่ายเอง
ที่จอดรถ..
"คนบ้าอะไรตัวหนักชิบหาย" จริงๆ เธอก็เมาไม่ต่างกัน แต่ก็ยังพอตั้งสติได้ "กุญแจรถอยู่ไหน" หญิงสาวค้นในกระเป๋ากางเกงอีกฝ่าย เพราะเธอนั่งรถออกมากับเขา
"ไหวไหมครับคุณผู้หญิง" พนักงานผู้ชายที่แบกออกมาช่วยถามด้วยความเป็นห่วง
"ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ"
"ทางเรามีห้องให้ ผมว่าพาคุณผู้ชายไปพักให้หายเมาก่อนค่อยกลับจะดีกว่าไหมครับ"
แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน บ้านเขาอยู่ที่ไหนก็ยังไม่รู้เลย หญิงสาวก็เลยสั่งคนงานสถานบันเทิงเปิดห้องให้
"ห้องว่างพอดีเลยครับ" คนที่คอยเช็คห้องรีบไปเปิดประตู เมื่อเห็นว่ามีนักท่องราตรีจะมาใช้บริการ
"มีกี่ห้องคะ"
"อย่าถามว่ากี่ห้องเลยครับ เกือบไม่ว่างแล้วคนเมื่อสักครู่เพิ่งออกไปเอง"
เอาไงดี..ส่งเขาเข้าไปนอนแล้วกลับดีกว่าเรา "เดี๋ยวก่อนสิคะ" ขณะที่เธอกำลังจะบอกให้ช่วยพาเขาเข้าไปส่งในห้องให้หน่อย แต่ก็ไม่ทัน เพราะคนของที่นี่คิดว่าจะมาใช้บริการเรื่องอย่างว่าก็เลยรีบกลับออกไปแบบรู้งาน
"รู้ว่าตัวเองคออ่อนไม่รู้จะกินเข้าไปทำไมเยอะแยะ" หญิงสาวบ่นในขณะที่ต้องเป็นคนพยุงร่างของอีกฝ่ายให้เข้าไป "โอ๊ย!"
จังหวะที่ทิ้งตัวเขาลงไป มือหนาของชายคนที่เธอพาเข้ามาพักได้คว้าร่างของเธอลงไปบนเตียงด้วย
"ปล่อยนะ ฉันแค่มาส่ง อืมม"
ยังไม่ทันพูดจบเลยด้วยซ้ำ ก็ถูกอีกฝ่ายดึงเข้ามาปิดปากโดยการจูบ
กำปั้นเล็กทุบลงตามลำตัวเพื่อให้เขาได้สติ และปล่อยเธอ แต่ยิ่งดิ้นอีกฝ่ายก็ยิ่งล่วงเกินมากกว่านั้นโดยการล้วงเข้ามาด้านในเสื้อ
"อื๊ดดด" จะกรี๊ดออกมาก็ไม่ได้เพราะถูกปิดปากอยู่ แต่มือที่เขาล้วงเข้ามาเริ่มจะไม่อยู่นิ่ง เพราะตอนนี้มันกำลังเขี่ยยอดเม็ดที่ดันเสื้อชั้นใน ..หญิงสาวทำได้แค่ร้องอู้อี้ในลำคอ
จูบจนพอใจริมฝีปากหนาก็เลยปล่อยแล้วขยับต่ำลงมาครอบครองยอดรัญจวนที่เขาเพิ่งจะกำจัดสิ่งกีดขวางออกไปให้พ้นทาง
"ปล่อย.." คนตัวเล็กพยายามเรียกสติตัวเองให้กลับมา เพราะแอลกอฮอล์ในร่างกายของเธอก็ไม่ได้น้อยไปกว่าเขาเลย และตอนนี้ร่างกายดูเหมือนว่าจะอ่อนระทวยไปตามการเล้าโลมของอีกฝ่าย
เขียนโดยชะนีติดมันส์
ภรรยาที่(ไม่)รัก บทที่ 2 /18+ ร่างกายที่เปลือยเปล่าเพราะตอนนี้ถูกอีกฝ่ายจัดการ สิ่งกีดขวางบนเรือนร่างนั้นไปจนหมดสิ้น รวมทั้งเสื้อผ้าอาภรณ์ที่อยู่บนร่างกายของฝ่ายชายก็ถูกกำจัดไปด้วยเช่นกันสติสัมปชัญญะของเธอถูกควบคุมโดยการเล้าโลม จนไม่สามารถเรียกคืนสตินั้นกลับมาได้อีกต่อไปแล้วริมฝีปากหนาพรมจูบไปจนทั่วเรือนร่างไม่เว้นแม้แต่ขาเรียวงาม จนเธอไม่คิดว่าเขาทำกันขนาดนี้เลยเหรอ นี่แหละสิ่งที่มันทำให้เธอหยุดยั้งอารมณ์ความต้องการทางเพศไม่ได้เลยจากที่จูบอยู่ตรงปลายเท้า ริมฝีปากหนาแนบจูบขยับขึ้นมาจนใกล้จะถึงที่สงวนสำหรับผู้หญิงชายหนุ่มหยุดเล็กน้อยและก็ดูด เพื่อที่จะให้อีกฝ่ายเรียกร้องเอง และมันก็ได้ผล เพียงไม่นานเจ้าของเรือนร่างระหงก็ค่อยๆ แยกขาออกเพื่อให้เขาได้สัมผัสกับสิ่งที่ซ่อนอยู่ลิ้นสากลากจากขาลงไปจนถึงเนินสวาท แล้วเลียวนอยู่แถวนั้นเพื่อหยอกเย้ากับสิ่งกีดขวางเพียงเล็กน้อย"อือ" แอลกอฮอล์ในร่างกายพยายามที่จะช่วยกระตุ้นให้อารมณ์ทางเพศของเธอเพิ่มขึ้นไปพร้อมๆ กับสิ่งที่เขากำลังเล้าโลม "อื้อ อ"ชายหนุ่มหยอกเย้าเนินอันน่าหลงใหลอยู่เพียงไม่นานลิ้นสากก็ลากยาวผ่านกลางร่อง และไปสัมผัสกับสิ่งที่ไวต
หญิงสาวที่ร่างกายบอบช้ำ ค่อยๆ ดันตัวลุกขึ้นจากเตียงแบบยากลำบาก พอลุกขึ้นนั่งได้ดวงตางามก็มองไปทั่วห้อง แต่ไม่เจอผู้ชายที่ร่วมเตียงอยู่กับเธอเมื่อคืนนี้แล้ว เป็นแบบนี้ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ ดีกว่าต้องตื่นมาเจอหน้าผู้ชายคนนั้น ถึงแม้จะเสียใจ แต่เธอจะไปเรียกร้องกับใครได้ล่ะ เพิ่งรู้จักกันวันแรกก็ปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้เขาไปหมดทุกอย่างขณะที่ชำระร่างกายอยากจะเอาศีรษะโขกกำแพงให้ตายไปเลย แต่ถ้าไม่มีเธอแล้วแม่จะอยู่ยังไง หญิงสาวก็เลยต้องพยายามหายใจเข้าลึกๆ ไว้อาบน้ำเสร็จเธอต้องได้ออกมาตามเก็บเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายอยู่ในห้อง พอใส่เสื้อผ้าครบทุกชิ้น สโรชาก็ออกมาจากห้องนั้น"คุณผู้หญิงจะจ่ายค่าห้องเป็นเงินสดหรือบัตรเครดิตครับ""อะไรนะคะ" อุตส่าห์คิดว่าจะรีบเดินผ่านแบบไม่ให้ใครเห็นหน้าแล้ว แต่นี่เธอต้องได้จ่ายค่าห้องเองอีกงั้นเหรอ"ขอจ่ายเป็นบัตรเครดิตค่ะ" สโรชาควักเอาบัตรที่อยู่ในกระเป๋าส่งให้กับพนักงานไป ขณะที่ยืนรอเธอต้องได้หันหน้าหนีจากคนที่เดินผ่านไปมา ถ้ามีแว่นตาดำก็คงจะดีกว่านี้"ช่วยเซ็นต์ชื่อตรงนี้หน่อยครับ" พนักงานยื่นสลิปออกมาให้เซ็นต์ชื่อ หญิงสาวก็เลยต้องได้เซ็นต์ลงไป"ขอบคุณที่มาใช้บริ
"วันนี้แม่จะไม่ทำโทษหนูก็ได้ แค่บอกความจริงมา เมื่อคืนนี้ระหว่างหนูกับรามสูรมีอะไรเกิดขึ้นแล้วใช่ไหม""ไม่ได้เกิดอะไรจริงๆ นะคะ" หญิงสาวพยายามทำตัวปกติที่สุด เพื่อให้คำพูดของตัวเองมีน้ำหนัก"แน่ใจนะว่าไม่ได้เกิดอะไร""ค่ะไม่ได้เกิดอะไร""นิ่มนวล" น้ำเสียงของคนที่เรียกตัวเองว่าแม่เริ่มเปลี่ยนไป และคนที่ชื่อนิ่มนวลก็รีบวิ่งออกมา"ขาคุณผู้หญิง""กักบริเวณสามวัน""ไม่ได้นะคะคุณแม่""เดี๋ยวนี้ไม่ฟังคำสั่งแม่แล้วเหรอจ๊ะ""ตามมาค่ะ!""โรสขอโทษค่ะคุณแม่ พี่นิ่มนวลปล่อยก่อน" สโรชายังคงตะโกนขณะที่ถูกแม่บ้านคนสนิทของนางพาขึ้นไปชั้นบน "อย่าทำแบบนี้เลยนะพี่""หาเรื่องใส่ตัวเองแท้ๆ ใครจะไปช่วยได้ล่ะ เข้าไปแล้วก็ทำตัวให้ดี""ไม่นะพี่นิ่มนวล" หญิงสาวต้องรีบชักมือออกจากประตูก่อนที่มันจะปิดลงก๊อก! ก๊อก! คนที่อยู่ด้านในเคาะประตูเสียงดัง เพื่อให้ด้านนอกเปิด แต่ก็ดูจะไม่เป็นผลถ้าเราถูกกักบริเวณถึงสามวันใครจะดูแลแม่ แต่... "....." ตอนนี้เธอมีเรื่องที่ต้องเป็นกังวลมากไม่ต่างจากเรื่องนั้นก็คือ ..เราลืมเรื่องยาคุมกำเนิดไปได้ยังไงจะอยู่ในนี้ถึงสามวันไม่ได้แล้ว ต้องหาทางออกไปให้ได้ก่อน "คุณพ่อ..โทรศัพท์?"ชั
นี่หรือชีวิตเลิศหรูที่ทุกคนใฝ่หา แต่ทำไมเธอถึงหาความสุขไม่ได้เลย มีเงินมากมายก็ซื้อความสุขให้กับตัวเองไม่ได้ แต่ยังมีดีอยู่อย่างหนึ่งคือซื้อชีวิตของแม่เธอได้เช้าวันต่อมา.. และเป็นวันเดียวกับงานเลี้ยงสโมสรงานเลี้ยงจัดขึ้นแทบจะทุกเดือน เพราะส่วนใหญ่มีแต่คนมียศมีศักดิ์มีหน้ามีตาในสังคมแกร็ก.. "คุณผู้หญิงรออยู่ที่รถค่ะ"สโรชาไม่ได้พูดอะไรแค่เดินตามลงมาเงียบๆ"ดูหน้าสิโทรมหมดแล้ว" มือที่ผ่านการดูแลมาอย่างดี ไม่ยอมปล่อยให้กาลเวลาทำร้ายผิวหนังของตัวเองได้ เอื้อมไปลูบคลำใบหน้างามของผู้หญิงที่นางเรียกว่าลูก "วันนี้คงได้ทำหลายอย่าง ขึ้นรถสิจ๊ะ""ค่ะ" หญิงสาวตามขึ้นไปบนรถ แล้วก็นั่งอยู่แบบเงียบๆ จนรถคันนั้นวิ่งมาจอดที่ร้านเสริมความงามสุดหรูแห่งหนึ่ง"ฉันโทรมาจองคิวไว้แล้วไม่ใช่เหรอ""แต่ทางคุณกรองแก้วก็โทรมาจองเหมือนกันค่ะ""ฉันไม่เอาช่างตาสีตาสานะ หาช่างที่เก่งที่สุดมาดูแลความงามของลูกสาวฉัน""ได้ค่ะ..ทางร้านของเราคัดสรรแต่ช่างที่มีฝีมือทั้งนั้นค่ะ""อ้าวนึกว่าเสียงใคร เสียงคุณผกาแก้วนี่เอง..ดูใจเราจะตรงกันจังเลยนะคะ""เรียกว่าคิดเหมือนกันจะไม่ดีกว่าเหรอ..คะ" ผกาแก้วดูท่าทางไม่อยากเจรจากับอ
[หน้าโรงแรมหรูที่ใช้จัดงาน]สโรชาและคนที่เธอเรียกว่าแม่นั่งรออยู่หน้ารถมาได้สักพักแล้ว แต่เธอก็ไม่ได้ถามว่าทำไมถึงยังไม่ลงรถ เพราะเหตุการณ์แบบนี้ไม่ใช่เพิ่งเคยเกิดขึ้นอีกนั่นแหละ เหตุผลของนางคือยิ่งเข้าไปในงานช้าก็ยิ่งเป็นจุดสนใจ"ได้เวลาแล้ว จำไว้นะ ตอนที่เดินเข้าไปต้องทำตัวให้มั่นเข้าไว้""ค่ะ" เธอร่ำเรียนมาทุกอย่าง แม้แต่การเดินเข้างานนักข่าวที่รอทำข่าวอยู่หน้างานต่างก็รีบกรูกันเข้ามาเก็บภาพ หญิงสาวใบหน้าสวยหวานเดินเชิดหน้าเข้ามาพร้อมกับภรรยาของพลโทพงศธร ซึ่งตอนนี้ผู้เป็นสามีอยู่ในงานนั้นแล้วพอเดินพ้นด่านของนักข่าวเข้ามาในงาน ก็เริ่มมีสายตาของไฮโซหลายคู่ที่จับจ้องมา"ไม่ต้องไปสนใจใครทั้งนั้น วันนี้รามสูรมา หนูต้องเป็นคู่เต้นรำของเขาให้ได้""อะไรนะคะ?!" จากที่ใบหน้ายิ้มแย้มอยู่รอยยิ้มนั้นได้หายไปอย่างรวดเร็ว"อย่าทำให้แม่ผิดหวัง รู้นะว่าอะไรจะเกิดขึ้น""ค่ะ""มางานนี้ด้วยเหรอ"พอเสียงนี้ดังขึ้นหญิงสาวที่กำลังยืนคุยอยู่กับแม่รีบหันกลับไปมองด้านหลัง"รันเวย์?""สวยแทบจำไม่ได้เลยนะเนี่ย ทีแรกคิดว่าทักคนผิดซะอีก""นายก็มางานนี้เหรอ""มาส่งคุณแม่ เดี๋ยวก็กลับแล้ว" ขณะที่กำลังคุยกับสโรช
ทำยังไงดี แล้วเขาจะคิดว่าเราเป็นผู้หญิงแบบไหน ..ถ้าไม่เพราะถูกขู่เรื่องแม่ แทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนีตอนนี้เลย"ยังจะอยู่อีก เห็นไหมลูกแม่นั่นไปนู่นแล้ว" ผกาแก้วหมายถึงลูกสาวของกรองแก้ว ทั้งสองเคยชิงรักหักสวาทกันมาตั้งแต่สมัยเป็นสาวแล้ว แต่คนที่ชนะก็คือผกาแก้วอีกนั่นแหละ เพราะนางได้พลโทพงศธรมาครอง ถึงแม้จะได้มาแค่ตัวนางก็ไม่แคร์เท้าเรียวที่อยู่บนรองเท้าส้นสูงราคาแพง ได้ก้าวเดินตรงไปข้างหน้า เพื่อให้ถึงผู้ชายคนนั้นก่อนผู้หญิงอีกคน"สวัสดีค่ะ"ชายหนุ่มที่กำลังยืนจิบไวน์อยู่มุมหนึ่งของงาน หันมามองเมื่อได้ยินเสียงทักทายสายตาเขามองดูผู้หญิงสองคนพร้อมกัน ไม่แน่ใจว่าเมื่อสักครู่ใครเป็นคนทัก"เห็นว่าคุณยืนอยู่คนเดียว ก็เลยอยากมาเป็นเพื่อนคุยค่ะ""ผมเหรอครับ" เขาเข้าไปคุยกับพ่อแล้วก็ขอตัวออกมายืนอยู่ตรงนี้ เพราะรามสูรไม่ค่อยชอบเจรจากับคนมีอายุเท่าไร"ดิฉันชื่ออลิสค่ะ" ผู้หญิงหนึ่งในสองรีบชิงแนะนำตัวก่อน"ครับ" ตอบแค่นี้แล้วชายหนุ่มก็ยกไวน์ขึ้นจิบอีกครั้ง สายตาคมมองไปดูผู้หญิงอีกคน แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรนี่อะไรกันเขาจำเราไม่ได้เหรอ? ที่สโรชาคิดว่ารามสูรจำไม่ได้ เพราะถ้าจำได้สายตาเขาต้องหยุดอยู่ที่
"อุ๊ย คุณ?" ขณะที่เธอกำลังรีบเดินออกมาหวังจะไปเรียกแท็กซี่ที่หน้าโรงแรม แต่ก็ถูกมือของชายหนุ่มที่เดินตามมากระชากตัวไว้ก่อน "ปล่อยนะฉันมีธุระต้องไป""ธุระของเธอคือฉันไม่ใช่เหรอ""คุณอย่าสำคัญตัวเองผิดนักเลย""แล้วสิ่งที่เธอทำมันคืออะไรล่ะ""ฉันมีเหตุผล""เหตุผล?""ฉันบอกแล้วไงว่าจะรีบไปทำธุระ""เธอรู้ไหมว่าผลกระทบที่เธอทำ มันจะเกิดอะไรขึ้น" เขาหมายถึงที่เธอจูบในงานเมื่อสักครู่ เพราะอยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่แทบจะทุกคน"ใครให้คุณปฏิเสธฉันเองทำไม""ผู้ชายปฏิเสธหมายถึงเขาไม่ต้องการ เธอไม่เข้าใจเลยเหรอ"ถึงแม้ว่าจะรีบมากแค่ไหนแต่พอได้ยินประโยคแบบนี้ออกมา มันดูเหมือนถูกตบหน้าชัดๆ มือเรียวยกขึ้นมาหวังจะเอาคืน แต่ก็ถูกอีกฝ่ายคว้ามือของเธอไว้ได้ทัน"ฉันเจ็บนะ" เขาไม่ได้จับไว้เฉยๆ แต่ยังใช้แรงบีบ"เธอดูละครมากไปหรือเปล่า ที่คิดว่าตบแล้วฉันจะจูบ""คุณ!" สโรชาไม่รู้จะเปรียบผู้ชายคนนี้กับอะไรดีแล้ว ในเมื่อเขาไม่ชอบหน้าเธอแล้วทำไมต้องมารั้งตัวไว้ด้วย "ช่วยด้วยค่ะ" หญิงสาวหันมองไปรอบข้างแล้วตะโกน ยังไงเธอก็ต้องไปจากที่นี่ก่อนที่แม่จะออกมาจากงาน"เธอจะเรียกคนมาช่วยหาพระแสงอะไร อ๋อ..หรือจะบอกว่าฉันลวนลาม""ฉั
"คุณนี่เหมือนมานั่งอยู่ในใจฉันเลยนะ""ดีเหมือนกันเราจะได้คุยกันรู้เรื่อง" เขาไม่รู้หรอกว่าที่เธอพูดมาเป็นการประชดหรือเรื่องจริง และไม่จำเป็นต้องไปรู้ด้วย เพราะเขาไม่ได้สนใจผู้หญิงตรงหน้าอยู่แล้ว"จะคุยอะไรก็คุยมาแต่ปล่อยฉันก่อนได้ไหม"พอแขนของเธอเป็นอิสระหญิงสาวก็เอาอีกข้างมาลูบคลำ เพื่อบรรเทาความเจ็บที่ถูกเขารั้งไว้เมื่อสักครู่"เธอคิดยังไงกับเรื่องนี้""เรื่องอะไร""เรื่องที่ผู้ใหญ่กำลังคุยกัน""นั่นมันก็เรื่องของผู้ใหญ่""เธอไม่ต้องมาตีหน้าซื่อหรอก ฉันรู้ว่าผู้หญิงแบบเธอคิดอะไรอยู่"หญิงสาวไม่เถียงแต่เธอแอบสมเพช ชีวิตเขาคงจะเจอแต่ผู้หญิงประเภทนั้นสินะ ก็เลยเหมารวมไปหมดว่าผู้หญิงจะเป็นเหมือนกัน"เธอเตรียมตัวไว้ด้วยแล้วกัน อาจจะได้ทำตามผู้ใหญ่""ค่ะ""ค่ะ?" เขาคิดว่าเธอควรที่จะพูดอะไรมากกว่านอกจากคำนี้"ฉันไปได้หรือยังคะ""เรายังไม่ได้คุยอะไรกันเลย""คุณอยากจะคุยอะไรอีก"บนรถแท็กซี่..หึ..ดีเหมือนกัน ถ้าเราได้ย้ายออกไปอยู่ที่บ้านของเขา คงจะเป็นอิสระ เพราะยังไงเขาก็คงไม่มาสนใจใยดีอะไรในตัวเรา ..สโรชาคิดถึงคำที่เขาพูดก่อนออกมาส่งเธอขึ้นแท็กซี่เขาบอกทุกอย่างว่าตัวเขามีผู้หญิงที่รักอยู่
"เข้าข้างในกัน" เกษมราษฎร์เอื้อมมือมาให้อีกฝ่ายจับมือท่านไว้ เพื่อจะได้ก้าวเดินเข้าไปด้านในพร้อมกัน"ท่านทำอะไรคะ" นางยอมเดินตามแรงที่อีกฝ่ายจูง แต่ก็อดที่จะถามไม่ได้"บอกแล้วไงว่าไม่อยากปล่อยเวลาให้เสียไปเปล่าๆ แต่งงานกันนะ""อู๊วววว" เสียงโห่แสดงความยินดีดังขึ้นเมื่อเกษมราษฎร์คุกเข่าลงต่อหน้าผู้หญิงที่กำลังจะเป็นเจ้าสาวในคืนนี้ ท่านเคยพูดไว้แล้วถึงแม้ว่าจะพูดแค่กับตัวเอง ถ้ามีโอกาสได้ทำเพื่อเธอ..จะทำให้ผู้หญิงทุกคนบนโลกนี้ต้องอิจฉาเธอ"ลุกขึ้นเถอะค่ะท่าน""คุณตอบตกลงมาก่อนสิ""ท่านเพิ่งขอหมั้นไปวันก่อนเองนะคะ""ถ้าคุณไม่ตกลงผมก็จะอยู่แบบนี้""ตกลงก็ได้ค่ะ" จากเสียงโห่ร้องกลายเป็นเสียงกรี๊ดลั่นจนโรงแรมแทบจะแตก เมื่อฝ่ายหญิงตอบตกลงแต่งงานด้วยเกษมราษฎร์ลุกขึ้นโดยที่ไม่ต้องให้ใครมาช่วยพยุง ถึงแม้จะอายุและเยอะแล้วแต่ร่างกายของท่านก็ยังแข็งแรง เพราะการเป็นทหารต้องได้ฝึกฝนอยู่ตลอดเวลา"ดีใจด้วยนะครับ" รามสูรเข้ามาแสดงความยินดี เขาดีใจมากที่จะเห็นแม่มีความสุขสักที ตั้งแต่จำความได้เลยมั้งที่เห็นแม่ต้องเฝ้ารอพ่อกลับบ้านทุกวันและลูกๆ คนที่เหลือก็เข้ามาแสดงความยินดี รวมทั้งแขกในงาน วันนี้ท่าน
เย็นวันเดียวกันนั้น.. พุดตาลเรียกลูกชายและลูกสะใภ้มาทานข้าวเย็นร่วมกัน"สวัสดีครับท่าน" รามสูรมาพร้อมกับภรรยา และลูกชาย พอมาถึงก็เห็นว่าท่านพลเอกเกษมราษฎร์ ก็นั่งอยู่ในห้องรับแขกด้วย"มาครบกันแล้วใช่ไหม นั่งก่อนสิลูก"พอลูกชายนั่งลงเกษมราษฎร์ก็ขอเป็นคนพูดเอง ท่านบอกทุกคนว่าขอเข้ามาอยู่ร่วมครอบครัวด้วย ทีแรกเกษมราษฎร์ก็ช่างใจอยู่ กลัวลูกๆ ของพุดตาลจะไม่ชอบใจ เพราะถึงยังไงพ่อของพวกเขาก็มีทีท่าว่าจะกลับมา"ยินดีต้อนรับครับ ผมเองต่างหากที่ต้องฝากคุณแม่ไว้กับท่าน" พี่ชายคนโตเป็นคนเอ่ยพูดก่อน"ขอบใจมากนะลูก" ใจจริงพุดตาลก็อยากจะอยู่กับลูกและหลานแบบนี้ไปจนแก่เฒ่า แต่มันคงเป็นไปไม่ได้แล้ว เมื่อสามีหย่าขาดจากผู้หญิงคนนั้น ยังไงท่านก็ต้องกลับมาวนเวียนจนทำให้ชีวิตอยู่ไม่เป็นสุขแน่ นางก็เลยตัดสินใจตัดกรรมกันไปแต่เพียงแค่นี้"ผมจะประกาศให้สังคมรับรู้เรื่องของเราในเร็ววันนี้""เรื่องนี้แล้วแต่ท่านค่ะ" นางคิดว่าให้คนรับรู้ไว้ก็ดี เรื่องถูกนินทาหนีไม่พ้นอยู่แล้ว ใครจะนินทาก็ช่าง ขอให้ตัวเองอยู่แบบสบายใจก็พอร่วมทานข้าวเย็นกันเสร็จ ลูกชายทั้งสองก็ขอตัวกลับเพราะมันดึกแล้ว ส่วนเพลิงไม่อยากจะกลับก็ต้องได
"ใจเย็นก่อนสิคะมาเหนื่อยๆ น้ำก็ยังไม่อาบ""ขอชื่นใจก่อน" ริมฝีปากหนากระซิบพูดในขณะที่จมูกยังสูดดมคนตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมกอด"คิดถึงคุณเหมือนกันค่ะ" รักครั้งแรกของเธอมันช่างสวยงามนัก แต่เมขลาหวังว่าจะหยุดผู้ชายคนนี้ไว้ได้แค่เธอ เพราะถ้าเขามีตำแหน่งที่สูงขึ้น เขาจะเป็นเหมือนคนที่ให้กำเนิดเธอไหม"เป็นอะไร" เพลิงสัมผัสได้ว่าอารมณ์ของเธอไม่เหมือนตอนที่เรียกเขาขึ้นมาข้างบนเลย"อนาคตข้างหน้าอะไรมันก็ไม่แน่นอนค่ะ เผื่อคุณก้าวไปในตำแหน่งที่สูงกว่านี้..""อย่าคิดอะไรที่มันจะไม่เกิดขึ้น" แค่นี้เขาก็รู้แล้วว่าเธอคงกลัวว่าเขาจะทำตัวเหมือนพ่อ"คุณรู้เหรอคะว่าฉันกำลังคิดอะไรอยู่""ผมรักคุณ คำนี้ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนได้ฟังมันจากปากผม และผมก็จะพูดให้คุณฟังเพียงคนเดียว""ขอบคุณนะคะ" ขอบคุณเขาทั้งน้ำตา แต่ก่อนตอนที่ไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อ ยังมีความสุขมากกว่านี้เลย แต่พอรู้ว่าพ่อมีนิสัยยังไง เมขลาก็เริ่มกลัวผู้ชายรอบข้าง[โรงแรมหรู]ที่พลเอกเกษมราษฎร์พาพุดตาลมาทานข้าวที่โรงแรม เพราะรู้แล้วว่านางคงไม่กลับไปหาอะไรเดิมๆอีก ท่านต้องทำให้นางเห็นว่าท่านสามารถที่จะพานางก้าวไปในทุกๆที่ได้"ทำไมคุณรู้ว่าฉันชอบกิน เออ..
"ทำอะไรกัน"คนที่กำลังโอบกอดกันถึงกับตกใจปล่อยมือออก"ท่าน?""นายคงไม่อยากจะอยู่ในกรมแล้วใช่ไหม""อย่าทำอะไรผู้กองนะคะ" ถึงแม้เธอจะตัวเล็กกว่ามาก แต่หญิงสาวก็ใจกล้าก้าวออกมายืนบังชายคนรักไว้"เรารู้ไหมว่ามันไม่สมควร""จะสมควรหรือไม่ มันอยู่ที่เราสองคนค่ะ""อย่าลืมสิว่าเราเป็นลูกของใคร""หึ.. แล้วฉันเป็นลูกของใครล่ะคะ""มันสมควรแล้วเหรอที่จะมาพูดต่อล้อต่อเถียงกับพ่อ""พ่อ?" เมขลาอยากจะพูดอะไรอีกตั้งมากมาย แต่มันจุกในอกเสียก่อน"มีอะไรกัน" แม่บ้านรีบเข้าไปตามคุณผู้หญิงออกมาดู กลัวว่าจะมีเรื่อง"คุณมาก็ดีแล้ว ผมจะเร่งเรื่องให้ลูกไปเรียนต่อต่างประเทศ""เรียนต่อต่างประเทศ?" เพลิงพูดพร้อมกับมองหน้าเมขลา แล้วมองไปที่ท่านพลเอกเรวทัต"ฉันไม่ไปค่ะ""ลูกไม่อยากเรียน" พุดตาลคิดว่านางคงต้องได้ออกหน้าเองแล้วล่ะ"อายุแค่นี้ยังเรียนได้อีกตั้งเยอะ ทำไมถึงคิดสั้น""อะไรคือการคิดสั้นคะ""ก็ที่เห็นอยู่นี่ไง""คนนี้ผู้กองเพลิงท่านก็คงจะรู้จักแล้ว เขาเป็นคนรักของฉัน ไม่สิ.." ถ้าพูดแค่คนรักมันคงไม่จบตรงนี้แน่ เมขลาก็เลยให้สถานะใหม่กับเพลิง "เขาเป็นพ่อของลูกในท้องฉันเองค่ะ""???" ไม่ใช่แค่พลเอกเรวทัตและพุดตา
เห็นว่าทุกคนอยู่กันพร้อมหน้า เรวทัตก็เลยยังไม่พูดอะไรอีก เพราะคดีเก่ายังไม่เคลียร์"อยู่พร้อมหน้ากันก็ดีแล้ว พ่อจะย้ายกลับมาอยู่บ้านหลังนี้แล้วนะ"เรวทัตพูดจบ ลูกๆ ต่างก็มองดูหน้าคนเป็นแม่มันคงเป็นเวรกรรมของนางที่เคยสร้างไว้กับผู้ชายคนนี้ตั้งแต่ชาติปางก่อน ชาตินี้ก็เลยต้องได้ตามมาชดใช้กรรม หนีไปไหนก็คงจะหนีไม่พ้นแล้ว"บ้านหลังนี้เป็นบ้านของคุณ คุณจะมาอยู่ใครจะว่าอะไรได้ล่ะคะ"เรวทัตอยากได้ยินคนตรงหน้าเรียกว่าคุณพี่เหมือนเดิม แต่คงต้องใช้เวลา เพราะตัวเองทำไว้กับนางเยอะ"หือ รามิล" มองเข้าไปด้านในก็เห็นลูกสะใภ้คนโตกำลังอุ้มหลานชายเดินออกมา เรวทัตก็เลยเดินเข้าไปหาหลานพอคนเป็นพ่อไปแล้ว ลูกๆ ที่ยังยืนอยู่ตรงนั้นต่างก็มองดูหน้าแม่อีกครั้ง นาทีนี้ไม่มีใครน่าสงสารเท่าท่านอีกแล้ว"แม่ไม่เป็นอะไรหรอก เข้าไปข้างในกันเถอะ" แค่นี้นางก็รู้แล้วว่าสามีคงจะหย่าจริง เพราะถ้าไม่งั้นคงไม่บอกว่าจะกลับมานอนบ้านหลังนี้ นางรนหาที่เอง คิดว่าท่านจะไม่กล้าหย่าดาราสาวสวยคนนั้นทุกคนเข้าไปแล้ว เมขลาก็หันกลับมากุมมือเพลิงไว้ "เรายังจะเป็นเหมือนเดิม อย่าคิดมากนะคะ" เมขลารู้ดีว่าเพลิงคิดว่าตัวเองต่ำต้อย"ผมจะไม่ถอ
"ผมมาคิดทบทวนเรื่องของเราดูแล้ว""ท่านไม่สบายหรือเปล่าคะ" แพรวพราวเริ่มใจไม่ดี แต่ก็ยังคงส่งรอยยิ้มหวานๆ ให้ แบบใจดีสู้เสือ"เราหย่ากันเถอะ""คุณพี่!!""ผมจะให้ทุกอย่างที่คุณอยากได้ ผมขอแค่ให้คุณเซ็นใบหย่า""ไม่มีทางค่ะ กว่าเราจะฝ่าฟันความรักของเรามาด้วยกันได้ ทำไมคุณพี่ถึงทำแบบนี้กับแพรวคะ""ผมให้เกียรติคุณถึงได้มาคุยก่อน หรืออยากจะคุยผ่านทนายของผมล่ะ""แพรวรักท่าน ยอมอุ้มท้องลูกของท่าน ถึงแม้จะถูกใครตราหน้าว่าเป็นผู้หญิงไม่ดี""เรื่องลูกผมก็ยังจะส่งเสียเลี้ยงดู""แพรวไม่ได้ต้องการแบบนั้นสักหน่อย ใครคะ..ท่านมีใครใหม่อีกเหรอคะ""เรื่องนั้นไม่เกี่ยว เรามาคุยเรื่องของเราก่อน""เรื่องของเรา แพรวไม่หย่า!""ผมมาคุยกับคุณดีๆ แล้วนะ หลังจากนี้คุณก็คุยกับทนายของผมแล้วกัน และสิ่งที่คุณอยากได้ก็อย่าฝันว่าจะได้""ท่านอย่าบอกนะว่าจะกลับไปหามันอีก""ผมเพิ่งรู้ว่ารักภรรยา""รักภรรยาอย่างนั้นเหรอคะ แล้วที่ผ่านมาล่ะผู้หญิงนับสิบนับร้อยยังจะเรียกว่ารักภรรยาได้อยู่อีกเหรอคะ!" แต่ดูเหมือนเรวทัตจะไม่ฟังอะไรอีก เพราะตอนนี้เดินไปที่รถแล้ว "กรี๊ดดดด!!""คุณแม่เป็นอะไรคะ" มโนราห์ได้ยินเสียงร้องก็รีบลงมาดู"
"??" เมขลาได้ยินทุกคำพูดของแม่ใหญ่ที่พูดกับ.. แม้แต่คิดยังไม่กล้าเอ่ยชื่อในใจเลย คนที่ไม่ต้องการเธอ..เธอก็ไม่ต้องการคนแบบนั้นเช่นกัน"หนูเมย์" ยืนมองตามสามีเก่าไปครู่หนึ่ง พอหันกลับมาก็เจอเมขลาอยู่ตรงมุมบันได"คุณแม่ทำแบบนั้นทำไมคะ""บางทีมันอาจจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับเราก็ได้""น้องเมย์ไม่เห็นด้วยค่ะ""แต่เขาคือ..." นางกำลังจะพูดว่าแต่นั่นคือพ่อแท้ๆ ของเมขลาเลยนะ"น้องเมย์ไม่อยากให้คุณแม่กลับไปเจอวังวนเก่าๆ อะไรที่เราสลัดทิ้งไปได้แล้ว ก็ปล่อยมันไปเถอะค่ะ"ทำไมเด็กอายุยังไม่ถึง 20 ถึงคิดได้กว่านาง ถ้านางใช้แค่หัวใจคิดก็คงจะกลับมาในวังวนเดิม แต่ถ้าใช้สมอง ปล่อยให้ทุกอย่างมันผ่านไป มันอาจจะดีกว่านี้ก็ได้"แล้วแม่ต้องทำยังไง"เมขลามองใบหน้าผู้หญิงที่กาลเวลาไม่สามารถทำร้ายนางได้ เพราะถ้าเดินไปกับเธอทุกคนคงคิดว่าพี่กับน้อง ดวงตาของนางคลอไปด้วยม่านน้ำตาที่บดบัง ถึงแม้เธอจะอายุยังน้อย แต่ก็พอดูออกว่าท่านยังคงรักผู้ชายคนนั้นอยู่"ถ้าเขาคนนั้นกลับมา ทำให้คุณแม่ต้องทุกข์ใจอีก คุณแม่จะรับได้ไหมล่ะคะ" เพราะยังไงคนเดิมก็คงทำอะไรเหมือนเดิม ถ้าไม่งั้นคงไม่ออกไปไข่ไว้นอกบ้านจนทั่วแบบนี้"แม่ขออยู่คน
คฤหาสน์พลเอกเรวทัต"ดีใจจังเลยค่ะที่คุณผู้หญิงกลับมา""สบายดีกันไหม" กลับมาที่นี่ถึงสองครั้ง แต่ไม่ได้ถามสารทุกข์สุขดิบกันเลย เพราะแค่เห็นหน้าสามีเก่าก็ไม่มีอารมณ์ถามใครแล้ว"ไม่สบายก็ตรงที่คิดถึงคุณผู้หญิงนั่นแหละค่ะ""ปากหวานเหมือนเดิมนะพวกเราเนี่ย ช่วยกันเอาของเข้ามาข้างในก่อน""เดี๋ยวผมทำเองครับ" เพลิงซึ่งทำหน้าที่ขับรถรีบเดินไปเปิดกระโปรงหลัง"ฉันช่วยค่ะ" เมขลากำลังจะไปช่วยยกของแต่ถูกเพลิงห้ามไว้"เอาของขึ้นไปไว้ข้างบนเลย แม่ให้คนจัดห้องให้แล้ว""ครับ" ชายหนุ่มหิ้วกระเป๋าขึ้นไปที่ชั้นบน โดยมีหญิงคนรักเดินตามไป ส่วนของที่เหลือพวกแม่บ้านช่วยกันคนละไม้คนละมือกึก.."อืม" หญิงสาวตกใจเดินพ้นประตูเข้ามาเขาก็ปิดแล้วล็อกมันไว้ ไม่ได้ทำแค่นั้นเพลิงยังหันมาจูบพอหายตกใจเมขลาก็จูบกลับ คิดว่าคงไม่มีใครเข้ามาในห้องนี้ เพราะของที่เหลือเป็นของแม่ใหญ่คิดว่าจะจูบไม่นานพอให้หายคิดถึง ถ้าได้แยกกันอยู่จริง แต่นี่ขนาดจูบอยู่ยังคิดถึง"ผมรักคุณนะ" นิ้วแกร่งเขี่ยแก้มของหญิงคนรักเบาๆ "อยู่ที่นี่ห้ามดื้อเข้าใจไหม""คุณก็ห้ามแอบไปเที่ยวที่ไหนนะคะ""ไม่ไปไหนหรอก"ทั้งสองพูดคุยกันอยู่ครู่หนึ่งก็ลงมา.."พี่
"คุณไม่มีพันธะ แต่คุณไม่คิดเหรอกว่าเกษมอาจจะมีพันธะอยู่ก็ได้"พุดตาลเงียบไปครู่หนึ่งเมื่อได้ยินประโยคนั้นจากสามีเก่า มันก็มีส่วนอยู่บ้าง พลเอกเกษมราษฎร์ตำแหน่งใหญ่โตขนาดนั้น แถมภรรยาก็ตายจากไปนานแล้ว"เรื่องนั้นฉันคงไม่ให้ท่านต้องมาลำบากใจด้วยหรอกค่ะ..กลับกันเถอะลูก"พลเอกเรวทัตได้แต่มองตามหลังนางไป ทันใดนั้นก็คิดอะไรขึ้นมาได้"คนนี้ใช่ไหม ที่เป็นลูกของนวล" เรวทัตรีบเดินตามทั้งสองมาที่รถจากที่กำลังจะเปิดประตูพุดตาลถึงกับชะงัก"ผมจะรับลูกคนนี้กลับมาเลี้ยงเอง""??" พอประโยคนี้ออกจากปากพลเอกเรวทัต ทั้งสองที่ยืนหันหลังให้ ก็ได้หันกลับมามองพร้อมกัน "คุณหมายความว่ายังไง""ในเมื่อเด็กคนนี้เป็นลูกอีกคนของผม มันก็ไม่แปลกที่ผมจะรับลูกกลับมาเลี้ยงเอง"พุดตาลรีบจับเมขลาหลบไว้ด้านหลังของตัวเองก่อน "เสียใจด้วยค่ะ แต่ตอนนี้เมขลาเป็นลูกของดิฉันแล้ว""คุณแน่ใจเหรอว่าจะพูดเรื่องสิทธิ์เลี้ยงดูเด็กคนนี้กับผม"เมขลาส่ายหน้าเล็กน้อยเพื่อบอกกับแม่พุดตาลว่าเธอไม่ไป"แม่ไม่ยอมให้หนูไปอยู่แล้ว เรากลับบ้านกัน" นางรีบหันกลับไปเปิดประตูรถ เพื่อให้เมขลาได้ขึ้นไปนั่งก่อน"ถ้าคุณชอบขึ้นโรงขึ้นศาล ไม่เป็นไรนะผมจัดให